กำราบรัก 4
เวลาล่วงเลยเลยเข้าสัปดาห์ที่สองของการมาช่วยคุณทีทำงานตามคำสั่งพ่อเพื่อแลกกับอิสรภาพของเธอ ซึ่งกุญแจซอลเคยยื่นข้อตกลงกับพ่อว่าถ้าหากคุณทีเป็นคนไล่เธอกลับเองข้อตกลงนี้ต้องเป็นอันยุติ
ในตอนแรกเธอคิดว่าคุณทีจะทนเธอได้ไม่เกินสามวันด้วยซ้ำแต่นี่อะไร เขาทนเธอมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้วแถมยังกุมความลับของเธอไว้ด้วย เธอจึงแกล้งเขาได้ไม่มากเท่าแผนการในหัว
ไลน์ ไลน์
แก๊งสมบัติวิศวะ
สายฟ้า : คืนนี้วันเกิดไอป๊อบ
พายุ : ร้านเดิมนะ
คิม : ไอซอล หายไปเลย
พายุ : หนูซอลของพวกมึงโดนพ่อคุมว่ะ ฮ่าๆ
กุญแจซอล : เงียบไปเลย ไม่มีใครคุมสักหน่อย
สายฟ้า : หรอจ๊ะ ไม่มีคนคุมแต่ออกมาหาเพื่อนไม่ได้เลย
กุญแจซอล : กูแค่ขี้เกียจ
พายุ : หราาาา
กุญแจซอล : เออสิ วันนี้เจอกัน ใครสายเลี้ยง
- chat end -
เจ้าของใบหน้าน่ารักทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มสีดำสนิทในห้องนั่งเล่น สมองกำลังคิดหาวิธีขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้ ขืนครั้งนี้ไม่ไปอีก มีหวังพวกมันได้ล้อเธอจนลูกบวชแน่
“คุณหนูซอลสวัสดีครับ นี่ขนมครับ”
กรเดินเข้ามาทักทายกุญแจซอลในห้องนั่งเล่นในมือถือถุงขนมมากมายยื่นส่งให้เธอ
“สวัสดีค่ะ ขนมให้ซอลหรอคะ”
กุญแจซอลรับถุงขนมมาถือไว้ เธอสนิทกับกรที่สุดในบรรดาลูกน้องของทีเนื่องจากเจอกรบ่อยที่สุด จะว่าไปงานของกุญแจซอลก็ไม่ค่อยได้เจอใครสักเท่าไหร่นะ
ก็คุณทีหนะให้เธอคอยดูแลเขาเฉยๆ ในหนึ่งวันก็จะมีแค่ไปปลุกเขาตอนเช้า จัดเตรียมเสื้อผ้า ทำอาหารเช้า อาหารเย็นแต่บางวันกุญแจซอลก็แถมอาหารกลางวันไปส่งถึงบริษัทให้ด้วย และก็เรื่องดูแลบ้านทั่วไปโดยมีแม่บ้าน คนสวนคอยช่วยเธอไม่ห่าง
ตอนไปเล่าให้เพื่อนฟังถึงงานที่เธอได้รับ เพื่อนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่มันหน้าที่เมียชัดๆ แต่กุญแจซอลกลับไม่คิดอย่างนั่น เธอคิดว่านี่มันหน้าที่แม่บ้านต่างหาก
“คุณทีซื้อมาฝากคุณหนูซอลครับ”
“อ๋อค่ะ แล้วคุณทีล่ะคะ”
“คุยโทรศัพท์อยู่ครับ”
กรตอบอย่างสุภาพ เขาค่อนข้างชื่นชอบเธอเพราะเธอเป็นคนที่มีพลังบวกในตัวสูงมาก
ตั้งแต่กุญแจซอลเข้ามาดูเหมือนเจ้านายเขาจะอารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนแถมใจดีขึ้นเป็นเท่าตัวจนพนักงานบริษัทปลื้มใจกันไปตามๆกัน
นี่กระมังที่เขาบอกว่า อยู่ใกล้คนคิดบวก เราจะซึมซับพลังบวกเหล่านั้นเข้าไปด้วย
ก๊อก ก๊อก
กุญแจซอลถือถาดขนมเข้ามาในห้องทำงาน ส่งยิ้มกว้างในทั้งสองคนซึ่งกำลังนั่งทำงานกันอยู่ เนื่องจากมีงานด่วน หลังจากพบลูกค้าเสร็จกรเลยต้องมาทำงานล่วงเวลาในวันหยุดแบบนี้กับท่านประธาน
“ทำไมถือมาเอง”
ทีหันไปเอ็ดเด็กสาวเมื่อเห็นเธอเดินถือถาดขนมที่ดูใหญ่เกินตัวเล็กๆของเธอก่อนจะลุกไปรับถาดขนมจากเธอมาถือไว้เอง กรจึงรีบเข้าไปรับถาดขนมต่อจากเจ้านายอีกที
“ไม่เป็นไร พักสักสิบนาทีแล้วกัน”
กรพยักหน้ารับ เดินออกจากห้องไปทิ้งให้เจ้านายได้มีเวลาอยู่กับสาวน้อยที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ตามลำพัง
เมื่อกรเดินออกไป ทีจึงเดินถือถาดขนมไปวางลงบนโต๊ะซึ่งจัดไว้สำหรับรับประทานอาหารว่างก่อนจะเหลือบมองเด็กซนที่เอาแต่ยืนทำหน้าเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูดออกมาสักที
“มีอะไร?”
คนโดนถามยิ้มตาหยีเห็นลักยิ้มสองข้าง ค่อยๆกระดึ๊บ กระดึ๊บเข้าไปหาที
“คือหนูซอลจะขอไปหาเพื่อนอะ”
“ไปสิ กลับมาก่อนหกโมงครึ่งล่ะกัน”
ทีอนุญาตพลางหยิบชาร้อนขึ้นดื่ม เขาไม่ใช่ผู้ปกครองใจร้ายขนาดที่ว่าจะไม่ยอมให้เด็กในปกครองไปไหนเลยแค่เธอบอกเขาทุกครั้งและกลับมาตรงเวลาก็พอแล้วแต่ดูเหมือนคำอนุญาตของเขาจะไม่เพียงพอสำหรับคุณหนูซอล
“หนูซอลนัดกันสองทุ่มอะ”
ดวงตาคมกริบตวัดมองกุญแจซอลนิ่ง ความเย็นยะเยือกแผ่ไปทั่วห้องจนคนโดนมองต้องรีบพูดต่อ
“หนูซอลกลับไม่เกินเที่ยงคืนสัญญา”
“วันนี้ฉันไม่ว่าง”
“หนูซอลไม่ได้ชวนคุณทีสักหน่อย หนูซอลจะไปคนเดียว”
คราวนี้ดวงตาคมส่งรังสีเย็นยะเยือกออกมามากกว่าเดิม ทีวางขนมในมือลง ยกมือขึ้นกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มองตรงไปยังกุญแจซอลซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล
“ไม่อนุญาต”
“โธ่ว คุณทีอะ ทำไมไม่ให้ไปอ่า”
“อย่างอแง”
กุญแจซอลเดินไปหยุดยืนตรงหน้าร่างสูง ยกมือขึ้นกอดอกตามเขา พูดด้วยใบหน้าแสนงอนอีกครั้ง
“คุณทีไม่มีเหตุผล”
“พ่อเธอฝากฝังให้ฉันดูแลเธอ”
“แล้วยังไงคะ”
ทีเอื้อมมือไปดึงแก้มป่องออกอย่างหมั่นเขี้ยว เขาอยากกัดปากยื่นๆนั่นด้วยซ้ำแต่ก็ต้องอดใจไว้
“ฉันปล่อยเธอไปคนเดียวไม่ได้ มันอันตราย”
“หนูซอลไปกับเพื่อน ไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย”
เด็กดื้อยังคงเถียงต่อ ทีเลยลุกขึ้นยืนเต็มความสูงวางมือลงบนหัวเจ้าของใบหน้ามู่ทู่
“อย่าดื้อ ไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไป”
“ทีเร็กใจร้าย”
กุญแจซอลปัดมือหนาออกจากหัวก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป ทีหยิบชาขึ้นจิบมองตามหลังเด็กน้อยไปจนลับตา
“คุณหนูซอลเป็นอะไรหรอครับ ทำหน้าน่าเอ็นดูเชียว”
กรเดินเอ่ยถามเจ้านายตัวเองเมื่อเดินเข้ามาในห้อง เมื่อครู่เขาเดินสวนกับกุญแจซอลซึ่งหน้าตามู่ทู่ไม่ยิ้มแย้มเหมือนตอนแรก
“น่าตีหนะสิไม่ว่า”
เวลาล่วงเลยไปเกือบสามสิบนาที กุญแจซอลพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงด้วยอาการเซ็งจัด ยิ่งรู้ว่าวันนี้เพื่อนเธอมากันครบเกือบทั้งรุ่นเด็กสาวมีความต้องการอยากไปมากกว่าเดิม
“คิดสิคิดหนูซอล จะใช้วิธีไหนดี”
กุญแจซอลยังคงกลิ้งไปมาบนเตียงนุ่ม ความหวังเกือบจะดับหายไปจนกระทั่งมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว
“หึหึ ต้องเรียกคะแนนสงสารสักหน่อย”
กุญแจซอลเดินมายังห้องทำงาน ครั้งนี้เธอเคาะประตูและขออนุญาตอย่างมีมารยาทดั่งกุลสตรี หญิงสาวแทบคลานเข่าเข้าไปในห้องด้วยซ้ำ
“ซอลมาเก็บจานขนมค่ะ”
“เดี๋ยวผมเอาไปเก็บเองก็ได้ครับคุณหนูซอล”
กรรีบอาสา ส่วนทีนั้นเพียงแค่เหลือตามองเด็กดื้อเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูซอลว่าง”
“ครับ”
เป็นกรอีกครั้งที่ตอบกุญแจซอล กุญแจซอลยิ้มกว้างกลับไปให้แล้วเริ่มถามต่อ
“แล้วนี่ทำงานใกล้เสร็จยังคะ”
“เหลืออีก 30%ครับ”
“ทำกับข้าวเสร็จแล้วหรอ”
ทีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กุญแจซอลเลยเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานเขาแล้วตอบเสียงใส
“เสร็จแล้วค่ะ วันนี้มีแกงเขียวหวานด้วยนะ”
“ครับ”
ทีอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจัดการเอกสารบนโต๊ะต่อ ถึงจะรู้สึกแปลกๆที่คนอย่างคุณหนูซอลหายโกรธและมาพูดดีกับเขาไวขนาดนี้แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเขารู้สึกดีกับการสนทนาเล็กๆพวกนี้
“หนูซอลรับโทรศัพท์ได้มั้ยคะ”
กุญแจซอลถามเสียงเบา ทีไม่ได้ตอบอะไร นั่นทำให้เธอทึกทักเอาเองว่าเขาอนุญาตให้เธอรับโทรศัพท์ได้
“ฮัลโหล นิวเพื่อนรัก”
“....”
“ฮรือ วันนี่คงไม่ได้ไปหรอก”
“...”
“คิดถึงสิ คิดถึงเพื่อนมากเลย”
ดวงตาคมเหลือบมองเด็กสาวเล็กน้อย เขารู้ดีว่าเธอทำอย่างนี้เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากเขาแต่คนอย่างเขาไม่รู้จักคำนั้นหรอก
“หนูซอลไปคุยด้านนอก”
“หรอ มึงจะไปเมกาวันมะรืนล่ะหรอ ฮรือ เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วหรอเพื่อนรัก”
“หนูซอลฉันจะทำงาน”
ทีพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้ดุมากแต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะยั่วอารมณ์เขาเก่งเหลือเกิน เธอยังคงคร่ำครวญกับเพื่อนทำราวกับไม่ได้ยินเสียงเขา
“หนูซอล!”
ครั้งนี้เสียงทีดังและเข้มกว่าเดิม สายตาที่มองมายังกุญแจซอลเย็นยะเยือกกว่าทุกครั้ง เขาดึงมือถือเธอออกจากมือเล็กก่อนจะโยนลงถังขยะด้านข้าง
“คุณที คุณไม่ทำเกินไปหน่อยหรอ”
กุญแจซอลลุกขึ้นยืน มองตามโทรศัพท์ตัวเองด้วยแววตาสั่นระริก เธอค่อนข้างตกใจกับอาการของอีกคนไม่น้อย
“ขึ้นไปบนห้อง”
“ไม่ เอาโทรศัพท์หนูซอลคืนมา”
แต่ถึงอย่างนั้นกุญแจซอลก็ยังพยายามข่มความกลัวภายในไว้
“ขึ้นไปบนห้องเดี๋ยวนี้!”
“ทำไมคุณทีต้องตวาดด้วย”
แววตาเย็นยะเยือกของทีกระตุกเล็กน้อยเมื่อสบเข้ากับแววตาตื่นตระหนกของอีกคนแต่เขาก็พยายามที่จะไม่ใจอ่อนกับเธอเหมือนครั้งก่อนๆ เธอจะได้ไม่เอาวิธีนี้มาใช้อีก
“แล้วทำไมเธอต้องดื้อด้วย”
“หนูซอลแค่ขอไปเที่ยว ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย”
ริมฝีปากอวบอิ่มเมมเข้าหากับ ดวงตากลมเริ่มมีน้ำตาคลอเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเจอใครดุเธอขนาดนี้เลย พ่อของเธอที่ว่าดุแล้ว ยังดุไม่ได้ครึ่งของทีตอนนี้ด้วยซ้ำ
“กร มาพาหนูซอลไปบนห้อง”
ทีหันไปสั่งลูกน้องเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนจะก้มลงจัดการเอกสารบนโต๊ะไม่เงยหน้ามองกุญแจซอลแม้แต่น้อย
ในช่วงเย็นของวัน แม่บ้านเดินเข้ามาถามทีว่าต้องการให้จัดโต๊ะอาหารกี่โมง
ทีขมวดคิ้วเล็กน้อย ปกติหน้าที่พวกนี้เป็นของกุญแจซอล เธอจะเป็นคนตัดสินใจเองหรือไม่ก็เป็นคนมาถามเขาเอง
“ให้หนูซอลเลือกเลยครับ”
“เอ่อ วันนี้คุณหนูซอลบอกไม่ทานอาหารเย็นค่ะ”
แม่บ้านรายงานอย่างกล้าๆกลัวๆและยิ่งสะดุ้งเข้าไปอีกเมื่อทีเงยหน้ามอง
“ไปบอกหนูซอลว่าฉันจะกินหนึ่งทุ่ม”
ทีตัดสินใจเลื่อนเวลาอาหารออกไปอีกหน่อย เขารู้ดีว่ากุญแจซอลมักจะหิวตอนหกโมงและการที่เธอไม่ลงมาทานข้าวเพราะคงไม่อยากเจอเขา ฉะนั้นเขาจึงลงไปกินช้าหน่อยเพื่อให้หนูซอลได้กินก่อน
เวลาหนึ่งทุ่ม ทีลงมายังห้องอาหารและได้รับรายงานจากแม่บ้านว่ากุญแจซอลยังไม่ยอมลงมาทานข้าว นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย
“กรไปตามกุญแจซอลมา”
“ได้ครับท่านประธาน”
กรพยักหน้ารับ วันนี้เขาอยู่ทำงานล่วงเวลา ทีจึงอนุญาตให้เขานอนที่นี่เสียเลยก่อนหน้านี้พวกเขาทำงานกันแต่มีเด็กซนมาก่อกวน
ทีเลยดุเธอไปจนป่านนี้ยังไม่เห็นหน้าเธอเลย กรรู้ดีว่าเจ้านายแคร์หนูซอลไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้เขาไปตามแบบนี้หรอก
“ท่านประธานครับ ท่านประธานครับ”
เสียงร้อนรนของกรทำให้ทีเงยหน้าจากมือถือมองลูกน้องด้วยสีหน้ารำคาญเล็กน้อย
“คุณหนูซอลหายไป”
“หาดีรึยัง”
ทีเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดหรือว่าเมื่อตอนเย็นเขาจะดุเธอเกินไป แอบไปร้องอยู่ที่ไหนรึเปล่าก็ไม่รู้
“เอ่อ ท่านครับ”
ทีมองตามมือกรซึ่งชี้ไปยังจอที่ฉายภาพจากกล่องวงจรปิดบริเวณบ้าน
ภาพคนตัวเล็กกำลังปีนกำแพงข้างบ้านทำเอาทีถึงกับขบกรามตัวเองแน่น
“ดื้อนักนะหนูซอล”
ทีหยิบโทรศัพท์เครื่องบางออกจากกระเป๋ากางเกง พิมพ์ข้อความส่งออกหาเด็กดื้อที่พึ่งปีนกำแพงออกไป
‘ ถ้าไม่เห็นเธอภายใน20นาที โดนดีแน่’
——————-
แง ทำไมท่านประธานดุแบบนี้ล่ะคะ
ไหนใครอยู่ฝ่ายใคร แบ่งกันยัง หรือเราจะเป็นกลางกันดี
ถ้าชอบช่วยคอมเมนท์ให้หน่อยนะคะ รักรีที่สุด
💚💚💚💚
ตอนจบ กำราบรักตึก ตึก ตึกร่างเล็กวิ่งลงจากบันไดตรงไปยังห้องทำงานของท่านประธานหนุ่มด้วยความร้อนรน และด้วยความรีบร้อนนั่นเองทำให้เธอสะดุดขาตัวเองล้มลงโชคดีที่ทีเดินมาพอดี เธอเลยไม่ต้องล้มลงไปจูบพื้นแต่ได้จูบปากของท่าประธานหนุ่มแทน“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง”ทีเอ็ดเสียงเข็มพลางพยุงกุญแจซอลให้ลุกขึ้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเจอเธอ เธอก็วิ่งล้มใส่เขาจนกระทั่งวันนี้เขาและเธอหมั้นกันแล้วเธอก็ยังคงวิ่งชนเขา ล้มลงด้วยทวงท่าเดิมไม่ผิดเพี้ยน“แฮะๆ ขอโทษค่ะ”กุญแจซอลยิ้มแหย่ ช่วยจัดเสื้อเชิ้ตของอีกคนให้เข้าที่“แล้วนี่วิ่งทำไม”“หนูซอลรีบวิ่งมาหาพี่ทีนั่นแหละ”คิ้วเข้มเลิกขึ้น โอบเอวบางเดินไปนั่งด้วยกันในห้องทำงานเพราะเขายังมีงานต้องสะสางให้เสร็จก่อนจะบินไปเที่ยวญี่ปุ่นกับคุณหนูจอมวุ่นวันพรุ่งนี้“มีอะไรครับ?”“คือหนูซอลเครียดมากเลยอ่า”มือเล็กเกาะแขนเขาแน่น เธอแบะปากคล้ายจะร้องไห้นั่นทำให้ทีต้องก้มลงจูบผากเนียนด้วยความเอ็นดู“ไหนบอกสิเรื่องอะไร”“กระเป๋าหนูซอลอ่ะค่ะ กระเป๋าหนูซอลใส่ของทั้งหมดที่จะเอาไปไม่พอT-T”ท่านประธานหนุ่มแทบจะเอาหัวตัวเองโขกผนังเมื่อได้ยินปัญหาของคุณห
กำราบรัก 37(กุญแจซอล)หลังจากเรื่องราวร้ายๆผ่านไป จิตใจฉันก็กลับมาเบิกบานอีกครั้ง แม่ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทยกับพ่อและดูเหมือนคู่นั้นจะรักกันหวานชื่นยิ่งกว่าคู่ฉันเสียอีกเพราะตอนนี้ทั้งคู่พากันไปฮันนีมูนยังไม่กลับมาเลย ทิ้งลูกที่น่ารักอย่างฉันได้ลงคอ น่าน้อยใจชะมัด“เป็นอะไรครับ ตื่นมาก็ทำหน้ามุ่ย”พี่ทีจุ๊บปากฉัน ยันตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียง“ดูพ่อ แม่หนูซอลสิ ไปเที่ยวกันลืมหนูซอลเลย”ฉันยื่นโทรศัพท์ให้ทีดูภาพที่แม่ส่งมาอวด“งอแงนะเรา”เขาว่าพลางลุกขึ้นจากเตียง เดินไปเปิดม่านออก แสงแดดยามเช้าส่องกระทบร่างกายกำยำของเขาส่งผลให้ท่อนบนที่กำลังเปือยเปล่าน่าหลงใหลกว่าเดิม“น้ำลายหกแล้วครับ”ฉันเผลอยกหลังมือขึ้นปาดน้ำลายตัวเองแต่ตัองชะงักเมื่อพี่ทีหัวเราะออกมา“พี่ทีอ่า แกล้งหนูซอลหรอ”“ฮ่าๆ เปล่า หน้าหนูหื่นจริงนะ”“พี่ทีว่าใครหื่น!?”ทีเดินเข้ามาบีบจมูกฉันเบาๆ ก้มลงกระซิบข้างหู“อยากกินพี่หรอครับ หนูหื่น”ว่่าจบเขาก็เดินยิ้มอารมณ์ดีเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ฉันนั่งกรี๊ดร้องอยู่กับความอับอายเพียงลำพังกริ๊ง กริ๊งฉันควานหามือถือซึ่งกำลังส่งเสียงร้อง ชื่อบนหน้าจอบ่งบอกว่าปลายสายคือพายุ เพื่อนฉัน“ฮ
กำราบรักการกลับบ้านของฉันครั้งนี้ ความรู้สึกมันแปลกกว่าทุกครั้ง หัวใจเต้นแรงไม่ใช่เพราะตื่นเต้นแต่เป็นเพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเผชิญมากกว่า“พี่ที หนูซอลว่าเรากลับกรุงเทพกันเถอะค่ะ”พี่ทีเลิกคิ้วขึ้นสูง ก้มลงจูบหน้าผากฉันก่อนจะลูบหัวฉันเบาๆ“ทำไมล่ะ หืม”“หนูซอลกลัว กลัวว่าความจริงมันจะโหดร้ายเกินไป”“ไม่ต้องกลัว มีพี่อยู่ทั้งคน”ฝ่ามือหนาเลื่อนมากระชับมือฉันไว้แน่น รอยยิ้มจากเขาทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นอย่างน่าประหลาด“พี่ทีต้องอยู่เป็นเพื่อนหนูซอลนะ”“ไม่ครับ”พี่ทีตอบด้วยใบหน้านิ่งเรียบตามแบบฉบับเขา นั่นทำให้ฉันเริ่มแบะปากเตรียมจะร้องไห้ หากเขาทิ้งให้ฉันเข้าไปคนเดียวจริงๆ“พี่อยู่เป็นเพื่อนหนูไม่ได้เพราะพี่เป็นผัวหนู”“พี่ทีอ่า”ฉัดปาดลงบนไหล่เขาแต่คนโดนฟาดกลับหัวเราะร่าไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด“อ้าว มากันแล้วหรอ ทำไมไม่เข้าบ้านล่ะ”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยทำให้ฉันหยุดตีพี่ที เบือนหน้าออกไปอีกทาง“สวัสดีครับพ่อเลี้ยง”ใช่แล้วค่ะ เขาคนนั้นคือพ่อบังเกิดเกล้าของฉันเอง พี่ทีกระตุกแขนฉันให้หันไปทักทายพ่อ“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยง”“หนูซอล”พี่ทีเรียกชื่อฉันเสียงดุแถมยังส่งสายตาดุๆมาให้อีก“ไม่เป
ตอนที่ 35วันนี้ฉันนัดกับพี่ทีไว้ที่บ้านของเขาซึ่งตอนนี้เลยเวลานัดมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วแต่ฉันพึ่งถึงบ้านพี่ทีเอง โดนดุแน่เรา>“สิน พี่ทีอยู่ไหนคะ”“ท่านประธานอยู่ในห้องทำงานครับคุณหนูซอล”“ขอบคุณค่ะ”ขอให้พี่ทีทำงานจนลืมดูนาฬิกาและไม่รู้ว่าฉันเลทด้วยเถอะเมื่อเดินมาถึงชั้นบนปรากฏว่าประตูห้องพี่ทีไม่ได้ล็อก ฉันเลยค่อย ๆ ย่องไปหน้าประตูเพื่อแอบสอดส่องสถานการณ์ด้านใน“ครับ พ่อเลี้ยง”ขาฉันชะงักแทบทันทีเมื่อได้ยินว่าทีกำลังคุยโทรศัพท์กับใคร“ผมยังไม่ได้บอกหนูซอลครับ”คิ้วฉันขมวดเป็นปมด้วยความสงสัยในบทสนทนานั่น นี่พ่อกับพี่ทีมีอะไรผิดบังฉันอย่างนั้นหรอ“ผมเข้าใจดีครับ”“...”“ครับ ผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้”“...”“พ่อเลี้ยงครับ ยังไงหนูซอลก็ต้องรู้ความจริง”“...”“ผมทราบ แต่ยังไงเธอก็ต้องรู้ว่าแม่เธอยังไม่ตาย”คำพูดที่ว่า ‘แม่เธอยังไม่ตาย’ ก้องหัวฉันไปหมด ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นหน้าแม่เลยเพราะพ่อบอกว่าแม่จากไปตั้งแต่ฉันขวบเดียวถ้าทั้งหมดที่พวกเขากำลังคุยกันเป็นเรื่องจริง แสดงว่า“พี่ทีรู้จักแม่หนูซอล พี่ทีรู้เรื่องแม่มาตลอดแต่พี่ทีตั้งใจหลอกหนูใช่มั้ย!!!”“หนูซอล”พี่ทีเบิกตากว้าง เ
กำราบรัก 34วันนี้ฉันนัดกับพี่ทีไว้ที่บ้านของเขาซึ่งตอนนี้เลยเวลานัดมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วแต่ฉันพึ่งถึงบ้านพี่ทีเอง โดนดุแน่เรา>“สิน พี่ทีอยู่ไหนคะ”“ท่านประธานอยู่ในห้องทำงานครับคุณหนูซอล”“ขอบคุณค่ะ”ขอให้พี่ทีทำงานจนลืมดูนาฬิกาและไม่รู้ว่าฉันเลทด้วยเถอะเมื่อเดินมาถึงชั้นบนปรากฎว่าประตูห้องพี่ทีไม่ได้ล็อก ฉันเลยค่อยๆย่องไปหน้าประตูเผื่อแอบสอดส่องสถานการณ์ด้านใน“ครับ พ่อเลี้ยง”ขาฉันชะงักแทบทันทีเมื่อได้ยินว่าทีกำลังคุยโทรศัพท์กับใคร“ผมยังไม่ได้บอกหนูซอลครับ”คิ้วฉันขมวดเป็นปมด้วยความสงสัยในบทสนทนานั่น นี่พ่อกับพี่ทีมีอะไรผิดบังฉันอย่างนั้นหรอ“ผมเข้าใจดีครับ”“...”“ครับ ผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้”“...”“พ่อเลี้ยงครับ ยังไงหนูซอลก็ต้องรู้ความจริง”“...”“ผมทราบแต่ยังไงเธอก็ต้องรู้ว่าแม่เธอยังไม่ตาย”คำพูดที่ว่า ‘แม่เธอยังไม่ตาย’ ก้องหัวฉันไปหมด ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นหน้าแม่เลยเพราะพ่อบอกว่าแม่จากไปตั้งแต่ฉันขวบเดียวถ้าทั้งหมดที่พวกเขากำลังคุยกันเป็นเรื่องจริง แสดงว่า“พี่ทีรู้จักแม่หนูซอล พี่ทีรู้เรื่องแม่มาตลอดแต่พี่ทีตั้งใจหลอกหนูใช่มั้ย!!!”“หนูซอล”พี่ทีเบิกตากว้าง เร
กำราบรัก 33หลายคนคงยังจำกันได้เรื่องที่พี่ทีขอฉันหมั้น ทุกคนรู้อะรึเปล่า ตอนแรกเขาจะหมั้นเลยดีที่ฉันต่อรองขอเป็นหลังเรียนจบสำเร็จ“อ้าว ไอหนูซอลจะไปไหนวะ”ช่วงนี้ฉันย้ายกลับมาอยู่คอนโดตัวเองแล้วเพราะใกล้จะเปิดเทอม“ไปกินข้าว นี่สายฟ้าจะไปไหน”“มาหามึงนี่แหละ จะแวะมาบอกว่าวันนี้กูจัดงานวันเกิดที่ร้าน Blue”“โหย ทำไมไม่บอกล่วงหน้า กะทันหันแบบนี้พี่ทีจะให้ไปรึเปล่าไม่รู้”ฉันโอดครวญ เที่ยวก็อยากไป พี่ทีก็กลัว“ไปขอผัวมาให้ได้เลยนะ วันเกิดเพื่อนนะเว้ยไอหนูซอล”“เออ รู้แล้วน่า”ระหว่างขับรถไปหาพี่ทีเพื่อชวนเขาไปกินข้าวด้วยกัน ในสมองฉันก็พยายามคิดร้อยแปดวิธีเพื่อทำให้เขาอนุญาต“จ๊ะเอ๋พี่ที”ฉันโผล่หน้าเข้าไปในห้องท่านประธานพลางฉีกยิ้มกว้างส่งไปให้เขา“อ้าว ไหนหนูซอลบอกว่าจะมาเที่ยง”“ทำไมคะ มาก่อนไม่ได้รึไง”“งอแงอีกแล้วนะเรา”“เพราะพี่ทีนั่นแหละ”“เพราะพี่?”ทีชี้หน้าตัวเองก่อนจะดึงฉันเข้าไปใกล้แล้วกดจูบลงบนริมฝีปากฉัน“ง้อแล้วหายยัง”“พี่ทีนี่มันห้องทำงานนะ”“ครับ พี่จูบเมียผิดตรงไหน”เมื่อเห็นว่าพี่ทีกำลังอารมณ์ดี ฉันเลยตัดสินใจขอเขาซะตอนนี้เลย“พี่ที วันนี้หนูซอลไปวันเกิดเพื่อนนะคะ”“ว