LOGINฉันหมดแพชชั่นในการใช้ชีวิตจึงกระโดดลงแม่น้ำหวังว่าความตายจะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต ไม่คิดว่าโลกหลังความตายจะยังต้องดิ้นรนต่อไป มาสู่โลกระบบที่ต้องเก็บเหรียญเพื่อซื้อไอเทมในระบบ นอกจากจะเลือกทำภารกิจปลูกผักแล้วยังเป็นแม่ค้า...ไม่พอ! ยังถูกคุณชายที่มาสู่โลกในระบบเช่นกันยึดเป็นที่ตั้ง เพราะเห็นข้าถามเขาว่า what's your name?
View Moreบทนำ
เหมยจิงเดินทอดน่องไปบนสะพานไน่เหอที่เชื่อมแม่น้ำสายใหญ่ตัดผ่านเมืองเข้าด้วยกัน เธอเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงกลางสะพาน
ใบหน้าสวยจากการแต่งแต้มอย่างประณีตเงยหน้าขึ้นรับน้ำสีอำพันที่กล่อมคนให้เมามายทุกหยาดหยดแล้วทิ้งขวดลงบนพื้นสะพาน
จังหวะนั้นมีเรือสำราญลอดใต้สะพานไปพอดี เธอยกมือโบกทักทายทุกคนทั้งที่ไม่รู้จัก แต่ไม่มีใครโบกมือกลับให้เธอเลยสักคน
“เหอะ! รู้ว่าฉันหมดตัวหรือไงถึงได้ไม่คุยด้วย”
เหมยจิงเคยมีประสบการณ์การนั่งเรือสำราญแบบนั้นเพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว
เงินทองที่เธอหามาด้วยความยากลำบากค่อย ๆ พร่องลงเพราะฝีมือของน้องชายแท้ ๆ ที่เปิดธุรกิจผิดกฎหมายโดยใช้ชื่อเธอเป็นเจ้าของ เงินมากมายถูกใช้ในการสู้คดีจนเหลือให้เธอติดบัญชีไม่มาก!
“เงินทองไม่ตายหาใหม่ได้ก็จริง แต่แม่ปกป้องมันจนฉันกลายเป็นหนี้ท่วมหัวแบบนี้ ฉันจะเอาแรงใจที่ไหนไปสู้”
“ตื๊ด~”
มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นชื่อของแม่เธอก็รีบกดรับตามความเคยชิน
‘จิงจิง โอนเงินให้แม่ทางเวยซิ่นที บริษัทจะมายึดรถน้องไปแล้ว ช่วยแม่หน่อยนะ ไม่งั้นเงินที่ดาวน์ไปก่อนหน้านี้กลายเป็นสูญเปล่าแน่ จะให้น้องเสียหน้าไม่ได้’
เหมยจิงกำหมัดแน่น กรามแข็งค้างจนเปิดปากไม่ออก จนกระทั่งได้ยินเสียงน้องชายคนเล็กดังขึ้นมาในโทรศัพท์ เธอจึงรู้ว่าเขาแย่งโทรศัทพ์จากแม่มาพูด
‘เจี่ยเจียช่วยเสี่ยวตี้ด้วยนะ รถคันนี้เสี่ยวตี้ใช้เงินซื้อเองตั้งครึ่งหนึ่ง จะให้ยึดไปไม่ได้นะครับ’
“ขาดอีกเท่าไร”
“อีกแสนห้า”
น้องชายคนเล็กของเธอเป็นฝาแฝดกับน้องชายคนรองที่เปิดธุรกิจผิดกฎหมาย พฤติกรรมดีกว่ากันเยอะ
เพราะแบบนี้เหมยจิงถึงเปิดดูยอดเงินในบัญชีที่เหลืออยู่ไม่ถึงสองแสน เธอกดโอนเงินผ่านเวยซิ่นให้น้องชายทั้งหมดจนไม่เหลือแม้แต่หยวนเดียว
“โอนแล้วนะ”
‘กดรับแล้วครับ’
น้องชายพูดประโยคนั้นเป็นครั้งสุดท้ายก็กดวางสาย ใบหน้าสวยผุดรอยยิ้มมุมปากแล้วเงยหน้าขึ้นหัวเราะเย้ยหยันให้กับชีวิตของตัวเอง
“ถ้าฉันตายวันนี้ ดูสิว่าพวกนายจะอยู่กันอย่างไร ช่วยไม่ได้ก็โดนด่า ไม่ช่วยก็โดนด่า”
มือเรียวกำโทรศัพท์แน่น อยากออกแรงบีบให้มันแหลกสลายคามือ
แต่มือเล็ก ๆ แบบนี้หรือจะทำโทรศัทพ์มือถือแหลกสลายได้ ที่แหลกสลายไปแล้วคือใจเธอต่างหาก!
ที่จริงเธอเก็บความน้อยใจที่มีต่อแม่มานานมากแล้ว เพียงแต่ว่าเหตุการณ์ครั้งล่าสุดมันเกินไปจริง ๆ
แม่ทนน้องชายคนนี้ได้ก็ทนไป แต่เหมยจิงไม่อาจเชิดหน้าใช้ชีวิตในสังคมได้อีกต่อไปแล้ว
“ขอโทษที่ต้องเลือกวิธีนี้นะแม่ แต่จิงจิงไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาดูแสงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้อีกแล้ว…”
ตู้ม!
จบสิ้นสักทีความเหนื่อยล้าของฉัน
๖เรียกเกอเกอก็คือการตอบตกลงแล้วเหมยจิงและเฉินอวี้เหวินต่อให้วันนี้จะทำงานหนักมาทั้งวันและเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครคิดจะกลับไปนอนที่บ้านแล้วข่มตาหลับพร้อมกับฝันดีเหมยจิงไม่อยากให้นี่เป็นเพียงความฝัน เธอชวนเฉินอวี้เหวินมาที่ห้องเธอแล้วสั่งเค้กปอนด์ใหญ่สองปอนด์เดินถือคนละถุงขึ้นลิฟต์มาห้องชั้น 23ติ๊ง!เมื่อลิฟต์เปิดออก เหมยจิงก็เดินนำชายหนุ่มมาที่ห้องของตัวเอง คนชวนไม่เกร็งแต่คนถูกชวนกลับรู้สึกว่าการเข้ามาในห้องของหญิงสาวในตอนนี้อันตรายยิ่งนัก“จิงจิงอยู่คนเดียวเหรอ”“ใช่! เข้ามาเลย ห้องแคบหน่อยนะ แอบแม่ซื้อที่นี่ไว้นะ…นี่! สลิปเปอร์”รองเท้าแตะรูปปลาสีชมพูน่ารัก แต่ชายหนุ่มไม่เขินที่จะได้ใส่รองเท้าแบบเดียวกับเหมยจิง ต่างกันตรงที่ของเขาเป็นสีชมพู ของเธอเป็นสีน้ำตาลแม้แต่เค้กที่สั่งมาของเหมยจิงก็ยังเป็นช็อกโกเลต ของเฉินอวี้เหวินเป็นนมสดสตรอเบอร์รี่“กว้างขวางใช้ได้เลย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นแยกในตัวแบบนี้ แต่จิงจิงเพิ่งเข้ามาอยู่ใช่ไหม ของยังมีไม่เยอะเท่าไร”“ใช่ ไม่ได้ขนมาจากบ้านแม่มากเท่าไร อยากดูทีวีไหม รีโมตอยู่นี่เปิดได้เลย”เฉินอวี้เหวินเริ่มเกร็งน้อยลงเมื่อรู้ว่าที่น
๕ที่เคยรับปากไปทำได้แล้วนะตึ๊ง!เหมยจิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อได้รับข้อความ มุมปากผุดเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นชื่อกล่องสนทนา นิ้วเลื่อนไปเปิดข้อความดูก็เห็นว่าเป็นภาพบทละครเหมยจิงบอกเขาสู้ ๆ ในใจแต่ไม่ได้ตอบแชทกลับไป จนกระทั่งข้อความแชทเด้งขึ้นอีกครั้ง เธอจึงเปิดอ่านก็เห็นว่าเป็นเฉินอวี้เหวินคนเดิม เพิ่มเติมคือถ่ายรูปตัวเองส่งมาให้ด้วย สีหน้าที่ดูออดอ้อนของเขาทำให้เธอเผลอนึกถึงเฉินเหวินเหวินตอนที่เขาแสดงสีหน้าออดอ้อนเธอสุดท้ายก็พิมพ์ข้อความตอบเขาไปว่า…‘สู้ค่ะ’ตึ๊ง!ตึ๊ง!และเพียงเธอตอบกลับไปเท่านั้นก็ได้รับข้อความถึงสองครั้งติดกัน‘เหนื่อยไหม’‘ง่วงหรือเปล่า’เธอเริ่มคิดแล้วว่าวันนี้เปิดกล้องวันแรกจริงหรือไม่ ทำไมถึงมีเด็กดื้อเล่นโทรศัพท์ไม่อ่านบท“หรือเพราะผ่านซีรีส์เรื่องยาวมาแล้ว มินิซีรีส์เลยสบาย บทเท่านี้ไม่ทำให้เขาเครียด”เหมยจิงพยายามหาเหตุผลให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อคิดว่าตนจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรก็วางโทรศัพท์เอาไว้ ลืมไปว่าข้อความที่เขาส่งมาเป็นคำถาม อีกทั้งหลังจากนั้นเธอไม่ได้รับข้อความจากเขาอีก…ทำงานเพลินจึงลืมเรื่องนี้ไปสนิท!ทางด้านเฉินอวี้เหวิน…“หรือเธอจะยุ่งจนไม่มีเวลาตอบ
๔คนแปลกหน้าที่หัวใจบอกรู้สึกดีพิธีการเปิดกล้องเสร็จสิ้นแล้ว ยามนี้นักแสดงทุกคนมายืนหลังโปสเตอร์โปรโมตมินิซีรีส์เรื่อง ‘บอสจัดหนัก’ โดย ที่นักแสดงทุกคนถือหงเปาที่หน้าซองจ่าชื่อเรื่องเอาไว้ ตะโกนพร้อมกันตอนถ่ายรูปรวมว่า“บอสจัดหนักฤกษ์งามยามดีเปิดกล้อง…เฮ!”เหมยจิงที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมงานยืนอยู่หลังตากล้อง อย่างเงียบ ๆ โดยที่ด้านข้างเธอมีหลูอิงเสี่ยวและเหลียงเจ๋อฮั่นยืนอยู่ด้วยแต่เขายืนอยู่ได้ไม่นานก็ถูกผู้กำกับดึงไปถ่ายรูปพร้อมให้ช่วยกันจับผ้าแดงที่ปิดกล้องใหญ่ที่ถ่ายทำเอาไว้เปิดออกพร้อมกันก็เป็นการเปิดกล้องอย่างเป็นทางการ ผลไม้ที่เซ่นไหว้แจกจ่ายให้ทุกคนโดยถ้วนหน้า“จิงจิงเอาแอปเปิ้ลไหม เจี่ยเจียไปเอาให้”แอปเปิ้ล! ผลไม้ที่เหมยจิงไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตั้งแต่ที่กลับมาจากเมืองลอยฟ้าเพราะเธอไม่ตอบทำเพียงจับจ้องไปยังแอปเปิ้ลเท่านั้น หลูอิงเสี่ยวจึงคิดว่าเธออยากได้ รีบวิ่งไปขอจากทีมงานมาให้ลูกน้องสาว รู้ตัวอีกทีมือของเธอก็มีแอปเปิ้ลลูกใหญ่อยู่ในมือ!น้ำตาร่วงเผาะเมื่อคิดว่าตอนนี้เฉินเหวินเหวินกำลังใช้ชีวิตอยู่ในมิติสวนของเธออย่างไร หรือเขาจะยังอยู่ที่เมืองลอยฟ้าหรือไม่ หรือว่าจะกลับไ
๓ความรักความแค้นเลือกอันใด เฉินเหวินเหวินนั่งมองบึงตรงหน้า สถานที่ที่ดูดกลืนร่างของเหมยจิงลงไปใต้ล่างเขาอยากกระโดดน้ำลงไปดู หากใต้ล่างนั้นเป็นทางเชื่อมระหว่างยุค 2025 กับเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ เหมยจิงจะรอเขาอยู่ที่นั่นหรือไม่! “คุณชายเฉินกำลังคิดอันใดอยู่” เขาหันไปมองหลิวปู้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คอยคุมตัวเขาไม่ให้กระโดดลงบึงตามเหมยจิงไป “กำลังคิดอยู่ว่าจะกระโดดตามนางลงไป” หมับ! แขนทั้งสองข้างของเฉินเหวินเหวินถูกคว้าหมับทันที เฉินเหวินเหวินแม้จะรำคาญ แต่ส่วนลึกก็อบอุ่นหัวใจที่ยังมีคนคอยห่วงใยเขาแทนเหมยจิง “อย่าคิดจะทำเป็นอันขาด บึงนี้ไม่ใช่ทางของคุณชาย หากอยากตามนางไปช่องทางที่ถูกต้องมีอยู่ แต่อยู่ที่ว่าคุณชายอยากเลือกเส้นทางนี้หรือไม่” คำพูดของชิงจ้านทำให้เฉินเหวินเหวินนิ่งไป นั่นสินะ! ก่อนหน้านี้เจ้าบอกนางว่าขอเวลาคิดก่อน ไม่รู้ว่าเวลาที่นั่นกับที่นี่คลาดเคลื่อนเพียงใด หากข้าไม่รีบตัดสินใจต้องเสียใจในภายหลังแน่ แต่ว่าเขาจะเลือกอันใดระหว่างกลับภพเดิมเพื่อไปล้างแค้น กับ ยอมทิ้งความแค
๒ตามหานักแสดงเซ็นสัญญาเกาเข่าสอบต้นมิถุนายนและประกาศผลปลายเดือนมิถุนายน ใกล้สอบเกาเข่าโรงเรียนมัธยมปลายจะปล่อยเด็กนักเรียนเกาซาน[1]กลับบ้านช่วงสี่ทุ่ม เหมยจิงจะไปดักเจอพวกเขาให้ไม่ไกลจากโรงเรียกนัก แต่ก็ไม่ให้ใกล้จนทำให้พวกเขาถูกอาจารย์และเพื่อนนักเรียนเพ่งเล็ง“เจี่ยเจีย!”เหมยจิงส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มทั้งสองที่จอดจักรยานทันทีเมื่อเห็นเธอโบกมือให้ทั้งคู่จอดรถจักรยานไว้เรียบถนนก่อนที่จะเดินเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าตื่นเต้น“สวัสดี! ผู้มีพระคุณ”“เจี่ยเจียยังไม่ได้ไปเยือนแม่น้ำลืมเลือน ดียิ่ง!”เหมยจิงหลุดหัวเราะ จากคำพูดของเขารู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายก็ติดซีรีส์ไม่เบา ซึ่งเจ้าของคำพูดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่หลิวปู้คนที่ชอบพูดอะไรติดสำบัดสำนวน!“เจี่ยเจีย! เราอยากโทร.หาเจี่ยเจียตามนามบัตรที่ให้ไว้มาก แต่ก็ไม่กล้าโทร.ไปเพราะกลัวจะได้รับฟังข่าวร้าย เห็นเจี่ยเจียตัวไม่ซีดเซียว ยังมีลมหายใจแล้วยืนอยู่ตรงหน้าพวกเราดีใจมากเลยครับ”ชิงจ้านก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจไม่แพ้กัน ภายนอกเขาดูเป็นหนุ่มพูดน้อย แต่การได้สัมผัสเขาสองชาติภพทำให้เธอรู้ว่านี่เป็นเพียงเปลือกเท่านั้น“วันนั้นยังไม่ได้ขอบคุณกันดี ๆ
๑เมื่อเจ้านายเพิ่มหน้าที่ให้หัวหน้าแผนกเหมยจิงกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ก้มหน้าก้มตาทำงานใช้หนี้ที่เกิดจากการตามล้างตามเช็ดให้น้องชาย ไม่มีเวลาท้อ ไม่มีเวลาให้เสียใจ มีแต่ต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้นย้อนกลับไปวันที่เธอกลับมายังยุค 2025 สิ่งแรกที่เธอทำหลังจากที่เดินกลับจากสะพานไน่เหอคือย้ายของออกจากบ้านมารดามาอยู่คอนโดไม่กี่ตารางวาที่แอบซื้อเอาไว้ตอนที่ได้เงินก้อนมาจากขายลิขสิทธิ์นิยายเพื่อสร้างซีรีส์ถามว่ายังคงช่วยส่งเสียดูแลแม่หรือไม่…แน่นอนว่าต้องมีจุนเจือให้ แต่จะไม่มากเท่าเมื่อก่อนเพราะเธอก็มีหนี้สิ้นที่ต้องแบกรับ!ณ บริษัทเอเจนซี่หลงฮั่วกรุ๊ปที่เหมยจิงนั่งในตำแหน่งหัวหน้าการตลาดในขณะที่เธอกำลังนั่งทำงานอยู่ห้องที่กั้นแยกจากคนในแผนกนั้น ซีโอโอ[1]หญิงวัยกลางคนก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาหาเธอที่ห้องทำงาน มือเคาะประตูกระจกที่เปิดเอาไว้สองครั้งอย่างคนมีมารยาท“จิงจิง”ดวงตากรีดอายไลเนอร์คมเฉี่ยวที่จ้องเพียงหน้าจอคอมพิวเตอร์เงยขึ้นมองเจ้าของเสียง ลุกขึ้นยืนต้อนรับในทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเจ้านายโดยตรงของเธอ“อิงเจี่ย”“นั่ง ๆ”เหมยจิงนั่งลงเก้าอี้ ดวงตาสำรวจสีหน้าท่าทางของหลูอิงเสี่ยวที่ฉายควา












Comments