ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

last updateHuling Na-update : 2025-06-30
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Hindi Sapat ang Ratings
6Mga Kabanata
71views
Basahin
Idagdag sa library

Share:  

Iulat
Buod
katalogo
I-scan ang code para mabasa sa App

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้าย ออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน

view more

Kabanata 1

บทที่ 1 : สวมร่างคืนชีพ

บทที่ 1 : สวมร่างคืนชีพ

          ณ เมืองฝู แคว้นเยี่ยน

          ด้านหลังอารามเต๋าแห่งหนึ่ง นักพรตเฒ่านั่งยอง ๆ ยกฝ่ามือขึ้นลูบปิดเปลือกตาของเด็กน้อยวัยสามขวบ ผู้ซึ่งถูกสัตว์ร้ายคร่าชีวิตไป นางเดินเล่นอยู่หลังอารามเหมือนเช่นทุกวัน งูพิษร้ายผ่านมาฉกเข้าที่ขาจนสิ้นใจตาย

          “อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ”

          นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน

          “ขอรับท่านอาจารย์” จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย

          ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว

          “อ๊ากกก  ! มีผี !” เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์

          “จี้คงมีอะไร”

          “นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์” เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น

          “ว่าอย่างไรนะ” นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น

          “นี่มัน...เป็นไปไม่ได้”

          รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว

          “ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !”

          ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป

          ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา

          ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน

          นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน

          เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย

          “เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !” นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี...

          ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน...

          กองถ่ายหนังรึ ?

          ไม่เห็นมีคนอื่นเลย ตรงนี้มีแค่นักแสดงนักพรตกับลูกศิษย์

          เด็กน้อยขยับลุกขึ้นยืน โอ้ นี่เธออายุเท่าไหร่กันแน่ สูงได้ไม่ถึงเอวของตาเฒ่าคนนี้เลย

          ทันใดนั้นเด็กน้อยรู้สึกปวดศีรษะจนแทบระเบิด พร้อมเรื่องราวมากมายไหลผ่านเข้ามาในความทรงจำ เป็นชีวิตที่ผ่านมาสามปีของเจ้าของร่างเดิม ที่แท้นางก็คือก้อนเนื้อไร้ค่าที่มารดาไม่ต้องการ กระทั่งชื่อยังถูกเรียกขานว่าหยางท่ง ไร้แซ่จากตระกูลบุพการีทั้งสอง

          เป็นเพราะบิดาทำร้ายจิตใจและร่างกายของมารดาจนตั้งครรภ์ จากนั้นบิดาเกิดคลุ้มคลั่งเสียสติ ถูกท่านตาของนางสังหารด้วยมือของเขาเอง เป็นความปรารถนาที่บิดเบี้ยวของบุรุษวิปลาสผู้หนึ่ง เด็กที่เกิดมาจึงไม่มีผู้ใดต้องการ ถึงขั้นส่งไปทิ้งไว้ที่หน้าประตูวัดเต๋าแห่งนี้

          เจ้าอาวาสให้แม่ม่ายขาเป๋คนหนึ่ง เลี้ยงดูนางที่กระท่อมร้างด้านหลังของวัด แต่พอนางอายุได้สามขวบแม่ม่ายขาเป๋ได้พบเจอญาติจากแดนไกล ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเดิมไปกับพวกเขา แน่นอนว่าไม่มีใครอยากนำตัวภาระ อย่างเด็กน้อยหยางท่งไปด้วย นางจึงถูกทอดทิ้งเอาไว้ที่นี่ กระทั่งถูกงูพิษร้ายกัดจนสิ้นใจตาย

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เรื่องราวที่ผ่านดวงตาของเด็กน้อยตั้งแต่เกิดจนถึงตาย กลับชัดแจ้งอยู่ในความทรงจำของหลินลู่ฉีด้วย เป็นเรื่องราวที่แปลกประหลาดเสียจริง ทารกที่ไหนจะมีความทรงจำเช่นนี้ได้ แต่พอนึกว่าตัวเองได้สวมร่างผู้อื่นอยู่ คงไม่มีเรื่องไหนแปลกประหลาดไปกว่านี้แล้ว

          เหตุการณ์ก่อนหน้านี้

          ณ ยมโลก

          ยมทูตหน้าใหม่กำลังร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าหัวหน้าของตน เนื่องจากได้ดึงวิญญาณมาผิดดวง ซ้ำยังเป็นดวงวิญญาณที่เป็นดาวมงคล ก่อให้เกิดการผันผวน ในกระบวนการเวียนว่ายตายเกิดของโลกวิญญาณ

          “หัวหน้าทำเช่นไรดี ๆ ฮือ ๆ”

          “หยุดร้องไห้เสียที ! หากเป็นดวงวิญญาณทั่วไป มีหรือจะจัดการไม่ได้ แต่นี่นางมีปราณมงคลเด่นชัด ดวงวิญญาณเช่นนี้ไม่อาจจมสู่ยมโลกในช่วงเวลานี้ได้ มิเช่นนั้นจะเกิดหายนะใหญ่หลวงขึ้น”

          ผู้เป็นหัวหน้ายมทูตครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          “เช่นนั้นก็ส่งนางไปสวมร่างยังโลกอื่นเถิด ถือว่าไม่ผิดต่อกฎการเวียนว่ายตายเกิด”

          ขอแค่ไม่ตกลงมาอยู่ในยมโลกก็เพียงพอ ไม่ใช่หรือ

          “ส่งไปสวมร่างยังโลกอื่น” ยมทูตผู้ทำผิดถึงกับตกใจกับการชี้นำของหัวหน้า นี่มันเป็นการแหกกฎยมโลกชัด ๆ

          “จะทำหรือไม่ทำ ถ้าไม่ทำเจ้าก็ไปรับโทษกับท่านยมบาลเองเถอะ”

          “ทำขอรับ ๆ จะส่งนางไปเกิดยังโลกอื่นเดี๋ยวนี้แหละขอรับ”

          ด้วยเหตุนี้วิญญาณของหลินลู่ฉีที่ยังไม่ถึงเวลาตาย จึงถูกส่งมาสวมร่างของเด็กน้อยเคราะห์ร้ายหยางท่ง

          หลินลู่ฉีลุกขึ้นมานั่งบนตั่งด้วยความรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ได้ยินเสียงนักพรตเฒ่ากับลูกศิษย์กำลังหารือกันเรื่องของเธอ

          ในโลกปัจจุบันตอนเธอเกิดนั้น บังเอิญได้พบร่างทรงคนหนึ่งในโรงพยาบาล คนผู้นั้นได้บอกแก่มารดาเธอไว้ ว่าเธอเกิดมาพร้อมดวงชะตาสูงส่ง เป็นดวงชะตาของดาวมงคลกลับชาติมาเกิด อยู่ใกล้ใครก็ทำให้คนผู้นั้นร่ำรวยด้วยโชคลาภวาสนา เรียกว่าแทบไม่มีภัยร้ายมากล้ำกรายด้วยซ้ำ

          แต่เหตุใดถึงได้ด่วนตายเร็วนัก ไม่ใช่ว่าดาวมงคลเช่นเธอ ต้องมีอายุยืนยาวนับร้อยปีหรอกหรือ และยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องมาสวมอยู่ในร่างของเด็กน้อยโชคร้ายผู้นี้ด้วย

          หลินลู่ฉีจำเรื่องราวหลังความตายไม่ได้ รู้สึกเพียงว่าตัวเองได้ล่องลอย ตามหลังใครสักคนไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง และติดค้างอยู่ที่นั่นพักใหญ่ ๆ รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในร่างของเด็กน้อยคนนี้เสียแล้ว

          บานประตูห้องถูกเปิดออก นักพรตเฒ่าโยนห่อผ้าเก่า ๆ ให้เด็กน้อย

          “เจ้าจงออกไปจากอารามของข้าเสีย ที่นี่ไม่ต้อนรับดวงวิญญาณชั่วร้าย”

          “ฉัน เอ่อ ข้าไม่ใช่ดวงวิญญาณชั่วร้ายเสียหน่อย”

          นักพรตเฒ่าไม่สนใจนาง ยืนกรานว่านางไม่สมควรอยู่ในอารามเต๋าแห่งนี้อีกต่อไป “ไปเสีย”

          “ท่านไล่เด็กสามขวบออกจากวัด อีกทั้งยังเป็นเด็กที่ถูกงูกัดอีกด้วย ใจจืดใจดำเสียจริง”

          หลินลู่ฉีพยายามไถลตัวลงจากตั่ง แต่เท้านางสั้นเกินไปทำเช่นไรก็ไม่สามารถลงมาได้

          “เด็กสามขวบผู้นั้นดับสลายจากโลกนี้ไปแล้ว เจ้าอย่าได้เอ่ยให้ข้าขำนักเลย”

          นักพรตเฒ่าแม้ไม่ได้มีวิชาเก่งกาจนัก แต่ยังพอมองออกว่า วิญญาณที่สวมร่างหยางท่งนั้นไม่ใช่เด็กอย่างแน่นอน เขาไม่อาจเลี้ยงดูดวงวิญญาณเร่ร่อน ที่มายึดร่างของเด็กน้อยผู้น่าสงสารได้ ยิ่งไม่สามารถกำจัดวิญญาณให้ออกจากร่างได้เหมือนกัน

          ราวกับมีพลังบางอย่างต่อต้านเอาไว้ ทำได้ทางเดียวคือไล่นางออกจากอารามไปเสีย เด็กสามขวบจะมีชีวิตรอดข้างนอกได้อย่างไร หากนางตายอีกสักครั้งก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว

          หลินลู่ฉีใช้ความพยายามอย่างหนัก ไถลลงมาจากตั่งได้ในที่สุด นางจ้องนักพรตเฒ่าด้วยความไม่เข้าใจ “ท่านไล่ข้าจริงรึ”

          “หากเจ้ายังไม่ไปอีก ข้าจะให้จี้คงจับเจ้าโยนออกไปเอง”

          หลินลู่ฉีใช้มือน้อย ๆ คว้าห่อผ้าขึ้นมาเปิดดู ด้านในมีซาลาเปาแป้งข้าวโพดอยู่สองลูก กระบอกน้ำไม้ไผ่ไว้ดื่มอีกหนึ่งอัน ไม่มีเงินหรือเสื้อผ้าไว้เปลี่ยน ช่างยากจนจริง ๆ

          “น่าเสียดายนัก หากท่านเลี้ยงดูข้าต่ออีกสักหน่อย อารามเต๋าแห่งนี้คงมีผู้ศรัทธาเพิ่มขึ้น ไหนเลยจะแร้นแค้นเช่นนี้” นางหิ้วห่อผ้าขึ้นคล้องไหล่ ก่อนเดินออกจากอารามเต๋าไปด้วยท่าทางอุกอาจ

          สายตาของสองศิษย์อาจารย์แลดูซับซ้อนลุ่มลึก จี้คงผู้เป็นศิษย์เอ่ยขึ้นก่อน

          “ท่านอาจารย์ไล่นางไปเช่นนี้จะดีหรือขอรับ” จี้คงเติบโตมาพร้อมกับหยางท่ง เขารู้สึกผิดไม่น้อยที่ต้องมองดูนาง ถูกไล่ออกจากอารามไปเช่นนี้

          “จี้คงเอ๋ยนางไม่ใช่หยางท่ง เจ้าอย่าได้คิดเช่นนั้น”

          เจ้าอาวาสไม่มีทางเลือก หากมีคนล่วงรู้ว่าเขาเลี้ยงดูวิญญาณร้ายที่มาสวมร่างผู้อื่น เกรงว่าชื่อเสียงอันน้อยนิดของตน จะพังพินาศไม่เหลือชิ้นดี สู้ตัดขาดกันไปเลยจะดีกว่า

          แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือคำพูดสุดท้ายของเด็กน้อยที่ว่า หากเลี้ยงดูนางต่อสักหน่อย จะทำให้มีผู้ศรัทธาเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าอย่างไร

          ด้านหน้าประตูทางเข้าวัด ป้ายอารามซานหยวนเก่าผุพัง แกว่งห้อยลงมาด้านหนึ่ง หากมีลมพัดแรง ๆ คงหล่นลงพื้นทันที หลินลู่ฉียืนนิ่งเงยหน้ามองมันอยู่กับที่ นางรู้ว่าเจ้าอาวาสทำเช่นนี้เพราะไม่อยากเกี่ยวข้องกับนาง ที่เป็นดวงวิญญาณมาสวมร่างผู้อื่น

          แต่จากความทรงจำของหยางท่งแล้ว อารามเต๋าแห่งนี้คือบ้านของนาง เป็นไปได้นางอยากตอบแทนบุญคุณสถานที่แห่งนี้ แทนเจ้าของร่างสักครั้ง

          “เอาเถอะหากข้าร่ำรวยเมื่อใด จะกลับมาบริจาคน้ำมันตะเกียงให้มากหน่อยก็แล้วกัน” นางเอ่ยเพียงเท่านี้ก็หันหลังเดินจากไป

Palawakin
Susunod na Kabanata
I-download

Pinakabagong kabanata

Higit pang Kabanata

Mga Comments

Walang Komento
6 Kabanata
บทที่ 1 : สวมร่างคืนชีพ
บทที่ 1 : สวมร่างคืนชีพ ณ เมืองฝู แคว้นเยี่ยน ด้านหลังอารามเต๋าแห่งหนึ่ง นักพรตเฒ่านั่งยอง ๆ ยกฝ่ามือขึ้นลูบปิดเปลือกตาของเด็กน้อยวัยสามขวบ ผู้ซึ่งถูกสัตว์ร้ายคร่าชีวิตไป นางเดินเล่นอยู่หลังอารามเหมือนเช่นทุกวัน งูพิษร้ายผ่านมาฉกเข้าที่ขาจนสิ้นใจตาย “อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ” นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน “ขอรับท่านอาจารย์” จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว “อ๊ากกก ! มีผี !” เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ “จี้คงมีอะไร” “นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์” เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น “ว่าอย่างไรนะ” นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น “นี่มัน...เป็นไปไม่ได้” รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามื
last updateHuling Na-update : 2025-06-29
Magbasa pa
บทที่ 2 : ข้าถูกครอบครัวเอามาทิ้ง
บทที่ 2 : ข้าถูกครอบครัวเอามาทิ้ง หลินลู่ฉีไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับบ้านเมืองยุคนี้ นางยังเด็กนักรู้เพียงว่าที่นี่คือเมืองฝู แคว้นเยี่ยน แต่นางไม่รู้ว่าสภาพความเป็นอยู่ ของผู้คนนั้นเป็นอย่างไร สองขาสั้นกับรองเท้าฟางเก่า ๆ คู่หนึ่ง จะพาเด็กสามขวบเดินไปได้ไกลแค่ไหนเชียว นางพักเหนื่อยอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง หลังเดินลงเขามาได้ราวหนึ่งลี้ เหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ รีบยกกางเกงดูบาดแผลที่ถูกงูกัด นี่นางเดินด้วยเท้าน้อย ๆ ที่มีบวมเป่งขนาดนี้โดยไม่รู้สึกเจ็บได้อย่างไร นี่มันวิญญาณกับร่างกายไม่สัมพันธ์กันเกินไปไหม ได้แต่พิงโคนต้นไม้อย่างท้อแท้ เมืองฝูนั้นต้องเดินลงเขาไปอีกไกลพอสมควร หากเป็นผู้ใหญ่คงไม่ใช่ปัญหา แต่ขาของนางสั้นเกินไป ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้าม้าวิ่งมาแต่ไกล หลินลู่ฉีตื่นตัวในทันที รีบวิ่งออกไปยืนอยู่ข้างทาง เขย่งเท้าชูมือโบกไว้บนศีรษะ เผื่อว่าจะมีคนเห็นตัวเอง ไม่กล้าลงไปยืนอยู่กลางถนน เกรงว่าจะถูกม้าเหยียบตาย “ช่วยด้วย ๆ” “มีเด็ก ๆ หยุดก่อน !” เสียงคนที่อยู่ด้านหน้าตะโกนขึ้น พร้อมดึงเชือกบังเหียนม้าเอาไว้แน่น ม้าที่เขานั่งยกข
last updateHuling Na-update : 2025-06-29
Magbasa pa
บทที่ 3 : ถูกลักพาตัวไปขาย
บทที่ 3 : ถูกลักพาตัวไปขาย หลินลู่ฉีรักษาอาการอยู่ในโรงหมอต่ออีกสองวัน จากนั้นมีคนของทางการมารับตัวนางไป พวกเขาสอบถามถึงที่มาที่ไปของนาง นางจึงบอกพวกเขาว่า ครอบครัวของนางเป็นคนในเมืองหลวง แต่คงพลั้งเผลอลืมนางไว้ระหว่างทาง หากจะส่งนางกลับไปหาครอบครัว ต้องส่งไปยังเมืองหลวง นั่นเพราะนางรู้ว่า ตระกูลบิดามารดาย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงกันหมด น่าแปลกยิ่งนักที่บุตรหลานของพวกเขาได้รับตำแหน่งในเมืองหลวง เลยต้องย้ายไปอยู่ที่นั่นทั้งสองตระกูล แม้ว่าจะห่างกันคนละปีก็เถอะ ช่างเป็นเวรเป็นกรรม ตัดกันไม่ขาดจริง ๆ หลินลู่ฉีรู้เพราะบังเอิญได้ยินนักพรตเฒ่าพูดคุยกับหญิงชราผู้หนึ่ง ซึ่งก็คือท่านย่าในสายเลือดของนางนั่นเอง พวกเขาคงคิดว่า เด็กน้อยอายุขวบสองขวบที่เล่นเขี่ยดินอยู่ข้าง ๆ คงไม่รู้เรื่องราวอันใด แต่เพราะหลินลู่ฉีที่มาสวมร่างของหยางท่ง กลับสามารถซึมซับทุกเหตุการณ์ ที่หูและตารวมถึงความรู้สึกของเจ้าของร่าง สัมผัสผ่านมาได้อย่างชัดเจน สิ่งที่นางรับรู้เพิ่มก็คือ ท่านย่าผู้นี้เป็นคนมอบเงินให้นักพรตเฒ่าในการเลี้ยงดูนาง เดิมทีนางคิดว่าพวกเขา จะส่งนางไปอยู่สถาน
last updateHuling Na-update : 2025-06-29
Magbasa pa
บทที่ 4 : แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ
บทที่ 4 : แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ “ไม่ได้นะเจ้าคะท่านแม่ นางยังมีลมหายใจอยู่เลย ข้าไม่อาจทิ้งนางได้ ท่านแม่มองดูสิเจ้าคะ แถวนี้มีคนดี ๆ ที่ไหนกันหากปล่อยนางเอาไว้เช่นนี้ คงถูกสัตว์ร้ายทำอันตรายเอาได้” สัตว์ร้ายไม่เท่าไรหรอก เกรงแต่มนุษย์ด้วยกันนี่แหละที่จะทำร้ายกันเอง นางเคยได้ยินเรื่องผู้ลี้ภัยหิวโหย ถึงขึ้นกินเนื้อเด็กทารกแรกเกิดด้วยซ้ำ “นังคนอกตัญญู ลูกตัวเองจะอดข้าวตายอยู่แล้วยังไม่สำนึก เกิดอยากเป็นคนใจดี เหตุใดข้าถึงได้แต่งสะใภ้เบาปัญญาเช่นนี้เข้าบ้าน สวรรค์หนอสวรรค์ เหตุใดถึงได้โหดร้ายกับข้านัก” นางเจียงร่ำร้องคล้ายคนถูกกระทำอย่างโหดร้าย หากไม่ติดว่ากำลังลี้ภัยอยู่ นางคงลงไปนั่งตบตีต้นขาอยู่บนพื้นแล้ว ฉินซื่อเริ่มทำตัวไม่ถูก “ท่านแม่ข้าไม่ได้..” นางเจียงชี้นิ้วใส่นาง “เจ้าหุบปาก หากเจ้ายังไม่ทิ้งเด็กนั่นไปอีก อย่ามาเรียกข้าว่าแม่ !” ฉินซื่ออุ้มเด็กเดินไปหลบอยู่ข้างหลังของสามี ด้านข้างมีบุตรชายกับบุตรสาวยืนอยู่ พวกเขาเหมือนกำลังตกใจกับคำด่าทอของผู้เป็นย่า แต่กระนั้นฉินซื่อก็ส่งสายตาให้สามี ว่านาง
last updateHuling Na-update : 2025-06-29
Magbasa pa
บทที่ 5 : พี่ชายเจ็บหรือไม่
บทที่ 5 : พี่ชายเจ็บหรือไม่ กระนั้นวาจาถากถางจากนางเจียง ก็ยังลอยมาตามสายลม คำว่าตัวอัปมงคล ตัวกินล้างกินผลาญ ด่าลามไปถึงครอบครัวของหวงชางทุกคน ด่าจนหลินลู่ฉีรู้ประวัติความเป็นมาของพวกเขาไม่มากก็น้อย นางเจียงกับหวงจงนั้นแม้จะเป็นปู่ย่าคนแล้ว แต่อายุเพียงแค่สี่สิบปลาย ๆ เท่านั้น บุตรชายทั้งสามคนอายุยังไม่ถึงสามสิบสักคน บุตรสาวเพียงคนเดียวนั้นน่าจะเพิ่งผ่านวัยปักปิ่นมา หลินลู่ฉีรู้ว่าคนอื่นไม่ยินดี ที่หวงชางกับฉินซื่อให้นางร่วมเดินทางไปด้วย ระหว่างทางจึงได้ยินวาจาเย้ยหยันอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นกระทั่งหลาน ๆ ของพวกเขาเอง ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องวิ่งมากลั่นแกล้งนางอยู่เรื่อย ดีที่หวงจื่อถงอยู่ข้างกาย เขาคอยตะโกนบอกบิดามารดาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดปากเสียงกันอยู่ร่ำไป กระทั่งลงไม้ลงมือกันก็มี “นังตัวซวยพวกเจ้าเห็นหรือยัง พอมีนางเข้ามาหลาน ๆ ของข้าก็ตีกันเสียแล้ว” นางเจียงลูบหลังปลอบหลานชายสุดที่รักของตน หวงชุนฟงคือบุตรชายคนโต ที่เกิดจากหวงจื้อกับจ้าวซื่อ “ท่านแม่ฟงเอ๋อร์อายุเท่าไรแล้ว ยังมารังแกฉีฉีของพวกเรา นางก็แค่เด็กสองสามขวบเองนะเจ้า
last updateHuling Na-update : 2025-06-29
Magbasa pa
บทที่ 6 : ฉีฉีมองเห็นบ้างไหม
 บทที่ 6 : ฉีฉีมองเห็นบ้างไหม           เมื่อรู้ว่ามีภัยอันตรายเข้ามาใกล้ พวกเขารีบเก็บของ พากันคลำทางในความมืดไปจากตรงนี้ เพราะเป็นคืนเดือนมืดทุกคนจึงต้องจับมือเดินตามหลังกันไป           “ข้ามองไม่เห็นทางแล้วท่านพ่อท่านแม่ หากก้าวพลาดอาจได้รับบาดเจ็บได้” หวงจื้อเป็นคนนำทางเขาเกิดกลัวขึ้นมา           “เจ้าใหญ่เงียบ ๆ หน่อย ข้าได้ยินเสียงคนตามหลังพวกเรามาแล้ว พวกมันจุดคบเพลิงด้วย รีบไป ๆ” หวงจงเร่งบุตรชาย หลังจากเห็นแสงไฟอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก           ทว่าหวงจื้อกลับไม่กล้าเดินต่อ พวกเขาไม่มีคบเพลิงและข้างหน้าก็ล้วนแต่เป็นป่าเขา           “ท่านพ่อสามีข้ามองไม่เห็นทาง ให้คนอื่นมานำทางเถอะ” จ้าวซื่อรีบดึงแขนสามีมาหลบอยู่ด้านหลังนางเจียง&nbs
last updateHuling Na-update : 2025-06-30
Magbasa pa
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status