คู่แข่ง
"อย่าใจดำไปหน่อยเลย กูก็แค่ขอจอดรถ..."ชายหนุ่มร่างสูงแสยะยิ้มแล้วยกมือชี้ไปอีกฝั่ง
"...กูก็มาสำรวจที่ดินที่กูกำลังจะสร้างคาสิโนเหมือนกัน"พอเขาพูดจบคุณรณที่กระชากคอเสื้อผู้ชายคนนั้นด้วยท่าทางโกรธ
"คุณรณ!"ฉันเอ่ยปรามเพราะกลัวจะมีเรื่อง.
"มึงคิดจะแข่งกับกู?"
"คุณรณอย่า"ฉันรีบดึงแขนคุณรณออกมา พอมือหลุดจากคอเสื้อผู้ชายคนนั้นก็จัดให้เรียบร้อยแล้วยกยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว.
"หึ ก็ลองดูว่าใครจะแน่กว่ากัน"ว่าจบชายหนุ่มที่ชื่อเทวาก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงข้ามถนนไปที่ฝั่งตรงข้าม คุณรณยืนขบกรามกำหมัดแน่นมองแผ่นหลังผู้ชายคนนั้นจนเขาข้ามถนนไปแล้ว จากนั้นเจ้าของบ่อนใหญ่ก็ล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
"ทอย เตรียมหาทีมงานออกแบบ ทีมงานก่อสร้างไว้ให้ด้วย กูจะเร่งสร้างคาสิโนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด "
"อืม"พอสิ้นเสียงคุณรณก็กดวางสาย เขาพ่นลมหายใจแล้วมองไปฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาเรียบนิ่งแฝงความดุดัน
จากนั้นคุณรณก็พาฉันนั่งรถออกมา ตลอดทางเข้านั่งเงียบมากราวกับมีเรื่องที่จนคิด เพราะดูจากสีหน้า ซึ่งฉันก็ไม่ได้ไถ่ถามอะไร จนกระทั่งคุณรณขับรถมาถึงห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมือง ก่อนจะลงจากรถคุณรณได้พูดกับฉันว่า
"เดี๋ยวหาอะไรกินก่อน"ฉันหันไปผงกหัวรับแล้วเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามชายหน้านิ่งไปติด ๆ
"อยากกินอะไร"อยู่ ๆ คุณรณก็หันมาถามฉันด้วยสีหน้าเรียบ ๆ
"เอ่อ อะไรก็ได้ค่ะ"คุณรณไม่พูดอะไรฉันได้ยินเสียงถอนลมหายใจกลับมา
จากนั้นชายหนุ่มขายาวก็เดินนำหน้าฉันเข้าไปในร้านอาหารร้านหนึ่งที่อยู่ภายในห้าง เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนโดยมีฉันนั่งตรงข้ามพนักงานเสิร์ฟเดินมายื่นเมนูให้เราทั้งคู่ ฉันรู้สึกเกร็ง ๆ มากไม่กล้าสั่งอาหารเลย จนคุณรณสั่งไปสองสามเมนูแล้ว เขาช้อนตาขึ้นมาหน้าฉัน
"ทำไมไม่สั่ง?"
"คุณรณสั่งอะไรนับก็กินได้หมดล่ะค่ะ"ฉันพูดพร้อมวางเมนูลงแล้วคลี่ยิ้มเจื่อน ๆ เห็นคุณรณเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วลอบหายใจก่อนที่จะหันกลับมาสั่งอาหารต่อ
ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ คุณรณก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วกด ๆ จิ้ม ๆ ราวกับคุยกับใครด้วยสีหน้านิ่งเฉย ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเงียบหันมองนั้นนี่จนอาหารมาเสิร์ฟ จากนั้นเราสองคนก็ทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ บางทีฉันว่าการที่อยู่กับคุณรณก็ดีเหมือนกันนะเขาเป็นคนไม่พูดมากดี
พอทานอาหารเสร็จ คุณรณก็พาฉันเข้าไปในร้านขายโทรศัพท์แล้วเลือกโทรศัพท์ให้ฉันในราคาที่แพงหูฉี่ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่กล้ารับไว้เลย
"มันแพงไปค่ะ นับขอราคาถูกกว่านี้ได้ไหม"
"เรื่องมาก..."เสียงทุ้มดุดังขึ้นก่อนที่จะหันไปที่พนักงานขาย
"....เอาเครื่องนี้ครับ"พนักงานสาวคลี่ยิ้มหวานแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงมาให้
"ขอบคุณนะคะ"ฉันกล่าวกับคุณรณที่มีสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นคุณรณก็พาฉันเข้าไปในร้านเสื้อผ้า ต่อด้วยร้านรองเท้า เขาใจดีมากซื้อให้ฉันหมดทุกอย่างโดยที่ฉันไม่ได้เลือกเลย เขาชี้นิ้วสั่งพนักงานขายอย่างเดียว.
ฉันหิ้วของเต็มไม้เต็มมือโดยที่ไม่มีใครช่วย คุณรณล้วงกระเป๋าเดินนำหน้าฉันอย่างคุณชายแล้วมีฉันดูเหมือนเป็นคนใช้เดินตาม แต่ของในถุงล้วนแต่เป็นของฉันแหละและเป็นเงินเขาด้วย ฉันจึงไม่ได้ร้องขอให้เขาช่วย
คุณรณมาส่งฉันที่บ่อน และกำชับไม่ให้ฉันไปไหนหรือออกจากห้องเด็ดขาด แล้วก็ขับรถออกไป ฉันเดินเข้ามาข้างในระหว่างที่จะขึ้นบันไดชั้นสอง.
"เดี๋ยวเราช่วย"ฉันหยุดชะงักแล้วหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นพนักงานบ่อนที่เอาข้าวมาให้ฉันเมื่อเช้านั้นเอง
"ไม่เป็นไร"แต่พนักงานชายคนนั้นก็ดึงของจากมือฉันไปถือซะแล้ว
"...."พนักงานชายคลี่ยิ้มแล้วก้าวขาเดินนำหน้าฉันขึ้นไป จนมาถึงหน้าห้อง เขาจึงยื่นถุงให้กับฉัน
"ขอบใจนะ"
"เราปาล์มนะ เธอนับตังค์ใช่ไหม"
"ใช่ ๆ เราชื่อนับตังค์"ฉันตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มให้ รู้สึกว่าปาล์มน่าจะอายุพอ ๆ กับฉัน
"มึอะไรให้เราช่วยบอกได้นะ เราทำงานอยู่ชั้นล่างนี่แหละ"
"อืม ขอบใจอีกครั้ง"ว่าจบปาล์มก็ยิ้มแล้วหันหลังเดินไป
ฉันขนข้าวของที่คุณรณซื้อให้มาเก็บไว้ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ขึ้นมาเชยชม ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีโทรศัพท์ที่มีราคาครึ่งแสนแบบนี้
"คุณรณใจดีจัง"ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วเผลอคลี่ยิ้มออกมา ก่อนที่จะวางมันลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้าห้องนอนถอดเสื้อผ้าคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ
ฉันเอื้อมมือไปเปิดก็อกน้ำเพื่อทำการล้างหน้าแต่ทว่าก็อกน้ำดันหลุดออกมาคามือทำให้น้ำพุ่งออกมา ฉันตกใจมากเหลือบมองหาวาล์วน้ำเพื่อจะปิดแต่ก็หาไม่เจอ จึงออกมาจากห้องน้ำทั้งที่น้ำยังไหลอยู่ ฉันรีบสวมใส่เสื้อผ้าแล้วออกมาจากห้องไปขอความช่วยเหลือจากปาล์มพอลงบันไดมาก็บังเอิญเจอปาล์มพอดี
"ก็อกน้ำที่ห้องนับมันชำรุดหลุดออกมาน้ำไหลไม่หยุดเลยช่วยไปทำให้หน่อยได้ไหม"
"ได้สิ เธอไปรอที่ห้องก่อนเดี๋ยวเราไปปิดวาล์วน้ำแล้วไปเอาอุปกรณ์จะรีบตามไป"
"ขอบใจมาก"ฉันกล่าวจบแล้วเดินขึ้นมาบนห้อง
.
.
.
RON
ตอนนี้ผมมาหาไอ้เจย์ที่ร้านกาแฟของมัน เพื่อมาคุยงานและจะบอกมันเรื่องนับตังค์ที่ไม่ได้มาทำงานที่นี่แล้ว ระหว่างที่รอมันชงกาแฟให้ลูกค้าอยู่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูกล้องวงจรที่บ่อนเพื่อตรวจความเรียบร้อย สายตาผมสะดุดไปที่กล้องตัวหนึ่งที่ติดอยู่หน้าห้องนับตังค์ ผมขบกรามแน่นเมื่อเห็นพนักงานชายเข้าไปในห้องนับตังค์ซึ่งเธอเป็นคนเปิดให้พนักชายคนนั้นเข้าไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผมกำหมัดแน่นรู้สึกโกรธคนตัวเล็กมาที่ให้ผู้ชายเข้าห้อง.
"กล้าดียังไงเอาผู้ชายเข้าห้อง..."ผมกัดฟันพึมพำด้วยความโกรธ
"...เธอได้เจอดีแน่ นับตังค์"ผมลุกจากเก้าอี้ออกมาจากร้านกาแฟโดยไม่ได้บอกใครเลยด้วยความร้อนใจ
ผมขับมาด้วยความเร็วไปที่บ่อนตัวเอง ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงเพราะรถติดมาก หงุดหงิดชะมัด พอมาถึงผมก็รีบเข้ามาในบ่อนเดินขึ้นบันไดมายังชั้นสองห้องของนับตังค์ เพื่อจัดการเธอก่อนที่จะลงมาจัดการกับพนักงานชายคนนั้น ผมวิสาสะไขกุญแจห้องเข้าไปเลยพอก้าวขาเข้ามาก็ได้ยินเสียงคนอาบน้ำอยู่ ผมขบกรามแน่นเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ปัง! ปัง! ปัง!
"เปิดประตู!"ผมทุบประตูแทบจะพังด้วยความโกรธ
"คุณรณเหรอคะ นับกำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ"
"ฉันบอกให้เปิดประตู!"ผมไม่สนใจว่าเธอทำอะไรอยู่เพราะตอนนี้ผมอยากให้เธอเปิดประตู
"รอแป็บนึงนะ..."
"เปิดประตูเดี๋ยวนี้..หรือจะให้ฉันพังเข้าไป"
"ค่ะ ค่ะ"คนข้างในตอบรับทันที ประมาณสองนาทีเสียงประตูก็เปิดออกมา หมั่บ! ผมกระชากแขนนับตังค์อย่างแรงให้เธอออกมา
"ว้าย คุณรณ"
"ร่านมากเลยใช่ไหม..."คนตัวเล็กมีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บแล้วเงยหน้ามองผม.
"....พอได้ลิ้มลองkวยเข้าหน่อย ติดใจ?"
"หมะ หมายความว่าอะไรคะนับไม่เข้าใจ"ผมไม่สนใจคำพูดของเธอ
"มานี่"ผมลากนับตังค์มาที่โซฟาทั้งที่ตัวเปียกมีผ้าขนหนูพันตัวอยู่ชิ้นเดียว
"ว้าย.."คนตัวเล็กลงไปนอนกองอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว.
"รู้ไหมว่าผู้หญิงที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือผู้หญิงร่าน ๆ แบบเธอนี่แหละ"ผมย่อตัวลงไปที่ใบหน้าสวยของนับตังค์แล้วใช้มือบีบที่ปลายคางเธอ
"...."เธอสั่นหน้าพรืดแล้วพยายามดึงมือผมออก
"kวยฉันคนเดียวไม่พอ?..อยากได้หลาย ๆ อัน?"
"คุณพูดอะไรนับไม่เข้าใจ"ผมสะบัดใบหน้าเธอแล้วเอามือออก
"หึ ไม่เข้าใจ? อย่ามาทำอินโนเช้นท์ต่อหน้าฉัน แล้วลับหลังพาผู้ชายเข้าห้อง"นับตังค์จ้องหน้าผมนิ่ง ๆ
"พาผู้ชายเข้าห้อง?...."เธอขมวดคิ้วแล้วทำสีหน้าราวกับคิดอะไรบางอย่าง
"....ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด นับขอให้ปาล์มมาทำก็อกน้ำให้เท่านั้นเอง"
"มาอยู่แค่ไม่กี่วันรู้ชื่อพนักงานของฉันแล้ว?..กี่คนแล้วล่ะ"นับตังค์หยัดกายลุกนั่งแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น
"อย่าหลบหน้าฉัน!"
"เอาไว้คุณอารมณ์เย็นกว่านี้แล้วค่อยคุยกันดีกว่า"นับตังค์พูดจบเธอก็ลุกจากโซฟากำลังจะก้าวขาเดิน หมั่บ!ผมคว้าแขนของเธอไว้ก่อน
"ฉันจะคุยตอนนี้ เดี๋ยวนี้!"
________________
ของแถมที่มีค่า ตอนจบตอนนี้ฉันนั่งรถมากับคุณรณและมีลูกนั่งตักอยู่เพื่อจะไปดูงานที่บ่อนหลังจากที่ได้พากันไปเลือกชุดแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว พอมาถึงสามีของฉันก็รีบลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่ฉันนั่ง แล้วคว้าลูกชายของเขาไปอุ้ม"เติร์ดมากับพ่อ"เจ้าตัวน้อยฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้อยู่บนอ้อมแขนคนเป็นพ่อ ส่วนฉันก็ปลดเบลล์แล้วลงจากรถเดินตามสองพ่อลูกเข้าไปในบ่อน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ฉันเคยได้อาศัยอยู่อาจจะไม่นานแต่ก็คุ้นเคยดี"สวัสดีครับคุณรณ คุณนับ"เป็นผู้จัดการที่ดูแลบ่อนกล่าวทักทายเมื่อเราสองคนก้าวขาเข้าไปในออฟฟิศ"ที่นี่เรียบร้อยดีไหม"คุณรณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ"เรียบร้อยดีครับ"ผู้จัดการหนุ่มตอบในขณะที่เจ้าของบ่อนอุ้มลูกไปนั่งที่โซฟา ก่อนที่ฉันจะเดินไปนั่งลงข้าง ๆ"เอาเอกสารมาให้ผมดูหน่อย""ครับ"สิ้นเสียงผู้จัดการก็เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วยกหูโทรศัพท์ก่อนจะพูดเข้าไปในสาย"ให้คนเอาน้ำมาเสิร์ฟคุณรณกับภรรยา และขนมให้คุณเติร์ดหน่อย"พูดจบ ผู้จัดการก็วางสายแล้วหยิบแฟ้มเอกสารสองสามแฟ้มมาวางไว้ที่โต๊ะกระจกตรงหน้าคุณรณ แล้วนั่งบนโซฟาตรงข้าม"อุ้มลูก..พี่ตรวจงานแปบ"สามียื่นลูกชายมาให้ ฉันก็รีบลูก
มันถึงเวลาแล้วตอนนี้ทุกคนต่างพากันรุมกันอุ้มเจ้าเทวดาตัวน้อยของฉันกันด้วยความเอ็นดู"หน้าเหมือนรณตอนเด็กเป๊ะ"เป็นคำพูดของแม่คุณรณที่ในขณะที่ฉันหยัดกายลุกขึ้นหลังโดยมีสามีหน้านิ่งคอยพยุงขึ้นแล้วเอาหลังพิงที่หัวเตียง ระหว่างนั้นก็มีการรับขวัญหลาน ต่างคนมีของมารับขวัญหลานกันทั่วหน้า แม้แต่หญิงสาวปริศนาที่อยู่ข้างพี่ทอยตลอด ฉันรู้สึกสงสัยว่าเธอเป็นใคร จึงเอ่ยถามคุณรณเบา ๆ"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอคะ"คุณพ่อป้ายแดงก็หันไปที่ผู้หญิงคนนั้นก่อนจะหันกลับมาบอกว่า"แฟนใหม่ไอ้ทอยเห็นว่าชื่อ ไผ่""แฟนใหม่พี่ทอย? ไปมีตั้งแต่ตอนไหนนะ"ประโยคสุดท้ายฉันได้พึมพำออกมาเบา ๆ พอได้ยิน"มันก็คบ ๆ เลิก ๆ มาหลายคนแบบนี้แหละ บางคนพี่ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย มันก็เลิกไปซะก่อน"คุณรณหันไปที่พี่ชายแล้วบ่นพึมพำ"นินทาอะไรพี่ทอย"นั้นเป็นเสียงของเทมโปที่เดินล้วงกระเป๋ามาที่เตียงฉัน"เหอะ"คนเป็นพี่กลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ"พี่รณ รู้หรือยังว่าพี่ต้องรัก กลับมาอยู่ที่ไทยแล้ว"เทมโปเข้ามากระซิบเบา ๆ ที่กลางวง ต้องรัก? เป็นใครกัน ในขณะที่คุณรณสั่นหัวพรืด"แล้วพี่ชายมึงรู้ยัง"คุณรณคงจะหมายถึงพี่ทอย เทมโปผงกหัว"รู้...แต่ไม่เห็นมี
น้องเติร์ดมาแล้วตอนนี้อายุครรภ์ฉันได้แปดเดือนแล้ว อีกเดือนเดียวฉันก็จะได้เห็นหน้า น้องเติร์ด หรือ ด.ช.รัชชนันท์ แล้ว นั้นเป็นชื่อที่ฉันกับสามีสุดหล่อหน้านิ่งช่วยกันตั้ง.คุณรณดูแลฉันเป็นอย่างดี เขาทำงานแค่ที่คาสิโนตรงกันข้ามบ้านที่เราอยู่รวมถึงไปดูแลโรงแรมที่สร้างโดยที่ดินพ่อฉันที่เขาได้ซื้อไป แต่ตอนนี้โอนมาเป็นของฉันแล้ว โรงแรมที่สร้างนั้นก็เพื่อเอาไว้ให้นักเล่นพนันที่มาจากต่างชาติได้พัก ในส่วนที่ตรงนั้นทำเล และวิวดีมาก ไม่ใช่แค่นักเล่นพนัน ยังมีนักท่องเที่ยวมาพักด้วย ส่วนบ่อนคุณรณก็ขอให้พี่ทอยเข้าไปดูแลให้ก่อน เพราะต้องคอยดูแลฉันฉันอยู่บ้านก็ไม่ได้เหงาอะไรเพราะมีพี่นุชมาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนลูกซุบ คุณรณเอาไปฝากไว้ที่บ้านแม่ของเขาไว้ พี่นุชจะอยู่กับฉันจนคุณรณเลิกงาน เธอถึงจะกลับ"คุณรณมาแล้ว"ฉันหันไปที่ประตูบ้านก็เห็นว่าที่คุณพ่อเดินเข้ามา พี่นุชลุกจากโซฟาไปช่วยถือสูทและกระเป๋าทำงานของเขา ส่วนฉันนั่งพุงพุ้ยอยู่บนโซฟา ลุกแทบไม่ขึ้นเนื่องจากว่าฉันเป็นคนตัวเล็กแล้วลูกในครรภ์ค่อนข้างตัวใหญ่สมบูรณ์ หมอจึงแนะนำให้ทำการผ่าคลอด ชายหนุ่มหน้านิ่งปลดเน็กไทหลวม ๆ แล้วเดินมานั่งข้างฉัน ก่อนที่จะ
จดทะเบียน"อืม พี่มั่นใจแล้วล่ะว่าเธอนั้นแหละที่พี่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วย"พอสิ้นเสียงหัวใจฉันก็เต้นโครมครามอย่างไม่มีจังหวะ และรู้สึกว่าดวงตาเกิดเห่อร้อนขึ้นราวกับกำลังจะหลั่งน้ำใส ๆ ออกมา"พะ พี่รณ..."ฉันเอ่ยเรียกชื่อว่าที่พ่อของลูกด้วยน้ำเสียงสั่นเทา"...ที่พี่พูดหมายความว่า""พี่เลือกเธอ"เจ้าของใบหน้าหล่อหันมาแล้วเผยยิ้มบาง ๆ จากนั้นหยดน้ำตาฉันก็ไหลออกมาทันที มือหนาเอื้อมมาเช็ดหยดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือ"นับ ดีใจที่สุดที่พี่เลือกนับ"ฉันพูดออกไปอย่างสะอึกสะอื้น น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลไม่หยุด"ไม่ร้องนะครับ"น้ำเสียงทุ้มแฝงความอบอุ่นทำให้หัวใจฉันสั่นระรัว"ค่ะ"ฉันรีบปาดน้ำตาแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ คุณรณยกมือมาลูบหัวฉัน"จะเป็นแม่คนแล้วต้องไม่งอแงนะครับ"ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่จะมีคนคอยดูแลอย่างคุณรณคุณรณขับมาถึงบ้านหลังนึง ซึ่งใหญ่โตมาก ฉันรู้สึกตื่นตาและประหม่านิด ๆ กว่าคุณรณจะขับรถไปถึงที่จอดก็เกือบกิโล พื้นที่กว้างขวางสุด พอมาถึงที่จอดรถคุณรณก็ดับเครื่องยนต์แล้วหันมามองฉัน ตุ่บ ตุ่บ หัวใจฉันเต้นแรงมากด้วยอาการตื่นเต้น"ไม่ต้องตื่นเต้น พ่อแม่พี่ใจดี"ราวกับว่าจะรู้ว่าตอนนี้ฉันตื่นเต้นมา
มั่นใจRONระหว่างผมเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร ผมก็เผยยิ้มออกมาโดยไม่มีใครเห็น เพราะผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่รุ่นน้องคนที่เป็นรักแรกของผมคือ 'นับตังค์' ผมรู้สึกมีความสุขมากที่รู้ว่ารักแรกของผมตอนนี้กำลังจะเป็นแม่ของลูกอีกด้วยพอขึ้นมาบนห้องปิดประตูเรียบร้อยแล้ว นึกอะไรบางอย่างที่จะต้องทำให้เร็วที่สุด จึงคว้าโทรศัพท์แล้วโทรหาไอ้ทอยพี่ชายต่างมารดาทันที ตื๊ด ตื๊ด(ว่าไง)"นับตังค์ท้อง"นั้นแหละคือสิ่งที่ผมจะทำ และไม่ได้จะบอกแค่ไอ้ทอยคนเดียว พรุ่งนี้หลังจากตรวจครรภ์เสร็จผมจะพาเธอไปเปิดตัวกับครอบครัว ที่ผมบอกกับทุกคนที่โต๊ะอาหารว่า มีคนที่จะใช้ชีวิตด้วยแล้ว นั้นก็คือนับตังค์ ผมมั่นใจแล้วล่ะ 'ผมรักเธอ'(อย่าบอกนะว่าแกทำนับท้อง)ไอ้ทอยพูดเข้ามาในสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแฝงความกังวล มันคงกลัวผมจะไม่รับผิดชอบนับตังค์แน่"อืม"ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ(แกต้องรับผิดชอบนะ ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูน้าเรอากับพ่อแน่)มันทำมาเป็นขู่ผม"งั้นฝากบอกด้วยนะว่าพรุ่งนี้จะพาลูกสะใภ้ไปไหว้"ทำไมรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมานะ เขินกับคำพูดตัวเอง?(ฮั่นแน่...สุดท้ายก็ตกหลุมรักของแถมแล้วสินะ)ไอ้พี่ชายตัวดีก็แซวผมขึ้นทันที
ไม่สำคัญ"แม่..."พี่เอิงเอยอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะพาแม่ของเธอนั่งลงที่เก้าอี้"...พี่รณช่วยแม่เอยด้วย"เธอเอาฝ่ามือพัดที่หน้าแม่แล้วหันมาบอกกับคุณรณที่มองอยู่ด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่ฉันเองกับพี่นุชกำลังจะลุกจากเก้าอี้เพื่อจะไปดูด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเธอจะร้ายกับฉัน แต่พอเห็นเธอเป็นอะไรต่อหน้าแบบนี้ก็อดที่จะสงสารและเป็นห่วงไม่ได้"นับตังค์เธอไม่ต้อง...."แล้วเสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาที่ฉัน"...ไปเอายาดมมา"ก่อนจะหันไปที่พี่นุชแล้วออกคำสั่งเสียงเรียบ"ค่ะ"พี่นุชเดินไปในทันที"พี่รณ..เอยคิดว่าแม่อาจจะต้องไปโรงพยาบาลนะคะ""ทำไมต้องไป แค่เป็นลมไม่ใช่เหรอ"ชายหนุ่มหน้านิ่งสวนกลับ"เอ่อ...ช่วงหลังมานี้แม่เอยทำงานหนักมักจะเป็นลมบ่อย ๆ แล้ววันนี้ยังต้องมาขนของให้นับอีก แม่คงจะเหนื่อยมาก"หันมามองขวางที่ฉัน ในขณะเดียวกันที่พี่นุชก็ถือแก้วร้อนที่มีควันขึ้นมา พร้อมกับยาดมมาด้วย"อะไรน่ะ"พี่เอิงเอยถามด้วยสีหน้าสงสัย"ยาหอมไง..พี่เห็นว่าน้าออยเป็นลมก็เลยต้มมาให้"พี่เอิงเอยไม่รับมองหน้าน้าออยที่นอนหลับตาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ฉันรู้ว่าเพราะอะไร"เอาให้แม่กินสิ"พี่นุชยื่นแก้วให้อึกครั้ง"แม่เอยไม่ชอบกินยาหอม
ขโมยมา?หลังจากพี่เอิงเอยออกไป ฉันก็หันไปถามคุณรณด้วยความสงสัยต่อ"พี่เอยบอกว่าออกจากโรงเรียนเพราะนับ?""อืม"ชายหนุ่มหน้านิ่งตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ฉันได้ยินแบบนั้นก็ลอบหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่ใช่เรียนสำคัญ แต่ก็อดคิดไม่ได้เลยว่าทำไมพี่เอิงเอยจะพูดเอาความดีเข้าตัวแบบนี้"หิวหรือยัง"นั้นเป็นเสียงของคุณรณที่เอ่ยถาม"นิดหน่อยค่ะ""งั้นเราลงไปทานข้าวกันเถอะ"พูดจบ คุณรณก็ลุกขึ้นจากโซฟา"ไม่รอทานพร้อมพี่เอยเหรอคะ"ฉันบอกออกไปด้วยความที่ยังน้อยใจ"ไม่ล่ะ ฉันหิว"พอสิ้นเสียงคุณรณก็เดินออกไปจากห้อง ส่วนฉันก็ต้องลุกเดินตามเขาไป ก็ได้สวนเข้ากับพี่เอิงเอย และน้าออย พอเห็นฉันก็พากันรีบคว้าแขนไปในห้องนอนเล็ก"มีอะไรกัน""แกบอกอะไรกับพี่รณหรือเปล่า"พี่เอิงเอยถามด้วยสีหน้าดูร้อนใจ"เรื่องที่พี่ไปโกหกเขาว่าออกจากโรงเรียนเพราะนับ?"ฉันรู้เลยจึงพูดขึ้น เธอคงจะกลัวว่าฉันจะไปบอกความจริงแน่ ๆ แต่ฉันไม่บอกหรอกเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"ใช่ แกได้ไปพูด....""นับไม่สนใจหรอกนะ นับก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย"ฉันแทรกพูดขึ้นแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ"เพราะแกท้องใช่ไหมพี่รณถึงได้เอาใจแก..บอกฉันมา!.""นับตังค์
ใครสั่งให้ย้ายตอนนี้ฉันกำลังจัดเรียงข้าวของที่ขนย้ายมาจากห้องนอนใหญ่อยู่คนเดียวเพราะพี่นุชแยกตัวไปทำมื้อเย็นแล้ว ส่วนพี่เอิงเอยก็ถือวิสาสะพาน้าออยเข้าไปในห้องนอนใหญ่ ซึ่งก็ไม่มีใครพูดห้ามอะไรเพราะถึงพูดไปเธอก็คงไม่ฟัง.ฉันเองก็ไม่อยากจะไปต่อล้อต่อเถียงด้วยปัง! ปัง! ฉันสะดุ้งโหย่งเมื่อได้ยินเสียงทุบประตูห้อง ตามด้วยเสียงของสองแม่ลูก"นังนับ!""เปิดประตูสิ!"เฮ้อ..ฉันพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้ววางมือเดินไปเปิดประตู"มีอะไรคะ"ฉันเอ่ยอย่างเอือมระอา"ทำไมแกถึงยังหน้าด้านอยู่ที่นี่"นั้นเป็นคำถามของแม่เลี้ยง"..."ฉันไม่ตอบได้แต่ยืนจ้องหน้าเธอกัดฟันแน่น"แกมองฉันแบบนี้หมายความว่าอะไร""แกจะทำอะไรแม่ฉัน!"คนเป็นลูกสาวแทรกตัวมายืนตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าเอาเรื่อง"...."ฉันเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วลอบหายใจเบา ๆ"แกจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นานหรอก...ฉันจะให้พี่รณไล่แกออกจากบ้านนี้ไปแน่""ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม...นับจะได้ไปจัดของต่อ"ฉันไม่สนใจคำพูดของลูกสาวแม่เลี้ยง แล้วพยายามจะหลีกเลี่ยงทั้งคู่ ระหว่างที่กำลังจะเอื้อมไปปิดประตู"เอ๊ะ..นังนับนี่แกอ้วนขึ้น?"พี่เอิงเอยเป็นคนทักเธอได้หลุบตามองที่หน้าท้องของฉันที่มีนูน ๆ ออ
ต้องรู้ให้ได้หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จพอเปิดประตูออกมาก็พบกับความว่างเปล่าไร้ตัวตนพ่อของลูก จึงรีบสวมใส่เสื้อผ้าแล้วรีบลงมาจากห้อง.แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกเจ็บที่หัวใจราวกับมีคนเอามีดมาทิ่งแทง"นับไปทานข้าวสิ พี่ตักข้าวต้มไว้ให้แล้ว"พี่นุชเดินเข้ามาสะกิดที่ไหล่จนทำให้ฉันสะดุ้งรีบยกมือปาดน้ำตาที่มันคลอเบ้า"ให้พวกเขาทานกันไปก่อนดีกว่า...เดี๋ยวนับค่อยไปทานทีหลัง""เฮ้อ...ไม่รู้ว่ายัยเอยทำของใส่คุณรณหรือเปล่าทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนไปแบบนี้..."เธอถอนลมหายใจแล้วหันไปมองชายหญิงที่นั่งทานมื้อเช้าอย่างกะหนุงกะหนิงราวกับคนรักกัน"....ไม่แคร์นับบ้างเลยทั้งที่กำลังจะเป็นพ่อของลูกในทัองนับ""ช่างเขาเถอะพี่ นับคงไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขาและที่เขาดีกับนับก็เพราะ...ลูก"ฉันเอามือลูบที่ท้องแล้วก้มลงมองอย่างสะเทือนใจ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าคุณรณจะดูแลและดีลูกฉันหรือเปล่าถ้าหากเขาจะเลือกพี่เอิงเอยเป็นคู่ชีวิต แต่กับฉันแล้วไม่ว่าจะยังไงลูกก็คือสิ่งที่มีค่าและเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับฉัน"นับขึ้นไปบนห้องก่อนนะ ถ้าพวกเขาไปแล้วช่วยไปตามนับด้วย""จ๊ะ"พี่แม่บ้านตอบรับสั้น ๆ แต่ส