ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ

ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ

last updateLast Updated : 2025-08-19
By:  เยว่หลงUpdated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
14Chapters
7views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เยว่ฉีตื่นขึ้นมาในร่างของสตรีผู้หนึ่ง ตรงหน้าเธอคือบุรุษรูปงามชวนมองทว่าเขากลับนั่งอยู่บนรถเข็น บุรุษหนุ่มตรงหน้ามองมาอย่างสงสัยใคร่รู้ ก่อนเอ่ยออกมาว่า "ภรรยาเจ้าฟื้นแล้ว"

View More

Chapter 1

ตอนที่ 1 ตื่นขึ้นมาเป็นภรรยาคนอื่น

“ท่านหมอนางเป็นเช่นไรบ้าง”

“อีกไม่กี่ชั่วยามก็ฟื้น ท่านอย่าได้กังวล”

“ขอบคุณท่านมาก ข้าไม่ส่ง”

“มิบังอาจ มิบังอาจ” คนที่ถูกเรียกว่าหมอยกมือขึ้นประสานกันด้านหน้า ผงกมือขึ้นลงสองสามครั้งท่าทางเคารพทว่าสายตาที่มองมากลับเผยความดูถูกอย่างไม่ปิดบัง

เป็นเพียงบุรุษไร้ประโยชน์ผู้หนึ่ง เขาไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพ แต่ที่ยอมมาตรวจอาการสตรีผู้นี้ เพราะเห็นแก่หน้าตระกูลใหญ่ และเงินตอบแทนหนักไม่เบา

ชายหนุ่มเห็นสายตาดูแคลนที่มองมาก็ได้แต่เก็บงำประกายความรู้สึกเอาไว้ มือซึ่งซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อกำเข้าหากันแน่น

ใครใช้ให้เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้วเลา จากผู้ที่เคยถูกเรียกว่าความหวังของตระกูล เคยอยู่ในจุดที่มีแต่คนชื่นชม ประจบสอพลอ ร่วงหล่นสู่จุดต่ำสุดกะทันหันยามหมอเอ่ยออกมาว่า ไม่สามารถฝึกปราณต่อไปได้ รวมไปถึงขาทั้งสองข้างที่ไม่อาจรักษาหาย

เขาทำได้เพียงเก็บความรู้สึกไม่ยุติธรรมเอาไว้ในใจ ไม่คิดยอมแพ้ให้กับความฝันวัยเด็กยังคงพยายามหาทางรักษาอยู่เสมอ แต่ความหวังชั่งริบหรี่เหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นหมอเก่งกาจมากแค่ไหน มีชื่อเสียงโด่งดังมากเพียงใด ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถหาวิธีรักษาขาและเส้นลมปราณที่เสียหายได้เลย

ชายหนุ่มเงียบปากทำทีเป็นไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น เก็บซ่อนความรู้สึกมากมายเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย ทั้งเจ็บใจ โกรธแค้น เกลียดชัง

บุรุษใบหน้าหล่อเหลาใช้สองมือผลักรถเข็นมาข้างเตียง มองดูภรรยาซึ่งแต่งเข้ามาเพียงหนึ่งคืนก็เกิดเป็นลมไม่ได้สติ ภรรยาผู้นี้ได้มาเพราะหมอดูบอกกล่าวว่าเขาต้องแต่งภรรยาและย้ายออกจากตระกูลมิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องร้ายแรงส่งผลต่อความ ก้าวหน้าของคนในตระกูล

มิหนำซ้ำยังเป็นสตรีที่ไม่รู้ที่มาที่ไป เป็นสตรีซึ่งถูกพบอยู่กลางป่าตามคำบอกเล่าของหมอดู ในใจหานลั่วอี้รู้สึกเช่นไรหาได้มีใครเข้าใจ

บุรุษหนุ่มพิศมองใบหน้างดงามหมดจนภายใต้ร่างกายซูบผอมด้วยสายตาลุ่มลึก ชีวิตหานลั่วอี้ในยามนี้ไร้สิ่งที่เป็นของตนอย่างแท้จริง จึงได้แต่หวังว่าภรรยาที่ไม่ต้องการตบแต่งยามฟื้นขึ้นมาจะทำดีต่อกันสักนิด อย่างน้อยในบรรดาสิ่งของมากมายที่ถูกยึดคืนยังมีภรรยาผู้เป็นของเขาอย่างแท้จริง ทั้งยังคาดหวังในส่วนลึกว่าสตรีตรงหน้าจะไม่ใช่คนของสตรีผู้นั้น

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วยาม หานลั่วอี้ยังคงนั่งอยู่ตำแหน่งเดิม เท้าศอกบนที่วางแขน วางคางบนหลังมือหลับตาพักผ่อน

คนหลับสนิทตลอดครึ่งวันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว หญิงสาวกะพริบตาไล่ความขุ่นมัว หลังสายตาคมชัดสิ่งที่เข้ามาเป็นอย่างแรกคือเพดานห้องไม่คุ้นเคย คนบนเตียงขยับศีรษะมองซ้ายขวา ภายในห้องตกแต่งเรียบง่ายมีหน้าต่างบานหนึ่ง ตู้หลังหนึ่ง โต๊ะตัวหนึ่ง เก้าอี้สอง และเตียงที่นางนอนอยู่ สภาพห้องเป็นห้องกลางเก่ากลางใหม่ไม่ได้งดงามสะอาดสะอ้าน

พอขยับตัวลุกขึ้นร่างกายก็คล้ายไม่มีแรง คนบนเตียงจึงยกมือขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นมือผอมแห้งคู่หนึ่งหนังแทบหุ้มกระดูก

สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวคือ มือใคร? สตรีบนเตียงคิ้วลองขยับมือซ้ายขวา มือตรงหน้าก็ขยับตาม

นี่มือฉันเหรอ? นั่นคือเสียงในความคิดของเธอ

หญิงสาวมองสำรวจห้องอีกครั้งที่แท้เพดานที่เห็นกลับไม่ใช่เพดานแต่เป็นหลังคาเตียง

เจ้าของร่างผอมแห้งพยุงตัวลุกขึ้น การขยับตัวเล็กน้อยส่งผลให้คนบนรถเข็นรู้สึกตัว หานลั่วอี้ลืมตาขึ้นไม่กล่าวอะไร มองสำรวจการเคลื่อนไหวภรรยาเงียบ ๆ

คนบนเตียงลุกขึ้นนั่งได้แล้ว แต่ก่อนสายตาจะพลันเหลือบไปเห็นใครอีกคนในห้อง ความทรงจำสายหนึ่งพลันแล่นผ่านสมองให้รู้สึกปวดแปลบ

มือผอมแห้งยกขึ้นจับหัวใบหน้าบิดเบี้ยว เม็ดเหงื่อผุดผายตามใบหน้า

ความทรงจำของใครบางคนแล่นเข้ามาในหัว เป็นความทรงจำขาดหายไม่ชัดเจนราวกับว่ามีใครบางคนปิดกั้นความทรงจำที่เหลือเอาไว้

ภาพเหตุการณ์มากมายหายไปหมดแล้วพร้อมกับความเจ็บปวดที่ทุเลาลง

ลมหายใจหอบหนักของหญิงสาวกลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน ตอนนี้เองถึงพอเข้าใจได้ราง ๆ ว่า สถานที่ที่เธออยู่ไม่เหมือนเดิม รวมไปถึงในห้องมีใครอีกคนอยู่

ดวงตาฉ่ำน้ำแดงเรื่อใบหน้าแดงก่ำมองสบเข้ากับดวงตาสีรัติกาลลุ่มลึก เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ในความทรงจำซึ่งวาบผ่านเมื่อสักครู่บอกกับเธอว่าเขาคือ สามี ที่พึ่งตบแต่งกันได้ยังไม่ถึงหนึ่งวันดี

หากไม่ใช่เพราะว่ามีผ้าม่านบดบังเตียงเอาไว้ครึ่งหนึ่ง หญิงสาวคงรู้ตัวเร็วกว่านี้

“ทะ...ท่าน” น้ำเสียงแหบพร่าลำคอแห้งผาก หานลั่วอี้เห็นว่าภรรยายกมือขึ้นจับลำคอจึงเลื่อนรถเข็นไปเทน้ำให้ดื่ม

หญิงสาวมองนิ่งรับถ้วยน้ำในมือมากระดกลงคออึกใหญ่ ยื่นไปให้อีกฝ่ายอีกครั้ง คล้ายเข้าใจความนัย เขาจึงเทน้ำใส่ถ้วยให้อีกครึ่ง พอดื่มน้ำเข้าไปมากพอควรร่างกายก็คล้ายมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย ลำคอไม่รู้สึกเจ็บเท่าตอนแรก

เจ้าของร่างมีชื่อว่า เยว่ฉี ชั่งน่าแปลกที่ชื่อของนางเหมือนชื่อของเธอในชาติก่อน เจ้าของร่างเป็นสตรีไม่ทราบที่มา ไม่รู้ว่าครอบครัวเป็นใคร

ในความทรงจำเมื่อสักครู่มีเพียงช่วงเวลาก่อนจะมาแต่งงานกับชายหนุ่มและความรู้เกี่ยวกับโลกนี้เพียงเล็กน้อย

พ่อแม่เป็นใครแล้วทำไมถึงถูกขายให้พ่อค้าทาสชีวิตก่อนหน้านั้นล้วนไม่อยู่ในความทรงจำ

ใช่ เยว่ฉีเป็นสตรีที่ถูกขายเป็นทาสก่อนจะถูกลูกค้าเงินหนาผู้ลึกลับซื้อมา จากนั้นนำไปทิ้งไว้กลางป่า ตอนถูกนำไปทิ้งเยว่ฉีถูกปิดตามัดมืออยู่ตลอด จวบจนถึงที่หมายคนเหล่านั้นถึงได้ปล่อยตัวนางเป็นอิสระ ก่อนจากไปยังข่มขู่ทั้งยังบอกว่าห้ามขยับไปไหนไม่เช่นนั้นจะฆ่าทิ้งเสีย แต่สุดท้ายเยว่ฉีก็เสียชีวิตลงหลังจบงานแต่งได้ไม่นาน

เยว่ฉีไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดคนคนนั้นถึงได้ไปซื้อนาง ก่อนจะถูกพาตัวให้มาแต่งงานกับชายหนุ่มตรงหน้า แถมท่าทีของผู้คนในวันแต่งงานยังเปี่ยมไปด้วยความยินดีระคนดูถูก

ตอนที่ฟื้นขึ้นมายังคงสับสนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตัวเอง ก่อนหน้าจะตื่นขึ้นมาเธอกำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมลูกชิ้นปิ้งในมือ ทว่าต่อมาก็มีสุนัขตัวสูงประมาณหัวเข่าตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาเห่าเธอเสียงดังลั่น

หญิงสาวสะดุ้งตกใจทำไม้ลูกชิ้นหล่นลงพื้น หงายหลังหัวกระแทกพื้น

คงไม่ได้ตายด้วยเหตุการณ์นั้นหรอกใช่ไหม?

พอลืมตาขึ้นมาก็อยู่ในร่างไม่คุ้นเคยกับความทรงจำแปลกประหลาด

หากไม่ใช่ว่าสิ่งที่สัมผัสได้เหมือนจริงไม่คล้ายฝัน อีกทั้งบุรุษตรงหน้ายังตรงตามสิ่งที่ได้เห็น เธอคงไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะเข้ามาสวมร่างผู้อื่นเหมือนในนิยายหลาย ๆ เรื่อง

“ประหลาดสุด ๆ”

“เจ้ากล่าวอันใด” ทั้งที่เป็นเพียงการพึมพำแผ่วเบาแต่สำหรับผู้ฝึกปราณเช่นหานลั่วอี้กับได้ยินชัดทุกประโยค เพียงไม่แน่ใจว่าที่นางพูดหมายถึงสิ่งใด

“ท่านคือสามีข้า?” เยว่ฉีไม่ตอบแต่เลือกที่จะถามเพื่อยืนยันสิ่งที่กำลังเผชิญ

“เจ้าสับสน? เราทั้งคู่เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันแล้วย่อมถือเป็นสามีภรรยา”น้ำเสียงยามเอ่ยประโยคนี้ราบเรียบไม่ต่างจากพูดเรื่องทั่วไป เขาพูดพร้อมกับจ้องมองนาง แววตาหญิงสาวตรงหน้าแปลกไป หานลั่วอี้สัมผัสได้ว่านางแปลกไปไม่เหมือนเดิม

สตรีที่พบเมื่อวานมักจะชอบก้มหน้าไม่ยอมสบตา แววตาหวาดกลัวเลื่อนลอย แผ่นหลังงองุ้ม ตัวสั่นอยู่ตลอด ต่างจากแววตาที่สบกับเขาตอนนี้ แม้จะมีความสับสนซ่อนอยู่แต่ก็เปล่งประกายสดใส เด็ดเดี่ยว

เยว่ฉีทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเรื่องที่กำลังเผชิญอยู่ ถึงจะยังสับสนอยู่บ้างแต่ถึงยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว อีกทั้งชั่วชีวิตที่เหลือเธออาจจะไม่มีโอกาสกลับโลกเดิมได้อีก

ในเมื่อแต่งงานกันแล้วก็เท่ากับว่าชายหนุ่มคือคนในครอบครัว ตลอดชีวิตที่ผ่านมาในอดีต เธอสูญเสียครอบครัวไปตั้งแต่ยังเด็ก พอมีคนให้เรียกว่าครอบครัวก็อดรู้สึกคันยุบยิบในใจไม่ได้

หวังว่าบุรุษผู้นี้จะใจดีกับนาง

ถึงเขาจะขาไม่สมบูรณ์เยว่ฉีก็ไม่คิดทิ้งขว้าง ยินดีดูแลด้วยความเต็มใจ

บุรุษที่ในอนาคตจะกลายเป็นครอบครัวและเพื่อนเพียงคนเดียวของนางในโลกใบนี้ เพราะดูจากความทรงจำแล้ว คนในบ้านหลังนี้ไม่ได้ต้อนรับเจ้าของร่างเสียเท่าไหร่

“ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าหวังว่าเราทั้งคู่จะมีแต่ความใจดีให้แก่กัน” หานลั่วอี้เลิกคิ้วมองมือซึ่งยื่นมาตรงหน้า ดวงตาสีรัติกาลมีประกายความรู้สึกวาบผ่าน

มองสำรวจใบหน้างดงามซูบผอมก็เห็นเพียงความจริงใจ เขาเองก็หวังเช่นเดียวกับนาง หวังว่านางจะไม่ใช่คนของผู้อื่น

บุรุษหนุ่มชั่งใจเพียงชั่วครู่ก่อนจะยื่นมือออกไป ในเมื่อนางยื่นไมตรีมาให้เขาก็อยากจะลองเชื่อในไมตรีของนาง

“หากเจ้าดีต่อข้า ข้าก็จะดีต่อเจ้า ถึงอย่างไรเจ้าก็ได้ชื่อว่าภรรยาข้าแล้ว ข้าอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ข้าก็จะพยายามเท่าที่สามารถทำได้”

ในน้ำเสียงแน่วแน่มีความหวั่นไหวเคลือบอยู่จาง ๆ เยว่ฉีเข้าใจในคำพูดของบุรุษตรงหน้าทันที สายตาที่มองนางเต็มไปด้วยความจริงใจไร้การหลอกลวง

เขาหมายถึงขาที่ไม่สามารถเดินเหินได้สะดวกอาจจะทำทั้งสองคนลำบาก แต่เยว่ฉีก็หาได้ใส่ใจมากเท่าที่ควร ขอเพียงเขาดีกับนาง ไม่คิดเอารัดเอาเปรียบ หักหลัง ไม่ว่าจะลำบากเพียงใดเยว่ฉีล้วนทนได้

นางไม่เชื่อว่าชีวิตคนเราจะลำบากไปตลอด

“ท่านไว้ใจข้าได้” สองมือประสานกันแน่น คล้ายคำสัญญาว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน

เยว่ฉีไม่มีทางทราบได้ว่า ในอนาคตอันใกล้ เพราะความเชื่อใจที่มีให้กันตั้งแต่ต้นจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันยากจะตัดขาด

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
14 Chapters
ตอนที่ 1 ตื่นขึ้นมาเป็นภรรยาคนอื่น
“ท่านหมอนางเป็นเช่นไรบ้าง”“อีกไม่กี่ชั่วยามก็ฟื้น ท่านอย่าได้กังวล”“ขอบคุณท่านมาก ข้าไม่ส่ง”“มิบังอาจ มิบังอาจ” คนที่ถูกเรียกว่าหมอยกมือขึ้นประสานกันด้านหน้า ผงกมือขึ้นลงสองสามครั้งท่าทางเคารพทว่าสายตาที่มองมากลับเผยความดูถูกอย่างไม่ปิดบังเป็นเพียงบุรุษไร้ประโยชน์ผู้หนึ่ง เขาไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพ แต่ที่ยอมมาตรวจอาการสตรีผู้นี้ เพราะเห็นแก่หน้าตระกูลใหญ่ และเงินตอบแทนหนักไม่เบาชายหนุ่มเห็นสายตาดูแคลนที่มองมาก็ได้แต่เก็บงำประกายความรู้สึกเอาไว้ มือซึ่งซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อกำเข้าหากันแน่นใครใช้ให้เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้วเลา จากผู้ที่เคยถูกเรียกว่าความหวังของตระกูล เคยอยู่ในจุดที่มีแต่คนชื่นชม ประจบสอพลอ ร่วงหล่นสู่จุดต่ำสุดกะทันหันยามหมอเอ่ยออกมาว่า ไม่สามารถฝึกปราณต่อไปได้ รวมไปถึงขาทั้งสองข้างที่ไม่อาจรักษาหายเขาทำได้เพียงเก็บความรู้สึกไม่ยุติธรรมเอาไว้ในใจ ไม่คิดยอมแพ้ให้กับความฝันวัยเด็กยังคงพยายามหาทางรักษาอยู่เสมอ แต่ความหวังชั่งริบหรี่เหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นหมอเก่งกาจมากแค่ไหน มีชื่อเสียงโด่งดังมากเพียงใด ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถหาวิธีรักษาขาและเส้นลมปราณที่เสียหายได้เล
last updateLast Updated : 2025-08-15
Read more
ตอนที่ 2 แยกบ้าน
“มาแล้วหรือ”“ลูกมาแล้ว”“เช่นนั้นก็ทำเรื่องแยกบ้าน”“ดูท่านพ่อจะรีบร้อนอยากให้ข้าออกจากจวนหลังนี้เสียเหลือเกิน” ประโยคคำพูดประชดประชันทว่าน้ำเสียงกับไม่อินังขังขอบใด ๆ สายตาหานลั่วอี้มองตรงไปยังผู้ที่ได้ชื่อว่า บิดา เมื่อก่อนสายตาคู่นี้มักจะมองมาด้วยความภาคภูมิใจ มาตอนนี้แม้จะสบตาหรือมองหน้าท่านยังไม่ต้องการจะมองแถมในสายตาคู่นี้ยังเต็มไปด้วยความหงุดหงิดไม่ชอบใจ“เลิกพูดมากได้แล้ว เจ้าต้องการอันใด” หานฉิงอี้ไม่ถือสาหาความ เขาไม่อยากจะถือความยาวสาวความยืด ให้ต้องยืดระยะเวลาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับบุตรชาย เพราะหวาดกลัวคำพยากรณ์จากท่านหมอดู“มีเพียงสิ่งเดียว”“...” หานฉิงอี้เลิกคิ้วเป็นเชิงบอกให้พูดต่อ“ข้าจะพาหานลั่วซานออกไปด้วย”“เหลวไหลอันใด ลั่วซานคือบุตรชายข้า เจ้าจะพาไปไม่ได้!!” คนที่กล่าวคือ มู่ฉิงเย่ มารดาเลี้ยงแสนประเสริฐ นางเบิกตากว้างจ้องหน้าหานลั่วอี้เขม็ง ความรู้สึกไม่ชอบใจฉายชัดในดวงตา“เช่นนั้นข้าก็จะไม่แยกบ้าน ปล่อยให้พินาศกันไปทั้งครอบครัวตามคำทำนายไปเสีย” นางเม้มปาก อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่จ้องหานลั่วอี้เขม็ง สายตาเผยความเคียดแค้นหานลั่วอี้ยกยิ้มมุมปาก มองสายตาเกลี
last updateLast Updated : 2025-08-15
Read more
ตอนที่ 3 บ้านหลังน้อยกับสามชีวิต
รถม้าแล่นไปตามทาง สองข้างถนนจากเดิมได้ยินเสียงพูดคุยจอแจของผู้คนหลังผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามความวุ่นวายของบ้านเมืองก็ค่อย ๆ จางหายเหลือไว้เพียงความเงียบสงบและท่วงทำนองจากธรรมชาติเยว่ฉีเลิกผ้าม่านกั้นหน้าต่างขึ้นมองออกไปยังทิวทัศน์ซึ่งประดับประดาไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ป่าไม้เขียวชอุ่ม มองดูธรรมชาติที่ห่างไกลจากความเจริญปลายทางของรถม้าคือหมู่บ้านชวีซาน หมู่บ้านชนบทตั้งห่างออกไปจากเมืองโม่ฉีหนึ่งชั่วยาม ซึ่งแต่เดิมคือที่ตั้งของจวนตระกูลหาน“ธรรมชาติก็ไม่เลว มีคำกล่าวว่าธรรมชาติช่วยบำบัดผู้ป่วย”“บำบัด?” คำพูดไม่คุ้นหูชวนให้บุรุษตรงหน้าสงสัย จึงเอ่ยถาม“บำบัด คือ การรักษา ว่ากันว่าธรรมชาติช่วยรักษาผู้คนได้” เยว่ฉีไม่คิดปิดบังคำพูดไม่คุ้นชิน เอ่ยอธิบายอย่างใจเย็น รอยยิ้มประดับดวงหน้า น้ำเสียงอ่อนโยน“มีเรื่องเช่นนี้ด้วย”“ในความทรงจำของข้าล้วนมีเรื่องเช่นนี้ ถึงจะไม่สามารถรักษาได้ทุกอาการเจ็บป่วย แต่สภาพจิตใจกลับสามารถ” ยามเอ่ยประโยคนี้นัยน์ตาเยว่ฉีมีประกายความคิดถึงเคลื่อนผ่านบางเบา ทำให้หานลั่วฉีไม่อาจสัมผัสถึงด้านหลังรถม้าของทั้งคู่มีรถม้าแล่นตามมาด้วยสองคัน หนึ่งคันคือรถม้าของหานลั่วซา
last updateLast Updated : 2025-08-15
Read more
ตอนที่ 4 ได้รับของวิเศษที่ก้นถัง
เช้าแล้ว เมื่อวานกว่าเยว่ฉีจะทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยพอให้นอนได้ก็ใช้เวลาไปไม่น้อย พอเสร็จจากการทำความสะอาดสิ่งที่นางทำต่อจากนั้นคือการหุงหาอาหาร และสิ่งที่ตามมาคือความหนักใจ เยว่ฉีก่อไฟไม่เป็นร้อนให้หานลั่วอี้มาช่วยก่อเขาช่วยยังไงนะหรือ? ก็ใช้พลังปราณทำให้ฟืนลุกไหม้ยังไงละ ตอนเห็นใบหน้านิ่ง ๆ ใช้พลังวิเศษจุดไฟให้ เยว่ฉียอมรับเลยว่าไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่เมื่อความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าสุดท้ายก็ต้องพยายามทำใจยอมรับว่าโลกที่หลุดเข้ามาอยู่เป็นโลกของพลังวิเศษว่าแต่นางมีพลังพิเศษหรือเปล่า ถ้ามีเหมือนคนในโลกนี้บ้างก็คงจะดี ทว่าจากความทรงจำของเจ้าของร่างดูเหมือนว่าเยว่ฉีจะไม่มีความสามารถดังกล่าวแต่เยว่ฉีคนก่อนกับเยว่ฉีคนปัจจุบันก็หาใช่คนเดียวกันบางทีคนก่อนไม่มีนางอาจจะมีก็ได้เยว่ฉีส่ายหัวให้กับความคิดตัวเอง เดินไปยังเพิงข้างบ้าน เริ่มต้นจัดการทำอาหารเช้าข้าวในบ้านคือข้าวที่ได้แวะซื้อก่อนจะมาถึงหมู่บ้านชวีซาน ซึ่งเพียงพอสำหรับครึ่งเดือน หลังจากนี้ต้องเข้าเมืองไปซื้อมาอีกรอบ เมื่อวานเยว่ฉีเห็นว่าในหมู่บ้านมีรถเทียมลาวิ่งเข้าออก คิดว่าน่าจะเป็นรถสำหรับรับคนเข้าไปในเมืองวันนี้เยว่ฉีไม่
last updateLast Updated : 2025-08-15
Read more
ตอนที่ 5 พบวิธีรักษา
“ของดี ของดี ของดี!!!” น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของเยว่ฉีดังระงมไปทั่วพื้นที่ นางวิ่งไปตรวจดูโดยรอบ สถานที่แห่งนี้คล้ายกับพื้นที่แถวชนบท มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ กลางบ่อน้ำมีต้นไม้ตั้งตระหง่านยืนต้นสูงเด่นเป็นสง่า ไกลออกไปมีภูเขาซึ่งมีหมอกปกคลุม มีกระท่อมไม้ไผ่หลังหนึ่งไม่ไกลจากบ่อน้ำ ด้านหลังกระท่อมมีป่าไผ่ขึ้นอยู่อย่างเป็นระเบียบ ข้างกันไม่ไกลจากกระท่อมหลังน้อยมีที่ดินขนาดใหญ่ประมาณสิบหมู่เต็มไปด้วยหญ้าเยว่ฉีเลือกที่จะเดินเข้าไปในกระท่อมก่อนเป็นอันดับแรก พอขาก้าวเข้าไปในกระท่อมพลันมีเสียงหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัว‘ยินดีต้อนรับผู้สืบทอดคนใหม่ นี่คือมิติขนาดเล็กที่ข้าทิ้งไว้ รอให้ผู้มีวาสนาได้มาค้นพบ’หลังประโยคนี้จบลงความตื่นเต้นดีใจยิ่งทวีขึ้นบนใบหน้างดงาม เยว่ฉีฉีกยิ้มกว้างราวกับคนบ้ายกมือขึ้นจับสองแก้มบิดใบบิดมา ท่าทางเขินอายแต่ประโยคต่อมากับทำให้นางต้องชะงัก‘ผู้มีวาสนาคนใหม่เป็นสตรีสติฟั่นเฟือนหรอกหรือ? ไร้ประโยชน์แล้ว ไร้ประโยชน์แล้ว’ถึงจะไม่เห็นหน้าเยว่ฉีก็รู้ว่าหากอีกฝ่ายมายืนตรงหน้า คงส่ายหน้าเอือมระอานางแน่นอนเยว่ฉีจึงจำเป็นต้องเก็บอาการตื่นตะลึงดีใจเอาไว้ก่อน หุบยิ้มเอ่ยเสียงตวัดปลายเล
last updateLast Updated : 2025-08-15
Read more
ตอนที่ 6 เพื่อนบ้าน
“คนพิการเช่นข้าสามารถทำให้เจ้ามีความสุขได้จริงหรือ” น้ำเสียงราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ของหานลั่วอี้ ไม่ได้ทำให้ความสุขบนใบหน้านางลดลง บุรุษผู้นี้ยังคงกังวลว่าเพราะขาทั้งสองข้างจะทำให้นางลำบาก นางจึงเดินเข้าไปใกล้อีกก้าววางมือลงบนหลังมือแกร่งเยว่ฉียังไม่พร้อมจะพูดเรื่องมิติให้สามีฟังตอนนี้ นางต้องการเวลามากกว่านี้ รอให้เขาคุ้นเคยกับนางทั้งยังเชื่อใจกันมากกว่านี้อีกสักนิด ให้ความรู้สึกมากมายก่อเกิดเป็นความยึดมั่นและไว้ใจ เมื่อถึงตอนนั้นนางจะไม่ปิดบังและพูดทุกอย่างออกไปกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เยว่ฉีต้องการจะรู้ว่าหากเขาสัมผัสถึงความผิดปกติบางอย่างจะยังปฏิบัติต่อนางเช่นเดิมหรือไม่ไม่ใช่ว่าเยว่ฉีขี้ระแวง แต่กลับคนที่พึ่งเจอกันแม้จะรู้สึกว่า คนคนนี้ไว้ใจได้ เขาไม่ใช่คนเลวร้าย อีกทั้งนางยังโชคดีจริง ๆ ที่ได้แต่งงานกับเขา หากแต่งงานกับคนอื่นเยว่ฉีก็ไม่มั่นใจว่าจะพบโชควาสนาและมีชีวิตจากที่เป็นอยู่หรือไม่ แต่ถึงจะโชคดีแต่ก็ใช่ว่าจะวางใจได้ทั้งหมด เรื่องความเชื่อใจ น้ำใสใจจริงต้องใช้เวลาดูกันอีกยาว“ข้าพูดความจริง”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” ในเมื่อนางยืนยันเช่นนั้นเขาก็ไม่เอ่ยย้ำ ทั้งยังไม่ถามว่านางหายไปที
last updateLast Updated : 2025-08-15
Read more
ตอนที่ 7 ขึ้นเขาไปด้วยกัน
“ลั่วอี้ข้าทำอาหารเอาไว้ให้ท่านแล้วรวมไปถึงยาสำหรับลั่วซาน ท่านช่วยป้อนลั่วซานแทนข้าด้วย แล้วก็นี่” เยว่ฉียื่นขวดหยกให้สามี ในนี้บรรจุน้ำแห่งชีวิตผสมเจือจางเอาไว้ตอนแรกนางตัดสินใจจะผสมเข้ากับน้ำที่ใช้ในการทำอาหาร แต่คิดไปคิดมาอาจจะเห็นผลไม่ดีเท่าที่ควร จึงได้ผสมเจือจางในปริมาณหนึ่งชามเล็กต่อน้ำแห่งชีวิตหนึ่งหยดแล้วบรรจุใส่ขวดให้ทานด้วย“ต่อจากนี้ท่านต้องดื่มวันละขวด ข้าจะเตรียมให้ท่านทุกเช้า” หานลั่วอี้มองขวดหยก ยื่นมือออกไปจับมาถือไว้ในมือ ก้มมองอย่างสงสัย“ท่านเชื่อใจข้าหรือไม่?” นางรู้ว่าเขาสงสัยแต่ก็ยังไม่พร้อมจะบอกความจริงตอนนี้ หวังเพียงว่าเขาจะเชื่อใจนางและไม่เอ่ยถามสิ่งใด หานลั่วอี้เงยหน้ามองภรรยา มองนัยน์ตาดอกท้อที่สะท้อนความจริงใจออกมาถึงจะยังสงสัยว่าสิ่งใดกันที่ถูกบรรจุอยู่ในขวดหยก ทว่าเพราะดวงตาที่มองมาและความกังวลบนใบหน้าช่วยให้เขาคลายความสงสัยลงไปหลายส่วน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอยากจะลองเสี่ยงดูลองเสี่ยงดูว่านางจะทำร้ายเขาหรือไม่“ข้าเชื่อใจเจ้า” น้ำเสียงตอบกลับช่างหนักแน่นในความรู้สึก เยว่ฉีย่อตัวลงตรงหน้าชายหนุ่ม วางมือลงบนหลังมือเขา จ้องหน้าเขม็ง“ข้าจะไม่ทำใ
last updateLast Updated : 2025-08-15
Read more
ตอนที่ 8 ภูเขาพืชวิญญาณ
“พี่หลัว พี่เฟิงต้องเดินขึ้นเขาไปอีกไกลหรือไม่ถึงจะพบจุดสำหรับหาพืชวิญญาณ” เดินขึ้นเขามาสองเค่อแล้วทว่าแม้แต่พืชวิญญาณสักตนยังไม่พบนางเหนื่อยหอบได้แต่หายใจออกมาเสียงดัง อ้าปากพังพาบ ยกมือขึ้นเช็ดหน้าผากทั้งสองคนมองมายังคนไม่เคยขึ้นเขา ทั้งที่เหนื่อยมากแต่กลับไม่บ่นออกมาสักคำเอาแต่ถามเป็นระยะว่าถึงจุดเก็บพืชวิญญาณหรือยังความกระตือรือร้นเช่นนี้ทำคนใจอ่อนได้ไม่ยาก“อีกไม่ไกล” หลัวหรูตอบ“พี่หลัวข้าเชื่อพี่” เยว่ฉีสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง ตั้งหน้าตั้งตาเดินตามหลังคนทั้งสองไปเรื่อย ๆ ผ่านมาอีกครึ่งเค่อในที่สุดทางลาดชัน ต้นไม้รกชัฏ และพุ่มไม้เขียวขจี ก็เปลี่ยนเป็นทางราบเรียบ พื้นทุกส่วนเสมอกัน ถึงจะยังมีต้นไม้สูงใหญ่ ต้นหญ้า พุ่มไม้เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ลาดชันจนเข่าสั่นเหมือนเมื่อสักครู่“พี่หลัวถึงแล้วใช่หรือไม่?”“ใช่ เจ้ารู้จักพืชวิญญาณหรือไม่” หลัวหรูถามกลับ เด็กสาวผู้นี้ยังมิเคยขึ้นเขานางจึงไม่ทราบแน่ชัดว่ารู้จักพืชวิญญาณมากน้อยแค่ไหน หากไม่รู้นางจะได้บอกกล่าวได้ถูกต้อง“พี่หลัววางใจเมื่อคืนข้าได้ศึกษาชนิดพืชวิญญาณมาบ้างแล้ว พอมีความรู้อยู่บ้าง”“เจ้ามีหนังสือ!?” ความประหลาดใจในดวงตา
last updateLast Updated : 2025-08-16
Read more
ตอนที่ 9 โชคบนภูเขา
เยว่ฉีอาศัยความทรงจำที่ได้จากการอ่านหนังสือเมื่อคืนมองหาไปเรื่อย ๆ พืชวิญญาณไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายหรือมีอยู่เกลื่อนกลาด เพราะฉะนั้นหลังผ่านมาสองเค่อแล้วเยว่ฉีจึงยังหาไม่พบแม้สักต้นทว่าในระหว่างที่นางกำลังจะเดินไปยังทิศทางอื่น พลันได้ยินเสียงผู้อาวุโสดังขึ้นในความคิด‘ตรงไปด้านหน้าครึ่งเค่อฝั่งขวามือ’“ผู้อาวุโสตรงนั้นมีอันใดหรือ” นางคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ดังลอดออกมา ก่อนจะได้ยินเสียงผู้อาวุโสเอ่ย‘เดินไปตามที่ข้าบอกเจ้าจะพบสิ่งที่ต้องการ’ ดวงตางดงามเป็นประกาย จากคำพูดของผู้อาวุโสสามารถคาดเดาได้ว่าต้องเป็นพืชวิญญาณวิญญาณอย่างแน่นอนเยว่ฉีเดินไปตามทางที่ผู้อาวุโสบอกก่อนจะพบก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง กวาดตามองโดยรอบ ก่อนจะเดินวนรอบก้อนหินก็ไม่พบพืชวิญญาณแม้สักต้น หัวคิ้วพลันขมวดเข้าหากันคล้ายผู้อาวุโสอ่านความคิดนางออก จึงเปรยขึ้นมาว่า‘วางมือลงบนก้อนหิน ข้าจะใช้เจ้าเป็นตัวกลางในการเปิดม่านพลัง’เยว่ฉีทำตามอย่างว่าง่ายไม่นานก็เห็นว่าก้อนหินซึ่งดูไม่มีอะไรเกิดช่องว่างขนาดเท่าคนขึ้นตรงหน้าพลังพิเศษสุดยอดจริง ๆ“ผู้อาวุโสหมิงท่านรู้ได้เช่นไรว่าตรงหน้ามีการร่ายคาถาอำพรางเอาไว้” แม้เยว่
last updateLast Updated : 2025-08-16
Read more
ตอนที่ 10 ลงเขา
“ผู้อาวุโส ท่านพอจะมีทางช่วยข้าหรือไม่?”‘…’“ผู้อาวุโส?”‘…’ ยังคงไม่ตอบผู้อาวุโสหมิงคงไม่ได้หมายความว่าให้นางขุดพืชวิญญาณทั้งหมดขึ้นมาด้วยตนเองใช่ไหม? ดูจากพืชวิญญาณสองต้นก่อนหน้านางยังใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วยาม !! หากต้องใช้มือขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมา มิใช่ว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลยหรือ? นางมีเวลาว่างขนาดนั้นที่ไหนกันผู้อาวุโสหมิงคงไม่ใจร้ายกับนางมากเกินใช่ไหม?‘บ่นข้าพอหรือยัง?’รู้ได้ยังไงว่านางกำลังบ่นให้ จะเฉียบแหลมเกินไปแล้ว !!ถึงในใจเยว่ฉีจะบ่นไปร้อยแปดพันเก้า ทว่ายามเอ่ยออกมากับมีนัยประจบอยู่หลายส่วน “ผู้อาวุโสข้าหาได้คิดเช่นนั้น ท่านอย่าเข้าใจข้าผิด”ท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยประจบประแจงของเยว่ฉีทำผู้อาวุโส หมิงหมั่นไส้ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะยืมร่างหญิงสาวเป็นสื่อกลางอีกครั้งมือเรียวสวยยกขึ้นตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่พืชวิญญาณทั้งหมดบนพื้นที่กว่าหนึ่งหมู่มีประกายแสงสีทองห้อมล้อมเอาไว้ทั้งต้นผู้อาวุโสหมิงใช้พลังจิตของตนในการโอบอุ้มและขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมาในครั้งเดียว พืชวิญญาณที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังจิตปรากฏขึ้นบนอากาศไม่มีส่วนใดเสียหาย กระทั่งดินซึ่งติดอยู่ตามรากยั
last updateLast Updated : 2025-08-16
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status