Share

ตอนที่ 11 สะดุดก้อนหิน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-16 16:36:49

ดินแดนเฟยฮ่าว มีผู้ฝึกปราณที่เก่งกาจที่สุดอยู่ที่ฝึกปราณขั้นเก้า ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการพัฒนาตนเองให้เก่งกาจไปมากกว่านี้ ทว่าด้วยทรัพยากรที่มีจำกัดทำให้ความเร็วในการฝึกปราณช้าลง

ยิ่งระดับสูงความต้องการในทรัพยากรจะยิ่งมากขึ้นและยังหมายถึงเงินที่ต้องใช้จ่ายออกไป

หากต้องการไปให้สูงกว่าต้องเดินทางไปยังดินแดนที่สูงกว่า ทว่าจะสามารถผ่านเข้าไปได้หรือไม่ ก็ต้องดูที่ความสามารถของคนคนนั้น

ที่เยว่ฉีไม่ทราบเพราะในหนังสือที่ผู้อาวุโสให้มามีเพียงภาพและคำอธิบายลักษณะ รวมไปถึงระดับของพืชวิญญาณ ไม่ได้กล่าวถึงการนำไปใช้

สองสามีภรรยามึนงงอยู่บ้างว่าเหตุใดเยว่ฉีถึงได้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับพืชวิญญาณมากถึงเพียงนี้ แต่ไม่นานก็สลัดความคิดนั้นไป โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นักบางทีคนบางคนก็ใช่จะต้องรู้ไปเสียทุกเรื่อง

“พี่หลัวพืชวิญญาณต้นนี้ขายได้เท่าใด”

“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่สองตำลึงสูงสุดที่สี่ตำลึงขึ้นอยู่กับคุณภาพว่าสูงหรือต่ำ”

สี่ตำลึง !!!นางสามารถหาเงินได้ถึงสี่ตำลึงในเวลาเพียงสองเค่อ

ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว

“พี่หลัวพวกท่านหาพืชวิญญาณได้หรือไม่” ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า

“โชคร้ายที่ข้ากับพี่เฟิงไม่พบพืชวิญญาณ”

“เช่นนั้นข้าให้พวกท่านต้นหนึ่ง” ไม่ว่าเปล่าเยว่ฉีรีบประคองพืชวิญญาณขึ้นมายื่นให้หลัวหรู

“จะได้อย่างไร!!พืชวิญญาณเป็นเจ้าหามาได้จะเอามาให้ข้าง่าย ๆ ได้เช่นไร” ต้องบอกก่อนว่าเงินสองตำลึงสำหรับครอบครัวชนบทถือว่าเป็นเงินไม่น้อย เพียงพอให้พวกเขาใช้จ่ายได้นานสองเดือน แต่เมื่อเทียบกับผู้ฝึกปราณเหล่านั้น เงินสองตำลึงเพียงพอให้ซื้อโอสถระดับหนึ่งเพียงเม็ดเดียว

ส่วนโอสถระดับสามไม่ต้องพูดถึงแค่ราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่สี่ตำลึงไปจนถึงสิบตำลึงต่อโอสถหนึ่งเม็ด

“พี่หลัวท่านรับไปเถิด ถือว่าเป็นน้ำใจของข้า พวกท่านอุตส่าห์เข้ามาทักทายทั้งยังช่วยเหลือสอนสั่งข้าหลายเรื่อง ให้ข้าได้ตอบแทนบ้าง” หลัวหรูมีสีหน้าลำบากใจ หันไปมองสามีก็เห็นว่าเขาก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน

ทั้งหลัวหรูและเฟิงซิ่วหาใช่คนชอบฉวยโอกาส ทั้งสองคนใช้ชีวิตอยู่ในหลักการที่ว่า พวกท่านไม่ข่มเหงข้า ข้าไม่ข่มเหงพวกท่าน และจะไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น

“หากพวกท่านไม่รับเช่นนั้นข้าจะโยนทิ้ง” คำขู่ของเด็กสาวหาได้ทำให้ทั้งสองไม่พอใจ กลับกันคำขู่ไม่จริงเช่นนี้กลับสามารถเรียกความเอ็นดูได้อีกหลายส่วน

หลังโต้เถียงกันไปมาหลายประโยคหลัวหรูก็ต้องยอมอ่อนข้อให้กับความดื้อรั้นของเยว่ฉี ยอมรับมาอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งยังบอกกล่าวว่า คราวหลังหากครอบครัวนางมอบสิ่งใดให้เยว่ฉีก็ห้ามปฏิเสธ

เพื่อความสนิทสนมเพิ่มมากขึ้นเยว่ฉีจึงตอบตกลง หากทั้งสองคนทำดีกับนาง นางก็จะทำดีต่อทั้งคู่เช่นเดียวกัน

ถือว่าช่วยเหลือกันและกัน

เมื่อเวลาล่วงเลยไปนานจนถึงยามอู่ (11.00 – 13.00 น.) ทั้งสามคนก็หารือกันและตกลงว่าจะลงจากเขา ผลประกอบการวันนี้เรียกได้ว่าดีไม่น้อย ปกติแล้วครอบครัวเฟิงมักจะพบเพียงพืชวิญญาณระดับหนึ่งที่ขายได้ราคาไม่ถึงหนึ่งตำลึงเพราะคุณภาพต่ำ น้อยครั้งจะพบพืชวิญญาณระดับสอง ส่วนระดับสามไม่ต้องพูดถึง ทั้งคู่ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้าคร่าตา ทว่าวันนี้หญิงสาวผู้ไม่เคยขึ้นเขามาก่อนกลับโชคดีพบเจอพืชวิญญาณระดับสาม

หากไม่บอกว่าดีแล้วจะเรียกว่าอะไร

ทั้งสามคนยังคงพูดคุยกันสนุกสนาน ระหว่างเดินลงจากเขาหลัวหรูตัดสินใจเล่าถึงอันตรายบนภูเขาให้เยว่ฉีฟัง เพราะพอจะรู้แล้วว่าความรู้เกี่ยวกับอันตรายบนภูเขาของเด็กสาวมีน้อยมาก

หลังเยว่ฉีได้ฟังสิ่งที่หลัวหรูกล่าวก็อดรู้สึกสั่นสะท้านไม่ได้ โชคดีที่นางไม่พบเจออันตรายใด ๆ

บางทีที่นางเดินลึกเข้าไปในป่าแล้วยังไม่พบเจออันตราย ผู้อาวุโสหมิงอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ก็เป็นเพราะความโชคดีของนางเอง

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดเยว่ฉีก็โล่งใจที่ไม่พบเจอ

ในระหว่างที่ทั้งสามคนพูดคุยกันอยู่นั้น เยว่ฉีพลันสะดุดอะไรบางอย่างหน้าทิ่ม ยังดีที่เฟิงซิ่วซึ่งเป็นผู้ฝึกปราณขั้นสองยื่นมือออกมาช่วยเอาไว้ได้ทัน ทำให้หน้าหญิงสาวไม่ต้องล้มลงไปแนบกับพื้น

“ขอบคุณพี่เฟิงมาก” เฟิงซิ่วพยักหน้าปล่อยมือนางทันที ส่วนหลัวหรูที่ยืนอยู่ข้างกันรีบเอ่ยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

“น้องเยว่เป็นอันใดมากหรือไม่ บาดเจ็บที่ใดบ้าง”

เยว่ฉีพูดกลั้วหัวเราะ “พี่หลัวข้าไม่เป็นอะไร ต้องขอบคุณพี่เฟิงมิเช่นนั้นหน้าข้าคงลงไปจูบกับพื้นแล้ว”

เสียงพูดกลั้วหัวเราะช่วยคลายความเป็นห่วงของนาง

“ไม่เป็นอันใดก็ดีแล้วคราวหลังก็เดินให้ระวัง”

“ขอบคุณพี่หลัวที่เป็นห่วง” เยว่ฉีกล่าวขอบคุณก่อนจะก้มลงไปหยิบก้อนหินขึ้นมาถือ ตอนที่ขาสัมผัสก้อนหินนางคล้ายสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เป็นอาการคล้ายกับถูกบางสิ่งดึงดูดให้เข้าใกล้ อดไม่ได้จนต้องหยิบขึ้นมาสัมผัสดูอีกครั้ง

จังหวะที่ก้อนหินเข้าสู่อ้อมกอด ประกายอบอุ่นพลันกระจายไปทั่วทั้งร่าง เยว่ฉีก้มหน้ามองขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะถือหินก้อนนี้กลับบ้านไปพร้อมกัน

หลัวหรูและเฟิงซิ่วสงสัยในการกระทำ เยว่ฉีที่สังเกตเห็นจึงกล่าวอธิบาย

“พี่หลัว พี่เฟิง ข้าจะนำหินก้อนนี้ไปประดับบ้าน ในเมื่อพบเจอกันแล้วก็ถือว่าเป็นโชควาสนา” คำพูดยิ้ม ๆ ของหญิงสาวเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนทั้งสอง

แม้จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ทว่าก็ยังมีความคิดเช่นเด็ก ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 172 ศึกจัดอันดับรอบสอง [2]

    หญิงสาวตรงหน้ายังคงแย้มยิ้ม ทว่าบรรยากาศกดดันกลับทำให้คนทั้งสามไม่กล้าแม้จะขยับตัว พลังจิตแผ่กระจายออกไป ปกคลุมทั่วทั้งร่าง ก่อนจะควบคุมให้เข้าไปโจมตีจิตของอีกฝ่ายยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้กว่าหนึ่งจั้ง คนทั้งสามก็หมดสติล้มลงไปนอนบนพื้นเสียแล้วรอยยิ้มงดงามหดหาย ใบหน้าเผยความรู้สึกเสียดาย หลุบตาลงมองคนทั้งสาม พร้อมเอ่ยออกมาว่า“จบแล้วหรือ?”น้ำเสียงเสียดายถูกเอ่ยออกมา หญิงสาวเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย ก่อนจะหันหลังเดินห่างออกมาตัดสินผู้ชนะบนลานประลอง พร้อมม่านพลังที่จางหายไปทั้งที่เป็นคำพูดและน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ซึ่งความกดดัน แต่กลับสามารถกระตุ้นความรู้สึกของคนที่มองอยู่ด้านบนได้เป็นอย่างดี“สตรีผู้นั้นเป็นใครกัน จัดการได้ยอดเยี่ยมมาก รอยยิ้มของนางทำเอาข้าขนลุกซู่ไปทั้งตัว” อู๋หนิงอันที่มองการแข่งขันอยู่ถึงกับตาแข็งค้าง ไม่คิดว่าสตรีที่ดูไม่มีพิษภัย พอเผยยิ้มร้ายจะทำให้คนตัวแข็งค้าง“ข้าชอบนาง ข้าจะเลือกนางมาเป็นคนของตระกูลข้า !!” อู๋หนิงอันเอ่ยเสียงหนักแน่น ไม่ได้พบเจอสตรีที่มีท่าทีถูกใจนางเช่นนี้มานานแล้ว นางตื่นเต้นจนอยากจะลงไปทักทายเสียตอนนี้“เหอะ คนเช่นนี้ต้องมาที่ตระกูลไท่เท่า

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 171 ศึกจัดอันดับรอบสอง [1]

    เวลาหนึ่งวันไม่ถือว่านาน แต่สำหรับคนที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับนั้น เวลาหนึ่งวันคือช่วงเวลาบีบเคล้นพวกเขาให้หายใจลำบากเมื่อการทดสอบรอบแรกสิ้นสุดลง ในที่สุดพวกเขาก็โห่ร้องออกมาได้เสียที ไม่ใช่โห่ร้องออกมาจากความดีใจเพียงอย่างเดียว แต่โห่ร้องออกมาเพราะความโล่งใจ ที่ในที่สุดก็ผ่านรอบแรกมาได้การแข่งขันรอบสองจะถูกจัดขึ้นวันพรุ่งนี้ ยังพอมีเวลาให้เตรียมตัวศิษย์ทั้งหลายเดินทางออกจากลานประลองแล้ว ศิษย์หลายคนมีสีน่าเศร้าสร้อยเพราะไม่ผ่านการแข่งขันรอบแรก หลายคนเอ่ยปลอบเพื่อนที่รู้จักกันพร้อมบอกว่ายังมีการแข่งขันอีกครั้ง สามารถเข้าร่วมได้เสมอ หรือไม่หากมั่นใจในความสามารถตนเองก็สามารถขอท้าสู้คนที่อยู่ในรายชื่อผู้แข็งแกร่งได้ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เยว่ฉีเพิ่งได้รู้ตั้งแต่เข้ามาในสำนัก นางไม่เคยได้ใช้เวลาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ในสำนักเลย หากไม่เข้าไปฝึกฝนในมิติ ก็เข้าไปฝึกฝนในหุบเขา ขนาดสวนสมุนไพร หรือห้องแรงโน้มถ่วงก็ยังไม่เคยเข้าไปเหยียบเลยสักครั้งหอสมุดยิ่งแล้วใหญ่ อาจารย์บอกว่าในมิติมีหนังสือเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องไปเสียแต้มกับของแบบนั้นนางผู้ได้ชื่อว่าศิษย์ผู้เชื่อฟังจึงไม่เคยเข้าไปในหอสมุดวันที่สอ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 170 ศึกจัดอันดับรอบแรก [4]

    ฝั่งหวานเว่ยก็มีสภาพไม่ต่างกัน นางกระโดดมายืนข้างเสินเทียน ทั้งสองคนหันหลังเข้าหากัน สายตาแน่วแน่ไม่คิดยอมแพ้ ทั้งที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเยว่ฉีผู้นั่งมองเหตุการณ์ยกยิ้มยื่นมือเข้าช่วยเล็กน้อยคงไม่เป็นไรกระมัง ว่าแล้วก็ขยายพลังจิตลงไปด้านล่าง โอบล้อมคนทั้งสิบเอาไว้ อาศัยช่วงที่อีกฝ่ายกำลังได้ใจ โจมตีเข้าไปในจิตให้เสียหลักสองคนที่เหลือมองเห็นความผิดปกติเล็กน้อย อาศัยโอกาสที่เยว่ฉีสร้างให้ โจมตีอีกฝ่ายจนหมดสติ จากนั้นก้มลงเก็บป้ายหยกออกมา“สนุกพอแล้วก็ออกมา” เป็นเสินเทียนที่เอ่ยขึ้น การโจมตีเมื่อสักครู่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเยว่ฉี เพราะคงไม่มีคนใจดีที่ไหนยื่นมือเข้าช่วยคนที่ตนไม่รู้จักเขากวาดตามองบริเวณโดยรอบ ก่อนจะมองเห็นเยว่ฉีนั่งแกว่งขาไปมาท่าทางสบายใจอยู่บนกิ่งไม้ ข้างกายนางมีหานลั่วอี้ยืนมองอยู่“สนุกมากไหม? ที่เห็นพวกข้ากำลังเสียเปรียบ”“สนุกมาก ได้เห็นสีหน้าลำบากใจของเจ้าข้ายิ่งมีความสุข” นางเอ่ยยิ้ม ๆ กระโดดลงมาจากต้นไม้ แต่ก่อนร่างกายจะถึงพื้นลมสายหนึ่งก็มารองใต้เท้านางรู้ว่าเป็นฝีมือใคร จึงหันไปเอ่ยขอบคุณเสินเทียนมองทั้งสองคนที่สภาพยังดีอยู่ จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พว

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 169 ศึกจัดอันดับรอบแรก [3]

    การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปศิษย์หลายคนถูกคัดออกในเวลาไม่นาน ในขณะที่ศิษย์อีกหลายคนสามารถสะสมแต้มได้ครบ และผ่านเข้ารอบถัดไปสองสามีภรรยาเยว่หานผู้โชคดีได้พบศิษย์เข้ามามอบแต้มให้ถึงมือ ไม่อยากจะเชื่อว่าหลังจากนั้นมาทั้งสองคนจะไม่พบใครอีกเลย“ลั่วอี้พวกเราดวงซวยเกินไปหรือไม่?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในป่า นอกจากสัตว์อสูรที่เข้ามาหาเรื่องเป็นครั้งคราวแล้ว พวกเขาก็ไม่พบศิษย์คนใดอีกเลย ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในหุบเขาแห่งนี้แล้วบุรุษถูกถามผินหน้ามองภรรยา มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย“ภรรยายังมีเวลาอีกมาก”“ข้ารู้ แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ ท่านไม่คิดว่ามันแปลกหรือ? ผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในหุบเขา นอกจากสองคู่แรกที่เข้ามาหาเรื่องเอง พวกเรายังไม่พบใครอีกเลย”“บางทีจุดที่พวกเราปรากฏตัวอาจจะห่างไกลจากศิษย์คนอื่น”เยว่ฉีคิดตามแล้วพยักหน้า ถึงอย่างนั้นนางก็ยังสงสัยศิษย์เข้ามาในหุบเขาตั้งมากมาย เหตุใดถึงหาไม่เจอ!!นางอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ยังเหลือเวลาอีกมากกว่าเวลาการแข่งขันจะสิ้นสุดลง ไม่แน่บางทีเดินหน้าต่อไปอีกไม่กี่ก้าวพวกเขาอาจจะพบศิษย์คนอื่น ๆคิดได้ด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 168 ศึกจัดอันดับรอบแรก [2]

    “ลั่วอี้พวกเราเรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบหรือไม่?” เยว่ฉียืนนิ่งอยู่ด้านหลังหานลั่วอี้ ใช้พลังจิตตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ชายหนุ่มสกัดการโจมตีที่พุ่งมาจากทุกทิศทาง สีหน้าเรียบเฉย“ภรรยาพวกเขาคงหมายตาเจ้ากระมัง”“ระหว่างการแข่งขันเนี่ยนะ?! เสียสติไปแล้วหรือ” หญิงสาวส่ายหัว เอ่ยเสียงเรียบ“ท่านจัดการได้หรือไม่? ข้ายังไม่อยากเผยความสามารถเท่าใดนัก”“ภรรยาเจ้าสามารถยืนนิ่งปล่อยให้สามีปกป้อง” เยว่ฉีถึงกับหลุดขำให้ประโยคหวานพูดออกมาด้วยหน้านิ่ง ๆ ได้ยังไงกันนะ เป็นบุรุษที่มีความสามารถเสียจริง“เชิญสามีปกป้องข้า” ว่าจบก็หย่อนตัวลงนั่งบนโขดหินที่ยืนเมื่อสักครู่ คนมาล้อมจู่โจมถึงกับงงงวย ทว่าไม่นานพวกเขาก็เข้าใจแม้จะบอกว่านั่งนิ่งให้ปกป้อง แต่ความจริงแล้วเยว่ฉีกำลังนั่งตรวจสอบว่าพวกเขาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ที่ใด จากนั้นส่งที่อยู่ทั้งหมดเข้าไปในหัวหานลั่วอี้เพื่อยืนยันว่าจุดที่ชายหนุ่มสัมผัสได้กับจุดที่นางเห็นตรงกันจากนั้นลมสายหนึ่งก็พุ่งเข้าจู่โจมคนทั้งสี่จนหมดสติในการโจมตีเดียว“ง่ายกว่าที่คิดเสียอีก” หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ปัด ๆ เศษดินออกจากมือ ยื่นมือออกไปรับป้ายหยกที่หานลั่วอี้ใช้พลังยึดมาทั้งสองคนแ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 167 ศึกจัดอันดับรอบแรก [1]

    หลังผ่านการฝึกฝนอย่างหนักใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขาหลังสำนักมานานในที่สุดวันที่พวกเขารอคอยก็มาถึงศึกจัดอันดับเพื่อกลายเป็นหนึ่งในร้อยอันดับผู้แข็งแกร่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้วบนลานกว้างเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์ที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับ ชายหนุ่ม หญิงสาวเลือดร้อนที่ต้องการเข้าชิงหนึ่งในที่นั่งร้อยอันดับแรก ต่างรวมตัวกันอยู่บนลานประลองเหนือพวกเขาขึ้นไปด้านบน อาจารย์อาวุโสพร้อมอาจารย์ท่านอื่น ๆ ต่างยืนเรียงรายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบนที่นั่งพิเศษเช่นเดียวกับตอนแรกนอกจากนั้นยังมีคนจากดินแดนระดับสูงที่กำลังกวาดตามองพวกเขาอยู่สายตาเสาะหาและพิจารณาเหล่านั้นกำลังจับจ้องทุกคนบนลานประลอง“สวัสดีเหล่าเด็กผู้กระหายความแข็งแกร่งในที่สุดศึกจัดอันดับระหว่างศิษย์ด้วยกันเองก็มาถึงแล้ว ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะมีศิษย์เข้าร่วมจำนวนมากจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันเล็กน้อย”อาจารย์อาวุโสลอยออกมากลางลานประลองเหนือศิษย์ทั้งหลาย เขาวาดมือบนอากาศครั้งหนึ่ง ป้ายหยกขนาดเท่ากับป้ายชื่อก็ลอยมาตรงหน้าพวกเขา“สิ่งนี้เรียกว่าป้ายหยกประจำตัว บนนั้นจะมีแต้มอยู่สองแต้ม สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำมีเพียงอย่างเดียว คือเปลี่ยนแต้มบ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status