อ่า ช่างเป็นฝันที่แสนดี....
หรอว่ะ?!?!
ภาพเด็กชายตัวเล็กจ้ำม้ำ นั่งเล่นอยู่ที่สวนดอกไม้ โดยที่มีเพื่อนตัวเล็กอีกคนนั่งอยู่ข้างกัน ในขณะที่เขานำดอกไม้ชนิดต่างๆ มาบีบคั้นน้ำสีสวยออกมาจากดอกไม้แต่ละชนิด แล้วใช้มันต่างสีวาดบนกระดาษสีขาวนวล แต่เพื่อนอีกคนกลับนั่งจับเอาหนอนและแมลงนั้นใส่รวมกันไว้ในแก้วใบเล็ก อย่างสนุกสนาน
“เบสๆ มึงดู” เด็กชายตัวเล็กยื่นแก้วมาตรงหน้า ทำให้เด็กชายตัวกลมใบหน้าซีดเผือดสี เมื่อเห็นไส้เดือนดิ้นไปมา หนอนไต่อยู่ที่ขอบแก้ว ตัวด้วงเดินเหยียบย้ำอยู่ด้านบน และมดที่ถูกกัดกินจากแมลงชนิดต่างๆ ที่เขาไม่รู้จัก
“ซัน ไม่เอา คุณเบสไม่เล่น” เด็กน้อยร้องปฏิเสธ พร้อมกับดันมือเพื่อนออกไปให้ห่างๆ ตัว
“มึงดูดิ น่ารักจะตายเนี้ย ดูๆ” อีกฝ่ายคะยั้นคะยอ ชี้ชวนให้มองลงไปในแก้วอีกครั้ง หากแต่เขาเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองดูอีกต่อไป
“ไม่เอา”
“น่า ดูหน่อย อีกนิดหนึ่ง”
“ไม่เอา”
“นิดหนึ่งก็ได้ ดูดิ”
“คุณเบสบอกว่าไม่เอาไง!!!”
เด็กชายตัวกลมร้องบอกพร้อมกับปัดแก้วใบเล็กนั้น จนหลุดจากมือของเพื่อนสนิทที่กำลังถืออยู่ และแมลงเหล่านั้นก็ร่วงลงสู่ตัวเขาจนหมด เขาจึงก้มลงช้าๆ เห็นแมลงตัวจิ๋ว หนอน และไส้เดือน รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ ดิ้นๆ อยู่ที่ตัวของตัวเอง ทำให้เขาเปล่งเสียงร้องออกมาจนสุด
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
พรึ่บ!!!
ผมกระเด้งตัวลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก หัวใจเต้นเร็ว หอบถี่รัวราวกับหัวใจจะหลุดออกจากอก มือถูกยกขึ้นกุมหัวใจตัวเองไว้ หวังให้มันเต้นช้าลงอีกสักนิด ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้า เพื่อหวังเรียกสติที่กำลังกระจัดกระจาย
จนเมื่อลมหายใจที่หอบถี่กระชั้นชิด ค่อยๆ คลายลงอย่างช้าๆ ทำให้เขาหันมองรอบตัวอย่างงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าตัวเองมาอยู่ในห้องนอนที่ไม่คุ้นตาได้อย่างไร ก่อนจะนึกได้ว่า ได้ขนย้ายข้าวของเข้าหอใหม่และไปดื่มเหล้ากับเพื่อนสนิทมา และถ้าให้เดามันเองนั่นแหละที่เป็นคนมาส่งเขา คิดพลางก้มตัวสำรวจร่างกาย ว่าใส่เสื้อผ้าชุดเดิมอยู่หรือไม่ แต่ก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อตัวเขานั้นอยู่ในชุดนอนสบายๆ ด้วยชุดนอนสีแดงเลือดหมูแขนยาวขายาว ใบหน้าของผมขมวดอีกครั้ง ก่อนที่นิ้วมือจะค่อยๆ เกี่ยวขอบกางเกงของตัวเองออกดู
ชัดเจน......
อ้ากกก
ผมยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง ทิ้งตัวลงบนที่นอน พลิกไปพลิกมาอย่างบ้าคลั่ง ฝ่าเท้าไล่เตะผ้าห่มเตะอากาศไปด้วย
เหี้ยเอ้ยยยย
ปึก!
“อืมมมม” เสียงครางที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ผมหยุดชะงักสิ่งที่กำลังทำทุกอย่าง ค่อยๆ หันไปมองที่มาของต้นเสียง ก่อนจะมองไปที่หมอนอีกใบ ซึ่งมีอะไรสักอย่างอยู่ใต้ล่าง ผมคลานช้าๆ จับปลายผ้าห่มที่กำลังคลุมไว้อยู่จนนิ้วมือขึ้นข้อขาว สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะกระชากเปิดออกสุดแรง
ส้นตีน!!!
ครับ!! ส้นตีนจริงๆ ครับ ฝ่าตีนคนแท้ๆ เลยด้วย และมันกำลังวางพาดก่ายอยู่บนหมอนอีกใบ หมอนกู้ววววววววว ผมพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วมุ่งไปที่ปลายเตียงแทน ก่อนจะจับปลายผ้าอีกครั้ง แล้วกระชากเปิดออกอีกหน
“เหี้ยเอ้ยยยยย” ผมบ่นออกมาเบาๆ ใบหน้านั้นอยากจะร้องไห้ ก็รู้แหละว่าต้องเป็นมัน แต่ยังทำใจยอมรับไม่ได้
“หื้มมมมม ตื่นแล้วหรออ” เสียงไอ้ซันในยามตื่นมันชวนเซ็กซี่จนใจสั่นจริงๆ ผมกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง แล้วจึงนั่งคุกเข่าทับขาตัวเองอย่างเรียบร้อย
“อะ อืม ตื่น ตื่นแล้ว”
“เออ ดีละ แฮงค์ไหม?” อีกฝ่ายถามพร้อมกับยันตัวขึ้นนั่งช้าๆ ยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเองเบาๆ
“มะ มะ ไม่ ไม่แฮงค์” จริงๆ นะ ผมไม่รู้สึกมึนหัวหรืออะไรแบบนั้นเลย
“ก็น่าอยู่หรอก ถล่มกูซะขนาดนั้น” ในตอนนี้เองที่ผมเห็น ว่าไอ้ซันสวมใส่เพียงบ็อกเซอร์ ลำตัวท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นมัดกล้ามชัดเจน ไม่ต่างจากของผมเท่าไหร่นัก
“กูทำมึงลำบากใช่ไหม ขอโทษนะ แล้วก็ขอบใจมึงด้วย” ผมพูดพร้อมๆ กับยันตัวขึ้นเช่นกัน ตั้งใจจะออกจากห้อง ไปเตรียมทำอาหารเช้าสำหรับสองคน แม้ว่ามันจะเป็นเวลาเกือบ 11 โมงแล้วก็ตาม
“เดี๋ยว” คำเรียกของมันทำให้ผมหันไปเลิกคิ้วมองหน่อยๆ อย่างสงสัย ไอ้ซันก็ชี้นิ้วมาที่ชุดนอนที่ผมกำลังสวมใส่ ผมเองก็ก้มมองตามนิ้วมือของมันอย่างงุนงง มันให้ผมดูอะไร? ก็ชุดนอนผมก็ถูกแล้วนิ
“เอาออกก่อนไหม?” พอมองต่ำลงไปอีกก็เข้าใจ ว่าเพื่อนพูดถึงอะไร แต่ผมก็ส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็หาย”
“เฮ้ยยยย ได้ไง นี่มันกิจวัตรประจำวันของผู้ชายเลยนะเว้ยยยย” ไอ้ซันพูดพร้อมกับกระโดดลงจากเตียง เดินมาคล้องคอของผม แล้วดึงลากเข้าห้องน้ำ
“มา มาเอาน้ำออกกับกูนี่”
“เฮ้ย!! ไม่เอาโว้ยยยย กูไม่ใช่มึงนะ ปล่อยกูวววววว” ปลายนิ้วมือของผมพยายามไขว่คว้า หาที่จับยึด ไม่ให้มันลากเข้าห้องน้ำได้ดั่งใจ
“อึดอัดตายห่า เอาออกพร้อมกูเนี้ยแหละ จะได้อาบน้ำแต่งตัวออกไปหาข้าวแดกทีเดียว”
“มึงก็ทำไปคนเดียวสิโว้ยยยย กูไปอาบอีกห้องหนึ่งก็ได้!”
“มึงจะอายอะไรวะ เห็นมาตั้งแต่เด็ก ไปๆ ๆ ๆ” ไอ้ซันว่าพร้อมๆ กับดึงลากผมไปด้วย
“นั่นมันสมัยก่อน!! ตอนนี้ไม่เด็กแล้วนะโว้ยยย”
“จุ๊ๆ จริงหรอครับ คุณหนูเบส”
พรึ่บ!!
ทันทีที่จบคำที่ว่า มันก็ดึงกางเกงนอนของผมลงจนสุด ทำให้แก่นกายของผมชี้หน้าของมันทันที ผมเองก็ร้องออกมาทันทีเช่นกัน
“เหี้ยยยยยยยย” ผมร้องเสียงหลง หมุนตัวหันหลังให้มันในทันที
“ไหนๆ ๆ ขอดูหน่อย คุณเบสไม่เด็กแล้วหรอ เท่าไหร่แล้วล่ะ”
หมับ!
“อะ อะไรของมึงเนี้ย ปล่อย!” ผมพยายามๆ ดันมือของคนที่สัมผัสแก่นกายของผมออกไปจากตัว ปัดป้องพัลวัน ก่อนที่มันจะทำสิ่งที่ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก เมื่อมันขยับมือขึ้นลงช้าๆ
“โฮ่ๆ คุณหนูเบสโตขึ้นจริงๆ ด้วยว่ะ แต่ก็ไม่เท่าพี่นะเบบี้” ว่าจบมันก็จับคว้ามือของผมไปสัมผัสแก่นกายของมันบ้าง ทำให้ผมกะพริบตาปริบๆ อย่างมึนงง เมื่อรับรู้ความอ่อนนุ่มที่ค่อยๆ แข็งขืนขึ้นใต้ฝ่ามือ
“อ้ากกกกกกก มือกูวววววว” ผมร้องออกมาอีกครั้งอย่างเสียสติ แล้วพยายามที่จะปล่อยมือออก หากแต่ไอ้ซันใช้มือของมันซ้อนมือของผมไว้แน่น ก่อนจะบังคับให้ขยับมือขึ้นลง ในขณะที่มือของมันอีกข้างก็ยังคงไม่ปล่อยออกจากแก่นกายของผม มันจับกระชับแน่นขึ้น แล้วจึงรูดรั้งแน้นๆ แทน
กลับกลายเป็นว่า มือของมันจับของๆ ผม โดยที่ผมก็จับข้อมือของมันเพื่อดึงออก ส่วนมืออีกข้างของผมก็จับของมัน แล้วมือมันก็จับซ้อนบังคับทิศทางไว้อีกที โดยที่เรายืนซ้อนหลังกันอยู่
“อึก ไอ้ซัน ปะ ปล่อยกู” ผมงอตัวหน่อยๆ เมื่อมันไม่ยอมปล่อยตามคำขอ แถมยังจะขยับให้เร็วขึ้นอีกนิดเสียด้วย
“ทำไมละ กูช่วยมึง มึงช่วยกู ก็ฟินดีออก”
“ตะ แต่ แต่กู อึก ไม่อยากทำ” ผมร้องปฏิเสธ พร้อมๆ กับพยายามขยับตัวให้หนีพ้นฝ่ามือของมัน มันจึงดันตัวผมเข้ากับกำแพง ทำให้ผมปล่อยมือที่กำลังจับข้อมือของมันอยู่ออกไปยันกำแพงเพื่อพยุงตัวไว้แทน มันจึงขยับมืออีกข้างได้สะดวกยิ่งขึ้น
“โกหกน่ะสิ น้ำมึงเยิ้มขนาดนี้” อีกฝ่ายไม่พูดเปล่า เริ่มขยับมือหนักหน่วงขึ้นอีกนิด
“อึก อ่า ก็มึง มาปลุกกู”
“มันเรื่องธรรมดาของผู้ชายน่า มึงน่ะคิดมา อืม ขยับให้กูด้วย”
“มะ ไม่ อ้ะ”
“ขยับสิ” ไอ้ซันกระซิบเสียงพร่าข้างใบหู ขยับมือเร็วขึ้นอีก จนผมขยับสะโพกตามเบาๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“เหี้ยเอ้ย มือกู” ผมบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะขยับมือให้ในจังหวะเดียวกัน มันทำแบบไหนผมก็ทำแบบนั้น จนมันยอมปล่อยมือที่กำลังบังคับทิศทางของผมออก มันรูดรั้ง ผมเองก็เช่นกัน มันหมุนวนที่ส่วนปลาย ผมก็ทำเช่นกัน มันแตะสัมผัสที่รอยแยกตรงส่วนหัว และผมเองก็เช่นกัน ไม่ว่ามันทำอะไรให้ ผมก็ทำแบบเดียวกันกลับคืนไป
“ซี้ดดดดด” ผมครางออกมาเบาๆ ก่อนจะร้องขออย่างลืมอาย
“เร็วอีกสิ”
“อืมมมม” ไอ้ซันเร่งมือให้ตามคำขอ ผมเองก็เร่งให้มันเช่นกัน
“อะ อ๊า ซี้ดดดดด อ่าาา” ผมร้องครวญคราง เอนหลังพิงอกของไอ้ซันเอาไว้ กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ อยากจูบ..... แต่ก็ได้แค่คิด เมื่อมันคงไม่ยอมให้ผมหันหน้าไปจูบมันแน่ แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อริมฝีปากร้อนๆ ทาบลงที่ซอกคอ เกิดความอุ่นร้อนและเจ็บแปล็บ มืออีกข้างบีบเคล้นไปทั่วตัวของผม แวะทักทายยอดอกเล็กๆ นั่นด้วยการสะกิดเขี่ยไปมา ทำให้ผมร้องออกไปเบาๆ
“ทำอะไรวะ”
“อ่า โทษที ลืมตัวไปหน่อย” ไอ้ซันบอกมาแค่นั้น ก่อนจะเปลี่ยนจากการทำรอยรัก เป็นการซุกจมูกไปมาแทน พร้อมๆ กับการเร่งมือให้เร็วยิ่งขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปมา
“ซี้ดดดดด แม่งเอ้ย”
“เบส เร็วอีกสิ” ผมก็จัดให้ตามคำขอ เรียกได้ว่าอยากให้มันทำเร็วเท่าไหร่ ผมก็ทำให้มันเท่านั้น จนเมื่อความรู้สึกเสียดเสียวพุ่งตรงมาที่ส่วนปลายของลำกายแกร่ง จึงร้องบอกออกมาเบาๆ
“อึก จะเสร็จแล้ว อ่า จะเสร็จแล้ว”
“อืมมมมม”
“อะ อะ อ่าาาาาาาาา”
“อ่าาาาาาาาาาาา”
ผมกับไอ้ซันเรียกได้ว่าแทบจะเสร็จตามกันติดๆ เราต่างก็ชักรูดให้อีกฝ่าย 2 – 3 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำออกหมดจริงๆ ก่อนที่ไอ้ซันจะเอ่ยแซวออกมา
“ออกเยอะเชียวนะคุณหนูเบส ไม่ค่อยได้ปล่อยละสิมึง”
“แฮ่ก แฮ่ก อึก เสือก แฮ่ก กูไม่ได้หื่นเหมือนมึงนี่” ว่าจบก็หันหลังไป ผลักอกของมันออก มันก็เซถอยหลังเล็กน้อย ผมจึงก้าวเท้าไปยืนอยู่ใต้ฝักบัว เปิดสายน้ำให้รินรดกาย
“แต่คุณหนูเบสของกูไม่เด็กแล้วจริงๆ ว่ะ โตขึ้นเยอะเลยน้าาาา แต่ก็ไม่สู้กูหรอก ฮ่าๆ ๆ” ไอ้ซันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวของผม แต่ถูกผมปัดออกจากหัวอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เหี้ยย มึงเอามือไหนมาเล่นหัวกู”
“อ้ะ เออว่ะ มือนี้” มันพูดพร้อมๆ กับยกมือที่เปื้อนน้ำรักขึ้นมาให้ผมดู
“ไอ้เหี้ยซันนนนนนนนนนน” ผมร้องตะโกนลั่น รีบใช้สายน้ำล้างเส้นผมของตัวเอง ก่อนจะกดแชมพูมาสระผม แล้วก็โดนไอ้ซันดันตัวออกไปด้านข้าง เข้าไปอาบน้ำแทนที่ของผม
หมดแล้วครับความอาย เปลือยกายต่อหน้าแม่งนี่ละ แม้ว่าพวกผมจะอาบน้ำด้วยกันบ่อยๆ แต่พอโตขึ้นก็เริ่มจะห่างหายไปบ้าง จะมีก็ครั้งนี้นี่ละ ที่เผลอตัวไปกับมัน มาอาบน้ำด้วยกันซะอย่างนั้น มันเองพอช่วยผมจนเสร็จแล้วก็แล้ว ไม่ได้มาวอแวกับผมอีก
ต่างคนต่างอาบน้ำของตัวเองไป โดยที่ผมอาบเสร็จก่อน ก็เดินออกจากห้องน้ำ ไปหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาใช้ ก่อนจะโยนอีกผืนไปให้มันด้วย เมื่อเห็นว่ามันเองก็อาบเสร็จแล้วเช่นกัน โดยที่พยายามบังคับสายตา ไม่ให้มองลงต่ำลงไปมากนัก เมื่อกี้ได้แค่จับ แต่ยังไม่เห็นเลยนี่น่า
พอโยนผ้าให้มันเสร็จ ก็หันมาสูดลมหายใจเข้าออก แล้วเริ่มเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หาเสื้อผ้าของตัวเองมาสวมใส่ ส่วนไอ้ซันก็ใส่ชุดเดียวกันกับเมื่อวาน แต่ว่ามันตากไว้ที่ด้านนอก เสื้อยับยู่ยี่
“มึงซักผ้าหรอวะ” ผมถามพร้อมๆ กับชี้นิ้วไปที่เสื้อของมันที่อยู่ในสภาพดูไม่ได้
“เพราะใครละ”
“กูหรอ?” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างงงๆ กะพริบตาปริบๆ
“เออ มึงนั่นแหละ”
“กูจำไม่เห็นได้....”
“ถ้ามึงจำได้นะ กูยอมกราบมึงเลย” ผมทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ตาบ้องแบ๋ว ใสซื่อส่งไปให้ เพื่อบ่งบอกว่า หนูไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ จนไอ้ซันถอนหายใจออกมาช้าๆ
“เฮ้อ เมื่อคืน กูพามึงกลับมานอนที่ห้อง ตอนแรกกูก็ว่าส่งเสร็จแล้วจะกลับเลย แต่มึงดันลุกขึ้นมาอ้วกแทน เปียกไปยันไข่ เลอะไปยันที่นอน กูก็เลยต้องจับมึงแก้ผ้า รื้อผ้าปู เช็ดตัวให้มึงแทน มึงก็เข้ามาซุกๆ กอดๆ อยู่นั่นละ พอกูจะกลับ กูก็เลยดันมึงออก แต่มึงกลับจับคอเสื้อกูเอาไว้ ซุกหน้าเข้ามาใกล้ๆ เหมือนจะพูดอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็อ้วกใส่กูเฉยเลย ห่า กูก็ต้องเช็ดตัวมึงใหม่อีกรอบ เปลี่ยนผ้าปูอีกรอบ กว่าจะเสร็จกูก็หมดแรงแล้ว เลยถอดเสื้อผ้าตัวเองไปซัก เอาขึ้นมาตาก แล้วถึงได้มานอนกับมึงนั่นแหละ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตีนกูไปอยู่บนหัวนอนได้” ไอ้ซันร่ายยาว ก่อนจะยักไหล่เมื่อจบประโยค จึงเป็นผมที่ต่อท้ายให้เบาๆ
ก็มึงนอนดิ้นไง ฟายยยย
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะยังมีคุณความดีที่เพื่อนกระทำไว้ให้อยู่ จึงเอ่ยปากด้วยความซาบซึ้งแทน
“เออ ขอบใจว่ะ ลำบากมึงเลย”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรเว้ย เพื่อนกัน” ไอ้ซันพูดพร้อมๆ กับเดินเข้ามาวางพาดแขนที่ไหล่ของผม ก่อนจะเอ่ยปากอีกครั้ง
“ไปหาไรแดกเหอะ หิวฉิบหาย น้ำออกไปซะเยอะ ท้องร้องแล้วว่ะ”
“อะ อ่อ เออๆ ไปดิ” ผมพยายามซ่อนใบหน้าเห่อร้อนของตัวเอง ด้วยการหันไปเสมองทางอื่น ก่อนจะได้ยินเสียงผิวปากดังขึ้นมาเบาๆ ด้วยความอารมณ์ดี แล้วพาลากกันออกจากห้องไป
เราออกมาหาข้าวกินแถวๆ คอนโดนี่ละครับ ไม่ได้ไปไหนไกล ไม่ได้เอารถออก เน้นสะดวกและรวดเร็ว เพราะรวมเอามื้อเช้าและเที่ยงในมื้อเดียวกัน แถมยังมีกิจกรรมชวนเหนื่อยตั้งแต่เช้า จนหิวโซกันทั้งคู่ พอกินกันไปได้ครึ่งหนึ่ง ไอ้ซันก็เอ่ยถามขึ้นมา
“คอนโดมึงเท่าไหร่ว่ะ พี่คมหาให้หรอ หรูฉิบหาย”
“กูก็ไม่รู้ว่ะ พี่คมเขาจัดการให้หมดนั่นแหละ ถ้าบอกว่าเพื่อการศึกษาป๊ากูไม่บ่นอะไรสักคำ พี่คมก็เลยจัดหนักจัดเต็มให้กูเต็มที่ เอาให้สะดวกสบายที่สุดน่ะ” ห้องผมก็ถือได้ว่าหรูหราพอตัว แบ่งแยกสัดส่วนชัดเจน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องเก็บของ ห้องน้ำ 2 ก็เรียกได้ว่ามีครบครันเท่าที่บ้านหลังหนึ่งจะมีได้ ฟอร์นิเจอร์ก็ซื้อมาตกแต่งใหม่ทั้งหมด เห็นว่าซื้อเป็นห้องชุดมาเลย เผื่อเอาไว้ธุระปะปังที่ไหนจะได้มานอน ถือเป็นบ้านอีกหลังของผมไป ผมว่ามันก็เวอร์ไปอะนะ เรียนแค่ 4 ปี แต่ซื้อของใหม่เหมือนซื้อบ้านทั้งหลัง
“เออ ถ้าพี่คมจัดการก็คงจะแบบนั้นแหละ พี่คมคงไม่ยอมให้คุณหนูสุดที่รักของเขาลำบากหรอก” ไอ้ซันพูดพร้อมกับตักข้าวเข้าปากไปด้วย
“แล้วของมึงละ?”
“ห้องกูก็ไม่มีอะไรมากหรอก เปิดไปก็เจอเตียง มีห้องน้ำในตัว มีตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น ทีวี แอร์ โซฟาตัวหนึ่ง ห้องพักธรรมดาๆ น่ะ นี่แม่กูก็ให้เงินมาจำนวนหนึ่ง ให้เอาไปซื้อของเข้าเพิ่ม พวกกระทะ ถ้วย ไมโครเวฟ อะไรพวกนั้น ก็อยู่ใกล้มหาลัยแหละ”
“แล้วเวลาซักผ้าทำไงละ?” ผมถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็คงดูก่อนว่ะ อาจจะซักมือ หรือไม่ถ้าขี้เกียจหน่อยก็อาจจะหยอดเหรียญเอา”
“มึงเอามาซักห้องกูก็ได้นะ มีเครื่องอยู่”
“โอ้ยยย คุณเบสครับ จะให้กระผมถ่อขับรถมาเพื่อซักเสื้อผ้าเนี้ยนะครับ กูซักแบบหยอดเหรียญยังถูกกว่าขับรถไปใช้เครื่องซักผ้ามึงเลยมั้ง”
“เออว่ะ กูลืมคิด” ไอ้ซันส่ายหัวเบาๆ แล้วจึงกินข้าวต่อ
“เอาไว้ว่างๆ มึงพากูไปดูห้องมึงบ้างดิ”
“โห้ยยยย คุณหนูอย่างมึงเข้าห้องกูไม่ได้หรอก ห้องกูน่ะห้องรูหนู มึงอยู่ห้องมึงนั่นแหละ เอาไว้กูจะแวะไปหาบ่อยๆ” คำพูดของมันทำให้ผมคิ้วผมกระตุกเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ยปากด่าออกไปทันที
“นี่! ถึงกูจะเป็นคุณหนู แต่ก็เป็นคุณหนูติดดินโว้ยยยย มึงไม่ต้องมาทำเหมือนกูสูงส่งนักหรอก!!”
“อะ เออว่ะ มึงยังเคยนั่งปั้นขี้ดินเลยนี่หวา ฮ่าๆ ๆ เออๆ เอาไว้ว่างๆ จะพาไปดู”
“ก็แค่นั้น ลีลาเยอะนะมึง” ผมด่ามันเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวของตัวเองต่อ จนเมื่อทานข้าวเสร็จ ก็พากันกลับมาที่คอนโดของผม ไอ้ซันก็กระโดดขึ้นรถ ผมก็ยืนส่งมันที่ข้างประตู มันลดกระจกลงนิดหนึ่ง ร้องบอกเบาๆ
“เจอกันพรุ่งนี้เว้ย อย่าสายละ เรียนวันแรกนะมึง”
“มึงบอกตัวเองเหอะ”
“หึหึ เจอกัน” ไอ้ซันร้องบอกแล้วปรับกระจกขึ้นช้าๆ ผมก็พยักหน้าให้ แล้วมองรถของมันที่เคลื่อนออกไปจนลับสายตา แล้วถึงหมุนตัวเดินขึ้นห้องของตัวเอง
ผมใช้เวลาที่เหลืออีกครึ่งวันจัดเตรียมเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ให้พร้อมสำหรับการเรียนวันแรก แต่ถึงจะบอกให้เตรียม ผมก็มีแค่สมุดกับปากกาเท่านั้นแหละครับ เสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้า พี่คมจัดการให้หมดทุกอย่างแล้ว ผมจึงเดินสำรวจห้องตัวเอง ว่ายังขาดเหลืออะไรอีกบ้าง จดเป็นรายการเอาไว้ แต่ว่าพี่คมทำงานได้ดีเกินคาด ตระเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ ผมไม่มีรายการที่ต้องซื้อของเพิ่มเลยแม้แต่น้อย จึงมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแทน มองไปที่หมอนอีกใบที่ไอ้ซันมันฝากรอยเท้าเอาไว้ ซักมึงนี่แหละ ปลอกหมอน!!
ในเช้าวันถัดมาผมก็ขับรถไปเรียนในวันแรก ซึ่งพี่ๆ เขาก็นัดใต้ตึกเหมือนเดิมแหละครับ เห็นบอกว่าจะพาไปดูห้องเรียน สอนดูรหัสห้องอะไรพวกนั้น มันก็มีบ้างบางวิชาที่เราต้องเรียนกับคนอื่นต่างคณะ ผมกับไอ้ซันมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกันครับ โดยที่ผมมาถึงก่อน ส่วนมันก็ไปนั่งต่อแถวข้างหลัง หันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนคนหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นหน้า คนๆ นั้นหน้าตาน่ารักเลยทีเดียว ดวงตากลมโต เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน สีเดียวกับนัยน์ตาของเขา ตัวเล็กผอมบาง เหมือนเด็กอายุ 14 15 ทั้งๆ ที่พวกเราทุกคนต่างอายุ 18 19 กันทั้งนั้นพวกพี่ๆ เขาพาเราไปเดินดูห้องเรียนเมื่อเวลา 9 โมง ส่งเราเข้าห้อง กลุ่มของเราก็ได้สมาชิกใหม่มาเพิ่ม 1 คน คือนายน่ารักคนนั้นนั่นเอง ชื่อเจ้านายครับ เห็นบอกว่ามาไม่ทันช่วงรับน้อง พวกเราก็เลยไม่เคยเห็นเขามาร่วมกิจกรรมเลยสักครั้ง เขาน่ารักนะ เข้ากับคนง่าย ขี้อาย หน้าตาน่ารัก พวกเพื่อนๆ มองกันเป็นแถว แถมยังชอบออดอ้อนอีกด้วย เหมือนเด็กเลยครับสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ง่ายคือไอ้วุฒิครับ อาการแปลกไปตั้งแต่ที่เห็นหน้าของเจ้านายแล้ว ขอจับจองพื้นที่ข้างตัวของเจ้านาย ไม่ค่อยได้คุยอะไรมากหรอก เอาแต่จ้องหน้าเจ้านายอยู่น
“กูไปละ”“เออ ขอบใจที่มาส่ง” ไอ้ซันพยักหน้าน้อยๆ แล้วค่อยๆ เคลื่อนรถออกไป ผมเองก็มองตามด้านหลังของรถไปจนสุดสายตา ก่อนจะหมุนตัว เดินเข้ามาภายในตึก มุ่งตรงขึ้นห้องของตัวเอง จำง่ายดีครับ ชั้น 25 ห้อง 25 แตะบัตรเข้าห้องไปช้าๆ ก่อนจะเริ่มลงมือถอดเสื้อผ้าตามมา มือถอดเสื้อนอกทิ้งไปอย่างไม่ไยดี จับโยนลงตะกร้าผ้า ตามมาด้วยเสื้อเชิ้ตข้างใน กางเกง และบ็อกเซอร์ ก่อนจะก้าวขายาวๆ ไปที่ห้องน้ำ เปิดสายน้ำให้รินรดศีรษะ แล้วยืนนิ่งๆ ใต้สายน้ำนั้นผมหลับตาพลางปัดหยาดน้ำออกจากใบหน้า คิดอะไรในหัวนิดหน่อย แล้วจึงเริ่มต้นอาบน้ำจริงๆ จังๆ พออาบเสร็จก็มาล้มตัวนอนบนเตียง โดยที่สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่น เลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะหยุดอยู่ที่ภาพๆ หนึ่ง ไม่มีคำบรรยายอะไรเลยครับ และผมคงจะปล่อยผ่านไป ถ้าภาพๆ นั้นไม่ใช่ผมภาพที่ผมยืนหันหลัง ถ้าจะบอกให้ถูกคือเดินมากกว่า ถูกถ่ายไว้โดยไอ้ซัน ผมว่ามันก็คงจะถ่ายหลังจากที่แลกเบอร์กันเสร็จนั่นแหละครับ แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพื่อนเก่าๆ ก็พากันคอมเม้นบ้าง ทักทายบ้างตามประสา ผมก็ทำเพียงกดหัวใจไป แล้วออกจากแอพ จะไม่กดได้ไง ก็ภาพตัวเองนี่ค
ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ผมก็ไม่มีความกล้าพอที่จะทำลายความสัมพันธ์เกือบ 10 ปีของเราลงได้หรอกครับ ไม่รู้ว่ามันจะคิดยังไง ถ้าเพื่อนสนิทที่มันมองเห็น ไม่ได้มองกลับไปหามันด้วยสายตาแบบเดียวกัน ผมไม่กล้าจะคิด ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป มันจะผลักไสไล่ส่งผมไหม หรือว่ามันอาจจะยอมรับความสัมพันธ์ แต่ก็คงได้เพียงแค่ทางกาย ที่มีเอาไว้เพื่อสนอง ไม่ใช่เพราะรักจริงๆ หรอกหลังจากนั้นไอ้ซันก็ไม่ได้ออกมาจากห้อง คิดว่ามันคงจะนอนต่อเลยนั่นแหละ ผมเองก็กลับมาดูหนังต่อจนผล็อยหลับไปหน้าทีวี รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่เหมือนตัวกำลังลอยขึ้น ทำให้ขยับตัวน้อยๆ ด้วยความไม่แน่ใจว่าความจริงหรือความฝัน ดวงตาเปิดปรือขึ้นนิดๆ“ชู่ววววว นอนไปเถอะครับ ฝันดีนะ” เหมือนจะเป็นฝันแฮะ เพราะไอ้ซันมันคงไม่มีทางมาทำอะไรอย่างนี้แน่ และมันคงจะเป็นฝันดีที่สุดของผม เมื่อตอนนี้ผมอยู่ในอ้อมกอดของมัน และมันก็พูดกับผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แถมยังมีการจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ เป็นการกล่อมอีกด้วยฝันดีฉิบหายเลยครับ.....ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเวลายามค่ำ ไม่เจอไอ้ซันแล้วครับ แถมตัวเองยังมานอนอยู่บนเตียงเสียอีก เดาว่าไอ้ซันมันคงจะพามาแหละ แต่ไม่รู้ว่ามันจะอุ้
“สวัสดีครับ” ผมยกมือสวัสดี ก่อนจะไล่สายตามองไปที่บุคคลที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว มีป๊า ม๊า และอีกฝั่งคือ......อ้าว?“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักอีกครั้ง พร้อมกับผงกหัวไปด้วย ยกมือสวัสดีคุณลุงและพี่ท็อป รุ่นพี่ที่คณะของผมเอง“นั่งสิ” ป๊าของผมเอ่ยบอกเบาๆ ทำให้ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างงงๆ จะไม่งงได้ไงครับ ปกติมันต้องเป็นงานดูตัวอะไรแบบนี้ไม่ใช่หรอ ผมต้องพบกับหญิงสาวที่ส่งสายตาหยาดเยิ้ม หรือไม่ก็ก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายไม่ใช่หรอ ไม่ใช่สายตาที่มองมาด้วยความเอ็นดูแบบนี้??? พอผมนั่งลงได้ ลุงจรัญก็เอ่ยชวนคุยทันที“ลุงคงทำให้ตกใจสินะ ถึงได้ตั้งใจหนีแบบนั้นน่ะ” ลุงจรัญพูดยิ้มๆ ต่างจากผมที่ผงกหัวขึ้น เงยหน้ามองทันที เลยไปทางพี่คม แล้ววกกลับมาที่ป๊าของตัวเอง“ฮึฮึ ตาท็อปก็อยู่ในรถด้วยนะ ตั้งใจจะรับมาทีเดียวนั่นแหละ เห็นตาท็อปบอกว่าพอเจอหน้าพี่เลี้ยงก็วิ่งหนีเลยหรอ”“อ่อ” ป๊าไม่ได้พูดอะไรออกมา ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบนิดๆ ต่างจากม๊าที่หัวเราะเบาๆ“พี่ไม่คิดจะชวนเบสมาดูตัวหรอกนะครับ” พี่ท็อปพูดขึ้น แล้วยกยิ้มเอ็นดูส่งมาให้“อ่อ แหะๆ ครับ”“พอดีพี่ได้ข่าวมาว่าตอนรับน้อง เบสไม่มีพี่เทคมาสนใจเลยใช่ไหมครับ ให้พี่ช่วยหาใ
K : สวัสดีครับS : ใครครับ?K : ไม่บอกได้ไหมครับ แต่ผมมีเรื่องจะขอรบกวนคุณนะS : ผมหรอ ให้ช่วยอะไรครับ?K : ไม่ทราบว่าเพื่อนสนิทของคุณชอบอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมเป็นพี่เทคของเขาS : คนไหนละครับ เพื่อนผมมีเยอะแยะK : น้องเบส.....S : อ้อ มันชอบของอร่อยครับ เท่านั้นแหละ ผมดีใจนะที่คุณเริ่มหันมาสนใจมันบางK : ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พอดีผมยุ่งๆ อยู่ ถ้ายังไง ผมอาจจะขอรบกวนคุณเพื่อสอบถามนะครับ แล้วก็อาจจะฝากของผ่านคุณ ไปให้น้องเบสด้วยS : ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีK : แล้วคุณชอบทานอะไรไหมครับ ถือว่าผมติดสินบนก็แล้วกัน....หลังจากที่พี่ท็อปบอกว่าจะตามหาพี่เทคให้ มันก็มีความคืบหน้าจริงๆ นะครับ เพราะหลังจากนั้น 2 – 3 วัน ไอ้ซันก็เดินถือกล่องขนมอะไรสักอย่างมาด้วย ยื่นให้ผมตรงหน้า ผมก็มองมันอย่างงงๆ พร้อมกับถามออกไปเบาๆ ว่าให้เนื่องในโอกาสอะไร มันก็บอกว่ามีคนฝากเอามาให้ เป็นของที่มาจากพี่เทคพอผมถามว่ามันรู้จักคนๆ นั้นไหม มันก็บอกว่าไม่รู้จัก พร้อมกับนั่งลงข้างๆ แล้วหยิบกล่องขนมแบบเดียวกันออกมานั่งทานไปพลาง“อร่อยไหมว่ะ”“ลองแดกดูสิครับ” ผมยู่ปากอย่างขัดใจนิดๆ ก่อนจะเปิดกล่องของตัวเองออกดูบ้าง มากา
วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่ายครับ ตื่นสายได้เต็มที่ พอตื่นแล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน จนเมื่อเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมง ก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ขับรถตรงไปมหาลัย แวะทานข้าวอีกนิดหน่อย แล้วจึงเข้าห้องเรียนของตัวเองพอไปถึง ไอ้ซันมันก็ฟุ้บหน้านอนหลับอยู่ก่อนแล้ว ผมก็นั่งลงที่ข้างๆ มัน เท้าคางนั่งมองเส้นผมสีส้มที่ระไปกับพื้นโต๊ะเรียน ก่อนที่ผมจะนอนตะแคงหันข้าง นอนมองมันนิ่งๆกรี้ดดดดดดดดดดดดดเสียงกรีดร้องดังขึ้น จากที่เบาๆ คนสองคน กลับกลายเป็นกลุ่มก้อน และขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไอ้ซันหลุดออกจากนิทรา ผมเองก็ผุดตัวไปดูที่หน้าต่างเช่นกัน อยากรู้ว่าสาวๆ เขากรี้ดอะไร อย่างไม่รู้ตัว ไอ้ซันเองก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เช่นกัน จุดประสงค์เดียวกับผม เพราะแขนของมันค้ำยันขอบหน้าต่างเอาไว้ ยืนซ้อนหลังของผมอีกชั้น จนเหมือนว่ามันกำลังโอบกอดผมจากด้านหลัง และผมกำลังมองหน้ามันในระยะประชิด ทำให้ผมรีบก้มหน้าลงทันที ต่างจากไอ้ซันที่ไม่ได้สนใจอะไร สายตามองลงไปที่เบื้องล่าง จนเมื่อคนๆ หนึ่งเดินเข้าตึกมา เสียงกรี้ดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อฝั่ง
ร้อน....อึดอัด....ขยับไม่ได้.....ผมปรือตาขึ้นช้าๆ เมื่อความรู้สึกราวกับร่างทั้งร่างถูกตรึงไว้อยู่กับที่ แสงสว่างที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใส ทะลุผ้าม่านสีขาวเข้ามา ทำให้ต้องหรี่ตามอง ก่อนที่จะพยายามหันหน้าหลบอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อตัวของผมถูกกักเอาไว้ภายใต้วงแขนของใครบางคน ทำให้ผมยกมันขึ้นช้าๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองชายรูปร่างสูงใหญ่ รูปกายกำยำสมกับความเป็นบุรุษเพศ นอนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง วงแขนกอดก่ายผมเอาไว้ จนรัดแน่น ผิวเนื้อที่สัมผัสแนบชิดทำให้เกิดความรู้สึกร้อนผะผ่าว เส้นผมสีส้มอิฐนั้นแลดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ที่โคนเส้นผมถูกแซมด้วยสีดำสนิทขึ้นมาอีกเล็กน้อย แสดงถึงความแตกต่างของสีที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดสนิท หลับตาพริ้มอย่างสบายใจ จมูกโด่งเป็นสันรับเข้ากับใบหน้าที่เรียวยาว ริมฝีปากหนา ที่พอรวมเข้ากับใบหน้ากลับดูดีจนน่าตกใจมือของผมไล้ไปบนอากาศตามโครงหน้า โดยที่ไม่ได้โดนผิวเนื้อของคนที่กำลังหลับอยู่แม้แต่น้อย ไม่กล้าที่จะสัมผัส หวาดกลัวความรู้สึก กลัวว่ามันจะปะทุออกมา
สุดท้ายผมก็พาตัวเองเข้ามาอยู่ในที่อโคจรจนได้ สายตากวาดมองไปรอบๆ หามุมสงบๆ สักที่นั่งลง ก่อนจะสั่งเหล้ามา 1 ขวด และกับแกล้มอีกนิดหน่อย ระหว่างที่นั่งรอก็ปลดกระดุมเสื้อสูทออกจากตัว โยนพาดไว้ที่พนักพิง ดึงรั้งเนกไท ก่อนจะโยนไปในทิศทางเดียวกัน ปลดกระดุมคอบนออก 2 เม็ด ยกฝ่ามือขึ้นเสยเส้นผมสีดำสนิทของตัวเองพอแก้วใบเล็กถูกวางลงตรงหน้าพร้อมกับขวดเหล้าราคาแพง ผมก็จัดการเทลงใส่แก้ว ยกดื่มขึ้นทันที ไม่มีอารัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น นั่งดื่มเพียงลำพัง ในมุมมืดของร้าน อาหารที่สั่งมาไม่มีการแตะต้องใดๆ สิ่งที่ขยับเคลื่อนไหวมีเพียงแก้วใบเล็ก ขวดเหล้า และผู้ที่เป็นเจ้าของซึ่งครอบครองโต๊ะในมุมอับสายตาเท่านั้นผมนั่งดื่มไปเรื่อยๆ จนดวงตาฉ่ำเยิ้ม เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ แต่ก็นานพอให้ปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกายพุ่งขึ้นสูงจนเกินขีดจำกัดในการควบคุมสติสัมปชัญญะ ในตอนนี้ปริมาณน้ำสีอำพันในขวดเหล้าใบสวยลดลงมากกว่าครึ่งขวด ทำให้คนที่เดินเข้าร้านมาด้วยมาดที่หล่อ เนี๊ยบ และดูดี กลายเป็นคนที่ดูขี้เมาในทันที ใบหน้าหล่อคมคายฟุ้บลงกับโต๊ะ นอนอย่างเกียจคร้าน แต่มือก็ยังคงรินเหล้าใส่แก้วอย่างต
เอ๋?“อื้อ”ฮะ?“อืม”หืออออออ?“อ่า”หน่าหนิ!?!?!?!?พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!อะ อะไร?? มันเป็นแบบนี้ได้ไง?? งงไปดิครับ!!!“ร้องสิ...... เหมือนวันนั้น”“อะ มะ มึง จะให้ อึก กูร้อง อะ อะไร”“อ่า สงสัย กูคงต้องกรอกเหล้าเข้าปากมึงบ้างแล้วมั้ง? ซี้ดดดด”“อ๊ะ อะไรของมึงเนี้ย” ตอนนี้ผมถูกกดให้นอนอยู่ใต้ร่างของไอ้ซันครับ หัวเข่าทั้งสองข้างโดนมันจับดันจนชิดอก ทำให้ช่องทางรักลอยเด่น และมีแก่นกายของมันกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างเมามัน ต่างจากผมเนี้ย อ๋อแดกและใบ้กินโดยสมบูรณ์ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยทีเดียว“เหนื่อยว่ะ ขยับดิ๊” ไอ้ซันว่าพร้อมกับยกตัวผมขึ้นทั้งๆ ที่ยังเชื่อมติดกัน จัดให้ผมนั่งทับแก่นกายของมัน และมันเองก็จับขยับโยกเอวผมไปด้วยเบาๆ“อะ หะ หะ เหี้ยเถอะ กูจุก อยากก็ทำ
ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนด้วยนาฬิกาชีวิต มึนงงเล็กน้อย มองออกไปรอบๆ ห้องๆ อย่างแปลกใจ ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน วิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น แย่ละ…แต่พอวิ่งไปถึงแล้วก็ต้องชะงัก ไฟถูกปิดทั้งหมด ทีวี แอร์ ทุกอย่างหยุดการทำงาน ความอบอุ่นของห้อง ทำให้รู้ว่ามันถูกปิดไปนานมากแล้ว ผมยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่กลางห้อง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟา ครุ่นคิดเรื่องเมื่อคืน ผมดูซีรีส์อยู่ ผมจำได้ ผมอาจจะง่วงมาก ถึงได้เข้าไปนอนในห้อง แต่มั่นใจมากพอว่าตัวเองไม่ได้เดินปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกนี้แน่“หรือจะมีผีว่ะ?” บ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ไม่หรอก นี่มันตึกพึ่งสร้างนะ ห้องก็ราคาแพง ใช่ห้องถูกๆ ซะที่ไหน ไม่น่าใช่หรอก หรือผมละเมอไปปิดว่ะ ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนที่จะ ช่างแม่ง....พอคิดได้ดังนั้นก็เลยลุกขึ้น ไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปเรียน ออกมาทำอาหารเช้าทาน พอทานเสร็จก็จัดการล้างเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะขับรถไปที่มหาลัย พอไปถึงผมก็ยังคงนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ จะช่างแม่งมันก็ได้แหละ แต่สงสัยไง เออ ช่างแม่งก็ได้.... คิดพลางสะดุ้งเมื่อมีคนตบลงที่บ่าหนักๆ จน
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งแผ่นหลังทำให้ผมบดเบียดกายเข้าหาอย่างวางใจ จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารินรดบนกระหม่อมทำให้ต้องปรือตามอง เมื่อคืนผมนอนคนเดียว.....ใครวะ!!!คิดพลางลืมตาโตหันกลับไปมองคนที่นอนซ้อนอยู่ข้างหลังในทันที จนใบหน้ามีระยะห่างเพียงลมหายใจกั้น ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดพริ้ม ริมฝีปากหนา สันกรามชัดเจน ราวกับภาพวาดของเทพบุตร แสงสีทองของดวงอาทิตย์ตกกระทบกับเส้นผมสีส้ม จนส่องประกายยิ่งกว่าเหมือนกับเจ้าชายในเทพนิยายที่กำลังหลับใหล นอนหลับพักผ่อนผมกะพริบตามองอย่างุนงง เมื่อไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้เข้าห้องมาได้ยังไง เข้ามาตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงเลือกที่จะมานอนกับผม แทนที่จะนอนห้องของตัวเอง แต่ก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แตะริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย แล้วจึงซุกตัวลงในอ้อมแขน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัว ซุกหน้าเข้ากับอกกว้างนั้นอีกนิด คนที่กำลังกอดอยู่ขยับแขนเข้ามากอดรัดให้มากขึ้น พร้อมกับจับผ้ามาห่มให้ โดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง แต่มันกลับทำให้ผมสงสัย ว่ามันตื่น
Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrr“อืมมมม”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“หนวกหู.......”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“อื้อออออ”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“โว้ยยยยยยย รำคาญจริง!!!”ติ้ด![ไอ้ซัน! ไอ้สัส! มึงอยู่ไหนเนี้ยยยย]“โอ้ยยย เสียงดังฉิบหาย มึงจะโวยวายทำไมวะ”[ไอ้ควาย! มึงนัดเพื่อนมาทำงานเนี้ย แล้วมึงพึ่งตื่นหรอวะ!!!] เสียงไอ้วุฒิพูดด้วยความโมโหดังลอดออกมาจากโทรศัพท์แผ่วๆ“.......”“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย” คนที่กำลังนอนก่ายกอดอยู่ที่ด้านหลัง เด้งตัวออกแล้วผุดลุกขึ้นนั่งทันที ทำให้ช่องทางรักที่ถูกเชื่อมติดเอาไว้เมื่อตอนก่อนจะหลับฝันไป หลุดออกอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงร้องดังออกมาจากคนที่กำลังนอนอยู่ข้างกัน“โอ๊ย!!!” เพราะความเจ็บนั้นปลุกผมให้ตื่นขึ้นจากนิทรา แต่ความรู้สึกแรกที่ลืมตาข
สุดท้ายผมก็พาตัวเองเข้ามาอยู่ในที่อโคจรจนได้ สายตากวาดมองไปรอบๆ หามุมสงบๆ สักที่นั่งลง ก่อนจะสั่งเหล้ามา 1 ขวด และกับแกล้มอีกนิดหน่อย ระหว่างที่นั่งรอก็ปลดกระดุมเสื้อสูทออกจากตัว โยนพาดไว้ที่พนักพิง ดึงรั้งเนกไท ก่อนจะโยนไปในทิศทางเดียวกัน ปลดกระดุมคอบนออก 2 เม็ด ยกฝ่ามือขึ้นเสยเส้นผมสีดำสนิทของตัวเองพอแก้วใบเล็กถูกวางลงตรงหน้าพร้อมกับขวดเหล้าราคาแพง ผมก็จัดการเทลงใส่แก้ว ยกดื่มขึ้นทันที ไม่มีอารัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น นั่งดื่มเพียงลำพัง ในมุมมืดของร้าน อาหารที่สั่งมาไม่มีการแตะต้องใดๆ สิ่งที่ขยับเคลื่อนไหวมีเพียงแก้วใบเล็ก ขวดเหล้า และผู้ที่เป็นเจ้าของซึ่งครอบครองโต๊ะในมุมอับสายตาเท่านั้นผมนั่งดื่มไปเรื่อยๆ จนดวงตาฉ่ำเยิ้ม เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ แต่ก็นานพอให้ปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกายพุ่งขึ้นสูงจนเกินขีดจำกัดในการควบคุมสติสัมปชัญญะ ในตอนนี้ปริมาณน้ำสีอำพันในขวดเหล้าใบสวยลดลงมากกว่าครึ่งขวด ทำให้คนที่เดินเข้าร้านมาด้วยมาดที่หล่อ เนี๊ยบ และดูดี กลายเป็นคนที่ดูขี้เมาในทันที ใบหน้าหล่อคมคายฟุ้บลงกับโต๊ะ นอนอย่างเกียจคร้าน แต่มือก็ยังคงรินเหล้าใส่แก้วอย่างต
ร้อน....อึดอัด....ขยับไม่ได้.....ผมปรือตาขึ้นช้าๆ เมื่อความรู้สึกราวกับร่างทั้งร่างถูกตรึงไว้อยู่กับที่ แสงสว่างที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใส ทะลุผ้าม่านสีขาวเข้ามา ทำให้ต้องหรี่ตามอง ก่อนที่จะพยายามหันหน้าหลบอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อตัวของผมถูกกักเอาไว้ภายใต้วงแขนของใครบางคน ทำให้ผมยกมันขึ้นช้าๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองชายรูปร่างสูงใหญ่ รูปกายกำยำสมกับความเป็นบุรุษเพศ นอนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง วงแขนกอดก่ายผมเอาไว้ จนรัดแน่น ผิวเนื้อที่สัมผัสแนบชิดทำให้เกิดความรู้สึกร้อนผะผ่าว เส้นผมสีส้มอิฐนั้นแลดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ที่โคนเส้นผมถูกแซมด้วยสีดำสนิทขึ้นมาอีกเล็กน้อย แสดงถึงความแตกต่างของสีที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดสนิท หลับตาพริ้มอย่างสบายใจ จมูกโด่งเป็นสันรับเข้ากับใบหน้าที่เรียวยาว ริมฝีปากหนา ที่พอรวมเข้ากับใบหน้ากลับดูดีจนน่าตกใจมือของผมไล้ไปบนอากาศตามโครงหน้า โดยที่ไม่ได้โดนผิวเนื้อของคนที่กำลังหลับอยู่แม้แต่น้อย ไม่กล้าที่จะสัมผัส หวาดกลัวความรู้สึก กลัวว่ามันจะปะทุออกมา
วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่ายครับ ตื่นสายได้เต็มที่ พอตื่นแล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน จนเมื่อเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมง ก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ขับรถตรงไปมหาลัย แวะทานข้าวอีกนิดหน่อย แล้วจึงเข้าห้องเรียนของตัวเองพอไปถึง ไอ้ซันมันก็ฟุ้บหน้านอนหลับอยู่ก่อนแล้ว ผมก็นั่งลงที่ข้างๆ มัน เท้าคางนั่งมองเส้นผมสีส้มที่ระไปกับพื้นโต๊ะเรียน ก่อนที่ผมจะนอนตะแคงหันข้าง นอนมองมันนิ่งๆกรี้ดดดดดดดดดดดดดเสียงกรีดร้องดังขึ้น จากที่เบาๆ คนสองคน กลับกลายเป็นกลุ่มก้อน และขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไอ้ซันหลุดออกจากนิทรา ผมเองก็ผุดตัวไปดูที่หน้าต่างเช่นกัน อยากรู้ว่าสาวๆ เขากรี้ดอะไร อย่างไม่รู้ตัว ไอ้ซันเองก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เช่นกัน จุดประสงค์เดียวกับผม เพราะแขนของมันค้ำยันขอบหน้าต่างเอาไว้ ยืนซ้อนหลังของผมอีกชั้น จนเหมือนว่ามันกำลังโอบกอดผมจากด้านหลัง และผมกำลังมองหน้ามันในระยะประชิด ทำให้ผมรีบก้มหน้าลงทันที ต่างจากไอ้ซันที่ไม่ได้สนใจอะไร สายตามองลงไปที่เบื้องล่าง จนเมื่อคนๆ หนึ่งเดินเข้าตึกมา เสียงกรี้ดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อฝั่ง
K : สวัสดีครับS : ใครครับ?K : ไม่บอกได้ไหมครับ แต่ผมมีเรื่องจะขอรบกวนคุณนะS : ผมหรอ ให้ช่วยอะไรครับ?K : ไม่ทราบว่าเพื่อนสนิทของคุณชอบอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมเป็นพี่เทคของเขาS : คนไหนละครับ เพื่อนผมมีเยอะแยะK : น้องเบส.....S : อ้อ มันชอบของอร่อยครับ เท่านั้นแหละ ผมดีใจนะที่คุณเริ่มหันมาสนใจมันบางK : ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พอดีผมยุ่งๆ อยู่ ถ้ายังไง ผมอาจจะขอรบกวนคุณเพื่อสอบถามนะครับ แล้วก็อาจจะฝากของผ่านคุณ ไปให้น้องเบสด้วยS : ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีK : แล้วคุณชอบทานอะไรไหมครับ ถือว่าผมติดสินบนก็แล้วกัน....หลังจากที่พี่ท็อปบอกว่าจะตามหาพี่เทคให้ มันก็มีความคืบหน้าจริงๆ นะครับ เพราะหลังจากนั้น 2 – 3 วัน ไอ้ซันก็เดินถือกล่องขนมอะไรสักอย่างมาด้วย ยื่นให้ผมตรงหน้า ผมก็มองมันอย่างงงๆ พร้อมกับถามออกไปเบาๆ ว่าให้เนื่องในโอกาสอะไร มันก็บอกว่ามีคนฝากเอามาให้ เป็นของที่มาจากพี่เทคพอผมถามว่ามันรู้จักคนๆ นั้นไหม มันก็บอกว่าไม่รู้จัก พร้อมกับนั่งลงข้างๆ แล้วหยิบกล่องขนมแบบเดียวกันออกมานั่งทานไปพลาง“อร่อยไหมว่ะ”“ลองแดกดูสิครับ” ผมยู่ปากอย่างขัดใจนิดๆ ก่อนจะเปิดกล่องของตัวเองออกดูบ้าง มากา
“สวัสดีครับ” ผมยกมือสวัสดี ก่อนจะไล่สายตามองไปที่บุคคลที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว มีป๊า ม๊า และอีกฝั่งคือ......อ้าว?“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักอีกครั้ง พร้อมกับผงกหัวไปด้วย ยกมือสวัสดีคุณลุงและพี่ท็อป รุ่นพี่ที่คณะของผมเอง“นั่งสิ” ป๊าของผมเอ่ยบอกเบาๆ ทำให้ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างงงๆ จะไม่งงได้ไงครับ ปกติมันต้องเป็นงานดูตัวอะไรแบบนี้ไม่ใช่หรอ ผมต้องพบกับหญิงสาวที่ส่งสายตาหยาดเยิ้ม หรือไม่ก็ก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายไม่ใช่หรอ ไม่ใช่สายตาที่มองมาด้วยความเอ็นดูแบบนี้??? พอผมนั่งลงได้ ลุงจรัญก็เอ่ยชวนคุยทันที“ลุงคงทำให้ตกใจสินะ ถึงได้ตั้งใจหนีแบบนั้นน่ะ” ลุงจรัญพูดยิ้มๆ ต่างจากผมที่ผงกหัวขึ้น เงยหน้ามองทันที เลยไปทางพี่คม แล้ววกกลับมาที่ป๊าของตัวเอง“ฮึฮึ ตาท็อปก็อยู่ในรถด้วยนะ ตั้งใจจะรับมาทีเดียวนั่นแหละ เห็นตาท็อปบอกว่าพอเจอหน้าพี่เลี้ยงก็วิ่งหนีเลยหรอ”“อ่อ” ป๊าไม่ได้พูดอะไรออกมา ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบนิดๆ ต่างจากม๊าที่หัวเราะเบาๆ“พี่ไม่คิดจะชวนเบสมาดูตัวหรอกนะครับ” พี่ท็อปพูดขึ้น แล้วยกยิ้มเอ็นดูส่งมาให้“อ่อ แหะๆ ครับ”“พอดีพี่ได้ข่าวมาว่าตอนรับน้อง เบสไม่มีพี่เทคมาสนใจเลยใช่ไหมครับ ให้พี่ช่วยหาใ