แชร์

ตอนที่4.เมืองหลวง ณ สกุลจ้าว

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-03 22:31:43

เมืองหลวง ณ สกุลจ้าว

            ท่านมหาอำมาตย์จ้าวหยางจงนั่งใบหน้าเรียบตึง เมื่อบุตรชายคนโต ดูจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาสั่งการ

            “ข้าแสร้งหูหนวกตาบอด ยอมผัดผ่อนเรื่องนี้มานานหลายปี เจ้าเป็นบุรุษมันอาจไม่เสียหายอันใด แต่คุณหนูหยวนเล่านางเป็นสตรี ไยจะต้องมานั่งรอคู่หมั้นไม่เอาไหนเยี่ยงเจ้าอยู่เช่นนี้ด้วย มันถูกต้องแล้วหรือ”

            “จ่ายชดเชยนางไป และท่านพ่อก็ช่วยหาสามีที่ดีให้แก่นาง เท่านี้นางก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว”

แม่ทัพหนุ่มเอ่ยขึ้น อย่างไม่คิดจะแยแสต่อความรู้สึกของคู่หมั้น เพราะสตรีที่เลยวัยออกเรือน ทั้งยังมีฐานะธรรมดา เงินทองย่อมล้ำค่ากว่าสามีที่ไม่เคยมอบใจให้นางมาก่อนเลย

            “ชดเชยเช่นนั้นรึ! เจ้าคิดว่าชีวิตของข้ากับมารดาของเจ้า มีค่าแค่เงินไม่กี่ร้อยตำลึงเท่านั้นรึ! เจ้าเป็นถึงแม่ทัพ! ย่อมน่าจะรู้ดีว่าสิ่งใดควรสิ่งใดมิควร”

            แม่ทัพหนุ่มนิ่งงันไปในทันที เมื่อสิ่งที่บิดาเอ่ยมานั้น ไม่มีเรื่องใดที่ผิดเลย เขายืดเวลาในการแต่งงานออกมานานหลายปี แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ เมื่อบิดายื่นคำขาดเรื่องการแต่งงานที่ยืดเยื้อมานาน

เมื่อหลายปีก่อน ในตอนที่พ่อแม่ของเขากลับจากชายแดน และบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ได้รับรู้ เป็นเขาเองที่รับปากว่าจะแต่งงานกับบุตรสาวของผู้มีพระคุณ ทว่านั่นมันเมื่อก่อน เวลานี้ทั้งหน้าที่การงานและหัวใจ ล้วนไม่อาจเปิดรับคู่หมั้นเข้ามาร่วมใช้ชีวิตด้วยได้

            “หากช่วงที่นางมาอยู่ที่นี่ เพื่อทำความคุ้นเคยกัน แล้ว...เราไม่อาจเข้ากันได้ ข้าหวังว่าท่านพ่อท่านแม่จะเข้าใจข้านะขอรับ”

            แม่ทัพหนุ่มเอ่ยขึ้นเพื่อตัดปัญหา พร้อมยื่นข้อเสนอใหม่เสียด้วยเลย เพราะถ้าเขายังไม่ตอบตกลง เห็นทีวันนี้คงถกเถียงกันไม่มีที่สิ้นสุดเป็นแน่

            “ฮึ! เกิดเป็นบุรุษอย่าได้หัดที่จะตระบัดสัตย์”

            เอ่ยจบท่านมหาอำมาตย์ได้ลุกขึ้น ก้าวออกจากห้องไปในทันที เป็นเขาเองที่เอ่ยปากขอหมั้นหมายบุตรสาวของผู้มีพระคุณ นั่นเพราะเขามองเห็นความสามารถของคู่แฝด

            อายุเพียงเท่านั้นกลับสามารถปรุงยาได้ ทั้งคำพูดฉะฉานเกินกว่าบุตรสาวชาวบ้านโดยทั่วไป นับว่าเป็นอัญมณีล้ำค่า แม้มิได้พบกันนานหลายปี เขายังเชื่อมั่นว่ามองคู่แฝดไม่ผิด เพราะความสำเร็จของพวกนาง นับว่าเหนือกว่าบุตรสาวบ้านใดในเมืองหลวงหลายเท่านัก แต่เขาจะไม่มีวันบอกเรื่องนี้กับบุตรชาย

            เพราะถ้าเขาบอกบุตรชายไปก่อน ถึงการใช้ชีวิตปัจจุบันของคู่แฝด มีหวังบุตรชายตัวดี คงวิ่งวุ่นหาข้ออ้างยกเลิกการแต่งงานให้ปวดหัวอีก ไหนจะขยันสร้างข้อเสนอมิรู้จบสิ้น สู้ให้รู้ด้วยตัวเองชนิดที่เรียกว่าหน้าแหกกันไปเลย จะได้รู้ว่าคนเหนือชั้นมันเป็นเช่นไร

            “ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ลู่เชียน! และแม่อยากให้เจ้าได้พบกับโลกที่นอกเหนือกองทัพบ้าง”

            เอ่ยจบจ้าวฮูหยินได้เดินจากไปเช่นกัน ทั้งที่ใจจริงนางอยากบอกแก่บุตรชาย ว่านางต้องการให้เขาพบกับหญิงสาวคนอื่น ที่นอกเหนือจากบุตรสาวสกุลชู

เพราะบุตรชายของนางอยู่แค่เพียงในกองทัพ ร้อยเล่ห์สตรียากนักที่จะได้พบเห็น นักรบมักพ่ายต่อมารยาทหญิง ด้วยมิรู้จักเปิดดวงตาให้กว้าง ทะนงตนว่าฉลาดล้ำ ทว่าขาดความเฉลียว

            แม่ทัพหนุ่มทำเพียงลุกขึ้นเดินออกไปยังห้องหนังสือ ด้วยความรู้สึกระอาใจ เขาจะทำให้การแต่งงานยุติ นี่ถือว่าเขาให้เกียรติบุตรสาวสกุลหยวนมากแล้ว ดีกว่าแต่งงานกันไป สุดท้ายแล้วก็ต้องหย่าขาด ระหว่างเสียหน้าเพียงครั้ง กับการเป็นสตรีหม้ายไปชั่วชีวิต เขามั่นใจว่านางจะเลือกอย่างแรกแน่นอน

สองเดือนต่อมา เมืองหลวง ณ จวนสกุลจ้าว

            รถม้าคันใหญ่ได้มาหยุดอยู่หน้าจวนสกุลจ้าว ความโออ่าของคณะเดินทาง บอกได้เป็นอย่างดีว่าผู้มาเยือน ฐานะคงไม่ธรรมดา ดูจากการแต่งกายของคนในคณะ ล้วนสวมใส่ไหมชั้นดี เทียบเท่าผู้มั่งคั่งในเมืองเลยทีเดียว

            ซึ่งมันคือภาพชินตาของชาวเมืองชายแดน แต่มันแปลกตาแปลกใจสำหรับคนในเมืองหลวง เพราะจะมีใครกันที่ให้บ่าวไพร่สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อดี แทบจะเทียบเท่านายเช่นนี้ เพราะนอกจากจะราคาแพงแล้ว ยังดูโอ่อ่าเกินหน้าเกินตานาย

ยิ่งคนในคณะที่ยืนเรียงกันอยู่ในตอนนี้ ล้วนมีใบหน้าที่หล่อเหลาและงดงาม ทั้งสะอาดสะอานเป็นระเบียบ สาวใช้ยังได้สวมเครื่องประดับมีราคา แม้จะชิ้นน้อย ๆ แต่ราคานั้นคงไม่น้อยเช่นขนาดของเครื่องประดับ

            หยวนไป่หลิงยกยิ้มน้อย ๆ เมื่อได้ยินคำพูดขององครักษ์ ที่เอ่ยเบา ๆ พอให้ได้ยินมาจากด้านนอก นางคือคนทำการค้า แน่นอนว่าต้องดูดีทั้งนายบ่าว เพื่อความน่าเชื่อถือและให้เกียรติคู่ค้า  

และนี่คือขวัญกำลังใจที่นางมอบให้ผู้ติดตาม เราสุขคนของเราก็ต้องสุข เราอิ่มคนของเราก็ต้องอิ่ม ถึงจะเป็นนายที่บ่าวภักดีอย่างจริงใจ หากกดขี่บ่าวไพร่จนเกินไป จะได้เพียงงาน แต่มิได้ใจที่ซื่อตรง มันคือกลยุทธ์ที่นางเลือกใช้แทนการวางอำนาจ

            ทางด้านหน้าประตูจวน ท่านมหาอำมาตย์จ้าว พร้อมจ้าวฮูหยิน ได้ออกมาต้อนรับว่าที่สะใภ้ด้วยตนเอง ทำให้รถม้าอีกคันที่มาเยือนจวนจ้าว จำต้องจอดห่างออกไปพอสมควร แน่นอนว่าเจ้าของรถม้าที่ต้องจอดอยู่ไกลจากหน้าจวน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคือง

หยวนไป่หลิงก้าวลงจากรถม้า โดยมีองครักษ์คนสนิทกระซิบบอก ว่าผู้ที่ยืนรออยู่นั้นคือใคร! แน่นอนว่าก่อนที่นางจะมาเยือน ย่อมต้องมีการตรวจสอบสกุลจ้าวเป็นการล่วงหน้าแล้ว

หญิงสาวเดินตรงไปหาเจ้าของจวน ที่ออกมารอรับนาง ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้ว มิจำเป็นเลยสักนิด ที่ผู้อาวุโสจะต้องออกมารอรับผู้น้อยเช่นนี้

            “หยวนไป่หลิง คารวะท่านมหาอำมาตย์ จ้าวฮูหยิน”

            “ไม่ต้อมากพิธีหลิงเอ๋อร์ มิได้พบกันเสียนานเจ้างดงามยิ่งนัก”

            สิ่งที่ท่านอำมาตย์พูดนั้นไม่เกินจริงเลยสักนิด ในตอนที่เขาพบกับคู่แฝดนั้น พวกนางยังมิทันถึงวัยปักปิ่น ก็ว่างดงามมากแล้ว แต่ทว่าเมื่อเติบโตความงามนั้นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่านัก

ยิ่งเมื่อเห็นความก้าวหน้าของว่าที่สะใภ้ เขายิ่งรู้สึกว่าวันนั้นคิดไม่ผิดเลยจริง ๆ ที่เอ่ยปากออกไปเช่นนั้น ไหนจะคู่แฝดของนางที่ยืนในตำแหน่งทัดเทียมบุตรชายของเขาในตอนนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่าสตรีหม้ายผู้นั้น ยอดเยี่ยมเพียงใดในการเลี้ยงลูกมาเพียงลำพัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ   ตอนที่31.  จบ

    “เหนื่อยหรือไม่ลูกรัก”หยวนไป่หลีเดินเข้ามาหาบุตรสาวด้วยรอยยิ้มละมุน ใบหน้างามของมารดามิเคยจืดจางรอยยิ้มเลย แม้ในยามที่เหน็ดเหนื่อย สองพี่น้องเดินเข้าโอบประคองผู้เป็นแม่คนละข้าง“แค่ท่านแม่มีความสุข แค่นี้นับว่าน้อยมากเจ้าค่ะ”หยวนไป่หลิง ซบใบหน้าลงกับไหล่ของมารดาด้วยความรักใคร่ หยวนไป่หลียกมือขึ้นวางบนแก้มของบุตรสาวทั้งสอง“เจ้าสองพี่น้องล้วนคือความสุขของแม่ รวมถึงเจ้าตัวเล็กของแม่ทุกคนด้วย”หยวนไป่หลีมองไปยังหลาน ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน กว่าจะมีวันนี้นางสามแม่ลูก ล้วนผ่านการเสียน้ำตากันมาไม่น้อยเลย“ข้ารักท่านแม่เจ้าค่ะ”สองพี่น้องพูดขึ้นพร้อมกัน หากวันนั้นที่บิดาทอดทิ้ง มารดามิคิดถึงพวกนางที่อยู่ในท้อง ป่านนี้คงไร้ลมหายใจตั้งแต่มิทันลืมตาดูโลก“ท่านแม่ต้องกลับชายแดนเหนือกับข้านะเจ้าคะ คู่แฝดนั่นกำลังซุกซนนัก บิดาพวกนางล้วนมิเคยขัดใจลูกสักครั้ง”หยวนไป่หลินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเว้าวอน เพราะพี่สาวที่ใกล้คลอดมีแม่สามีอยู่เคียงข้างแล้ว แต่นางที่ต้องออกทำหน้าที่รักษาชายแดน ย่อมไม่มีเวลาที่จะดูแลคู่แฝดได้อย่างเต็มที่ หากปล่อยให้สามีของนางเลี้ยงลูกลำพัง เห็นที่จะไร้ความเป็นสตรีอ

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ   ตอนที่30.  เป็นคำอวยพร

    เป็นคำอวยพรของสหายทั้งหลาย ก่อนจะผลักร่างเมามายของเจ้าบ่าวเข้าภายในห้อง พร้อมปิดประตูให้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากประตูปิดลงร่างสูงพลันยืดตัวตรง ก่อนจะก้าวไปยังเตียงนอนด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม สุราแค่นี้หรือจะทำอันใดเขาได้ แม่ทัพหนุ่มหย่อนกายลงนั่งเคียงข้างภรรยา ก่อนจะค่อย ๆ เป็นผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก รอยยิ้มละมุนคือสิ่งที่เขาปรารถนาได้เห็นมันมาตลอดทั้งวัน “หิวหรือไม่!” “เจ้าค่ะ” “เช่นนั้นเราไปกินข้าวกัน” แม่ทัพหนุ่มประคองภรรยาให้เดินไปยังโต๊ะกลางห้อง ที่มีการจัดเตรียมอาหารเอาไว้รอท่าแล้ว โดยมีเตาอุ่นสำหรับทำให้อาหารยังคงความร้อน คู่สามีภรรยาต่างสบตากัน เมื่อสุรามงคลได้ถูกแลกเปลี่ยนแล้ว การสนทนาเป็นไปอย่างนุ่มนวล ต่างจากเมื่อแรกพบหน้า เรื่องราวที่พวกเขาผ่านมันมาด้วยกัน ล้วนเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย “จะอยู่ตรงนี้กันทั้งคืนเลยรึ! ดึกแล้วมิรู้จักกลับบ้านไปหลับนอน” แม่ทัพสาวเอ่ยถามสหาย ที่พากันแอบอยู่หลังพุ่มดอกไม้หน้าห้องหอ เสียงของนางไม่ได้เบาเลยสักนิด ป่านนี้คนด้านในคงได้ยินกันหมดแล้ว

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ   ตอนที่29. สองวันถัดมา

    สองวันถัดมาการเดินทางของคนจากชายแดน ได้แยกเป็นสองคณะ ซึ่งแขกคนสำคัญล้วนอยู่ในขบวนสินค้าจากชายแดน ส่วนในคณะจะเป็นคนของมวลเมฆา ที่ปลอมตัวเป็นคณะของแขกต่างแคว้น การเดินทางทั้งสองคณะนั้นจะแยกไปคนละเส้นทาง และจากสาสน์ลับที่บอกถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองคณะต่างเร่งเดินทางชนิดที่เรียกได้ว่ามิได้หลับนอนกันเลยทีเดียว เพราะหากล่าช้า อาจเกิดการสูญเสียที่ยากจะกู้คืนมาได้ หยวนไป่หลิงพยายามป้อนยาให้แก่จ้าวลู่เชียน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาอาการไข้ของเขาได้ทวีความรุนแรงขึ้น ผลคงมาจากความมั่นใจ ว่าตนเองทนไหวต่อการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย จนมันลุกลามเป็นหนักขึ้น “กินยาสักหน่อยเถอะนะเจ้าคะ หาไม่แล้วเราอาจต้องทิ้งท่านไว้ระหว่างทาง” หมับ! แม่ทัพหนุ่มรวบจับข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ ก่อนจะพยายามลืมตามองใบหน้าของสตรีใจร้าย ที่คิดจะทิ้งเขาเอาไว้กลางทาง นางช่างไม่มีหัวใจเอาเสียเลย “เจ้ากล้ารึ!” “ท่านเคยเห็นข้าขู่ใครหรือไม่เล่า” “แต่มันขม!” หยวนไป่หลิงได้แต่อมยิ้ม เมื่อคนตัวโตแสร้งเว้าวอนราวเด็กสิบขว

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ   ตอนที่28.  ในอ้อมแขน

    “โหวปู้หยา ข้ารู้จักเจ้าและอำนาจที่เจ้าพยายามไขว่คว้ามันได้เป็นอย่างดี แค่ความคิดที่เจ้าจะแตะต้องเขา ข้าก็พร้อมที่จะปลิดลมหายใจเจ้าอย่างไม่คิดที่จะลังเล”หยวนไป่หลิงโน้มใบหน้าเข้าใกล้อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงสองคน โหวปู้หยาขบกรามแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว คนที่เคยเอ่ยเช่นนี้กับเขา มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ‘เชียวอิง’อึก! หยวนไป่หลิงดันดาบในมือจนมิดด้าม มือบางอีกข้างที่ลูบยังลำคอของชินอ๋อง มันทำให้เขารู้สึกราวแมวข่วนเบา ๆ ก่อนที่ทุกอย่างในครรลองสายตาจะพร่าเลือน“ตอนท่านสังหารสามีข้า แม้ความปราณีสักนิดก็ไม่มี การที่ข้าทำเยี่ยงนี้ใช่เมตตาต่อท่าน แต่ข้ามิอยากให้ลูกของข้าเห็นภาพที่ไม่ชวนมอง”หยวนไป่หลิงเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างสง่า แล้วหมุนกายเดินกลับไปหาจ้าวลู่เชียน ซึ่งแม่ทัพหนุ่มเองก็รีบถลามาโอบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่น ก่อนจะผละออกแล้วจับร่างงามหมุนไปมา เพื่อดูให้แน่ใจว่านางปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ก่อนจะรวบกอดหญิงสาวอีกครั้ง“ท่านพ่อ! ฮือ ๆ พวกท่านทำกับเราเยี่ยงนี้ได้อย่างไรกัน บิดาข้าเป็นถึงโอรสฮ่องเต้นะ”ท่านหญิงโหวถลาเข้าสวมกอดร่างอ่อนแรงของบิดา ที่ตอนนี้มีลมหายใจเหลือเ

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ   ตอนที่27.  คิดขวางทาง

    “หากเจ้ายังคิดขวางทางข้า เกิดอะไรขึ้นอย่าได้หาว่าข้าไม่เตือน” “เช่นนั้นรึ!” หยวนไป่หลิงยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนเปิดทาง ในเมื่อวันนี้มาถึงนางก็จะจบเรื่องนี้ด้วยตนเอง แม่ทัพหนุ่มคิดที่จะห้ามปราม ทว่าท่านชายลั่วกลับรั้งเขาเอาไว้ แววตาเชื่อมั่นของผู้เป็นนาย ที่มีต่อคู่หมั้นของเขา มันทำให้แม่ทัพหนุ่มหวาดหวั่นอยู่ในใจ เกรงว่าคู่แข่งทางหัวใจจะมาเหนือความคาดหมาย “เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ เอาไว้จบเรื่องนี้ข้าจะเล่าให้ฟัง” ลั่วหยางเอ่ยกับแม่ทัพหนุ่มเบา ๆ พร้อมส่ายหน้าอย่างระอาใจ ตอนที่ไม่เคยรักใคร่ ปากก็มีแต่จะถอนหมั้น แต่มาดูตอนนี้สิน่า! แทบจะสิงร่างของหยวนไป่หลิงแล้ว ทุกคนเดินออกมายืนอยู่โดยรอบลานกว้างด้านหน้าเรือน เพื่อดูการต่อสู้ระหว่างฮูหยินแม่ทัพแคว้นเยี่ย กับอดีตองค์รัชทายาทจากแคว้นฉู่ หยวนไป่หลิงส่งสัญญาณให้อู่หรง นำอาวุธมามอบแก่โหวปู้หยา “จ้าวฮูหยิน เรื่องนี้ข้าขอเป็นคนชำระความเองได้หรือไม่” เว่ยหลงก้าวเข้ามาเอ่ยขอต่อหญิงสาว “บิดาเจ้ายังตายใต้คมดาบของข้า เจ้าจะ...อ๊ะ!” ปลายกระบี

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ   ตอนที่25.  น้ำตานองหน้า

    เสียงของบิดาที่ก้าวผ่าน ทำให้คนที่นอนน้ำตานองหน้า อยากที่จะร้องเรียกขอความช่วยเหลือยิ่งนัก แม้จะมิเสียกายแต่เมื่อใครมาเห็นนางในสภาพนี้ ชื่อเสียงของนางย่อมป่นปี้จะมีบุรุษสูงศักดิ์ใดเล่าจะต้องการนางอีก เกิดมามิเคยอดสูเยี่ยงนี้มาก่อน หญิงสาวทำได้เพียงรำพันอยู่ภายในใจ ด้วยความบอบช้ำจนยากจะเยียวยาภายในห้องนอนแม่ทัพหนุ่มกับคู่หมั้น ทั้งคู่ต่างนั่งจ้องตากัน คล้ายกับว่าใครหลบสายตาก่อน ผู้นั้นพ่ายแพ้ในทันที“ใบหน้าของข้ามีสิ่งใดติดอยู่หรือเจ้าคะ”“ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้าหมางใจ”หยวนไป่หลิงคลี่ยิ้มน้อย ๆ ทว่าภายในใจของนางกำลังขำขัน เรื่องที่นางลงมือต่อท่านชายจากฉู่ คงทำให้คนตรงหน้ารู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วกระมัง“ที่ข้าทำเช่นนั้น เพื่อตัดทุกวงจรความมิรู้พอของเขา หากเขายังมีมันอยู่ มิแคล้ววนเวียนทำร้ายสตรีไปทั่ว โดยมิสนลูกใครเมียใครเจ้าค่ะ”“ข้าไม่คิดที่จะใช้มันพร่ำเพรื่อกับผู้ใด นอกจากภรรยา”แม่ทัพหนุ่มยังคงไม่วายกังวล เกรงว่าตนเองอาจเป็นรายต่อไป หากมีสตรีใดเข้าใกล้เขา เช่นที่ท่านหญิงแคว้นฉู่ได้ทำกับเขาเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนนี้“นอนพักเถอะเจ้าค่ะ พรุ่งนี้เรายังมีเรื่องให้จัดการอีกมาก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status