แชร์

Risk Friend : Intro (2/2)

ผู้เขียน: ฮวายอน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-05 23:51:39

Special Part : Manmok

ย้อนไปสองชั่วโมงก่อน…

ขาตั้งบิ๊กไบค์คู่ใจถูกเตะลงเมื่อถึงจุดหมาย ผมถอดหมวกกันน็อกวางบนถังน้ำมัน สะบัดหัวเล็กน้อยพลางใช้มือเสยเซทผมสองสามที และปิดท้ายด้วยการตรวจสอบความเรียบร้อยผ่านกระจกข้างอีกนิดหน่อย ก็เป็นอัน...เพอร์เฟกต์!

ไม่ใช่ว่าเนี้ยบอะไรขนาดนั้นหรอกนะ สไตล์การแต่งตัวของผมก็ธรรมดาทั่วไป เพียงแค่มันชินกับการที่ต้องเสริมความมั่นใจก่อนออกสู่สายตาสาธารณชนเท่านั้นเอง

หลังตวัดขาลงมายืนข้างรถ ผมก็กวาดมองไปรอบ ๆ ลานเซิร์ฟสเก็ตขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่เคยเป็นแหล่งรวมตัวของชาวแก๊ง หมายถึงผมกับบรรดาเพื่อนสนิทน่ะ ด้วยความรู้สึกแบบ...ค่อนข้างอธิบายยากเลยแหละ

ไม่รู้เพื่อนจะต้อนรับขับสู้หรือผลักไสไล่ส่ง ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังก็เข้าใจได้นะ คือถ้าห่างกันแล้วยังมีการคอนแท็กต์บ้างมันก็ปกติไง แต่สี่ปีที่ผ่านมาผมทำตัวไม่ต่างจากบุคคลสาบสูญเลย ไม่เคยส่งข่าว ไม่มีอัปเดตโซเชียล แถมยังต้องตัดขาดทุกช่องทางติดต่อเพราะความจำเป็นหลาย ๆ อย่าง

ไม่แปลกหรอกหากเพื่อนจะโกรธ ผมคิดว่ามันสมควรด้วยซ้ำ

ความจริงผมกลับจากนอร์เวย์ได้สองวันแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสปลีกตัวออกมาเปิดหูเปิดตา ก็เลยเลือกสนามเซิร์ฟสเก็ตเป็นที่แรก เพราะคิดว่าอาจได้เจอพวกมันครบทุกคนแบบไม่ต้องวิ่งไปโผล่หน้าเซอร์ไพรส์ตามบ้าน

และก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ

ผมกดยิ้มมุมปากทันทีที่เห็น ไอ้พายุ กำลังกระโดดหมุนบอร์ดร้อยแปดสิบแบบโคตรเทพบนพื้นยกสูง ก่อนหนุ่มแว่นสุดเนิร์ดอย่าง ไอ้ไฟ จะไล่ตามไปติด ๆ ส่วนอีกคนที่ยืนเท้าเอวอยู่ไม่ไกลมันชื่อสายลม และก็...

อ่า ไอ้ตะวัน ผมเห็นมันนั่งหลบมุมพิงแท่นปูนอยู่ขอบสนามฝั่งตรงข้ามนู้น ก็เลยปรี่เข้าไปหาอย่างไม่ลังเล

ผมทิ้งตัวลงนั่งชันเข่าเงียบ ๆ แต่ด้วยความใกล้ระยะเผาขนทำให้คนจดจ่อกับหน้าจอมือถือต้องละสายตามามองอยู่ดี สีหน้างงงวยของมันในตอนแรกพลันเปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันควัน เมื่อผมเอียงคอและโบกมือน้อย ๆ เป็นการทักทาย

“ไอ้เหี้ยหมอก!!”

“ช็อกเพราะความหล่อของกูใช่ไหม”

“ไอ้เวร กูนึกว่าแม่งตายห่าไปแล้ว” มันยกมือขึ้นผลักหัวผมจนไหวเอนไปตามแรงราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน

“เป็นการต้อนรับที่ไม่เลว” ผมกลั้วหัวเราะ เพราะลึก ๆ ก็แอบรู้สึกดีที่เพื่อนยังมีท่าทีสนิทสนมเหมือนเดิม ก่อนจะได้ยินเสียงไอ้ตะวันแหกปากเรียกกำลังเสริม

“เห่ย ไอ้เหี้ยนั่นมันกลับมาให้พวกมึงยำแล้ววะ”

“…!”

กว่ายี่สิบชีวิตหยุดชะงักและหันมามองผมเป็นตาเดียว แค่แปดตีนยังพอรับไหวนะ แต่ถ้าทั้งสนามคงได้นอนหยอดข้าวต้มไปหลายเดือนแหง ๆ สุดท้ายสถานการณ์ก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหันไปสานต่อกิจกรรมของตัวเองต่อ มีแค่ไอ้สามตัวที่ถูกกล่าวถึงก่อนหน้านั่นแหละที่พากันวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากลานกว้าง

“กูไม่คิดว่ามึงจะกลับมาแล้วนะเนี่ย” น้ำเสียงตื่นเต้นปนเหนื่อยหอบของไอ้พายุดังขึ้นหลังจากที่มันหย่อนก้นลงนั่งข้างผม โดยที่ไฟ กับ สายลมยังยืนอยู่ตรงหน้า

“กูต้องกลับมาอยู่แล้วปะ?”

สายตาที่พวกมันมองผมไม่เปลี่ยนไปเลย สายตาผมก็เช่นกัน...

คำว่า เพื่อนไม่เก่า มันเป็นแบบนี้เองสินะ!

จากนั้นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก็หมดไปกับเรื่องไร้สาระตามประสาผู้ชาย มีทั้งคำสรรเสริญเชิดชูและแจกหมัดมือกันคนละทีสองทีจนพอใจ ก่อนไปจบที่ลานเซิร์ฟสเก็ตตามสเต็ป

…ยอมรับอย่างไม่อายว่าคิดถึงบรรยากาศแบบนี้ฉิบหาย

“มองหาไอ้จ้าวไง๊?” ไอ้ไฟเอ่ยถามหลังเร่งฝีเท้าขึ้นมาขนาบข้างและยกแขนขึ้นพาดต้นคอผม ขณะเดินกลับเข้ามานั่งพักเหนื่อย

มันคงสังเกตเห็นว่าผมชะเง้อมองหาใครบางคนอยู่บ่อยครั้ง

“อือ”

ไอ้จ้าว หรือ จันทร์เจ้า คือน้องสาวฝาแฝดของไอ้ตะวัน เวลาไปไหนมาไหนก็จะติดสอยห้อยตามพี่ชายไปด้วยตลอด จนกลายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของกลุ่มไปโดยปริยาย

“มันไม่มาหรอก ตั้งแต่มึงไป กูก็ไม่เห็นมันออกมาเล่นอีกเลย”

“…” ผมเงียบ วูบหนึ่งรู้สึกหวิวโหวงในใจแปลก ๆ

ไม่ต้องเดาเลยคนเนี่ย เธอโกรธผมแน่ ๆ อยู่ที่ว่าจะมากแค่ไหน

“แล้วนี่มึงบอกมันยัง”

“ยัง” เอาอะไรไปบอก...หาวิธีเข้าหาแบบไม่ให้โดนฟาดงวงฟาดงาก่อนเหอะ

“มันคงดีใจนะที่มึงกลับมา กูเห็นมันเช็กอินอยู่ที่โรงเรียนตั้งแต่บ่าย ไม่รู้ป่านนี้กลับรึยัง”

“โรงเรียนเหรอ…”

“ไอ้หนู! ไอ้หนู!”

ฝีเท้าผมหยุดชะงักและหันไปตามเสียงเรียก เป็นคุณลุง รปภ. ที่รีบวิ่งเข้ามาดักหน้าไว้ก่อนผมจะดันประตูเล็กเข้าไปในโรงเรียนเก่า

“เข้าไม่ได้แล้ว ประตูปิดแล้ว”

ผมยกข้อมือซ้ายขึ้นมาเพื่อเช็กเวลาและพบว่าตอนนี้มันจะสองทุ่มแล้ว ไม่ใช่แค่ช้าไป...แต่ช้ามาก ไอ้ไฟบอกว่าเธอมาตั้งแต่บ่าย ไม่ใช่กลับไปนานแล้วเหรอ

“ขอโทษครับ” ผมไม่ลืมก้มหัวขอโทษคุณลุงอย่างนอบน้อม ก่อนจะลวงมือถือออกมากดเข้าหน้าแชทไอ้ไฟที่เพิ่งได้มาหมาด ๆ

MM : มึงลองถามไอ้จ้าวหน่อยว่าอยู่ไหน

MM : ไม่ก็ส่ง Contact มา

ระหว่างรอก็คิดว่าจะเดินเลาะดูไปเรื่อย ๆ แต่เบี่ยงปลายเท้าได้เพียงเล็กน้อย...

ปรี๊นนนนน!!!

เสียงแตรรถที่ดังสนั่นจากฝั่งตรงข้ามทำผมสะดุ้ง และมันเรียกความสนใจจากผู้คนละแวกใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี แต่ก็เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ ผมยังเห็นรถยนต์วิ่งสวนกันได้ปกติ

นั่นเลยทำให้ผมก้าวต่อไปตามเส้นทางเดิม...

Fi : แชร์โปรไฟล์

Fi : มันไม่รับสายวะ ไม่ตอบด้วย

และถึงผมจะแอดไปตอนนี้ ก็คงเปล่าประโยชน์ ถ้าขนาดไอ้ไฟยังโดนเมิน ผมคงอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา

หรือผมควรจะย้อนกลับไปถามคุณลง รปภ. ดี

จิ๊...ช่างเหอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

ผมเลี้ยวเข้าร้านขนมหวานชื่อดังที่แม่ชอบ ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะซื้อฝากท่านถึงเอารถมาจอดตรงนี้ เพราะมันไม่ได้ห่างจากโรงเรียนมากนัก โชคดีที่คนไม่เยอะ ผมไถมือถือรอไม่ถึงห้านาทีก็ได้แล้ว

จ่ายเงินเสร็จสรรพผมก็เดินออกมา แต่หลังจากที่ก้าวขึ้นนั่งคร่อมบนมอเตอร์ไซค์และสวมหมวกกันน็อกเรียบร้อย หางตาดันเหลือบไปเห็นบางอย่างวิ่งกระดุกกระดิก ไม่สิ...ไม่ใช่ นั่นคน เธอแค่ตัวเล็ก ขาสั้น ทว่าสับสุดชีวิต ทั้งยังหันซ้ายรีขวาคล้ายกำลังตามหาใครอยู่ ลักษณะของเธอทำให้ผมรู้สึกตงิดใจ

ใช่ไหมนะ...

ผมหันมองจนสุดทาง ก่อนตัดสินใจถอดหมวกวางคืนที่เดิมและเดินตามไปโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร ไอ้ครั้นจะปรี่เข้าไปฉุดให้เธอหยุดแบบกะทันหันก็ใช่เรื่อง เกิดผิดพลาดขึ้นมา ไม่ใช่แค่หน้าแหกนะ กลัวจะโดนข้อหาโจรปล้นสวาทพ่วงด้วยน่ะสิ

สักพักการเคลื่อนไหวของเธอก็เหมือนจะช้าลงจนหยุดนิ่งและทรุดตัวลงนั่งหย่องย่อในที่สุด ไหล่บางไหวขึ้นลงจากการหอบหายใจอย่างหนัก

และพอผมได้ใกล้เธอมากขึ้น ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นด้วย ผมก้าวไปหยุดยืนตรงหน้า แล้วยื่นมือไปให้ในตอนที่เพื่อนเก่าคนโปรดทำท่าจะลุกยืน

“ตามหากูอยู่รึเปล่า”

เสียงของผมทำคนฟังก็ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อจะค่อย ๆ เงยขึ้นจนกระทั่งสายตาเราสอดประสานกัน ร่างกึ่งนั่งกึ่งยืนทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างคนหมดแรงเลยคราวนี้

ด้วยความตกใจ ผมลดความสูงให้เสมอกันและเลื่อนแขนไปประคองหลังคนตัวเล็กไว้ตามสัญชาตญาณ แต่เชื่อไหมว่าเหตุการณ์ต่อมามันน่าตกใจกว่าเป็นร้อยเท่า

“ฮือ…ฮือ” อยู่ ๆ ยัยเตี้ยของผมก็ปล่อยโฮออกมาราวกับเขื่อนแตก

“เห่ย ร้องทำไมเนี่ย” ผมกระซิบดุ เพราะตอนนี้คนผ่านไปผ่านมาเริ่มหันมาสนใจเราแล้ว คาดว่าอีกไม่นานต้องมีคนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่ 

แต่ไม่เพียงไม่หยุด ยังร้องหนักกว่าเดิมด้วย...

“ฮ้ากกกกก...”

“นี่มึงคิดถึงกูขนาดนี้เลยเหรอเตี้ย”

“ฮึ…” เด็กขี้แยส่ายช้า ๆ แทนคำตอบ “…ฮึก กูปวดขา”

“ปวดขา?!”

“…” หลังมือเล็กถูกยกขึ้นมาปาดน้ำตาลวก ๆ ขณะที่ก้มมองแต่พื้นซีเมนต์

“ร้องยังกับพี่มึงตาย โตขนาดนี้แล้วยังร้องเป็นเด็กอยู่ได้” ผมว่าแบบไม่จริงจัง พลางเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาปิดหน้าเธอขึ้นทัดหลังหูด้วยความเอ็นดู

จะผ่านไปกี่ปี จันทร์เจ้า ก็ไม่โตขึ้นเลย สาวน้อยที่ดูภายนอกเหมือนจะเข้มแข็ง กับคนอื่นนี่เก่งสุด ๆ สู้ขาดใจ หลังชนฝา ยังไงก็ไม่ถอย แต่เมื่อไหร่ที่อยู่กับผม เธอจะกลายเป็นผู้หญิงแบบเต็มหนึ่งพันเปอร์เซ็นต์ ทั้งอ่อนแอ บอบบาง แลดูตัวเล็กตัวน้อยขึ้นมาทันที

ในทางกลับกันมันก็ยิ่งทำให้ผมตัวใหญ่ขึ้นทุกครั้งที่อยู่กับเธอ...

และผมคิดว่าความสัมพันธ์ที่จะทำให้เราอยู่กันแบบนี้ได้ตลอดไปก็คือ...เพื่อน

“ไม่ต้องมาพูดเลย ฮึก ก็เพราะมึงนั่นแหละ ถ้ามาเร็วกว่านี้ กูก็ไม่ต้องวิ่งแบบนี้ไหม” น้ำเสียงที่ห้าวอยู่แล้ว ยิ่งแหบแห้งหนักเข้าไปอีกเมื่อติดก้อนสะอื้น และถึงประโยคที่สื่อออกมาจะไม่ชัดเจนนัก แต่ผมก็มั่นใจว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่วิ่งจนร่างแทบพังนี่หรอก

“ขอโทษ...” ถึงมันจะดูสิ้นคิด แต่ก็...ต้องพูด

“ไม่ ฮึก กูไม่ให้อภัย”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 03 (3/3)

    ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ มีเสียงหนึ่งดังกึกก้องอยู่ในหูและมันห่างไกลคำว่าปกติอยู่มาก ไม่รู้เกิดจากความตื่นตระหนกเพราะไม่ทันตั้งตัว หรือการที่ได้กลับมาใกล้ชิดกันกว่าเดิมแถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มีโอกาสมองประเมินเขาอย่างถี่ถ้วน ใบหน้าหล่อเป็นองค์ประกอบแรกที่ใคร ๆ ก็ต่างพากันหลงใหล คิ้วเข้มพาดเฉียงรับกับดวงตาเฉี่ยวคมได้เป็นอย่างดี ไหนจะไฝเสน่ห์ตรงใต้ตาซ้าย พระเจ้าก็ช่างแต่งแต้มมาได้ถูกจุดจริง ๆ จากที่โดดเด่นอยู่แล้ว ยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีก เคยเห็นไหมคนที่ทำหน้านิ่งแล้วให้ลุคโคตรแบด แต่พอริมฝีปากเผยเพียงยิ้มบางเท่านั้นแหละ ทุกอย่างกลับดูละมุมไปหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ม่านหมอกถูกจัดอยู่ในลิสต์รายชื่อของแรร์อันดับต้น ๆ ประจำโรงเรียนมาโดยตลอด จำได้ว่าช่วงมอต้นมีรุ่นพี่มาต่อคิวกันยื่นใบสมัครสารพัดตำแหน่งจนแถวยาวเหยียด อารมณ์แบบ...เป็นอะไรก็ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ สุดท้ายเหมือนฉันจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้สิทธิ์นั้นแต่ก็เท่านั้น...เพราะสี่ปีที่ผ่านมา ฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าตัวเองยังเป็นคนสำคัญอยู่ไหม ครืด! ครืด…สายเรียกเข้าจากเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงของคนนอนปลุกให้เขาลืมตาขึ้น

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 03 (2/3)

    ช่วงบ่ายของวัน…I have died everyday waiting for you…ปลายนิ้วชี้ถูกยกขึ้นแตะรูดก้านแอร์พอดเร่งเสียงเพลง A Thousand Years ของ Christina Perri ให้ดังขึ้นเพื่อตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ทั้งเปลือกตายังปิดสนิทและฟุบหน้าไปบนเก้าอี้เลคเชอร์โดยมีท่อนแขนขวารองอยู่ ลมเย็น ๆ ของเครื่องปรับอากาศให้ความรู้สึกผ่อนคลายไม่ต่างจากนอนอยู่บนเตียงกว้างในห้องส่วนตัวเลย แตกต่างตรงที่นี่เป็นคลาสเรียนซึ่งอัดแน่นไปด้วยนักศึกษากว่าสิบชีวิตแต่แล้วการพักผ่อนแสนสบายก็ถูกขัดจังหวะ ฉันขมวดคิ้วพลางหรี่ตาขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นที่ข้าง ๆ ฉันผงกหัวขึ้นและเบี่ยงหน้าไปทางขวาเล็กน้อย ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร เขารีบขอโทษและอธิบายทั้งที่ฉันยังไม่ทันต่อว่า “...ขอโทษนะ ที่ทำเธอตื่น พอดีเราเห็นว่าตรงนี้มันเงียบดี” “...!” ประโยคนั่นทำให้ฉันต้องกวาดมองไปรอบห้องด้วยความงุนงง ก็ไม่เห็นมันวุ่นวายตรงไหน ที่นั่งเงียบ ๆ มีอีกเป็นสิบ“ไอ้จ้าวห้าวตี้ใช่ไหม”แต่พอได้ยินชื่อช่องสตรีมเกมของตัวเองก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันที อารมณ์ถูกสับเปลี่ยนโหมดโดยพลัน แผ่นหลังที่เอนไปกับโต๊ะเลคเชอร์ในตอนแรกก็ดีดขึ

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 03 (1/3)

    ฉันยืนสำรวจตัวเองที่สวมเสื้อนักศึกษาเข้ารูปกับกระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำใต้ตึกบริหารอยู่นานนับนาที ถึงจะเป็นคนมีความมั่นใจแค่ไหน ก็ยังแอบประหม่า อะไรที่ได้ชื่อว่าครั้งแรกย่อมตื่นเต้นเสมอนั่นแหละมันดูแปลกตายังไงก็ไม่รู้เนอะ…แต่เอาเถอะ!“แกสวยมากแล้วเว้ย” ฉันยกสองนิ้วหัวแม่มือให้ตัวเองพร้อมรอยยิ้มต้อนรับชีวิตในรั่วมหา'ลัยอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนควานหาไอโฟนมาพิมพ์ข้อความส่งให้เพื่อนรักที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลJJ : กูคิดถึงมึง (08:35) JJ : กูเหงา (08:35) JJ : เหมือนจะเป็นซึมเศร้าเลย กูขาดมึงไม่ด้ายยยย (08:36) Tammy : อย่าเยอะ (08:38) JJ : ใช่เส้สสสส ใจคนยากนักหยั่งถึง เพียงข้ามคืนก็เปลี่ยนเป็นอื่น (08:38) Tammy : โอ้ยยยย อีเตี้ย!!! (08:39) Tammy : กูบล็อกมึงได้นะ เอาจริง (08:39) Tammy : ไปหาเล่นกับไอ้ดำ ไอ้ด่างหน้า ม. ก่อนไป๊ (08:40) ไล่เพื่อนไปเล่นกับหมา…?ฮึก น้ำตาจะไหล ไม่ได้กำลังใจเพิ่ม แถมยังหงอยหนักกว่าเดิมอีก นั่นเลยเป็นสาเหตุให้ฉันรัวสติกเกอร์พี่หมีเศร้าหลายตัวปิดท้าย ขณะก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนนี้เหมือนฉันอยู่ท่ามกลา

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 02 (3/3)

    “ทำหน้าให้มันเหมือนเต็มใจมาหน่อยดิ” “…!” ฉันหันไปฉีกยิ้มกว้างเหมือนสดใสมากมายให้เจ้าของคำขอที่เดินล้วงกระเป๋าแจ็กเกตหนังสีดำอยู่ข้างกันแวบหนึ่ง ก่อนปรับเป็นบึ้งตึงดั้งเดิม นั่นเรียกเสียงหัวเราะหึหึในลำคออีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีจะบอกว่าเต็มใจก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เรียกว่าหลงกลอุบายของนายเพื่อนเก่าจอมเจ้าเล่ห์นี่จะดีกว่า เพราะเขามักใช้สายตาและคำพูดที่ทำให้ฉันแพ้ทางอยู่เรื่อย ‘เตี้ย…’‘ไม่ไป’‘จันทร์เจ้า…’‘ก็บอกว่าไม่ไง’‘เค งั้นกูก็จะรอมึงอยู่นี่แหละ เดี๋ยวคืนนี้นอนกับไอ้ตะวันก็ได้’‘แล้วทำไมไม่ไปชวนคนอื่น’‘ก็อยากไปกับมึง ไม่ได้อยากไปกับคนอื่น…’เฮ้อ…คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับความไม่หนักแน่นของตัวเอง ทั้งที่ตั้งปณิธานแนวแน่แล้วแท้ ๆ อุตส่าห์ปฏิเสธซะดิบดี สุดท้ายก็ท่าพลาดให้หน้าหล่อ ๆ เอ๊ย... ไม่ใช่! หน้าละห้อยเหมือนหมาเหงาบวกแววตาออดอ้อนขอความเห็นใจนั่นเสียได้ต้องเป็นเพราะอากาศร้อนราวกับซ้อมตกนรกของประเทศไทยแน่ ๆ ที่ทำให้น้ำแข็งห่อหุ้มหัวใจฉันละลายเร็วเพียงข้ามคืนเยี่ยงนี้ ม่านหมอกพาฉันมาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมื่อตอนสิบเอ็ดโมงเศษ และลากเข้าโซนเครื่องนอนเป็นอันดับแรก จนป่านนี้ปา

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 02 (2/3)

    คฤหาสน์เดชาพิพักษ์หลังจากที่ขลุกสร้างความวุ่นวายให้เพื่อนรักทั้งวัน ฉันก็กลับเข้าบ้านตอนหกโมงกว่าพร้อมน้ำพริกแสนอร่อยที่มี๊ชอบ“แล้วมี๊ละคะ…”เมื่อเห็นว่ากลางชุดโซฟาสุดหรูในโถงใหญ่มีเพียงผู้เป็นพ่อนั่งทำหน้าเครียดอยู่กับไอแพดในมือ จึงเอ่ยถาม จากนั้นก็พาตัวเองไปนั่งลงข้าง ๆ ฝั่งซ้ายพลางดึงท่อนแขนแข็งแรงของป๊ามาออดอ้อนออเซาะตามความเคยชิน“น่าจะขึ้นไปอาบน้ำนะ” ป๊าวาดมือข้างเดียวกันขึ้นลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน“ไอ้เฮียไปไหน”หมายถึง เฮียตะวัน พี่ชายฝาแฝดของฉันนี่ก็อีกคน…ไม่รู้เป็นยังไง แค่เข้ามาแล้วไม่เห็นพาหนะคู่ใจของมันจอดอยู่ในโรงรถ ก็ต้องถามหาแล้ว ทั้งที่เจอหน้าก็แทบจะฆ่ากันตายตลอด“ไปสนามเซิร์ฟ” ป๊าขยับปากตอบ ตายังคงจดจ่ออยู่กับกราฟและภาพรวมดัชนีราคาหุ้น “ลูกล่ะ เลิกเล่นแล้วเหรอ ป๊าเห็นเซิร์ฟสเก็ตถูกทิ้งไว้ในห้องเก็บของหลายปีแล้วนะ”“อือ เบื่อแล้ว” ถึงคนพาเล่นจะกลับมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์…ฉันไม่หายโกรธง่าย ๆ แน่“...?” คราวนี้ป๊าหันมาเลิกคิ้วมองกัน คล้ายกับอยากได้เหตุผลหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันตัดใจทิ้งสิ่งที่ชอบไปง่าย ๆ“สตรีมเกมสนุกกว่าเยอะเลย ไปดีกว่า” นี่เป็นวิธีการเลี่ยงตอบคำถาม

  • Risk Friend ลอง รัก เพื่อน ร้าย (Set Zenesaint ⅠⅠ ม่านหมอก x   Risk Friend : 02 (1/3)

    “อย่าขยำเสื้อกู!!”“...!” เสื้อเชิ้ตราคาแพงยับยู่ยี่ในมือถูกปล่อยทิ้งในทันทีที่ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดของผู้เป็นเจ้าของ“ใจลอยไปถึงดาวเสาร์แล้วมั้ง มันเป็นยังไง” แสตมป์เดินออกจากห้องน้ำมาหย่อนก้นลงตรงขอบเตียง ขณะที่ฉันล้มตัวนอนแผ่หลาบนฟูกนุ่มนิ่ม เหม่อมองหลอดไฟกลมประดับกลางเพดานสีขาวสะอาดด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก จะพูดยังไงดี…อารมณ์ ณ ตอนนั้นคือแบบยุ่งเหยิงมาก ใจหนึ่งก็อยากทุบให้หลังแอ่น แต่อีกใจก็อยากดึงมากอดแน่น ๆ ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งดีใจ เหนื่อยก็เหนื่อย ปวดขาก็ปวด แถมหน้ายังมีแต่คราบเหงื่อ ไม่สิ! ผสมด้วยคราบน้ำตาอีก อยากจะบ้าตาย!เป็นการเจอกันครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ไม่โอเคเลย ทั้งที่พยายามฮึบแล้วแท้ ๆ แต่ก็นั่นแหละ…ฉันเผลอปล่อยไก่ตัวใหญ่เบ้อเริ่มในบรรดาเพื่อนสนิท ม่านหมอก เป็นคนเดียวที่เวลาอยู่ด้วยแล้วฉันรู้สึกว่าตัวเองโคตรอ่อนแอ และที่น่ากลัวกว่านั้นคือไม่ว่าฉันจะโตขึ้นมากแค่ไหน เวลาจะผ่านไปกี่ปี หรืออยู่ห่างกันเป็นพัน ๆ ไมล์ ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งฉันรับรู้ได้ในวินาทีแรกที่เห็นหน้าเขามันแย่มากเลยว่าไหม... “เฮ้อ...” สุดท้ายทำได้แค่พ่นลมหายใจเฮือกยาวผ่านปลายจมูกอย่าง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status