Chapter 5
[5/2] ทางฝั่งของณัฐกานต์เองหลังจากที่เช็คความเรียบร้อยทุกอย่างก่อนลงสนามแข่งแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาเข้าสู่สนามแข่งกันแบบจริงจังเสียที ระหว่างเตรียมพร้อมในจุดสตาร์ท คนนั่งอยู่ด้านใน Ford Mustang TA2 ม้าเหล็กคู่ใจคันนี้ ที่ถูกปรับแต่งเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ 5.2 ลิตร ฝีมือจากวิศวะกรคนเก่งของเมืองไทย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจากเจ้าของรถคันนี้เอง ....แข่งเองแต่งเองไปเลยสิครับ ด้วยความที่ณัฐกานต์เองก็เรียนจบด้านวิศวะฯ เครื่องกล มาเองกับมือ ทุกอย่างที่อยู่บนรถคันนี้เขาเป็นคนสรรหามาใส่เพิ่มความแรงของรถหมดทุกสิ่งอย่าง โดยมีลูกมืออย่างอัครเดชเพื่อนที่เรียนด้วยมาด้วยกันเป็นคนช่วยอีกแรง “แกล้งแพ้บ้างก็ได้นะมึง กูสงสารสปอนเซอร์คู่แข่งว่ะ” อัครเดชที่ยืนอยู่นอกรถแซวเพื่อนอย่างเซ็งๆ “แสดงว่ามึงอยากเสียตังค์?” “หึ! เบื่อแม่ง มึงแข่งทีไรกูไม่มีลุ้นเลย วินตั้งแต่ยังไม่สตาร์ทเครื่องแล้วไอ้สัสณัฐ” เป็นอย่างที่อัครเดชพูดทุกอย่างเลย ตั้งแต่ที่จัดการแข่งขันมานับครั้งไม่ถ้วนในทุกสนามและทุกรายการ ณัฐกานต์ไม่เคยแพ้เลยแม้ครั้งเดียว คู่แข่งขันจะชนะก็ต่อเมื่อเขาจะยอมสละสิทธิ์ไม่ลงแข่งก็เท่านั้น “เหอะ! งั้นพนันกับกูเล่นๆ ไหม? ว่าเบอร์ไหนจะเข้าหลังกู” จู่ๆ ณัฐกานต์ก็เกิดไอเดียชวนเพื่อนหาเรื่องสนุกๆ ทำ “หื้ม? เอาไรมาพนันดีล่ะครับเพื่อนรัก ไม่เด็ดจริงกูไม่เล่นนะเว้ย หึๆ” อัครเดชยืนเอาซอกค้ำกับหลังคารถคันแรงที่อยู่ในจุดสตาร์ทของสนาม พลางพยักหน้ารับขอเสนอของอีกคน “ส่วนลด 50% โครงการ The Willington X Pattaya Beach” “จุ๊ๆๆ ....ไม่ๆๆ คอนโดน่ะกูไม่อยากได้แล้ว แค่นี้ก็นอนไม่หมดทุกที่แล้วโว้ย ฮ่าๆๆๆ” แน่นอนล่ะส่วนลดมากมายขนาดนั้นใครจะไม่อยากได้ แต่สำหรับอัครเดชแล้ว เวลานี้เขายังไม่ได้รู้สึกต้องการมันเทียบเท่ากับสิ่งที่อยู่ในหัวของเขาตอนนี้ “แล้วมึงอยากได้ไรว่ามาเลย ไอ้เชี่ย” อีกคนที่อยู่ในรถเลิกคิ้วถามเพื่อน “เลขาฯ มึงไง.... แม่งโคตรน่ารักว่ะ นัดกินข้าวให้กูหน่อย” “เหอะ! กูว่าจะไม่ใช่กินข้าวอย่างเดียว” มีหรือที่เขาจะไม่รู้จักนิสัยเพื่อนของเขาคนนี้ดี ไม่อย่างนั้นจะคบกันมาได้ไงถ้านิสัยไม่เหมือนกัน จริงไหม? “มึงอ่ะ มองกูในแง่ร้ายตลอด เห้ออ... จะบอกว่าคนนี้กูรู้สึกถูกชะตากว่าทุกคนที่ผ่านมาว่ะ เบื่อแล้วกับระยะสั้น อยากคบยาวๆ เหมือนคนอื่นๆ บ้างว่ะเพื่อน กูอยากลองคลั่งรักดู” “เหอะ! เลี่ยนชิปหาย ไอ้สัส” ณัฐกานต์กลอกตามองบนใส่เพื่อน จู่ๆ จะมาบอกว่าอยากจริงจังกับใครสักคน ทั้งที่ก็รู้ว่าตัวเองเสือผู้หญิงเหมือนกันกับเขาขนาดไหน มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ “หรือจะเก็บไว้แดกเอง?” “เกลียดกันจะตายห่า อยากทำอะไรก็เรื่องของมึง” ณัฐกานต์บอกกับอัครเดชแบบนั้น ใครมันจะอยากสนใจผู้หญิงที่ชอบทำตัววุ่นวายใส่ตัวเองแบบนี้ เวลาทะเลาะกันถ้าไม่ติดว่าหล่อนเป็นผู้หญิงนะ เขาจะซัดหน้าให้ คนอะไรปากคอเราะร้ายเกินงาม “เอาล่ะครับ สำหรับรายการ Thailand Super Cars Series II ของเราวันนี้ ท่านผู้ชมในสนามทุกท่านครับ... ตอนนี้เราก็ถึงช่วงเวลาที่สำคัญกันแล้วนะครับ......” เสียงนักพากย์ในสนามดังขึ้น บ่งบอกสัญญาณว่าถึงเวลาแข่งขันแล้ว ทำให้ทุกคนที่กำลังชุลมุนกันอยู่ในสนามตอนนี้ เริ่มทยอยเคลียร์พื้นที่ออกจากจุดสตาร์ทของนักแข่งแล้ว เช่นเดียวกันกับอัครเดชที่เดินออกมาจากเพื่อน ป้าย Start Engine ที่ชูขึ้นข้างสนามกำลังบอกให้ผู้ลงแข่งขันทุกท่านสตาร์ทเครื่องยนต์ของตัวเองพร้อมที่จะมุ่งทะยานออกประจำจุด เสียงกระหึ่มของซูเปอร์คาร์ทั้งหลายในสนาม ต่างก็สร้างความตื่นเต้นให้เหล่าผู้คนมากมายที่รอชม ทว่าคนลงแข่งที่เจนจัดสนามมานับครั้งไม่ถ้วนอย่างณัฐกานต์กลับไม่ได้รู้สึกเหมือนอย่างคนอื่นเลย จากนั้นเพียงไม่นานร่างเพรียวบางของพริตตี้สาวคนหนึ่ง ก็เดินเข้าประจำจุดตรงกลางสนาม พร้อมกับชูป้าย 15 Seconds เป็นสัญญาณเตรียมออกรถในเวลาที่เหลืออีกเพียงไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ ในช่วงวินาทีที่นักแข่งหลายคนกำลังตื่นเต้นที่จะออกตัว ทว่าใครอีกคนที่อยู่ลำดับหน้าสุดกลับกำลังนั่งเพ่งมองอยู่ว่าพริตตี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ใช่ยัยเลขาฯ ตัวแสบของเขาหรือไม่ ถ้าใช่แล้วทำไมเธอถึงมาทำอะไรบ้าๆ อยู่ที่นี่แทนที่จะกลับเข้าบริษัท 5 4 3 2 …. Go!! ทว่ายังไม่ทันจะได้คิดสงสัยอะไรไปมากกว่านี้เลขดิตอลที่อยู่ตรงหน้าสนามก็นับถอยหลังลงเรื่อยๆ กระทั่งทุกวงล้อมุ่งทะยานออกตัวแซงกันไปมาเจ้าระหวั่นในช่วง Warm up lap ส่วนณัฐกานต์เองที่กว่าจะรวบรวมสติกลับมาได้ก็ปล่อยเวลาล่วงเลยมาได้หลายวินาทีแล้ว ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกตัวไป “แม่งเอ้ย! ยัยบ้านั่นมาทำอะไรที่นี่อีกวะ!?” ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสียขณะที่ยังขับรถรั้งท้ายเพื่อนคันอื่นอยู่เป็นอันดับท้าย ซูเปอร์คาร์หลายคันวนกลับมาเข้าสู่รอบแรกสำหรับวอร์มเครื่องแล้ว ชายหนุ่มที่อยู่ท้ายสุดยังไม่มีท่าทีจะกังวลใจอะไร ถึงแม้ว่าจะเสียท่าไปในนาทีแรกแล้วก็ตาม อย่างไรเสียก็ยังไม่ใช่รอบจริงๆ กระทั่งเข้าสู่นาทีแข่งขันจริง ณัฐกานต์สลัดความคิดออกจากหัวตนเองให้หมด ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์เร่งเครื่องไล่บี้คู่แข่งไปทีละคันจนไต่ขึ้นเป็นอันดับที่ 15 จาก 20 อันดับ ในรอบที่ 6 ‘ไอ่เชี่ยณัฐมึงทำอะไรวะนั่น?’ ทางฝั่งข้างสนามเอง อัครเดชเริ่มหัวเสียกับการแข่งขันตรงหน้า เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ‘โอ้โห... เกิดอะไรขึ้นกับแชมป์เจ้าเก่าคนดังของเรากันครับทุกคน...’ ‘ตอนนี้ ฟอร์ด มาสแตง ทีเอทู ของไฮโซณัฐรูปหล่อพ่อรวยแทบจะอยู่ในอันดับรั้งท้ายเลยนะครับท่านผู้ชม โอ้โห... เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย’ เสียงนักพากย์ขอบสนามก็ลุ้นไปกับการแข่งขันตรงหน้าอย่างออกรสออกชาติ ใครก็ต่างรู้ว่าณัฐกานต์ไม่เคยออกตัวแบบนี้มาก่อน เหลือเพียงอีกแค่ 9 รอบเท่านั้น ที่เขาจะต้องทำเวลาให้เข้าสู่อันดับต้นๆ ได้ ซ่าส์~~~ เวลาผ่านไปจนถึงรอบที่ 14 ก่อนถึงเข้ารอบสุดท้าย จู่ๆ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อสายฝนกระหน่ำลงมาเสียดื้อๆ แบบไม่ได้มีสัญญาณก่อนเลย อาจจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนจัดมากเกินไปจึงเกิดพายุเข้า ยังโชคดีหน่อยที่ตอนนี้กำลังจะเข้ารอบสุดท้ายแล้ว แต่เขาก็สามารถดึงเกมกลับมาให้ตัวเองขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1 ได้ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักหน่วงก็ตาม ชายหนุ่มยิ้มมุมปากให้กับฝีมือของตัวเองอย่างมั่นใจเมื่อเขากำลังจะเข้าเส้นชัยในอีกเพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ ทว่าตรงหน้าจุดเส้นชัยที่พอมองออกไป กลับเห็นร่างเพรียวบางพริตตี้สาวสวยคนเดิมกับที่เคยถือป้ายที่จุดสตาร์ทก่อนหน้านี้ กำลังยืนชูป้ายรออยู่ตรงเส้นชัยท่านกลางสายฝน ชุดเดรสสีขาวสั้นเสมอหูรัดรูปที่เธอใส่มา เปียกฝนจนแนบชิดเรือนร่าง แทบจะเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว และคนที่กำลังขับนำหน้าคู่แข่งทุกคันอยู่นั้นกลับสติหลุดกะทันหัน แทนที่จะเข้าเส้นชัยก่อนเพื่อน แต่กลับโดนคันหลังที่ขับตามกันมาติดๆ ขึ้นหน้าแซงเข้าเส้นชัยไปได้ก่อนจะเป็นตัวเองที่เข้าไปอยู่เป็นอันดับสอง “ไอ้เชี่ยณัฐ มึงทำอะไรของมึงเมื่อกี้ ห้ะ!?” หลังจากที่ลงออกมาจากรถได้ไม่นาน ก็โดนเพื่อนสนิทยิงคำถามใส่เลย “มึงจะเข้าแล้ว ทำไมมึงไม่เหยียบคันเร่ง?” “รายการนี้ 15 ล้านนะโว้ย โอ๊ยตายๆๆ สปอนเซอร์ด่ายับแน่ไอ้เชี่ย” ทั้งสองเดินออกไปยังขอบสนามประจำจุดที่ทีมของตัวเองรออยู่ ทว่าอัครเดชก็ยังเดินไปด้วยบ่นไปด้วยใส่คนที่เพิ่งแพ้มาครั้งแรกหมาดๆ แบบไม่ยั้ง “โว๊ะ! มึงหยุดบ่นได้แล้ว แพ้บ้างก็ได้ไม่เห็นจะเป็นไร” ณัฐกานต์หยุดเดินแล้วหันหลังกลับไปพูดกับเพื่อนที่เดินตามมาติดๆ “มึงจะแพ้รายการไหนก็ได้เว้ย แต่รายการนี้สปอนซ์อัดฉีดเยอะสุด 15 ล้าน.... 15 ล้าน ไอ้สัสสส โอ๊ยยย” อัครเดชบ่นไปพร้อมกับมือที่กุมขมับตัวเอง “ไม่ดีหรอ? มึงจะได้ไปแดกข้าวกับยัยนั่นไง” ก่อนหน้านี้อัครเดชแค่ทายเล่นเล่นๆ ไปว่า เขาจะจะอันดับสอง ใครจะคิดล่ะว่าปากจะเป็นมงคลแบบนี้ “ไอ้อยากไปมันก็อยากไปอยู่หรอกนะ แต่มึงเตรียมโดน D Click บ่นเลย” อัครเดชเตือนสติเพื่อนก่อนจะเดินเข้าไปหาสปอนเซอร์บริษัทยางรถยนต์ยี่ห้อดังที่สนับสนุนทุกการแข่งขันของเขา ทั้งสองคนเดินเข้ามาในซุ้มของบริษัทยางรถยนต์ที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของพวกเขา ก่อนที่เห็นหญิงสาวหนึ่งในทายาทของบริษัทนี้เดินออกมาทักทาย “สวัสดีค่ะ คุณณัฐ” “สวัสดีครับคุณเจน” เจนจิรา ทายาทบริษัทยางรถยนต์ชื่อดัง วัยเท่ากันกับณัฐกานต์เอ่ยทัก พร้อมกับแววตาเสน่หาคนตรงหน้าเหมือนอย่างทุกครั้งที่ได้เจอกัน “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะ ที่เจนเห็นคุณณัฐแพ้” “ครับ” ชายหนุ่มตอบได้อย่างใบหน้าเรียบเฉย ทว่าในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน ที่วันนี้ไม่มีสมาธิเหมือนอย่างเช่นเคย เพราะเธอคนเดียว ...ยัยบ้าเอ๊ย! “เจนจะไม่ถามหรอกนะคะว่าทำไม แต่รายการนี้คุณทำเอาบริษัทพ่อเจนเสียเงินไปตั้ง 15 ล้าน เฮ้อ! แต่ไม่เป็นไรค่ะ เจนจะถือว่ายอมขาดทุนไปก็แล้วกันนะ” หญิงสาวปากแดงกับชุดเดรสสีสันจัดจ้าน ใส่จริตเวลาพูดกับคนตรงหน้าอย่างกับต้องการอะไรบางอย่างจากเขา “แพ้ครั้งเดียวบริษัทพ่อคุณเจนไม่ขาดทุนหรอกครับ เพราะผมทำกำไรให้ทุกรายการมาตลอด หรือว่าคุณเจน... อยากให้ผม ‘ทำ’ อะไรให้เป็นการขอโทษดีล่ะครับ” อย่างที่ณัฐกานต์พูด ที่ผ่านมาเขาทำกำไรจากการลงแข่งทุกสนามให้กับบริษัทของพ่อเธอตั้งเท่าไหร่แล้ว วันนี้เสียไป 15 ล้านยังถือว่านิดเดียวเมื่อเทียบกับกำไรที่ผ่านมา “หวังว่าดินเนอร์คืนนี้ ….คุณจะไม่ทำให้เจนผิดหวังนะคะ” จังหวะนี้เหมือนมองตาก็รู้กันยันไส้ติ่ง เจนจิรากับเขาก็เหมือนมวยถูกคู่ แค่สบตากันก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ต่างคนต่างชอบในรสนิยมเซ็กส์ของกันและกัน เขาเป็นคนไม่ชอบผูกมัดกับใครซึ่งเจนจิราเองก็เหมือนกัน บ่อยครั้งที่มีอะไรกันกับเธอ ณัฐกานต์ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลีลาบนเตียงของเธอเด็ดถึงเครื่องขนาดไหน สาวเจ้าเนื้อนมไข่ตรงหน้าก็คิดไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นทั้งสองคนนอกจากจะเป็นพาร์ทเนอร์เรื่องธุรกิจแข่งรถแล้ว ยังเป็นพาร์ทเนอร์บนเตียงด้วยกันอีก “อะ แฮ่ม!! เอ่อ... โทษนะครับคุณเจน ถ้าไม่มีธุระอะไรกับเพื่อนผมแล้ว งั้นพวกผมขอตัวเลยนะครับ” อัครเดชที่ยืนฟังทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็ขอเข้าขัดจังหวะก่อนเนื่องจากเขาร้อนใจอยู่เรื่องหนึ่งกับเพื่อนสนิท “ยินดีค่ะ คุณโอม” ทั้งสองเดินออกมาจากซุ้มสปอร์นเซอร์บริษัทของเจนจิราแล้ว ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงผู้ที่เดินนำหน้ามาจะหยุดพูดกับณัฐกานต์ “นี่มึงยังไม่เลิกเอากันอีกหรอวะ นึกว่าจะเบื่อแม่นั่นซะแล้ว” “ก็อยากเลิกอยู่หรอกนะ แต่ดูท่าแล้วหล่อนคงจะติดใจลีลาของกูว่ะ” ณัฐกานต์ยักไหล่ให้เพื่อนไปพร้อมกับกอดอกมองหน้าอัครเดช “เออ เรื่องของมึงเหอะ ....ว่าแต่เรื่องของกูอ่ะ มึงติดต่อเลขาฯ ของมึงให้กูเดี๋ยวนี้เลย กูรีบ” “วันนี้? มึงจะรีบไปไหน” “กูรีบตั้งแต่เห็นหน้าเลขาฯ มึง ยืนชูป้ายในสนามแล้วว่ะ หึๆ” “เดี๋ยวนะ? มึงเห็นหรอ แล้วรู้ป้ะว่าทำไมยัยนั่นถึงมาทำอะไรแบบนี้?” จากที่กำลังจะกดโทรศัพท์ต่อสายหาญารินให้เพื่อน ทว่าพอได้ยินคำพูดของเพื่อน ณัฐกานต์ก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะเขาเองก็ยังค้างคาใจอยู่เหมือนกัน “จะไปรู้หรอ ก็เห็นพร้อมมึงนั่นแหละ เซ็กซี่ยั่วๆ เลยว่ะ อ้าว!! ...โทรๆ อย่าลีลา” “กูไม่โทรแล้วแม่ง!”Chapter 32[32/2]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่วันนี้ญารินมีนัดคุยงานถ่ายแบบงานชิ้นสำคัญในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเดินแบบแล้วเธอก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ขึ้นปกหนังสือนิตยสารเลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโรสมากๆ ที่ทำให้ความฝันของญารินได้กลายเป็นจริงสักทีก่อนหน้านี้โรสได้รับการติดต่อให้จัดหานางแบบในสังกัดให้มาถ่ายนิตยสารจากแบรนด์เสื้อแบรนด์หนึ่งที่เป็นฝีมือของคนไทยเองโดยที่เจ้าของแบรนด์ให้โจทย์กับโรสมาว่าจะต้องเป็นหญิงหน้าไทย แต่ยังมีโครงหน้าที่ดูทันสมัยด้วย เนื่องจากแบรนด์นี้ใช้ผ้าไทยหลายชนิดมาตัดทำเป็นชุด แต่ยังเพิ่มดีไซน์ผสมผสานให้ทันสมัยตามแบบของผู้หญิงยุคใหม่ซึ่งจากโจทย์ที่ให้มาโรสไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้เลย นอกจากญารินนางแบบหน้าไทยสวยเก๋เซ็กซี่คนนี้ เธอคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ เหมาะสมกับแบรนด์ VANIDEE ที่สุดแล้วภายในร้านอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ Museo del Novecento ทำให้เราสามารถมองออกไปด้านนอกแล้วเห็นทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างประทับใจของ Piazza del Duomo หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสหลวง“วิวสวยจังเลยนะคะพี่โรส” ญารินนั่งมองวิวด้านนอกจากในร้านอาหารแห่งนี้ด้วยความร
Chapter 32[32/1]“คุณหนูคะ คุณยุวดีกลับมาแล้วค่ะ ท่านเรียกให้ไปพบค่ะ” ขณะที่พี่น้องสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีหญิงแม่บ้านชาวอิตาเลี่ยนวัยกลางคนเดินมาเรียกณัฐกานต์ก่อน“แม่? ครับๆ เดี๋ยวผมไป”“ท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกนะคะ”“ขอบคุณครับ” ณัฐกานต์หันไปบอกแม่บ้าน เธอรับคำพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นอีกครั้งเขายังอยากนั่งคุยกับผู้เป็นพี่ชายต่ออีกสักพัก ถ้านอกจากออสโม่กับแม่นมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งตระกูลนี้ก็คงมีพี่ชายคนนี้นี่แหละที่เขาพอจะพูดคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ“ไปหาแม่เถอะ ฉันขอนั่งอยู่แบบนี้สักพักก่อน” ภัทรกาฬบอกน้องชายแบบนี้เพราะกลัวว่ายุวดีจะรอนานเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวภัทรกาฬเองก็รับรู้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนแบบณัฐกานต์ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังรักลูกเสมอ เพียงแต่พวกท่านไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบเหมือนที่ครอบครัวอื่นเขาปฏิบัติกัน หวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะมองพวกท่านทั้งสองในอีกมุมที่เขาได้มองบ้าง“อย่าคิดมากนะเฮีย” ณัฐกานต์รับคำจากพี่ชาย พลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนจะไปเขา
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 31[31/1]@โรม, ประเทศอิตาลี่ณัฐกานต์เดินทางมาถึงที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีไร่องุ่นคนเก่าแก่ในย่านกรุงโรม ด้านหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้กินเนื้อที่ไปหลายร้อยไร่โดยประมาณ ซึ่งทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของออสโม่ปู่ของเขาเองชายหนุ่มนั่งรถจากสนามบินมาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนแรกคิดว่าจะบินตรงไปมิลานเลย ทว่าพอลองมาคิดใหม่เขาอยากจะแวะมาที่นี่ก่อน เพื่อมาเยี่ยมปู่และพี่ชายของตัวเอง เพราะไม่ได้เจอทั้งสองคนนานมากแล้วพอทำธุระที่นี่แล้วเสร็จก็จะรีบไปมิลานเลยทันที เพราะนอกจะไปหาญารินแล้วเขาก็คิดว่าจะไปดูความเป็นอยู่ของยุวดีสักหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจของผู้เป็นแม่กำลังเติบโตไปได้สวยเลยรถ SUV สุดหรูอย่าง Rolls-Royce Black Badge รุ่นปี 2022 ราคาในไทยโดยประมาณอยู่ที่ 41 ล้าน แต่ราคาที่อิตาลี่ไม่รู้ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้างแล้วตอนนี้คนขับรถของคฤหาสน์ออกมารับณัฐกานต์ที่สนามบิน ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนและชะลอความเร็วลงเพื่อเลี้ยงเข้าสู่คฤหาสน์กาเซียโน่ของเศรษฐีคนดังในย่านนี้ ก่อนจะลงจากรถแล้วเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่ตอนนี้รอต้อนร
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 30[30/1]ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปในวันพรุ่งนี้ คนที่บอกว่าจะเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จทันก่อนจะขึ้นเครื่อง ทว่าตอนนี้ยังมะงุมมะงาหราอยู่กับกองเอกสารที่ต้องเซ็นจนป่านนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว ท่านรองประธานบริษัทหนุ่มหล่อไฟแรงก็ยังไม่ได้ลุกออกไปไหนเลยLine~Dar.runnn : กลับเพ้นท์เฮ้าส์ยังคะ? น้องดาอยากไปหาDar.runnn : วันนี้คุณย่าบ่นๆ คิดถึงพี่ณัฐด้วยนะ ถ้าว่างๆ ก็อยากให้พี่แวะมาคุณย่าบ้างDar.runnn : พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ วันหยุดด้วยน่าจะเหมาะเลย น้องดาจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อเสียงโทรศัพท์ข้างๆ ตัวณัฐกานต์ดังขึ้น สายตาคมเหลือบไปมองการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ถึงได้รู้ว่าเป็นใครที่ส่งมาวันนี้ทั้งวันดารันยังไม่ได้มาหาเขาเลย ซึ่งถ้าปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แทบทุกวัน โดยมาพร้อมกับของกินตลอดและในแต่ละครั้งที่มาหาณัฐกานต์ก็ไม่เคยห้ามเลยสักครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ญารินยังอยู่รวมถึงตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วร่างสูงไม่ได้หยิบสมาร์ตโฟนสีเซียร่าบลูของตัวเองขึ้นมาตอบแต่อย่างใด ก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ เพราะเขาต้องรีบทำเวลาให้ทันก่อนขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้@มิลาน, ประเทศอิตาลี่ญารินได้