แชร์

ตอนที่ 12 ท่านลองผ่าดู

ผู้เขียน: เยว่หลง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-19 01:18:27

บ่ายวันเดียวกันเยว่ฉีกำลังง่วนอยู่กับก้อนหินที่ได้รับมา นางกำลังใช้ความคิดว่าจะทำเช่นไรถึงจะผ่าหินออกเป็นสองส่วนได้ เยว่ฉีรู้สึกว่าต้องมีความพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่ในหินก้อนนี้

แล้วเหตุใดนางถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสหมิง? เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่ยังอยู่บนเขา หลังผู้อาวุโสใช้พลังจิตขุดพืชวิญญาณออกมาทั้งหมดและช่วยเปิดประตูให้เยว่ฉีออกมาจากถ้ำ เขาก็หลับไปไม่พูดอันใดอีก ก่อนจะไปได้บอกกับนางว่าจะไม่อยู่สองสามวันเพราะใช้พลังไปมากรู้สึกเหนื่อยไม่น้อย

สรุปคือ ใช้พลังเกินขีดจำกัดจนหลับไป

เยว่ฉีวางก้อนหินขนาดประมาณหัวเด็กลงบนพื้น ก่อนจะมองหาของที่พอจะใช้ทุบก้อนหินให้แตกได้ ในระหว่างที่กำลังมองหาตัวช่วยปลายสายตาพลันเหลือบไปเห็นปังตอขึ้นสนิมด้ามหนึ่งวางพิงอยู่ข้างเตา

เย่วฉีลุกขึ้นยืนจากท่านั่งขัดสมาธิ ก้าวฉับ ๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงเป้าหมายก้มลงหยิบปังตอที่ว่าขึ้นมา เดินกลับมานั่งที่เดิม

“ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้!!” หญิงสาวบ่นพึมพำใช้สองมือประคองปังตอเดินกลับมานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าก้อนหิน

สองมือจับปลายด้ามจับของปังตอเอาไว้แน่น ยกขึ้นเหนือศีรษะใช้แรงทั้งหมดที่มีลงไปกับการฟันในครั้งนี้

เพล้ง!!!

ปังตอขึ้นสนิมขาดออกจากด้ามจับเป็นสองท่อนตัวใบมีดกระทบก้อนหินอย่างจังก่อนจะเด้งกลับมาที่นาง เย่วฉีผวารีบเอี้ยวตัวหลบ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียง ฉึก ตามมา

หญิงสาวเอี้ยวตัวหัวกลับไปมองปังตอที่เฉาะก้อนหินไม่เข้าแต่ตอนนี้กำลังปักอยู่บนผนังบ้านอย่างสวยงาม

หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

บ้านมีรอยรั่วแล้ว !!!คงต้องหากระดาษมาดามรูรั่ว

เยว่ฉีลุกขึ้นเดินไปดึงปังตอออกจากฝาบ้านทว่าดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออก นางใช้เวลาดึงอยู่นาน ปังตอเจ้ากรรมก็ยังคงยึดแน่นกับฝาบ้านราวกับไม่ต้องการแยกจาก

ตอนสับหินละไม่เข้าพอสับบ้านเข้าหน่อยกลับดึงไม่ออก !!!

เยว่ฉีมือเท้าเอวหอบหายใจจ้องปังตอเขม็งไม่ต่างจากศัตรูที่โกรธแค้นกันมานาน พร้อมกับขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ยกมือชี้มีดเจ้ากรรมพร้อมกล่าวว่า

“จะออกไม่ออก!? จะไม่ออกใช่ไหม? ได้เดี๋ยวได้รู้กัน” แต่ก่อนจะได้หันหลังออกไปหาของมาจัดการเศษซากเจ้าปัญหา ก็ได้ยินเสียงราบเรียบเอ่ยถามขึ้นมาก่อน

“เป็นอันใดไป เหตุใดถึงได้มีท่าทางฉุนเฉียว?” หานลั่วอี้อดรู้สึกแปลกใจกับท่าทางของนางไม่ได้ ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาสามวันแล้วพึ่งจะเคยเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวเช่นนี้เป็นครั้งแรก

คนถูกจับได้ว่าทะเลาะกับมีด ได้แต่สะดุ้งตัวโยน หันกลับไปยิ้มแห้ง

“ไม่มีอันใด ข้าเพียงกำลังมองหาสิ่งที่จะมานำเจ้านี้ออกจากฝาผนังบ้าน” ว่าพร้อมกับชี้มือให้ดู หานลั่วอี้มองตามมือก่อนจะเห็นว่ามี ปังตอ? ปักอยู่ข้างบ้าน

เขาค่อย ๆ หันมามองหน้าภรรยาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

คนถูกจ้องหน้าถอนหายใจเดินเข้าไปใกล้

“ความจริงแล้วข้าต้องการผ่าเจ้าสิ่งนี้ออกไปสองส่วน ใครจะไปคาดคิดว่าเพียงใช้แรงทั้งหมดลงไปบนมีดแล้วฟัน ฉึบ มีดจะหักเป็นสองส่วนก่อนจะบินไปปักบนนั้น”

“เจ้าบาดเจ็บที่ใดหรือไม่?”

“ข้าไม่เป็นอันใด ยังดีที่สามารถหลบได้ทัน เหตุใดท่านถึงได้ถามราวกับรู้ว่าข้าเกือบจะเป็นอันตราย” บุรุษหนุ่มไม่ตอบ เหลือบสายตามองลงพื้น บนพื้นปรากฏรอยคุกเข่าอยู่สองรอย แค่มองดูก็สามารถคาดเดาตำแหน่งนั่งของนางได้

แต่ว่าคนปกติจะมองออกในเวลาเพียงชั่วอึดใจจริงหรือ?

แน่นอนว่าไม่ หานลั่วอี้เป็นข้อยกเว้น

เขาไม่ตอบคำถามเอ่ยเสียงเนือยนาบ “คราวหลังขอให้ข้าช่วยได้ ผ่าหินเช่นนี้ลำพังพลังฝึกปราณของข้าสามารถทำได้” ดวงตาหญิงสาวเป็นประกาย พลังพิเศษสารพัดประโยชน์เสียจริง

เมื่อรู้ว่าหานลั่วอี้สามารถช่วยได้เยว่ฉีก็เดินไปหยิบหินเจ้าปัญหาขึ้นมา เอ่ยอธิบายอย่างไม่ปิดบัง

“ท่านลองผ่าดู ตอนที่ข้าลงจากเขาเผลอสะดุดหินก้อนนี้เข้า จังหวะที่ผิวกายสัมผัสกลับเกิดความรู้สึกบางอย่าง พอหยิบขึ้นมากอดเอาไว้ก็รู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ข้าจึงเก็บกลับมาด้วย” คำอธิบายเรียบง่ายของภรรยาส่งผลให้คลื่นอารมณ์เคลื่อนผ่านนัยน์ตาน่าหลงใหล เขาก้มมองอยู่นานไร้ซึ่งคำพูด ก่อนจะวางมือลงบนก้อนหินไหลเวียนพลังไปที่ปลายนิ้วมือ จากนั้น

แกร็ก

ก้อนหินที่เยว่ฉีใช้พลังทั้งหมดเพื่อผ่าดูว่ามีสิ่งใดอยู่หรือไม่ ชั่วอึดใจต่อมาก็เกิดรอยร้าวขึ้นรอบ ๆ เพียงแค่หานลั่วอี้โคจรพลังเข้าไปด้านใน

“หากข้ามีพลังเช่นนี้บ้างคงดี” เยว่ฉีเผลอพูดออกไป หลังรู้ตัวก็รีบปิดปากเงยหน้ามองหานลั่วอี้

นางหาได้มีความตั้งใจพูดกระทบจุดความรู้สึกของเขา สิ่งที่กล่าวออกมาเมื่อสักครู่เป็นเพียงความต้องการน้อย ๆ ของตัวนาง

หานลั่วอี้เงยหน้ามองสบสายตารู้สึกผิด เขารู้ว่านางไม่ได้มีเจตนาพูดถึงสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยกล่าวเสียงอ่อนโยน

“อย่าได้รู้สึกผิด ข้าเข้าใจในคำพูดของเจ้าทั้งยังทราบดีว่าเจ้าไม่ได้มีความคิดเช่นคนพวกนั้น”

เยว่ฉีผงกหัวขึ้นลง ย่อตัวลงตรงหน้าชายหนุ่ม มือเรียวติดซูบผอมวางบนหลังมือ

“ข้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอย่างที่ท่านเข้าใจ” แค่นั้นก็เพียงพอ คำกล่าวยืนยันจากปากพร้อมสายตาจริงใจ เพียงพอสำหรับเขาในตอนนี้

เยว่ฉีไม่ชอบบรรยากาศอึมครึมระหว่างทั้งคู่จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย มองก้อนหินซึ่งถูกผ่าออกเป็นสองส่วนในมือ

“ท่านเปิดดูว่ามีสิ่งใดอยู่ด้านในหรือไม่” หานลั่วอี้พยักหน้าใช้มือแยกหินสองชิ้นออกจากกัน

สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาของทั้งสองคนคือหยกขนาดประมาณสองชุ่นถูกฝังอยู่ตรงกลาง เยว่ฉีขมวดคิ้วมองหานลั่วอี้

บุรุษหนุ่มคล้ายเข้าใจความนัยจากสายตา หยิบหยกสีเหลืองอ่อนขึ้นมาถือ กล่าวอธิบาย

“สิ่งนี้เรียกว่าหยกวิญญาณ ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่มักจะซื้อหยกวิญญาณแจกจ่ายแก่ลูกหลาน ให้พวกเขาใช้ดูดซับ หยกวิญญาณมีส่วนช่วยให้ผู้ฝึกปราณเพิ่มระดับความสามารถให้สูงขึ้น ตอนที่ข้ายังอยู่ในตระกูลได้รับหยกวิญญาณเดือนละสองก้อน เป็นหยกวิญญาณระดับกลางเช่นเดียวกันแต่สีอ่อนกว่าก้อนนี้มาก หยกวิญญาณมีคุณค่ามาก ทว่าก็หาได้ไม่ง่ายขึ้นอยู่กับระดับของหยกวิญญาณ...”

หานลั่วอี้อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับหยกวิญญาณให้เยว่ฉีฟัง หยกวิญญาณแบ่งออกเป็นสี่ระดับ ต่ำ กลาง สูง สูงที่สุด โดยเรียงจาก ไม่มีสี สีเหลือง สีชมพู และสีแดง หยกวิญญาณแต่ละระดับล้วนมีคุณภาพสูงต่ำแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเข้มของสี

ที่หานลั่วอี้ถืออยู่ในมือคือหยกวิญญาณระดับกลาง คุณภาพต่ำค่อนไประดับกลาง ตัวหยกวิญญาณแบ่งเป็นสี่ระดับ สามคุณภาพ คือ ต่ำ กลาง สูง

หลังฟังคำอธิบายเยว่ฉีพลันรู้สึกว่า หยกวิญญาณวิเศษกว่าพืชวิญญาณ เพราะสามารถดูดซับได้ทันที แตกต่างจากพืชวิญญาณที่ต้องผ่านการหลอมขึ้นมาก่อนจึงจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

แล้วเหตุใดพืชวิญญาณถึงยังเป็นที่ต้องการ? เพราะเมื่อเทียบกับจำนวนโอสถแล้ว หยกวิญญาณหาได้ยากมากกว่า

“ลั่วอี้เช่นนั้นข้ามอบให้ท่าน”

“สิ่งนี้สำหรับข้าตอนนี้ไม่จำเป็น เจ้านำไปขายเป็นเงินมาใช้ในครอบครัวดีกว่า” ระหว่างที่หานลั่วอี้เอ่ยประโยคนี้ ตัวนางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเศร้าสร้อยโอบล้อมร่างกายแกร่ง พอเงยหน้าสบเข้ากับดวงตาคมเข้มก็เห็นว่าในนั้นมีประกายเศร้าหมองปรากฏอยู่

เยว่ฉียื่นมือเรียวสวยไปวางลงบนหลังมือแกร่งตบเบา ๆ สองสามครั้ง ไร้ซึ่งคำพูด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 14 พืชวิญญาณราคาสูง

    หลังรถเทียมลาจอดเทียบบนลานจอด คนทั้งหมดต่างทยอยลงจากรถ ครอบครัวเฟิงและเยว่ฉีก้าวลงมาหลังใครเขา รถจนคนก่อนหน้าออกไปหมดแล้วถึงได้ก้าวลงมาสองข้างถนนของเมืองโม่ฉียังคงครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนไม่ต่างจากไม่กี่วันก่อนหน้า ทว่าช่างแปลกตาในความคิดนางคงคุ้นเคยกับธรรมชาติในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเข้าเสียแล้ว“อยากไปที่ใดก่อนหรือไม่?” หลัวหรูเอ่ยถาม ตอนที่เห็นสายตาเป็นประกายตื่นเต้นของเด็กสาวเยว่ฉีหันหน้าไปหายิ้มบางพลางตอบ“พี่หลัวข้าต้องการไปขายพืชวิญญาณก่อน จากนั้นจะไปซื้อของเข้าบ้าน บ้านข้าตอนนี้ก็อย่างที่พวกท่านทราบ” เยว่ฉีพูดอย่างไม่ใส่ใจ ทว่าคำพูดของนางกลับทำให้ครอบครัวเฟิงเผยสีหน้าซับซ้อนครอบครัวสามีเยว่ฉีชั่งใจร้ายเสียจริง ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบาง ทว่าการปล่อยให้สตรีร่างกายซูบผอมอยู่กินกับบุรุษขาพิการเพียงลำพัง แค่คิดก็พาให้รู้สึกขมเฝื่อนขึ้นมาในใจ“ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี” เยว่ฉีมองหลัวหรู กะพริบตาปริบ ๆ ไม่เข้าใจว่าที่นางเอ่ยออกมาหมายถึงอะไร แต่ก็พยักหน้าตกลงยิ้ม ๆ“ไปกันพี่หลัวข้าอยากจะเห็นร้านรับซื้อพืชวิญญาณแล้ว” และคนทั้งสามก็เดินทางไปยังร้านขายและรับซื้อพืชวิญญาณระ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 13 เข้าเมือง

    หานลั่วอี้บอกเยว่ฉีนำหยกวิญญาณไปขาย ทั้งยังแนะนำร้านที่ไว้ใจได้ให้ด้วยวันนี้เยว่ฉีมีแผนจะเดินทางไปขายพืชวิญญาณในเมืองพร้อมกับเพื่อนบ้านทั้งสอง นางจึงตื่นแต่เช้าตรู่ขึ้นมาเตรียมอาหารรวมไปถึงยาสำหรับหานลั่วซานเช่นเดียวกับเมื่อวานก่อนจะออกจากบ้านนางเตรียมน้ำแห่งชีวิตให้หานลั่วอี้หนึ่งขวด ดูจากที่อีกฝ่ายมีทีท่าคล้ายรอคอย ยามขวดหยกปรากฏตรงหน้าก็สามารถคาดเดาได้ว่า น้ำแห่งชีวิตมีประโยชน์ต่อสามีจริงเท่านี้ก็ยืนยันคำพูดของผู้อาวุโสได้แล้วผู้อาวุโสหมิงยังบอกกับนางอีกว่าหลังผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนให้เพิ่มปริมาณน้ำแห่งชีวิตในตอนที่เจือจาง จากเดิมหนึ่งหยดต่อหนึ่งถ้วยก็เพิ่มเป็นสองหยดต่อหนึ่งถ้วย ทำเช่นนี้จะช่วยให้ร่างกายหานลั่วอี้ปรับตัวเข้ากับความพิเศษของน้ำแห่งชีวิตอย่างช้า ๆเยว่ฉีย้ำกับสามีเรื่องลั่วซานอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากประตูบ้าน อีกฝ่ายเข็นรถมาส่งจนถึงหน้าประตูมองส่งนางขึ้นรถเทียมลาของหมู่บ้านจนลับตาถึงได้ถอนสายตากลับ ปิดประตูลงเข็นรถกลับเข้าบ้านทุกการกระทำของเขาตกอยู่ในสายตาของใครบางคน คนคนนั้นแอบมองจนเป้าหมายลับสายตาถึงได้ถอยออกมาทำไมพืชวิญญาณที่เก็บได้เมื่อวานจึงต้องมาขายในวันต่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 12 ท่านลองผ่าดู

    บ่ายวันเดียวกันเยว่ฉีกำลังง่วนอยู่กับก้อนหินที่ได้รับมา นางกำลังใช้ความคิดว่าจะทำเช่นไรถึงจะผ่าหินออกเป็นสองส่วนได้ เยว่ฉีรู้สึกว่าต้องมีความพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่ในหินก้อนนี้แล้วเหตุใดนางถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสหมิง? เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่ยังอยู่บนเขา หลังผู้อาวุโสใช้พลังจิตขุดพืชวิญญาณออกมาทั้งหมดและช่วยเปิดประตูให้เยว่ฉีออกมาจากถ้ำ เขาก็หลับไปไม่พูดอันใดอีก ก่อนจะไปได้บอกกับนางว่าจะไม่อยู่สองสามวันเพราะใช้พลังไปมากรู้สึกเหนื่อยไม่น้อยสรุปคือ ใช้พลังเกินขีดจำกัดจนหลับไปเยว่ฉีวางก้อนหินขนาดประมาณหัวเด็กลงบนพื้น ก่อนจะมองหาของที่พอจะใช้ทุบก้อนหินให้แตกได้ ในระหว่างที่กำลังมองหาตัวช่วยปลายสายตาพลันเหลือบไปเห็นปังตอขึ้นสนิมด้ามหนึ่งวางพิงอยู่ข้างเตาเย่วฉีลุกขึ้นยืนจากท่านั่งขัดสมาธิ ก้าวฉับ ๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงเป้าหมายก้มลงหยิบปังตอที่ว่าขึ้นมา เดินกลับมานั่งที่เดิม“ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้!!” หญิงสาวบ่นพึมพำใช้สองมือประคองปังตอเดินกลับมานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าก้อนหินสองมือจับปลายด้ามจับของปังตอเอาไว้แน่น ยกขึ้นเหนือศีรษะใช้แรงทั้งหมดที่มีลงไปกับการฟันในครั้งนี้เพล้ง!!!ปั

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 11 สะดุดก้อนหิน

    ดินแดนเฟยฮ่าว มีผู้ฝึกปราณที่เก่งกาจที่สุดอยู่ที่ฝึกปราณขั้นเก้า ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการพัฒนาตนเองให้เก่งกาจไปมากกว่านี้ ทว่าด้วยทรัพยากรที่มีจำกัดทำให้ความเร็วในการฝึกปราณช้าลงยิ่งระดับสูงความต้องการในทรัพยากรจะยิ่งมากขึ้นและยังหมายถึงเงินที่ต้องใช้จ่ายออกไปหากต้องการไปให้สูงกว่าต้องเดินทางไปยังดินแดนที่สูงกว่า ทว่าจะสามารถผ่านเข้าไปได้หรือไม่ ก็ต้องดูที่ความสามารถของคนคนนั้นที่เยว่ฉีไม่ทราบเพราะในหนังสือที่ผู้อาวุโสให้มามีเพียงภาพและคำอธิบายลักษณะ รวมไปถึงระดับของพืชวิญญาณ ไม่ได้กล่าวถึงการนำไปใช้สองสามีภรรยามึนงงอยู่บ้างว่าเหตุใดเยว่ฉีถึงได้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับพืชวิญญาณมากถึงเพียงนี้ แต่ไม่นานก็สลัดความคิดนั้นไป โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นักบางทีคนบางคนก็ใช่จะต้องรู้ไปเสียทุกเรื่อง“พี่หลัวพืชวิญญาณต้นนี้ขายได้เท่าใด”“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่สองตำลึงสูงสุดที่สี่ตำลึงขึ้นอยู่กับคุณภาพว่าสูงหรือต่ำ”สี่ตำลึง !!!นางสามารถหาเงินได้ถึงสี่ตำลึงในเวลาเพียงสองเค่อไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว“พี่หลัวพวกท่านหาพืชวิญญาณได้หรือไม่” ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า“โชคร้ายที่ข้ากับพี่เฟิงไม่พบพืชวิ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 10 ลงเขา

    “ผู้อาวุโส ท่านพอจะมีทางช่วยข้าหรือไม่?”‘…’“ผู้อาวุโส?”‘…’ ยังคงไม่ตอบผู้อาวุโสหมิงคงไม่ได้หมายความว่าให้นางขุดพืชวิญญาณทั้งหมดขึ้นมาด้วยตนเองใช่ไหม? ดูจากพืชวิญญาณสองต้นก่อนหน้านางยังใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วยาม !! หากต้องใช้มือขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมา มิใช่ว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลยหรือ? นางมีเวลาว่างขนาดนั้นที่ไหนกันผู้อาวุโสหมิงคงไม่ใจร้ายกับนางมากเกินใช่ไหม?‘บ่นข้าพอหรือยัง?’รู้ได้ยังไงว่านางกำลังบ่นให้ จะเฉียบแหลมเกินไปแล้ว !!ถึงในใจเยว่ฉีจะบ่นไปร้อยแปดพันเก้า ทว่ายามเอ่ยออกมากับมีนัยประจบอยู่หลายส่วน “ผู้อาวุโสข้าหาได้คิดเช่นนั้น ท่านอย่าเข้าใจข้าผิด”ท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยประจบประแจงของเยว่ฉีทำผู้อาวุโส หมิงหมั่นไส้ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะยืมร่างหญิงสาวเป็นสื่อกลางอีกครั้งมือเรียวสวยยกขึ้นตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่พืชวิญญาณทั้งหมดบนพื้นที่กว่าหนึ่งหมู่มีประกายแสงสีทองห้อมล้อมเอาไว้ทั้งต้นผู้อาวุโสหมิงใช้พลังจิตของตนในการโอบอุ้มและขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมาในครั้งเดียว พืชวิญญาณที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังจิตปรากฏขึ้นบนอากาศไม่มีส่วนใดเสียหาย กระทั่งดินซึ่งติดอยู่ตามรากยั

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 9 โชคบนภูเขา

    เยว่ฉีอาศัยความทรงจำที่ได้จากการอ่านหนังสือเมื่อคืนมองหาไปเรื่อย ๆ พืชวิญญาณไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายหรือมีอยู่เกลื่อนกลาด เพราะฉะนั้นหลังผ่านมาสองเค่อแล้วเยว่ฉีจึงยังหาไม่พบแม้สักต้นทว่าในระหว่างที่นางกำลังจะเดินไปยังทิศทางอื่น พลันได้ยินเสียงผู้อาวุโสดังขึ้นในความคิด‘ตรงไปด้านหน้าครึ่งเค่อฝั่งขวามือ’“ผู้อาวุโสตรงนั้นมีอันใดหรือ” นางคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ดังลอดออกมา ก่อนจะได้ยินเสียงผู้อาวุโสเอ่ย‘เดินไปตามที่ข้าบอกเจ้าจะพบสิ่งที่ต้องการ’ ดวงตางดงามเป็นประกาย จากคำพูดของผู้อาวุโสสามารถคาดเดาได้ว่าต้องเป็นพืชวิญญาณวิญญาณอย่างแน่นอนเยว่ฉีเดินไปตามทางที่ผู้อาวุโสบอกก่อนจะพบก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง กวาดตามองโดยรอบ ก่อนจะเดินวนรอบก้อนหินก็ไม่พบพืชวิญญาณแม้สักต้น หัวคิ้วพลันขมวดเข้าหากันคล้ายผู้อาวุโสอ่านความคิดนางออก จึงเปรยขึ้นมาว่า‘วางมือลงบนก้อนหิน ข้าจะใช้เจ้าเป็นตัวกลางในการเปิดม่านพลัง’เยว่ฉีทำตามอย่างว่าง่ายไม่นานก็เห็นว่าก้อนหินซึ่งดูไม่มีอะไรเกิดช่องว่างขนาดเท่าคนขึ้นตรงหน้าพลังพิเศษสุดยอดจริง ๆ“ผู้อาวุโสหมิงท่านรู้ได้เช่นไรว่าตรงหน้ามีการร่ายคาถาอำพรางเอาไว้” แม้เยว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status