แชร์

Risk Friend : Intro (2/2)

ผู้เขียน: ฮวายอน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-05 23:51:39

Special Part : Manmok

ย้อนไปสองชั่วโมงก่อน…

ขาตั้งบิ๊กไบค์คู่ใจถูกเตะลงเมื่อถึงจุดหมาย ผมถอดหมวกกันน็อกวางบนถังน้ำมัน สะบัดหัวเล็กน้อยพลางใช้มือเสยเซทผมสองสามที และปิดท้ายด้วยการตรวจสอบความเรียบร้อยผ่านกระจกข้างอีกนิดหน่อย ก็เป็นอัน...เพอร์เฟกต์!

ไม่ใช่ว่าเนี้ยบอะไรขนาดนั้นหรอกนะ สไตล์การแต่งตัวของผมก็ธรรมดาทั่วไป เพียงแค่มันชินกับการที่ต้องเสริมความมั่นใจก่อนออกสู่สายตาสาธารณชนเท่านั้นเอง

หลังตวัดขาลงมายืนข้างรถ ผมก็กวาดมองไปรอบ ๆ ลานเซิร์ฟสเก็ตขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่เคยเป็นแหล่งรวมตัวของชาวแก๊ง หมายถึงผมกับบรรดาเพื่อนสนิทน่ะ ด้วยความรู้สึกแบบ...ค่อนข้างอธิบายยากเลยแหละ

ไม่รู้เพื่อนจะต้อนรับขับสู้หรือผลักไสไล่ส่ง ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังก็เข้าใจได้นะ คือถ้าห่างกันแล้วยังมีการคอนแท็กต์บ้างมันก็ปกติไง แต่สี่ปีที่ผ่านมาผมทำตัวไม่ต่างจากบุคคลสาบสูญเลย ไม่เคยส่งข่าว ไม่มีอัปเดตโซเชียล แถมยังต้องตัดขาดทุกช่องทางติดต่อเพราะความจำเป็นหลาย ๆ อย่าง

ไม่แปลกหรอกหากเพื่อนจะโกรธ ผมคิดว่ามันสมควรด้วยซ้ำ

ความจริงผมกลับจากนอร์เวย์ได้สองวันแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสปลีกตัวออกมาเปิดหูเปิดตา ก็เลยเลือกสนามเซิร์ฟสเก็ตเป็นที่แรก เพราะคิดว่าอาจได้เจอพวกมันครบทุกคนแบบไม่ต้องวิ่งไปโผล่หน้าเซอร์ไพรส์ตามบ้าน

และก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ

ผมกดยิ้มมุมปากทันทีที่เห็น ไอ้พายุ กำลังกระโดดหมุนบอร์ดร้อยแปดสิบแบบโคตรเทพบนพื้นยกสูง ก่อนหนุ่มแว่นสุดเนิร์ดอย่าง ไอ้ไฟ จะไล่ตามไปติด ๆ ส่วนอีกคนที่ยืนเท้าเอวอยู่ไม่ไกลมันชื่อสายลม และก็...

อ่า ไอ้ตะวัน ผมเห็นมันนั่งหลบมุมพิงแท่นปูนอยู่ขอบสนามฝั่งตรงข้ามนู้น ก็เลยปรี่เข้าไปหาอย่างไม่ลังเล

ผมทิ้งตัวลงนั่งชันเข่าเงียบ ๆ แต่ด้วยความใกล้ระยะเผาขนทำให้คนจดจ่อกับหน้าจอมือถือต้องละสายตามามองอยู่ดี สีหน้างงงวยของมันในตอนแรกพลันเปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันควัน เมื่อผมเอียงคอและโบกมือน้อย ๆ เป็นการทักทาย

“ไอ้เหี้ยหมอก!!”

“ช็อกเพราะความหล่อของกูใช่ไหม”

“ไอ้เวร กูนึกว่าแม่งตายห่าไปแล้ว” มันยกมือขึ้นผลักหัวผมจนไหวเอนไปตามแรงราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน

“เป็นการต้อนรับที่ไม่เลว” ผมกลั้วหัวเราะ เพราะลึก ๆ ก็แอบรู้สึกดีที่เพื่อนยังมีท่าทีสนิทสนมเหมือนเดิม ก่อนจะได้ยินเสียงไอ้ตะวันแหกปากเรียกกำลังเสริม

“เห่ย ไอ้เหี้ยนั่นมันกลับมาให้พวกมึงยำแล้ววะ”

“…!”

กว่ายี่สิบชีวิตหยุดชะงักและหันมามองผมเป็นตาเดียว แค่แปดตีนยังพอรับไหวนะ แต่ถ้าทั้งสนามคงได้นอนหยอดข้าวต้มไปหลายเดือนแหง ๆ สุดท้ายสถานการณ์ก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหันไปสานต่อกิจกรรมของตัวเองต่อ มีแค่ไอ้สามตัวที่ถูกกล่าวถึงก่อนหน้านั่นแหละที่พากันวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากลานกว้าง

“กูไม่คิดว่ามึงจะกลับมาแล้วนะเนี่ย” น้ำเสียงตื่นเต้นปนเหนื่อยหอบของไอ้พายุดังขึ้นหลังจากที่มันหย่อนก้นลงนั่งข้างผม โดยที่ไฟ กับ สายลมยังยืนอยู่ตรงหน้า

“กูต้องกลับมาอยู่แล้วปะ?”

สายตาที่พวกมันมองผมไม่เปลี่ยนไปเลย สายตาผมก็เช่นกัน...

คำว่า เพื่อนไม่เก่า มันเป็นแบบนี้เองสินะ!

จากนั้นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก็หมดไปกับเรื่องไร้สาระตามประสาผู้ชาย มีทั้งคำสรรเสริญเชิดชูและแจกหมัดมือกันคนละทีสองทีจนพอใจ ก่อนไปจบที่ลานเซิร์ฟสเก็ตตามสเต็ป

…ยอมรับอย่างไม่อายว่าคิดถึงบรรยากาศแบบนี้ฉิบหาย

“มองหาไอ้จ้าวไง๊?” ไอ้ไฟเอ่ยถามหลังเร่งฝีเท้าขึ้นมาขนาบข้างและยกแขนขึ้นพาดต้นคอผม ขณะเดินกลับเข้ามานั่งพักเหนื่อย

มันคงสังเกตเห็นว่าผมชะเง้อมองหาใครบางคนอยู่บ่อยครั้ง

“อือ”

ไอ้จ้าว หรือ จันทร์เจ้า คือน้องสาวฝาแฝดของไอ้ตะวัน เวลาไปไหนมาไหนก็จะติดสอยห้อยตามพี่ชายไปด้วยตลอด จนกลายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของกลุ่มไปโดยปริยาย

“มันไม่มาหรอก ตั้งแต่มึงไป กูก็ไม่เห็นมันออกมาเล่นอีกเลย”

“…” ผมเงียบ วูบหนึ่งรู้สึกหวิวโหวงในใจแปลก ๆ

ไม่ต้องเดาเลยคนเนี่ย เธอโกรธผมแน่ ๆ อยู่ที่ว่าจะมากแค่ไหน

“แล้วนี่มึงบอกมันยัง”

“ยัง” เอาอะไรไปบอก...หาวิธีเข้าหาแบบไม่ให้โดนฟาดงวงฟาดงาก่อนเหอะ

“มันคงดีใจนะที่มึงกลับมา กูเห็นมันเช็กอินอยู่ที่โรงเรียนตั้งแต่บ่าย ไม่รู้ป่านนี้กลับรึยัง”

“โรงเรียนเหรอ…”

“ไอ้หนู! ไอ้หนู!”

ฝีเท้าผมหยุดชะงักและหันไปตามเสียงเรียก เป็นคุณลุง รปภ. ที่รีบวิ่งเข้ามาดักหน้าไว้ก่อนผมจะดันประตูเล็กเข้าไปในโรงเรียนเก่า

“เข้าไม่ได้แล้ว ประตูปิดแล้ว”

ผมยกข้อมือซ้ายขึ้นมาเพื่อเช็กเวลาและพบว่าตอนนี้มันจะสองทุ่มแล้ว ไม่ใช่แค่ช้าไป...แต่ช้ามาก ไอ้ไฟบอกว่าเธอมาตั้งแต่บ่าย ไม่ใช่กลับไปนานแล้วเหรอ

“ขอโทษครับ” ผมไม่ลืมก้มหัวขอโทษคุณลุงอย่างนอบน้อม ก่อนจะลวงมือถือออกมากดเข้าหน้าแชทไอ้ไฟที่เพิ่งได้มาหมาด ๆ

MM : มึงลองถามไอ้จ้าวหน่อยว่าอยู่ไหน

MM : ไม่ก็ส่ง Contact มา

ระหว่างรอก็คิดว่าจะเดินเลาะดูไปเรื่อย ๆ แต่เบี่ยงปลายเท้าได้เพียงเล็กน้อย...

ปรี๊นนนนน!!!

เสียงแตรรถที่ดังสนั่นจากฝั่งตรงข้ามทำผมสะดุ้ง และมันเรียกความสนใจจากผู้คนละแวกใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี แต่ก็เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ ผมยังเห็นรถยนต์วิ่งสวนกันได้ปกติ

นั่นเลยทำให้ผมก้าวต่อไปตามเส้นทางเดิม...

Fi : แชร์โปรไฟล์

Fi : มันไม่รับสายวะ ไม่ตอบด้วย

และถึงผมจะแอดไปตอนนี้ ก็คงเปล่าประโยชน์ ถ้าขนาดไอ้ไฟยังโดนเมิน ผมคงอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา

หรือผมควรจะย้อนกลับไปถามคุณลง รปภ. ดี

จิ๊...ช่างเหอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

ผมเลี้ยวเข้าร้านขนมหวานชื่อดังที่แม่ชอบ ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะซื้อฝากท่านถึงเอารถมาจอดตรงนี้ เพราะมันไม่ได้ห่างจากโรงเรียนมากนัก โชคดีที่คนไม่เยอะ ผมไถมือถือรอไม่ถึงห้านาทีก็ได้แล้ว

จ่ายเงินเสร็จสรรพผมก็เดินออกมา แต่หลังจากที่ก้าวขึ้นนั่งคร่อมบนมอเตอร์ไซค์และสวมหมวกกันน็อกเรียบร้อย หางตาดันเหลือบไปเห็นบางอย่างวิ่งกระดุกกระดิก ไม่สิ...ไม่ใช่ นั่นคน เธอแค่ตัวเล็ก ขาสั้น ทว่าสับสุดชีวิต ทั้งยังหันซ้ายรีขวาคล้ายกำลังตามหาใครอยู่ ลักษณะของเธอทำให้ผมรู้สึกตงิดใจ

ใช่ไหมนะ...

ผมหันมองจนสุดทาง ก่อนตัดสินใจถอดหมวกวางคืนที่เดิมและเดินตามไปโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร ไอ้ครั้นจะปรี่เข้าไปฉุดให้เธอหยุดแบบกะทันหันก็ใช่เรื่อง เกิดผิดพลาดขึ้นมา ไม่ใช่แค่หน้าแหกนะ กลัวจะโดนข้อหาโจรปล้นสวาทพ่วงด้วยน่ะสิ

สักพักการเคลื่อนไหวของเธอก็เหมือนจะช้าลงจนหยุดนิ่งและทรุดตัวลงนั่งหย่องย่อในที่สุด ไหล่บางไหวขึ้นลงจากการหอบหายใจอย่างหนัก

และพอผมได้ใกล้เธอมากขึ้น ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นด้วย ผมก้าวไปหยุดยืนตรงหน้า แล้วยื่นมือไปให้ในตอนที่เพื่อนเก่าคนโปรดทำท่าจะลุกยืน

“ตามหากูอยู่รึเปล่า”

เสียงของผมทำคนฟังก็ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อจะค่อย ๆ เงยขึ้นจนกระทั่งสายตาเราสอดประสานกัน ร่างกึ่งนั่งกึ่งยืนทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างคนหมดแรงเลยคราวนี้

ด้วยความตกใจ ผมลดความสูงให้เสมอกันและเลื่อนแขนไปประคองหลังคนตัวเล็กไว้ตามสัญชาตญาณ แต่เชื่อไหมว่าเหตุการณ์ต่อมามันน่าตกใจกว่าเป็นร้อยเท่า

“ฮือ…ฮือ” อยู่ ๆ ยัยเตี้ยของผมก็ปล่อยโฮออกมาราวกับเขื่อนแตก

“เห่ย ร้องทำไมเนี่ย” ผมกระซิบดุ เพราะตอนนี้คนผ่านไปผ่านมาเริ่มหันมาสนใจเราแล้ว คาดว่าอีกไม่นานต้องมีคนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่ 

แต่ไม่เพียงไม่หยุด ยังร้องหนักกว่าเดิมด้วย...

“ฮ้ากกกกก...”

“นี่มึงคิดถึงกูขนาดนี้เลยเหรอเตี้ย”

“ฮึ…” เด็กขี้แยส่ายช้า ๆ แทนคำตอบ “…ฮึก กูปวดขา”

“ปวดขา?!”

“…” หลังมือเล็กถูกยกขึ้นมาปาดน้ำตาลวก ๆ ขณะที่ก้มมองแต่พื้นซีเมนต์

“ร้องยังกับพี่มึงตาย โตขนาดนี้แล้วยังร้องเป็นเด็กอยู่ได้” ผมว่าแบบไม่จริงจัง พลางเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาปิดหน้าเธอขึ้นทัดหลังหูด้วยความเอ็นดู

จะผ่านไปกี่ปี จันทร์เจ้า ก็ไม่โตขึ้นเลย สาวน้อยที่ดูภายนอกเหมือนจะเข้มแข็ง กับคนอื่นนี่เก่งสุด ๆ สู้ขาดใจ หลังชนฝา ยังไงก็ไม่ถอย แต่เมื่อไหร่ที่อยู่กับผม เธอจะกลายเป็นผู้หญิงแบบเต็มหนึ่งพันเปอร์เซ็นต์ ทั้งอ่อนแอ บอบบาง แลดูตัวเล็กตัวน้อยขึ้นมาทันที

ในทางกลับกันมันก็ยิ่งทำให้ผมตัวใหญ่ขึ้นทุกครั้งที่อยู่กับเธอ...

และผมคิดว่าความสัมพันธ์ที่จะทำให้เราอยู่กันแบบนี้ได้ตลอดไปก็คือ...เพื่อน

“ไม่ต้องมาพูดเลย ฮึก ก็เพราะมึงนั่นแหละ ถ้ามาเร็วกว่านี้ กูก็ไม่ต้องวิ่งแบบนี้ไหม” น้ำเสียงที่ห้าวอยู่แล้ว ยิ่งแหบแห้งหนักเข้าไปอีกเมื่อติดก้อนสะอื้น และถึงประโยคที่สื่อออกมาจะไม่ชัดเจนนัก แต่ผมก็มั่นใจว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่วิ่งจนร่างแทบพังนี่หรอก

“ขอโทษ...” ถึงมันจะดูสิ้นคิด แต่ก็...ต้องพูด

“ไม่ ฮึก กูไม่ให้อภัย”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 05 (4/4)

    “เจ๊จ้าว…”เสียงเล็ก ๆ ดังตามมาจากด้านหลัง ทำให้ฉันกับไฟที่เพิ่งเดินพ้นประตูห้างสรรพสินค้าต้องหยุดชะงักและหันกลับไป พบว่าร่างที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเราไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น น้องริรัน เป็นลูกสาวคนสวยของอาแม็กซ์กับอาลลิน เพื่อนสนิทป๊า“สวัสดีค่ะ เฮียไฟ” น้องยกมือไหว้ทักทายไฟด้วยน้ำเสียงสดใส“ค่ะ”ฉันเหล่มองเจ้าของคำพูดเสนาะหูนิดหนึ่ง อดขนลุกกับน้ำเสียงละมุนละไมแบบนี้ไม่ได้ ถึงไฟจะดูเป็นผู้ชายสุภาพแต่ตอนอยู่ในกลุ่มเพื่อนก็ขวานผ่าซากเหมือนกัน และฉันก็เคยเจอแต่โหมดนั้น...ริรันระบายยิ้มหวาน ก่อนจะดึงสายตากลับมาที่ฉันอีกครั้ง “รันคิดไว้แล้วว่าต้องเจอเจ๊ที่นี่”“เห็นลงสตอรี่ว่ากดไม่ทัน ไม่ใช่ไง?” ฉันถาม“ซื้อต่อในกลุ่มมาค่ะ แพงมากเลย” ใบหน้าหวานราวกับเจ้าหญิงน้อยเหงาหงอยลง แต่แววตาก็ยังแฝงความตื่นเต้นอยู่“ธรรมดาแหละ ของหายาก”ยอมรับว่าเสียดายนิดหน่อยที่ลืมนึกถึงน้อง ไม่งั้นก็คงชวนมาแต่แรก จะได้ไม่ต้องรบกวนไฟดวงตากลมโตเคล

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 05 (3/4)

    ปึก! อ๊ะ!ฉันผงะถอยในตอนที่เลี้ยวออกจากประตูห้องแล้วปะทะเข้ากับแผงอกของใครบางคนจนเกือบเสียหลัก โชคดีที่เขาตวัดแขนรวบเอวฉันไว้ได้ทันก่อนจะล้มไม่เป็นท่า และอะไรก็ตามที่โถมเข้าใกล้กันเกินพอดีด้วยความเร็วเกินไปมันมักส่งผลกระทบต่อประสาทสัมผัสเสมอ ทำให้ฉันต้องกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับโฟกัสพลันใบหน้าหล่อเหลาก็ชัดเจนมากขึ้น…“...หมอก” สติถูกดึงกลับมาพร้อมกับใจที่เต้นรัว ไม่แน่ชัดว่าเกิดจากความตกใจหรืออะไร ฉันแสร้งกระแอมไอในลำคอเล็กน้อยพลางผลักดันคนตัวโตออกห่าง สีหน้าถูกปรับเป็นหงุดหงิดโดยอัตโนมัติ “แล้วมายืนทำบ้าอะไรตรงนี้!”“มารอมึงไง”“รอทำไม”“ไปหาของหวานกินกัน”“ไม่ว่าง” ก็รู้อยู่แล้วนะว่าฉันมีนัดกับไฟ ยังจะมาชวนอีก ไม่เข้าใจเลยจริง ๆม่านหมอกยกข้อมือซ้ายขึ้นมาเช็กเวลา แล้วแย้งกลับอย่างคะยั้นคะยอ “นี่ยังไม่สี่โมงเลยนะ ไปแค่แป๊บเดียวเอง ไม่ถึงสองชั่วโมงหรอก”ทำไมเขาถึงชอบใช้สายตาแบบนั้น… แบบลูกหมาตัวน้อย ๆ กำลังขอขนมกิน ทั้งที่ตัว

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 05 (2/4)

    ไฟพาฉันเข้ามากินข้าวเช้าในแคนทีนใต้ตึกบริหารที่โต๊ะประจำ ไม่รู้ผ่านไปกี่นาทีที่ฉันยังเอาแต่นั่งเท้าค้างเขี่ยหมูในจานข้าวราดผัดผักแสนอร่อยราวกับเด็กน้อยเบื่ออาหารอยู่แบบนั้น“ทำไมถึงชอบดูอะไรที่มันไม่เจริญตา”ฉันเหลือบตามองเจ้าของคำถามซึ่งนั่งเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามแวบหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าไฟต้องการคำตอบจริงจังทางทฤษฎีหรือแค่หาเรื่องพูดไปเรื่อยเพื่อทำลายความเงียบเหงาบนโต๊ะอาหาร“ก็มันเห็นเองไหมล่ะ”เมื่อก่อนฉันก็บังเอิญเห็นพายุจูบกับสาวรุ่นพี่ในโรงเรียนมัธยมอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าขัดตา บางครั้งยังแอบจิ้น แอบฟินคล้ายกับกำลังดูหนังโรแมนติกอะไรทำนองนั้นทว่าครั้งนี้ฉันดันหัวลุกเป็นไฟ...และเหมือนจะลุกโชนกว่าเดิมเมื่อเห็นตัวต้นเรื่องเดินกอดคอพายุผ่านประตูบานเลื่อนเข้ามา ไม่นานทั้งคู่ก็มาหยุดยืนหัวตัวโต๊ะ“สวัสดีเช้าแสนสดใสค้าบเพื่อน ๆ”“สดใสพ่อง...” ฉันมองพายุด้วยสายตารำคาญ“อ้าว ไปแดกรังแตนที่ไหนมาฮะเอ๊ะ หรือว่าโดนเทก็เลยหงุ

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 05 (1/4)

    วันนี้ฉันมาถึงมหา’ลัยก่อนเวลาเรียนเกือบชั่วโมง เพราะเมื่อคืนโดนสั่งงดเล่นเกม แถมมี๊ยังควบคุมให้เข้านอนแต่หัวค่ำก็เลยตื่นเช้ากว่าปกติ พร้อมกับความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าจากการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพในรอบหลายเดือนความจริงก็รู้หมดแหละว่าอะไรดี…ไม่ดี แต่มันอดไม่ได้ไง พอเริ่มแล้วก็ยากจะหยุด อารมณ์แบบยิ่งเล่น ยิ่งเดือด ยิ่งชนะ ยิ่งห้าว ยิ่งไม่สะดุด ก็ยิ่งไหลไปเรื่อย จากเที่ยงคืนก็ขยับเป็นตีหนึ่งตีสอง หนักสุดก็สว่างคาตา…งงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่จุดนี้ได้ไงครืด! ครืด! ครืด!แรงสั่นเป็นจังหวะในกระเป๋าสะพายไหล่ทำให้ฉันต้องยกข้อมือซ้ายขึ้นมาดู หน้าปัดแอปเปิ้ลวอชโชว์สายเรียกเข้าจาก แตมมี่ เพื่อนเลิฟ ฝีเท้าฉันชะลอลงเล็กน้อย ขณะล้วงหยิบไอโฟนออกมารับสาย“คิดถึงเค้าเหรอคะ…” [เปล่า กูจะบอกว่าวันนี้ไม่ว่างแล้ว] “อะ อ้าว…” ประโยคไร้สิ้นเยื่อใยแบบนั้นทำริมฝีปากที่คลี่ยิ้มบานแช่งในตอนแรก คว่ำเป็นกะละมังข้าวหมาเลยทีเดียวเชียว [กูมีงานค้างที่ต้องรีบเคลียร์อะ] “แต่มันเป็นรอบพรีวิวเลยนะ” ฉันเริ่มงอแง ช่วงไหล่ลู่ลงอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก ความสดใสสลายหายวับไปกับมวลอากาศ นึกถึงตอนนั่งหลังขดหลังแข็งแ

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 04 (3/3)

    ครืด! ครืด!พอหงายหน้าจอขึ้นดูก็ต้องหลุดถอนหายใจเฮือกยาว ถามถึงปัญหา…ปัญหาก็มาเลย[เกิดเรื่องที่บ้านใหญ่แล้วค่ะ] น้ำเสียงของ ป้าแมว ผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านซึ่งผมเคยอาศัย ยังคงตื่นตระหนกทุกครั้งที่ต้องพูดประโยคนี้ ผิดกับผมที่แม้แต่สีหน้าก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแรก ๆ อาจมีบางที่ตื่นเต้นจนจับจังหวะหัวใจไม่ได้ แต่พอมันบ่อยเข้า บ่อยเข้า สมองผมก็ทำการบันทึกไปเรียบร้อยแล้วว่ามันคือเหตุการณ์ปกติ“ครับ…” ผมตอบรับเรียบเฉย ก่อนจะกดวางสายแล้วผุดลุกจากโซฟา “เดี๋ยวกูมา”บอกเพื่อนไปแบบนั้นแล้วก็รีบพาตัวเองออกมาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันโปรดที่จอดอยู่ด้านหน้าและขับออกไปด้วยความเร็วสุดปลอกต่อให้คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติแค่ไหน ใจผมก็กระวนกระวายอยู่ดี…ความจริงผมก็เริ่มอยู่กับปัญหาพวกนี้ได้แล้วแหละ เวลามันทำให้ผมค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าลืมได้ สี่ปีก่อนตอนที่แม่จับได้ว่าเตี่ยแอบซุกเมียอีกคนไว้นานนับสิบปี นั่นเป็นการทะเลาะกันรุนแรงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา สุดท้ายมันก็จบลงด้วยการแยกย้าย แม่พาผมไปอยู

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 04 (2/3)

    หลายอาทิตย์ต่อมา…“พวกมึงจะเอาด้วยไหม” เฮียตะวันถาม“ก็ได้หมดนะ” ลมก็ตอบง่าย ๆ ตามสไตล์“กูว่าเจ๋งดี” ไฟก็ว่าแค่นั้น ก่อนมาสะดุดที่ไอ้ตัวปัญหาอย่างพายุเนี่ยแหละ“แต่จะไม่เจ๊งก่อนใช่ไหม”“ปากเสียฉิบหาย”ส่วนฉันยังคงนั่งกอดอกจ้องหน้าสมาชิกคนเดียวที่ไม่ออกความคิดเห็น เพราะยังไม่มีข้อสรุปจริง ๆ จัง ๆ ก็เลยวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องที่พายุบอกจนจับใจความสำคัญของนัดรวมตัวกันวันนี้ได้ไม่ดีนัก รู้แค่ตอนนี้เรากำลังนั่งสุมหัวกันอยู่ในทาวน์โฮมปูนเปื่อยสี่ชั้นสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ขนาดกว่าห้าร้อยตารางเมตร ซึ่งกำลังจะถูกประยุกต์ให้เป็นศูนย์รวมความบันเทิงระดับพรีเมียมใจกลางเมือง ภายใต้ชื่อ เอสเอเอ็มคลับ ที่มาจาก Sun And Moonตะวัน กับ จันทร์เจ้าแต่สาเหตุมันไม่ได้มาจากจันทร์เจ้าเลยสักนิด ไหงต้องมารับผิดชอบร่วมด้วยก็ไม่รู้เรื่องมันเกิดมาจากไอ้พวกบรรลัยทีมเนี่ยแหละ ไปกินเหล้ากันได้ทุกวี่ทุกวัน พอเมาก็ห้าวตีนไล่ตีรันฟันแทงเขาไปทั่ว ทำอดีตหัวหน้ามาเฟียใหญ่อย่าง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status