เพลิงรักใต้เงาแค้น

เพลิงรักใต้เงาแค้น

last updateLast Updated : 2025-10-07
By:  BosskerrOngoing
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
23Chapters
9views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

สิบปีมาแล้ว... เขายังคงถูกหลอกหลอนด้วยดวงตาอันสิ้นหวังของนาง จดหมายไร้นามเพียงฉบับเดียว จุดไฟแค้นให้เจ้าเมืองลู่หยางลุกขึ้นอีกครั้ง! เพื่อพิสูจน์ว่านางมิใช่กบฏ แต่คือรักเดียวที่เขาสาบาว่าจะปกป้อง!

View More

Chapter 1

เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 1

ค่ำคืนแห่งปลายฤดูใบไม้ร่วง แคว้นเป่ยหลานซึ่งเคยอบอุ่นสุขสงบกลับคล้ายเย็นเยียบเป็นพิเศษ สายลมจากทิศเหนือพัดพาเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกเหมยแห้งผ่านแนวระเบียงเรือนสูง ขับให้เปลวไฟในโคมแดงไหวระริกอย่างไร้ทิศทาง

แม้ในยามราตรีจะเยือกเย็นเพียงใด แต่ในใจของชาวเป่ยหลาน ยังมีเพลิงอุ่นหนึ่งดวงส่องแสงไม่เคยริบหรี่ เพลิงนั้น คือ “ลู่หยาง” เจ้าเมืองผู้ยืนหยัดดุจขุนเขา ประคับประคองบ้านเมืองให้รอดพ้นจากห่าธนูและเพลิงสงครามมาได้หลายหนผู้คนต่างเรียกเขาว่า “เจ้าเมืองอักษรเหล็ก” อักษรที่เขียนจากน้ำหมึก แต่หนักแน่นยิ่งกว่าคำสั่งดาบ ทุกถ้อยคำของเขาเคยหยุดศึกได้โดยไม่ต้องแลกด้วยเลือดแม้แต่หยดเดียว

ลู่หยางมิใช่ขุนนางที่ได้ตำแหน่งด้วยสายเลือด หากแต่ปีนบันไดแห่งคุณธรรมขึ้นมาทีละขั้น เริ่มต้นจากทหารแนวหน้า สู่นายกอง จากผู้แบกหีบศพสหาย สู่นักเจรจาที่ขุนนางทั้งห้าตระกูลยังต้องยอมก้มหัวให้

ครั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองเมื่อสิบปีก่อน เมืองเป่ยหลานยังคงเต็มไปด้วยซากปรักหักพังจากศึกใหญ่ ผู้คนอดอยากปากแห้ง ฝนแล้ง น้ำไม่หลั่งแม้สักหยด เด็ก ๆ หลายร้อยคนไม่มีแม้แต่ข้าวสุกมื้อล่าสุดให้กินประทังความหิวโหย

ลู่ก็มิได้เริ่มจากคำสั่ง หากแต่ย่ำเท้าฝ่าโคลนไปกลางท้องนา สืบหาต้นตอของความแห้งแล้งด้วยสองมือของตนเอง ฟื้นฟูคูคลอง เจรจากับเมืองข้างเคียงเพื่อแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์และแรงงาน เขาใช้กลยุทธ์แทนกระบี่ ใช้ความอดทนแทนกองทัพ

สองปีผ่านไป หลายสิ่งก็เริ่มเปลี่ยนแปลง น้ำไหล ข้าวงอก ผู้คนเริ่มกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง ถึงแม้จะยังไม่วิเศษดั่งเมืองหลวง แต่ก็พอให้มีชีวิตที่ไม่ต้องก้มหน้ารอเศษข้าวจากขบวนเสบียงหลวง

สามปีต่อมา ลู่หยางริเริ่มก่อตั้ง “หอศึกษาตงหลิน” เปิดสอนบุตรหลานของพวกชาวบ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เลือกบัณฑิตเก่าที่เคยเร่ขายตัวอักษรริมทางให้มาสอน เด็กที่เคยไม่มีแม้แต่กระดานหินให้ขีดเขียน บัดนี้เริ่มเขียนอักษรด้วยพู่กัน

“หากคิดจะสร้างเมือง ก็ต้องสร้างคนเสียก่อน” เขาเคยเอ่ยไว้ในขณะที่แบ่งน้ำชากับอาจารย์เฒ่าที่ถูกลืมผู้หนึ่ง

ชื่อของลู่หยางจึงมิได้ดังเพราะอำนาจ

หากแต่ดังเพราะ ศรัทธา

เหนือหอสูงของจวนเจ้าเมือง แสงจันทร์ขาวนวลตกกระทบโต๊ะไม้จันทน์ในห้องหนังสืออย่างเงียบงัน ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่กลางเงาและแสง แววตาแน่วแน่สงบนิ่งราวกับหินผาฝ่ากาลเวลา คิ้วหนาขมวดมุ่นเข้าหากัน ดวงตาเรียวหรี่ลงเล็กน้อยยามจับสังเกตได้ถึงสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล

บุรุษผู้นี้ รูปร่างสูงสง่า แม้จะผ่านวัยกลางคนมาแล้วแต่ยังรักษากายและใจดั่งเหล็กกล้า

ดวงตาเรียวคม เงียบขรึมดุจหยก เยือกเย็นดุจน้ำแข็ง

เสียงพูดนุ่มทว่าเด็ดขาด ยามสั่งทหารเพียงกะพริบตาก็เข้าใจคำสั่ง

บนหน้าผากของเขา แม้จะมีรอยแผลเป็นจาง ๆ จากศึกเมื่อวัยหนุ่ม แต่กลับยิ่งเสริมความสง่าให้ราวกับดาบที่ผ่านการฟาดฟันมานับครั้งไม่ถ้วน

แม้นภายนอกสงบเยือกเย็น แต่มิใช่ไร้ความรู้สึก ในความนิ่งเงียบนั้น แฝงความเศร้าลึก ๆ บางอย่างซึ่งแม้แต่ผู้ใกล้ชิดก็ยังไม่กล้าเอ่ยถาม

ลู่หยางคือภูเขาที่ไม่เคยบ่นต่อฟ้า คือสายน้ำที่ไหลเชี่ยวโดยไม่ส่งเสียง เขามีบาดแผลแต่เลือกจะปกปิดมันไว้เบื้องหลังแววตาแน่วแน่นั้น

ค่ำคืนนี้ แม้จันทราจะยังคงลอยเด่น แต่ในใจของลู่หยาง คล้ายมีเมฆดำจากอดีตค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาอย่างเงียบงัน

            แผนที่เขตชายแดนถูกคลี่ออกตรงหน้า ขีดเส้นด้วยหมึกแดงหลายจุดบ่งบอกถึงความไม่ปกติ แม้ภายนอกจะไร้ศึกสงคราม แต่ใต้ผิวของความสงบนั้น กลับมีบางสิ่งเคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน

“...แม่ทัพเฉินไม่เคยรายงานช้าเช่นนี้มาก่อน” ลู่หยางพึมพำ เขาเบือนสายตาไปยังม้วนรายงานข่าวลับที่เพิ่งส่งมาจากด่านหลงอวิ๋น ทว่าก่อนเขาจะหยิบมันขึ้นมา เสียงเคาะประตูเบา ๆ ก็ดังขึ้น

“เข้ามา” เสียงของเขาราบเรียบ ไม่ดังและไม่เบา

บ่าวรับใช้วัยกลางคนผู้ติดตามรับใช้มาเนิ่นนาน เดินเข้ามาพร้อมกล่องไม้เล็กสีเข้ม กลิ่นไม้เก่าจาง ๆ โชยมาพร้อมความเย็นของลมราตรี

“เรียนท่านเจ้าเมือง มีบุคคลปริศนาให้ข้าน้อยนำสิ่งนี้มามอบให้แก่ท่านขอรับ” 

“ผู้ใดส่งมา”

“ข้าน้อยไม่เห็นหน้าผู้ส่งขอรับ เบื้องต้นข้าน้อยตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีกลไกพิษหรือความผิดปกติใด”

ลู่หยางพยักหน้า รับกล่องไม้นั้นมาด้วยมือข้างขวาที่เปื้อนหมึกดำจาง ๆ กล่องนั้นดูธรรมดาแต่แฝงความเก่าแก่ ราวกับผ่านกาลเวลามานานหลายปี

“เจ้าออกไปเถิด ข้าจะตรวจสอบเอง”

“ขอรับ”

บ่าวรับใช้ผู้นั้นรับคำก่อนจะเดินถอยออกไปจากห้องหนังสือไปอย่างเงียบเชียบ

ลู่หยางพลิกกล่องเบา ๆ พลางใช้ปลายนิ้วไล้ตามรอยแกะสลักบนฝาไม้ที่ถูกขัดจนเรียบเนียน กล่องดูเก่า ทว่าไม่ใช่เก่าธรรมดา หากเป็นเก่าที่ผ่านฤดูกาลหลายชั่วคน เมื่อปลายนิ้วไล้ไปถึงมุมหนึ่งก็พบรอยไหม้เล็ก ๆ แห้งกรังราวกับคราบเลือดเก่าที่หลับใหลมานาน

เขาค่อย ๆ เปิดกล่อง ไม้เสียดสีกันส่งเสียงแผ่วคล้ายเสียงกระซิบจากสายลมหนาวภายในมีเพียงซองจดหมายหนึ่งที่ฉีกขาดเพียงเล็กน้อย หากแต่ไม่ปรากฏชื่อ ไม่ปรากฏตราประทับใด มุมกระดาษมีรอยเปื้อนสีน้ำตาลแดง ซึ่งอาจเป็นสีของหมึกหรือเลือดก็ไม่มีใครบอกได้

หากแต่เมื่อดวงตาของลู่หยางจับจ้อง รอยหมึกนั้นกลับคล้ายมีชีวิต เคลื่อนไหวไปในห้วงความทรงจำ มือของเขาหยุดนิ่ง ใจเต้นหนึ่งจังหวะ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบจดหมายนั้นขึ้นมา

กระดาษแผ่นนั้นเย็นยะเยือกราวกับว่ามันได้ผ่านฤดูเหมันต์มาเนิ่นนาน 

เมื่อคลี่ออก ลายพู่กันแปรงปรากฏขึ้น ลายมือหวัดแต่หนักแน่น เฉกเช่นเสียงของผู้ที่เป็นเจ้าของอักษรเหล่านี้

“ท่านยังจำค่ำคืนนั้นได้หรือไม่?”

ประโยคนั้นมิใช่คำถาม หากแต่เป็นสายลมแห่งความทรงจำที่พัดพาหัวใจให้สั่นไหว

ลู่หยางนิ่งงัน สีหน้าแปรเปลี่ยนช้า ๆ เสี้ยวหนึ่งแห่งแววตา...ไม่ใช่ความเศร้า ไม่ใช่ความหวาดกลัว แต่คือความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่กล้าตั้งชื่อ

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
23 Chapters
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 1
ค่ำคืนแห่งปลายฤดูใบไม้ร่วง แคว้นเป่ยหลานซึ่งเคยอบอุ่นสุขสงบกลับคล้ายเย็นเยียบเป็นพิเศษ สายลมจากทิศเหนือพัดพาเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกเหมยแห้งผ่านแนวระเบียงเรือนสูง ขับให้เปลวไฟในโคมแดงไหวระริกอย่างไร้ทิศทางแม้ในยามราตรีจะเยือกเย็นเพียงใด แต่ในใจของชาวเป่ยหลาน ยังมีเพลิงอุ่นหนึ่งดวงส่องแสงไม่เคยริบหรี่ เพลิงนั้น คือ “ลู่หยาง” เจ้าเมืองผู้ยืนหยัดดุจขุนเขา ประคับประคองบ้านเมืองให้รอดพ้นจากห่าธนูและเพลิงสงครามมาได้หลายหนผู้คนต่างเรียกเขาว่า “เจ้าเมืองอักษรเหล็ก” อักษรที่เขียนจากน้ำหมึก แต่หนักแน่นยิ่งกว่าคำสั่งดาบ ทุกถ้อยคำของเขาเคยหยุดศึกได้โดยไม่ต้องแลกด้วยเลือดแม้แต่หยดเดียวลู่หยางมิใช่ขุนนางที่ได้ตำแหน่งด้วยสายเลือด หากแต่ปีนบันไดแห่งคุณธรรมขึ้นมาทีละขั้น เริ่มต้นจากทหารแนวหน้า สู่นายกอง จากผู้แบกหีบศพสหาย สู่นักเจรจาที่ขุนนางทั้งห้าตระกูลยังต้องยอมก้มหัวให้ครั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองเมื่อสิบปีก่อน เมืองเป่ยหลานยังคงเต็มไปด้วยซากปรักหักพังจากศึกใหญ่ ผู้คนอดอยากปากแห้ง ฝนแล้ง น้ำไม่หลั่งแม้สักหยด เด็ก ๆ หลายร้อยคนไม่มีแม้แต่ข้าวสุกมื้อล่าสุดให้กินประทังความหิวโหยลู่ก็มิได้เร
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 2
มือใหญ่ของลู่หยางกำกระดาษแน่นจนยับยู่ยี่ สายตาที่เคยสงบนิ่งราวหินผากลับสั่นไหวราวกับทะเลคลื่นซัด ความทรงจำที่เขาพยายามฝังลึกในก้นบึ้งหัวใจมาตลอดสิบปีผุดขึ้นมาทันที คืนแห่งความสับสนวุ่นวายที่กลายเป็นตราบาปภายในใจของเขา“จับนางขึ้นมา!”เสียงของเจ้ากรมตุลาการดังลั่นในความมืด ร่างของสตรีนางหนึ่งถูกทหารจับขึ้นมาจากพื้นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ผมยาวสยายสีดำขลับที่ปลิวไสวไปตามแรงลมถูกกระชากขึ้นมาอย่างแรง เลือดสีแดงเข้มที่ไหลลงมาจากศีรษะเหนียวเหนอะหนะติดเส้นผมจนพันกันยุ่งเหยิง ร่างของนางถูกฉุดขึ้นกลางอากาศอย่างไม่มีความปราณี ใบหน้าของนางขาวซีดราวกับศพ ส่วนในดวงตากลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“อวิ๋นซู เจ้ารู้ความผิดของเจ้าหรือไม่!” ชายผู้หนึ่งถามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด“ไม่! ข้าไม่ได้ผิด! เป็นพวกเจ้าที่ใส่ร้ายข้า!” อวิ๋นซูตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแต่แฝงไปด้วยความแข็งกร้าว ดวงตาของนางยังคงจ้องมองกลับไปที่ชายผู้ออกคำสั่งอย่างไม่ย่อท้อ“เจ้าคิดว่าคำพูดเพียงลมปาก จะทำให้ผู้ใดเชื่อได้หรือ?”เสียงหัวเราะเยาะดังจากฝูงชน ทั้งทหารและขุนนางที่รายล้อมอยู่ในลานประหารแคบ ๆ เบื้องหลังตำหนักเย็น ทุกสายต
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 3
เสียงก้าวเท้าของบ่าวคนสนิทค่อย ๆ เลือนหายไปตามระเบียงยาวที่ทอดสู่ความมืด ลู่หยางยังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้องหนังสือ เงาไฟจากตะเกียงบนโต๊ะเต้นระริกสะท้อนในดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยเพลิงแค้นและความมุ่งมั่นที่ไม่อาจดับได้เขาไม่อาจเดินบนเส้นทางแห่งการปกครองที่เงียบสงบอีกต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนคือบาดแผลที่ไม่เคยสมาน จนบัดนี้กลายเป็นไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกเงามืดที่ขวางหน้าเหวินซางคือสหายร่วมเป็นตายในสนามรบ ชายผู้ยอมสละตำแหน่งแม่ทัพสูงสุดเพราะไม่อาจทนเห็นการเมืองที่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย เขาคือคนเดียวที่ลู่หยางยังคงไว้ใจอย่างเต็มหัวใจ“สิบปี ข้าปล่อยให้เจ้าลี้ภัยอยู่ในหุบเขา... แต่ครั้งนี้ ข้าจำเป็นต้องพึ่งเจ้าแล้ว” ลู่หยางพึมพำเบา ๆ ราวกับฝากความหวังไปกับสายลมที่ลอดเข้าหน้าต่างเขาเงยหน้ามองเพดานสูง ความเงียบของราตรีเหมือนจะโอบล้อม แต่เบื้องลึกของจิตใจ เขารู้ดีว่าการขยับครั้งนี้คือการเดินเข้าสู่เส้นทางที่ไม่อาจหวนกลับยามรุ่งสาง แสงแรกแห่งวันค่อย ๆ ทะลุผ่านม่านหมอกที่คลุมทั่วเมือง เสียงไก่ขันดังระงมประสานกับเสียงพ่อค้าแม่ค้ากำลังตั้งร้านรับเช้าวันใหม่ แต่ภายในเรือนเจ้าเมืองกลับเงียบสงบผิ
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 4
กลางหุบเขาเล็ก ๆ ในเขตตะวันตกเฉียงเหนือ มีหมู่บ้านห่างไกลความเจริญชื่อว่า หมู่บ้านชิงอวิ๋นนั่นคือบ้านเกิดของ อวิ๋นซู เด็กหญิงที่สูญเสียบิดามารดาตั้งแต่อายุเพียงแปดขวบ พ่อแม่ตายเพราะโรคระบาด เหลือเพียงพี่สาว ซูเหยียน เป็นผู้ดูแลตั้งแต่เล็ก อวิ๋นซูต้องช่วยพี่สาวทอผ้า ทำอาหาร และหาสมุนไพรบนเขา นางเป็นเด็กเงียบ ๆ แต่จิตใจดีงาม นางเคยบอกพี่สาวเสมอว่าอยากเรียนหมอเพื่อช่วยคนในหมู่บ้าน“ซูเอ๋อร์” ซูเหยียนเอ่ยเสียงนุ่ม “ข้ารู้เจ้าชอบขึ้นเขาเก็บสมุนไพร แต่ข้าขอ...อย่าไปไกลนักได้หรือไม่”“ข้ารู้เจ้าค่ะพี่เหยียน” อวิ๋นซูยิ้มบาง “แต่ถ้าไม่ไปลึกหน่อย สมุนไพรที่ต้องใช้ก็หาไม่ได้”ซูเหยียนถอนหายใจ “เจ้าช่วยหมอหลวงในหมู่บ้านจนคล่องแล้ว แต่ก็อย่าเสี่ยงอันตรายมากนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่ห่วงเจ้าแค่ไหน”อวิ๋นซูเงยหน้ามองพี่สาว ดวงตากลมใสทอประกายจริงจัง “ข้าจะระวังตัว ข้าสัญญา”“เช่นนั้นก็ดี เจ้ารีบไปเถิดประเดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน”“เจ้าค่ะ ข้าไปแล้วนะเจ้าคะ พี่เหยียน” อวิ๋นซูบอกลาพลางโบกมือ ขณะมุ่งหน้าเข้าป่าลึกแสงอาทิตย์รำไรยามเย็นส่องผ่านยอดไม้ลงมายังเส้นทางที่นางเดินผ่าน อวิ๋นซูเดินลัดเลาะไปตามทางเดิ
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 5
ลู่หยางมองเห็นประกายความสุขในดวงตาของอวิ๋นซูแล้วก็ยิ้มตาม ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนี้ เขาได้พบว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่เพียงแค่ผู้ช่วยชีวิตของเขา แต่เป็นแสงสว่างที่เข้ามาเติมเต็มหัวใจที่แห้งแล้งให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง“ข้าไม่เคยนึกมาก่อนเลยนะเจ้าคะ ว่าในเมืองจะมีเทศกาลที่งดงามเช่นนี้ด้วย” อวิ๋นซูเอ่ยอย่างตื่นเต้น“เจ้าไม่เคยเห็นหรือ”“ข้าอยู่แต่ในป่า อย่างมากก็เคยเห็นแค่ดวงดาวในยามค่ำคืน แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกโอบล้อมด้วยดวงดาวนับร้อยนับพัน”ลู่หยางหยุดเดินและหันมาสบตากับอวิ๋นซู “ดาวพวกนั้นยังงามสู้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าข้าตอนนี้ไม่ได้ เพราะแสงในดวงตาของเจ้านั้นงดงามยิ่งกว่า" คำพูดของเขาทำให้อวิ๋นซูเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความเขินอาย ลู่หยางจึงรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อคลายความประหม่าของนาง เขาพาอวิ๋นซูเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆ ที่ผู้คนไม่พลุกพล่านนัก ก่อนจะหยุดอยู่หน้าแผงขาย เครื่องประดับหยก ที่มีของวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด"เจ้าชอบชิ้นไหนหรือ" ลู่หยางเอ่ยถามลู่หยางยิ้มบางๆ เขาไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับหยิบบางสิ่งออกมาจากสาบเสื้อด้านใน"นี่เ
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 6
แสงโคมสีแดงของหอชิงเฟิงส่องวาบไปทั่วถนนใหญ่ในยามราตรี กลิ่นเหล้าหอมอบอวลปะปนไปกับเสียงพิณและเสียงหัวเราะของเหล่านักการค้าและขุนนางที่ผลัดกันเข้าออกลู่หยางกับเหวินซางต่างแต่งกายด้วยชุดสามัญชน เดินปะปนไปท่ามกลางฝูงชนโดยไม่ให้สะดุดตา สายตาคมกริบของลู่หยางกวาดมองไปรอบ ๆ ท่ามกลางแสงสลัว“เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าคืนนี้เราจะพบตัวนางที่นี่”“จากที่ข้าลอบสังเกต การแต่งกายของนางไม่เหมือนนางคณิกา หากแต่เหมือนสาวใช้ อีกทั้งนางยังสามารถผ่านประตูลับของหอชิงเฟิงได้ ข้าเกรงว่านางต้องมีอะไรเกี่ยวพันกับที่นี่เป็นแน่”ลู่หยางหรี่ตาลงเล็กน้อย ราวกับจะจดจำทุกแสงเงาที่กระทบอยู่เบื้องหน้า“หอชิงเฟิงไม่เคยให้คนธรรมดาเข้าออกประตูลับ หากนางเป็นเพียงสาวใช้... เหตุใดต้องใช้ทางนั้น?”เหวินซางยกยิ้มมุมปาก “นั่นล่ะที่ข้าสงสัย นางผู้นี้อาจไม่ใช่ใครที่เราคิด”เสียงหัวเราะแผ่วกังวานดังลอดออกมาจากหอคณิกา ประตูไม้ทาสีชาดค่อย ๆ แง้มเปิด มีหญิงในชุดแพรไหมเดินผ่านกลุ่มแขกเหรื่อไปอย่างอ่อนช้อย แต่สายตาลู่หยางจับจ้องไปที่ร่างเล็กในเงามืดด้านหลัง หญิงผู้นั้นแต่งกายเรียบง่าย สวมผ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า แต่แววตาที่ชำเลืองออกมาเพ
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 7
“ข้าตายในหลุมทรายนั้นจริง...แต่ไม่ใช่ตายอย่างที่พวกเจ้าคิด วันนั้นร่างข้าถูกทรายถล่มทับ กลบเสียงตะโกนของสหายจนเงียบงัน หากมิใช่เพราะมีผู้คนกลุ่มหนึ่งดึงข้าออกมาอย่างฉับพลัน ป่านนี้คงเหลือเพียงโครงกระดูกใต้ผืนดินแล้ว”ลู่หยางเงยหน้าขึ้น ดวงตาสั่นระริกด้วยความตกตะลึงและไม่อาจเชื่อเหวินซางกัดฟันถามต่อ “ใครกันที่ช่วยเจ้า? และเพื่ออะไร?”จิ้นเหอยกมุมปากขึ้นยิ้มขมขื่น “พวกนั้นไม่ใช่สหาย และมิใช่คนของเรา แต่เป็นเงาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังศึกครั้งนั้น เงาที่ต้องการเก็บข้าไว้เป็น ‘หมากตัวหนึ่ง’ พวกเขาเยียวยาข้า แต่ก็ตีตราให้ข้าอยู่ในเงื้อมมือ หากข้าไม่ทำตามสิ่งที่พวกเขากำหนด ก็จะถูกกำจัดไปในทันที”ลู่หยางขมวดคิ้วแน่น “แล้วเหตุใดต้องส่งจดหมายให้ข้า?”จิ้นเหอหันไปสบตาเขาโดยตรง น้ำเสียงหนักแน่นขึ้น “เพราะจดหมายนั้น...มิใช่สิ่งที่ข้าเขียน หากแต่เป็นคำสั่งเสียสุดท้ายของแม่นางอวิ๋นซู นางฝากให้ข้าเก็บรักษาไว้ และในวันที่ถึงเวลา ข้าต้องส่งไปถึงเจ้าโดยตรง ไม่ว่าตัวข้าจะยังอยู่หรือตายไปแล้วก็ตาม” ลู่หยางนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ หัวใจที่เต้นรัวเหมือนกลองศึกเมื่อครู่พลันเงียบสงัดลง น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 8
การลอบเข้าไปใน ‘กู่หลู่’ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ภายในตรอกนั้นมีสายลับจากหลายฝ่ายกระจายอยู่ทั่ว แม้จะเป็นยามค่ำคืนที่เงียบสงัด แต่ทุกย่างก้าวก็มีสายตาหลายคู่จับจ้องลู่หยางในคราบพ่อค้าวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าสีทึม มองดูเหมือนคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน เขาก้าวเดินไปพร้อมกับเหวินซางที่เดินอยู่ข้างหลังในมาดของนายหน้าผู้เงียบขรึม กลิ่นสมุนไพรจากย่ามของเหวินซางช่วยให้พวกเขาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเมื่อมาถึงหน้าคลังกำยานเก่า จิ้นเหอที่รออยู่ก่อนแล้วในมุมมืดได้ส่งสัญญาณมือให้ ลู่หยางและเหวินซางพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะเดินผ่านประตูที่ดูเหมือนจะล็อกอยู่ แต่กลับมีช่องว่างที่เปิดไว้สำหรับผู้ที่รู้ทางเข้าภายในคลังกำยานเต็มไปด้วยเงาของผู้คน ทุกคนต่างสวมหน้ากากและเสื้อคลุมปิดบังตัวตนอย่างมิดชิด บรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง ทั้งที่ผู้คนแน่นขนัด แต่กลับไม่มีใครส่งเสียงคุยกันเลย ลู่หยางมองสำรวจไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง เขาเห็นคนในชุดของขันทีและเหล่าขุนนางที่ปลอมตัวมา รวมถึงนักฆ่าและพ่อค้าบางส่วน ทุกคนล้วนแต่มีเจตนาซ่อนเร้นเสียงเคาะโลหะสามครั้งดังก้อง กึง! กึง! กึง! ประตูอีกด้านค่อย ๆ เปิ
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 9
เสียง “แปดร้อยตำลึง!” ของชายหน้ากากหยกยังดังก้องสะท้อนอยู่ในโถงคลังกำยาน ราวกับฟ้าผ่าลงกลางอกผู้คน ทุกสายตาหันไปจับจ้อง แต่ชายคนนั้นกลับนั่งนิ่งเหมือนน้ำแข็ง ไม่แม้แต่จะเหลือบมองรอบด้านลู่หยางขบกรามแน่น ร่างทั้งร่างเหมือนถูกพันธนาการด้วยความกดดัน แต่ในหัวใจกลับโหมไฟลุกโชน แปดร้อยตำลึง...เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากเขาได้แม่ทัพไปจริง เมืองหลวงจะเปลี่ยนสีในชั่วข้ามคืนเสียงประมูลเริ่มเบาลง ผู้คนลังเลจะสู้ต่อ ราคาสูงเกินกว่าที่พ่อค้าทั่วไปจะรับได้ เหลือเพียงชนชั้นสูงและกลุ่มอำนาจที่ยังคงจ้องเขม็งจิ้นเหอเอ่ยเสียงต่ำ “เจ้าจะลงสนามหรือไม่”ลู่หยางหลับตาชั่วครู่ สูดหายใจเข้าลึก เขารู้ดีว่าหากก้าวลงไปในเกมนี้ จะไม่เหลือที่ว่างให้ถอย แต่หากไม่ทำ...อนาคตอาจต้องจมอยู่ในหายนะเขาเปิดเปลือกตาอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายแน่วแน่ ข้าคือผู้ที่จะหยุดยั้งหายนะนี้“เก้าร้อยตำลึง!” เสียงลู่หยางดังขึ้นหนักแน่นทันทีที่คำประกาศสิ้นสุด ทั้งห้องคลังก็แตกตื่น เงาหลายคู่หันขวับมามอง ลมหายใจในห้องชะงักงันราวกับเวลาได้หยุดลงในเสี้ยววินาทีเหวินซางหน้าเปลี่ยนสี รีบเอามือกดแขนเสื้อเขาเบา ๆ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 10
"พวกนั้นคงจะส่งคนตามมาแล้ว" เหวินซางกระซิบเบา ๆ"รู้ดี" ลู่หยางตอบสั้น ๆ"แต่พวกมันจะไม่มีทางหาเราเจอ"จิ้นเหอหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้บานหนึ่ง เขาใช้กริชขนาดเล็กกรีดลงบนบานประตูอย่างรวดเร็ว กรีดเป็นลวดลายบางอย่างที่มองเห็นได้ยาก ประตูนั้นค่อย ๆ เลื่อนเปิดออก เผยให้เห็นทางเดินอีกสายหนึ่งที่ทอดลงไปสู่ใต้ดิน"ไปกันเถอะ" จิ้นเหอเอ่ยชวน "นี่เป็นทางที่ใช้สำหรับหนีภัยฉุกเฉินเท่านั้น"ลู่หยางพยักหน้า ก่อนจะก้าวเข้าไปในทางเดินใต้ดินพร้อมกับเซียวอวี้และเหวินซาง จิ้นเหอเดินปิดท้ายและปิดประตูอย่างรวดเร็ว ทางเดินใต้ดินมืดมิดจนมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากเงาร่างของกันและกัน กลิ่นดินและกลิ่นเหม็นอับคลุ้งไปทั่ว แต่ทุกคนก็ยังคงเดินไปอย่างไม่ลังเล"ขอบคุณเจ้ามาก" เซียวอวี้เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ "แต่ท่านไม่น่าเสี่ยงเลย""เป็นมิตรก็ต้องช่วยกัน" ลู่หยางตอบ "แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดคุย"พวกเขาเดินไปตามทางเดินใต้ดินอย่างเงียบ ๆ อีกหลายนาที ก่อนที่จะมาถึงทางแยก ลู่หยางหยุดยืนแล้วหันมามองเซียวอวี้"เราจะแยกกันตรงนี้" เขาบอก "จากนี้ไป ข้ากับเหวินซางจะพาเจ้าไปส่งที่ปลอดภัย"เซียวอวี้พยักหน้า เขารู้ดีว่าหากไปด้วย
last updateLast Updated : 2025-10-07
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status