น่านฟ้า : “มะลิคบกับใครเป็นแฟนหรอครับ ทั้งผม ทั้งกวิน มีใครได้เป็นแฟนของมะลิ ถึงบอกว่ามะลิคบซ้อนได้”นักข่าวที่อยู่ข้างมะลิแต่แรกพยักหน้าเห็นด้วย เพราะตลอดเวลาที่กวินแสดงออกว่าจีบมะลิ เขาก็บอกเสมอว่ามะลิให้โอกาส และมะลิเองก็ยังมีโอกาสพิจารณาผู้ชายคนอื่นด้วยนักข่าว : “แปลว่า คุณหมอรู้มาตลอดว่ากวินจีบมะลิ และกวินก็รู้มาตลอดว่าคุณหมอก็ชอบมะลิ งั้นหรอคะ”น่านฟ้า : “ครับ ผมรู้มาตลอด และผมก็แน่ใจว่ากวินก็รู้ เราแข่งขันกัน ใครสามารถทำให้มะลิรู้สึกรักได้ ก็เป็นฝ่ายได้เป็นตัวจริงของมะลิ แค่นั้นเอง และกวินเองก็เข้าใจเรื่องนี้ดีครับ”นักข่าว : “คุณหมอคิดว่าอะไรทำให้คุณหมอชนะใจมะลิคะ”น่านฟ้า : “ไม่รู้สิครับ มะลิเองก็ไม่เคยมีแฟน ไม่รู้ว่าตัวเองชอบผู้ชายแบบไหน แต่ผมเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ผมดูแลมะลิ เข้มงวดเรื่องเรียน เรื่องการวางตัว การเข้าสังคม รวมไปถึงการสังสรรค์ตามประสาวัยรุ่น ถึงผมจะเคยมีข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิงมามาก แต่พอผมแน่ใจว่าผมชอบมะลิ ผมก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครอีก อีกอย่างอาจเป็นเพราะอายุผมห่างจากเธอมากก็ได้ เลยให้ความรู้สึกอบอุ่นมั้งครับ”นักข่าว : “น่ารักจังเลยค่ะ แต่ขออนุญาตถามแท
“พี่กับลิน ไม่ได้มีอะไรกันแบบที่มะลิเข้าใจ วันนั้นพี่เป็นไข้ ตื่นสาย ยุเข้ามาปลุกที่ห้องนอน เอายาเอาข้าวมาป้อนให้พี่นอนพัก พี่บอกให้ยุโทรตามมะลิให้มาหาพี่ที แล้วพี่ก็หลับไป พี่ตื่นมาอีกทีจะค่ำแล้ว คนที่นอนกอดพี่อยู่ไม่ใช่มะลิ แต่เป็นลิน พี่ตกใจมาก คิดว่าถ้ามะลิมาหาพี่ต้องเจอลินแน่ๆ พี่เลยรีบกลับบ้าน แต่กลับไปถึง มะลิหนีพี่ไปแล้ว พี่ช็อกเพราะไข้ก็ยังไม่ลด หลับไปอีกคืนนึง ตื่นมาถึงหาย พี่เรียกกวินมาหา ถามจากเพื่อนๆ ทุกคนไม่มีใครรู้ว่ามะลิไปไหน ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นมะลิถึงหนีพี่ไป แต่ลินยืนยันว่าไม่รูว่ามะลิเข้ามาหาหรือเปล่า เพราะลินเองก็หลับ”“หนูเข้าไปค่ะ เข้าไปเจอคุณลินด้วย เธอบอกว่าพี่ตั้งใจเรียกหนูมาเจอภาพนี้ เพราะไม่กล้าจะบอกให้หนูออกไปจากชีวิต เธอบอกว่าพี่เลือกเธอและกำลังจะแต่งงานกัน ขอให้หนูไปให้พ้นจากชีวิตพี่ หนูเลยไป”“หนูไป ทั้งๆ ที่หนูรู้ตัวว่าท้องลูกของพี่อยู่งั้นหรอ”“พี่น่าน รู้ได้ไงคะ”คนตัวบางร้องออกมาด้วยความตกใจ เรื่องนี้เธอไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้ เพราะตรวจเจอเช้าวันนั้น ก็มีเรื่องให้หอบผ้าหอบผ่อนหนีในเช้าวันนั้นเลย“เผือกเจอที่ตรวจท้องตกอยู่ใต้เตียงหนู”คนตัวบางก
“คุณพูดอะไรกับมะลิ”ดวงตาวาววับแดงก่ำเอาเรื่อง ไม่หลงเหลือแม้เศษเสี้ยวของความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันอีกต่อไป“ทำไมคะ คุณแคร์เด็กนั่นขนาดนี้เลยหรอน่าน”“ผมบอกคุณไปกี่ครั้งแล้ว ว่าผมรักมะลิ เรื่องของเรามันจบแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณอีก”“แต่ลินไม่ยอมไง”“ไม่ยอมแล้วคุณจะทำอะไรได้ คนอย่างคุณมันหมดศักดิ์ศรีจนถึงขั้นต้องสร้างเรื่องโกหกแบบนี้เลยหรอ น่าสมเพชว่ะลิน”“ลินทำได้ทุกอย่าง ที่จะให้น่านกลับมาเป็นของลินอีกครั้ง เด็กนั่นมันหนีไปแล้ว คุณจะไปอาลัยอาวรณ์มันอีกทำไม คุณเคยรักลินมาก ทำไมจะกลับมารักอีกไม่ได้”“ฟังนะ ต่อให้มะลิหนีผมไปจนผมตามหาไม่เจอ ตลอดชีวิตนี้ผมก็ไม่คิดจะกลับไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก กลับไปซะ แล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก เพราะคราวต่อไป ผมคงไม่พูดจากับคุณดีๆ แบบนี้แล้ว และคุณจะได้เห็น ว่าคนอย่างผม มันทำอะไรคุณได้บ้าง”“น่าน”เด็กเผือกวิ่งตึงตังเข้ามาในห้องรับแขก มือหนึ่งถือไม้กวาด อีกมือหนึ่งกำแท่งสีขาวแน่นๆ หอบหายใจกระชั้น แต่ก็ละล่ำละลักพูดเรื่องสำคัญออกมาจนได้“คุณหมอคะ หนู หนูเจออันนี้ ตกอยู่ใต้เตียงคุณมะลิค่ะ”หมอหนุ่มรับแท่งสีขาวนั้นมาดูทันที แค่เพียงเห็นแวบแรก ก็รู้ได้ท
น่านฟ้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบเพราะพิษไข้ในเวลาบ่ายคล้อย หลายวันที่ผ่านมาเขาหักโหมทำงานจนแทบไม่ได้พักผ่อน แถมยังอยู่กับเชื้อโรคทุกวัน ร่างกายที่อ่อนแอทำให้เขาเป็นไข้จนได้สำนึกสุดท้ายที่เขาจำได้คือสั่งให้ยุวดีโทรตามมะลิให้มาหา ถ้าอย่างนั้น น้ำหนักของร่างกายที่นอนกอดก่ายซุกซบอกแกร่งของเขา คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากสุดยอดดวงใจของเขาเท่านั้นแม้จะยังมึนงงเพราะพิษไข้ แต่คนตัวโตกลับอิ่มเอมในหัวใจ เขากดจูบหน้าผากโหนกนูนอย่างแสนรัก แม้จะอดแปลกใจไม่ได้ว่ากลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะตัวของเธอเปลี่ยนไป“อืมม หนูมานานแล้วหรอครับ”คนที่เพิ่งตื่น เงยหน้ามองเขาทันทีที่เขาทักทายเธอเป็นคนอื่น คนที่ยังไม่ทันหายป่วยตกใจจนขยับตัวหนีอัตโนมัติ ความรีบลุกขึ้นมานั่งทำให้เขาเวียนหัวจนต้องกุมขมับและนั่งพิงหัวเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงร่างกายที่เย็นวาบหลังจากผ้าห่มผืนหนาตกลงไปที่เอว ทำให้เขาได้สติ ยกผ้าห่มขึ้นสำรวจร่างกายก็พบว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว“เกิดอะไรขึ้น ทำไมผมอยู่ในสภาพนี้”“ลินมาหาคุณ เห็นว่าคุณป่วยเลยเช็ดตัวและอยู่ดูแลคุณค่ะ”“มะลิล่ะ มะลิไปไหน”“ไม่รู้สิคะ ตั้งแต่ลินมาก็ไม่เห็นใคร
ยุวดี เลขาสาวสวยของหมอหนุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาล หอบหิ้วแฟ้มเอกสารเข้ามาวางในห้องทำงาน ก่อนจะช่วยแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดจัดข้าวของในห้องของเจ้านายหนุ่มให้เป็นระเบียบเรียบร้อย“คุณยุ คุณหมอยังไม่ตื่นเลยค่ะ ขนาดป้าดูดฝุ่นเสียงดังขนาดนี้ ป้าว่าแปลกๆ นะคะ”“อ้าว คุณหมอยังอยู่ในห้องหรอคะ ยุคิดว่าท่านไปตรวจคนไข้แล้วซะอีก”ยุวดียืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอนของเจ้านายหนุ่มแล้วเปิดเข้าไป เป็นอย่างที่ป้าแม่บ้านบอกจริงๆ สายป่านนี้แล้วแต่เจ้านายของเธอยังนอนนิ่งๆ ผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก เลยตรงดิ่งเข้าไปยกมือขึ้นมาอังหน้าผากแล้วก็ต้องหดมือกลับอย่างรวดเร็ว“อุ๊ย ตัวร้อนจี๋เลย คุณหมอคะ คุณหมอ ผอ. รู้สึกตัวไหมคะ”ยุวดีตกใจ ละล่ำละลักเรียกเขาแบบที่เคยเรียกทุกอย่าง ก่อนจะเขย่าตัวเพื่อปลุกให้คนป่วยรู้สึกตัว“อืม ยุ”“ค่ะ ยุเอง คุณหมอป่วยค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย ให้ยุตามหมอมาดูอาการไหมคะ”“ไม่ต้อง ขอยาแก้ไข้ให้ผม แล้วโทรเรียกมะลิให้ผมที”ยุวดีเบิกตาโตด้วยความแปลกใจ เป็นไข้ทำไมไม่ให้ตามหมอ ทั้งๆ ที่เดินกันวุ่นอยู่เต็มโรงพยาบาล แต่กลับให้โทรตามน้องสาวนอกไส้ที่ครอบครัวของเขารับมาอุปการะเสี
“งั้นหนูนอนพักเถอะนะ เดี๋ยวพี่ต้องดูเคสต่อ จะเข้าไปประชุมกับอาจารย์หมอด้วย ช่วงนี้พี่คงไม่ได้กลับบ้านหลายวันเลย หนูมานอนกับพี่ที่นี่ไหม”“ไม่ได้หรอกค่ะ ช่วงนี้หนูไม่ได้ไปกองถ่าย ถ้าหายไปทั้งคืน คุณป้าสงสัยแน่ๆ แล้วคุณป้าก็มีโปรแกรมให้หนูพาไปหลายที่เลย ไม่รู้จะว่างไปหาพี่ได้หรือเปล่า”“อืม ไม่เป็นไรครับ ไปทำหน้าที่ลูกสะใภ้ที่ดีก่อนนะ พี่ทนคิดถึงหนูได้ งานพี่ก็หนัก คงไม่ค่อยได้พักเท่าไหร่ ถ้าหนูมาพี่ก็คงอดใจไม่ไหว สงสัยจะไม่มีแรงจับมีดผ่าตัด”“บ้า พี่น่าน ลูกสะใภ้อะไรกันคะ”“อ้าว หนูเป็นเมียพี่ไม่ใช่หรอครับ”“ก็แค่ทางพฤตินัย ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นอะไรกัน”“พี่ว่ามีคนรู้นะ”“ใครคะ ก็ไอ้เหนือกับไอ้พีทไง”“พี่สองคนเขารู้ได้ไงคะ พี่บอกหรอ”“กับไอ้เหนือ พี่ไม่ต้องบอกหรอก มันรู้เอง มันเห็นพี่แอบย่องเข้าบ้านหนู ส่วนไอ้พีท พี่ปรับทุกข์กับมันน่ะ เมียเด็กของพี่ไม่รัก”“หนูอยากจะตีพี่จริงๆ เลย เห็นไหม บอกแล้วว่าจะต้องมีคนเห็น บอกว่าไม่ต้องมาทุกวันก็ไม่ยอม หื่นจนได้เรื่อง ดีที่พี่เหนือเป็นคนเห็น ถ้าเป็นคนอื่นหนูซวยแน่ๆ แบบนี้หนูไม่กล้ามองหน้าพี่เหนือแล้ว”“ฮ่าฮ่าฮ่า อะไรกัน ไม่เห็นต้องอายเลย