LOGINนักดับเพลิงหญิงที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านอาหารแบบ Farm to Table ที่ลงมือทำเองทุกอย่างในโลกยุคปัจจุบัน จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่อ่านไปได้จนเกือบจบเรื่อง เธอกลายมาเป็นตัวละครที่ควรจะตายไปตั้งแต่บทแรก ‘เสิ่นลี่อิง’ คุณหนูที่ตายระหว่างเดินทางไปแต่งงานกับหนิงอ๋อง เจ้าของฉายาเทพสงครามแห่งแคว้นตู้ตัวร้ายของเรื่อง ทีแรกเธอต้องการจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลืนหายไปในเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกลจากเมืองหลวงนี้ แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะเจ้าลูกชายในวัยเกือบสามหนาวของตัวร้ายดันมาสลบอยู่หลังบ้านเธอซะได้ เด็กคนนี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตัวร้ายถลำลึก หากปล่อยไปให้อาจารย์ของพระเอกมาเจอและนำไปเลี้ยงดู แผนอันแยบยลที่บีบให้พ่อลูกต้องฆ่ากันจำต้องเกิดขึ้น เมื่อหนิงอ๋องได้รู้ว่าศัตรูที่ตนสังหารคือบุตรชายเพียงคนเดียว เมื่อนั้นสงครามที่ยาวนานก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จากเทพสงครามที่น่ายำเกรงกลับกลายเป็นทรราชผู้ถูกเกลียดชัง ไม่ได้การล่ะ ถ้าสงครามเกิดขึ้นต่อให้เธอหลบไปอยู่ไกลปืนเที่ยงเพียงไหนก็คงไม่อาจรอดพ้นความเลวร้ายของสงครามได้ แม้จะยังไม่ได้กราบไหว้ฟ้าดินก็ขอทำหน้าที่แม่เลี้ยงเฉพาะกิจปกป้องดูแลเด็กคนนี้จนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร
View Moreบทนำ โลกใบใหม่
“คุณหนูเจ้าคะหนีไปเจ้าค่ะ บ่าวจะถ่วงเวลาให้คุณหนู คุณหนูวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด ไม่ต้องสนใจบ่าว”
“หากข้าทิ้งเจ้าไป ข้าจะถือว่าเป็นเจ้านายอย่างไร วิ่งมากับข้า ตามข้ามาเดี๋ยวนี้”
“ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหนู บ่าวต้องอยู่ถ่วงเวลาให้คุณหนูตรงนี้ คุณหนูเชื่อบ่าวเถอะนะเจ้าคะ”
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าไม่ใช่เจ้านายใจร้าย หนีเอาตัวรอดคนเดียวเสียหน่อย”
“คุณหนูเชื่อบ่าวนะเจ้าคะ หนีไป หนีให้รอด”
เมื่อเห็นว่าทำอย่างไรบ่าวคนสนิทก็ไม่มีท่าทีว่าจะวิ่งตามมา เด็กสาววัยสิบหกปี ก็จำใจหันหลังแล้ววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เธอคือเสิ่นลี่อิง คุณหนูแห่งจวนเสนาบดีฝ่ายซ้าย ลูกสาวของฮูหยินเอก ผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างเดินทางไปยังเมืองศักดินาของหนิงอ๋อง แม่ทัพตะวันตกแห่งแคว้นตู้
หากการเดินทางครั้งนี้เป็นเพียงการเดินทางท่องเที่ยว เสิ่นลี่อิงคงไม่ต้องเจอกับการไล่ล่าเช่นนี้ แต่เมื่อการเดินทางครั้งนี้มีจุดหมายคือการแต่งงานเชื่อมอำนาจระหว่างสองขั้วแข็งแกร่ง หลายฝ่ายจึงยอมไม่ได้
แม้กระทั่งในจวนของนางเอง ตำแหน่งว่าที่พระชายานี้ก็มิใช่ว่าไม่มีผู้ใดปรารถนาอยากครอบครอง หากแต่อยากได้เพียงใดก็ไม่มีใครที่คุณสมบัติ รูปสมบัติและชาติตระกูลเหมาะสมไปกว่านาง
ผู้คนหลายกลุ่มต้องการให้นางตาย พวกเขาเหล่านั้นต้องทำสำเร็จเพียงแค่ครั้งเดียว แต่สำหรับเสิ่นลี่อิง นางต้องหลีกหนีให้สำเร็จในทุกครั้ง หากอยากรอดก็มีแต่ต้องวิ่งหนีต่อไป
แม้บ่าวทั้งหมดจะถ่วงเวลาให้นางแล้ว แต่ด้านหลังก็ยังมีนักฆ่าวิ่งตามมา พวกมันตะโกนกู่ร้อง ว่าก่อนจะสังหารนางพวกมันจะเล่นสนุกกับร่างกายของนางให้เต็มรัก
“อย่าคิดหนีอีกเลย ไม่เหลือบ่าวที่เจ้าสามารถใช้สละแทนแล้ว ยอมพลีกายให้พวกข้าเสียเถิด แล้วข้าจะให้เจ้าตายอย่างไม่ทุกข์ทรมาน”
“หากก่อนตายต้องถูกย่ำยี ข้าขอปลิดชีพตนเองเสียตอนนี้เลยดีกว่า!”
เหลือเพียงทางรอดเดียวให้เสิ่นลี่อิง นางคงต้องกระโดดลงน้ำตกด้านหน้านั้น หากรอดก็ถือว่าสวรรค์เมตตา แต่หากนางไม่รอดก็ถือว่าได้รักษาศักดิ์ศรีของตนเอง จวบจนวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ
‘ตู้ม’
“เฮ้ยมันโดดจริงๆ”
“ข้าเสียดายเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าพวกเราจะได้มีวาสนาได้ลิ้มลองสาวงามเช่นนี้เสียเมื่อไหร่”
“แล้วใครจะเป็นคนปีนลงไปดู ข้าไม่ปีนลงไปหรอกนะ” หนึ่งในนักฆ่าส่ายหน้าตอบ ไม่อยากอาสาปีนป่ายลงไปให้ลำบาก
“คุณหนูเสิ่นตัวเพียงเท่านั้น กระโดดลงไป ข้าว่าอย่างไรก็ไม่รอด ไปกันเถิด”
เสียงหัวเราะได้ใจของชายฉกรรจ์ทั้งสามดังก้องอยู่เหนือน้ำตก งานครั้งนี้ง่ายกว่าที่คิด เพราะในระหว่างทาง ขบวนของคุณหนูเสิ่นผู้นี้ถูกลอบโจมตีติดกันมาถึงสามครั้งสามครา เมื่อต้องเดินทางผ่านป่าเขาเช่นนี้ พวกตนไม่ต้องทำอะไรมากก็สามารถไล่ต้อนเป้าหมายของนายจ้างให้ตายตกไปได้ตามคำสั่ง แม้จะเสียดายความงามของนางอยู่บ้าง หากแต่เม็ดเงินเมื่อกลับไปย่อมทดแทนความหงุดหงิดใจเล็กน้อยในครั้งนี้ได้…
‘ซ่า ซ่า ซ่า’
เสียงน้ำสาดกระเซ็นลอยเข้ามาในโสตประสาท ความหนาวเย็นและเปียกชื้นเฉอะแฉะไปทั้งตัว ซาร่าพยายามลืมตาด้วยความสับสนแต่กลับทำได้ยากเหลือเกิน
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ น้ำท่วมฟาร์มเหรอไม่น่านะนี่มันหน้าแล้งน้ำจะท่วมฟาร์มได้ยังไง?
เสี้ยววินาทีต่อมา น้ำกระเพื่อมสูงพัดเข้าจมูกและปากเธอจนร่างกายตอบสนองอย่างรุนแรงโดยการสำลักออกมา ทำให้เธอสามารถลืมตาและยันตัวเองขึ้นมานั่งพิงโขดหินได้
ซาร่าหันมองไปรอบตัวพบว่าเธออยู่ในลำธารหรือแม่น้ำสักแห่ง ด้านบนเป็นน้ำตก มันค่อนข้างสูงเลยทีเดียวในความรู้สึกของเธอ นั่นทำให้ซาร่ายิ่งสับสนเพราะฟาร์มของเธอและบริเวณใกล้เคียงไม่มีน้ำตกอยู่เลย
คิดเรื่อยเปื่อยมองรอบตัวได้ไม่นานความทรงจำต่างๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาในสมองราวกับโดนน้ำถังใหญ่สาดเข้าใส่หน้า
ที่นี่คือแคว้นตู้ ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ตู้ เจ้าของร่างเดิมเป็นว่าที่พระชายาของหนิงอ๋องแม่ทัพที่ได้รับความเคารพอย่างสูงในแผ่นดินตู้ แต่น่าเสียดายที่ว่าที่พระชายาผู้นี้กลับต้องตายระหว่างการเดินทาง เพื่อขัดขวางความยิ่งใหญ่ของหนิงอ๋อง องค์ชายองค์เล็กของอดีตฮ่องเต้ หลานชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เขาคือชายหนุ่มรูปงามมากความสามารถพร้อมลูกติดจากชายารองผู้ล่วงลับหนึ่งคน เขาคืออ๋องผู้ซึ่งอุทิศชีวิตให้กับการปกป้องแผ่นดินตู้
เอ๊ะ ว่าที่พระชายาหนิงอ๋อง ลูกสาวเสนาบดีฝ่ายซ้าย ตายระหว่างไปแต่งงาน เซินลี่อิน ไม่ใช่สิ เสิ่นลี่อิง นี่มันตัวประกอบในนิยายแปลที่ฉันอ่านบนเว็บนี่นา อ้าว แล้วเขายังอัพไม่จบด้วย แต่นี่มันตัวละครที่ตายตั้งแต่ตอนแรกไม่ใช่เหรอ?!
แปลว่าเวลานี้นางได้มาอยู่ในร่างของเสิ่นลี่อิง ตัวประกอบสุดสวยผู้ถูกบรรยายความงามไว้จนอยากเห็น ยังไม่ทันได้ใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์ก็ดันมาตายเสียก่อน เนื้อเรื่องตอนนี้เป็นตอนแรก ในเนื้อหาช่วงนี้เจ้าของร่างคนเดิมจะถูกกล่าวถึงว่าหลังจากโดนตามล่ามาหลายวันในที่สุดนางก็ต้องตกลงมาจากผาน้ำตกตาย
ตัวละครที่นักเขียนกล่าวถึงแค่ครั้งเดียว จากนั้นก็หายไป แทบจะไม่มีผลใดๆ กับเนื้อเรื่องหลักด้วยซ้ำไป แค่ถูกกล่าวถึงเพราะเป็นว่าที่พระชายาเอกของตัวร้าย และเป็นพี่สาวผู้ล่วงลับของนางเอกในนิยาย ซึ่งในตอนที่เสิ่นลี่อิงเสีย นางเอกของเรื่องยังมีอายุเพียงเจ็ดแปดหนาวเท่านั้น ไม่รู้จะกล่าวถึงตัวละครนี้ไปทำไมกัน
หรือคนเขียนอาจจะลืม ตัวละครเยอะจะลืมก็ไม่แปลกมั้ง..
คิดดูแล้วก็น่าโมโห ซาร่าอุตส่าห์ลาออกจาก LAFD มาทำร้านอาหารแบบฟาร์มทูเทเบิลอย่างที่ใฝ่ฝัน ทำได้แค่สามปีเพิ่งจะเริ่มเข้าที่ก็ดันต้องมาอยู่ในโลกนิยายอะไรก็ไม่รู้ จะให้เผยตัวกลับไปเป็นคุณหนูอย่างเดิมก็ไม่แคล้วคงต้องถูกตามล่า
เธอคิดกับตัวเองว่าทุกอย่างคงต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง เป็นผู้หญิงในโลกใบนี้จะให้ไปเป็นนักดับเพลิงอย่างเดิมก็คงทำไม่ได้ และอาจไม่มีด้วย แต่ถ้าจะทำร้านอาหารฟาร์มทูเทเบิลอย่างเดิมก็คงจะพอไหว เธอตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกันสู้กันสักตั้ง ภพที่แล้วลองผิดลองถูกมาตั้งมาก ความสามารถในการเอาตัวรอดก็พอมี ตัวเธอเองคงจะไม่เป็นไร
เดี๋ยวตัวประกอบคนนี้จะใช้ชีวิตให้มันสนุกสุดเหวี่ยงแทนเจ้าของร่างเดิมเอง และเสิ่นลี่อิงต้องไม่ตาย ต้องอยู่จนจบเรื่อง ฉันไม่ยอมไม่ได้แก่ตายเป็นครั้งที่สองแน่
————
*LAFD Los Angeles Fire Department หน่วยดับเพลิงของลอสแองเจลิส
บทพิเศษ 17 ต้องช่วยเหลือนาง เวลาของความสุขผันผ่านไปรวดเร็วเพียงชั่วกระพริบตา ชินอ๋องและพระชายาอยู่ในวัยใกล้ฝั่งเสียแล้ว บุตรล้วนเติบใหญ่ให้ได้ภาคภูมิใจมีครอบครัว และหลานมากมายให้ชื่นใจ ส่วนตนและฮูหยินคู่ใจก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นึกย้อนถึงวันเวลาเก่าๆ แต่การหวนย้อนคิดเหล่านี้ ทำให้ชินอ๋องนึกถึงภาพฝันที่เคยอยู่เป็นเพื่อนยามค่ำคืนเสมอมา ตู้หนิงหลงในวัยชรากลับมาฝันถึงแม่นางผู้หนึ่งมาติดต่อกันหลายคืนแล้ว ความฝันนี้เป็นฝันเช่นเดียวกับยามเยาว์วัย เขามักจะฝันเห็นนางยิ้มหัวเราะ บางคราก็โกรธเกรี้ยว สลับกับการไปช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตรายร่วมกับแม่นางผู้นั้น เหตุการณ์ในฝันนั้นไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก แต่สุดท้ายก็มักจะจบลงเช่นเดิมคือ เขาและนางไปช่วยดับไฟสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นไปด้านบน แม่นางผู้นั้นจะตกลงในหลุม จากนั้นเขาก็จะตกลงมาเช่นกัน แต่ร่างของชินอ๋องในฝันนั้น จะถูกโลหะแท่งใหญ่ปักทะลุอก กระอักเลือดออกมาคำโต จนแม่นางผู้นั้นกรีดร้องออกมาคล้ายดวงใจแตกสลาย ทว่าครานี้ฝันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ภาพที่ปรากฏยังคล้ายเดิม เพียงแต่ไม่มีร่างที่สมควรจะเป็นตัวของเขาอยู่ในฝันนั้น
บทพิเศษ 16 เผยเรื่องน่าอาย ตู้หนิงหลงผู้เป็นถึงชินอ๋องกำลังรอดักเรียกบุตรชายผู้เป็นรุ่ยอ๋อง เพราะยามกลับมาถึงจวนทีไร ก็มาในสภาพคลุกเคล้าไปด้วยฝุ่นผงทุกวัน ทั้งยังมีข่าวคราวหนาหูเกี่ยวกับว่าที่รุ่ยหวางเฟยให้ได้ยินนั่นอีก แต่เมื่อจะเรียกมาสอบถามกลับหลบหนีหายไปทุกครั้ง จนผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินรองจากฮ่องเต้ต้องมายืนพิงกำแพงจวน รอบุตรชายกลับมาด้วยตนเอง“เปาหลง” ชินอ๋องเอ่ยเรียก ตั้งมั่นว่าครานี้ต้องรู้เรื่องราวให้ได้ อ๋องน้อยผู้นี้บิดพลิ้วหนีคนที่สั่งให้มาตาม ปิดโอกาสสืบความใดไปเสียหมด“ท่านพ่อ! เหตุใดมาอยู่ตรงนี้ ข้าตกใจหมด” เปาเปาที่แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เมื่อยามอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยง ก็กลับไปมีท่าทีเป็นเด็กเล็กๆ ไปทุกครา“ตามพ่อมา” หนิงหลงไม่ลื่นไหลไปกับบทสนทนาที่พยายามจะนอกเรื่องหาทางหลีกหนี เมื่อกล่าวจบก็พยักหน้าให้ทหารหิ้วปีกมุ่งไปที่ห้องหนังสือ“ท่านพ่อ ทำเช่นนี้ไม่ได้ ไม่รักษาภาพพจน์ข้าบ้างหรือ บุตรชายของท่านเป็นถึงรุ่ยอ๋องเชียวนะ” เปาหลงโวยวายเมื่อถูกลากเข้าจวน และยกทั้งร่างมาวางไว้ในเรือนกลางของผู้เป็นพ่อ... เปาหลงที่หันมองหาทางหนีทีไล่ ถอนหายใจอย่า
บทพิเศษ 15 รุกล้ำในชุดแดงวันมงคลของเสิ่นลี่อิงและองค์ชายเก้าเกิดขึ้นในวันที่ถัดมาจากวันที่ครบพันปีหนึ่งวันพอดิบพอดี เมื่อเซียนลี่บอกให้ตู้หนิงหลงผู้นี้รอไปพันปี เขาก็ทำเช่นนั้นตามข้อตกลงแต่องค์ชายผู้นี้ก็ยังคงไม่ยอมรับต่อหน้าคนรักอยู่ดีว่าการตัดสินใจให้เป็นคนรักกันไปพันปีของนางเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว หากขืนยอมรับไปเขาได้รับคำย้ำเตือนไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่แน่ ว่าทำอันใดก็ให้เชื่อนางจึงจะออกมาดีตู้หนิงหลงกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังห้องหอด้วยใจระทึก เขาถูกพี่ชายทั้งหลายล้อเลียนว่าเป็นเด็กแก่แดดแต่งงานตัดหน้าทุกคน และถูกบังคับให้กินเหล้าหลายจอกจนทรงตัวแทบไม่อยู่&nbs
บทพิเศษ 14 เป็นคนรักกันไปพันปีเมื่ออยู่ต่อหน้าเทียนจวินองค์ชายเก้าตู้หนิงหลงทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ เขากล่าวต่อหน้าผู้คนทั้งท้องพระโรงว่าต้องการสมรสพระราชทานให้เสิ่นลี่อิง มาเป็นพระชายาเอกในองค์ชายเก้า แรกเริ่มนางก็คิดหวังว่าอาจมีองค์เทพที่กล่าววาจาคัดค้านว่าเซียนเล็กๆ เช่นนาง แม้จะผลคะแนนแซงหน้าบุตรหลานชาวสวรรค์แต่กำเนิด แต่ที่มาไร้ความสูงส่งเช่นนี้ก็ไม่ใคร่ว่าจะเหมาะสมแต่ทว่าเรื่องนี้ก็ผิดความคาดหมายของเสิ่นลี่อิง เพราะนอกจากจะไม่มีใครคัดค้านแล้ว ยังเห็นดีเห็นงามว่าควรมีเซียนตัวเล็กตัวน้อยแต่งเข้าราชวงศ์ในตำแหน่งใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเผ่าสวรรค์นั้นไม่คิดรังเกียจแบ่งแยกผู้ใดเอ้า! จะมาใช้ข้าเป็นโครงการป






reviews