INTRO
ภายในห้องนอนที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟเล็ดลอดมาจากทางใต้ประตูห้อง ชายหนุ่มร่างกำยำในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่า เขานั่งอยู่ปลายเตียงในท่าเดิมนานนับวัน ถอดถอนหายใจแรงถี่ ๆ ราวกับคนวิตกกังวลกับอะไรบางอย่าง ดวงตาคมลุ่มลึกเหี้ยมเกรียมปรากฏใยบาง ๆ ของความเศร้า ชายหนุ่มนั่งกระสับกระส่าย ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“แม่งเอ้ย” คำสบถหยาบถูกตะเบงออกจากลำคอ ปลดปล่อยอารมณ์ที่แสนจะอึดอัดและกดดัน มือหนาลูบหน้าตัวเองแรง ๆ พลางก้มมองที่ข้อขา เสียงของโซ่เหล็กครืดไปมาบนพื้นทำให้เขาเกิดอารมณ์โมโห
“ปล่อยกูสิวะ กูจะออกไปหาเธอ” แผดเสียงคำรามสั่งลูกน้องพ่อที่ยืนเฝ้าประตูหน้าห้องอยู่ด้านนอก
น้ำตาร่วงรินหยดกระทบหน้าเท้า เสียงสะอื้นร่ำไห้ราวกับคนใกล้หมดลมหายใจ ชายหนุ่มไหลตัวลงจากที่นอน นั่งชันเข่าขึ้นทั้งสองข้างอย่างสิ้นหวัง
“พ่อปล่อยผม”
รู้ซึ้งแล้วถึงความผิดหวัง ลิ้มรสรสชาติความทรมาน คล้ายถูกมีดนับร้อยปักเข้ากลางอก
ริมฝีปากแห้งผากขึ้นเป็นรอยยิ้มขม ๆ เมื่อส่วนลึกของหัวใจมันปวดหนึบ ใบหน้าหล่อระทมทุกข์หดหู่และเปล่าเปลี่ยวเมื่อไม่มีเธอ...
มีเพียงเครื่องดื่มมึนเมาที่ช่วยย้อมใจ เขากลายเป็นโรคแอลกอฮอล์ริซึ่ม คิดว่านี่คงเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาลืมเธอได้บ้าง
แต่เปล่าเลย เขาลืมเธอไม่ได้แม้แต่วินาที
อึก อึก อึก~
เคร้ง~
ขวดสีชาที่ตั้งวางอยู่เป็นเพื่อน ถูกชายหนุ่มเขวี้ยงลงบนพื้นขวดแล้วขวดเล่า ให้มันได้เป็นที่ระบายความโศกเศร้าเสียใจ
“จะตายอยู่แล้ว” เสียงคำรามอย่างทนทุกข์ทรมาน มือหนักยกขึ้นทุบลงบนกลางอกแรง ๆ ย้ำ ๆ เอาให้เจ็บช้ำแทบเจียนตาย ในเมื่ออยู่ไปเธอก็ไม่กลับมา
นับวันทุกอย่่างกลับแย่ลง สภาพหัวใจที่แห้งเหี่ยวราวกับใบไม้แห้งกรอบที่รอคนมาเหยียบย่ำให้กลายเป็นเศษผง
“คุณเคนโซครับ อาหาร...” ลูกน้องคนสนิทของชายหนุ่มถือถาดอาหาร พลางเคาะประตูห้องเพื่อแสดงตัวตน แต่ทว่ากลับไม่กล้าเปิดประตูเข้าไป เมื่อผู้เป็นนายไม่ต้องการ
“กูไม่กิน มึงจะเอาไปให้ห่าเหี้ยตัวไหนก็ไป”
“ทานหน่อยเถอะครับนาย”
“ก็บอกว่าไม่กินไงวะ”
ปึก~ ชายหนุ่มหยิบสิ่งของที่อยู่ใกล้มือเขวี้ยงใส่ประตูเสียงดัง คนถูกไล่หันไปส่งสารขอความเห็นจากชายวัยกลางคนที่ยืนมองขึ้นมายังชั้นบนห้องของลูกชาย
“มันเป็นแบบนี้มานับเดือน ตั้งแต่วันที่เธอจากมันไป”
“...”
“สะใจเธอพอหรือยัง”
“แค่เดือนเดียวเองเหรอคะ”
“หมายความว่ายังไง” มาเฟียใหญ่ขมวดคิ้วชิดมองพินิจใบหน้าหวาน แม้กระทั่งคำพูดที่เธอเปล่งออกมา ไม่หลงเหลือแม้แต่ความห่วงหาอาทร
“คุณท่านทราบดีค่ะ”
“ยังไงมันก็ลูกชายฉัน ฉันคงปล่อยให้มันเป็นบ้าแบบนั้นนานไม่ได้”
“ให้เขาอดทนอีกหน่อยสิคะ เบลยังอดทนมาได้ เขาก็ต้องอดทนได้” หญิงสาวเก็บความรู้สึกในแววตา เขาเคยเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่เธอรัก รักจนหัวใจเต็มไปด้วยบาดแผล
ชายวัยกลางคนจับจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า คำพูดของเธอช่างเย็นชาไร้เยื่อใย ในอดีตลูกชายเขาทำกับเธอมากเกินไป ตอนนี้มันได้รับผลกรรมอย่างเจ็บปวดเหมือนคนตายทั้งเป็น
“นายท่านครับ...คุณเคนอาละวาดหนักแล้ว” ลูกน้องส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากนายใหญ่ของบ้าน
“เปิดประตู”
“แต่...”
“สั่งให้เปิดก็เปิด”
“เบลขอตัวกลับก่อน สวัสดีค่ะ”
“พ่อผมขาดเบลไม่ได้ ผมอยากเจอเบล พ่อได้ยินไหม”
เรียวเท้าเล็กหยุดชะงักทันที เมื่อได้ยินเสียงของชายคุ้มคลั่งชัดเจน ลูกน้องคนสนิทเปิดประตูห้อง ชายหนุ่มคำรามอาละวาดจนหัวใจมันปวดร้าว
“ให้มันได้เจอหน้าเธอสักครั้งไม่ได้เลยหรือไง”
“เจอไปก็เท่านั้น คุณท่านอย่าพยายามยื้อเวลาเบลเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”
“มาเบลใช่ไหม เสียงเธอใช่ไหมไอ้ฟาร์ม”
“เอ่อ...”
เสียงโซ่ครืดบนพื้นแรง ๆ พยายามพาตัวเองเดินออกจากห้องเพื่อหาความจริงว่าเสียงที่เขาได้ยินใช่เธอหรือไม่ แต่เขากลับเดินถึงแค่หน้าประตู เมื่อถูกโซ่ตรวนล็อคข้อขาเอาไว้
ชายหนุ่มถูกผู้เป็นพ่อกักขังอยู่ในห้องอย่างโดดเดี่ยวราวกับผู้ต้องหา ดวงตาคมแดงก่ำมีมวลน้ำขึ้นอยู่รอบตา เหมือนเห็นภาพลาง ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินออกจากบ้าน
“นั่นเธอใช่ไหม มาเบลเธอมาหาฉัน” ตะโกนเรียกเธอที่รักย้ำ ๆ ความรู้สึกโทษตัวเองระรอกใหญ่ ถาโถมใส่ราวกับทะเลคลั่ง
“อย่าทิ้งฉัน ฉันขอโทษ” ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคออย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนที่เขาจะหมดสติล้มลง
“นายท่านครับ คุณเคนสลบไปแล้ว”
“ได้ยินแล้วใช่ไหม สาแก่ใจเธอพอหรือยัง!” มาเฟียใหญ่ตะโกนถามหญิงสาวที่เดินออกจากบ้านไม่แม้แต่จะหันกลับ เรียวเท้าเล็กวิ่งขึ้นรถยนต์คันหรูทันทีที่รู้ว่าชายที่เธอเคยรักหมดสติลง
“เรียกรถโรงพยาบาล เร็ว”