NIVA UNIVERSITY
ร่างสูงของกวินทร์ลงจากรถคันหรู แล้วรีบเดินไปหาเพื่อนของเขาที่นั่งรออยู่หน้าคณะ ระหว่างทางนักศึกษามองเขาจนลูกตาแทบทะลัก บางคนมองแล้วก็กระซิบกระซาบกัน ส่วนมากก็มีแต่ผู้หญิงนั่นแหละ
“กว่าจะมาได้นะ มัวไปกกอยู่กับคนไหนอยู่ล่ะ” ก้นยังไม่ทันได้ติดเก้าอี้ เพื่อนรักแสนกวนอย่างมาร์คัสก็แขวะเขาทันทีที่มาถึง ร่างสูงมองเพื่อนตนเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า..
“ไม่ได้กกใครทั้งนั้นแหละ กูพาซินไปกินข้าว”
“อ๋อ ที่แท้ก็กกอยู่กับเมียนี่เอง”
“เหอะ ก็ดีกว่ามึงแล้วกันไม่มีเมียให้กก”
“ไอ้วิน” คำพูดของกวินทร์ทำเอาพ่อหนุ่มเจ้าสำราญของกลุ่มของขึ้น อยากจะบอกเหลือเกินว่าแค่เมียน่ะเขาจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้เขายังรักชีวิตโสดอยู่จะให้มีเมียน่ะมาร์คัสคงไม่เอาด้วยหรอก น่ารำคาญจะตายไป มาร์คัสคิดแต่ไม่ตอบออกไป เพราะเขาเริ่มขี้เกียจเถียงกับเพื่อนรักอย่างกวินทร์แล้ว กวินทร์เองถึงแม้ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เจ้าตัวกลับเอาแต่มองคนตรงข้ามแล้วหัวเราะอยู่คนเดียว
“พวกมึงจะทะเลาะกันอีกนานมั้ย ไม่ไปเรียนรึไง” ธีสิตรำคาญเลยรีบสวนขึ้น
“เออ กัดกันอยู่ได้เหมือนหมา” อลันเสริม
“ไอ้ลัน!” หึๆ อลันหัวเราะในลำคอที่ได้แหย่มาร์คัส
“ก็ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนหนิอีกตั้งห้านาที” กวินทร์บอกนิ่งๆ
ภายในคลาสเรียนวิชาของอาจารย์มาราศรีสุดโหดประจำสาขา ที่เพิ่งย้ายมาจากอเมริกาได้ข่าวว่าน่ากลัวจนนักศึกษาขยาดไม่น้อย ‘กวินทร์ไม่ค่อยเข้าเรียนวิชานี้เลยไม่เคยเห็น’ แต่ไม่ใช่กับกวินทร์ตอนนี้ ร่างสูงของกวินทร์เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยสำหรับเขาวิชานี้เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก สอนก็ไม่เข้าใจยังไงต่อให้เขาไม่ตั้งใจเรียนในห้องเขาก็ยังทำข้อสอบได้อยู่ดีเพราะเขาฉลาดไงล่ะ หึๆ เลื่อนมือถือไปสักพักก็กดเข้าแอบพลิเคชันสีเขียวซึ่งเต็มไปด้วยข้อความจากผู้หญิงมากมายทักมา จนสะดุดตากับใครคนนึง เขาไม่รอช้านิ้วเรียวรีบกดเข้าไปในแชทผู้หญิงคนนั้นทันที และคาดว่าเธอน่าจะเรียนมอเดียวกันกับเขานี่แหละ
[สวัสดีค่ะ]
“?”
[กวินทร์ ใช่มั้ยคะ]
“ครับ”
[ฉันจินนี่นะคะการบินปีสองมอเดียวกับคุณ]
“อืม”
[เจอกันหน่อยมั้ยคะ]
“เหอะ อยากล่ะสิ แต่เอาเถอะเสนอมาเขาก็สนองไปแค่นั้น” เขาแสยะยิ้มอย่างรู้ทัน ก่อนเอ่ยประโยคที่ถ้าคนในแชทได้ฟังคงสะอึกแน่ เขายิ้มมุมปากอย่างนึกสมเพชเธอคนนั้น แต่แล้วไงล่ะในเมื่อเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว สนองหน่อยจะเป็นไรไป เมื่อคิดได้ดังนั้นกวินทร์จึงตอบตกลง
“ได้สิ”
[ฉันจะรอที่ลานจอดรถนะคะ]
“อืม”
“แล้วเจอกันนะคะ” เขาอ่านแต่ไม่ตอบกลับไป
“หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง” มาร์คัสเพื่อนรักเพื่อนกัดนั่งข้างกวินทร์พูดแขวะเขาเสียงไม่ดังนัก
“พล่ามอะไรของมึง”
“เปล๊าาา”
“เสียงสูงเชียวนะ ไอ้ห่า” อลันนั่งอยู่อีกข้างของกวินทร์เอ่ยแซวมาร์คัส กวินทร์ไม่ได้สนใจเพื่อนอีกแต่กลับกดเข้าโปรแกรมแชทอีกครั้ง
CINDY…
Gavyn : ทำไรอยู่
Cindy : ดูซีรีส์
Gavyn : เรื่องไรอ่ะ
Cindy : What's Wrong With Secretary Kim? พระเอกหล่อมากเลย
Gavyn : เดี๋ยวนี้กล้าชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผัวหรอ เดี๋ยวเถอะ
Cindy : วิน! พูดอะไรเนี่ยย
ร่างบางตอนนี้ทั้งเขินทั้งโกรธที่กวินทร์พูดคำนั้น ผัวเผออะไรกันล่ะ!
หึๆ
Cindy : แต่สำหรับซินยังไงวินก็หล่อที่สุดอยู่แล้ว!
ข้อความซินดี้ทำเอาคนตัวสูงระบายยิ้ม กวินทร์คิดในใจว่าเมียเขานี่ช่างปากหวานเสียจริง นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ เขาคงให้รางวัลคนตัวเล็ก ด้วยการจับเธอจูบซะให้หนำใจจะเอาให้ปากเปื่อยไปเลยล่ะ
Cindy : แล้วนี่ไม่ได้เรียนหรอ ทำไมถึงเล่นโทรศัพท์ได้
Gavyn : เรียนอยู่แต่ไม่อยากเรียน อาจารย์สอนโคตรไม่รู้เรื่องอ่ะ อีกอย่างวินคิดถึงซิน อดใจไม่ไหวเลยต้องทักหา
Cindy : พึ่งเจอกันไปเองนะ
Gavyn : ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วนี่น่า
Cindy : หรอออ
Gavyn : ครับ แล้วซินไม่คิดถึงวินบ้างหรอ
Cindy : ........อืม...
Gavyn :?
Cindy : คิดถึงเหมือนกัน ^^
หึๆ เขาหัวเราะในลำคอให้กับความน่ารักของร่างบาง
Gavyn : วินไปละนะ
Cindy : อืม รักนะ//^^
กวินทร์ยิ้มให้คนในแชทแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรอีกจนกระทั่ง...
ฟิ้ววว! แกร๊กก!
ปากกาแท่งยาวถูกใครบางคนปามาทางเขาจนเกือบโดนหน้า ดีมันเฉียดเขาไปแค่นิดเดียวเท่านั้น กวินทร์มองปากกาแท่งนั้นด้วยสายตาเกรี้ยวกราด กวินทร์กัดฟันกรอดด้วยความโกรธไม่เคยมีใครหน้าไหนทำแบบนี้กับเขาแม้แต่อาจารย์ทุกคนในมหาลัยนี้ แล้วยัยป้าคนนี้เป็นใคร!
“นายกวินทร์! ถ้าไม่อยากเรียนก็ออกไปไม่ใช่มานั่งเล่นแต่โทรศัพท์”
“ผมก็ไม่ได้รบกวนคนอื่นหนิ”
“นายกวินทร์ อย่าคิดว่าเป็นหลานเจ้าของมหาลัยแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอนะ”
“แล้วอาจารย์จะทำอะไรกับผมล่ะ” กวินทร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ยืนจ้องหน้าอาจารย์เขม็ง สายตาของร่างสูงตอนนี้แข็งกร้าวน่ากลัว ลูกศิษย์และอาจารย์จ้องกันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน จนทุกคนในห้องเสียวสันหลังวาบ
“ไอ้วิน พอได้แล้ว” ธีสิตพยายามดึงแขนร่างสูงให้นั่งลงที่เดิมแต่...เพล้ง! กวินทร์ถีบเก้าอี้จนล้มก่อนจะเดินออกจากห้องไป เขาไม่สนอยู่แล้วว่าใครจะมองเขายังไง ไม่กลัวด้วยซ้ำถ้าอาจารย์จะเอาเรื่องนี้ไปอธิการบดีซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของเขา อาจารย์มาราศรีจากตอนแรกที่กล้าต่อปากต่อคำกับร่างสูง ตอนนี้ยืนอึ้งตกใจไม่น้อยไม่คิดว่ากวินทร์จะกล้าทำแบบนี้
“ไอ้วิน!!” อลันเรียกเพื่อนเสียงดังแต่ร่างสูงก็ไม่สนใจ
“เอ่ออ ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ” บอกอาจารย์เสร็จสรรพพวกเขาก็รีบวิ่งตามกวินทร์ออกไป
ร่างสูงตอนนี้อารมณ์ของเขาแทบจะระเบิดออกมาแล้ว ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น ไม่เคยมีใครขึ้นเสียงและทำกิริยาแบบนี้ใส่เขา ยอมรับว่าโกรธมากโกรธจนสามารถฆ่าคนได้เลยล่ะ ร่างสูงเดินกระแทกเท้าจนถึงลานจอดรถก็เจอกับผู้หญิงคนนึงที่พึ่งคุยกันไม่นานนี้
“ถอยไป” เขากำลังจะเดินไปเปิดประตูรถ อยากรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดแต่แล้วจินนี่ ก็เดินมาขวางทางไว้ก่อนจะ
“วินคะ คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
“ถอยไป” กวินทร์บอกจินนี่ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เราไป....” ยังไม่ทันพูดจบ
“บอก ให้ ถอย ไป” ร่างสูงเน้นเสียงหนักแน่นทีละคำแต่เธอก็ยังไม่หลีกทาง อีกทั้งมือเรียวนั่นก็ยังยกขึ้นลูบไล้แผงอกของเขาผ่านเสื้อนักศึกษา ร่างสูงเริ่มหมดความอดทนกับผู้หญิงตรงหน้า ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์เคลิ้มกับสัมผัสของหล่อนสักนิดจนสุดท้ายเขาก็..
พลั่ก ตุบ อ๊ะ!
เขาผลักผู้หญิงคนนั้นออกจากตัวอย่างรุนแรง จนเธอล้มลงไปนั่งจุมปุกกับพื้นปูนแข็งๆนั่นทำเอาเจ็บไม่น้อย ร่างสูงไม่สนใจเธอแม้แต่น้อยตอนนี้เขาอยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ขายาวก้าวฉับเดินไปเปิดประตูรถและปิดมันเสียงดัง ปัง! แล้วรีบขับรถออกไปทันที จินนี่มองตามรถที่เคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตา
เธอกัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ ‘กินก็ยังไม่ได้กินแถมยังต้องเจ็บตัวอีกหนักไปว่านั้นก็เจ็บใจนี่แหละ ไอ้ผู้ชายใจร้าย!’
ทางด้านเพื่อนๆ ของกวินทร์ที่รีบวิ่งตามร่างสูงมานั้น เจอเข้ากับผู้หญิงคนนึงแม้มองไกลๆ ก็รู้ว่าสวยมากนั่งพับเพียบอยู่บนพื้น
“เฮ้ย ใครวะ” มาร์คัสผู้กะล่อนไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปดูทันทีเพื่อนเขาก็รีบตามไป
“เอ่ออ คุณครับเป็นอะไรมั้ย” จินนี่เงยหน้าขึ้นมาตามเสียงทุ้มก็เจอกับหนุ่มหล่อทั้งสามคน และใช่เธอรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ก็เพื่อนสนิทของผู้ชายใจร้ายคนนั้นไงล่ะ แต่ตอนนี้เธอเจ็บมากไม่มีเวลามาโกรธแค้นใคร แล้วก็รีบขอความช่วยเหลือจากเขาทันที
“ช่วยฉันหน่อยนะคะ ฉันลุกไม่ได้”
“เอ่อเจ็บมากมั้ยครับ”
“ไม่มากมั้งคะ” แหวใส่มาร์คัสนิดๆ
“หึ ฝีมือไอ้วินสินะ” อลันมองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดคนเดียวเบาๆ เขารู้ได้ยังไงน่ะหรอก็ตอนไอ้วินมันเปิดดูรูปโปรไฟล์ผู้หญิงคนนี้นะสิ ไม่ได้อยากเผือกหรอกนะแต่มันเห็นเองต่างหากล่ะ พวกเขาลงมติกันแล้วว่าจะให้ไอ้มาร์คัสเป็นคนพาจินนี่ไปส่ง และเหมือนเจ้าตัวก็ดูจะเต็มใจช่วยไม่น้อย เมื่อตกลงกันเรียบร้อยก็พากันขับรถใครรถมันไปหากวินทร์ที่ผับ รู้ได้ไงน่ะหรอก็เวลามันโกรธหรือเครียดอะไรสักอย่างมันก็จะไปสิงอยู่ที่ผับนั่นแหละ
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ