ไปอยู่ในที่ไม่มีคนเห็น
"ฉันจะคุยตอนนี้ เดี๋ยวนี้!"ฉันชะงักจ้องมองใบหน้าหล่อที่เรียบเฉยแล้วลอบหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะสะบัดแขนออก แต่ทว่า...
"คุณรณ!"ฉันกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อถูกคนตัวโตอุ้มตัวฉันขึ้นพาดที่ไหล่เขาแล้วเดินเข้ามาภายในห้องนอนก่อนจะทุ่มฉันลงไปนอนกองบนเตียง.
"อะ..โอ๊ย"
"วันนี้แหละ ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า...."ชายหนุ่มร่างสูงยืนเต็มความสูงจ้องมาที่ฉันมือหนาของเขาได้ปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น
"....ต่อไปนี้เธอจะไม่ต้องการkวยของใครนอกจาก kวยของฉัน"พรึ่บ! เสื้อเชิ้ตราคาแพงได้ถูกโยนทิ้งลงไปที่พื้น
"คุณรณกำลังเข้าใจนับผิด"ฉันพยายามหยัดกายลุกขึ้นแต่ก็โดนเขาผลักลงไปนอนราบแล้วขึ้นคร่อมบนร่างฉันก่อนที่จะดึงผ้าขนหนูที่ห่อหุ้มร่างฉันออก ทำให้เขาได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉัน
คนตัวโตโน้มตัวลงมาซุกไซร้ที่ซอกคอฉันสลับกันทั้งสองฝั่ง ส่วนมือหนาก็ไม่ปล่อยว่างบีบเค้นที่เต้าอกฉันแรง ๆ จนรู้สึกเจ็บไปหมด
คุณรณดูดที่ต้นคอของฉันจนเป็นจ้ำ ๆ ไม่ว่าจะห้ามยังไงเขาก็ไม่ฟัง พอสมใจแล้วก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนที่เปลี่ยนมาชกชิมดูดดุนที่ยอดปทุมถันทั้งสองข้างจนเปียกแฉะไปด้วยน้ำลาย แถมยังฝังฟันคมลงจนเป็นรอยเขี้ยว
"คุณรณ นับเจ็บ"
"หึ"เขาแสยะยิ้มร้าย ๆ แล้วทำต่ออยู่อย่างนั้นจนฉันเจ็บและแสบไปหมด เขาช่างป่าเถื่อนไร้ความปราณีกับเรื่องเซ็กส์จริง ๆ ฉันคงได้แต่ทนนอนกัดฟันข่มความเจ็บทั้งตัวและหัวใจ ไม่นึกเลยว่าชีวิตฉันจะต้องมาเจออะไรแย่ ๆ แบบนี้
คุณรณหยัดกายขึ้นคุกเข่าตรงระหว่างขาฉันแล้วจ้อมมองมาที่ฉันด้วยสายตาโลมเลียก่อนที่จะดึงเข็มขัดออกแล้วปลดกางเกงตัวเองลงทั้งนอกและในเผยท่อนเอ็นลำใหญ่ผงาดออกมาทักทาย ฉันนอนกลืนน้ำลายลงคอด้วยใจสั่น ๆ คนตัวโตรูดแก่นกายตัวเองขึ้น ๆ ลง ๆ ทำให้มันขยายใหญ่มากขึ้น แล้วจับขาฉันอ้าออกกว้างกว่าเดิม เขาขยับเข่าเข้ามาแล้วจับท่อนเอ็นจ่อไปที่รูสวาทของฉัน สวบ !!
"อ๊ะ!"ฉันร้องออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บและอีดอัดมาก คุณรณกดลำยักษ์เข้าไปจนสุดในคราวเดียว
"อ่า"เจ้าของใบหน้าหล่อเงยหน้าขึ้นคำรามเบา ๆ แล้วจับขาทั้งสองข้างฉันขึ้นชี้เพดานเป็นรูปตัววี ก่อนที่จะค่อย ขยับสะโพกสอบอย่างช้า ๆ เนิบ ๆ ทำให้ฉันผ่อนความเจ็บลง.
แต่ก็ได้แค่อึดใจเดียวคุณรณเริ่มกระแทกเอวสอบเข้ามาอย่างรุนแรงจนร่างฉันสั่นคลอนโยกไปตามจังหวะ
"คุณรณ..เบาได้ไหม"
"หึ"ปึก! ปึก! ปึก! เขากลับทำในสิ่งที่ฉันร้องขอชายหนุ่มบนร่างยิ่งตอกลำยักษ์เข้ามาเต็มกำลัง.จนทำให้ฉันรู้สึกเจ็บแสบที่ช่วงล่างมากราวกับว่ามันถูกฉีกขาดอีกครั้ง.
ฉันต้องทนรับแรงกระแทกที่หนักหน่วงเพราะแม้ว่าจะร้องขอเขายังไงก็คงไม่เป็นผล ฉันขอถอนคำพูดที่บอกว่า 'คุณรณใจดี' ซึ่งความจริงแล้ว เขาใจร้ายและป่าเถื่อนมาก
ท่อนเอ็นขนาดใหญ่เกินมาตรฐานกดกระแทกกระทั้งเข้ามาไม่ยั้ง ชายหนุ่มหน้านิ่งจ้องมองมาที่ฉันก่อนจะโน้มตัวลงมาซุกไซร้ที่ซอกคอของฉันระหว่างที่ท่อนล่างยังคงขยับอยู่ สักพักเขาก็หยัดกายลุกแล้วถอนแท่งร้อนออกก่อนจะจับฉันนอนพลิกคว่ำหน้าดึงสะโพกขึ้นระดับเอว แล้วสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปอีกรอบก่อนที่จะตอกเข้า ๆ ออก ๆ รัว ๆ ฉันรู้สึกจุกเสียดที่ทัองน้อยมาก
"คุณรณ นับจุก"
"ครางออกมา อื้ออออ"เขาไม่สนใจคำพูดฉันเลือกที่จะออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงกระเส่า ในขณะที่ฉันกัดปากตัวเองจนห้อเลือดเพื่อเก็บเสียง เพียะ! ฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าที่สะโพกของฉันอย่างแรง.
"ฉันบอกให้คราง!"น้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แฝงด้วยความดุ
"อ๊ะ อ๊ะ อร้ายยย"ฉันรีบเปิดปากตัวเองแล้วครางออกมาตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
"ดึ อ่า..แน่นฉิบ"มือหนาจับที่สะโพกทั้งสองข้างหลวม ๆ แล้วโยกสะโพกเข้าออกรัว ๆ
"อะ อ๊ะ อ๊ะ"
"ซี๊ดดดด อ้ากกกก"สิ้นเสียงฉันรู้สึกมีของเหลวพ่นเข้ามาในตัว คุณรณกดแช่ลำยักษ์ไว้สักพักก่อนที่จะถอนมันออกมา ส่วนฉันก็นอนหืดหอบราวกับคนหมดเรียวแรง.คิดว่ามันคงจบไว้ แต่ทว่า ฉันคิดผิด คุณรณพลิกร่างฉันนอนหงายแล้วแหกขาฉันออกกว้างก่อนที่จะเสียบท่อนเอ็นเข้าไปใหม่ แล้วจัดการกระแทกอย่างไม่ยั้ง ปึก ปึก ปึก
ฉันลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกเจ็บแสบไปทั้งตัวโดยเฉพาะช่วงล่าง.แทบจะขยับตัวไม่ได้ จมูกก็ได้กลิ่นบุหรี่คละคลุ้งทั่วห้อง.ฉันพยายามหยัดกายลุกขึ้นในสภาพเปลือยเปล่า ก็เห็นคุณรณที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่โซฟาด้วยสภาพสวมผ้าขนหนูตัวเดียว
"ไปอาบน้ำซะ แล้วเก็บของ"เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"....."ฉันขมวดคิ้วจ้องหน้าเขาด้วยความสงสัย
"หูหนวกหรือไง!"
"คุณรณจะปล่อยนับไปแล้วใช่ไหมคะ"ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะไม่ค่อยมีแรง
"ใครบอกว่าฉันจะปล่อยเธอ...."ชายหนุ่มหน้านิ่งดับบุหรี่แล้วลุกขึ้นเดินตรงมาที่ฉันที่นั่งอยู่บนเตียงโดยเอาผ้าห่มคลุมร่างกายตัวเองไว้
".....ฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น"คุณรณยืนท้าวเอวหลวม ๆ ที่ข้างเตียงด้วยสายตาจ้องมาที่ฉัน
"รีบลุกสิ!"ฉันสะดุ้งโหย่งขณะที่จิดใจเหม่อลอยเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดุตวาดน้ำเสียงแข็ง
"ค่ะ"ฉันตอบรับโดยดี แล้วค่อย ๆ ลงจากเตียงทั้งที่ขาสั่นไม่หยุด พอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวแล้วก็เดินไปยังห้องน้ำ
ฉันต้องตกใจที่ส่องไปที่กระจกพบว่าเนื้อตัวมีแต่รอยจ้ำเขียว ๆ แดง ๆ ไปทั่วลำคอและเนินอก ฉันลอบหายใจเบา ๆ อย่างรู้สึกสะเทือนใจที่เห็นตัวเองในสภาพแบบนี้
พอฉันออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าคุณรณแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเขานั่งอยู่บนโซฟาสายตาจ้องมองไปที่โทรศัพท์ราคาแพงที่อยู่บนมือของเขา ฉันไม่ได้สนใจรีบใส่เสื้อผ้าแล้วเก็บของตามคำสั่ง ระหว่างที่ฉันกำลังเก็บของอยู่นั้น
"ผ้าอะไร"เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังขณะที่ฉันกำลังเปิดลิ้นชักข้างเตียงหยิบผ้าเช็ดหน้าของรุ่นพี่ใจดีขึ้นมาใส่ไว้ในกล่อง.
"ผ้าเช็ดหน้าค่ะ"ฉันหันไปตอบคนด้านหลังเขาขมวดคิ้งจ้องไปที่ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น
"ของใคร..ของเธอเหรอ"
"ของ...."ครืน ครืน ยังไม่ทันจะได้ตอบอยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของคุณรณก็ดังขึ้นเขาจึงล้วงกางเกงหยิบมันขึ้นมา
"รีบเก็บ..ฉันมีธุระต่อ"ว่าจบเขาก็กดรับสายแล้วเดินออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้อง
ตอนนี้ฉันอยู่บนรถคันหรูของคุณรณเขาขับรถออกมาจากบ่อนด้วยสีหน้านิ่งสายตาจ้องไปที่ถนน
"คุณรณจะพานับไปไหนเหรอคะ"ฉันตัดสินใจถามเขาจากที่นั่งเงียบมานาน
"คอนโดฉัน"ปากขยับแต่ตาจ้องไปข้างหน้า
"คอนโดคุณรณ?"ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
"ฉันจะเอาของแถมไปอยู่ในที่ไม่มีคนเห็น"คนตัวโตพูดเสียงเบาแทบจะไม่ได้ยินสายตาก็ยังจ้องไปที่ถนน
"....."ฉันหันไปมองเขาแล้วเม้มปากทั้งสองเข้าหากันแน่น
คุณรณเลี้ยวรถเข้าไปในลานจอดรถของคอนโดหรูถึงชั้น15 พอรถจอดสนิทเขาก็ปลดเบลล์เปิดประตูลงจากรถ ฉันก็คว้ากระเป๋าแล้วกล่องใส่ของลงรถตามเขาติด ๆ ชายหนุ่มร่างสูงเดินนำหน้าฉันมายืนตรงที่ประตูหรูหน้าห้อง 1567 แล้วกดรหัสเปิดประตูห้องก่อนที่จะก้าวขาเดินเข้าไป และฉันก็เดินตามเขาเข้าไป ภายในห้องกว้างขวางและหรูหรามาก
"เธอนอนห้องนั้น"เจ้าของห้องชี้นิ้วไปที่ประตูห้องฝั่งขวามือ
"ค่ะ"ฉันตอบรับแล้วเดินไปยังห้องที่คนตัวโตบอก
"ห้ามออกไปไหน เดี๋ยวฉันมา"ฉันหยุดชะงักหันไปมองคุณรณแล้วผงกหัวรับ.จากนั้นเจ้าของห้องก็เดินออกไป
_________________
ของแถมที่มีค่า ตอนจบตอนนี้ฉันนั่งรถมากับคุณรณและมีลูกนั่งตักอยู่เพื่อจะไปดูงานที่บ่อนหลังจากที่ได้พากันไปเลือกชุดแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว พอมาถึงสามีของฉันก็รีบลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่ฉันนั่ง แล้วคว้าลูกชายของเขาไปอุ้ม"เติร์ดมากับพ่อ"เจ้าตัวน้อยฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้อยู่บนอ้อมแขนคนเป็นพ่อ ส่วนฉันก็ปลดเบลล์แล้วลงจากรถเดินตามสองพ่อลูกเข้าไปในบ่อน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ฉันเคยได้อาศัยอยู่อาจจะไม่นานแต่ก็คุ้นเคยดี"สวัสดีครับคุณรณ คุณนับ"เป็นผู้จัดการที่ดูแลบ่อนกล่าวทักทายเมื่อเราสองคนก้าวขาเข้าไปในออฟฟิศ"ที่นี่เรียบร้อยดีไหม"คุณรณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ"เรียบร้อยดีครับ"ผู้จัดการหนุ่มตอบในขณะที่เจ้าของบ่อนอุ้มลูกไปนั่งที่โซฟา ก่อนที่ฉันจะเดินไปนั่งลงข้าง ๆ"เอาเอกสารมาให้ผมดูหน่อย""ครับ"สิ้นเสียงผู้จัดการก็เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วยกหูโทรศัพท์ก่อนจะพูดเข้าไปในสาย"ให้คนเอาน้ำมาเสิร์ฟคุณรณกับภรรยา และขนมให้คุณเติร์ดหน่อย"พูดจบ ผู้จัดการก็วางสายแล้วหยิบแฟ้มเอกสารสองสามแฟ้มมาวางไว้ที่โต๊ะกระจกตรงหน้าคุณรณ แล้วนั่งบนโซฟาตรงข้าม"อุ้มลูก..พี่ตรวจงานแปบ"สามียื่นลูกชายมาให้ ฉันก็รีบลูก
มันถึงเวลาแล้วตอนนี้ทุกคนต่างพากันรุมกันอุ้มเจ้าเทวดาตัวน้อยของฉันกันด้วยความเอ็นดู"หน้าเหมือนรณตอนเด็กเป๊ะ"เป็นคำพูดของแม่คุณรณที่ในขณะที่ฉันหยัดกายลุกขึ้นหลังโดยมีสามีหน้านิ่งคอยพยุงขึ้นแล้วเอาหลังพิงที่หัวเตียง ระหว่างนั้นก็มีการรับขวัญหลาน ต่างคนมีของมารับขวัญหลานกันทั่วหน้า แม้แต่หญิงสาวปริศนาที่อยู่ข้างพี่ทอยตลอด ฉันรู้สึกสงสัยว่าเธอเป็นใคร จึงเอ่ยถามคุณรณเบา ๆ"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอคะ"คุณพ่อป้ายแดงก็หันไปที่ผู้หญิงคนนั้นก่อนจะหันกลับมาบอกว่า"แฟนใหม่ไอ้ทอยเห็นว่าชื่อ ไผ่""แฟนใหม่พี่ทอย? ไปมีตั้งแต่ตอนไหนนะ"ประโยคสุดท้ายฉันได้พึมพำออกมาเบา ๆ พอได้ยิน"มันก็คบ ๆ เลิก ๆ มาหลายคนแบบนี้แหละ บางคนพี่ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย มันก็เลิกไปซะก่อน"คุณรณหันไปที่พี่ชายแล้วบ่นพึมพำ"นินทาอะไรพี่ทอย"นั้นเป็นเสียงของเทมโปที่เดินล้วงกระเป๋ามาที่เตียงฉัน"เหอะ"คนเป็นพี่กลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ"พี่รณ รู้หรือยังว่าพี่ต้องรัก กลับมาอยู่ที่ไทยแล้ว"เทมโปเข้ามากระซิบเบา ๆ ที่กลางวง ต้องรัก? เป็นใครกัน ในขณะที่คุณรณสั่นหัวพรืด"แล้วพี่ชายมึงรู้ยัง"คุณรณคงจะหมายถึงพี่ทอย เทมโปผงกหัว"รู้...แต่ไม่เห็นมี
น้องเติร์ดมาแล้วตอนนี้อายุครรภ์ฉันได้แปดเดือนแล้ว อีกเดือนเดียวฉันก็จะได้เห็นหน้า น้องเติร์ด หรือ ด.ช.รัชชนันท์ แล้ว นั้นเป็นชื่อที่ฉันกับสามีสุดหล่อหน้านิ่งช่วยกันตั้ง.คุณรณดูแลฉันเป็นอย่างดี เขาทำงานแค่ที่คาสิโนตรงกันข้ามบ้านที่เราอยู่รวมถึงไปดูแลโรงแรมที่สร้างโดยที่ดินพ่อฉันที่เขาได้ซื้อไป แต่ตอนนี้โอนมาเป็นของฉันแล้ว โรงแรมที่สร้างนั้นก็เพื่อเอาไว้ให้นักเล่นพนันที่มาจากต่างชาติได้พัก ในส่วนที่ตรงนั้นทำเล และวิวดีมาก ไม่ใช่แค่นักเล่นพนัน ยังมีนักท่องเที่ยวมาพักด้วย ส่วนบ่อนคุณรณก็ขอให้พี่ทอยเข้าไปดูแลให้ก่อน เพราะต้องคอยดูแลฉันฉันอยู่บ้านก็ไม่ได้เหงาอะไรเพราะมีพี่นุชมาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนลูกซุบ คุณรณเอาไปฝากไว้ที่บ้านแม่ของเขาไว้ พี่นุชจะอยู่กับฉันจนคุณรณเลิกงาน เธอถึงจะกลับ"คุณรณมาแล้ว"ฉันหันไปที่ประตูบ้านก็เห็นว่าที่คุณพ่อเดินเข้ามา พี่นุชลุกจากโซฟาไปช่วยถือสูทและกระเป๋าทำงานของเขา ส่วนฉันนั่งพุงพุ้ยอยู่บนโซฟา ลุกแทบไม่ขึ้นเนื่องจากว่าฉันเป็นคนตัวเล็กแล้วลูกในครรภ์ค่อนข้างตัวใหญ่สมบูรณ์ หมอจึงแนะนำให้ทำการผ่าคลอด ชายหนุ่มหน้านิ่งปลดเน็กไทหลวม ๆ แล้วเดินมานั่งข้างฉัน ก่อนที่จะ
จดทะเบียน"อืม พี่มั่นใจแล้วล่ะว่าเธอนั้นแหละที่พี่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วย"พอสิ้นเสียงหัวใจฉันก็เต้นโครมครามอย่างไม่มีจังหวะ และรู้สึกว่าดวงตาเกิดเห่อร้อนขึ้นราวกับกำลังจะหลั่งน้ำใส ๆ ออกมา"พะ พี่รณ..."ฉันเอ่ยเรียกชื่อว่าที่พ่อของลูกด้วยน้ำเสียงสั่นเทา"...ที่พี่พูดหมายความว่า""พี่เลือกเธอ"เจ้าของใบหน้าหล่อหันมาแล้วเผยยิ้มบาง ๆ จากนั้นหยดน้ำตาฉันก็ไหลออกมาทันที มือหนาเอื้อมมาเช็ดหยดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือ"นับ ดีใจที่สุดที่พี่เลือกนับ"ฉันพูดออกไปอย่างสะอึกสะอื้น น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลไม่หยุด"ไม่ร้องนะครับ"น้ำเสียงทุ้มแฝงความอบอุ่นทำให้หัวใจฉันสั่นระรัว"ค่ะ"ฉันรีบปาดน้ำตาแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ คุณรณยกมือมาลูบหัวฉัน"จะเป็นแม่คนแล้วต้องไม่งอแงนะครับ"ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่จะมีคนคอยดูแลอย่างคุณรณคุณรณขับมาถึงบ้านหลังนึง ซึ่งใหญ่โตมาก ฉันรู้สึกตื่นตาและประหม่านิด ๆ กว่าคุณรณจะขับรถไปถึงที่จอดก็เกือบกิโล พื้นที่กว้างขวางสุด พอมาถึงที่จอดรถคุณรณก็ดับเครื่องยนต์แล้วหันมามองฉัน ตุ่บ ตุ่บ หัวใจฉันเต้นแรงมากด้วยอาการตื่นเต้น"ไม่ต้องตื่นเต้น พ่อแม่พี่ใจดี"ราวกับว่าจะรู้ว่าตอนนี้ฉันตื่นเต้นมา
มั่นใจRONระหว่างผมเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร ผมก็เผยยิ้มออกมาโดยไม่มีใครเห็น เพราะผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่รุ่นน้องคนที่เป็นรักแรกของผมคือ 'นับตังค์' ผมรู้สึกมีความสุขมากที่รู้ว่ารักแรกของผมตอนนี้กำลังจะเป็นแม่ของลูกอีกด้วยพอขึ้นมาบนห้องปิดประตูเรียบร้อยแล้ว นึกอะไรบางอย่างที่จะต้องทำให้เร็วที่สุด จึงคว้าโทรศัพท์แล้วโทรหาไอ้ทอยพี่ชายต่างมารดาทันที ตื๊ด ตื๊ด(ว่าไง)"นับตังค์ท้อง"นั้นแหละคือสิ่งที่ผมจะทำ และไม่ได้จะบอกแค่ไอ้ทอยคนเดียว พรุ่งนี้หลังจากตรวจครรภ์เสร็จผมจะพาเธอไปเปิดตัวกับครอบครัว ที่ผมบอกกับทุกคนที่โต๊ะอาหารว่า มีคนที่จะใช้ชีวิตด้วยแล้ว นั้นก็คือนับตังค์ ผมมั่นใจแล้วล่ะ 'ผมรักเธอ'(อย่าบอกนะว่าแกทำนับท้อง)ไอ้ทอยพูดเข้ามาในสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแฝงความกังวล มันคงกลัวผมจะไม่รับผิดชอบนับตังค์แน่"อืม"ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ(แกต้องรับผิดชอบนะ ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูน้าเรอากับพ่อแน่)มันทำมาเป็นขู่ผม"งั้นฝากบอกด้วยนะว่าพรุ่งนี้จะพาลูกสะใภ้ไปไหว้"ทำไมรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมานะ เขินกับคำพูดตัวเอง?(ฮั่นแน่...สุดท้ายก็ตกหลุมรักของแถมแล้วสินะ)ไอ้พี่ชายตัวดีก็แซวผมขึ้นทันที
ไม่สำคัญ"แม่..."พี่เอิงเอยอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะพาแม่ของเธอนั่งลงที่เก้าอี้"...พี่รณช่วยแม่เอยด้วย"เธอเอาฝ่ามือพัดที่หน้าแม่แล้วหันมาบอกกับคุณรณที่มองอยู่ด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่ฉันเองกับพี่นุชกำลังจะลุกจากเก้าอี้เพื่อจะไปดูด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเธอจะร้ายกับฉัน แต่พอเห็นเธอเป็นอะไรต่อหน้าแบบนี้ก็อดที่จะสงสารและเป็นห่วงไม่ได้"นับตังค์เธอไม่ต้อง...."แล้วเสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาที่ฉัน"...ไปเอายาดมมา"ก่อนจะหันไปที่พี่นุชแล้วออกคำสั่งเสียงเรียบ"ค่ะ"พี่นุชเดินไปในทันที"พี่รณ..เอยคิดว่าแม่อาจจะต้องไปโรงพยาบาลนะคะ""ทำไมต้องไป แค่เป็นลมไม่ใช่เหรอ"ชายหนุ่มหน้านิ่งสวนกลับ"เอ่อ...ช่วงหลังมานี้แม่เอยทำงานหนักมักจะเป็นลมบ่อย ๆ แล้ววันนี้ยังต้องมาขนของให้นับอีก แม่คงจะเหนื่อยมาก"หันมามองขวางที่ฉัน ในขณะเดียวกันที่พี่นุชก็ถือแก้วร้อนที่มีควันขึ้นมา พร้อมกับยาดมมาด้วย"อะไรน่ะ"พี่เอิงเอยถามด้วยสีหน้าสงสัย"ยาหอมไง..พี่เห็นว่าน้าออยเป็นลมก็เลยต้มมาให้"พี่เอิงเอยไม่รับมองหน้าน้าออยที่นอนหลับตาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ฉันรู้ว่าเพราะอะไร"เอาให้แม่กินสิ"พี่นุชยื่นแก้วให้อึกครั้ง"แม่เอยไม่ชอบกินยาหอม
ขโมยมา?หลังจากพี่เอิงเอยออกไป ฉันก็หันไปถามคุณรณด้วยความสงสัยต่อ"พี่เอยบอกว่าออกจากโรงเรียนเพราะนับ?""อืม"ชายหนุ่มหน้านิ่งตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ฉันได้ยินแบบนั้นก็ลอบหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่ใช่เรียนสำคัญ แต่ก็อดคิดไม่ได้เลยว่าทำไมพี่เอิงเอยจะพูดเอาความดีเข้าตัวแบบนี้"หิวหรือยัง"นั้นเป็นเสียงของคุณรณที่เอ่ยถาม"นิดหน่อยค่ะ""งั้นเราลงไปทานข้าวกันเถอะ"พูดจบ คุณรณก็ลุกขึ้นจากโซฟา"ไม่รอทานพร้อมพี่เอยเหรอคะ"ฉันบอกออกไปด้วยความที่ยังน้อยใจ"ไม่ล่ะ ฉันหิว"พอสิ้นเสียงคุณรณก็เดินออกไปจากห้อง ส่วนฉันก็ต้องลุกเดินตามเขาไป ก็ได้สวนเข้ากับพี่เอิงเอย และน้าออย พอเห็นฉันก็พากันรีบคว้าแขนไปในห้องนอนเล็ก"มีอะไรกัน""แกบอกอะไรกับพี่รณหรือเปล่า"พี่เอิงเอยถามด้วยสีหน้าดูร้อนใจ"เรื่องที่พี่ไปโกหกเขาว่าออกจากโรงเรียนเพราะนับ?"ฉันรู้เลยจึงพูดขึ้น เธอคงจะกลัวว่าฉันจะไปบอกความจริงแน่ ๆ แต่ฉันไม่บอกหรอกเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"ใช่ แกได้ไปพูด....""นับไม่สนใจหรอกนะ นับก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย"ฉันแทรกพูดขึ้นแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ"เพราะแกท้องใช่ไหมพี่รณถึงได้เอาใจแก..บอกฉันมา!.""นับตังค์
ใครสั่งให้ย้ายตอนนี้ฉันกำลังจัดเรียงข้าวของที่ขนย้ายมาจากห้องนอนใหญ่อยู่คนเดียวเพราะพี่นุชแยกตัวไปทำมื้อเย็นแล้ว ส่วนพี่เอิงเอยก็ถือวิสาสะพาน้าออยเข้าไปในห้องนอนใหญ่ ซึ่งก็ไม่มีใครพูดห้ามอะไรเพราะถึงพูดไปเธอก็คงไม่ฟัง.ฉันเองก็ไม่อยากจะไปต่อล้อต่อเถียงด้วยปัง! ปัง! ฉันสะดุ้งโหย่งเมื่อได้ยินเสียงทุบประตูห้อง ตามด้วยเสียงของสองแม่ลูก"นังนับ!""เปิดประตูสิ!"เฮ้อ..ฉันพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้ววางมือเดินไปเปิดประตู"มีอะไรคะ"ฉันเอ่ยอย่างเอือมระอา"ทำไมแกถึงยังหน้าด้านอยู่ที่นี่"นั้นเป็นคำถามของแม่เลี้ยง"..."ฉันไม่ตอบได้แต่ยืนจ้องหน้าเธอกัดฟันแน่น"แกมองฉันแบบนี้หมายความว่าอะไร""แกจะทำอะไรแม่ฉัน!"คนเป็นลูกสาวแทรกตัวมายืนตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าเอาเรื่อง"...."ฉันเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วลอบหายใจเบา ๆ"แกจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นานหรอก...ฉันจะให้พี่รณไล่แกออกจากบ้านนี้ไปแน่""ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม...นับจะได้ไปจัดของต่อ"ฉันไม่สนใจคำพูดของลูกสาวแม่เลี้ยง แล้วพยายามจะหลีกเลี่ยงทั้งคู่ ระหว่างที่กำลังจะเอื้อมไปปิดประตู"เอ๊ะ..นังนับนี่แกอ้วนขึ้น?"พี่เอิงเอยเป็นคนทักเธอได้หลุบตามองที่หน้าท้องของฉันที่มีนูน ๆ ออ
ต้องรู้ให้ได้หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จพอเปิดประตูออกมาก็พบกับความว่างเปล่าไร้ตัวตนพ่อของลูก จึงรีบสวมใส่เสื้อผ้าแล้วรีบลงมาจากห้อง.แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกเจ็บที่หัวใจราวกับมีคนเอามีดมาทิ่งแทง"นับไปทานข้าวสิ พี่ตักข้าวต้มไว้ให้แล้ว"พี่นุชเดินเข้ามาสะกิดที่ไหล่จนทำให้ฉันสะดุ้งรีบยกมือปาดน้ำตาที่มันคลอเบ้า"ให้พวกเขาทานกันไปก่อนดีกว่า...เดี๋ยวนับค่อยไปทานทีหลัง""เฮ้อ...ไม่รู้ว่ายัยเอยทำของใส่คุณรณหรือเปล่าทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนไปแบบนี้..."เธอถอนลมหายใจแล้วหันไปมองชายหญิงที่นั่งทานมื้อเช้าอย่างกะหนุงกะหนิงราวกับคนรักกัน"....ไม่แคร์นับบ้างเลยทั้งที่กำลังจะเป็นพ่อของลูกในทัองนับ""ช่างเขาเถอะพี่ นับคงไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขาและที่เขาดีกับนับก็เพราะ...ลูก"ฉันเอามือลูบที่ท้องแล้วก้มลงมองอย่างสะเทือนใจ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าคุณรณจะดูแลและดีลูกฉันหรือเปล่าถ้าหากเขาจะเลือกพี่เอิงเอยเป็นคู่ชีวิต แต่กับฉันแล้วไม่ว่าจะยังไงลูกก็คือสิ่งที่มีค่าและเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับฉัน"นับขึ้นไปบนห้องก่อนนะ ถ้าพวกเขาไปแล้วช่วยไปตามนับด้วย""จ๊ะ"พี่แม่บ้านตอบรับสั้น ๆ แต่ส