Share

บทที่ 2

หนึ่งแสนล้านบาท?!

ชาร์ลีตกใจมาก ดวงตาของเขาเบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากค้าง

เขารู้ว่าคุณปู่ของเขาร่ำรวยมากแต่ในตอนนั้นเขายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจแนวคิดเรื่องเงิน เขารู้เพียงว่าตระกูลเวดเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอีสต์คลิฟฟ์และในประเทศด้วยเช่นกัน แต่เขาไม่แน่ใจว่าทรัพย์สินของคุณปู่คือเท่าไร

ตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้แล้ว

หากเงินแสนล้านบาทเป็นเพียงแค่เงินค่าขนม นั่นหมายความว่าทั้งตระกูลเวดมีทรัพย์สินมากกว่าร้อยล้านล้านบาท!

พูดตามตรงในตอนนี้เขารู้สึกลังเล อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงพ่อแม่ที่จากไปและคุณปู่ของเขาเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเสียชีวิต เขาก็รู้ว่าเขาเองไม่มีทางให้อภัยคุณปู่ได้ง่าย ๆ

เมื่อรู้สึกได้ถึงความขุ่นมัวของเขา สตีเฟนจึงรีบพูดว่า “นายน้อย คุณเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลเวด ดังนั้นเงินจึงเป็นของคุณ หรือจะคิดว่ามันเป็นของพ่อคุณก็ได้นะครับ”

“คุณท่านบอกว่า เมื่อไหร่ที่นายน้อยเต็มใจที่จะกลับบ้าน เขาจะแต่งตั้งให้คุณสืบทอดอาณาจักรธุรกิจมูลค่าร้อยล้านล้านบาทของตระกูล แต่ถ้าหากคุณยังไม่อยากกลับบ้านคุณก็ใช้เงินนี่ไปก่อนก็ได้ครับ”

“โอ้ ใช่สิ ยังมีอีกเรื่องที่ผมอยากจะต้องบอก ตระกูลเวดเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรได้มากที่สุดในโอลรัสฮิลล์ นั่นก็คือ เอ็มแกรนด์กรุ๊ปซึ่งมีมูลค่าในตลาดถึงแสนล้านบาท ตอนนี้หุ้นทั้งหมดได้อยู่ภายใต้ชื่อของคุณเรียบร้อยแล้วนะครับ คุณสามารถเจ้ารับสิทธิ์ของคุณได้ที่บริษัทในวันพรุ่งนี้เลยครับ!”

ชาร์ลีฟังเขาเล่าด้วยความงุนงงและไม่อยากจะเชื่อ

นี่มันไม่มากเกินไปที่ตระกูลเวดจะลงทุนเพื่อประโยชน์ของเขาหรอกเหรอ?

แบล็กการ์ดพรีเมียมที่มีวงเงินแสนล้านบาทและเอ็มแกรนด์กรุ๊ปที่มีมูลค่าบริษัทแสนล้านบาท!

แม้ว่าเมืองโอลรัสฮิลล์จะเป็นเมืองที่สามารถแสดงศักยภาพจากคนทุกหมู่เหล่า แต่มีเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับการยอมรับและมีเกียรติ นั่นก็คือ เอ็มแกรนด์กรุ๊ปซึ่งนับได้ว่าเป็นที่หนึ่งในเมืองโอลรัสฮิลล์! ไม่ว่าตระกูลที่มีชื่อเสียงหรือมีอิทธิพลใด ๆ ก็ต่างต้องก้มหัวให้กับเอ็มแกรนด์กรุ๊ป รวมถึงเหล่าตระกูลที่เหยียดหยามเขาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตระกูลวิลสัน ตระกูลไวท์ และแม้แต่ตระกูลโจนส์ที่ยังตามตื๊อภรรยาของเขา! พวกเขาก็เป็นเพียงคนรับใช้ที่ต่ำต้อยต่อเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปเท่านั้น!

ตอนนี้เอ็มแกรนด์กรุ๊ปเป็นบริษัทของเราแล้วอย่างนั้นเหรอ?

สตีเฟนยื่นนามบัตรให้กับเขาและพูดว่า “นายน้อยครับ คุณอาจต้องใช้เวลาสงบสติอารมณ์และคิดเรื่องนี้อีกสักหน่อย ส่วนนี่นามบัตรของผมนะครับ หากคุณต้องการอะไรก็โทรหาผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ! ”

แล้วสตีเฟนก็กลับไป

หลังจากที่เขากลับไปแล้วชาร์ลีก็ยังคงงุนงง

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะรับเงินและทรัพย์สินต่าง ๆ จากตระกูลเวดดีไหม

อย่างไรก็ตามเขาก็นั่งนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาของความยากลำบากและความอัปยศอดสูที่เขาเคยเจอมาตั้งแต่ที่เขาได้แต่งงานกับแคลร์ ส่วนนี่คือค่าชดเชยที่ตระกูลเวดมอบให้เขาสำหรับความทุกข์ยากที่เขาประสบมาแล้วทำไมเขาถึงต้องไม่รับด้วยล่ะ?

นอกจากนี้คุณนายเลวิส ยังต้องการเงินหกล้านบาทเพื่อการรักษาอย่างเร่งด่วนอีกด้วย

เขากัดฟันแน่นขณะที่กำแบล็กการ์ดใบนั้น แล้วเดินกลับไปที่แผนกชำระเงิน พร้อมพูดว่า “สวัสดีครับ ผมมาจัดการค่ารักษาครับ”

บัตรของเขาถูกรูด รหัสผ่านถูกป้อน และการทำธุรกรรมก็เสร็จสมบูรณ์

เงินหกล้านบาทได้ถูกโอนเข้าบัญชีของโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย

ชาร์ลียังคงรู้สึกเหมือนว่าเขายังฝันอยู่

นี่เขากลายเป็นมหาเศรษฐีในพริบตาแล้วอย่างนั้นเหรอ?

***

เขากลับมาบ้านด้วยความมึนงง

ในขณะเดียวกันบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ

แคลร์และพ่อแม่ของเธอไม่ได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์วิลสันแต่พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังธรรมดา

เพราะตั้งแต่แคลร์แต่งงานกับชาร์ลีและหลังจากที่คุณท่านปู่วิลสันเสียชีวิตพวกเขาก็ถูกไล่ออกจากคฤหาสน์หลังนั้น

แม่ยายของเขากรีดร้องด้วยความตกใจ“ ชาร์ลี เวด ไอ้ขี้แพ้นั่น! มันนี่ช่างน่าอับอายเสียจริง! ถ้าแกไม่หย่ากับมันตอนนี้ คุณย่าของแกคงไล่แกออกจากบริษัทวิลสัน กรุ๊ปแน่! ”

แคลร์พูดอย่างใจเย็นว่า "ถ้าคุณย่าจะทำแบบนั้น หนูก็จะหางานอื่นทำ"

“นี่แคลร์…” แม่ของเธอส่งเสียงอย่างโมโห “มันมีอะไรดีอะไรนักหนา? ทำไมแกถึงไม่หย่ากับมันแล้วแต่งงานกับคุณเวนเดลล์ซะล่ะ? ถ้าแกแต่งงานกับคุณเวนเดลล์ โจนส์ ครอบครัวของเราก็คงมีหน้ามีตามากกว่านี้! ”

พ่อของเธอพูดเสริมขึ้นมาว่า “แม่ของลูกพูดถูก! ถ้าลูกตกลงแต่งงานกับคุณเวนเดลล์ ครอบครัวของเราจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าในตระกูลทันที คุณย่าของลูกจะยิ่งทะนุถนอมลูกและเอาอกเอาใจลูกทุกวัน! ”

แคลร์จึงพูดสวนขึ้นมาว่า “พอได้แล้วค่ะ หนูจะไม่มีวันหย่ากับชาร์ลี”

“นี่ลูก!”

พ่อแม่ของเธอกำลังจะโน้มน้าวเธอต่อ ทันใดนั้นประตูก็เปิดและชาร์ลีก็ได้เดินเข้ามาในบ้าน

พ่อแม่ของแคล์จ้องมองไปที่ชาร์ลีด้วยสายตาที่เหยียดหยามอย่างยิ่ง

แม่ของแคลร์เริ่มตะคอกใส่เขาด้วยความรังเกียจ “ฉันนึกว่าแกจะลืมทางกลับบ้านซะแล้ว ไอ้ขี้แพ้!”

ชาร์ลีถอนหายใจเงียบ ๆ อยู่ในใจ แม่ยายของเขาดูถูกเขามาตลอดแต่เธอจะทำอย่างไรถ้าเกิดเธอรู้ว่าตอนนี้เขาเป็นเจ้าของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปและมีเงินเป็นแสนล้านบาท

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา

เขาออกจากตระกูลเวดมานานแล้ว ใครจะรู้ว่าตอนนี้ตระกูลเวดกำลังทำอะไร? ถ้าหากเขาเปิดเผยตัวตนขึ้นมาแล้วมีคนในตระกูลจ้องจะเล่นงานเข้าล่ะ?

การไม่เปิดเผยตัวตนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้

เขาก้มหน้าลงและพูดด้วยความนอบน้อมว่า "คุณแม่ครับ ผมขอโทษสำหรับปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะผมในวันนี้นะครับ"

แม่ยายของเขาตะโกนว่า “ปัญหางั้นเหรอ? นี่มันเป็นมากกว่าปัญหา แกกำลังจะทำให้ชีวิตพวกเราพัง! อย่างน้อยแกก็ช่วยทำให้มันถูกต้องด้วยการออกไปจากบ้านของเราซะไม่ดีกว่าเหรอ?”

แคลร์รีบพูดแทรก “คุณแม่พูดอย่างนั้นได้ยังไง? ชาร์ลีเป็นลูกเขยของคุณแม่นะคะ! ”

"ลูกเขยกับผีแกล่ะสิ!" แม่ของเธอตะคอกว่า “ฉันไม่มีวันเอนไอ้คนขี้แพ้แบบนี้มาเป็นลูกเขยหรอกย่ะ! จะดีกว่านี้ถ้ามันไสหัวไปไกล ๆ ซะ! ”

แคลร์สะกิดชาร์ลีแล้วพูดว่า "ไปเถอะค่ะ เรารีบกลับไปที่ห้องกันดีกว่า"

ชาร์ลีพยักหน้าและเดินกลับไปที่ห้องทันที

พวกเขาแต่งงานกันมาสามปีแล้วแต่ไม่เคยรู้สึกว่าพวกเขาแต่งงานกันจริง ๆ เลยสักครั้ง เพราะแคลร์จะนอนบนเตียงในขณะที่เขานอนบนพื้นด้านข้าง

คืนนี้ชาร์ลีพบว่ามันยากมากที่จะหลับลงได้

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขาตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก เขายังไม่รู้ว่าจะไตร่ตรองเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างไร

ก่อนนอนแคลร์พูดว่า “คุณนายเลวิสเป็นยังไงบ้างคะ? ตอนนี้ฉันมีเงินอยู่ประมาณหนึ่งล้านบาท พรุ่งนี้คุณเอาไปช่วยเขาก็ได้นะคะ”

ชาร์ลีจึงกล่าวตอบว่า “ไม่เป็นไรแล้ว มีคนจ่ายเงินให้คุณนายเรียบร้อยแล้วล่ะ และได้ย้ายเธอไปรักษาที่อีสต์คลิฟฟ์แล้ว”

"จริงเหรอคะ?" แคลร์อุทานด้วยความตกใจ "ว้าว! ถ้าอย่างนั้นคุณนายเลวืสจะต้องดีขึ้นใช่ไหมคะ?"

"ใช่ครับ" ชาร์ลีกล่าว "คุณนายเลวิสทำความดีมาตลอดชีวิตและช่วยเหลือผู้คนมากมาย ตอนนี้มีคนได้ตอบแทนบุญคุณของเขาแล้วนะครับ"

"ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้นค่ะ" แคลร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้คุณก็สบายใจได้แล้วสินะคะ”

“ใช่ครับ”

“ฉันอยากนอนแล้ว มีหลายอย่างที่ต้องจัดการในบริษัทในช่วงนี้ ตอนนี้ฉันหมดแรงแล้ว”

"เกิดอะไรขึ้นในบริษัทเหรอ?"

“ช่วงนี้สถานการณ์ที่บริษัทไม่ค่อยดีเลยค่ะ คุณย่าต้องการไปร่วมกับบริษัทเอ็มแกรนด์กรุ๊ป แต่วิลสันกรุ๊ปอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของพวกเขา พวกเขาไม่แม้แต่จะปรายตามองมาที่เรา”

"จริงหรอ? ระหว่างวิลสันกรุ๊ปกับเอ็มแกรนด์กรุ๊ปไม่เคยมีการร่วมมือทางธุรกิจกันมาก่อนเลยเหรอครับ?"

แคลร์หัวเราะอย่างประชดประชัน “จะเป็นไปได้ยังไงกันคะ เราเป็นอะไรในสายตาของเอ็มแกรนด์ล่ะ ฉันบอกได้เลยว่าเราเป็นเหมือนเศษฝุ่นด้วยซ้ำ สำหรับพวกเขาแล้วแม้แต่ครอบครัวของเจอรัลด์ครอบครัวคู่หมั้นของเวนดี้ก็เป็นเพียงแค่ขี้เล็บของอาณาจักรเอ็มแกรนด์ นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่คุณย่าอยากให้เจอรัลด์กับเวนดี้รีบแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ตระกูลไวท์จะได้ช่วยสร้างความสัมพันธ์ของตระกูลเราแอ็มแกรนด์ได้ไงล่ะคะ”

ชาร์ลีพยักหน้าอย่างเข้าใจ

ตอนนี้ตระกูลวิลสันพยายามหาทางใช้กลอุบายทุกอย่างเพื่อต้องการเข้าร่วมกับเอ็มแกรนด์กรุ๊ป

อย่างไรก็ตามคุณท่านวิลสันคงไม่เคยคิดมาก่อนว่าตอนนี้เขาจะเป็นเจ้าของเอ็มแกรนด์กรุ๊ป...

เมื่อคิดได้ดังนี้ชาร์ลีจึงตัดสินใจเข้าครอบครองเอ็มแกรนด์กรุ๊ปและจะช่วยยื่นมือให้แคลร์ได้ทำธุรกิจของเธอให้สำเร็จ ตระกูลวิลสันไม่ได้ปฏิบัติต่อเธออย่างยุติธรรมและพวกเขาก็ยังดูถูกเธอมาตลอด ในฐานะสามีของเธอเขามีความรับผิดชอบที่จะช่วยให้ความเป็นอยู่ภายในตระกูลของเธอดีขึ้น

เขาคิดในใจว่า ‘แคลร์สามีของคุณเปลี่ยนไปแล้วนะ! ผมจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกคุณได้อีก! ผมจะทำให้ตระกูลวิลสันทั้งหมดก้มหัวให้คุณ!”

Kaugnay na kabanata

Pinakabagong kabanata

DMCA.com Protection Status