วันเวลาผ่านไปร่างกายรวมไปถึงจิตใจของคนเป็นแม่ยิ่งห่อเหี่ยว ความฝันในค่ำคืนอันแสนเลวร้ายยังคอยตามหลอกหลอนเธออยู่เรื่อยไป ไม่ว่าจะเป็นยามตื่นหรือหลับตาก็ยังคงเห็นภาพใบหน้าและเสียงหัวเราะของลูกสาวอยู่ร่ำไป
"ฮึก ต้นน้ำ ต้นน้ำลูกอยู่ที่ไหน"ใบหน้าของมารดาเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาร่ำร้องเรียกหาแต่ลูกสาว ยิ่งนานวันอาการของน้ำฝนยิ่งหนักขึ้นสร้างความตระหนักให้สามีที่คอยดูแลจนไม่เป็นอันทำอะไร "ฝน คุณตั้งสติก่อนสิ" "อย่ามายุ่ง ฮึก ฉันจะไปหาลูก"ร่างเล็กผมแห้งพยายามลุกขึ้นนั่งแต่ด้วยร่างกายอ่อนแรงจึงต้องล้มลงนอนบนเตียงอีกครั้ง "คุณทำอะไรกับร่างกายของฉัน ฮึก ฉันจะไปหาลูก" "ที่ผมทำก็เพราะว่าอยากให้คุณหายนะฝน" "ฉันไม่ต้องการ ฉันจะไปหาต้นน้ำ"ดวงตาคมมองร่างของภรรยาที่พยายามคลานลงจากเตียงด้วยความปวดใจ แม้เขาจะหาหมอดี ๆ มารักษายังไงดูเหมือนว่าร่างกายของภรรยาจะไม่ตอบรับ ยิ่งนานวันเข้าร่างกายยิ่งเป็นหนักเพราะคนเป็นแม่ยังผูกใจรักยึดติดกับลูกไม่ยอมปล่อย ฉึก เข็มฉีดยาปักลงบนเนื้อตัวยาที่ช่วยในการนอนหลับแล่นสู้เข้าในกระแสเลือด นี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้ "คุณไม่รักฉัน ไม่รักลูกของเราแล้วอย่างนั้นเหรอ"จริยาน้ำตาไหลยามเมื่อนึกถึงลูกสาวที่จากไป ร่างกายอ่อนแรงยอมให้ผู้เป็นสามีอุ้มไปนอนบนเตียงจัดท่านอนให้เข้าที่เข้าทาง "รักสิ ผมยังรักคุณกับลูกของเราทั้งสองคนเสมอ นอนหลับเสียเถอะนะที่รัก เดี๋ยวผมจะไปซื้อขนมของโปรดมาให้คุณได้ทาน"สติสัมปชัญญะหายไปเมื่อสามีเอ่ยพูดในประโยคสุดท้าย ผู้เป็นสามีน้ำตาไหลได้แต่ยืนมองร่างของภรรยา "ผมขอโทษ" "นี่ มะรืนนี้อย่าลืมนะว่านัดอะไรเอาไว้"วาดฝันทักท้วงในขณะที่ต้นกล้าเดินมาส่งเธอถึงหน้าประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ดั่งเช่นทุกวัน "ใครจะไปลืมก็ฝันเล่นพูดทุก ๆ ห้านาทีแบบนี้" "นี่ อย่ามาว่าฝันนะ" "ครับ กล้าไม่กล้าว่าฝันหรอกก็รักซะขนาดนี้"ฝ่ามือใหญ่ยื่นไปขยี้ผมนุ่มลื่นของแฟนสาวอย่างแผ่วเบา เพียะ "โอ๊ย ฝันตีกล้าทำไม" "ก็ใครให้กล้ามายีผมของฝันล่ะ ดูสิเสียทรงหมดแล้ว"วาดฝันทำปากยื่นใช้มือจัดทรงผมที่ยุ่งให้เข้าที่เธอไม่ได้โกรธแฟนหนุ่มแต่แค่อยากแกล้งเขาเท่านั้น "โอ๋ ๆ ที่รักของกล้าไม่งอนนะครับ เดี๋ยววันมะรืนกล้าจะมารับขวัญที่หน้าบ้านนะแล้วเราจะไปเที่ยวด้วยกัน" "ห้ามมาสายล่ะ ถ้ามาสายฝันจะงอนกล้าทั้งวันเลยคอยดู" "ไม่มาสายแน่นอนครับ"ทั้งสองโบกมือแยกย้าย วาดฝันแทบจะรอให้ถึงวันมะรืนไม่ไหวเพราะเธอลงมือเตรียมของขวัญวันครอบรอบให้ต้นกล้าด้วยตัวของเธอเอง "กลับมาแล้วครับพ่อ"ต้นกล้าเปิดประตูเดินเข้ามาภายในบ้านพร้อมส่งเสียงเรียกผู้เป็นพ่อ แต่กลับไร้วี่แววและเงาของท่าน "พ่อไปไหน"เขารีบเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านแต่ก็ไร้เงาของท่าน ในห้องนอนก็เห็นแต่ผู้เป็นแม่นอนหลับอยู่ต้นกล้าคิดหนักเพราะรถของท่านก็จอดอยู่ที่หน้าบ้าน "หรือว่าพ่อจะอยู่ที่ห้องพี่ต้นน้ำ"เด็กหนุ่มหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องพี่สาว เขาไม่รอช้าหมุนประตูเปิดเข้าไปด้านในมืดสนิทต้นกล้ารีบควานหาสวิตช์ไฟพร้อมกดเปิด พรึ่บ สองเท้าเดินเข้าไปสำรวจดูภายในห้องพี่สาวโทนสีชมพูตามที่ต้นน้ำชอบ ด้านฝาผนังมีรูปครอบครัวใส่กรอบติดเอาไว้อยู่ทั้งสี่คนพ่อแม่ลูก สีหน้าของทุกคนในตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแสดงถึงความสุขแตกต่างจากตอนนี้ "หนีไปเที่ยวคนเดียวอีกแล้วนะต้นน้ำ เดี๋ยวพ่อก็ตีเอาหรอก"ต้นกล้ามองรูปพี่สาวในชุดเจ้าหญิงกำลังโอบกอดน้องชายในชุดคนแคระยืนหน้าบึ้งเพราะโดนพี่สาวจับใส่ชุดบังคับให้ถ่ายซึ่งตอนนั้นเขารู้สึกว่ามันน่าอายแต่มันกลับเป็นภาพที่สวยที่สุดในตอนนี้ "หนีไปเที่ยวนานนะรอบนี้ ไม่โทรมาหากันบ้างเลยไม่คิดถึงกันเลยหรือไง" "..." "กลับมาได้แล้วนะ ผมคิดถึงพี่กับหลานจะแย่แล้วรู้ไหม"นัยน์ตาคมคู่นั้นฉาบไปด้วยความโศกเศร้าแม้พยายามทำใจแต่การที่เราต้องสูญเสียคนรักในครอบครัวไปมันคงต้องใช้เวลาในการทำใจสักพัก ปึง ต้นกล้าสะดุ้งเมื่อเขาได้ยินเสียงปริศนาดังมาจากในตู้เสื้อผ้าดึงดูดความสนใจให้เขาหันไปมอง ดวงตาคมคู่นั้นกวาดมองบริเวณรอบ ๆ ห้องอย่างไม่นึกเกรงกลัวกับสิ่งลี้ลับ สองเท้าก้าวขาไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าด้วยความระมัดระวังภายในตู้มีแต่ของใช้และเสื้อผ้าของพี่สาวทันทีเมื่อเขาเปิดออกกลิ่นน้ำหอมผสมกลิ่นกายที่เขาจำได้ว่าเป็นของใครลอยแตะเข้าจมูก "ไปเที่ยวแล้วไม่เอาเสื้อผ้าไป แล้วจะเอาอะไรเปลี่ยนยัยพี่บ้า"สายตากวาดมองสิ่งของในตู้เสื้อผ้า ทุกอย่างยังถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี แต่ก่อนที่เขาจะปิดประตูสายตาก็ดันไปสะดุดเข้ากับกล่องสี่เหลี่ยมสีชมพูที่อยู่บนชั้นด้านใน "กล่องอะไร"ต้นกล้าเอื้อมมือไปคว้ากล่องนั้นขึ้นมาเปิดดูอย่างถือวิสาสะด้านในมีเพียงสมุดไดอารี่เล็มเล็กและโทรศัพท์ของต้นน้ำที่อยู่ด้านใน ด้วยความสงสัยใคร่รู้เขาจึงหยิบขึ้นมาแต่ถูกขัดจังหวะการเปิดด้วยเสียงผู้เป็นพ่อที่ดังขึ้น "ต้นกล้าลูกมาช่วยพ่อยกของหน่อย"เสียงของผู้พ่อตะโกนดังขึ้น ต้นกล้ารีบเอาสมุดไดอารี่กับโทรศัพท์ของพี่สาวเก็บใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียน รีบเก็บทุกอย่างไว้ให้เหมือนเดิมสองเท้าก้าวขาออกจากห้องพี่สาวอย่างแผ่วเบา ทำราวกับว่าเขาไม่ได้เข้าไปในห้องของต้นน้ำ "มาถึงบ้านนานแล้วเหรอลูก" "ครับ ว่าแต่พ่อไปไหนมาครับผมกลับมาถึงก็เห็นมีแต่แม่นอนอยู่" "อ๋อ พ่อไปซื้อของสดมาทำกับข้าวมื้อเย็น ของในตู้เย็นมันหมด"ต้นกล้าพยักหน้าคว้าถุงข้าวสารถังใหญ่ขึ้นมาแบกไว้บนบ่า สองพ่อลูกช่วยกันพาข้าวของไปไว้ในห้องครัวก่อนจะช่วยกันลงมือทำอาหารเย็น "พ่อครับน้าชัชชัยได้ข่าวคราวของผู้ชายคนนั้นบ้างหรือยังครับ" "ยังเลยลูก พ่อโทรไปถามแล้วชัชชัยก็บอกว่ากำลังสืบหาอยู่"ผู้เป็นพ่อถอนหายใจ เขาอยากรู้ใจแทบขาดว่าใครมันกล้าดีมาทำลูกสาวของเขาท้องโต "ผมขอภาวนาให้สืบได้เร็ว ๆ นะครับ ผมอยากจัดการมันจะแย่แล้ว" "พ่อก็เหมือนกัน ถ้าพ่อรู้ว่ามันเป็นใครพ่อจะฆ่ามัน"มีใครเคยบอกคุณไหมว่าให้ทำดีกับคนรักเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราทั้งสองจะหมดบุญวาสนาตายจากกันไป ถึงครานั้นแม้เราอยากจะย้อนหมุนทวนเข็มนาฬิกาไปมากเท่าไหร่มันก็เป็นได้เพียงแค่ความคิดส่วนลึกของคนที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้นภายในห้องมืดทึบไร้ซึ่งแสงสว่างเปรียบเสมือนดั่งหัวใจของชายหนุ่มผู้นี้ ที่เอาแต่นั่งดูรูปคนรักพร้อมกับภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยซึ่งติดอยู่บนแผ่นกระดาษในสมุดฝากครรภ์เสียงสะอื้นร่ำไห้ยังคงดังติดต่อกันทุกวันทุกเวลานับตั้งแต่คนรักตัดสินใจโบกมือลาโลกใบนี้โดยไม่คิดจะหวนกลับมาหาหรือปรับความเข้าใจ"ฮึก ขอโทษ"หัวใจที่เต้นรัวแรงและความรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกคมมีดกรีดแทงเกิดขึ้นเพราะอะไรมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจ"ขอโทษที่ทำร้าย"น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นลงบนฝ่ามือด้วยความรู้สึกรวดร้าวอาลัยหัวใจของเขาร่วงดิ่งลงสู่ห้วงทะเลลึก"กลับมานะ กลับมารักกันเหมือนเดิม""...""ขอโทษที่โกหก ขอโทษที่เอาแค่ทำร้าย ขอโทษที่ปากบอกว่าไม่รัก""...""ผู้ชายสารเลวคนนี้ยังรักวาดฝันสุดหัวใจนะรู้ไหม"น่าเศร้ายิ่งนักที่เธอไม่ทันได้ฟังคำบอกรักจากปากของเขา ความโกรธแค้นเปรียบเสมือนเกาะกำแพงสูงใหญ่คอ
พิธีในช่วงเช้าใกล้จะเริ่มขึ้น เหล่าขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวเดินทางมาถึง ใบหน้าของเจ้าบ่าวประดับด้วยรอยยิ้มพลอยทำให้ท่านอาร์มันโด้และแองเจลิน่าสบายใจเมื่อท่านทั้งสองได้รับข่าวดีเรื่องล้มเลิกการแก้แค้น ส่วนเรื่องในอดีตของชัชชัยปล่อยให้เป็นไปตามหน้ากระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ"แดดดี้ดีใจนะที่ลูกคิดได้และยอมปล่อยวาง""ผมต้องขอขอบคุณแดดดี้กับมัมมากเลยนะครับที่คอยเตือนสติไม่ทำให้ผมหลงทำผิดไปมากกว่านี้""ที่มัมกับแดดดี้คอยกล่าวตักเตือนก็เพราะไม่อยากให้ลูกทำผิดพลาด แม้เราจะมีเงินมีอำนาจมากเท่าไหร่แต่มันก็ไม่สามารถช่วยให้เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้"คำสอนของท่านทั้งสองช่วยฉุดดึงไม่ให้เขาทำร้ายผู้หญิงที่ตนเองรักไปมากกว่านี้ "ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผมเองก็รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ทำร้ายเธอ""มัมอยากจะขอให้ลูกเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน ต่อไปภายในภาคหน้าลูกจะต้องมีสติให้มากกว่านี้จะได้ไม่ทำผิดพลาดอีก มัมรักลูกนะโทมัส""แดดดี้ก็รักลูกเหมือนกัน"โทมัสอ้าแขนโอบกอดท่านทั้งสองด้วยความรัก แม้จะไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ แต่ท่านทั้งสองก็เลี้ยงดูเขามาคอยเติมเต็มความรักให้อย่างไม่ขาดหายเช่นเดียวกับคามิล่าบุตรสาวแท้
ป้านวลทำตามความต้องการของวาดฝันเธอนำซองใส่สิ่งของมาฝากไว้กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของโทมัสพร้อมกำชับไว้อย่างดีว่าให้ส่งซองใส่สิ่งของในซองนี้ให้โทมัสในตอนเวลาเสร็จจากงานแต่งงาน"ป้าเป็นใครกัน""ป้าชื่อป้านวล เป็นคนรับใช้ของคุณหนูวาดฝัน"มือขวาคนสนิทก้มมองสิ่งขอภายในมือก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อสูทรักษามันไว้อย่างดีรอนำส่งให้กับผู้เป็นเจ้านายในวันพรุ่งนี้ตามความต้องการของหญิงสาว"โทมัส ลูกคิดดีแล้วเหรอหนูวาดฝันเธอไม่รู้อะไรด้วยเลยนะ"อาร์มันโด้เอ่ยแย้มขึ้นทันทีเมื่อเขาเดินทางมาถึงประเทศไทยพร้อมกับภรรยาเพื่อเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวในพิธีการแต่งงาน"เธอกับพ่อของเธอคือคนละคน ลูกอย่าเอาความแค้นมาปิดบังความรักถ้าพรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้นมันไม่สามารถย้อนเวลากลับมาแก้ไขอะไรได้แล้วนะ"แองเจลิน่าเกลี้ยกล่อมลูกชายเพราะไม่อยากให้โทมัสทำผิดไปมากกว่านี้ แม้การกระทำจะบอกว่าเกลียดและไม่ต้องการแต่ทั้งคู่รู้ดีว่าโทมัสยังรักวาดฝันเพียงแค่เจ้าตัวปากแข็งไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น"คิดให้ดีนะโทมัส ล้มล้างความคิดในตอนนี้ก็ยังไม่สายแดดดี้ไม่อยากเห็นลูกเสียใจไปตลอดชีวิตนะลูก"ถ้อยคำสั่งสอนของบิดาและมารดาบุญธรรมเริ่ม
"ตอนนี้นายชัชชัยไปรับตัวคุณวาดฝันกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วครับท่าน""ดี ฉันจะได้จัดการพวกมันทั้งสองคนเลยทีเดียว""แต่ท่านครับ คุณวาดฝันเธอกำลังตั้งท้องท่านคิดดีแล้วหรือครับที่จะ"ปัง"ชีวิตของกูต้องพังย่อยยับเพราะพวกมัน พี่สาวของกูต้องมาผูกคอยตาย กูต้องสูญเสียพี่สาวและลูกในท้องไปพร้อม ๆ กัน""...""พ่อของมันลงมือฆ่าพ่อแม่ของกูอย่างเลือดเย็น แล้วมึงคิดจะให้กูปรานีคนอย่างพวกมันสองคนอย่างนั้นเหรอ ฮะ"ความคับแค้นใจถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ภาพการตายในอดีตของครอบครัวมันยังคอยตามติดชีวิตของเขาไม่เคยเลือนหายไปไหน"แต่คุณวาดฝันเธอน่าสงสาร เธอไม่รู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเลวที่พ่อของเธอได้ทำ""แดดดี้ส่งให้มึงมาพูดเกลี้ยกล่อมกูใช่ไหม"ลูกน้องคนสนิทยืนก้มหน้าอย่างจำยอม แม้อาร์มันโด้จะอยู่ห่างออกไปไกลแต่เรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้านเขารับรู้มันทั้งหมดผ่านการรายงานของบอดี้การ์ด"เธอเป็นคนรักของนายท่าน ผมรู้ว่านานท่านยังคงรักเธออยู่ อย่าทำร้ายผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เลยนะครับ""ออกไป""อย่าทำร้ายคุณวาดฝันกับคุณหนูเลยนะครับท่าน ท่านยังรักคุณวาดฝันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ""กูไม่ได้รักเธอแล้ว มึงออกไปจัดการทุกอย่างตามที่กูสั
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูไม้ดังขึ้นปลุกให้วาดฝันรู้สึกตัวตื่นนอนในยามรุ่งเช้า "ใครคะ""หนูเอาอาหารมาส่งค่ะ"เสียงคุ้นเคยของพนักงานหญิงดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าของประตู โดยที่วาดฝันไม่ได้เอะใจหรือนึกสงสัย เธอก้าวขาลงจากเตียงรีบเดินไปเปิดประตูให้พนักงานสาวที่มักจะมาส่งอาหารให้เธอในทุก ๆ เช้า "คุณพ่อ"ริมฝีปากเรียวเปล่งเสียงเรียกชื่อของบิดาเมื่อเห็นว่าท่านกำลังยืนประกบหลังพนักงานผู้หญิงคนนั้นแถมยังมองมาที่เธอด้วยสายตาแข็งกระด้าง"นี่เงินของเธอ""ขอบคุณค่ะ"พนักงานสาวคนนั้นคว้าเงินอย่างลุกลี้ลุกลนรีบวิ่งออกไปโดยทันทีหลังจากได้รับเงินค่าจ้างเสร็จ"คุณพ่อมาที่นี่ได้ยังไงคะ""พ่อต้องเป็นคนถามลูกมากกว่าวาดฝันว่าลูกกำลังเล่นอะไรอยู่ ทำไมถึงได้หนีออกมาจากบ้านของคุณโทมัสเขาแบบนั้น""เขาให้คุณพ่อมาตามหนูเหรอคะ"ริมฝีปากซีดเซียวเม้มเขาหากันด้วยความประหม่า สองเท้าเล็กก้าวถอยหลังหมายจะปิดประตูหนีแต่ลูกน้องผู้ภักดีของผู้เป็นพ่อไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น"หนูต้องกลับไปกับพ่อเดี๋ยวนี้วาดฝัน นี่คือคำสั่ง""ปล่อยหนูไปเถอะนะคะคุณพ่อ อย่าส่งตัวหนูไปให้ผู้ชายคนนั้นเลย"เธอวิงวอนแผ่วเบาด้วยความร้าวราน หัวใจเธอพลันดิ่งว
อ้วก อ้วกเสียงอาเจียนอย่างรุนแรงดังขึ้นภายในห้องน้ำพร้อมกับหยาดเลือดกำเดาไหลทะลักออกมา เส้นผมสีดำสนิทขับดวงหน้าซีดให้ขาวดังหิมะ ความมืดมิดไร้ขอบเขตกำลังห้อมล้อมรอบตัวของเธอเมื่อผลตรวจเลือดในครั้งนี้เป็นไม่น่ายินดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างเธอเลยสักนิด'คนไข้คิดดีแล้วหรือครับ ตอนนี้เซลล์มะเร็งมันลุกลามจนน่าเป็นห่วงถ้าคนไข้ยืนยันจะรักษาเด็กในครรภ์เอาไว้หมอเกรงว่า''ฝันไม่เป็นอะไรค่ะคุณหมอ ฝันทนได้''แต่ถ้าคนไข้ไม่รักษา ทั้งตั้งคนไข้เองรวมไปถึงเด็กอาจจะ...''แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ ในเมื่อฝันไม่สามารถเลือกทางไหนได้'ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนชีวิตของเธอมันก็จะต้องเกิดความสูญเสียขึ้น'ขอร้องเถอะค่ะหมอ เมตตาคนที่กำลังใกล้จะตายอย่างฝันด้วยเถอะนะคะ'"แม่ขอโทษนะลูก ถ้าหากชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนได้เกิดมาเป็นแม่ลูกอย่าให้ได้มีเหตุร้ายทำให้เราสองคนต้องพลัดพรากกันอีกเลย"เธอไม่เคยท้อแท้หรือสิ้นหวังอะไรเท่านี้มาก่อน ชะตาชีวิตคงลิขิตให้เธอได้เจอแต่กับความทุกข์ไร้ความสุขจนวินาทีสุดท้ายสองเท้าก้าวไปยังเตียงนอนหลังจากจัดการอาบน้ำแต่งตัวในชุดใหม่แต่ใบหน้าสวยยังคงขาวซีดไม่มีชีวิตชีวา ขอบดวงตาบวมช้ำ