LOGINEP.5
“ไม่หรอก แค่พูดถึง ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีให้” “นายดูไม่กลัวนะครับ” “ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่มองไม่เห็นมันก็น่ากลัวทั้งนั้นแหละ ถ้ามึงอยากรู้ไว้ยัยนั่นฟื้นกูจะถามให้” “ไม่ต้องก็ได้ครับ” “ทำไมล่ะ มึงอยากรู้ไม่ใช่เหรอ” ภานุยิ้มฝืนๆ ถึงตอนนี้เขาไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นแล้ว ยิ่งรู้ก็ยิ่งกลัว“แล้วนายจะนอนนี่เหรอครับ” “ใช่ ผู้หญิงคนนั้นต้องการให้กูช่วย” “ครับ?” “ไม่ต้องสงสัยหรอก มึงไปเตรียมเสื้อผ้าให้กูด้วย แล้วมึงจะนอนไหนก็เรื่องของมึง” แม้จะไม่เข้าใจเวลาที่มองเห็นแววตาคล้ายกับคนโรคจิตในตอนที่เจ้านายพูดถึงผู้หญิงคนนั้นแต่ลูกน้องหนุ่มก็พยักหน้ารับคำสั่ง ภาวนาอย่าให้มีเหตุการณ์แปลกๆระหว่างที่เขาขับรถกลับไปเอาของเลยเพราะแค่นี้ก็เกินจะรับไหว @วันต่อมา ร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วยกระตุกเบาๆ เสียงรอบข้างที่เข้ามารบกวนรวมถึงอาการระบมช้ำที่เข้าเล่นงานทำให้ร่างอรชรลืมตาโพลงขึ้นมาจนพยาบาลที่ตรวจอาการอยู่ตกใจ “โอ๊ยยย”ความเจ็บปวดที่สะโพกทำให้มิลินร้องออกมาเสียงดัง “คะ…คนไข้ฟื้นแล้ว”พยาบาลสาวกล่าวด้วยความดีใจ นิ้วเรียวยาวขยี้ตาไล่ความงัวเงียก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องผู้ป่วยVIP และดึงสายตากลับมามองตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย แขนขาของเธอมีรอยถูกมัดจางๆ มันทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย พวกคุณทำอะไรฉัน แขนขาฉันไปโดนอะไรมา” “คนไข้เกือบจะเสียชีวิตค่ะ” “ห๊ะ?หมายความว่าไง” “เหมือนว่าจู่ๆอวัยวะภายในร่างกายของคนไข้หยุดทำงานเอาเสียดื้อๆ คนไข้ชีพจรอ่อนลงทุกที แต่น่าแปลกที่ในระหว่างนั้นมีเสียงสวดมนต์ดังแทรกตลอดและคนไข้ดิ้นพล่านได้ด้วยค่ะ ก็เลยต้องมัดไว้กับเตียง หมอช่วยชีวิตเรื่อยๆแล้วทุกอย่างมันก็กลับมาปกติเฉยเลย อวัยวะทุกอย่างใช้งานได้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วหลังจากนั้นคนไข้ก็หลับไปอีกหนึ่งวันเต็มๆ จนถึงตอนนี้ที่ฟื้นมาเนี่ยค่ะ หมอมาดูอาการตลอดทุกอย่างปกติดีจนน่าสงสัยไปหมด ฉันก็ไม่รู้จะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไรเหมือนกัน” ไม่อยากเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ มันน่าเหลือเชื่อ ท่าทางแปลกๆเหมือนหวาดระแวงอะไรบางอย่างของพยาบาลก็ทำให้เธองงเข้าไปใหญ่ “นี่คุณไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม” “เรื่องจริงค่ะ เรื่องคอขาดบาดตาย พยาบาลไม่กล้าเอามาล้อเล่นหรอกค่ะ” “….”มิลินหยิกแขนตัวเองเบาๆ ความเจ็บที่ได้รับตอกย้ำว่านี่ไม่ใช่ความฝัน พยาบาลคงไม่ได้ล้อเธอเล่น “จำเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะมาโรง’บาลได้ไหมคะ” “….จำได้ ฉันเป็นลมแล้วก็เพิ่งรู้สึกตัวเนี่ย” “ถูกต้องค่ะ แล้วจำเรื่องราวทุกอย่างได้ใช่ไหมคะ มีความจำส่วนไหน หายไปไหม” “ก็จำได้ปกติ เหมือนแค่นอนหลับไป ฉันรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งเป็นลมไปแป๊บเดียวเอง” “งั้นก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แล้วตอนนี้มีอาการอะไรไหมคะ” “ไม่มี”ยังอยู่ในอาการสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใจเธอมันหวิวอย่างบอกไม่ถูก เธอนอนทำใจให้สงบให้หายจากอาการช็อค ระหว่างนั้นก็ให้พยาบาลตรวจร่างกายไป “ …แล้วฉันจะออกจากที่นี่ได้วันไหน” “หมอคงต้องมาตรวจอีกรอบนะคะ แล้วก็ต้องคุยกับญาติคนไข้ก่อนด้วย” “ญาติ? เตชินท์?” “ไม่มีคนชื่อเตชินท์นะคะ มีแต่คุณมาร์ติน เมื่อคืนเขานอนเฝ้าคุณทั้งคืนเลยนะคะ” “ใครคือมาร์ตินเหรอ” “เอ้าคุณไม่รู้จักคุณมาร์ตินเหรอคะ นึกว่ารู้จักกันซะอีก เห็นคุณตินเฝ้าหน้าห้องทั้งคืน ฉันก็นึกว่าคุณตินจะมาเฝ้าแฟนซะอีก” “แฟน? คงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ ถ้าเป็นผู้ชายตัวสูงๆขาวๆ เป็นคนช่วยพาฉันมาที่นี่ฉันไม่รู้จักค่ะ ….แล้วเขาเป็นใครเหรอคะ” “เขาเป็นนักธุรกิจแล้วก็เป็นหลานของเจ้าของโรงพยาบาลนี้ค่ะ” “หลาน?” “ใช่ค่ะ” “แค่นี้เองเหรอ” “ใช่ค่ะ” “รู้อะไรเกี่ยวกับเขามากกว่านี้ไหม” “ไม่ทราบเลยค่ะ อันนี้ข้อมูลเบื้องต้นที่เขาเล่าต่อๆกันมาค่ะ” มิลินตัดเรื่องของมาร์ตินออกไปจากหัว ฉุกคิดขึ้นมาได้กะทันหันว่าต้องโทรหาเตชินท์ ป่านนี้ทุกคนคงเป็นห่วงเธอแย่ แต่เมื่อมองหาของสำคัญอย่างกระเป๋าสะพายบนโต๊ะและรอบๆตัวกลับไม่พบ “กระเป๋าฉันล่ะ” “ไม่ทราบเลยค่ะ น่าจะอยู่ที่คุณตินนะคะ” “งั้นขอยืมโทรศัพท์ได้ไหม” “ได้ค่ะ” “ขอบใจ แต่ออกไปก่อนได้ไหม ไม่ชอบให้ใครอยู่ด้วยตอนคุยโทรศัพท์” “ค่ะ”พยาบาลสาวปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ให้มิลินจากนั้นก็ต้องจำใจไปรอข้างนอกตามคำสั่ง หญิงสาวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล เมื่อเท้าเหยียบพื้นเย็นเฉียบก็เซเล็กน้อย เดินเข้าไปห้องน้ำพร้อมกับเสาน้ำเกลือ นำโทรศัพท์ของพยาบาลสาวมากดโทรหาลูกน้องเพียงคนเดียวที่จำเบอร์ได้นั่นคือเตชินท์ รอสายอยู่นานแต่สุดท้ายปลายสายก็กดรับเบอร์แปลก (ครับ ใครครับ) “ฉันมีนเอง” (นายหญิง!)เตชินท์ตะโกนลั่นด้วยความดีใจ ตามมาด้วยเสียงของใครหลายคนที่อยู่บริเวณนั้นแทรกเข้ามาด้วยความดีใจไม่ต่างกัน (นายหญิงยังไม่ตาย) “ก็เออสิวะ”ปลายสายเฮลั่น สบายใจอย่างมากหลังจากที่กลัดกลุ้มมานาน (นายหญิงอยู่ไหนครับ เป็นยังไงบ้างครับ) “ใจเย็นนะ ตอนนี้ฉันอยู่โรงพยาบาล ยืมโทรศัพท์คนแถวนี้มา” (นายหญิงเป็นอะไรไปครับ! แชร์โลเคชั่นมาเดี๋ยวผมจะไปรับ!) “ไม่ต้อง ฉันกลับไปเองได้ ฉันแค่เป็นลมน่ะ วิ่งหนีพวกแม่งโคตรเหนื่อยเลย แล้วไอ้เมฆาเป็นไงบ้าง” (ไอ้เมฆารักษาตัวอยู่ มันไม่ตายผมไม่รู้ว่ามันจะแค้นนายหญิงมากกว่าเดิมไหม) “เอาอย่างงี้ดีไหม เพื่อลดแรงปะทะ ปล่อยข่าวให้ด้วยนะว่าฉันตายไปแล้ว จะเหตุผลอะไรก็ตามใจ” (ครับ ผมจะลองดู) “แล้วไอ้เวรกานต์ล่ะ”มิลินกำหมัดแน่นเมื่อนึกถึงบุคคลที่เป็นต้นเหตุของความซวยทั้งหมด (ไอ้กานต์มันหนีไปแล้วครับนายหญิง จะให้ตามหามันไหมครับ) “ยังไม่ต้อง ทำตามที่บอกไปก่อน แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกันนะ ไม่ต้องห่วงฉัน”มิลินกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะกดวางสาย หลังจากนั้นเธอทำลายหลักฐานโดยการบล็อคและลบเบอร์ที่โทรออก “สร้อย!”กะว่าจะล้างหน้าล้างตา แต่ภาพที่ปรากฏในกระจกทำให้เธอใจหายวูบ ใบหน้าซีดเผือดโดยอัตโนมัติ ของสำคัญอย่างกุหลาบซ่อนพิษของเธอมันหายไปจากลำคอ มันหายไปได้ยังไง เปิดดูในเสื้อก็ไม่พบ มองรอบห้องน้ำก็ไม่เห็น มิลินกุลีกุจอเดินออกจากห้องน้ำตรงมาที่เตียง รื้อดูว่าสร้อยหล่นอยู่ไหน ทั้งใต้หมอนและผ้าห่มก็ไม่พบ ทำให้หญิงสาวมือไม้สั่นไปหมด แกร่ก~ ประตูห้องพักVIP ถูกเปิดออกมีคนเข้ามา ซึ่งเธอไม่ได้สนใจมาร์ตินที่เดินมาพร้อมกับอาหารและยาที่พยาบาลจัดเตรียมมาให้ “คุณหาอะไร มากินข้าวก่อน นี่กำลังร้อนๆเลย” “สร้อยฉันอยู่ไหน”มิลินตรงเข้าไปดึงกระเป๋าสะพายของเธอที่เขาถือมาด้วยมาค้นดูข้างใน ใจเสียอย่างมากเมื่อเทของในกระเป๋าออกหมดแต่ก็ไม่เจอมัน “สร้อยอะไรของคุณ” “ก็สร้อยของฉันที่วันนั้นคุณชมว่ามันสวยไง” “หายเหรอ” “ทำไมคุณถึงรู้ว่ามันหาย”มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเชือดเฉือน ดวงตากลมโตจ้องมองไปในนัยน์ตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นไม่พบพิรุธแต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะปักใจเชื่อ “ก็คุณหาไม่เจอไง ก็แปลว่าหาย” “ฉันขอดูกระเป๋าคุณหน่อย” “ผมจะเอาของคุณไปทำไม มันคืออะไรผมยังไม่รู้เลย” “…”ไม่รอให้เจ้าของอนุญาต มิลินคว้ากระเป๋าของเขามาค้นทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียด แต่สุดท้ายก็ไม่เจอตามที่เขาบอก มันทำให้เธอเป็นกังวลอย่างหนัก จนแทบจะร้องไห้ออกมา “เห็นไหม บอกแล้วว่าไม่มี” “…”แต่โจรที่ไหนมันจะยอมรับว่าตัวเองขโมยของและเอาของมาให้ค้น ของที่เธอมีสำคัญกับเธอมาก หากเขาเป็นพวกคลั่งไคล้ไสยศาสตร์และต้องการของที่เธอมี มีสิทธิ์ที่เขาจะขโมยของเธอไป “หมอไม่ฝากอะไรให้คุณเหรอ มันไม่มีเลยเหรอ” “ก็ไม่มีนะ คุณมากินข้าวเถอะ ผมจัดโต๊ะให้เรียบร้อยแล้ว”EP.30 “ปู่ทานอะไรดีครับ”มาร์ตินรีบเปลี่ยนสถานการณ์เพราะรู้ว่าคนข้างๆกำลังอึดอัดและไปต่อไม่ถูก“ตินคุยกับน้องไปเถอะ เดี๋ยวปู่หากินเองได้”“ครับ ตามสบายนะครับ”“ตามสบายค่ะ”มิลินบอกตามมารยาท เมื่อเขาเดินออกไปมันทำให้เธอหายใจโล่งขึ้น ไม่เกร็งอย่างเก่า ออกห่างมาร์ตินได้อย่างสบายใจ“แล้วมีนอยากทานอะไรไหมครับ”“อะไรก็เอามาเถอะ”เธอยืนอยู่ที่เดิมไม่กล้าเดินไปไหน แต่มองตามหลังมาร์ตินว่าเขาเดินไปตรงไหนบ้าง เขาเดินหายไปสักพักก่อนจะกลับมาพร้อมของกินเต็มมือ“นี่ไวน์ครับ”“ขอบใจ”ชนแก้วกับเขาเป็นพิธี ระหว่างที่จิบไวน์อยู่สายตาเจ้ากรรมก็ดันเลื่อนไปมองที่ปู่ของมาร์ตินโดยบังเอิญ เธอเสียมารยาทมองเขากับผู้หญิงที่มาด้วยคุยกัน ก่อนจะตวัดสายตากลับมาที่มาร์ตินเกรงว่าจะถูกจับได้ว่าแอบมอง“ผู้หญิงคนนั้นที่มากับปู่คุณน่ะใครเหรอ”ท่าทางสนิทสนมกันเกินกว่าจะเป็นลูกหลาน แม้อายุของทั้งสองจะห่างกันมากจากการประมาณการคร่าวๆ“เมียปู่ผม”“เมียปู่ ไม่ใช่ย่าคุณเหรอ”“ปู่ผมมีเมีย23คน ย่าคือคนที่14”“23คน!”“ใช่”“พร้อมกันหรือทีละคน”“ทีละคน แต่ละคนได้มาด้วยวิธีไม่ปกติทั้งนั้น”“วิธีไม่ปกติ? คงเป็นแบบเดียวกั
EP. 29 การพบเจอ“ขอบใจมากที่พาชาลีมาหาฉัน”“ผมรู้ว่านายหญิงคิดถึง”เตชินท์ยิ้มหน้าบานเมื่อเจ้านายได้พบกับสัตว์เลี้ยงคู่ใจอย่างชาลี ถ่ายวิดีโอไว้ในตอนที่มิลินกับชาลีกอดหอมกันด้วยความคิดถึง มิลินเป็นตัวเองและมีความสุขที่สุดเวลาได้อยู่กับมัน เขารู้ดี “จะพาชาลีเข้างานจริงๆเหรอครับ”“เออ ฉันอยากเอาชาลีไปด้วย”“คนเยอะนะครับ”“แกจะไม่ขัดใจฉันสักนาทีจะตายไหม”“ตามใจครับ”“ก็แค่เอาชาลีเข้าไปด้วยคงไม่เป็นอะไร เนอะชาลีเนอะ”“ใช่ครับ”นกตัวสีเทาตอบด้วยความดีใจ“มันเป็นตรีมเวทมนตร์ ชาลีห้ามพูด ไว้ถึงคราวที่มีนเสกคาถา ชาลีค่อยพูดโอเคไหม”ชาลีพยักหน้ารับบ่งบอกว่าเข้าใจร่างอรชรเดินนวยนาดเข้ามาในงาน ทุกย่างก้าวของเธอมีแต่คนให้ความสนใจ เพราะเสียงร้องทักทายของนกแก้วพันธ์แอฟริกันเกรย์ดึงดูดทุกคนที่อยู่ในงาน ซึ่งมันเกาะอยู่ที่ไหล่ของเธอ หันซ้ายหันขวาไปทำตาแป๋วใส่กล้องเมื่อมีคนถ่ายวิดีโอความน่ารักของมันไว้ แม้จะตื่นตระหนกกับคนง่าย แต่ถ้ามีมิลินก็รู้สึกปลอดภัยและไม่กลัวอะไร“ไม่มีป้ายห้ามเอาสัตว์เข้าแปลว่าฉันเอานกเข้าได้ใช่ป่ะ”เธอเดินเข้าไปถามเจ้าของวันเกิดก่อน “อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม”“เท่าไร”
EP.28 อยู่เป็น@ตอนเย็นรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นกระเบื้องเงาวับในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ หญิงสาวในชุดเดรสยาวย่างกายเข้ามาที่นี่พอดีกับเวลานัด ก้าวเข้ามาก็พบแต่ความอลังการ คล้ายกับว่าตอนนี้อยู่ในโลกเวทมนตร์ ผู้คนแต่งตัวเต็มยศ เสียงซาวด์ เอฟเฟค ยิ่งทำให้บรรยากาศเป็นโลกเวทมนตร์โดยสมบูรณ์แบบ “งานวันเกิดพวกมหาเศรษฐีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง”มิลินไม่สันทัดที่จะแต่งตัวตามธีม อยากจะแต่งในสิ่งที่ตัวเองอยากแต่งเสียมากกว่า เครื่องเพชรราคาแพงที่สวมอยู่ที่ลำคอตอนนี้สวยงามและโดดเด่นจนเป็นที่จับตามอง“เรื่องขวางโลกคงเป็นงานถนัดสำหรับเธอ”อริเจ้าเก่าเจ้าประจำอย่างมาตังแซะตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้ามิลิน มาตังมาในชุดแม่มดผู้ชั่วร้าย ในเมื่ออีกฝ่ายเปิดมาไม่ดี มิลินก็มองหล่อนด้วยสายตาเหยียดหยามเช่นกัน“ชุดของเธอดูหมองมาก ถ้าเทียบกับฉัน อิจฉาล่ะสิที่ฉันสวยกว่า”“อยากเด่นว่างั้น?”“ฉันสวย ใส่ชุดอะไรก็สวยหมดแหละ ไปทำตัวให้ผู้ชายมองเท่าฉันก่อนเถอะ อีแม่มดกระจอก”ถ่มถุยมาตังบ้างคงไม่เป็นไร เธออยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้ รีบปลีกตัวเดินหนีจากบุคคลน่ารำคาญไปให้พ้นๆในงานวันเกิดของมาร์ตินเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มาร่วม
EP.27 ถูกทรมานหลายวันต่อมาครืด~ ครืด~“โทรมาทำไมนักหนาเนี่ย”หญิงสาวบ่นด้วยความหงุดหงิดที่เบอร์ของมาร์ตินปรากฏขึ้นตรงหน้าจอตอนที่เธอกำลังเสพติดโซเชียล เธอเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าทันที เงยหน้ามามองสองข้างทางที่เตชินท์กำลังขับรถพามาหาใครบางคน สองข้างทางแทบไม่มีไฟหรือบ้านคนให้เห็นมีแต่ต้นไม้และทางเฉพาะที่รถไม่สามารถสวนกันได้ซึ่งเป็นทางลูกรังแดง“แกแน่ใจนะว่ามาถูกทาง ทำไมมันเปลี่ยวอย่างนี้เนี่ย”ถ้าเธอไม่เล่นโทรศัพท์มาตลอดทางก็คงเห็นเร็วกว่านี้ มองหน้ามองหลังรถด้วยความหวาดระแวง“แน่ใจครับ ผมตามแผนที่ที่ผมปักหมุดไว้ในโทรศัพท์มันไม่มีทางอื่นที่จะไปนอกจากทางนี้ครับ รับรองไม่มีวันหลง”“เขาเป็นใครเนี่ย”“เขาก็เป็นคนที่เก่งไสยศาสตร์แบบที่นายหญิงต้องการไงครับ”“แกเห็นโปรไฟล์เขาไหม”“เห็นครับ ดูเชื่อถือได้”“เอามาดูดิ๊”“ผมส่งให้ในไลน์เรียบร้อยแล้วครับ”มิลินเข้าไปดูตามที่เตชินท์บอก มีทั้งแผนที่และข้อมูลของชายคนนั้น ซึ่งสถานที่ที่จะต้องไปเธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน “ทำไมทางมันดูลึกลับจัง”“ก็ตามประสาอะครับ คนพวกนี้มันชอบนัดตอนกลางคืนและทางก็เปลี่ยวมาก”“แกแน่ใจใช่ไหมว่าไม่โดนหลอก”สา
EP.26 ลองอีกครั้ง“นี่ยังอยู่อีกเหรอ นึกว่าพี่ตินไล่กลับไปแล้ว”น้ำเสียงกวนประสาทของมาตังเป็นชนวนจุดความไม่พอใจของมิลินขึ้นมา แต่มิลินก็แสร้งยิ้มให้ เพื่อแสดงว่าไม่ใส่ใจ “ยังไม่ช้ำในตายเหรอ นึกว่าตายคาโรงบาลไปแล้ว”“ใกล้แล้ว พอดีเห็นคนโดนทัวร์ลงเลยหายเป็นปลิดทิ้งเลย ความสะใจเนี่ยมันเยียวยาทุกสิ่งจริงๆเลยเนาะ”“ใช่ ว่าแต่ ถ้าฉันตบเธอให้ปากแตก ฉันก็จะได้ความสะใจมา แปลว่าแบบนี้ฉันจะมีความสุขใช่ไหม”“ตบเลย ตบตรงนี้นะ”มาตังจิ้มแก้มตัวเองอย่างยียวน “ตบเน้นๆด้วย ถ้าเธอตบฉันครั้งนี้พี่ตินก็คงเฉดหัวเธอทิ้งแบบไม่ใยดีเลยก็ได้ พี่ตินต้องรักน้องมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เอาสิ ตบๆๆๆๆ”มาตังยิ้มแป้นแล้นกวนประสาท ทำหน้าระรื่นให้น่าหมั่นไส้ที่สุด รู้ดีว่ายังไงมิลินก็คงไม่กล้าทำ “ขนาดฉันทำผิดตินยังไม่ว่าอะไรฉันเลย ถ้าฉันตบเธอก็คงไม่มีความผิดหรอก”ว่าจบก็สัพยอกด้วยการตวัดมือให้ลมผ่านหน้า เล่นเอาอีกฝ่ายหน้าเสียเล็กน้อย“อีเลว!”“ขอบคุณที่ชมนะ”“หน้าระรื่นไปเถอะ สักวันพี่ตินก็เบื่อ แล้วก็เฉดหัวทิ้ง”“คงจะไม่มีวันนั้นมั้ง”“ไม่ต่างอะไรจากอีตัวเลยนะ เอาตัวเข้าแลกแล้วคิดว่าจะได้ทุกอย่างแล้วเหรอ ฝันไปเถอ
EP.25 รูปภาพมิลินคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะใช้บุหรี่ขยี้ไปที่หน้าท้องแกร่ง “จะบอกฉันได้ยัง” “ซี๊ดดด”สีหน้าเขาบ่งบอกว่าพอใจไม่ได้เจ็บอย่างที่เธออยากให้เป็น บุหรี่ดับลงพร้อมกับที่เขาได้แผลเป็นรอยไหม้ เขาปัดมันออกเพราะเธอยังกดแช่ไว้ แย่งบุหรี่ที่ดับแล้วโยนใส่ถังขยะไปทันที “นี่สิค่อยสมกับเป็นมิลินหน่อย ฮ่าๆๆๆ”“โรคจิตเหรอต้องมีอะไรมากระตุ้น”“อาจจะน้อยกว่ามีน”“ใส่เสื้อซะ”ไม่อยากต่อความยาวกับเขา เธอมานั่งกอดอกบนโต๊ะทำงานของเขา รอฟังในสิ่งที่ต้องการรับรู้ บาดแผลเล็กน้อยไม่ได้ทำให้เขาเจ็บจนถึงขั้นต้องหาอุปกรณ์มาทำแผล “ผมยอมให้มีนทำร้ายขนาดนี้ มีนคงต้องอมให้ผมต่อแล้วมั้ง” “ถ้าฉันยังไม่หายข้องใจก็ไม่ทำให้”“แลกเปลี่ยนได้ดี”“อย่ามาทำสายตาแบบนี้กับฉัน”สายตามาเฟียหนุ่มยังโฟกัสที่ใบหน้าสวยเป็นประกาย มือเรียวตีแก้มสากมาเฟียหนุ่มให้หันไปทางอื่น “ผมจะทำ เมื่อคืนผมก็ทำ”ก่อนที่หญิงสาวจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ มาเฟียหนุ่มเอื้อมไปหยิบรูปภาพชายวัยชราที่ตั้งบนโต๊ะทำงานขึ้นมา แต่เขากลับไม่ได้มองรูปในมือ“มีนรู้ไว้แค่ว่าที่ไอ้เมฆมันมองไม่เห็นมีนเพราะปู่ผม”“ปู่คุณ?”“หากบังเอิญเจอไอ้เมฆาอีกอย่าเ







