Share

๒๕

last update Last Updated: 2025-05-04 20:29:37

‘ตาแก่ขี้จุ้นจ้าน ไล่ข้าให้มาอยู่แดนมนุษย์ตั้งนานไม่เคยมาเหลียวแลกันเลยสักนิด พอข้าอยากมีความรักดี ๆ กับเขาบ้างมายุ่งจุ้นจ้านอะไรด้วย!’

‘ก็เจ้ามันลีลาท่าเยอะ จอมปีศาจผู้นี้เห็นแล้วหงุดหงิดตาจึงช่วยให้ ไม่ได้หรืออย่างไร’

‘ก็ไม่ได้นะสิ เรื่องของข้าข้าจัดการเองได้

‘เหอะ! ขืนปล่อยให้เจ้าจัดการเองก็คงได้เผลอฆ่ามนุษย์ไปมากกว่านี้อีกแน่ รู้ทั้งรู้ว่าการทำลายมนุษย์เท่ากับเลือกเป็นศัตรูกับเแดนสวรรค์ หากเจ้ารักนางจริงเพียงทนรอเท่านั้น แม้มันจะมีอุปสรรคไปบ้าง แต่ระหว่างเทพเซียนกับปีศาจย่อมเป็นไปได้มากกว่าปีศาจกับมนุษย์’

‘ท่านหมายถึงให้ข้ารอนางหมดอายุขัยของการเป็นมนุษย์ก่อนเช่นนั้นหรือ? แล้วข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเมื่อนางกลับไปเป็นเทพเช่นเดิมแล้วจะยังรักข้า’

‘น่าขัน! ทำอย่างกับว่าตอนนี้นางบอกรักเจ้าแล้ว’

‘น่าขันตรงไหน ทำอย่างกับตัวเองรู้จักความรักดี’

ชิงหมินนึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับจอมปีศาจเมื่อหลายชั่วยามก่อนหน้านี้

“ข้ารู้ว่าท่านรักข้าจะตาย ใช่หรือไม่”

น้ำเสียงอ่อนหวานถูกใช้ถามร่างบางที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในห้วงนิทรา คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขาลอบเข้ามานั่งมองนางนอนหลับ การได้มองนางนอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๖

    ‘ต้องตายจากการเป็นมนุษย์เพื่อกลับสู่การเป็นเทพ’นี่คือสิ่งที่หมินมิ่นบอกกับข้าเมื่อคืน ข้าจะต้องผ่านการใช้ชีวิตผ่านด่านเคราะห์ต่าง ๆ ไปให้ได้ก่อนเพื่อที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเขาในฐานะปีศาจกับเทพเซียนได้ โชคดีมากที่ทั้งสองเผ่าสงบศึกกันแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนที่ยังทำสงคราม ปะกันทีเป็นอันต้องหันดาบใส่กันทุกครั้งแต่หากข้าปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามที่ลิขิตไว้ เช่นนั้นข้าจะต้องถวายตัวเป็นเช่อเฟยของไท่จื่อหรือ ข้าก็ต้องมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รักเช่นนั้นสิ“เหม่ออะไรอยู่หรือเถาเอ๋อร์ แม่เห็นเจ้าเอาแต่เขี่ยข้าวเล่น ไม่คีบทานเสียที”หลิวหงเถาหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดแล้วหันไปมองหน้ามารดาที่คีบอาหารมาวางในชามให้นางเพิ่มเป็นการ ‘บังคับทาน’ อยู่กลาย ๆ “น้องเล็กดูแปลกไปขอรับท่านแม่ เมื่อวานเจอกันอยู่หน้าโรงเตี๊ยมก็เพิกเฉยใส่ ทำราวกับว่าไม่รู้จักกันเสียอย่างนั้น”หลิวหงเถาร้อง ‘เหอะ’ ออกมาเบา ๆ จากนั้นก็ตอกหน้าเขาออกไปอย่างเจ็บแสบ “ใครเขาอยากจะคุยกับอันธพาลเล่า อยู่ดี ๆ ก็ไปชกต่อยผู้อื่น ไม่โดนจับขังคุกไปก็ดีเท่าไรแล้ว”“ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็ไปชกต่อยผู้อื่นเสียหน่อย พี่ย่อมมีเหตุผล”คนเป็นพี่ที่คิดว่

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๗

    หลิวหงเถาและจูจิ่วลี่ขอตัวกลับทันทีหลังจากที่มื้อเที่ยงได้ร่วมโต๊ะเสวยกับไท่จื่อเฟย ด้วยเพราะจูจิ่วลี่ยังไม่อยากกลับจวนในตอนนี้ นางจึงได้ชวนหลิวหงเถาไปหาอะไรทำสนุก ๆ ต่อ“เจ้าเคยเข้าหอศิลป์หรือไม่ โครงการที่ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงริเริ่มทำได้ไม่นานมานี้ ข้าได้ยินมาว่าที่นั่นกำลังอยากได้งานฝีมือมาประดับหอศิลป์ไว้ ในอนาคตเอาไว้สำหรับใครที่ต้องการทำการกุศลก็ให้เอางานศิลปะแขนงต่าง ๆ ส่งไปที่นั่นได้ หากภาพใดที่ขายออก รายได้จะถูกบริจาคให้เด็กยากไร้ในชนบท”หลิวหงเถาไม่ได้ติดตามข่าวสารในช่วงนี้เลย นางจึงส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ในขณะเดียวกันนางก็ตั้งคำถามขึ้นมาด้วยว่า ‘งบราชการแผ่นดินไม่เพียงพอสำหรับเด็กยากไร้เลยหรือ’ แม้จะเห็นด้วยกับการกุศล แต่ใจมันก็ยังตั้งคำถามขึ้นมาอยู่ดี“ทำไม เจ้าอยากจะส่งผลงานอะไรทำการกุศลล่ะ ภาพจากฝีมือเจ้าจะขายได้หรือ”จูจิ่วลี่นิ่วหน้า “หยาบคาย กล่าวเช่นนี้ต่างอะไรกับการที่เอามือตบหน้าข้า…แต่ก็เอาเถอะ ตกลงจะไปด้วยกันหรือไม่”หลิวหงเถาส่ายหน้า ตอนนี้นางยังหาทางออกสำหรับชีวิตตัวเองไม่ได้เลย ไม่พร้อมจะไปช่วยเหลือใครหรอก“ข้าไม่ได้มีเวลาถึงเพียงนั้น เจ้าไม่มีสหายคนอื่นแล้วหรืออย

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๘

    หากอยากบรรจงสรรค์สร้างภาพวาดที่สื่อถึงความเป็นตัวเองขึ้นมา แน่นอนว่าหลิวหงเถาคงวาดป่าท้อ สระบัว สวนบุปผาในทางสายหวานให้เข้ากับใบหน้า แต่หากนางวาดเช่นนั้นก็คงดูจะไม่แตกต่างจนมาแทนที่ทุ่งบุปผางามในแดนสรวงสวรรค์แบบภาพเดิมได้คงต้องฉีกแนวอีกแล้วในระหว่างที่คิดว่าจะวาดภาพอะไรขึ้นมาดีนั้น หลิวหงเถาก็ได้ยินคำพูดที่ว่า ‘วาดข้าสิ มังกรดำ’ ดังขึ้นมาในหัวอยู่หลายครั้งนางมองซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นใครที่เป็นบุรุษอยู่ในที่แห่งนี้เลย ในห้องโถงที่ตั้งสำหรับการวาดภาพศิลปะนอกจากนางและจูจิ่วลี่แล้ว ก็มีสตรีอื่นอีกแค่ไม่กี่คนเท่านั้น“มองอะไรหรือ” จูจิ่วลี่ทักขึ้นเมื่อเห็นหลิวหงเถามองซ้ายมองขวา สีหน้าดูตื่นตะลึงยิ่ง“เจ้าไม่ได้ยินเสียงอันใดหรือ ข้าได้ยินเสียงบุรุษอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้”คนที่ตอนแรกตั้งใจอยากวาดพัดแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจมาวาดร่มด้วยอีกคนส่ายหน้า แววตาฉายความตื่นตะลึงไม่น้อย เรื่องลี้ลับผีสางอะไรพวกนี้คือสิ่งที่นางกลัวจับใจ“อย่ามาล้อกันเล่นนะ ข้าว่าหูเจ้าเพี้ยนแล้ว!”“ไม่น่าใช่นะ” หลิวหงเถามั่นใจว่าตัวเองหูไม่ได้แว่วแน่ สองมือยกขึ้นจับใบหูทั้งสองข้าง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่งไม่น่าคิดไปเองว่าได้ยิน

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๙

    “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความอิจฉาของข้าก็มีประโยชน์เหมือนกัน” คำพูดนี้เกิดขึ้นมาหลังจากที่ภาพวาดบนร่มของหลิวหงเถาถูกวางแทนที่ร่มลายบุปผาสวรรค์ ผู้มีพรสวรรค์เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามก็สามารถรังสรรค์ภาพงดงามแปลกตากว่าที่ใครทำได้ ร่มทั้งหมดที่ถูกเขียนมีแต่สีสันสวยงาม พอเจอมังกรดำตัดกับสีขาวของหลิวหงเถาไป ไม่แปลกหากจะตรึงสายตาของคนมองได้หลิวหงเถาได้รับเสียงคำชมจากทุกคนถล่มทลาย แต่เจ้าของผลงานแค่ยิ้มรับแสดงคำขอบคุณสำหรับคำชมเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้นางตื่นเต้นจนร้อง ‘งื้อ’ ออกมาจากลำคอได้คือร่มสีชมพูมีพู่ห้อยระย้าของจูจิ่วลี่ต่างหาก“น่ารักมาก ข้าอยากได้อันนี้กลับจวน”เดิมทีจูจิ่วลี่รู้สึกหม่นหมองเป็นอย่างมาก ทุกคนพากันให้ความสนใจญาติตระกูลสายรองของนางกันไปเสียหมดจนละเลยคุณหนูตระกูลจินเช่นนาง โดยเฉพาะไท่จื่อที่สายตาจดจ้องเพียงแค่หลิวหงเถาเท่านั้นยังไม่ทันได้ถวายตัวเลย นี่ข้าจะแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลยหรือ“ก็แค่ร่มดาดดื่นทั่วไปเท่านั้น ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหน”คนเรามักมองไม่เห็นค่าในสิ่งที่ตัวเองทำและมักจะรู้สึกตายด้านกับสิ่งที่ได้รับอยู่เสมอ ต่อมความอิจฉาของหลิวหงเถาก็เช่นกัน นางดีใ

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๐

    ชิงหมินตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนช่วงเช้าของสามวันให้หลังจากที่เขาเกิดอาการกระอักเลือดออกมา ห้องนอนของเขาคับแคบไม่ได้มีเครื่องเรือนอื่นอีกนอกจากหมอน ผ้าห่มและที่นอนวางพื้น ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนเป็นสิ่งที่หลิวหงเถามอบให้ทั้งสิ้น“หมินมิ่น”เสียงหวานแสดงความดีใจออกมาอย่างเปี่ยมล้น นางรีบถามอาการของเขาเช่น ยังเจ็บอยู่หรือไม่ อยากให้ตามหมอไหม แล้วอะไรอีกมากมายจนร่างสูงที่กำลังจะลุกขึ้นมานั่งตามการช่วยเหลือของหลิวหงเถากับลู่หลินแสดงอาการสับสนออกมาในทันที หว่างคิ้วขมวดเข้าหากันมุ่น เอ่ยถามขึ้นมาด้วยท่าทางสงสัย “ท่านเป็นใครหรือ”รอยยิ้มกว้างค่อย ๆ แคบลงเรื่อย ๆ เมื่ออาการสับสนของเขามันดูจริง ไร้การเสแสร้ง “ลู่ ลู่หลิน” ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกยามที่เอ่ยเรียกสาวใช้ “ไปตามหมอเดี๋ยวนี้!”“เจ้าค่ะคุณหนู”หลิวหงเถาจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาอยู่ตลอด ทำให้เห็นว่าคิ้วหนาเลิกขึ้นทันทีเมื่อได้ยินลู่หลินเรียกนางว่า ‘คุณหนู’ อีกทั้งยังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ สีหน้าดูย่ำแย่มากกว่าเดิมจนหลิวหงเถารู้สึกใจไม่ดี น้ำตาเริ่มคลอหน่วย ปริ่มจะหยดลงบนใบหน้าเนียนอยู่รอมร่อ“หมินมิ่น เจ้าเป็นอะไรไป นี่พี่เถาเถ่าอย่างไรเล่า เจ้าลืม

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๑

    คณะขุนนางแวะไปไหว้พระก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน รถม้าจอดอยู่บริเวณนอกวัด ทุกคนจะต้องเดินเท้าเข้าไปในวัดเอง เมื่อเดินเข้าไปด้านใน สิ่งแรกที่สะดุดตาหลิวหงเถาเลยก็คือองค์พระขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บนภูเขาสูง ลานกว้างของวัดสามารถใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาได้หลากหลาย มีลานอธิษฐานที่สร้างเลียนแบบดอกบัวแยกเป็นชั้น โดยตรงจุดนี้จะเป็นจุดเชื่อมไปหาบันไดที่ใช้เดินขึ้นไปยังองค์พระใหญ่ ดูจากระดับความสูงของภูเขาแล้วมีขั้นบันไดกว่าสองร้อยขั้น ทำเอาหลิวหงเถาต้องใช้เวลาทำใจอยู่พักหนึ่ง“ท่านพ่อเจ้าคะ เราจำเป็นต้องเดินขึ้นบันไดนี้เพื่อไปไหว้พระให้ได้เลยหรือเจ้าคะ”“ใช่ ไม่กี่ขั้นเองลูก” เสนาบดีหลิวตอบออกมาอย่างที่ไม่เห็นว่าเป็นปัญหาใด เพราะตัวเขาเองแม้จะอายุมากจนเห็นริ้วรอยปรากฏขึ้นบนใบหน้าแล้ว แต่ร่างกายก็ยังคงแข็งแรงบึกบึนอยู่ไม่น้อย“น้องหญิงเล็กอย่าท้อสิ กลั้นใจไว้จะได้ไปขอพรพระให้สมหวังดั่งใจปรารถนาอย่างไรเล่า”หากขอพรแล้วได้สมปรารถนา คนเราก็ไม่ต้องทำมาหากินอันใดแล้วกระมังหลิวหงเถาคิดต่อต้านอยู่ในใจ แต่เพราะตอนนี้คนอยู่ที่ลานวัดเยอะ อีกทั้งก็เป็นคนในแวดวงขุนนางทั้งนั้น นางจึงอยากรักษาหน้าบิดา ไม่ได้

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๒

    “คำทำนายที่ว่า ‘ผู้ที่ได้รับความรักอย่างเปี่ยมล้น’ ช่างตรงกับความเป็นน้องหญิงเล็กที่สุดเลย”หลิวหลี่เฟยกล่าวขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี ไม่ใช่เพราะคำทำนายของหลิวหงเถาออกมาดีเท่านั้น แต่เพราะคำทำนายของเขาก็ออกมาดีด้วยเช่นกันข้าจะได้เป็นขุนนางใหญ่แบบนี้ค่อยสมกับที่จ่ายค่าดูดวงไปหน่อย ถ้าคำทำนายออกมาดีเท่ากับ ‘ไม่แพง’“อย่าหาว่าข้าหลบหลู่เลยนะทุกคน แต่ว่าพวกเราก็ดูเป็นคุณหนูคุณชายอยู่แล้วหรือไม่ ใครก็มองออกว่าเป็นลูกของขุนนางหรือเปล่า…เจ้าดูออกไหมลู่หลิน”คำถามของหลิวหงเถามาพร้อมสายตาจดจ้องของดวงตาอีกสองคู่นั่นก็คือหลิวหลี่เฟยและจูจิ่วลี่ ทำให้นางคิดหนักว่าจะตอบคำถามฝั่งไหนดี หากตอบว่า ‘ดูรวย’ ก็จะเท่ากับว่าหลวงจีนดูดวงแบบ ‘หมอเดา’ แต่หากตอบออกไปว่า ‘ดูไม่มีสง่าราศรี’ นางก็จะโดนเละยิ่งกว่าเดิมอีก“เอ่อ คุณหนูคุณชายทั้งหลายย่อมดูดีอยู่แล้วเจ้าค่ะ ส่วนที่หลวงจีนทำนายไว้ ข้าก็ว่าท่านพูดถูกนะเจ้าคะ แต่ใด ๆ แล้ว ผลออกมาดีข้าน้อยก็ดีใจเจ้าค่ะ”หลิวหงเถาร้อง ‘เหอะ’ ใส่สาวใช้ที่ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้…เอาตัวรอดเก่งจริง ๆ เลย คงมีแต่ข้าเท่านั้นที่อยากให้คำทำนาย ‘ผิด’ สินะหลิวหงเถาคิดเช่นนั้นในใจก่อนที่จะ

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๓

    ไท่จื่อเสด็จมาเร็วกว่าที่คิด ในเรือนรับรองแห่งนี้ ถ้าไม่นับจูจิ่วลี่ หลิวหงเถาก็คือคนที่มาถึงเป็นคนสุดท้าย นางถวายความเคารพไท่จื่อแล้วขอประทานอภัยในความล่าช้าของตนเอง“ไม่ถือโทษคุณหนูหลิว เป็นเปิ่นไท่จื่อมาเร็วกว่าเวลาเอง”ตรัสเสียงทุ้มอ่อนโยนพร้อมส่งรอยยิ้มมุมปากมาให้ว่าที่เช่อเฟย ทั้งคำพูด การกระทำ หรือไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัยเฉพาะตัวของไท่จื่อล้วนผิดแผกไปหมดในความรู้สึกของขุนนางที่ประชุมในท้องพระโรงด้วยกันทุกวัน“เป็นพระมหากรุณาเพคะ”หลิวหงเถาก้มหน้าลงต่ำพร้อมย่อกายลงอย่างนอบน้อมก่อนที่จะเดินถอยมาหลบอยู่ข้างหลังบิดา ปล่อยให้ขุนนางทั้งหลายได้เสวนาหารือเรื่องเทศกาลการแข่งม้ากันต่อไปในจังหวะที่ไท่จื่อกำลังฟังคำรายงานการดำเนินงานกับเจ้ากรมพิธีการอยู่นั้น หลิวหย่งก็เอียงหน้าเล็กน้อยมาหาบุตรสาวพร้อมถาม“คุณหนูจูล่ะ”บิดากล่าวเสียงกระซิบมา นางจึงกระซิบตอบกลับไป“ยังแต่งกายไม่เสร็จเจ้าค่ะท่านพ่อ ให้เถาเอ๋อร์ไปตามหรือไม่เจ้าคะ”“ก็ดี ลอบออกไปอย่างเนียน ๆละ ประเดี๋ยวพ่อจะทูลเตี้ยนเซี่ยให้”หลิวหงเถาพยักหน้าเข้าใจ แล้วลอบออกทางอีกฝั่งของห้องโถง นางคิดว่าตัวเองเดินออกไปอย่างแนบเนียนมากพอแล้ว แต่ม

    Last Updated : 2025-05-04

Latest chapter

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 3 (จบบริบูรณ์)

    ตอนพิเศษที่ : 3เริ่มต้นชีวิตคู่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยณ ห้องหอของบ่าวสาวคู่ใหม่ในวังปีศาจ สองบ่าวสาวคล้องแขนกันดื่มสุรามงคลที่เถาฮวาเฉินเป็นผู้ทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้ย่อมต่างจากสุราทั่วไปที่นางให้ผู้อื่น“รู้หรือไม่ว่าสุราที่เราให้ฉางฉ่างดื่มจะทำให้ฉางฉ่างไม่สามารถไปดื่มสุราที่ใดได้อีก”“ข้ารู้”เถาฮวาเฉินเลิกคิ้วขึ้นสงสัย “เหตุใดถึงไม่แปลกใจหรือไม่สงสัยอันใดเลย ไม่คิดบ้างหรือว่าเราอาจจะวางยาอะไรใส่ให้ฉางฉ่างดื่มกินก็ได้”หยิ่นฉางยกยิ้ม ทั้งยังเทสุราใส่จอกแล้วยกดื่มให้นางดูอีกสามครั้ง เป็นการบอกว่าเขาไม่ได้สงสัยในสิ่งนี้ ช่างขยันในการพิสูจน์ด้านการกระทำสำคัญกว่าคำพูดจริง ๆ“ท่านรู้สึกแย่หรือไม่ ที่ข้าไม่ได้บอกท่านก่อนเรื่องที่ให้ท่านพ่อเตรียมงานแต่งงานของเราไว้”ท่าทางของเถาฮวาเฉินไม่แสดงออกว่าโกรธหรือไม่ แต่เขาก็ยังอยากรู้ความรู้สึกลึก ๆ ของนาง“อือ” นางทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่คนที่เฝ้ารอคำตอบกลับแอบกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว “อาจจะตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ ฉางฉ่างก็อย่าคิดมาก เราเป็นคนตรง ๆ อยู่แล้ว คิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรไม่เก็บมาคิดคนเดียวหรอก”“จริงหรือ”“จริงสิ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ : 2องค์ชายเล็กของแดนปีศาจ“ว้าว~นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เราได้มาเยือนพระราชวังของแดนปีศาจ ใหญ่โตดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะฉางฉ่าง”หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแนบชิดกันมาสามวัน คำเรียกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว จาก ‘หยิ่นฉาง’ ก็เป็น ‘ฉางฉ่าง’ และจากเถาฮวาก็เป็น ‘เถาเถ่า’“ต่อไปที่นี่ก็คือบ้านของเถาเถ่า ท่านพ่อต้องชอบท่านแน่ ไม่ต้องกังวลนะ เขาจะดีต่อท่าน”เถาฮวาเฉินพยักหน้ารับพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ในใจคิดเหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเพิ่งผ่านช่วงแต่งงานแล้วก็กลับมาเยี่ยมบ้านเจ้าสาวกันนะ ว่าแต่…“จอมปีศาจจะชอบสุราของเราหรือไม่ สุราหมื่นปีแบบนี้แม้จะเป็นของหายาก แต่ไม่ได้มีใครที่จะได้ดื่มกินบ่อย ๆ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่คุ้นลิ้น อย่างช่วงงานฉลองราชย์ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เราเคยเอาสุราหมื่นปีถวายเช่นกัน แต่พระองค์มิใคร่พอใจนัก ช่างเอาใจยากจริง ๆ”หยิ่นฉางหัวเราะในลำคอเบา ๆ หากบิดาของเขาได้ยินคำบ่นนี้ของนางไม่วายหัวเราะชอบใจที่นางเอ่ยนินทาประมุขของเผ่าสรรค์เช่นนี้“ทุกคนรอเราอยู่ที่ท้องพระโรงใหญ่”“หือ ท้องพระโรงหรือ”เถาฮวาเฉินรู้สึกเอะใจกับคำพูดนี้ของเขามาก จนกระทั่งเขาพานางเดินมาถึงจ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่: 1กิจกรรมที่คนคบกันเขาทำกัน ณ พระราชวังแคว้นชิงชิว “ท่านว่าเรามองนางอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”“ไม่รู้สิ หนึ่งชั่วยามได้แล้วหรือไม่ ถ้าท่านรู้สึกว่าเสียเวลาก็ไปทำงานที่คั่งค้างไว้ก่อนได้เลย ข้าขอดูนางต่ออีกหน่อย”หยิ่นฉางส่ายหน้าเบาๆ “ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน เช่นนี้ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก แล้วอีกอย่างข้าก็ว่างมากด้วย”ตอนนี้เถาฮวาเฉินและหยิ่นฉางได้ลงมาโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมที่คู่รักเขาทำกัน นั่นคือการทำอะไรก็ได้ให้ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่เถาฮวาเฉินเสนอมาก็คือการนั่งมององค์หญิงสาม บุตรสาวของหลิวหงเถาที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่เถาฮวาเฉินละสายตาจากองค์หญิงสามเพื่อหันกลับมาจ้องมองหยิ่นฉาง “ใช้คำพูดรุกเราให้ใจเต้นรัวอีกแล้วนะ” จากนั้นก็จูงมือเขาออกจากศาลาที่องค์หญิงสามนั่งอยู่ ทั้งคู่พรางกายเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีมนุษย์ผู้ใดสามารถมองเห็นได้“ช่วงข้าวใหม่ปลามันจะให้แผ่วได้อย่างไร”ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น แขนยาวยังเอื้อมไปโอบไหล่นางพร้อมซบหน้าลงหัวไหล่ด้วย เถาฮวาเฉินไม่ได้ขัดขืนทั้งยังยกมือขึ้นลูบศีรษะเขาตอบ ทั้งคู่จับมือกันเดินผ่านสวนงดงามของวังหลวงและพูด

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๓

    เถาฮวาเฉินพูด :“อื้อ~สบายจัง”ข้าบิดขี้เกียจพร้อมกล่าวเสียงอู้อี้ออกมาขณะที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ ข้ารู้สึกที่นอนนั้นช่างหนานุ่ม สามารถดูดวิญญาณของข้าให้อยู่บนนี้ได้ทั้งวัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ…“ข้ามีเตียงแบบนี้ด้วยหรือ”“...จากที่ข้าลอบเข้าไปดูที่แดนดอกท้อ ไม่มีนะท่าน”เฮือก!เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขาเท่านั้นข้าก็เด้งตัวขึ้นมานั่ง จากที่ไม่อยากลืมตาสู้แสง ดวงตากลับแจ่มชัดไร้ความพร่ามัว“นี่ท่าน…”กำลังจะตั้งคำถามว่า ‘นี่ท่านมาอยู่ห้องของเราได้อย่างไร’ แต่สุดท้ายก็เงียบไป เพราะคิดได้ว่าตนเองต่างหากที่มาอยู่ในดินแดนของผู้อื่น“ว่าต่อสิ หรือกำลังคิดอยู่ว่าข้าได้ทำอะไรท่านหรือไม่”หยิ่นฉางถามขึ้นยิ้ม ๆ ทั้งยังถอยห่างออกจากข้าดั่งกับว่าเขาอยากให้ข้ารู้สึกปลอดภัย ไม่โดนคุกคามอยู่ นั่นจึงทำให้ข้ารู้สึกดีต่อการกระทำนี้ของเขามาก“เราเปล่าคิดเช่นนั้นสักหน่อย ว่าแต่ท่าน…”ข้าไล่สำรวจเขาทั้งร่าง ตอนแรกก็แค่รู้สึกว่าเขามีอะไรเปลี่ยนไปสักอย่าง พอสำรวจอย่างละเอียดอีกที ที่แท้เป็นเพราะชุดสีขาว“ข้าดูแปลกตาไปใช่หรือไม่ ท่านจึงได้จ้องตาไม่กะพริบถึงเพียงนี้”หยิ่นฉางถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก่อนที่จะยื่นมือม

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๒

    สิ้นคำที่หยิ่นฉางปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ เขาก็แสดงอาการตรงข้ามกับคำพูดนี้ทันทีโดยการอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหายวับกลับถิ่น ณ ดินแดนปีศาจในทันทีตุบ!“โอ๊ย!”หยิ่นฉางวางเถาฮวาเฉินลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บจนต้องร้องออกมา ใบหน้างามชักสีหน้าใส่เขา แต่หยิ่นฉางหรือจะสน ร่ายมนตร์สร้างอาณาเขตไว้เพื่อไม่ให้เถาฮวาเฉินใช้พลังหนีออกจากที่นี่ไปได้จนกว่าจะสนทนากันให้รู้เรื่อง“ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ ข้าก็นับว่าเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดตนหนึ่งในแดนปีศาจ มีทั้งประสบการณ์ด้านการต่อสู้ ไม่ว่าจะทั้งสัตว์อสูรร้ายหรือแม้กระทั่งเทพเซียนที่แข็งแกร่ง ข้าก็ผ่านมาแล้ว สำหรับท่านที่วัน ๆ หมักแต่สุรา...”พูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป อีกทั้งยังส่ายหน้าน้อย ๆ สองครั้ง ทำเอาคนถูกสบประมาทเดาคำว่า ‘สำหรับข้าไม่นับว่าเป็นอะไร จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด’ จากท่าทางของหยิ่นฉางได้แล้ว“เมื่อก่อนท่านไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่เหตุใดถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้”หยิ่นฉางเลิกคิ้ว “ก็ไม่ใช่ว่าท่านบอกให้ข้าลืมเลือนเรื่องในอดีตหรอกหรือ นี่อย่างไร ข้าก็ลืมความอ่อนโยนที่เคยมีให้แล้วแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว ตกลงจะเอาอย่าง

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๑

    “หึ! โดนเสด็จพ่อของพวกเจ้าลงโทษเรื่องใดมาเล่า ถึงได้มากวาดลานวัดเช่นนี้”“ท่านน้า”องค์ชายแฝดทั้งสองทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งเข้าไปหา ‘ท่านน้าหยิ่นฉาง’ ผู้ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เมื่อก่อนมีรูปลักษณ์เช่นไรตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน“พวกเจ้านี่นะ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนกับลูกลิงอยู่ได้ รักษาภาพลักษณ์องค์ชายแห่งแคว้นบ้างเถิด”องค์ชายใหญ่พ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างแรง ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ท่านน้า ภาพลักษณ์ของพวกเราไม่เหลือตั้งแต่ที่เสด็จพ่อให้มากวาดลานวัดเช่นนี้แล้วขอรับ”“แต่ข้าว่าไม่เหลือตั้งแต่ไปก๊งเหล้าที่ร้านนั้นแล้วละ”อ๋องน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่จะเดินเข้ามารวมกลุ่มด้วย ที่จริงเขาไม่ได้โดนลงโทษให้มากวาดลานวัดเช่นนี้ แต่มีหรือที่องค์ชายแฝดจะปล่อยให้เขารอดไปได้ ทั้งยังกล่าวว่า…‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ก็ต้องร่วมฝ่าฝันไปด้วยกัน’“หือ” หยิ่นฉางเลิกคิ้วถาม “ร้านใดกันที่ทำให้ท่านอ๋องน้อยแห่งตำหนักชินอ๋องถึงขั้นไปลิ้มลองได้”องค์ชายรองเป็นคนอธิบายคำถามนี้ “เป็นร้านสุราดอกท้อข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่งขอรับท่านน้า คนขายเป็นพ่อค้าหน้าหยก รสชาติสุราเป็นร

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๐

    “ต้าเกอ วันนี้กระบวนท่าไม่เลวเลย ฝีมือท่านพัฒนาขึ้นมาก”“เป็นเอ้อร์ตี้ออมมือให้ต่างหาก มิเช่นนั้นเราคงไม่เสมอกันเช่นนี้ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ทำให้ต้าเกอไม่เสียหน้าก็แล้วกัน ไม่สิ! ต่อให้แพ้ แต่แพ้เอ้อร์ตี้ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอายอะไร”“ต้าเกอก็ชมข้าเกินไปแล้ว มา! เอ้อร์ตี้คารวะให้ท่านหนึ่งจอก”“ได้เลย”สองบุรุษหน้าตาคล้ายกันเกือบสิบส่วนเอื้อนวาจาเยินยอกันเองก่อนที่จะยกจอกสุราชนกัน ทั้งสองคนที่ว่าก็คือองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองของแคว้นชิงชิวนั่นเอง ก่อนทั้งสองกลับวังตนเองทั้งคู่ได้ชวนกันมาร่ำสุราที่ร้านข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง“อือ สุราดี”รสชาติของสุราทำให้ทั้งสองพอใจเป็นอย่างมาก ขนาดที่ทั้งคู่หันไปชมเถ้าแก่ร้านหน้าละอ่อนไม่หยุด“เถ้าแก่ สุราดอกท้อของท่านรสชาติดียิ่ง ท่านทำเองหรือว่ารับมาขาย”เถ้าแก่ร่างบางตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะแย้มยิ้มรับคำชมนั้นอย่างภูมิใจ“แน่นอนว่าข้าย่อมหมักเอง คุณชายทั้งสองสนใจซื้อในปริมาณมากหรือไม่ ข้าน้อยจะคิดราคาให้เป็นพิเศษเลย”“โอ้ เช่นนั้นข้าขอสั่งสักสิบไหได้หรือไม่ เถ้าแก่เชิญคิดราคามาได้เลย”“สิบไหเป็นห้าตำลึงเงินก็แล้วกัน ราคากันเอง”ไม่เพียงองค์ชายทั้

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๙

    หลิวหงเถาพูด:เวลาของโลกมนุษย์และดินเแดนเบื้องบนต่างกัน หนึ่งวันของแดนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีของโลกมนุษย์ ระยะเวลารวมที่ข้าเซียนจากแดนแห่งการชำระล้างจากไปเป็น 40 วัน ของแดนสวรรค์ ในเมืองมนุษย์ก็เท่ากับ 40 ปีใช่! ตอนนี้ข้าตายจากการเป็นมนุษย์และได้กลับมายังดินแดนชำระล้างแล้ว พลังบริสุทธิ์ที่คุ้นเคยทำให้ข้ารู้สึกร่างกายคล้ายกับได้รับการเยียวยา พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก …ที่แท้ความรู้สึกของการเลื่อนขั้นเป็นเช่นนี้ข้าเดินเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่อันมีดอกไม้นานาชนิดประดับตกแต่งไว้ ทั้งการจัดโต๊ะ ทั้งบรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกถึงงานเลี้ยงฉลองไม่มีผิด ทันใดนั้นข้าก็ได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“ยินดีต้อนรับเซียนเถาฮวา ไม่ใช่สิ! ยินดีต้อนรับเทพเถาฮวากลับสู่แดนชำระล้าง ทั้งหมดนี้คืองานฉลองการต้อนรับกลับบ้าน”คนแรกที่ข้าเห็นยามเดินเข้ามาในห้องโถงคือท่านหัวหน้าดินแดน สิ้นประโยคของนางก็เกิดคลื่นพลังมากมายหลากสีขึ้นมาในห้องโถง พร้อมกับการปรากฏตัวของเทพเซียนองค์อื่น ๆ“ยินดีต้อนรับเถาฮวาเฉิน” พวกนางกล่าวต้อนรับข้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ข้าจึงมอบรอยยิ้มจริงใจส่งกลับไปให้ทุกคนเช่นกัน“ขอบคุณ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๘

    เมื่อยามที่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในตำหนักแล้วได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กหญิง เสียงพูดไม่ชัดของเด็กชาย เสียงใสของสตรีอันเป็นที่รัก มันทำให้ข้ารู้สึกถึงคำว่า ‘ครอบครัว’นึกอยากขอบคุณเสด็จอาในวันนั้นที่บอกให้เขาอย่าได้สัญญาว่าจะไม่แตะต้องนาง มิเช่นนั้นคืนวันเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นในชีวิตเขา“เสด็จพ่อ”‘อีเกอ’ พระโอรสองค์แรกของเขาวิ่งเข้ามาเกาะขา ร่างสูงก้มตัวลงแล้วอุ้มบุตรชายขึ้นแนบอก กดจมูกหอมแก้มซาลาเปาอย่างหมั่นเขี้ยว การที่มีคนหน้าตาคลายคลึงนางเพิ่มมาถึงสามช่างดีจริง ๆ“ฝ่าบาท…”ฮองเฮาคู่บัลลังก์ของเขาเพียงแค่ส่งยิ้มมอบให้เท่านั้น ไม่ได้ลุกขึ้นทำความเคารพ เพราะเขาเคยห้ามไว้ไม่ให้นางทำในเวลาส่วนตัวเช่นนี้“เป็นอย่างไรบ้าง ตำหนักใหม่ถูกใจฮองเฮาหรือไม่”ฮ่องเต้หนุ่มถามนางขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความนุ่มนวลไว้หลายส่วน นางพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วส่งบุตรีคนที่สามมาให้เขาอุ้ม ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มเมื่อเห็นเหงือกสีชมพูอ่อนไร้ฟันแย้มยิ้มดีใจที่เขาจะอุ้มนาง“เสี่ยวเม่ยของพ่อ”ไทเฮาโปรดหลานสาวคนนี้มากกว่าใคร ฮ่องเต้หนุ่มทราบว่าพระมารดาอยากมีองค์หญิงน้อยมาตลอด แต่ว่าสภาพร่างกายไม่เอื้อต่อการมีบุต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status