“เอามา!”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มทรงอำนาจ ทั้งยังเย็นชาและให้ความรู้สึกห่างเหิน ใบข้าวเม้มริมฝีปากลง กดแน่นจนปวดแสบ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เธอก็คลายมันออกจากกัน ในอนาคตเธออาจจะเป็นภรรยาของเขา แต่ตอนนี้ อนาคตนั้นมันค่อยๆเปลี่ยนไปแล้วไง คนตรงหน้าก็แค่เขตคราม ไอ้ตัวปัญหาที่เธอต้องกำจัด “นายกับเพื่อนของนายจะได้มันคืนแน่ แต่ … จะได้มันคืนหลังจากที่ได้รับบทลงโทษจากสภาแล้ว” ใบข้าวสะบัดตัวจนไหล่แทบหลุด เมื่อหลุดพ้นจากเขตครามมาได้แล้ว เธอยังต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนของเขา ภัทรกับเพื่อนชายตัวโตสี่คนขวางทางเธอไว้ ในขณะที่กำลังคิดว่าจะเล่นงานพวกเขาจุดไหน เสียงทรงอำนาจด้านหลังเธอก็ดังขึ้น “ปล่อยไป! เพราะยังไงยัยนั่น ก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้อยู่แล้ว” เขตครามมองแผ่นหลังที่ค่อยๆเดินหายไป แต่ทว่ากลิ่นเหม็นของน้ำที่มาจากฝีมือของภัทรยังคงอยู่ ดวงตาสีเทาเข้มเหลือบมองคนตัวสูงหนึ่งร้อยแปดสิบสองเซนติเมตร ภัทรที่ถูกจ้องด้วยแววตาแบบนั้น รีบก้มหน้าลงหลบสายตาดุกร้าวของเขตคราม “เล่นอะไรเป็นเด็ก” “ก็ … แกดูที่ยัยข้าวทำดิ แกจะคืนห้องซ้อมให้ยัยนั่นเหรอวะคราม” “ฉันมีวิธีของฉัน ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแบบที่แกใช้” “แก …” ภัทรเงียบเสียงในทันที เมื่อสายตาของเขตครามเข้มขึ้นไปอีกระดับ “ครามแบบนี้พราวจะเดือนร้อนเพราะสิ่งที่ยัยข้าวเอาไปไหมอะ” พราวฟ้าถามเขตครามด้วยความวิตกกังวล ใบข้าวได้ฉายาว่าประธานสุดโหด ทั้งที่เป็นเพียงแค่หนูสกปรก แต่ดันได้อำนาจขนาดนั้นไปอยู่ในมือ คนเกลียดมีมากกว่าครึ่งมหาวิทยาลัย แต่ที่เหลือจากคนกลุ่มนั้น ล้วนเป็นคนที่อยู่ข้างเดียวกับยัยใบข้าว แม้จะไม่เยอะเท่ากับคนกลุ่มแรก แต่ก็มากพอให้หนูท่อสกปรกเชิ่ดหน้าชูคอท้าทายกลุ่มหงษ์อย่างพวกเธอ “แล้วเธอเอามันมาด้วยทำไมล่ะ ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่า มหาวิทยาลัยเป็นเขตปลอดบุหรี่” เขตครามปรายตามองใบหน้าของดาวมหาวิทยาลัย ที่ถูกลงความเห็นว่าสวยที่สุด ซึ่งความเห็นเหล่านั้น เกินครึ่งถูกซื้อมาด้วยเม็ดเงิน ผลโหวตเหล่านั้นถูกป่าวประกาศผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย “คราม” “อะไร?” ใบหน้าหล่อเหลายียวนยิ่งกว่าน้ำเสียง คนที่พยายามยั่วแต่รู้สึกได้ว่าช่วงนี้เขายั่วไม่ขึ้น ทำหน้ามุ่ย เขตครามเปลี่ยนไป ถึงจะแค่เล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกได้ว่า เขาไม่เหมือนเขตครามที่เธอเคยรู้จัก เมื่อก่อนเขามักจะเออออไปกับเธอ แต่ช่วงนี้เขาไม่ทำ เธอพูดอะไรเขาก็ขัดตลอด “คราม … เหมือนไม่ใช่ครามคนเดิมเลย” “ฉันยังเป็นฉัน พวกเธอต่างหากที่เปลี่ยนไป” เขตครามยังคงเป็นเขตครามจริงๆ เขาเสมอต้นเสมอปลายมาก โดยเฉพาะกับใบข้าว เคยแกล้งเธอยังไง ในอนาคตก็ยังคงเป็นอย่างนั้น แต่ผู้คนรอบตัวเขาในอดีตนี่สิ ทุกคนค่อยๆเปลี่ยนไป อย่างไอ้ภัทร กว่ามันจะหลงรักใบข้าว ก็ตอนที่เธอเข้ามาเป็นเลขาของเขาแล้ว แต่ตอนนี้มันกำลังตกหลุมรักเธอ ซึ่งน่าจะผิดเพี้ยนไป จากการย้อนเวลาของเขากับใบข้าวนั่นเอง ชั่วโมงต่อมา ใบข้าวในชุดไปรเวทก้าวเข้าไปในร้านทำผม ซึ่งอยู่ห่างจากหอพักเพียงไม่กี่ซอย เธออาบน้ำทำความสะอาดคราบน้ำเหม็นเน่าออกไปแล้ว โชคดีที่มันยังพอล้างออกด้วยครีมอาบน้ำได้ แต่ผมของเธอนี่สิ มันล้างออกได้แต่ไม่ทั้งหมด เธอหมดความอดทนซะก่อนเลยตัดสินใจมาที่ซาลอน ถือโอกาสนี้จัดการผมดำยาวเลยบั้นท้ายของตัวเองด้วย ใบข้าวเป็นคนหวงผมมาก ตอนเด็กๆเธอมักจะถูกคนชมว่ามีผมที่ดำเงาและนุ่มสลวย เธอเริ่มไว้ผมยาวตั้งแต่ได้รับคำชมเป็นครั้งแรก ตัดเล็มบ้างในตอนที่มันยาวเลยสะโพกลงมา แต่ไม่เคยทำให้มันสั้นเกินกว่านั้น ทว่าครั้งนี้เธอกลับบอกช่างไปว่า เหลือความยาวไว้แค่กลางหลังก็พอ ฉันชอบผมของเธอนะ โดยเฉพาะตอนที่มันตกลงมาตามร่างกายของเธอ เวลาที่เธอเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของฉัน ใบข้าวสลัดภาพลามกในหัวทิ้งไปแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่มันผุดเข้ามาในหัว ราวกับจะย้ำเตือนเธอว่าเรื่องราวเหล่านั้น เคยเกิดขึ้นจริงในอนาคต ชอบผมของเธองั้นเหรอ? แค่คำโกหกของไอ้คนลามกนั่นหรือเปล่า ตอนที่เธอโดนน้ำเน่าคว่ำใส่ เขายืนนิ่งไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง “โอ้ย!” อีกสองชั่วโมงต่อมา ใบข้าวก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเสียดาย จ้องมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกของห้างฯ พลางจับเส้นผมที่มันสั้นขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนออกมาจากซารอนไม่ได้รู้สึกเสียดายขนาดนี้ พอได้เห็นความสั้นของเส้นผมในกระจก มันอดที่จะโอดครวญไม่ได้จริงๆ “ใบข้าว? … เธอทำอะไรกับผมของเธอ” เป็นเขตครามที่เพิ่งเดินออกมาจากห้าง หลังจากดูหนังกับพวกเพื่อนๆจบแล้ว คนถูกทักเผลอยกมือจับเส้นผมของตัวเอง เธอไม่ได้ตอบคำถามเขา ยังรู้สึกโกรธ และยังเหลือความน้อยใจอยู่นิดหน่อย “ … ” “นี่! ไม่ได้ยินที่ถามหรือไง ยัยหนูท่อ” ยัยหนูท่อตัวขาวนวลนุ่มนิ่มแตกต่างจากหนูท่อทั่วๆไป เดินจ้ำหนีนักล่าตัวใหญ่ล่ำบึก แต่ไม่นานฝีเท้าบนรองเท้าผ้าใบก็หยุดลง เลือกเดินย้อนกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่สูงจนรู้สึกอิจฉา เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเขย่งปลายเท้าจนสุด “อย่ามายุ่งกับฉัน!” ในอนาคต เขตครามเป็นความโชคดีเดียวในชีวิตของคนอย่างเธอ แต่เขาก็พ่วงมันมาด้วยความโชคร้ายหลายๆอย่าง ในเมื่อเขาแสดงออกชัดว่าไม่อยากปกป้อง ก็ไม่ต้องมายุ่งให้เธอเกิดความหวั่นไหว “ … โกรธเหรอ?” เพียงแค่กดองศาใบหน้าลงเล็กน้อย หน้าผากของเขาก็แทบจะกดแนบลงกับใบหน้าของเธอที่เชิ่ดมองอยู่ ใบข้าวรีบขยับปลายเท้าลง แต่เขาก็โน้มตัวตามลงมา เธอจำต้องก้าวถอยหลังหลีกหนีท่าทีคุกคาม หนีไปจนกระทั่ง แผ่นหลังชนเข้ากับผนังเย็นชืดของกำแพงห้าง “อย่าทำอะไรไม่เข้าท่านะเขตคราม!” “อะไรไม่เข้าท่า? อะไรที่มันไม่เข้าท่าล่ะใบข้าว?” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงช้าๆ ขณะพูดกับภรรยาที่หลุดมาจากอนาคตเหมือนกัน “นะ นี่นายลืมไปแล้วหรือไงเรื่องที่เราย้อนกลับมา นะ นายจะทำกับฉันเหมือนในอนาคตไม่ได้นะ” ใบข้าวละล่ำละลักพูด จนฟังแทบไม่รู้เรื่อง แต่เขตครามที่ใบหน้าอยู่ห่างกับเธอเพียงแค่คืบ และตั้งใจฟังเธอพูดตั้งแต่ต้น จับใจความถ้อยคำเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน ใบหน้าที่พยายามทำให้เรียบเฉยเย็นชา มีจุดหนึ่งที่เกิดปฏิกิริยากับคำพูดเธอ ใบหูของเขากำลังร้อน ในสมองฉายภาพเรื่องราวต่างๆ ระหว่างเขากับเธอ ที่ล้วนเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเวลาแห่งอนาคต ภาพเหล่านั้นยังคงชัดเจน และเขาอยากให้มันชัดเจนอยู่อย่างนั้น แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะความจริงตอนนี้ คือความทรงจำเหล่านั้นกำลังถูกอนาคตใหม่ลบเลื่อน ไม่นานมันจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง12 : 45 น. โรงแรม XXX ผลสรุปคือฉันกับเขตครามมาสายเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกโล่งใจ เพราะเขาบอกว่าจริงๆแล้ว พวกผู้ใหญ่เลื่อนนัดไปเป็นบ่ายโมง และคนทำให้ฉันเป็นกังวลมาตลอดก็โดนลงโทษไปตามระเบียบ แม้ฉันจะง้อด้วยจูบหวานๆ เขตครามก็ยังไม่หยุดทำหน้าบึ้ง ง้อยากนักฟาดหลังอีกสักรอบดีไหม “นี่คราม! เลิกทำหน้าแบบนั้นได้ยัง ฟาดอีกสักรอบดีไหมเนี่ย”ร่างสูงในชุดสูทสีกรมท่าถอยกรูดไปด้านหลัง ท่าทางหวาดกลัวปลอมๆนั่น ทำให้ฉันปรี่เข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นหมายจะฟาดหัวไหล่ เสียงใครบางคนก็ขัดการกระทำของฉัน ลดมือลงข้างลำตัว หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนเกือบชน “สวัสดีค่ะอาจารย์ ไม่ใช่สิ คุณหมอคริส มิน”“สวัสดีใบข้าว”“สวัสดีจ๊ะข้าว”แปลกใจที่เจอคุณหมอคริสกับมินตราที่นี่ แต่ที่น่าแปลกใจมากกว่าก็คือความใกล้ชิดของคนทั้งสอง แม้ไม่ได้อยู่ในระดับที่มองออกว่าเป็นคู่รัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างแอบแฝงอยู่ “มากันแล้วเหรอ ยัยหนู”“คุณย่า ทำไมไม่รอข้างในล่ะครับ”เขตครามเดินเข้าไปช่วยพยุงผู้หญิงที่เขาเรียกว่าย่า ทว่าท่านยังดูอ่อนเยาว์เหมือนผู้หญิงวัยสี่สิบปลายๆ ฉันเดินเข้าไปใกล้ท่าน ยกมือไห
วันต่อมา “ข้าว ใบข้าว ตื่นได้แล้ว”เสียงนุ่มนวลรบกวนห้วงนิทราหวาน ฉันปรือตาขึ้นมองไปทางที่ตั้งของนาฬิกา เมื่อพบว่ามันเพิ่งจะเก้าโมงเช้า ก็ปิดเปลือกตาลงเหมือนเดิม แอบด่าคนที่ใช้แรงฉันทั้งคืนจนเกือบรุ่งสาง ไม่รู้จะรีบปลุกทำไม จำไม่ได้หรือไงว่าวันนี้วันเสาร์ “ข้าว! ตื่น”ครั้งนี้เขตครามไม่ได้ทำเพียงแค่เรียก เขาดึงรั้งผ้าห่มไปจากตัวฉัน ยิ่งเขาดึงฉันยิ่งออกแรงยื้อ เมื่อเห็นว่าผลแพ้ชนะมันกำลังจะเอนเอียงไปทางเขา ก็ส่งตาขวางไปให้ “ฉันเหนื่อย! ง่วงด้วย ร่างเหมือนจะแหลกเลย”ไอ้คนหื่นกามไม่หลงกล สุดท้ายผ้าห่มนุ่มสบายก็ร่วงหล่นอยู่ปลายเตียง คนที่นุ่งเพียงกางเกงนอนขาสั้นขยับขึ้นมาคร่อมทับทันที สายตาหื่นห่ามเกิดขึ้นอีกแล้ว ฉันที่เหนื่อยสายตัวแทบขาดรีบยกมือขึ้นฟาดหน้าอกเขาสุดแรง เพี๊ยะ! “ก็บอกว่าเหนื่อยไง!”“ชิ! ก็อยากให้นอนต่ออยู่หรอก แต่เธอลืมหรือไง ว่าต้องไปทานมื้อกลางวันกับพ่อแม่ฉันอะ”“เห้ย! จริงด้วย!”“เห้อ! ให้ช่วยอาบไหม?”“ไม่ต้องย่ะ! นายมานั่นแหละมันจะยิ่งช้า”ฉันลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท จึงหอบร่างกายร้าวรานลงไปจากเตียง จากนั้นก็เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัว ตอบโต้กับเขตครามขณะที่เดินไ
สัปดาห์ต่อมา ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนให้ความสนใจข่าวลือเรื่องการคบหากันระหว่างฉันกับเขตครามอย่างล้นหลาม จนกระทั่งข่าวการลาออกจากตำแหน่งของอาจารย์คริสหลุดออกมา ข่าวลือของฉันถึงได้ซาลง แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนก็ยังให้ความสนใจอยู่ จนฉันไม่เป็นอันทำอะไรเลย “เธอเองเหรอที่คนเขาลือกันให้แซ่ดว่าเป็นตัวจริงของครามอะ ฉันว่าข่าวมั่วมากกว่ามั้ง หรือไม่ก็คงเอาตัวไปประเคนใส่ปากให้เขาเคี้ยวจนได้เป็นตัวจริง” นินิวพูดจาค่อนขอดใส่ หลังจากวางเอกสารเกี่ยวกับงานของเธอลงบนโต๊ะเพื่อให้ฉันตรวจสอบ ยัยนี่เพิ่งจะรู้หรือไงว่าฉันเป็นผู้หญิงในข่าวลือ ก็นะ คงจะเพิ่งรู้นั่นแหละว่าเป็นฉัน ก็เธอมัวแต่ไปปลอบใจพราวฟ้านี่นา คงคิดว่าขอดไม้ผุๆอันนั้น จะพาเธอไปถึงฝังฝันได้อยู่“ก็ดีกว่าคนที่ล้างตัวเองใส่พานไปถวายถึงปาก แต่เขาไม่ยอมเคี้ยว ไม่ใช่หรือไง”“แก! ปากดีขึ้นเยอะนี่ใบข้าว!”“อืม ก็ไม่ต่างจากเธอที่ปากเน่ามากกว่าเดิม แปรงฟันด้วยนะ กลิ่นหึ่งจนจะอ้วกเลยเนี่ย”“แก! อีข้าว!”“อย่าคิดว่าฉันสู้เธอได้แค่ปากนะนินิว”ผู้หญิงหุ่นสะบึมน่าอิจฉาหยุดฝีเท้า จากนั้นก็เต้นเร่าๆอยู่บนส้นสูงแหลมปรี๊ด แต่งตัวมาแบบหวังไปทำค
“ถ้าต้องมานั่งรู้สึกผิดต่อกัน ก็ไม่ควรทำมันตั้งแต่แรกไหม”“นั่นสิ บอกตัวเองใช่ไหม”“ฉันยอมรับว่าหลบหน้านาย ฉันแค่อยากจัดการความรู้สึกของฉัน ไม่ได้บอกว่าจะเลิกคบกันสักหน่อย นายบอกว่านายรู้จักฉันมานานนี่นา นายน่าจะรู้อยู่แล้วไหมว่าฉันเป็นคนนิสัยยังไง ถ้าฉันได้ตัดสินใจอะไรไปแล้ว ฉันไม่มีทางเปลี่ยนใจ เรื่องของเราก็เช่นเดียวกัน”อาจจะสับสนไปบ้าง อาจจะรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง แต่ฉันก็จะพยายามทำมันให้สำเร็จให้ได้ การถีบตัวเองขึ้นไปโดยไม่พึ่งแรงส่งจากเขา มันคงทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิได้บ้าง อย่างน้อยๆฉันก็อยากพยายาม อยากให้คนรอบข้างมองว่าฉันมีคุณค่า และคู่ควรกับคนสูงส่งเช่นเขา “ … เธอควรจะพูดแบบนี้กับฉัน ก่อนที่จะทำมันนะ รู้ไหมว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันเหมือนหมาบ้ามากแค่ไหน”“ก็บ้าๆบอๆตลอดอยู่แล้วปะ?”“นี่! ฉันยังไม่หายโกรธเธอนะ”เขตครามทำหน้าเหมือนหมาป่าโดนนายพรานดุ พอคนตัวโตๆทำหน้าแบบนั้น สมองมันอดคิดหาสิ่งเปรียบเทียบไม่ได้ เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบโต้อะไร หมาป่าตัวใหญ่ก็แปลงกายไปเป็นหมาบ้าน “รู้แล้วน่าว่าฉันทำให้เธอโกรธเหมือนกัน อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยนะ เดี๋ยวฉันอุ้มกลับ”เข้าใจว่าการคุ
“ฮึก! อือ”ฉันหลับตาลงยอมรับความพ่ายแพ้ ทั้งทางร่างกาย ทั้งความรู้สึก เป็นฉันนั่นแหละที่ผิด ถ้าเปิดใจคุยกับเขาไม่หนีหน้า ระหว่างเราคงไม่บาดหมาง เขาคงไม่โกรธจนตัดสินใจทำเรื่องระยำ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คนขี้ขลาดอย่างฉันจะกล้าพูดมันจริงๆเหรอ “ฮึก! ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันแล้วใช่ไหม ไม่คิดจะขอโทษฉันเลย”น้ำเสียงเจ็บปวดดังชิดแผ่นหลัง ท่อนลำที่กำลังสอบเข้าออกด้วยความรุนแรง ค่อยๆลดระดับความเร็วลง คงไว้เพียงความหนักหน่วง และสะโพกที่บดโยกไปซ้ายทีขวาที เมื่อไร้ซึ่งถ้อยคำตอบโต้ คนข้างหลังก็ฝังคมเขี้ยวลงบนหัวไหล่ โยกบั้นท้ายถี่รัว หนักหน่วง รวดเร็ว และเข้าสุดออกสุดเกือบทุกครั้ง “ฮึก! ฮือ! อือ อ๊า!”เมื่อร่างกายสุดจะกลั้นมันก็หดเกร็งตัว บีบรัดตัวตนด้านในให้ปริแตก แก่นเนื้ออวบใหญ่ปลดปล่อยสายธารหลั่งไหลเข้ามา มากมายจนมันเอ่อล้นออกไปตามการถอดถอนท่อนลำ “อึก! อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นี้ล่ะใบข้าว”เขตครามสอดความใหญ่โตเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้รุนแรงน้อยลง แต่ก็ยังเข้าสุดออกสุดหมือนเดิม ฉันหมดแรงจะต่อต้าน ร่างกายมันไม่ฟังคำสั่งตั้งแต่แรก โหยหาสัมผัสของเขา อยากได้อยากเอาในสิ่งที่เขาทำ อยากครอบครองทุกอย่
“อึก! แม่ง! รีบประชุมเหอะ!”เขตครามจับสะโพกฉันขึ้นและวางลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ฉันรู้ว่าอะไรทำให้เขาพูดและทำแบบนั้น ไอ้ท่อนลำที่มันเหยียดขยายเพราะการทาบทับของบั้นท้ายฉันนะสิ แต่มันดีแล้วแหละ ฉันอยากรีบประชุมให้มันเสร็จ อยากหนีหน้าเขา ไม่พร้อมเผชิญหน้ากับเขาจริงๆ กลัวทุกสิ่งที่ตัวเองเก็บซ่อนไว้ พรั่งพรูออกมาให้เขารับรู้ การประชุมเป็นไปด้วยความราบรื่น แม้จะมีความขัดแย้งระหว่างนักศึกษาทั้งสองคณะเกิดขึ้นบ้าง แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี หลงเหลือเพียงเรื่องเดียวที่เป็นปัญหาในขณะนี้ ก็คือตัวพระนางของแสดงละครเวทีนั่นเอง กิจกรรมที่คณะของฉันกับคณะวิศวกรรมจะทำร่วมกันในปีนี้ก็คือละครเวที เนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวข้องกับลานเกียร์คณะวิศวะกรรม ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือจนกลายเป็นตำนาน ยิ่งได้ความสัมพันธ์ที่เริ่มมาจากความไม่ลงรอยกับคณะของฉันเข้าไป เนื้อหาละครมันจึงดูมีอะไรซ่อนอยู่มาก คนเขียนบทก็ฉลาด ขาดก็แต่คนสวมบทบาทนั่นแหละ โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง “เอ่อ … ขออนุญาตเสนอรายชื่อได้ไหมคะ?”วีนาคือคนเสนอบทละครเวที จนมันได้รับเลือกให้เป็นกิจกรรมที่พวกเราจะทำร่วมกัน เธอยกมือขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งขอเสนอรายชื่อด้