"ฉันก็แค่ของแถมที่ไม่มีค่า" "เธอมันก็แค่ของแถม..อย่าคิดว่าตัวเองมีค่าสิ" รณกร หรือ รณ ลูกชายคนกลางของทอร์ชในเรื่อง 'แค้นฝังรัก' หล่อ เย็นชา ป่าเถื่อน หวงของ . . . . "แล้วของแถมอย่างฉัน..จะถูกทิ้งเมื่อไหร่" นิพาดา หรือ นับตังค์ หญิงสาวที่ถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งแล้วยังถูกยกให้เป็นของแถมฟรี ๆ ให้กับลูกค้ารายใหญ่ที่มาที่ดินของพ่อหญิงสาว ใบหน้าสะสวย แต่มีดวงตาเศร้า แต่ยิ้มง่าย จิตใจดีชอบช่วยเหลือคน เคยมีอดีตที่ดีในวัยเด็ก . . เรื่องนี้เป็นจิตนาการของนักเขียน อาจจะมีเนื้อหาที่รุนแรง กระทบกระเทือนจิตใจโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน . สงวนสิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติ่ม) พ.ศ. 2558 *ห้ามคัดลอก ดัดแปลง ทุกกรณี*
View MoreNuptang/Ron
"แม่เงินเราจะหมดแล้วนะ เจ้าหนี้ก็มาทวงทุกวี่ทุกวัน..เอยว่าแม่ต้องขายบ้านที่ดินของพ่อนังนับเอามาใช้หนี้แล้วเราก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันดีไหม"นับตังค์ยืนแอบฟังเอิงเอยคนเป็นลูกและแม่ของเธอกำลังพูดคุยกัน
"ขายบ้าน"หญิงสาวใบหน้าสวยพึมพำกับตัวเองแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างสลดใจ ถ้าแม่เลี้ยงขายบ้านแล้วเธอจะไปอยู่ไหนกันล่ะ
"ก็ดีเหมือนกัน แม่ก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นักหรอก"
"ไม่นะ"หญิงสาวร่างเล็กตัดสินใจเดินออกมาจากที่ซ่อนแล้วเอ่ยคัดค้าน
"แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ให้แม่ฉันขายบ้าน..ลืมไปแล้วเหรอพ่อแกให้แม่ฉันเป็นเจ้าของบ้านและที่ดินทั้งหมด"เอิงเอยลูกติดแม่เลี้ยงยืนขึ้นท้าวเอวแล้วพูดกระชากเสียงใส่นับตังค์
"แต่บ้านหลังนี้เป็นของพ่อกับแม่นับนะ..."แล้วหันไปที่แม่เลี้ยงแล้วยกมือขึ้นพนม
"...น้าออยอย่าขายบ้านเลยนะนับขอล่ะ"แม่เลี้ยงลุกจากโซฟาแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากหญิงสาวแรง ๆ
"แกไม่ต้องมาห้ามฉัน ยังไงฉันจะขายทั้งบ้านทั้งที่ดินทั้งหมด"นับตังค์ได้ฟังแบบนั้นก็น้ำตาคลอ
"ละ แล้วนับจะไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ"เธอเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ
"นั้นมันก็เรื่องของแก...ไปกันเถอะยัยเอย"ว่าจบผู้เป็นแม่ก็หันไปพูดกับลูกสาวของตน
"น้าออย..."
"ถ้าฉันกลับมาแกยังทำงานบ้านไม่เสร็จโดนดีแน่"ยังไม่ทันที่นับตังค์จะได้เอ่ยอะไร ออยผู้เป็นแม่เลี้ยงก็แทรกพูดขึ้นด้วยคำสั่งก่อนจะเดินออกไปตามด้วยเอิงเอยผู้เป็นลูกสาว
Nubtang/Nipada
ฉันฟุบตัวนั่งลงที่พื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มหลังจากสองแม่ลูกออกจากบ้านไป ฉันรู้สึกเสียใจอย่างมากที่น้าออยยืนยันที่จะขายบ้านและที่ดินของพ่อกับแม่ที่ท่านช่วยสร้างกันมา
"พ่อ แม่"ฉันหยัดกายลุกขึ้นแล้วยกมือปาดน้ำตาลวก ๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้อง. พอเข้ามาด้านในฉันก็เดินไปยืนที่หน้ากรอบรูปพ่อแล้วแม่ก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมากอดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน
แม่ของฉันเสียไปตอนที่ฉันยังเด็กอยู่เลย จากนั้นพ่อก็แต่งงานใหม่กับน้าออย ที่เป็นแม่หม้ายลูกติด แต่พ่อฉันก็รักและเอ็นดูพี่เอิงเอยเหมือนกับลูกคนหนึ่ง ช่วงแรกที่น้าออยกับพี่เอิงเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านเรา เธอดีกับฉันมากและคิดว่าเธอคงจะรักฉันเหมือนลูกแท้ ๆ แต่พอนานไปกลับไม่เป็นแบบนั้น เธอได้แสดงฐานแท้รับบทแม่เลี้ยงใจร้ายเต็มตัว ต่อหน้าพ่อก็จะพูดดีและทำดีกับฉัน แต่หลับหลังจิกใช้ฉัน และยังด่าทอถึงแม่ฉันอีก แต่ฉันก็ยังทนเพื่อให้พ่อสบายใจ
ฉันต้องสูญเสียคนที่รักไปอีกหนึ่งคน เมื่อพ่อฉันประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หัวใจฉันแทบจะหยุดหายใจ รู้สึกโดดเดียว อ้างว้าง เส้นทางมืดมนไปหมด แต่ยังไงฉันก็ต้องเข้มแข็ง มีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากงานศพพ่อฉันไม่ได้รับเงินช่วยเหลือที่เพื่อนพ่อให้เลย เพราะแม่เลี้ยงเอาไปหมด ขณะที่ฉันกำลังเรียนอยู่ก็ต้องดรอปออกมาทำงาน และยังต้องกลับมาทำงานบ้านทุกอย่างคนเดียวอีกด้วย ใจจริงฉันอยากจะหนีสองแม่ลูกไปให้ไกล แต่ทว่าก็เป็นห่วงบ้านหลังนี้ที่พ่อกับแม่ร่วมสร้างกันมา แต่ทว่าสุดท้ายแล้วฉันก็คงจะรักษามันไว้ไม่ได้
"นับจะทำยังไงดีล่ะ ฮือออ"ฉันยืนกอดกรอบรูปพ่อกับแม่ร้องไห้อยู่นานพอควรก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาจึงวางกรอบรูปพ่อแม่ลงแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะดึงลิ้นชักที่โต๊ะออกมา แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเก่า ๆ ออกมา
"นับอยากเจอรุ่นพี่ใจดีอีกจัง"สิ่งนี่เป็นที่ทำให้ฉันมีรอยยิ้มขึ้นมาและช่วยเติมพลังให้ฉันมีแรงสู้ต่อ
ย้อนกลับไปตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง มีอยู่วันหนึ่งฉันโดนกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงมัธยมปลายรุมทำร้าย เนื่องจากหนึ่งในนั้นที่เป็นหัวหน้าแก็งค์เข้าใจผิดว่าฉันไปอ่อยแฟนของเขา ฉันถูกผลักจนล้มหัวเข่าแตกจนมีเลือดออก ขณะที่พวกรุ่นพี่กำลังจะเข้ามารุมทำร้าย
"ทำไรกัน"มีเสียงทุ้มดังเข้ามาทำให้กลุ่มรุ่นพี่ที่กำลังจะทำร้ายฉันต้องชะงักแล้วหันไปมองซึ่งเป็นนักเรียนชายมัธยมปลายที่มีใบหน้าหล่อคมคาย และสูงมาก
"....."พวกเธอพากับถอยออกจากฉันอย่างเกรงกลัวในขณะที่ชายร่างสูงเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาจ้องหน้าพวกรุ่นพี่สาว
"หมาหมู่"แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งแล้วใช้ลิ้นกระพุ้งที่แก้ม
"เอ่อ..พวกเรา..."
"ไสหัวไป!"หัวหน้าแก็งค์ยังพูดไม่จบรุ่นพี่ผู้ชายก็ตวาดใส่ ก่อนที่พวกรุ่นพี่ผู้หญิงจะพากันรีบเดินหนีไป
รุ่นพี่ชายหนุ่มหันมาที่ฉันเขาย่อตัวลงแล้วมองที่เข่าฉันด้วยสีหน้านิ่งเรียบก่อนที่จะล้วงไปในกระเป๋าเสื้อคว้าผ้าเช็ดหน้ายื่นมาให้ฉัน
"...."เขาไม่พูดอะไรได้แต่มองหน้าฉันนิ่ง ๆ
"ขอบคุณค่ะ"ฉันรับมาแล้วบอกขอบคุณเขาก่อนจะคลี่ยิ้มหวานให้
"ปิดเลือดไว้"ฉันทำตามที่เขาบอก
"เดินไหวไหม"ฉันผงกหัวหงึก ๆ แล้วพยายามจะหยัดกายลุกขึ้น แต่ทว่าเข่าฉันมันตึงมาก จึงลุกค่อยข้างลำบาก จนทำให้รุ่นพี่ชายหนุ่มมีสีหน้าหงุดหงิด ก่อนที่จะหันหลังแล้วย่อตัวลง
"ขึ้นมา"ฉันตกใจเล็กน้อยที่รุ่นพี่ชายจะให้ฉันขี่หลัง
"เอ่อ..."
"ขึ้นมา!"เขาตวาดใส่ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
"ค่ะ ค่ะ"ฉันตอบรับแล้วขึ้นหลังเขาตามสั่ง ฉันรู้สึกเขินอายมาก ๆ เมื่อได้อยู่บนตัวชายหนุ่มหล่อ ฉันได้กลิ่นกายหอม ๆ ของเขามาแตะที่จมูกจนทำให้ใบหน้าเห่อร้อนหัวใจเต้นแรงจนผิดจังหวะ
รุ่นพี่คนนั้นมาฉันมายังห้องพยาบาล ก่อนที่จะพาฉันให้พยาบาลที่อยู่ทำแผล พอทำแผลเรียบร้อยฉันออกมาก็ไม่เจอรุ่นพี่คนนั้นแล้ว
"เฮ้อ ลืมถามชื่อเลย"ฉันพึมพำแล้วก้มมองผ้าเช็ดหน้าของเขาที่อยู่ในมือ
หลังจากนั้น น้าออยเสนอกับพ่อให้ฉันย้ายโรงเรียนเพราะที่ฉันเรียนอยู่ค่าเทอมแพง พ่อได้มาถามความสมัครใจฉัน และแน่นอนฉันก็ตอบตกลง. จากนั้นก็ไม่ได้เจอรุ่นพี่ใจดีคนนั้นอีกเลย
.
.
.
Ron/Ronnakorn
บ่อน
"คุณรณครับ มีลูกหนี้เอาลูกสาวมาขัดดอกอีกแล้วครับ"ทัชมือหนาคนสนิทเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น ผมยกยิ้มมุมปาก
"พาไปรอที่ห้อง แล้วออกไปได้ล่ะกูจะทำงานต่อ"
"เอ่อ..มีอีกเรื่อง"ผมเงยหน้ามองสีหน้านิ่ง.
"เรื่องที่ดินที่จะซื้อมาขยายบ่อน..มีมาเสนอขายกันหลายเจ้าเลยคุณรณสะดวก..."
"อาทิตย์หน้า"ผมตอบกลับไปทันที
"ครับ"ทัชผงกหัวเล็กน้อยแล้วเดินออกไป ผมก็ทำเอกสารบนโต๊ะต่อ ครืนนน ครืนนน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นผมจึงหยุดชะงักแล้วใช้มองไปที่หน้าจอด้วยสายตาราบเรียบก่อนจะคว้ามันขึ้นมากดรับ
"มีไร"
(มาดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ)นั้นเป็นเสียงทอยพี่ชายต่างมารดา
"ไม่ว่าง"ผมปฏิเสธไปสั้น ๆ
(มีของกินอยู่แล้วนะสิ....พี่รณมีเผื่อผมไหม)ประโยคท้ายเป็นเสียงไอ้เทมโปน้องชายผม
"ไม่มี"
(โห อะไรว่ะแบ่งน้องบ้างก็ไม่ได้)ไอ้เทมคงแย่งโทรศัพท์ทอยมาคุยเอง.
"หึ"ผมแค่นเสียงหัวเราะกลับไป
(ไม่ต้องมาหัวเราะเลย รู้งี้ขอพ่อมาคุมบ่อนดีกว่า น่าจะมีของกินมากกว่าที่ผับ)น้องชายตัวแสบผมยังบ่นไม่เลิก พ่อทอร์ชแบ่งหน้าที่ให้พวกผมกันดูแล ทอย พี่ชายคนโตมันได้ไปเป็นรองประธานบริษัทของครอบครัว ซึ่งมีลุงเหนือเป็นประธานบริษัท
ลุงเหนือมีลูกสองคน'บีน่า' เป็นลูกสาวคนโตคนเล็กเป็นผู้ชายชื่อ 'เจ้าคุณ' ซึ่งตอนนี้น้าจาร์ส่งไปเรียนเมืองนอก ไอ้เทมโป น้องชายคนเล็กที่ยังเรียนไม่จบแต่พ่อให้มันมาช่วยดูแลผับ ส่วนผมได้มาคุมบ่อน และก็กำลังจะขยายให้เป็นคาสิโน
"กูจะทำงาน แค่นี้"สิ้นเสียงผมก็กดวางสายทันที แล้วก้มหน้าก้มตาตรวจเอกสารต่อ
_______________
ของแถมที่มีค่า ตอนจบตอนนี้ฉันนั่งรถมากับคุณรณและมีลูกนั่งตักอยู่เพื่อจะไปดูงานที่บ่อนหลังจากที่ได้พากันไปเลือกชุดแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว พอมาถึงสามีของฉันก็รีบลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่ฉันนั่ง แล้วคว้าลูกชายของเขาไปอุ้ม"เติร์ดมากับพ่อ"เจ้าตัวน้อยฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้อยู่บนอ้อมแขนคนเป็นพ่อ ส่วนฉันก็ปลดเบลล์แล้วลงจากรถเดินตามสองพ่อลูกเข้าไปในบ่อน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ฉันเคยได้อาศัยอยู่อาจจะไม่นานแต่ก็คุ้นเคยดี"สวัสดีครับคุณรณ คุณนับ"เป็นผู้จัดการที่ดูแลบ่อนกล่าวทักทายเมื่อเราสองคนก้าวขาเข้าไปในออฟฟิศ"ที่นี่เรียบร้อยดีไหม"คุณรณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ"เรียบร้อยดีครับ"ผู้จัดการหนุ่มตอบในขณะที่เจ้าของบ่อนอุ้มลูกไปนั่งที่โซฟา ก่อนที่ฉันจะเดินไปนั่งลงข้าง ๆ"เอาเอกสารมาให้ผมดูหน่อย""ครับ"สิ้นเสียงผู้จัดการก็เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วยกหูโทรศัพท์ก่อนจะพูดเข้าไปในสาย"ให้คนเอาน้ำมาเสิร์ฟคุณรณกับภรรยา และขนมให้คุณเติร์ดหน่อย"พูดจบ ผู้จัดการก็วางสายแล้วหยิบแฟ้มเอกสารสองสามแฟ้มมาวางไว้ที่โต๊ะกระจกตรงหน้าคุณรณ แล้วนั่งบนโซฟาตรงข้าม"อุ้มลูก..พี่ตรวจงานแปบ"สามียื่นลูกชายมาให้ ฉันก็รีบลูก
มันถึงเวลาแล้วตอนนี้ทุกคนต่างพากันรุมกันอุ้มเจ้าเทวดาตัวน้อยของฉันกันด้วยความเอ็นดู"หน้าเหมือนรณตอนเด็กเป๊ะ"เป็นคำพูดของแม่คุณรณที่ในขณะที่ฉันหยัดกายลุกขึ้นหลังโดยมีสามีหน้านิ่งคอยพยุงขึ้นแล้วเอาหลังพิงที่หัวเตียง ระหว่างนั้นก็มีการรับขวัญหลาน ต่างคนมีของมารับขวัญหลานกันทั่วหน้า แม้แต่หญิงสาวปริศนาที่อยู่ข้างพี่ทอยตลอด ฉันรู้สึกสงสัยว่าเธอเป็นใคร จึงเอ่ยถามคุณรณเบา ๆ"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอคะ"คุณพ่อป้ายแดงก็หันไปที่ผู้หญิงคนนั้นก่อนจะหันกลับมาบอกว่า"แฟนใหม่ไอ้ทอยเห็นว่าชื่อ ไผ่""แฟนใหม่พี่ทอย? ไปมีตั้งแต่ตอนไหนนะ"ประโยคสุดท้ายฉันได้พึมพำออกมาเบา ๆ พอได้ยิน"มันก็คบ ๆ เลิก ๆ มาหลายคนแบบนี้แหละ บางคนพี่ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย มันก็เลิกไปซะก่อน"คุณรณหันไปที่พี่ชายแล้วบ่นพึมพำ"นินทาอะไรพี่ทอย"นั้นเป็นเสียงของเทมโปที่เดินล้วงกระเป๋ามาที่เตียงฉัน"เหอะ"คนเป็นพี่กลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ"พี่รณ รู้หรือยังว่าพี่ต้องรัก กลับมาอยู่ที่ไทยแล้ว"เทมโปเข้ามากระซิบเบา ๆ ที่กลางวง ต้องรัก? เป็นใครกัน ในขณะที่คุณรณสั่นหัวพรืด"แล้วพี่ชายมึงรู้ยัง"คุณรณคงจะหมายถึงพี่ทอย เทมโปผงกหัว"รู้...แต่ไม่เห็นมี
น้องเติร์ดมาแล้วตอนนี้อายุครรภ์ฉันได้แปดเดือนแล้ว อีกเดือนเดียวฉันก็จะได้เห็นหน้า น้องเติร์ด หรือ ด.ช.รัชชนันท์ แล้ว นั้นเป็นชื่อที่ฉันกับสามีสุดหล่อหน้านิ่งช่วยกันตั้ง.คุณรณดูแลฉันเป็นอย่างดี เขาทำงานแค่ที่คาสิโนตรงกันข้ามบ้านที่เราอยู่รวมถึงไปดูแลโรงแรมที่สร้างโดยที่ดินพ่อฉันที่เขาได้ซื้อไป แต่ตอนนี้โอนมาเป็นของฉันแล้ว โรงแรมที่สร้างนั้นก็เพื่อเอาไว้ให้นักเล่นพนันที่มาจากต่างชาติได้พัก ในส่วนที่ตรงนั้นทำเล และวิวดีมาก ไม่ใช่แค่นักเล่นพนัน ยังมีนักท่องเที่ยวมาพักด้วย ส่วนบ่อนคุณรณก็ขอให้พี่ทอยเข้าไปดูแลให้ก่อน เพราะต้องคอยดูแลฉันฉันอยู่บ้านก็ไม่ได้เหงาอะไรเพราะมีพี่นุชมาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนลูกซุบ คุณรณเอาไปฝากไว้ที่บ้านแม่ของเขาไว้ พี่นุชจะอยู่กับฉันจนคุณรณเลิกงาน เธอถึงจะกลับ"คุณรณมาแล้ว"ฉันหันไปที่ประตูบ้านก็เห็นว่าที่คุณพ่อเดินเข้ามา พี่นุชลุกจากโซฟาไปช่วยถือสูทและกระเป๋าทำงานของเขา ส่วนฉันนั่งพุงพุ้ยอยู่บนโซฟา ลุกแทบไม่ขึ้นเนื่องจากว่าฉันเป็นคนตัวเล็กแล้วลูกในครรภ์ค่อนข้างตัวใหญ่สมบูรณ์ หมอจึงแนะนำให้ทำการผ่าคลอด ชายหนุ่มหน้านิ่งปลดเน็กไทหลวม ๆ แล้วเดินมานั่งข้างฉัน ก่อนที่จะ
จดทะเบียน"อืม พี่มั่นใจแล้วล่ะว่าเธอนั้นแหละที่พี่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วย"พอสิ้นเสียงหัวใจฉันก็เต้นโครมครามอย่างไม่มีจังหวะ และรู้สึกว่าดวงตาเกิดเห่อร้อนขึ้นราวกับกำลังจะหลั่งน้ำใส ๆ ออกมา"พะ พี่รณ..."ฉันเอ่ยเรียกชื่อว่าที่พ่อของลูกด้วยน้ำเสียงสั่นเทา"...ที่พี่พูดหมายความว่า""พี่เลือกเธอ"เจ้าของใบหน้าหล่อหันมาแล้วเผยยิ้มบาง ๆ จากนั้นหยดน้ำตาฉันก็ไหลออกมาทันที มือหนาเอื้อมมาเช็ดหยดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือ"นับ ดีใจที่สุดที่พี่เลือกนับ"ฉันพูดออกไปอย่างสะอึกสะอื้น น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลไม่หยุด"ไม่ร้องนะครับ"น้ำเสียงทุ้มแฝงความอบอุ่นทำให้หัวใจฉันสั่นระรัว"ค่ะ"ฉันรีบปาดน้ำตาแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ คุณรณยกมือมาลูบหัวฉัน"จะเป็นแม่คนแล้วต้องไม่งอแงนะครับ"ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่จะมีคนคอยดูแลอย่างคุณรณคุณรณขับมาถึงบ้านหลังนึง ซึ่งใหญ่โตมาก ฉันรู้สึกตื่นตาและประหม่านิด ๆ กว่าคุณรณจะขับรถไปถึงที่จอดก็เกือบกิโล พื้นที่กว้างขวางสุด พอมาถึงที่จอดรถคุณรณก็ดับเครื่องยนต์แล้วหันมามองฉัน ตุ่บ ตุ่บ หัวใจฉันเต้นแรงมากด้วยอาการตื่นเต้น"ไม่ต้องตื่นเต้น พ่อแม่พี่ใจดี"ราวกับว่าจะรู้ว่าตอนนี้ฉันตื่นเต้นมา
มั่นใจRONระหว่างผมเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร ผมก็เผยยิ้มออกมาโดยไม่มีใครเห็น เพราะผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่รุ่นน้องคนที่เป็นรักแรกของผมคือ 'นับตังค์' ผมรู้สึกมีความสุขมากที่รู้ว่ารักแรกของผมตอนนี้กำลังจะเป็นแม่ของลูกอีกด้วยพอขึ้นมาบนห้องปิดประตูเรียบร้อยแล้ว นึกอะไรบางอย่างที่จะต้องทำให้เร็วที่สุด จึงคว้าโทรศัพท์แล้วโทรหาไอ้ทอยพี่ชายต่างมารดาทันที ตื๊ด ตื๊ด(ว่าไง)"นับตังค์ท้อง"นั้นแหละคือสิ่งที่ผมจะทำ และไม่ได้จะบอกแค่ไอ้ทอยคนเดียว พรุ่งนี้หลังจากตรวจครรภ์เสร็จผมจะพาเธอไปเปิดตัวกับครอบครัว ที่ผมบอกกับทุกคนที่โต๊ะอาหารว่า มีคนที่จะใช้ชีวิตด้วยแล้ว นั้นก็คือนับตังค์ ผมมั่นใจแล้วล่ะ 'ผมรักเธอ'(อย่าบอกนะว่าแกทำนับท้อง)ไอ้ทอยพูดเข้ามาในสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแฝงความกังวล มันคงกลัวผมจะไม่รับผิดชอบนับตังค์แน่"อืม"ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ(แกต้องรับผิดชอบนะ ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูน้าเรอากับพ่อแน่)มันทำมาเป็นขู่ผม"งั้นฝากบอกด้วยนะว่าพรุ่งนี้จะพาลูกสะใภ้ไปไหว้"ทำไมรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมานะ เขินกับคำพูดตัวเอง?(ฮั่นแน่...สุดท้ายก็ตกหลุมรักของแถมแล้วสินะ)ไอ้พี่ชายตัวดีก็แซวผมขึ้นทันที
ไม่สำคัญ"แม่..."พี่เอิงเอยอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะพาแม่ของเธอนั่งลงที่เก้าอี้"...พี่รณช่วยแม่เอยด้วย"เธอเอาฝ่ามือพัดที่หน้าแม่แล้วหันมาบอกกับคุณรณที่มองอยู่ด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่ฉันเองกับพี่นุชกำลังจะลุกจากเก้าอี้เพื่อจะไปดูด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเธอจะร้ายกับฉัน แต่พอเห็นเธอเป็นอะไรต่อหน้าแบบนี้ก็อดที่จะสงสารและเป็นห่วงไม่ได้"นับตังค์เธอไม่ต้อง...."แล้วเสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาที่ฉัน"...ไปเอายาดมมา"ก่อนจะหันไปที่พี่นุชแล้วออกคำสั่งเสียงเรียบ"ค่ะ"พี่นุชเดินไปในทันที"พี่รณ..เอยคิดว่าแม่อาจจะต้องไปโรงพยาบาลนะคะ""ทำไมต้องไป แค่เป็นลมไม่ใช่เหรอ"ชายหนุ่มหน้านิ่งสวนกลับ"เอ่อ...ช่วงหลังมานี้แม่เอยทำงานหนักมักจะเป็นลมบ่อย ๆ แล้ววันนี้ยังต้องมาขนของให้นับอีก แม่คงจะเหนื่อยมาก"หันมามองขวางที่ฉัน ในขณะเดียวกันที่พี่นุชก็ถือแก้วร้อนที่มีควันขึ้นมา พร้อมกับยาดมมาด้วย"อะไรน่ะ"พี่เอิงเอยถามด้วยสีหน้าสงสัย"ยาหอมไง..พี่เห็นว่าน้าออยเป็นลมก็เลยต้มมาให้"พี่เอิงเอยไม่รับมองหน้าน้าออยที่นอนหลับตาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ฉันรู้ว่าเพราะอะไร"เอาให้แม่กินสิ"พี่นุชยื่นแก้วให้อึกครั้ง"แม่เอยไม่ชอบกินยาหอม
Comments