Share

ความหลัง

Author: Hawaii
last update Last Updated: 2025-12-03 18:59:41

“โอม มานั่งพักได้แล้วเดี๋ยวก็เป็นลมตายพอดี”ผู้เป็นพี่สาวตะโกนบอกน้องชายวัยสิบห้าที่กำลังพรวนดินอย่างขยันขันแข็ง

“พี่อันพักคนเดียวเถอะ เดี๋ยวน้องจะพยายามพรวนดินให้เสร็จเราจะได้กลับบ้านไวๆ”

“แต่ว่าโอมยังไม่ได้พักเลยทั้งที่พี่มานั่งพักแล้วตั้งสองรอบ”

“ก็พี่เป็นผู้หญิงส่วนผมเป็นผู้ชาย อีกอย่างผมไม่อยากให้พี่เหนื่อย”

ผู้เป็นพี่สาวทราบซึ้งในความเสียสละของน้องชายดังนั้นเธอจึงจัดสินใจออกไปช่วยผู้เป็นน้องเพื่อที่จะให้งานเสร็จไวๆแล้วน้องชายของเธอจะได้พัก และสองพี่น้องก็ช่วยกันทำงานกลางทุ่งนาโดยปราศจากเงาของผู้เป็นแม่ที่วันๆเอาแต่กินเหล้าและออกไปเล่นการพนันจนสองพี่น้องต้องดูแลกันเพียงลำพัง

“ถ้าพี่ไม่เอาอนาคตตัวเองมาทิ้งไว้กับผม ป่านนี้พี่คงได้ไปเป็นดาราไปแล้ว”ผู้เป็นน้องอดไม่ได้ที่จะกล่าวโทษตัวเองเมื่อเห็นว่าพี่สาวมีโอกาสหลายครั้งที่จะได้ไปเป็นดาราแต่พี่สาวของเขากลับปฏิเสธ

“การจะเป็นดาราได้มันไม่ง่ายขนาดนั้น อีกอย่างเรามีกันแค่สองคนพี่ไม่อยากทิ้งโอมไว้กับแม่ ถ้าโอมอยู่กับแม่พี่กลัวว่าโอมจะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด”ส่วนผู้เป็นพี่สาวก็ให้เหตุผลกับน้องชายอย่างต้องการให้น้องชายเข้าใจเธอ

“ไม่หรอกพี่ ผมไม่มีทางทำตัวเหมือนแม่”

“ทุกวันนี้โอมยังมีพี่ แต่ถ้าหากวันใดที่พี่ไม่อยู่โอมอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวแล้วก็ต้องหาเพื่อน แล้วเด็กวัยรุ่นแถวนี้ก็มีแต่ขี้เหล้าขี้ยา โอมอาจจะปฏิเสธเพื่อนได้ในช่วงแรกๆแต่คงปฏิเสธไม่ได้ตลอดหรอก”

“มันก็อาจจะจริงอย่างที่พี่ว่า แต่ถึงยังไงโอมก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของพี่”

“ตอนที่พี่รู้ว่าแม่กำลังตั้งท้องโอมพี่โกรธแม่มากเพราะตอนนั้นอยากเป็นลูกคนเดียว แต่พอเราสองคนเติบโตมาด้วยกันพี่กลับรู้สึกว่าโอมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตพี่ โอมเป็นกำลังใจเดียวที่ทำให้พี่มีแรงผลักดันในการอยากเรียนสูงๆแล้วมีงานดีๆทำเพื่อที่จะได้มีเงินส่งโอมเรียนหนังสือ พี่อยากเห็นโอมมีอนาคตที่ดี”ผู้เป็นพี่สาวแสดงเจตนาดีที่มีต้องน้องชายอย่างต้องการให้เขาเห็นคุณค่าในความพยายามที่ผ่านมาของเธอ

ส่วนเด็กหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ทราบซึ้งในความเสียสละของพี่สาวซึ่งมีอายุห่างกันเจ็ดปี

“แต่ว่าตอนนี้พี่ก็เรียนจบแล้วนี่”

“พี่ว่าจะหาสมัครงานแถวๆบ้านเรานี่แหละ จะได้ประหยัดค่าที่พักและเราก็จะได้อยู่ด้วยกัน พี่เองก็ต้องดูแลแม่ด้วย ส่วนโอมปีหน้าก็จะเข้ามอปลายแล้วนี่ว่าแต่เตรียมตัวบ้างหรือยัง”

“ผมอ่านหนังสือทุกวันเลยพี่ และหวังว่าคงสอบเข้าห้องกิ๊ฟได้”

“โอมหัวดีกว่าพี่ตั้งเยอะพี่เชื่อว่าโอมทำได้อยู่แล้ว”

“พี่อันคิดว่าผมจะทำได้จริงๆหรอ”

“ได้อยู่แล้วว่าที่วิศวกร ผู้เป็นพี่สาวกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องชาย”

“อย่าพูดแบบนั้นสิผมเขิน”เด็กหนุ่มมีท่าทีเขินอายเล็กน้อยเมื่อโดนแซวโดยผู้เป็นพี่สาว

ชายหนุ่มผู้มีความฝันอยากจะเป็นวิศวกร และความฝันของเขาคงไม่มีวันเป็นจริงถ้าหากไม่มีผู้เป็นพี่สาวคอยสนับสนุน เมื่อไหร่ที่ชายหนุ่มนึกถึงผู้เป็นพี่สาวไฟในการแก้แค้นของเขาก็ค่อยๆทวีคูณ

….

“เดือนหน้าก็เข้าสู่ฤดูฝนละ ดังนั้นพรุ่งนี้เธอต้องช่วยฉันซ่อมแซมหลังคาบ้าน”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวในขณะที่กำลังนั่งทานข้าวตอนใกล้ค่ำ

“พรุ่งนี้นายไม่ออกไปทำงานหรอ”ส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ถามชายหนุ่มด้วยความสงสัย

“ไม่ ฉันจะเข้าไปในเมืองอีกทีวันมะรืน”

คำตอบของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวเกิดความรู้สึกสับสนในใจขึ้นมาว่าเธอควรจะดีใจหรือเสียใจกันที่จะต้องอยู่กับเขาทั้งวันในวันพรุ่งนี้

“นายลางานสองวันติดเลยหรอ”

“ที่ถามคือกลัวจะอู้งานไม่ได้เหมือนตอนที่เธออยู่คนเดียวสินะ”

“ฉันเปล่านะ แค่ถามเฉยๆ”

“ยิ่งเธอไม่ต้องการเห็นหน้าฉัน ฉันยิ่งอยากอยู่รังควานเธอทุกวัน”ชายหนุ่มหันมาตอบหญิงสาวอย่างต้องการกวนประสาทเธอ

“อ้าว แล้วไม่คิดจะทำการทำงานเพื่อหาเงินเลยรึไง”

“ไม่อยากหา เพราะฉันสามารถอยู่ที่นี่ได้โดยที่ไม่ต้องมีเงิน”

“แต่ว่านายมีภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลฉัน ถ้าไม่มีเงินก็ส่งตัวฉันกลับไปหาพ่อ”

“ไม่มีทาง เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่จนกว่าฉันจะพอใจแล้วจะส่งกลับไปหาพ่อเธอเอง”พูดจบเขาก็ทานข้าวต่อ และพอทั้งสองทานข้าวเสร็จหญิงสาวก็ทำหน้าที่นำถ้วยชามไปล้างเหมือนกับทุกๆวัน

….

เช้าวันต่อมา..

“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้องดังพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่กำลังตกลงมาจากบันไดสไลด์หกขั้น ส่วนทางด้านชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงรีบปีนลงมาจากหลังคา

“โอ้ย!! เจ็บๆ”หญิงสาวร้องโอดโอยด้วยความรู้สึกเจ็บเมื่อร่างของเธอตกกระแทกกับพื้นดิน

“เป็นอะไรมากมั้ยเจ็บตรงไหนบ้าง”ชายหนุ่มรีบถามไถ่อาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“เจ็บข้อเท้ากับเอว”เธอกล่าวกับเขาในขณะที่พยายามประคองร่างตัวเองให้ลุกขึ้นยืน

“บอกเจ็บข้อเท้าแล้วจะลุกเองเพื่อ”ชายหนุ่มต่อว่าหญิงสาวแล้วส่ายหน้าก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว

“ทำอะไรของนาย!”ด้วยความที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเธอจึงรีบโอบไหล่เขาไว้แน่นอย่างกลัวตก และนั่นก็ทำให้ใบหน้าของทั้งเกือบแนบชิดกัน

“ก็จะพากลับขึ้นไปบนห้องไง”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับจ้องมองใบหน้ารูปไข่ จนหญิงสาวรีบหลบสายตาด้วยความเขินอาย

เมื่อถึงห้องชายหนุ่มก็รีบวางร่างเล็กที่ได้รับบาดเจ็บไว้ตรงแคร่ไม้ไผ่ จากนั้นเขาก็ไปหยิบผ้าผืนบางแล้วห่อน้ำแข็งเอาไว้ก่อนที่จะค่อยๆประคบข้อเท้าข้างที่พลิก

“โอ้ยๆๆเจ็บ..”หญิงสาวนั่งร้องโอดโอยด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวอยู่บนแคร่ไม้ไผ่โดยที่ใช้มือข้างนึงยันแคร่ส่วนอีกข้างกำลังจับตรงเอวที่ได้รับบาดเจ็บ

“ขอเท้าพลิกนี่แบบนี้ฉันคงต้องลาออกมาดูแลเธอสินะ”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“พาฉันไปหาหมอเถอะ ให้ฉันพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลดีกว่าเดี๋ยวออกค่าใช้จ่ายเองจะได้ไม่รบกวนนาย”

“อย่าบอกนะว่านี่เป็นแผนหาโอกาสหนี”ชายหนุ่มหยุดประคบเย็นแล้วเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ฉันไม่โง่ทำอะไรที่มันเสี่ยงพิการหรอกนะ อีกอย่างนายเป็นคนใช้ให้ฉันเอานั่นเอานี่ขึ้นไปให้เอง”

“ก็ดีแล้วที่ไม่พิการ”พูดจบเขาก็เริ่มประคบเย็นต่อ

“โอ้ย!เบาๆหน่อยสิ ฉันเจ็บ”

“งั้นกินยาแก้ปวดไปก่อนเดี๋ยวไปเอามาให้”

“ไปหาหมอไม่ได้หรอ?”

“กินซะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเข้าเมืองไปหาซื้อยืดพันเคล็ดมาให้”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวพร้อมกับยื่นยาและน้ำให้กับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ฉันไม่คิดหนีหรอก”หญิงสาวกล่าวกับชายหนุ่มก่อนที่เธอจะหยิบยาใส่ปากตามด้วยน้ำ

“ฉันจะขึ้นไปซ่อมหลังคาต่อ เธอเอาน้ำแข็งนี่ประคบเอวเองนะ”ชายหนุ่มยื่นน้ำแข็งที่ถูกห่อด้วยผ้าให้กับหญิงสาวก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลแค้นซ่อนรัก   ลมพายุ

    “นายไม่ไปทำงานตั้งหลายวันแล้วไม่กลัวโดนไล่ออกหรอ”หญิงสาวตัดสินใจถามในสิ่งที่สงสัยเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ไปทำงานติดต่อกันได้สี่วันถ้านับวันที่เขาลาด้วย“ก็ลาออกไปแล้ว”ชายหนุ่มเงยหน้าตอบหญิงสาวในขณะที่เขากำลังประคบเย็นตรงข้อเท้าให้กับเธอ“ห๊า นายพูดจริงหรือพูดเล่น”หญิงสาวแสดงสีหน้าตกใจเมื่อได้รู้ความจริงว่าชายหนุ่มได้ลาออกจากงานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ปักใจเชื่อ“พูดจริง”ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“นี่ฉันทำนายตกงานหรอ ขอโทษ”“ถ้าฉันไปทำงานแล้วใครจะดูแลเธอ กว่าข้อเท้าเธอจะหายคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณสองอาทิตย์”“ต่อไปฉันจะไม่ทำให้นายต้องเดือดร้อนอีก”“ช่างมันเถอะ แค่เธอไม่เป็นอะไรมากก็ดีแค่ไหนแล้ว”“ทำไมนายดูเป็นห่วงเป็นใยฉันทั้งที่มันไม่ควรเป็นแบบนั้นนี่”ตลอดระยะสองวันที่ผ่านมาชายหนุ่มดูแลเอาใจใส่หญิงสาวในยามที่เธอมีไข้และคอยประคบเย็นให้เธอทุกวันแถมยังอุ้มเธอห้องน้ำวันละหลายรอบอย่างไม่มีบ่น นั่นจึงทำให้หญิงสาวเกิดความสงสัยว่าเขาทำดีกับเธอไปเพื่ออะไร “ที่ฉันเป็นห่วงเธอและดูแลเธอเป็นอย่างดีก็เพราะว่าฉันรู้สึกผิดที่ทำเธอเจ็บตัว”“ไม่ นายอย่าคิดแบบนั้น”“ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันคิดแบบน

  • กลแค้นซ่อนรัก   อุบัติเหตุ

    ชายหนุ่มพยายามเร่งมือในการซ่อมแซมหลังคาเพื่อที่จะได้กลับมาดูแลหญิงสาวต่อ แต่แล้วเขากลับพบว่าเธอนั้นได้หลับไปแล้ว “ทำไมมันปวดขนาดนี้เนี่ย!”หญิงสาวตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดจากการที่ข้อเท้าของเธอเริ่มบวมช้ำ “ตื่นสักที แล้วนี่เธอหิวหรือยัง อาการเป็นยังไงบ้าง”เมื่อชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวตื่นแล้วจึงรีบกลับเข้ามาในห้องจากนั้นเขาก็รีบเข้าไปดูข้อเท้าข้างที่ได้รับบาดเจ็บ“มันเจ็บกว่าเดิมอีก”หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวดจนน้ำตาแทบไหลออกมา“เดี๋ยวฉันจะไปเอานำแข็งมาประคบให้อีกรอบ”พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาหาหญิงสาวอีกครั้งพร้อมกับถือชามข้าวกับน้ำแข็งที่ถูกห่อด้วยผ้า “เธอทานข้าวไข่เจียวไปก่อนเดี๋ยวฉันจะคอยประคบข้อเท้าให้”ชายหนุ่มยื่นข้าวไข่เจียวที่อยู่ในจานให้หญิงสาวก่อนที่เขาจะค่อยๆนั่งคุกเข่าเพื่อทำการประคบเย็นข้อเท้าข้างที่บวม“ไม่ต้อง เดี๋ยวทานข้าวเสร็จฉันจะประคบเอง”ส่วนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นจึงรีบปฏิเสธไม่ให้ชายหนุ่มประคบเย็นให้“เจ็บเอวด้วยไม่ใช่หรอ ถ้าก้มบ่อยๆมันจะยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่”ชายหนุ่มให้เหตุผลที่ไม่ต้องการให้หญิงสาวประคบเย็นด้วยตัวเองหญิงสาวนั่งตัวตรงแล

  • กลแค้นซ่อนรัก   ความหลัง

    “โอม มานั่งพักได้แล้วเดี๋ยวก็เป็นลมตายพอดี”ผู้เป็นพี่สาวตะโกนบอกน้องชายวัยสิบห้าที่กำลังพรวนดินอย่างขยันขันแข็ง“พี่อันพักคนเดียวเถอะ เดี๋ยวน้องจะพยายามพรวนดินให้เสร็จเราจะได้กลับบ้านไวๆ”“แต่ว่าโอมยังไม่ได้พักเลยทั้งที่พี่มานั่งพักแล้วตั้งสองรอบ”“ก็พี่เป็นผู้หญิงส่วนผมเป็นผู้ชาย อีกอย่างผมไม่อยากให้พี่เหนื่อย”ผู้เป็นพี่สาวทราบซึ้งในความเสียสละของน้องชายดังนั้นเธอจึงจัดสินใจออกไปช่วยผู้เป็นน้องเพื่อที่จะให้งานเสร็จไวๆแล้วน้องชายของเธอจะได้พัก และสองพี่น้องก็ช่วยกันทำงานกลางทุ่งนาโดยปราศจากเงาของผู้เป็นแม่ที่วันๆเอาแต่กินเหล้าและออกไปเล่นการพนันจนสองพี่น้องต้องดูแลกันเพียงลำพัง “ถ้าพี่ไม่เอาอนาคตตัวเองมาทิ้งไว้กับผม ป่านนี้พี่คงได้ไปเป็นดาราไปแล้ว”ผู้เป็นน้องอดไม่ได้ที่จะกล่าวโทษตัวเองเมื่อเห็นว่าพี่สาวมีโอกาสหลายครั้งที่จะได้ไปเป็นดาราแต่พี่สาวของเขากลับปฏิเสธ“การจะเป็นดาราได้มันไม่ง่ายขนาดนั้น อีกอย่างเรามีกันแค่สองคนพี่ไม่อยากทิ้งโอมไว้กับแม่ ถ้าโอมอยู่กับแม่พี่กลัวว่าโอมจะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด”ส่วนผู้เป็นพี่สาวก็ให้เหตุผลกับน้องชายอย่างต้องการให้น้องชายเข้าใจเธอ“ไม่หรอกพี่ ผ

  • กลแค้นซ่อนรัก   หวั่นไหว

    เช้าวันรุ่งขึ้น..“ตื่นได้แล้ว!”“ฉันเพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเองนะ”กว่าอาการปวดท้องของหญิงสาวทุเลาก็ปาไปเช้ามืดของอีกวันและนั่นจึงส่งผลให้เธอนอนไม่เต็มอิ่ม “ฉันไม่สน”พูดจบเขาก็ลากหญิงสาวลุกจากที่นอน“เดี๋ยวฉันไปเอง”หญิงสาวกล่าวด้วยเสียงเบาก่อนที่เธอจำใจลงไปหุงข้าวเช้าให้เขาตามปกติแม้จะอยากนอนต่อก็ตาม ความลำบากที่หญิงสาวพบเจอทำให้เธอคิดถึงชีวิตที่สุขสบาย เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้น้ำตาคลอ “วันนี้ฉันกลับดึกนะ พอดีต้องไปงานวันเกิดเพื่อน”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวก่อนจะเดินจากไป ส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ทำได้แค่พยักหน้ารับทราบแม้จะไม่เห็นด้วยกับเขาก็ตาม และพอรถกระคันเก่าขับแล่นออกไปแล้ว หญิงสาวจึงรีบซักผ้าต่อให้มันแล้วเสร็จจากนั้นเธอก็กลับขึ้นไปบนห้องพร้อมกับลากโซ่เล็กเส้นสาวขึ้นไปด้วย เมื่อถึงที่นอนร่างเล็กไม่รอช้าที่จะทิ้งตัวนอนลงด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียจากการที่เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ใกล้ค่ำหญิงสาวก็ปิดประตูหน้าต่างแล้วนอนคดตัวโดยที่เอาผ้าห่มคลุมหัวจรดเท้า เธอรอคอยให้ชายหนุ่มกลับมาแต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีวี่แววของเขาจนกระทั่งตกดึกเกือบเที่ยงคืน เสียงรถกระบะอันคุ้นเคยทำให

  • กลแค้นซ่อนรัก   ต่อต้าน

    เช้าวันต่อมา..“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มตกใจจนวิ่งออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังไม่ทันได้แปรงฟัน“เกิดอะไรขึ้น?”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังฝึกหุงข้าวด้วยตัวเอง แต่โชคร้ายโดนน้ำซาวข้าวลวกใส่แขน“น้ำแข็งๆขึ้นไปเอาน้ำแข็งมาให้ฉันหน่อย”หญิงสาวยื่นแขนที่โดนน้ำซาวข้าวร้อนๆลวกให้ชายหนุ่มดู ส่วนเขาที่เห็นดังนั้นจึงวิ่งขึ้นไปหยิบน้ำแข็งจากบนบ้านจากนั้นเขาก็ค่อยๆประคบน้ำแข็งบริเวณแผลที่บวมแดงของหญิงสาว “ฮือๆๆๆฉันเจ็บ”หญิงสาวร้องไห้โฮราวกับเด็กน้อยเมื่อไม่สามารถทนต่อความรู้สึกแสบร้อนบริเวณแขน ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงพาเธอขึ้นไปบนห้อง “ร้องไห้เป็นเด็กไปได้”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆในขณะที่กำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับเธอ“ก็มันทั้งเจ็บทั้งแสบร้อน ใครมันจะไปทนได้”หญิงสาวกล่าวด้วยความน้อยใจ“ก็เข้าใจว่ามันปวดแสบแต่ไม่จำเป็นต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งขนาดนั้น”ส่วนชายหนุ่มแม้จะบ่นกับหญิงสาวแต่ในใจลึกๆเขาก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้เช่นกัน“แล้วใครกันที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้”หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งน้อยใจเข้าไปใหญ่จนอดไม่ได้ที่จะกล่าวโทษเขาแบบทางอ้อม“ฉันไม่ได้เอา

  • กลแค้นซ่อนรัก   กระท่อมหลังน้อย

    ณ กระท่อมหลังน้อย“นายซื้ออะไรมาเยอะแยะเต็มรถเลย”หญิงสาวถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยเมื่อเห็นข้าวของเต็มท้ายกระบะ “ก็เห็นอยู่ว่าของเยอะทำไมถึงได้นั่งดูเฉยๆไม่คิดจะช่วยกันขนของเข้าบ้าน”“ก็เดี๋ยวนายจะหาว่าฉันยุ่งเลยขออยู่เฉยๆดีกว่า อีกอย่างฉันโดนล่ามโซ่อยู่”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าใกล้ค่ำแล้วเขาจึงตัดสินใจไขกุญแจให้หญิงสาว จากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันขนของที่อยู่ท้ายกระบะเข้าไปไว้ในบ้าน และในขณะที่ชายหนุ่มยกฟูกที่นอนเข้าไปไว้ในบ้านอย่างทุลักทุเลหญิงสาวจึงใช้โอกาสนั้นแอบหยิบกุญแจรถกระบะคันเก่าอย่างระมัดระวังไม่ให้เขารู้ตัว เมื่อได้กุญแจมาแล้วเธอก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีค่อยๆไขประตูรถกระบะ ส่วนชายหนุ่มที่จัดการวางฟูกที่นอนบนแคร่ไม้ไผ่เสร็จก็รีบเดินออกจากห้องเพื่อช่วยหญิงสาวขนของต่อ แต่แล้วเขาก็พบว่าเธอกำลังพยายามจะสตาร์ทรถยนต์เพื่อหนี “ให้ตายเถอะมันขับยังไงเนี่ย!”หญิงสาวหายใจเข้าออกลึกๆแล้วตั้งสติเพื่อคิดหาวิธีสตาร์ทรถกระบะคันเก่า โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากระกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของเขา “ให้ฉันสอนวิธีสตาร์ทมั้ย”ชายหนุ่มเปิดประตูรถออกแล้วยืนดูการกระทำของเธออย่างใจเย็น “ไอ่บ้า! ฉันตกใจหมด”ส่วนหญิง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status