เมื่อถึงยามเช้ามืดวันต่อมา เสียงขบวนทหารทั้งสองพันนาย ก็ได้เวลาออกเดินทางไปตำบลหย่งฝูแล้ว และผู้ที่ขี่ม้านำทหารไปก็คือเซียวหนิงหลง แม้จะยังเป็นเช้ามืด แต่พวกเขากลับได้รับเสบียงติดตัวไปคนละสองมื้อเพราะก้งเยว่ได้มาแจ้งกับลู่ชิงไว้ว่า เซียวหนิงหลงจะออกเดินทางยามเช้ามืด นางจึงชวนท่านแม่กับพี่ชายอย่างลู
ที่อ่อนแอกว่า พอเกิดสงครามและอพยพมาอยู่ในเมืองหย่งจิน โดยที่พักของพวกเขาอยู่เยื้องจากที่พักของลู่ชิงไปไม่ไกล ยามที่นางทำอาหารกลิ่นหอมจึงลอยตามลมไป จนคนพวกนี้ทนไม่ไหว วันนี้เห็นเสบียงมากมายที่คนจากหลาย ๆ หมู่บ้านมาช่วยกันทำ จึงเกิดความคิดอยากได้เอามาเก็บไว้เป็นของตนเอง เขาเรียกสหายมารวมตัวกัน ก่อนยกข
“ฉึบ...ตุบ” ร่างไร้ลมหายใจของชายคนที่หักหลังสหายล้มลงกับพื้นต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง“เจ้าช่างมีลูกน้องที่ดีจริง ๆ ยอมหักหลังสหายยามที่ตกที่นั่งลำบากได้ง่ายดายเหลือเกิน” ก้งเจี้ยคันไม้คันมือมาหลายวันแล้ว พอได้จัดการกับคนพวกนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย“ปึก!! ตุบ ตุบ นายท่านโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าตามืดบอดไปชั
ท่านเจ้าเมืองไป๋เมื่อได้รับแจ้งจากทหาร ที่นำเสบียงไปส่งให้ซื่อจื่อ เขาเองก็กังวลไม่น้อยเลย กลัวว่าซื่อจื่อและทหารเพียงสองพันนาย จะต้านแคว้นศัตรูที่มีทหารจำนวนมากกว่าหลายเท่าได้อย่างไร เมื่อนั่งคิดทบทวนอยู่นานเขาจึงตัดสินใจ จะส่งทหารอีกหนึ่งพันนายไปเพิ่ม และออกเดินทางไปกับขบวนเสบียงตามที่ซื่อจื่อแจ้ง
ตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้ว ทุกคนที่อยู่ในเมืองหย่งจินยังคงใช้ชีวิตกันปกติอยู่ ลู่ชิงที่เบื่อกับการต้องอยู่แต่พื้นที่แถบที่พักของตน จึงขออนุญาตบิดาออกไปเดินเล่น ในตลาดของเมืองเสียหน่อย แม้จะได้รับอนุญาตจากบิดา แต่นางต้องพาก้งเยว่ติดตามไปด้วยเช่นเคย ลู่ชิงไม่มีปัญหาอยู่แล้วมีก้งเยว่ไปด้วย ย่อมพูดคุยเรื่อง
“แฮ่ก ๆ ๆ พี่ก้งเยว่ พวกเรา ๆ รีบกลับไปที่พักกันเถิดเจ้าค่ะ ข้าบังเอิญได้ยินเรื่องใหญ่มาอีกแล้ว” ลู่ชิงที่วิ่งมาถึงตัวก้งเยว่รีบพูดขึ้นทั้งที่ยังเหนื่อยหอบอยู่ แต่จะปล่อยผ่านไปแค่หนึ่งลมหายใจ ก็อาจจะไม่ทันการณ์ได้“คุณหนู!!! อีกแล้วหรือเจ้าคะ” โอ้ยยย นางไม่อยากจะคิดเลย หากซื่อจื่อได้รู้ว่าเด็กน้อยขอ
เมื่อทหารแคว้นตงหนานเดินขึ้นมาเรื่อย ๆ อีกแค่ครึ่งลี้จะถึงบริเวณที่เซียวหนิงหลงดักซุ่มอยู่แล้ว เพื่อเป็นการเตือนให้ชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์มาไม่ถูกสังหาร จึงตะโกนออกไปด้วยเสียงที่ดังจนก้องไปทั้งป่า“แคว้นตงหนาน! พวกเจ้าอย่าได้คิดพาทหารข้ามผ่านภูเขาแห่งนี้ เข้ามายังเขตของแคว้นฉู่เด็ดขาด ข้าขอเตือนด้วยความห
เซียวหนิงหลงไม่รอให้รองแม่ทัพสุ่นได้ตั้งตัว เขารีบดีดตัวออกไปด้วยความเร็ว พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายที่ตั้งท่ารับด้วยดาบเล่มใหญ่ การต่อสู้ที่ดุเดือดได้เริ่มขึ้น ทั้งสองคนผลัดกันรุกผลัดกันรับ ด้วยกระบวนท่าที่แข็งแกร่ง แต่ด้วยขั้นวรยุทธ์ของเซียวหนิงหลงที่สูงกว่า ทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บไปหลายแผล บนร่างกายเต็ม
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”