มันเหมือนไฟฟ้าในห้องดับพรึ่บลง!! เหมือนเวลาทั้งโลกหยุดหมุนลงชั่วขณะ อบเชยนอนตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกโต จ้องมองผู้ชายที่อุกอาจถึงขนาดปล้นจูบแรกของเธอไปแบบไม่ให้ตั้งตัว เรียวปากสีเข้มทาบทับลงมาแรงๆ เขาเอียงหน้า พยายามบดแยกให้อบเชยยอมเผยอปากตอบรับ กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกโชยเข้าจมูกเธอ ดีแลนคงดื่มหนัก จนทำให้เขาขาดสติ จนกระทั่งเขาเผลอตัวมาจูบกับคนแบบเธอ อบเชยพยายามขัดขืน แต่เมื่อนึกได้ คนเมามักจะจำไม่ได้ตอนที่สร่างเมาแล้ว จูบ...ที่ตนเองได้แต่ฝันและแอบมโนเอาเองยามเหงาตามประสาสาวชั่งฝัน มันห่างไกลเหลือเกินกับที่รู้มา บทบรรยายในหนังสือนวนิยายที่เคยอ่าน บรรยายเสียจนอบเชยเคลิ้มฝัน แต่เมื่อตนเองมีบทเรียนแรกเกี่ยวกับจูบ แถมยังเป็นจูบกับคนที่แอบเก็บไว้ในใจ มันไม่เหมือนที่ฝันไว้จนอบเชยแอบผิดหวังนิดๆ
คนเมาที่ครองสติไม่อยู่ แถมซ้ำฤทธิ์ยายังบีบบังคับให้ยอมเผยความปรารถนาลึกๆ ในใจออกมา
กลีบปากนุ่มนิ่มที่ดีแลนเวียนดูดซับความหวานอยู่นี่ หวานล้ำยิ่งกว่าความหวานของทุกสิ่งบนโลก ขนาดน้ำผึ้งรวงเดือนห้าที่ว่าหวานยังไม่เท่า
ดีแลนตะปี้ตะบันจูบ...เขาเถลปากไปทั่ว และเมื่อเถลเลยไปยังซอกคอ ริมฝีปากของอบเชยจึงเป็นอิสระ
“คุณดีจูบไม่เก่งเหมือนที่เชยเคยฝันไว้เลยค่ะ”
เสียงบ่นลอยตามมาติดๆ ดีแลนตัวกระตุก เขาใช้ฝ่ามือดันที่นอนนุ่ม จ้องหน้าอบเชยพร้อมกับคำรามในลำคอ
ชายหนุ่มสะบัดศีรษะ ยัยเด็กบ้าพูดเสียจนความมั่นใจของเขากระเจิดกระเจิง ยัยเด็กไม่ประสา ต่อว่าเขาว่าจูบเขาห่วย ไม่เอาไหนสำหรับเธอ
“เธออยากได้จูบแบบไหนล่ะยัยเด็กบ้า!” ดีแลนลดตัวลงมา กระซิบแนบกลีบปากอิ่ม
อบเชยหน้าร้อนฉ่า รีบเอียงหน้าหนีปลายจมูกที่เสียดสีอยู่ข้างแก้ม
“เชยไม่เคยจูบนี่คะ เชยไม่รู้หรอก” เพราะดีแลนมีสติไม่เต็มร้อย อบเชยเลยกล้าต่อปากต่อคำกับเขา
“ดีแล้ว” ดีแลนกล่าวเสียงฉุนๆ เมื่อดันไพร่ไปนึกถึง หากอบเชยเคยจูบกับชายอื่นก่อนหน้าเขา “จำไว้นะยัยเชย ห้ามเธอไปจูบกับคนอื่นอีก นอกจากฉันคนเดียว!” ชายหนุ่มสั่ง โน้มตัวลงคลอเคลียซอกคอหอมๆ
“อย่าค่ะ เชยจั๊กจี้” อบเชยเกือบเผลอตัวหัวเราะออกมา เมื่อไรหนวดของดีแลนถูไถกับผิวนุ่มๆ ของตนเอง
ดีแลนอารมณ์ดีจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม แม้ความรุ่มร้อนในร่างกายจะกระตุ้นเตือนให้เขาลงมือปลดปล่อยความต้องการของตนเองสักที แต่เวลานี้เขากำลังมีความสุข การได้ใกล้ชิดกับอบเชยคือความฝันที่เขาเองก็เคยฝันเอาไว้
“อย่ายิ้มแบบนี้สิคะ” เสียงหวานเอ่ยเบาๆ ดวงตาหวานซึ้งมองดีแลนตาปรอย
“เธอด้วย อย่ามองใครแบบนี้ล่ะ” แววตาหวานๆ ที่เห็น ดีแลนอยากเก็บไว้ เขาต้องการให้อบเชยมองแค่เขาเท่านั้น
มันคงเป็นเพราะอบเชยเริ่มรู้สึกคุ้นเคย ดีแลนตรงหน้าไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่ผ่านมา เขาเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไปที่อบเชยกล้าที่จะพูดคุยด้วย ไม่เหมือนเวลาที่เขาปกติ แค่ดีแลนมอง อบเชยก็กระเจิดกระเจิง เธออยากหนีดีแลนในลุคแบบเคยเห็นที่สุด
ปลายจมูกเล็กๆ ย่นยู่ เหมือนต้องการต่อต้านคำสั่งของเขา
ดีแลนยกมือขึ้นใช้ปลายนิ้วคิ้บจมูกของอบเชยไว้ พร้อมทั้งโยกเบาๆ
“ถ้าฉันเห็นเธอ มองคนอื่นด้วยสายตาที่เคยใช้มองฉัน ฉันจะควักลูกตาเธอทิ้ง!” ชายหนุ่มขู่สำทับ
เขาก้มลง จรดปลายจมูกกับผิวแก้มนุ่ม จนอบเชยต้องรีบหดคอหนี
“คุณดีเมาแล้วจะกลับบ้านยังไงคะ” อบเชยเสเปลี่ยนเรื่องพูด ระยะห่างของเธอกับเขาหดสั้นลงทุกทีๆ
“ฉันไม่กลับ ฉันจะนอนนี่” ดีแลนกล่าวเสียงพร่า และตาของเขาก็พร่ามัวแล้วเช่นกัน
“แต่เชยต้องกลับแล้วค่ะ กลับช้ากว่านี้ไม่มีรถเมล์กลับบ้านแน่” อบเชยขืนตัว พยายามหนีออกจากวงแขนของดีแลน
ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เขาส่ายหน้า “ฉันไม่ให้กลับ อยู่นี่กับฉันไม่ได้เหรอ?” เสียงออดอ้อนจากคนที่ตัวเองแอบชอบ อบเชยเลยทำอะไรไม่ถูก ริมฝีปากของอบเชยยื่นออกมา เมื่อเธอตัดสินใจไม่ถูก ระหว่างรีบไปจากตรงนี้ หรือจะอยู่เป็นเพื่อนดีแลนที่เมาไม่รู้เรื่อง
อบเชยมัวแต่คิด ดีแลนเลยตัดสินใจแทนให้ เขาก้มลง อ้าปากงับริมฝีปากที่ยื่นออกมาของอบเชย จนสาวเจ้าสะดุ้ง! ดีแลนทิ้งตัวลงทับ เขาปิดกั้นการดิ้นของอบเชยด้วยการรวบมือเล็กๆ ของหล่อนชูขึ้นเหนือศีรษะ และกดไว้ด้วยแรงที่เหลืออยู่ แล้วจึงเริ่มกระบวนการจูบจริงๆ ปลายลิ้นร้อนชื้นแทรกเข้าไปในโพรงปาก ช่วงจังหวะที่อบเชยเตรียมจะร้องห้าม
เรียวลิ้นสากร้อน ดูดซับเสียงห้าม เขาเบียดปากเถลซ้าย ขวา เริ่มจูบแบบจริงจังและอบเชยทำได้แค่ตัวสั่นสะท้าน
เด็กสาวไม่ประสาพริ้มเปลือกตาหลุบลง เรือนกายอ่อนยวบเพราะอนุภาพร้อนแรงของจูบที่เจ้าตัวไม่เคยลิ้มรส
มือของดีแลนทำงานสัมพันธ์กับความรุ่มร้อน เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งถูกชายหนุ่มถลกขึ้นสูง เขาอยากสัมผัสเนื้อแท้ของอบเชย อยากสูดดมหล่อนให้ทั่วทั้งตัว...และเสื้อตัวใหญ่มันเกะกะ ดีแลนสัมผัสอบเชยได้ไม่ทั่วถึง กระดุมเม็ดเล็กๆ จึงถูกปลด และคนไม่ประสาก็ดันเผลอตัวให้ความร่วมมือเสียแบบนั้นเอง
อบเชยแอ่นตัวยกบั้นท้ายขึ้นสูง มันเลยเป็นความสะดวก ดีแลนจึงปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนร่างกายของอบเชยได้โดยไม่ติดขัด กางเกงผ้ายืดหลุดออกไปจากสะโพกผาย ตามติดด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ และชั้นในผ้าลูกไม้เป็นชิ้นต่อไป
“เชย...หนาวเหรอ?”
ดีแลนถามเสียงพร่า ผิวเนื้อของอบเชยเต้นระริก เขาไล้มือไปตามผิวเนียนเรียบ และแอบขบเม้มเบาๆ แสดงความเป็นเจ้าของเสียหลายจุด
“ปะ เปล่าค่ะ คุณดีแน่ใจเหรอคะว่าจะทำแบบนี้กับ...เชย?” หญิงสาวถามเสียงสะท้าน
“แน่ใจสิ...” ดีแลนตอบเสียงพร่า ไม่มีครั้งไหนที่เขามั่นใจเท่าครั้งนี้ ความต้องการล้นอก กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ หากเขาหยุดลงแค่นี้ คนที่ตายน่ะคือเขา ไม่ใช่อบเชยหรอก
ดีแลนเสียดสีเนื้อตัวร้อนระอุ กับผิวเนียนนุ่มที่เย็นเฉียบ เขาจะช่วยให้อบเชยหายหนาว ด้วยการใช้ร่างกายของตนเองห่อหุ้มหล่อน
“อะ...” แรงเสียดสีทำให้อบเชยรู้สึกแปลกๆ เธอเผลอตัวคราง แล้วก็ต้องรีบตะครุบปากตัวเอง ผิวหน้าแดงซ่าน เพราะสายตาวาวหวานมองมายังตนเอง
ดีแลนยิ้มกริ่มเขาไม่หยุดขยับ ยิ่งชิดใกล้ไฟปรารถนาก็ยิ่งลุกกระพือ
ซับในตัวน้อยถูกปลายนิ้วของดีแลนรั้งจนหลุดไปจากสะโพกได้ในที่สุด ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง เขามองความเย้ายวนตรงหน้าด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม กระไอปรารถนาฉีดพล่าน ชายหนุ่มลดตัวลง สวมกอดอบเชยไว้ ขณะที่ประคองความขึงขังจรดจ่อปากทางสวรรค์
บั้นเอวแข็งตึงกดดันความอลังการแทรกลึกลงกึ่งกลางความฉ่ำเยิ้ม
อบเชยผวาเยือก!! เธอรีบกระถดสะโพกถอยหนี รู้สึกตึงไปทั้งหน้าขาแถมยังเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะร้องห้าม เมื่อมีบางอย่างแทรกลึกเข้าในร่างกายตัวเอง
“ชูว์!” เสียงปลอบใจเบาๆ กับปลายจมูกที่เฉียดแก้มไปมา
อบเชยกัดฟัน หลับตาปี๋ เธอถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว...
“ทนหน่อยนะยัยเด็กดื้อ” ดีแลนกระซิบปลอบ เขาเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ผุดซึมขึ้นมาเหนือหน้าผากกลมกลึงให้ด้วยความรู้สึกอ่อนเชื่อม
อบเชยหลับตา ส่ายหน้าไปมา มันเจ็บร้าวจนอยากร้องไห้ แต่หากทำแบบนั้น ดีแลนอาจคืนสติ และเขาจะต้องเกลียดเธอไปตลอดชีวิต หญิงสาวพยายามอดทน เธอกล่ำกลืนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น จนกระทั่งช่วงเวลาแห่งความทรมานจบสิ้นลง ร่างกายของเธอปรับตัวจนคุ้นกับสิ่งแปลกปลอมที่ดึงดันเข้ามา จากนั้นอบเชยก็จำอะไรไม่ได้อีก...พายุอารมณ์ที่ดีแลนโยนใส่ ยิ่งกว่าพายุเกย์ในตำนาน ความร้อนแรงนั่นแทบทำให้เธอแทบขาดใจตาย
แรงโหมที่ดีแลนกระแทกอัด อบเชยผวาเยือกทุกครั้ง...
เธอครางจนคอแห้ง วิงวอนเขาด้วยน้ำเสียงน่าสมเพช...เพราะเสียงที่อบเชยได้ยิน เธอไม่แน่ใจว่าเป็นเธอหรือไม่ที่พูดออกมา
บทบรรยายในนวนิยายที่เคยอ่านผ่านตา กลายเป็นหนังสือเรียนเด็กชั้นประถม...ซึ่งบรรยายได้ไม่ถึงครึ่งกับความเป็นจริงที่ตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่เลยสักนิด
บทรักแสนหวาน ดุเดือดจนเตียงนอนแทบพัง คลื่นพายุลูกแล้วลูกเล่าซัดใส่ อบเชยเนื้อตัวสั่นระริก เธอถูกจับโยนเหมือนปุยนุ่น หนักอึ้งยิ่งกว่าแบกหินไว้บนสองบ่า และเมื่อถึงจุดสิ้นสุด อบเชยกรีดร้องออกมาสุดเสียง เธอตะกายแผ่นหลังของดีแลน แอ่นตัวจนโค้งงอ เมื่อกระโจนแตะสวรรค์ชั้นฟ้าได้สำเร็จ
ดีแลนปลดปล่อยความต้องการของตนเอง เขาฉีดอัดสายธารสวาท สาดซัดใส่อบเชย
แล้วก็ทิ้งตัวนอนแผ่...หลับสนิทเพราะฤทธิ์น้ำเมา ที่ผสมไว้ด้วยยาปลุกอารมณ์
ชายหนุ่มสิ้นฤทธิ์ แต่อบเชยกลับต้องนอนลืมตาโพลง!!
อบเชยผวาเยือก หลังสิ้นเสียงหวานหวาม ดีแลนแนบเรียวปากร้อนผ่าว เขาบดจูบเบาๆ พยายามที่จะยั้งความรุ่มร้อนในกายเอาไว้ เพราะถึงตนเองกับอบเชยจะผ่านจุดอันตรายกันมาแล้ว แต่ตอนนั้นเขาเมา และจำอะไรไม่ได้เลย ดีแลนไม่รู้ว่าความปรารถนาที่เขายัดเหยียดให้อบเชยจะมากน้อยแค่ไหน เขาอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้ และลบล้างความทรงจำแย่ๆ ความใคร่คือความปรารถนาที่ล้นอก แต่สำหรับดีแลน เขาอยากมอบแต่สิ่งสวยงามให้อบเชย ครั้งนี้เขาจึงอยากแก้ตัวสอนบทรักที่เกิดจากความรัก ไม่ใช่ตัณหา ราคะเท่านั้น ให้อบเชยได้รู้จัก“ขา คุณดี...ชะ เชย”หญิงสาวขานรับเสียงแผ่วปร่า เธอรู้สึกเหมือนใจจะขาด ลมหายใจสะดุด และรู้สึกปั่นป่วนทรมาน“ฉันจะทำให้เชยมีความสุข เรามาล้างความทรงจำเก่าๆ และมีความสุขไปพร้อมกันนะเชย”ดีแลนกระซิบตอบ เขาพรมจุมพิตทั่วแผ่นท้อง ก่อนจะค่อยๆ กระถดตัวลงต่ำ จุดมุ่งหมายคือปลายทางสวรรค์ที่จะช่วยปลดเปลื้องความทรมานให้กับตนเองและอบเชยอบเชยพยักหน้ารับรู้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามทำตัวสบายๆ เธอไม่มีอะไรให้หวาดกลัว เมื่อเธอกับดีแลน มีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้ ในฐานะสามี ภ
เพราะเธอกับดีแลนคงเหมือนคนแปลกหน้า หากบังเอิญย้อนกลับมาเจอกันอีกครั้งต่อให้เธอจงรักภักดีกับเขาแค่ไหน เธอก็คงเป็นได้แค่เศษฝุ่นในสายตาของเขา ไม่มีทางเป็นตัวเป็นตนได้เหมือนตอนนี้ หากตอนนั้นเธอฟูมฟาย และแพร่งพรายความลับในใจให้มารดารู้เข้าดีแลนยกมือกรีดรอยน้ำตาที่เอ่อซึมขึ้นมาให้ เขาโน้มตัวจูบซับรอยน้ำตานั่นอีกที ด้วยความอ่อนโยนที่มี หรือเท่าที่ตนเองจะแสดงออกให้คนตัวเล็กได้รู้หัวไหล่บอบบางสั่นระริก อบเชยคงพยายามกลั้นความเสียใจไว้“ฉันขอโทษ บางครั้งผู้ชายก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความจริง”ชายหนุ่มกล่าวปลอบขวัญ ทั้งอบเชยและเขา ยังเด็กมากในตอนนั้น เขาโตกว่าก็จริง แต่หากทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป วันนี้คงไม่ได้กอดอบเชยไว้แนบอกเช่นนี้ ในวันที่เขาโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของอบเชยได้ ดีแลนอดทนมากแค่ไหน อบเชยไม่มีวันเข้าใจ“เชยปวดใจทุกครั้ง ทุกครั้งที่สายตาของคุณดี มีแววตาเกลียดเชยเช่นนั้น”ณ.วันนั้น อบเชยชาด้าน ความรักที่มีต่อมารดา คือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่ทำให้อบเชยฝืนยิ้มและประคองตัวเองผ่านวันอันเลวร้ายนั่นมาจนได้&ldquo
“เชยไม่สวย ไม่เซ็กซี่ เหมือนที่คุณดีตั้งความหวังไว้เหรอคะ?” หางเสียงสั่นพร่า ที่เข้าใจมาตลอด ดีแลนชอบที่เธอเป็นเธอ แต่เวลานี้เขากำลังเปรียบเทียบเธอกับใคร คู่ควงเก่าๆ ของเขาอย่างนั้นเหรอ? “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น” ดีแลนรีบกระโจนลงจากเก้าอี้ เดินมาหยุดข้างอบเชย เขาทรุดนั่งบนส้นเท้า เงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า “ฉันเคยฝันไว้หน่ะ แต่ไม่ได้อย่างฝันก็ช่างมันเถอะ ขอแค่มีเชย ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว” มันคือความฝันตามประสาผู้ชาย นอนกอดกับคนรู้ใจบนเตียงนุ่มๆ ในบรรยากาศหวานๆ หลังพิธีวิวาห์ “เชยอาจจะดีไม่พอ เหมือนที่คุณดีต้องการนะคะ” ความน้อยใจทำให้อบเชยตัดพ้อต่อ เธอพยายามดึงมือของตัวเอง ออกจากอุ้งมือของอีกฝ่าย “ไปกันใหญ่แล้ว ฉันจะทำให้เชยรู้
หลังพูดออกมา คำพูดเหล่านั้นคือนายเรา ผลสะท้อนของคนกลับกลอก จะไม่มีคนรอบตัวฟังเขาอีก แม้บทสุดท้ายเขาจะพูดความจริง เพราะความเคลือบแคลงฝังอยู่ในความทรงจำเสียแล้ว พูดผิดเพียงครั้งเดียว ก็ลบล้างความเชื่อมั่นของเจ้าของคำพูด ตลอดชีวิต คราใดที่เขาพลาด คนเหล่านั้นก็จะนำคำพูดที่เขาเคยออกปากไว้มาทับถม... “เชยเชื่อคุณดีค่ะ” อบเชยฝืนยิ้ม คนตรงหน้าคือคนที่ตนเองฝากชีวิต หากเธอปล่อยให้ความระแวงเกาะกุมตั้งแต่นาทีแรกของการเริ่มต้น จากนี้ไปคงหาความสุขไม่ได้ สู้ปล่อยอดีตทิ้งไว้เบื้องหลัง ก้าวไปข้างหน้าจับมือคนของเราไว้แน่นๆ อุปสรรคไม่ได้มีแค่นี้ นี่เพิ่งเป็นการเริ่ม ถนนที่เธอกับดีแลนเดิน ยังอีกยาวไกล มือเรียวเล็กสอดวางบนอุ้งมือหนา อบเชยเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ 
“เพราะพ่อ...คือพ่อแกไงอาตี๋” เดวิดตอบแบบไม่ขยายความ ท่านรู้ อบเชยไม่มีทางทำให้บุตรชายของท่านเจ็บตัว หล่อนบูชาดีแลนยิ่งกว่าเทวดาเสียอีก “อบเชย ถ้าลูกแม่ดื้อนัก บอกแม่ก็ได้นะ เดี๋ยวแม่จัดการให้เอง” ปรารถนาพูดสอด ตอนที่บรรจงหลั่งน้ำเย็นชื่นลงบนปลายนิ้วมือของอบเชย “โห!” เสียงครางท้วงดังเบาๆ จากผู้ชายตัวใหญ่ใบหน้าขาวดั่งไข่ปลอก “ทำไม...มีปัญหาเหรอไงดีแลน ลูกหน่ะ ไม่มีใครกล้าขัดใจหรอกนอกจากแม่” นางเปรยเสียงกระซิบ ก่อนจะหลั่งน้ำสังข์บนปลายนิ้วของดีแลน “ไม่มีใครรักผมเลย!” ชายหนุ่มครางเสียงออดๆ เหมือนมอดกัดไม้ผุๆ “เอ่อ...เชยรักคุณดีค่ะ เชยไม่ตีคุณดีแน่” อบเชยกระซิบเสียงอุบอิบ ผิวแก้มร้อนฉ่า&
บทที่20.วันที่ความรักสุกงอมเวลาเคลื่อนมาถึงฤกษ์ดีช่วงเช้า ดีแลนก็ต้องออกไปตั้งขบวนแห่ขันหมากตามประเพณี เขาได้เจอมารดาที่นั่น รวมทั้งบิดาด้วย แต่ก็ยังไม่เห็นอบเชย “แม่อะ ผมเลยไม่ได้เห็นอบเชยเป็นคนแรกเลย” ดีแลนบ่นพึมพำ ตอนที่เดินผ่านประตูบ้านหวังเข้ามา “เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้ว อบเชยไม่หนีไปไหนหรอกน่า” ปรารถนากระซิบดุ เริ่มระอากับความรักออกนอกหน้าของบุตรชายเหลือเกิน เดวิดได้แต่หัวเราะ ท่านส่ายหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อท่านพอจะเข้าใจความคิดของดีแลน สมัยหนุ่ม ท่านเองก็เป็นแบบนี้ ดีแลนใจเต้นตึกตัก เขายืดคอสูงๆ พยายามมองหาอบเชย หญิงหนึ่งเดียวในดวงใจ ณรงค์เดินอยู่ข้างๆ มีอดัม