แชร์

บทที่ 2 โดนทำร้าย

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 12:20:17

บทที่ 2 โดนทำร้าย

“สำออยอะไรกัน โดนไม้กวาดแค่นี้ ยังไม่รีบเข้าไปทำอาหารเย็นอีก คนรอกินข้าวอยู่ทั้งบ้านไม่รู้หรือยังไง” ไม่พูดเปล่า ยังใช้ไม้ตีเข้าไปที่ผนังห้องครัวหลายครั้งจนฝุ่นกระจายฟุ้งไปทั่ว

“อืดอาดยืดยาดไม่รู้จักเวล่ำเวลา หรือจะให้ฉันต้องตีพวกแกกระตุ้นอีกฮะ! เป็นวัวเป็นควายหรือยังไง”

คำขู่ของหญิงชราทำให้เว่ยตงพร้อมทั้งลูกและภรรยาอึ้งไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าแม่ของตนหรือย่าแท้ ๆ ของตนจะคิดเช่นนั้น วัวควายกินหญ้าและมีไว้ให้คนจูงจมูกไปทั่ว ยังไม่ถูกตีหนักเท่าพวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกเลยด้วยซ้ำ

แต่พอมีคนมาตอกย้ำแบบนี้ก็ยิ่งทำให้นึกย้อนกลับไป ดูเหมือนพวกตนมีชีวิตที่แย่ยิ่งกว่าวัวควายเสียอีก

“ย่าใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ อย่าโมโหเลยค่ะจะกระทบต่อสุขภาพนะ” เว่ยหนานหลานรักที่ยืนนิ่งมาตลอดเอ่ยปากขึ้น คล้ายรู้ว่าย่ารอคอยที่จะปล่อยให้ตัวเองเดินเข้าไปประคองด้วยคำพูดออดอ้อนเอาใจ 

“หึ! ไม่มีใครห่วงฉันเท่าอาหนานแล้ว พวกแกมันไม่ได้เรื่อง ทำให้ฉันโมโหได้ทุกวี่ทุกวัน คิดจะให้ยายแก่เช่นฉันอกแตกตายหรืออย่างไร!” นางหวังซื่อยังไม่หายโมโห ฟาดไม้กวาดลงหลังลูกชายคนโตเบา ๆ อย่างเคยชิน

เวลาที่โมโหหรืออารมณ์ไม่ดี ก็มีเพียงครอบครัวของลูกชายคนโตคอยรองรับเป็นที่ระบายอารมณ์ วันนี้โชคร้ายที่นางหวังซื่อเพิ่งได้ข่าวร้ายจากลูกชายคนรอง ว่าฝ่ายคู่หมั้นของหลานชายคนสำคัญต้องการเรียกสินสอดเพิ่ม วันนี้จึงอารมณ์ไม่ดีมากกว่าปกติ

บ้านนี้จะมีเงินที่ไหนมากขนาดนั้นกันล่ะ ไอ้พวกไม่ได้เรื่องพวกนี้ก็หาเงินเข้าบ้านได้น้อยเหลือเกิน รายจ่ายก็มีมารออยู่เยอะแยะ แค่คิดนางหวังซื่อก็โมโหจนอยากจะฟาดหัวนังเด็กไร้ประโยชน์เว่ยซิ่วอิงแรง ๆ อีกสักครั้ง

ความจริงแล้วนางหวังซื่อคิดจะขายเว่ยซิ่วอิงให้แต่งงานออกไปเร็ว ๆ เพื่อหาเงินมาแต่งมาหมั้นหลานสะใภ้ แต่ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะโดนตาเฒ่าขัดใจให้เห็นแก่หน้าลูกชายคนโต ดังนั้นจึงยิ่งเกลียดครอบครัวนี้มากขึ้นไปอีก

“พวกตัวไร้ประโยชน์ วัวควายยังรู้จักไถนา แค่ทำกับข้าวยังชักช้าขนาดนี้ ไร้ประโยชน์สิ้นดี ยังไม่รีบเข้าครัวไปอีก!”

“...” เว่ยตงกำมือแน่น มองศีรษะของลูกสาวที่บวมปูดขึ้นมาด้วยดวงตาแดงก่ำ แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย คำว่ากตัญญูเหมือนค้ำคออยู่และไม่สามารถที่จะตอบโต้ได้

อีกทั้งเว่ยตงยังถูกสั่งสอนมา ว่าพี่ชายคนโตต้องดูแลครอบครัว ตั้งแต่เล็กจึงมักใช้แรงกายเพื่อดูแลครอบครัวมาตลอด คิดว่าต่อไปพ่อแม่ก็คงต้องอยู่กับตนตามธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมายาวนาน

แต่แม่ของเขาโหดร้ายต่อครอบครัวเล็ก ๆ นี้ขึ้นทุกที ไม่ว่าจะรังเกียจลูกสะใภ้ที่ไม่สามารถให้บุตรชายได้ รังเกียจหลานสาวที่ไม่ได้ดั่งใจ สุดท้ายก็เป็นลูกชายอย่างเขาที่ไม่เอาไหน

บางทีเว่ยตงเองก็อยากจะถามผู้เป็นแม่สักครั้ง ว่าหากเขาไม่เอาไหนขนาดนั้น ทำไมไม่ทิ้งเขาไปเสียเลยล่ะ จะเก็บเขาไว้ทำไม

“ยังไม่รีบไปทำอาหารอีก!” เสียงของผู้เป็นแม่ปลุกสติของเว่ยตง พร้อมกับความอบอุ่นจากมือเล็กของลูกสาวที่ลูบแขนตนเบา ๆ

“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ อิงอิงไม่เป็นไร” คำพูดของลูกสาวทำให้เว่ยตงเจ็บปวดใจจนกัดปากตนเองแตก รู้สึกถึงกลิ่นสนิมในปากทันควัน

“ผมจะพาลูกเมียเข้าไปทำครัวเอง คนในบ้านก็นั่ง ๆ นอน ๆ รอกินเถอะ วางใจได้!”

“ไอ้ลูกคนนี้ แกกล้าประชดฉันเหรอ”

“แม่เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้ประชด จะเข้าไปทำครัวเดี๋ยวนี้แหละ” เว่ยตงเพียงแค่หันหลังต้อนภรรยาและลูกสาวเข้าครัวไป ก่อนปิดประตูเงียบอยู่ภายใน

เมื่ออยู่เพียงลำพังสามคนในครัวเล็ก ๆ นี้แล้ว เว่ยตงก็อดที่จะปลอบลูกสาวและภรรยาไม่ได้

“พ่อขอโทษนะลูก เหม่ยฟางพี่ขอโทษ”

“ไม่เลย พี่ไม่ผิด นั่นก็พ่อแม่ของพี่ ฉันเข้าใจ”

“อิงอิงก็เข้าใจพ่อค่ะ”

เว่ยตงกัดฟันเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาเริ่มมีแผนการในใจที่ต้องการให้ลูกเมียไม่ต้องอดทนอีกต่อไป แต่คงไม่นึกว่าแผนการนั้นยังไม่ทันได้เริ่ม…ลูกสาวของเขาก็อยู่รอไม่ไหวเสียแล้ว

เช้าวันนี้ชีวิตของเว่ยซิ่วอิงก็ยังคงเหมือนเดิมไม่ได้ต่างไปจากวันอื่น ๆ เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโวยวายลั่นบ้านของย่า ก็พบว่าตัวเองตื่นสาย

“ไม่เป็นไรอิงอิง ลูกนอนต่อเถอะ แม่ทำอาหารไว้หมดแล้ว”

“แต่ย่าจะว่าอิงอิงกับแม่ได้” เว่ยซิ่วอิงจับมือที่หยาบกร้านของแม่อย่างสงสาร รู้สึกผิดที่ตื่นสายจนทำให้แม่ต้องทำงานหนักมากขึ้น

“ไม่เป็นไร วันนี้พ่อไปแบกน้ำมาแล้ว ลูกไม่ต้องทำ” ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาในห้องเล็ก ๆ ซึ่งถูกแบ่งให้พวกเขาสามคน ใช้หลังมือวัดไข้ลูกสาวพบว่ายังตัวรุม ๆ อยู่ก็ร้อนใจ

“ไปหาหมอดีไหมลูก”

“แต่เราไม่มีเงินนะคะ” เว่ยซิ่วอิงมองพ่อด้วยดวงตาใสกระจ่าง ตั้งแต่เกิดจนโตไม่เคยได้ใช้เงินไปหาหมอสักครั้ง

ย่ามักจะบอกว่าเด็กผู้หญิงอย่างเธอเสียเงินเปล่า เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่เคยยอมให้พาไปหาหมอ มีครั้งหนึ่งตอนอายุห้าหกขวบหญิงสาวป่วยหนัก แม่ถึงขนาดต้องไปขอยืมเงินจากญาติฝั่งแม่เพื่อพาไปโรงพยาบาล

ความลำเอียงของคนเป็นย่าทำให้ทั้งครอบครัวรู้สึกอึดอัด แต่จนถึงตอนนี้ก็กลายเป็นชินชาไปเสียแล้ว

“เดี๋ยวแม่จะไปขอยืมป้าจาง เราลาไปตอนบ่ายกันก็ได้”

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ อิงอิงไม่เป็นไร” เว่ยซิ่วอิงรู้สึกผิดต่อพ่อแม่ที่ทำให้พวกท่านลำบาก เธอไม่กล้าสร้างปัญหามากขึ้นไปอีก

“ถ้าลูกไม่ไหวให้บอกพ่อนะ วันนี้ลูกทำนาได้แต้มเท่าไรก็ช่างเถอะ พ่อจะคุยกับปู่เอง” เว่ยตงเอ่ยปลอบลูกสาว เขารู้ว่าแม้บิดาจะไม่สามารถออกหน้าแทนตนเอง แต่อย่างน้อยท่านก็ยังช่วยพูดกับมารดาได้

“ไม่เป็นไรค่ะ พ่อแม่รีบออกไปกินข้าวเถอะ”

“โธ่ อิงอิงลูก” คนเป็นพ่ออดที่จะโอดครวญไม่ได้ เพราะวันนี้ลูกสาวตื่นสาย เป็นธรรมดาที่จะโดนลงโทษไม่ให้ดื่มน้ำกินข้าวในบ้านหลังนี้

เว่ยตงรู้สึกสงสารลูกสาวจนหัวใจเจ็บ เขาคิดว่าคงต้องลองไปปรึกษาหัวหน้าหมู่บ้านดูในเรื่องที่ตนคิด แต่ไม่รู้ว่าบิดาจะเห็นด้วยหรือไม่

ด้านนางหวังซื่อมารดาของเขา ย่อมไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอนในการแยกบ้าน อย่างน้อยหากดูแลเพียงพ่อแม่เว่ยตงคิดว่าสถานการณ์ในบ้านจะดีขึ้นมา ซึ่งเขาเคยเสนอให้มีการแยกบ้านนานแล้ว

แต่ตอนนั้นโดนปัดตกเนื่องจากภรรยาของเขาเหม่ยฟางไม่สามารถตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายออกมาได้ มีบุตรสาวเพียงคนเดียวจุดธูป ไร้ทายาทสืบทอด มารดาอย่างหวังซื่อจึงใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการไม่ปล่อยให้มีการแยกบ้าน

ซึ่งเว่ยตงทุ่มเทให้บ้านนี้ก็แล้วไปเถอะอย่างไรนั่นก็พ่อแม่พี่น้องตน แต่ทั้งลูกสาวและภรรยาต้องมาลำบากด้วย ซ้ำยังเกือบถูกย่าแท้ ๆ ขายให้พ่อม่ายที่อายุมากกว่าเขาเสียอีก มีหรือเว่ยตงจะทนอยู่เฉยได้อีกต่อไป

“พ่อแม่ออกไปกินข้าวเถอะค่ะ อิงอิงขอเวลานอนพักอีกสักนิด กินอิ่มแล้วมาปลุกอิงอิงนะคะ”

“ได้ลูก นอนพักเถอะ แม่จะแอบแบ่งแป้งย่างกลับมาให้ลูกสักแผ่น”

“พ่อด้วย นอนเถอะซิ่วอิง”

เมื่อพ่อแม่ออกไปแล้ว เว่ยซิ่วอิงแบมือที่กำแน่นออก เมื่อครู่เธอรู้สึกเจ็บหนึบที่ศีรษะและวิงเวียนเล็กน้อย โชคดีที่พวกท่านไม่ทันสังเกตเห็น มือเล็กยกขึ้นลูบหัวป้อย ๆ

“นอนพักสักหน่อยน่าจะดี” ว่าแล้วก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เด็กสาวหวังเพียงว่าตื่นมาแล้วจะไม่ต้องเจอกับย่าใจร้ายอีกต่อไป น่าเสียดายที่เสียงโวยวายปลุกเธอขึ้นมาในอีกไม่กี่นาทีถัดมา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 4 ตลอดไป

    ตอนพิเศษ 4 ตลอดไปชีวิตของซิ่วอิงตอนนี้มีความสุขมาก ความจริงเธอก็มีความสุขตลอดมาอยู่แล้ว แต่เมื่อคิดว่ามีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังอาศัยอยู่ภายในร่างกายตัวเองและเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน มันเป็นความสุขที่แตกต่างออกไปจริง ๆ“อีกสิบวันก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนะลูก” หญิงสาวใช้มือลูบหน้าท้องที่ใหญ่ไม่ต่างจากลูกแตงโมของตนเอง นี่ก็ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ทำให้เมื่อสามีออกไปทำงาน หลันถังกับเหม่ยฟางผู้เป็นแม่ก็จะแบ่งเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเสมอถึงตอนนี้หลันเซียงฮั่นจะย้ายมาประจำการอยู่ใกล้ ๆ แต่เขายังคงต้องเดินทางไปทำงานต่างเมืองเมื่อได้รับมอบหมายภารกิจ และคราวนี้ก็เช่นกันในตอนแรกเซียงฮั่นไม่คิดจากภรรยาไปจนกว่าเธอจะคลอดลูกและปลอดภัย เขากลัวว่าซิ่วอิงจะหวาดกลัวหากตนเองไม่ได้อยู่เคียงข้างตอนคลอดลูก จึงคิดปฏิเสธภารกิจในครั้งนี้และขอลาหยุดสักเดือนแต่เป็นซิ่วอิงที่คะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มไปทำงานเพราะเหลือเวลาอีกสองอาทิตย์ก่อนถึงกำหนดคลอด อย่างไรเขาก็กลับมาทันอยู่แล้วเธอจึงนั่งอยู่ในสวนสวยเฝ้ามองหน้าประตูเป็นระยะด้วยใจคิดถึงสามีบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกคิดทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาเล่นเสียมากกว่า ไม่ได้อยู่บ้า

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว

    ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว“อิงอิง ลุกมากินของอร่อยเถอะลูก วันนี้แม่ของอิงอิงเอาอาหารอร่อยมาฝากแม่ไว้ตั้งเยอะ”“อิงอิงยังเพลีย ๆ อยู่เลยค่ะ สงสัยเพราะช่วงนี้ทำงานหนักเกินไป ขอนอนอีกหน่อยนะคะแม่” ซิ่วอิงบอกกับแม่สามีเนื่องจากสองบ้านปรองดองกันดีมาก ซิ่วอิงใช้เงินเพื่อซื้อบ้านที่อยู่ตรงข้ามให้กับพ่อแม่ ขณะที่ตนเองเลือกจะมาอยู่บ้านแม่สามีเวลาที่คุณพ่อสามีและหลันเซียงฮั่นที่เป็นสามีไปทำงานต่างจังหวัดพร้อมกันโดยมีบ้านของตัวเองที่ใช้อยู่กับสามีต่างหากอีกหลังหนึ่ง และใช้อยู่เมื่อสามีกลับมาหาเท่านั้น แต่ปกติแล้วซิ่วอิงจะสลับไปมาระหว่างบ้านพ่อแม่ตัวเองและพ่อแม่สามีเสียมากกว่าตอนนี้เธอก็มาอยู่บ้านหลัน เพราะทั้งคุณพ่อและสามีล้วนออกไปทำงาน ส่วนเซียงฮั่นนั้นจะกลับมาในวันพรุ่งนี้“อิงอิงไม่ต้องทนนะ ไปหาหมอเลยดีกว่า บ้านเราขาดเงินทองซะที่ไหนกัน หรือแม่ซื้อโรงพยาบาลไว้ให้ก็ได้” หลันถังยังคงใจป้ำเหมือนเดิม เมื่อได้ลูกสะใภ้คนนี้มาชีวิตเธอก็มีความสุขขึ้น จนรู้สึกรักเอ็นดูซิ่วอิงเหมือนเป็นลูกของตัวเองไปอีกคน เผลอ ๆ รักมากกว่าลูกตัวเองเสียอีก“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ อิงอิงไปหาหมอเฉย ๆ ดีกว่า” ซิ่วอิงยิ้มแหยให้

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดี

    ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดีแม้ว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี แต่อย่างไรในชีวิตก็ต้องมีบางสิ่งมากระทบกระทั่ง สุดท้ายแล้วซิ่วอิงและครอบครัวก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์ช่วงนี้ซิ่วอิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หลังสามีกลับมาจากทำงานครั้งล่าสุด เธอได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดมาเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เขาจะเบื่อเธอและหาเรื่องเข้าบ้านแล้วจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?มีหรือหลันเซียงฮั่นจะไม่รู้ว่าภรรยามีความกังวลอะไรบางอย่างในใจ เขาหันมองไปรอบตัวก่อนจะจับลูกน้องที่มีภรรยาแล้วมาสอบถาม“ภรรยาฉันเป็นอะไรไป” เซียงฮั่นเป็นผู้บัญชาการที่เก่งกาจ เขายังดูแลเอาใจใส่ภรรยาจนลูกน้องแอบเรียกลับหลังว่าสามีแห่งชาติ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาชายหนุ่มก็ยังเป็นเพียงคนที่เพิ่งเคยมีความรัก“คุณผู้หญิงมีท่าทางยังไงครับ”“ช่วงนี้ไม่ค่อยให้ฉันเข้าใกล้ เวลานอนก็หันหลังให้” เซียงฮั่นนึกถึงท่าทางของภรรยาแล้วก็ปวดใจ เขาไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า แต่พอถามแล้วเธอก็บอกว่าเปล่าและฝืนยิ้ม เก็บเรื่องราวไว้ในใจคนเดียว คิดว่าเขามองไม่เห็นอย่างนั้นเหรอ“ถ้าอย่างนั้นนายท่านไปทำอะไรมาหรือเปล่าครับ” ทหารคนสนิทมองหน้าเจ้านายอายุน

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 1  ชีวิตที่ใฝ่หามานาน

    ตอนพิเศษ 1 ชีวิตที่ใฝ่หามานานตอนนี้ชีวิตใหม่ของเว่ยซิ่วอิงลงตัวอย่างมาก ได้ก่อตั้งธุรกิจในยุคแรกเริ่ม อนาคตมีแต่จะรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ แม้ไม่ต้องพึ่งพามิติร้านเครื่องสำอางก็ตามนอกจากนี้ยังมีสามีคอยเอาอกเอาใจ แม่สามีแสนดีที่ไม่มีการกดขี่ลูกสะใภ้เลยสักนิด ครอบครัวของเธอก็คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอซิ่วอิงคิดว่าแค่นี้เธอก็ประสบความสำเร็จมากแล้วในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ลำพังเกิดมามีแม่สามีดีอย่างหลันถัง ก็คงมีคนสงสัยว่าเธอทำบุญกู้ชาติมาในชาติก่อนแน่ ๆ ถึงได้มีชีวิตที่ดีขนาดนี้แค่ถึงอย่างไรคนเก่งก็มีปัญหาของคนเก่ง เพราะสามีต้องไปทำงานต่างเมืองบ่อย ๆ เธอเลยใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับงานในร้านกระทั่งสามีกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ยังวุ่นวายอยู่กับร้านค้าโชคดีที่เซียงฮั่นเข้าใจแล้วยังสนับสนุนภรรยาให้ทำตามใจปรารถนาได้เต็มที่ เมื่อเขาได้พักเพิ่มสักหนึ่งหรือสองวัน ก็มักจะพาซิ่วอิงไปที่ร้านเสมอเพื่อเอาอกเอาใจหากพาไปร้านอาหารแบบคนหนุ่มสาวก็แล้วไป เขากลับพาเธอเข้าร้านตัวเองเพื่อให้หญิงสาวหาเงินที่เธอชอบนักหนา และแน่นอนว่าซิ่วอิงชอบการแสดงความรักของสามีแบบนี้มากกว่า“มีอะไรหรือเปล่า” ขณะที่นั่งก

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทส่งท้าย  คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต

    บทส่งท้าย คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตรถยนต์สีดำขับไปตามทางที่คุ้นเคยไม่นานก็มาถึงกำแพงบ้านหลัน ทหารเฝ้ายามเปิดประตูต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อรถจอดเทียบขาเรียวก็ก้าวออกมา“อิงอิง มาแล้วเหรอจ๊ะ” ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้คือป้าหลัน พร้อมทั้งเหม่ยฟางผู้เป็นมารดาของตนเอง ซิ่วอิงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตอะไรเพียงยื่นมือไปหาพวกท่านอย่างเป็นธรรมชาติ“ป้าหลันสบายดีไหมคะ วันนี้แอบเข้าครัวกับแม่อีกแล้วหรือเปล่า” ซิ่วอิงสนอกสนใจดูมือของผู้ใหญ่ตรงหน้า ขณะที่ท่านจับจูงเธอเดินทะลุตัวบ้านไปยังสวนด้านหลัง“ป้าเข้าครัวไปก็รกครัวเปล่า ๆ ไม่เข้าไปรบกวนเหม่ยฟางหรอกนะ”“อิงอิงลูกเงยหน้าขึ้นก่อน” เสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ดังขึ้น เมื่อรู้ตัวซิ่วอิงก็มาอยู่ในสวนหลังบ้านของสกุลหลันแล้วหญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย สิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงของชายหนุ่มที่เธอคิดถึงมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาและติดต่อกันทางโทรศัพท์ไม่กี่นาทีต่อเดือนเท่านั้นตอนนี้เขายังสวมชุดทหารเต็มยศ ในมือมีช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ล้อมรอบไปด้วยแสงเทียนและซุ้มดอกไม้ที่ถูกตั้งใจตกแต่งเอาไว้อย่างดีจนทั่วทั้งสวน“พี่เซียงฮั่น” ซิ่วอิงยิ้มออกมาด้วย

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว

    บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว“แม่คะ เราไป…” ก่อนที่คุณหนูลู่จะพูดจบ มารดาของหล่อนก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปในวงสนทนาที่เว่ยซิ่วอิงอยู่ก่อนแล้ว เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้คุณหนูลู่พึงพอใจที่ไม่ต้องทำอะไรเอง“นี่มันแม่ค้าขายเครื่องสำอางนี่นา มาตรฐานงานเลี้ยงของกองทัพตกต่ำลงถึงขนาดเชิญพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนมาร่วมงานแล้วอย่างนั้นเหรอเนี่ย” คุณนายลู่ไม่พอใจเว่ยซิ่วอิงอยู่แล้วจากงานเลี้ยงน้ำชาที่บ้านของคุณนายหลัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังไปได้ดีก็รู้สึกว่าต้องเข้ามาทำลายและลากคนคนนี้ลงมาให้ได้“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่” เว่ยซิ่วอิงไม่ดิ้นเต้นไปตามอารมณ์ของคน เธอทักทายอีกฝ่ายด้วยความเคารพและมีมารยาทเพียงเท่านี้สายตาที่ทุกคนมองมาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็มองซิ่วอิงอย่างชื่นชม ขณะที่มองคุณนายลู่เหมือนนางร้ายเกรดต่ำคนหนึ่ง“โอ้ นี่ใครกัน ไม่ใช่คุณชายหลันเซียงฮั่นลูกรักของคุณนายหลันถังหรอกเหรอคะ”“สวัสดี คุณนายลู่” เซียงฮั่นจำต้องทักทายด้วยสีหน้าไม่ดีนัก เขารู้ว่าใครไม่ถูกกับมารดา และต้องหลีกหนีเสมอเมื่อเข้าสังคม แต่คราวนี้ดูเหมือนคนข้างกายจะไม่ยอมหลีกหนีง่าย ๆ ชายหนุ่มทำได้เพียงยืนปักหลักและเป็น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status