เตชินทร์มีสีหน้าตกใจไม่ต่างอะไรจากที่ใบชารู้ในตอนแรกว่าตัวเองนั้นกำลังท้อง เขาสตั้นแบบไม่พูดอะไรออกมาสักคำเลย จนใบชาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรพูดเรื่องนี้เลย ควรจัดการเรื่องนี้อย่างเงียบๆ ด้วยซ้ำไป"ชาขอโทษ...""ระ เรื่องจริงเหรอ?""ชาตรวจแล้วค่ะ""..….""ขอโทษนะคะ ที่เอาเรื่องหนักใจมาให้พี่อีกแล้ว ชาจะไปจัดการเรื่องนี้เงียบๆ ค่ะ""เดี๋ยว! จัดการยังไง?""ชายังเรียนอยู่เลย ลำพังแค่พี่หาเงินส่งชาเรียนก็เหนื่อยมากแล้ว จะให้เลี้ยงเด็กอีกคนนึงคงไม่ไหวหรอก""ชาทำไมถึงคิดแบบนี้!" เตชินทร์ขึ้นเสียงดุ"ชา...ชาไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ ค่ะ""แล้วทำไมถึงคิดว่านี่คือทางออก?""ก็มันเป็นวิธีเดียวนี่คะ""......""ชารู้ว่าตัวเองทำผิด เพราะฉะนั้นชาจะจัดการเรื่องนี้เองค่ะพี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ""กับไอ้คลินต์ใช่ไหม?""......" ใบชาพยักหน้ารัวๆ เพราะคนที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีอยู่แค่คนเดียว และก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นแบบนี้ เธอคิดว่าแค่จบความสัมพันธ์กับเขาทุกอย่างมันก็จบแล้ว"อยากให้มันรับผิดชอบไหม พี่จะจัดการให้""ไม่! ไม่เอานะ""ทำไมล่ะ มันเป็นพ่อของลูกในท้องเรานะ""พี่ก็รู้ ชากับเขาก็แค่สนุกด้วยกัน จะใ
หลายวันผ่านไป ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมารวมถึงวันนี้อาการที่ใบชาเป็นอยู่มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม มันไม่ได้หนักไปกว่าเดิมแต่มันก็ไม่ได้หาย จนเธอเริ่มคิดแล้วว่าร่างกายของเธอจะต้องเป็นอะไรสักอย่าง ซึ่งมันอาจจะเป็นอย่างที่เสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ตครั้งนั้น แต่เธอก็ยังไม่ปักใจเชื่อจนกว่าจะได้เห็นหลักฐานจริงๆนั่นก็แปลว่าเธอต้องลองตรวจดูสักครั้ง ถึงแม้จะกลัวผลของมันก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้อยากอยู่แบบนี้ ถ้าไม่ได้ท้องก็ถือว่าแล้วไป แต่ถ้าท้องจริงๆ ก็คงต้องมาจัดการเรื่องนี้อีกที@ร้านยาใกล้หอพัก กริ๊ง. ~"สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ""เอ่อ...ที่ตรวจครรภ์ มีแบบไหนบ้างคะ""มีแบบจุ่ม และแบบหยดครับ""แล้วแบบไหนได้ผลดีสุดคะ?""ได้ผลตรงกันทุกแบบเลยนะครับ แต่ถ้าจะให้ชัวร์ตรวจที่โรงพยาบาลกับหมอเลยจะดีกว่า""อ๋อ...""ไม่ทราบว่าจะรับไหมครับ?""เอ่อ...ฉันไม่รู้ว่า ฉันเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า แค่มีอาการ ก็เลยอยากลองตรวจดูน่ะค่ะ""อาการประมาณไหนครับ?""เวียนหัวแล้วก็อ้วกค่ะ แล้วก็รู้สึกเพลียๆ แบบนี้ใช่อาการท้องหรือเปล่าคะ?" ใบชาถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ มาถึงตรงนี้แล้วเธอก็ยังไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น แค่จะตรวจให้มันหายสงสัยก
เวลาต่อมา ขณะที่ใบชากำลังทำอาหารเช้าอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเอามือปิดปากบังคับตัวเองไม่ให้อาเจียนออกมา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่มีอะไรจริงๆ นอกจากน้ำย่อยที่พยายามดันขึ้นคอมาช่วงนี้เธอไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร ร่างกายของเธอมันเปลี่ยนแปลงไป มันไม่เหมือนเดิมแต่เธอก็บอกไม่ถูกเหมือนกันทุกครั้งที่ได้กลิ่นอาหารเธอจะมีอาการแบบนี้ตลอด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ฝืนใจกินเข้าไปได้ มันยังไม่ได้หนักอะไรจนถึงขั้นที่จะต้องไปหาหมอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอนอนน้อยพักผ่อนไม่เพียงพอและมีอาการเครียดร่วมด้วยหรือเปล่า มันก็เลยส่งผลให้ร่างกายเป็นแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยเป็นอะไรเลย ร่างกายแข็งแรงดีมาตลอด เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยแทบจะไม่มีเข้ามาในตัวเธอเลย"อืม..." ใบชาพยายามฝืนร่างกาย เอาน้ำกลั้วปากพร้อมกับล้างหน้าล้างตาจากนั้นก็เดินออกมานั่งทำอาหารต่อ พยายามหาอะไรมาดมเพื่อที่จะไม่ต้องได้กลิ่นอาหาร และอาการของเธอก็ดีขึ้นจนกระทั่งพี่ชายของเธอตื่นเช้ามา"ตื่นแต่เช้าเลยทำอะไรกิน""ก็กับข้าวง่ายๆ ค่ะ ตลาดสดอยู่ไกล ชาก็เลยได้ซื้อแค่ผักสองสามอย่างกับพวกเนื้อ""ถ้าเหนื่อยก
หลังจากวันนั้นผ่านไปอีกเป็นเดือน ~ เตชินทร์และน้องสาวมาอยู่ที่ห้องเช่าเล็กๆ และราคาถูก เพราะมันค่อนข้างกะทันหันและก็ต้องเซฟเงินเอาไว้เพื่อซื้อบ้านด้วย ซึ่งใบชาก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไร สำหรับเธอที่เคยเจอมามันลำบากยิ่งกว่านี้อีก ถึงแม้พื้นที่มันจะคับแคบทำอะไรไม่สะดวกสบายเหมือนกับตอนที่อยู่คอนโด แต่มันก็ดีเพราะเธอไม่ได้รู้สึกคับอกคับใจหรือเหนื่อยใจจนทำให้ไม่อยากอยู่ที่นี่"จะไปไหนอีกล่ะเรา แต่งตัวอีกแล้ว" เตชินทร์พูดกับน้องสาว ขณะที่ใบชากำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก"มีนัดกับเพื่อนค่ะ""ไปไหนกัน""ไปห้างเฉยๆ ค่ะ ว่าจะนัดกันไปดูหนังเรื่องใหม่""อย่ากลับให้มันดึกล่ะ มันไม่เหมือนที่เก่าที่เราเคยอยู่ พี่เป็นห่วง""ค่ะ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวซื้อของอร่อยมาฝากนะคะ"เพราะยังอยู่ในช่วงปิดเทอมใบชาจึงไม่มีอะไรให้ทำ ขอไปทำงานพาร์ทไทม์ก็ถูกปฏิเสธพร้อมกับให้เหตุผลว่า งานส่วนใหญ่ต้องทำตอนเย็นและเลิกช่วงกลางดึกซึ่งมันอันตรายเวลาเธอกลับคนเดียว ใบชาก็เลยต้องทำตามที่พี่ชายบอกโดยที่ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้เลย"ใบชา..""หือ~ คะ?""ตอนเย็นอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม""วันนี้พี่มาแปลก มีอะไรหรือเปล่าคะเนี่ย""ไม่มีอะไรหรอก พี่แ
หลังจากนั้นฉันกับพี่เต้เราก็ตกลงกันว่าจะย้ายออกจากที่นี่ และเร็วๆ นี้ด้วยเมื่อไหร่ที่หาห้องเช่าได้ เมื่อไหร่ที่เก็บข้าวของที่นี่หมด เราก็จะย้ายออกไปในทันทีฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย แต่ในเมื่อมันเป็นไปแล้ว ฉันก็แค่ต้องยอมรับมันแค่นั้นเอง"จะไปจริงๆ เหรอ?" พี่คลินต์ถาม"แล้วจะให้ฉันอยู่ทำไม""แล้วจะไปอยู่ยังไง""ไม่ใช่เด็กสักหน่อย ที่ไหนก็อยู่ได้เหมือนกันแหละ""ยังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอ?""......" ทำไมเขาถึงเฝ้าถามแต่คำถามนี้กันนะ ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ มันใช่คำถามที่ควรพูดกันตอนนี้หรือไงไม่ได้หายโกรธแต่ก็ไม่ถึงขั้นเกลียด มันก็แค่เจ็บไม่อยากรับรู้อะไรจากเขาอีก"มาคุยอะไรกัน?""ไม่ได้คุยอะไรกันค่ะ ชากำลังเก็บของอยู่"ฉันตอบพี่เต้ที่เดินเข้ามาในครัว เขาไม่ยอมปล่อยให้ฉันกับพี่คลินต์ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองอีกเลย แต่มันก็มีบางช่วงจังหวะแหละ ที่เราได้คุยกันสองคนบ้าง"ไปให้ไกลๆ น้องกูเลย""แล้วมึงจะไปอยู่ที่ไหน?""เรื่องของกู กูไม่บอกให้มึงตามกูไปหรอก""ก็แค่อยากรู้ ไม่ได้จะตาม""กูไม่บอก""พี่เต้เก็บของในห้องเสร็จแล้วหรือไง""ยัง""งั้นก็รีบไปเก็บให้เสร็จ""ครับ""มาคุยกับพี่หน่อยนะ""อ๊
#เช้าวันถัดมา ฉันตื่นเช้ามาตามปกติไม่รู้หรอกว่าสองคนนั้นจะยังไงกันต่อ ถ้าไม่โอเคกันก็แค่ต่างคนต่างไป ไม่ใช่มาทำร้ายกันแบบนี้ปึก! ( มือทุบโต๊ะอย่างแรง )"จะมองหน้ากันอีกนานไหม?" ฉันถามทั้งสองคน ที่กำลังนั่งมองหน้ากันอยู่ และคนที่พร้อมใส่ก็เห็นที่จะมีแค่พี่ชายของฉันแหละ เมื่อวานยังไม่พออีกหรือไงกัน ดูสภาพแต่ละคนสิดูดีที่ไหนกัน โดยเฉพาะหน้าของพี่คลินต์ สะบักสะบอมมาก"ไอ้คลินต์! มึงมันเพื่อนทรยศ!""อืม...มึงอยากทำอะไรก็ทำ จะฆ่ากูให้ตายเลยก็ได้""หยุดท้ากันนะ! พวกพี่นี่มันยังไง"อีกคนก็นักท้า อีกคนก็พร้อมใส่ ฉันควรจัดการปัญหาตรงนี้ยังไงได้ก่อน ในเมื่อพวกเขาไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย จะโกรธกันฆ่ากันให้ตายกันไปข้างนึงเลยหรือไง"มึงมีเรื่องต้องคุยกับกู!""คุยมันตรงนี้แหละ" ฉันพูดตะคอกฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาสองคนไปคุยกันสองต่อสองหรอก เดี๋ยวก็ได้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีก ไว้ใจไม่ได้เลยสักคนเดียว"ไอ้คลินต์ มึงจำได้ใช่ไหม ก่อนหน้านั้นกูเคยขออะไรไว้กับมึง ซึ่งกูไม่เคยขออะไรกับมึงเลย มึงรับปากดิบดีแต่มึงทำให้กูไม่ได้ แล้วมึงจะรับปากทำส้นตีนอะไรวะ!?""ขออะไร?" ฉันถามพี่เต้ เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีเรื