อีกเช้าของวันทำงานอันแสนหนักหน่วงของพนักงานเงินเดือนอย่างพวกเธอต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้หญิงที่ชื่อลดาซึ่งเธอมักจะตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมาทำกับข้าวใส่ปิ่นโตไปที่ทำงาน กลิ่นอาหารหอมชวนหิวมันพอจะทำให้สมองลืมเรื่องที่คิดหนักมาตลอดทั้งคืนได้ สำหรับผู้หญิงที่มีอายุใกล้จะเข้าเลขสามมักจะต้องคิดหนักเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปีเริ่มมีท่าทีมีพิรุธ มันจะไม่ทำให้เธอคิดมากเลยถ้าหากว่าช่วงพักหลังนี้แฟนหนุ่มของเธอเริ่มหาย ติดต่อไม่ได้ บางครั้งก็บอกว่าจะโทรมาแต่ก็หายเหมือนกับเมื่อวานซึ่งเขาบอกว่าจะมารับแต่ก็ไม่มาหายเข้ากลีบเมฆจนถึงตอนนี้แม้แต่ข้อความบอกกล่าวยังไม่มีสักข้อความ มันยิ่งทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าเขาหายไปไหน ถ้าหากว่าทำงานหนักอย่างน้อยก็คงจะต้องมีเวลาส่งข้อความหรือโทรมาบอกกล่าวเธอบ้าง แต่นี่กลับหายไปเลย สิ่งที่แฟนหนุ่มกำลังทำอยู่ในตอนนี้มันเริ่มที่จะทำให้เธอคิดไม่ตก ว่าเขาทำงานหนักอย่างที่บอกเธอจริง ๆ หรือว่าเขากำลังมีอะไรบางอย่างที่กำลังปิดบังเธออยู่ แต่ถึงอย่างไรความรักที่เขาและเธอมีให้ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันทำให้เธอเชื่อมั่นว่าแฟนหนุ่มนั้นจะไม่มีวันนอกใจ เพราะเท่าจากที่ดูอยู่เขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหน สงสัยเธอต้องแอบสืบจากเพื่อนสนิทซึ่งทำงานเป็นเลขาให้กับแฟนหนุ่มของเธอเสียแล้ว
ใบหน้าของลดายังมีรอยยิ้มมอบให้คนอื่นอยู่เสมอถึงแม้ว่าเธอกำลังจะคิดหนักซึ่งนี่เป็นข้อดีของเธอถึงแม้ว่าเธอจะเครียด คิดหนัก หรือกดดันมากแค่ไหน ใบหน้าของเธอก็คงยังประดับด้วยรอยยิ้มไว้อย่างเช่นตอนนี้ "ลดามาพอดีเลยท่านประธานเรียกให้เข้าไปพบจ้ะ"เมื่อมาถึงโต๊ะทำงานยังไม่ทันได้วางกระเป๋าลงรุ่นพี่สาวอย่างกุ้งนางก็รีบเอ่ยกล่าวตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย เมื่อเช้าท่านประธานมาหาเธอโดยที่มีเจตจำนงให้เธอบอกลดาถ้าหากว่าเข้ามาทำงานให้รีบไปพบด่วน ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นเธอก็ไม่ได้ถามเหมือนกัน "ท่านประธานมีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่าคะพี่กุ้งนาง" "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่พี่ว่าลดารีบไปพบท่านประธานดีกว่านะท่านรอลดามาได้สักพักใหญ่แล้ว"รุ่นน้องสาวพยักหน้ารับ ข้าวของที่ถือมาถูกเก็บเอาไว้ในลิ้นชักข้างโต๊ะก่อนหญิงสาวจะรีบเดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบนสุดของบริษัทซึ่งเป็นห้องทำงานของประธานบริษัทผลิตและน้ำเข้ารถยนต์ของประเทศนี้ ติ๊ง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกสิ่งแรงที่ลดาจะเห็นก็คือเลขาของท่านประธานซึ่งนั่งทำงานอยู่หน้าห้องด้วยความขยัน สายตาของศจีหันมามองผู้มาใหม่อย่างลดาริมฝีปากบางเอ่ยทักทายตามประสาคนรู้จัก "อ้าว น้องลดามาแล้วเหรอคะ" "สวัสดีค่ะพี่ศจี ไม่เจอกันนานสวยขึ้นเยอะเลยนะคะเนี่ย" "แหม ช่างพูดจานะเรา ว่าแต่มาพบท่านประธานใช่ไหมจ๊ะ" "ใช่ค่ะ" "งั้นเชิญเข้าไปเลยจ้ะ ท่านประธานรออยู่"ลดาพยักหน้ารับรู้เธอก้มมองการแต่งกายของตัวเองก่อนจะเคาะประตูเพื่อขออนุญาตคนภายในและเมื่อได้รับสัญญาณตอบรับเธอจึงรีบผลักประตูเข้าไปด้านใน ความเย็นภายในห้องทำงานมันทำให้ลดาหนาวสั่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา "สวัสดีค่ะท่านประธาน"น้ำเสียงอ่อนหวานของเด็กสาวทำเอา 'คุณพยัคฆ์'ประธานบริษัทแห่งนี้ต้องเงยหน้าจากเอกสารขึ้นมามองผู้มาใหม่ซึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้ามุมปากกระตุกยิ้มให้เป็นการทักทายอย่างคนสนิท "บอกหลายครั้งแล้วนะว่าอย่าเรียกท่านประธาน ให้เรียกว่าพ่อเด็กคนนี้พูดกี่ทีไม่เคยจำ"คล้ายจะเป็นคำดุที่ทำเอาลดาได้แต่ส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้ "ท่านประธานก็รู้ว่ามันไม่เหมาะ" "แต่พ่อเป็นคนอนุญาต ใครสงสัยหรือไม่เข้าใจให้มาถามพ่อ พ่อจะอธิบายด้วยซองขาวเอง" "ท่านประธานคะ"พยัคฆ์ได้ยินน้ำเสียงขึ้นจมูกของว่าที่ลูกสาวก็รีบสงบปากโดยทันที ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนวาปากกาลงซึ่งนั่นหมายความว่าท่านกำลังจริงจังในเรื่องที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ สายตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายปีมองเด็กสาวที่เขาและภรรยารักและเอ็นดูซึ่งเธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้า "ที่พ่อเรียกลดามาพบในวันนี้คือพ่อมีเรื่องสำคัญอยากจะให้ลดาช่วย" "เรื่องอะไรคะ"คิ้วโก่งดั่งคันศรขมวดเข้าหาเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของชายวัยกลางคน "หนูรู้ใช่ไหมว่าพ่อมีลูกชายแท้ ๆ อยู่หนึ่งคนซึ่งตอนนี้กำลังบริหารงานอยู่ที่อเมริกา" "ลดาทราบค่ะ"เพียงแต่ว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าของอีกฝ่ายรู้จักแค่เพียงชื่อเสียงก็เท่านั้น "อีกสองอาทิตย์ลูกชายของพ่อจะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานคนต่อไปพ่ออยากจะให้ลดามาเป็นผู้ช่วยเลขา อย่าพึ่งปฏิเสธ"ฝ่ามือหนารีบยกขึ้นปรามโดยทันทีเมื่อเด็กน้อยกำลังจะเอ่ยปากขัดแย้ง คำพูดที่จะเอ่ยขัดแย้งถูกกลืนลงคอโดยทันทีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันคงจะแสดงชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ "นี่ไม่ใช้คำบอกเล่า หรือคำขอร้อง แต่นี่เป็นคำสั่งของประธานบริษัทซึ่ง นางสาวลดาจะต้องทำตาม เข้าใจ" ลดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรงเหนื่อยล้าหลังกลับมาจากห้องทำงานของประธานบริษัท สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันเธอทำให้กุ้งนางซึ่งนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงกันข้ามเริ่มสงสัยว่ารุ่นน้องในแผนกเดียวกันนั้นเป็นอะไรเพราะสีหน้าของลดาดูเหมือนว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ "เป็นอะไรจ๊ะคนสวยของพี่กุ้งนาง ทำไมมีสีหน้าไม่สู้ดีแบบนั้น ท่านประธานเรียกไปทำไมเหรอจ๊ะ" "เฮ้อ"เสียงถอนหายใจใหญ่ทำเอาคนเป็นห่วงถึงกับตกใจ ใบหน้าเรียวเงยไปมองรุ่นพี่สาวซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากเล็กแบะออกมาเหมือนกับเด็ก ๆ ทำเอากุ้งนางถึงกับตกใจรีบเดินอ้อมโต๊ะมาปลอบสาวน้อยซึ่งกำลังจะร้องไห้ "ฮือ พี่กุ้งนาง" "ลดาเป็นอะไร ใครทำอะไรไหนบอกพี่มา" "ฮือ ท่านประธานจะให้ลดาย้ายตำแหน่งไปเป็นผู้ช่วยเลขาให้ลูกชายของท่านที่จะเข้ามาบริหารงานในอีกสองอาทิตย์หน้า" "ฮะ ย้ายตำแหน่งไปเป็นผู้ช่วยเลขาให้กับคุณอิทธิพล"กุ้งนางถึงกับต้องยกมือขึ้นทาบอกเมื่อได้ยินข่าวดีจากปากของลดาเล่าออกมา ซึ่งในเวลาต่อมาลดาซึ่งกำลังนั่งร้องไห้อย่างไม่จริงจังจะต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหูของตัวเองเมื่อคนที่ยืนอยู่ด้านข้างกรีดร้องเสียจนดังลั่น "กรี๊ด"กุ้งนางเขย่าแขนทั้งสองข้างของลดาไปมาอย่างคนที่ดีใจ "ลดารู้ตัวไหมว่าลดาเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเลยที่จะได้ใกล้ชิดกับคุณอิทธิพล คุณอิทธิพลน่ะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมนิสัยดีเป็นสุภาพบุรุษอีกต่างหาก โอ๊ย"ลดานั่งนิ่งเธอฟังเสียงหวีดร้องด้วยความดีใจของกุ้งนางถึงกับต้องส่งยิ้มแห้ง สิ่งที่พี่กุ้งนางพรรณนามานั้นไม่ได้วิ่งเข้าสู่สมองน้อย ๆ เลยสักนิดในตอนนี้ แต่กลับกัน สมองของเธอในตอนนี้กลับคิดถึงแต่แฟนหนุ่ม ถ้าหากเขารู้ว่าเธอต้องย้ายตำแหน่งซึ่งต้องไปใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่นเขาจะต้องไม่พอใจเอาแน่ ๆ 'เธอจะทำยังไงต่อไปดี ลดา'ตลอดทั้งวันลดาแทบจะคิดไม่ตกกับเรื่องที่ใกล้จะเกิดขึ้น เพราะนิสัยด้านลบของแฟนหนุ่มนั้นคือจะมีความรุนแรงอยู่เสมอเมื่อรู้ว่าเธอต้องทำงานใกล้กับบุรุษคนอื่น ถ้าหากว่าเรื่องนี้รู้ถึงหูเธอก็ไม่อยากจะนึกเลยว่ามันจะเป็นเช่นไร แต่ก็คงเดาได้ว่ามันคงไม่ต่างจากครั้งก่อน ๆ ตั้งแต่ครั้งที่เธอยังเรียน แฟนหนุ่มอย่างภีรวัฒน์นั้นมักจะมีอาการไม่พอใจยามเมื่อเธอเข้าใกล้หรือทำอะไรที่มันใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่เขา จนบางครั้งเธอกับภีรวัฒน์มักจะมีปากเสียง ถกเถียงกับเรื่องแบบนี้อยู่เป็นประจำ ก่อนที่เขาเองนั้นจะหายไปจากชีวิตเธอเป็นอาทิตย์และจะกลับมาพร้อมกับดอกไม้ช่อโตเป็นการง้อและขอโทษเธอเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง"เห้อจะทำยังไงดี จะปิดบังก็ไม่ได้ ถ้าบอกไปเรื่องมันก็จะบานปลายไปกันใหญ่"ได้แต่นั่งกลุ้มใจไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี มีแฟนขี้หึงขี้หวงหนักเอาการแบบนี้มันหน้ากลุ้มใจเสียจริง ๆ"หรือว่าจะปรึกษายัยสรดี"เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องให้เธอเครียดหรือเรื่องที่หาทางออกไม่เจอลดามักจะปรึกษาเพื่อนคนนี้ซึ่งทั้งสองสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนลดาให้ความไว้วางใจเพื่อนคนนี้เป็นอย่างมาก และทุกครั้งก็มักจะได้คำปรึกษา
วันศุกร์สุดสัปดาห์ใคร ๆ ต่างก็ล้วนกันพาดีใจเพราะพรุ่งนี้จะได้หยุดพักผ่อนร่างกายหรือจะได้ใช้ชีวิตในวันหยุดกับครอบครัว ซึ่งต่างจากนางเอกของเรื่องนี้ที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเพราะนี่จะครบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่แฟนหนุ่มของเธอหายหน้าไปแถมยังติดต่อไม่ได้ และอีกอย่างไม่ใช่เพียงแค่แฟนหนุ่มที่หายหน้าไป เพื่อนสาวของเธอเองก็ด้วยที่ช่วงนี้ไม่ยอมรับสายของเธอเลย เรื่องนี้มันยิ่งทำให้เธอสงสัยว่าทั้งคู่หายไปไหน เพราะตั้งแต่ที่เธอโทรไปวันนั้นก็ไม่ได้รับรู้สารทุกข์สุกดิบของทั้งคู่อีกเลย"นี่แกรู้ไหมว่านังแพรที่อยู่แผนกบริการลูกค้าน่ะ จับได้ว่าเพื่อนของมันแอบไปเล่นชู้กับผัวของตัวเองคาคอนโดกลางวันแสก ๆ เลยนะ""ฮะ จริงเหรอ แล้วนังแพรทำยังไงกับสองคนนั้นบ้าง""ก็อาละวาดน่ะสิ คบกับผัวมาตั้งหลายปีแถมมาจับได้ว่าเพื่อนของตัวเองเป็นชู้กับผัวอีกมีหรือที่นางแพรจะทนได้""แบบนี้นังแพรก็น่าสงสารแย่เลยสิ ที่ผัวตัวเองกับเพื่อนรวมหัวกันแทงข้างหลังแบบนี้"ลดาแอบฟังสองสาวขาเม้าท์ของบริษัทซึ่งมาแอบเม้าท์เรื่องคนอื่นภายในห้องน้ำกันอย่างสนุกปาก นี่ถ้าเธอไม่เดินมาเข้าห้องน้ำก็คงไม่ต้องมาเจอขาเม้าท์เรื่องชาวบ้านอย่างสองคนนี้
วันหยุดของลดาไม่ได้ทำให้เธออยู่แต่ภายในบ้านได้ ด้วยความเครียดกำลังทำให้เธอคิดมากถึงเรื่องของแฟนหนุ่มและเพื่อนสาวทำเอาหัวใจของเธอกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุขจึงต้องถ่อสังขารไม่สู้ดีของตัวเองมาหาพี่ร่วมทำงานอย่างกุ้งนางเมื่อลงจากรถแท็กซี่สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือเด็กน้อยตัวอ้วนกลมแววตาใสซื่อแก้มชมพูระเรื่อกำลังนั่งเล่นตุ๊กตาซึ่งเธอเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดอยู่บนเก้าอี้หน้าบ้าน ก่อนใบหน้าของเด็กน้อยน่ารักใบหน้าอ้วนกลมอย่างหนูน้อยลูกปลาจะเงยขึ้นมาสบตากับเธอ เด็กน้อยรีบวางตุ๊กตาตัวโปรดลงโดยทันทีเมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนส่งยิ้มให้เธอ"คุณน้าลดาขา ลูกปลาคิดถึงคุณน้าจังเลย"ลดานั่งลงบนส้นเท้าอ้าแขนรอรับเด็กน้อยตัวอ้วนซึ่งลูกปลาเองก็วิ่งอ้าแขนเข้ามากอดด้วยความคิดถึง ทั้งคู่ต่างกอดกันอยู่ที่หน้าบ้านของหนูน้อย บ้านหลังเล็กกะทัดรัดเหมาะสำหรับอาศัยอยู่สองคนแม่ลูก"น้าลดาก็คิดถึงน้องลูกปลาค่ะ คิดถึงมาก"จมูกรั้นกดลงตรงแก้มอวบอิ่ม กลิ่นหอมของแป้งเด็กนั้นมันทำให้ลดาถึงกับผ่อนคลายลงได้จากเรื่องที่กำลังเครียดอยู่ในตอนนี้"แต่ลูกปลาคิดถึงมากกว่า คิดถึงเท่านี้เลย"ปากกระจับพูดจาฉอเลาะแขนสั้นป้อมพยายามจะอ้าออ
หลังจากอยู่เล่นกับหลานสาวตัวน้อยจนถึงตอนเย็นใกล้จะมืดค่ำลดาก็ขอตัวลาพร้อมกับสัญญากับเด็กน้อยว่าเธอจะมาหาใหม่ คำพูดของกุ้งนางซึ่งเปรียบดั่งพี่สาวยังคงชัดเจนอยู่ในหู บางทีระยะเวลาของความรักที่เดินทางมาหลายปีบางทีมันอาจจะถึงจุดอิ่มตัวจนทำให้แฟนหนุ่มของเธอนั้นได้เจอกับผู้หญิงคนใหม่ซึ่งสามารถมอบความสุขให้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ใช่ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอที่มอบให้ได้แค่เพียงแก้มนวลเป็นที่อิงหอมให้ได้เพียงเท่านี้ ตลอดหลายปีที่คบกันมาแม้แต่จูบแรกเธอก็ยังไม่เคยมอบให้แฟนหนุ่มเลย อย่าได้นึกไปถึงขั้นถอดเสื้อผ้าขึ้นเตียงนอน ด้วยความคิดแบบสมัยเก่า สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับลูกผู้หญิงเธออยากจะมอบให้กับชายคนรักในวันแต่งงานร่วมเรียงเคียงหมอน อยากให้เขาเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดที่ได้รับสิ่งมีค่ามากที่สุดในชีวิตจากเธอ แต่ดูเหมือนกับว่ามันช่างยาวนานจนอีกฝ่ายทนรอต่อไปไม่ไหว ทำให้เขาต้องออกไปหาคนที่สามารถมอบความสุขให้เขาได้"จะไปไหนครับ""ไปห้างGGค่ะ"นี่คือเป้าหมายของเธอหลังจากก้าวขาขึ้นมานั่งบนรถแท็กซี่ ถึงเวลาพลบค่ำแต่ใจของเธอในตอนนี้นั้นยังไม่อยากจะกลับไปอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะถ้าหากกลับไปอยู่คนเดียวท่ามกลางควา
สองเท้าเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า สายตายังคงจ้องมองชายหญิงที่เดินกอดแขนหอมแก้มกะหนุงกะหนิงโดยไม่สนใจสายตาของผู้คนบริเวณโดยรอบซึ่งกำลังมองมาอย่างเป็นจุดสนใจ ว่าทำไมว่าลูกชายเจ้าของโรงแรมใหญ่โตถึงได้มาเดินกอดแขนกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนสาวของตัวเองแบบนี้เมื่อเดินตามทั้งคู่มาถึงลานจอดรถภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำเอาลดาแทบล้มทั้งยืน เมื่อเพื่อนกับคนรักของตัวเองกำลังจูบกันอย่างเราร้อน"อืม ภีมคะอย่าพึ่งสิที่นี่มันไม่เหมาะ""แต่ผมต้องการคุณที่รัก ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ด้วย"ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่าตอนนี้เขาแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไปเพราะชุดที่เธอใส่มันช่างล่อตาล่อใจยั่วอารมณ์ของเขา"แต่สรกลัวใครผ่านมาเห็น""ไม่มีใครผ่านมาเห็นหรอกน่า นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ ถ้าคุณกลัวเราไปทำกันในรถก็ได้"อารมณ์ความต้องการมากมายพุ่งขึ้นสูงชายหนุ่มกดปลดล็อกเปิดประตูผลักร่างหญิงสาวให้เข้าไปทางด้านเบาะ หลังจากประตูรถทางด้านหลังถูกปิดลงเพียงเท่านี้เกมสวาทก็สามารถเริ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องอายใคร รถคันหรูโยกย้ายตามไฟสวาทลุกโชนอยู่ด้านใน คนที่ยืนหลบอยู่หลังเสาแอบมองดูรถของแฟนหนุ่มโยกย้ายไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าด้านในร้อนแรงแ
"พี่กุ้งนางคะ ถ้าเราจับได้ว่าแฟนกับเพื่อนของตัวเองแอบมีความสัมพันธ์กันลับหลังเรา เราควรจะต้องทำยังไงดีคะ"คำถามที่ออกมาจากปากของลดาทำเอากุ้งนางถึงกับต้องหันมามองจนคอแทบเคล็ด สีหน้าเต็มไปด้วยความหม่นหมองไม่มีความสุขมันไม่สามารถปิดบังสายตาของกุ้งนางได้เลย"ลดาอย่าบอกพี่นะว่า""ค่ะ ภีมกับสรแอบมีอะไรกันลับหลังของลดา"สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดในระหว่างที่เล่าเหตุการณ์ที่ได้พบเห็นเมื่อวานให้กุ้งนางได้ฟัง ส่วนกุ้งนางเอกตกใจเพราะไม่คิดเลยว่าทั้งคู่จะทำแบบนั้น เพราะการกระทำของภีรวัฒน์มีต่อลดานั้นมันบ่งบอกว่าเขารักแฟนสาวมาก และไม่นึกเลยว่าลับหลังผู้ชายคนนี้กับเพื่อนสาวจะเลวระยำแบบมีความสัมพันธ์กันลับหลัง ซึ่งฟังจากที่น้องสาวของเธอเล่ามา ความสัมพันธ์ที่เกินเลยของทั้งคู่มันก็ดูก็รู้ว่าเกิดขึ้นมานาน ไม่ใช่แค่ปีสองปี มันอาจจะนานกว่านั้น"พี่ว่าลดาควรจะเลิกกับภีมนะ เป็นพี่ พี่ก็คงจะรับไม่ไหวที่แฟนนอกใจไปมีอะไรกับเพื่อนสนิท พี่ว่ามันเหนื่อยนะที่เราจะต้องมาคอยทำตัวเหมือนคนโง่ปิดหูปิดตาไม่รับรู้ พี่ว่ามันไม่โอเคเลย พี่ขอโทษที่พี่พูดแรงเกินไปแต่ถ้าเป็นพี่ พี่เลือกที่จะทำแบบนั้น"เพราะคงไม่มีใครใจแกร่งมากพ
สองเท้าเรียวอยู่บนรองเท้าส้นสูงขนาดสามนิ้วเหยียบย่องเข้ามาภายในโรงแรมขนาดใหญ่ใจกลางเมืองกรุง ความสวยงามโดดเด่นและการให้บริการที่ดีสามารถดึงดูดนึกท่องเที่ยวได้อย่างไม่ขาดสาย"ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าคุณภีรวัฒน์อยู่ไหมคะ"น้ำเสียงอ่อนหวานอันเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นทำให้ประชาสัมพันธ์สาวที่คอยให้บริการลูกค้าอยู่ด้านหน้าต้องเงยหน้าขึ้นมามอง ใบหน้าของลดาแฟนสาวของรองประธานทำให้ประชาสัมพันธ์สาวต้องตกตะลึง"ท่านรองอยู่บนห้องทำงานค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลดาต้องการเข้าพบท่านหรือเปล่าคะ""ต้องการค่ะ แต่ไม่ต้องบอกว่าเป็นใครนะคะ"ถึงแม้ว่าประชาสัมพันธ์สาวสงสัยในสิ่งที่ผู้หญิงยืนอยู่ตรงหน้าบอก แต่เธอก็ทำตามโดยการโทรขึ้นไปหาเลขาอย่างอัปสรซึ่งอยู่หน้าห้องเพื่อรายงานว่ามีคนต้องการจะเข้าพบท่านรองประธาน แต่ไม่ว่าจะต่อสายนานเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าอีกฝ่ายจะรับสาย"เอ่อ ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าหนูติดต่อเลขาที่อยู่หน้าห้องท่านรองไม่ได้""ไม่เป็นอะไรค่ะ"ลดายิ้มให้กับผู้หญิงคนนั้นก่อนเธอจะได้ยินน้ำเสียงอ่อนทุ้มเปล่งเสียงเรียกชื่อเธอจากทางด้านหลัง"อ้าว คุณลดา""สวัสดีค่ะ คุณปิติ"หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามส่งยิ้มให้กับผู้จัดการโร
โชคดีของลดาเมื่อเธอวิ่งข้ามฝั่งมายังโรงแรมก็มีรถแท็กซี่จอดส่งผู้โดยสาร เธอไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งเข้าไปนั่งภายในรถ ก่อนจะชี้นิ้วไปยังรถที่พึ่งจะขับออกไปได้ไม่ไกล"ตามรถคันนั้นไปเลยค่ะ"คนขับรู้หน้าที่รีบขับตามไปอย่างกระชั้นชิน ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านคนขับในตอนนี้หัวใจของเธอนั้นเต้นโครมครามจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอก ดวงตากลมโตของเธอมองรถของแฟนหนุ่มซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ตรงหน้า เล็บทั้งสิบจิกเข้าหาฝ่ามือบางแน่น เมื่อได้เห็นเงาที่อยู่ภายในรถกำลังโน้มหน้าเข้าหากัน เล็บแหลมจิกเข้ากับฝ่ามือความแรงของมันนั้นทำเอาฝ่ามือบางดูน่าถนอมถึงกับมีเลือดซึม แผลตรงฝ่ามือมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บเลยสักนิดถ้าเทียบกับความเจ็บตรงก้อนเนื้ออกข้างซ้าย หัวใจดวงน้อยปวดหนึบเมื่อมองเข้าไปภายในรถของแฟนหนุ่มเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว รถทุกคันที่จอดอยู่ก็ขับเคลื่อนตัวออก สายตาของลดายังคงจ้องมองรถของแฟนหนุ่มอย่างไม่คลาดสายตา ก่อนเธอจะเห็นว่ารถของแฟนหนุ่มเลี้ยวเข้าไปในคอนโดใหม่ของเพื่อนรักที่เธอเคยมาเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง แถมตอนนั้นคนที่พาเธอมาก็ไม่ใช่ใครถ้าไม่ใช่แฟนหนุ่มของเธอที่ตอนนี้กลับกลายเป็นสามีของเพื่อนตัวดีไปเส
และแล้วก็มาถึงวันที่บ่าวสาวต่างเฝ้ารอคอย งานแต่งงานของลูกชายนักธุรกิจชื่อดังกับหญิงสาวผู้ได้ครอบครองเจ้าของหัวใจถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมใหญ่ ทางด้านคุณพยัคฆ์และคุณหญิงแก้วจริญญาล้วนเป็นคนมีผู้นับหน้าถือตาแขกที่ถูกเชิญมาร่วมงานล้วนเป็นคนมีระดับส่วนทางด้านของคุณป้าพรรณีของลดาก็ไม่น้อยหน้าแขกฝ่ายเจ้าสาวถูกเชิญมาร่วมงานนับกว่าร้อยชีวิตทำให้ภายในสถานที่จัดงานหนาแน่นไปด้วยแขกเหรื่อมากมายพิธีในยามเช้าจะถูกจัดแบบเรียบง่าย ฝ่ายชายเป็นผู้ยกขันหมากมาสู่ขอตามประเพณีโดยมีสินสอดระดับหนึ่งร้อยล้านสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกภายในงาน อีกทั้งนั้นยังไม่พอเมื่อคุณหญิงแก้วจริญญายกเครื่องเพชรชุดใหญ่ประจำวงศ์ตระกูลให้ลูกสะใภ้คนโปรดและไหนยังมีทรัพย์สมบัติอีกมากมายที่ทางผู้ใหญ่ฝ่ายชายเต็มใจยกให้เธอ"เหนื่อยไหมครับ"ลดาเงยหน้ามองสามีทางนิตินัยและพฤตินัย ชายหนุ่มได้ตกเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมายของเธอแล้ว ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ได้เข้ามาอยู่ในห้องพักภายในโรงแรมซึ่งรอเตรียมพร้อมเปลี่ยนชุดในงานเลี้ยงช่วงเย็น"นิดหน่อยค่ะ ว่าแต่คุณล่ะคะเหนื่อยไหมอาการเป็นยังไงบ้าง""ดีขึ้นแล้วครับ เมื่อเช้าคุณแม่เอาน้ำส้มมาให้พอจะช่วยได้บ้าง
หญิงสาวหมุนตัวหันมามองหน้าชายหนุ่มเมื่อเธอได้ยินเสียงของเขาดังอยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่ฝ่ามือกั้น ความรู้สึกของเพลงขวัญในตอนนี้นั้นมันเหมือนกับว่ากำลังมีใครมาตีกลองอยู่ในใจของเธอสายจากคุณหญิงเรไรถูกตัดไปตั้งแต่เธอหมุนตัวหันกลับมา ใบหน้าของเธอยังคงแสดงอาการเรียบนิ่งแม้ลึก ๆ หัวใจของเธอมันกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะก็ตาม"คุณตามหาฉันถูกได้ยังไง""ตามจีพีเอสหัวใจมาครับ"ภีรวัฒน์อ้าแขนหมายจะโอบกอดร่างเล็กให้หายคิดถึงแต่เพลงขวัญกลับก้าวถอยหลังหนี"กลับไปค่ะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณ"คำพูดเชือดเฉือนบาดลึกลงบนหัวใจทำให้ชายหนุ่มน่าเศร้า เขามองหน้าเธอด้วยแววตารู้สึกผิด"ผมขอโทษ""...""ขอโทษสำหรับเรื่องทุกอย่างเราสองคนกลับมาเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม""คุณกลับไปเถอะค่ะ อย่าให้เพลงต้องเกลียดคุณไปมากกว่านี้""คะ...คุณเกลียดผม ทั้งที่ผมรักคุณอย่างนั้นเหรอเพลง"ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาตัดพ้อ เขารู้สึกเศร้าเสียใจเมื่อได้ยินคำว่าเกลียดและไม่ต้องการเจอจากปากของเธอ"ผมถามว่าคุณเกลียดผมอย่างนั้นเหรอเพลงขวัญ คุณไม่รักไม่เคยรู้สึกดีกับผมเลยใช่ไหม""...""ทั้ง ๆ ที่ผมรักคุณหมดหัวใจ ฮึก ทำไมคุณ
แววตาของภีรวัฒน์เป็นประกายเมื่อเขาได้ที่อยู่ของเพลงขวัญ หลังจากหาคำตอบให้กับหัวใจของตัวเองได้ชายหนุ่มก็รีบพุ่งไปหามารดาในเช้าวันถัดไปนำความในใจของเขาไปบอกท่านว่า เขารักเพลงขวัญโดยแท้จริงถึงแม้ว่าความรักในใจของเขาจะเกิดขึ้นกับเธอเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้วว่ารักเธอจริง ๆ"ตามหนูเพลงขวัญกลับมาให้ได้นะลูก พ่อกับแม่จะรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่""ครับ"บุตรชายคนเดียวโอบกอดมารดาด้วยความซาบซึ้งพลางมองแผ่นกระดาษในมือซึ่งคือที่อยู่ใหม่ของหญิงสาวในตอนนี้เชียงใหม่ภูมิภาคทางตอนเหนือในยามฤดูหนาว มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าเที่ยวมากมาย เป็นที่เที่ยวที่ได้ทั้งอากาศหนาวและธรรมชาติอย่างแท้จริง แม้จะรู้ว่าช่วงปลายปีอากาศจะเย็นสบายกำลังน่าเที่ยวแต่ก็มีคนบางกลุ่มชอบอากาศหนาวถึงได้พากันขึ้นมาท้าประลองความหนาวในที่แห่งนี้"นมอุ่น ๆ ค่ะคุณหนู""ขอบคุณค่ะป้า"หญิงสาวผู้มีใบหน้าอ่อนหวานราวกับตุ๊กตาหันมาขอบคุณป้าแม่บ้านพร้อมหยิบแก้วนมอุ่นขึ้นรับประทานเพื่อคลายความหนาว เพลงขวัญเธอหอบหัวใจอันบอบช้ำหนีชายคนรักมาถึงที่แห่งนี้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เธอยอมลาออกจากงานแล้วหอบเสื้อผ้า
"เพลง"ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังจากผ่านศึกรัก เตียงนอนด้านข้างว่างเปล่าไร้ร่างของหญิงสาวซึ่งเขานอนกอดเธอมาตลอดทั้งคืน"เพลงครับ เพลงคุณอยู่ไหน"ภีรวัฒน์ก้าวขาเดินลงจากเตียงพลางตะโกนเรียกหา ภายในห้องน้ำหรือตามส่วนบริเวณต่าง ๆ ไร้เงาของเธอภายในห้องพักเงียบเหงาว่างเปล่ามีเพียงแค่เขาคนเดียว"โถ่เว้ย"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่าหัวเสีย เขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง อารมณ์ชั่ววูบทำให้เขาเผลอรังแกเธอไปซึ่งตอนนี้เธอหนีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้"ผมไม่ยอมปล่อยคุณไปหรอกนะเพลง"หลังจากวันนั้นซึ่งมันก็ผ่านมาหลายอาทิตย์ภีรวัฒน์ก็เอาแต่ออกตามหาเพลงขวัญ เธอลาออกจากงานไปหาที่บ้านก็ไม่เจอถามคนรู้จักหรือเพื่อนที่ทำงานก็ไม่มีใครเห็น เธอหาตัวเข้ากลีบเมฆทำให้เขาจนปัญญาที่จะตามหา"งานที่โรงแรมหนักหรือไง ทำไมช่วงนี้พ่อเห็นแกดูเหนื่อย ๆ "คุณดิเรกเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นภายในบ้านหลังใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาซูบเซียวหมองคล้ำราวกับคนไม่ได้พักผ่อนของภีรวัฒน์เป็นที่จับตาเห็น"ครับ ช่วงนี้ผมงานเยอะ""พักผ่อนบ้างนะลูก อย่าหักโหมให้มากนัก""ครับแม่"ภีรวัฒน์พยักหน้า อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้เข้าโรงแรมมาหลายวันเน
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเขานั่งอยู่ภายในรถ ดวงตาคมภายใต้แว่นตากันแดดกำลังจ้องมองไปยังรถเก๋งสีขาวธรรมดาซึ่งจอดอยู่ตรงบริเวณลานจอดรถสำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องเป็นคนทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ ทันทีเมื่อเขาได้เห็นเจ้าของรถชายหนุ่มรีบเปิดประตูเดินพุ่งเข้าไปหาเธอโดยทันที"เพลง"น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้หญิงสาวในชุดพยาบาลสีขาวหมุนตัวหันกลับไปมอง แววตาของเธอแสดงถึงความตื่นตระหนกและเจ็บปวดเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า"คุณภีม"เพลงขวัญก้าวถอยหลังเตรียมตัวจะเดินหนีแต่ภีรวัฒน์เร็วกว่าเขาคว้าร่างของเธอเอาไว้ได้ทัน"ปล่อยฉันนะคะ ปล่อย""อย่าดื้อกับผมนะเพลง""ปล่อยค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณ"เธอรวบรวมแรงอันน้อยนิดพยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม เพลงขวัญหันหน้ามองไปทางอื่นความเจ็บปวดภายในใจกำลังตีตื้นกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตา"เพลงอย่าทำแบบนี้ เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกัน""เราของเราอย่างนั้นเหรอคะ?"เพลงขวัญหันหน้ามามองชายหนุ่ม แววตาของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจนเมื่อได้มองหน้าชายหนุ่ม"เรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ ระหว่างเราสองคนมันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบก็แค่เท่านั้น"น้ำเสียงตัดพ้อกระแทกใจคนฟังอย่า
เมื่อทริปการพักผ่อนของทั้งคู่หมดลงก็ถึงเวลาของทั้งสองในการกลับมาทำหน้าที่ ลดาเธอได้ใช้ชีวิตกับคนรักอย่างมีความสุขอีกแค่เพียงไม่กี่เดือนก็จะถึงวันแห่งความสุขของทั้งคู่ ข่าวการแต่งงานของลูกชายนักธุรกิจใหญ่ได้ถูกเผยแพร่กระจายกันไปอย่างรวดเร็วและสร้างความฮือฮาให้กับคนทั่วทั้งประเทศเมื่อทุกคนได้เห็นโฉมหน้าของว่าที่เจ้าสาวของตระกูลเมฆาธิบดีผู้ได้ครอบครองหัวใจของลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลดัง"เป็นไงบ้างครับช่วงนี้ ทำงานหนักไม่ได้พักผ่อนเลยเหนื่อยไหม"น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของชายคนรักดังขึ้นในบ้านพักหลังเล็กของหญิงสาว เขาเดินตรงมาหาเธอซึ่งกำลังก้มหน้าทำงานอย่างขยันขันแข็งก่อนจะวางแก้วนมอุ่น ๆ ให้"นมอุ่น ๆ ครับ""ขอบคุณนะคะ"เธอเงยหน้าส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะหันไปสนใจเคลียร์งานต่อ"ดูเหมือนว่างานเลขาจะหนักเกินไปแล้วนะครับ ลาออกดีไหม""คิดยังไงคะถึงอยากจะให้ลดาลาออก"เธอปิดแฟ้มเอกสารก่อนจะย้ายมันไปวางรวมกับแฟ้มกองที่เสร็จแล้ว อิทธิพลมองหน้าคนรักพลางถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเธอคว้าแฟ้มเอกสารเล่มใหม่ขึ้นมาเคลียร์งาน"งานเลขาเหนื่อยจะตายไป ผมไม่อยากให้ลดาต้องเหนื่อยหรือลำบาก""ลดาไม่เหนื่อยหรือลำบากอะไรเลยค
หญิงสาวส่งยิ้มกริ่มให้เธอดันร่างของเขาให้นั่งลงบนเบาะนุ่ม ฝ่ามือเล็กจัดการถอดเสื้อผ้าบนร่างกายของชายหนุ่มโดยมีเขาคอยอำนวยความสะดวกให้ ใบหน้าสวยโน้มลงต่ำเมื่อเธอคุกเข่าลงนั่ง ใบหน้าสวยอยู่ในระดับเดียวกันกับแก่นกายชายหนุ่มรู้สึกสะท้านเมื่อฝ่ามือน้อย ๆ ของเธอสัมผัสเข้ากับลำกายซึ่งกำลังขยายใหญ่"อื้อ ลดาครับ"เพียงแค่ปลายลิ้นเรียวเล็กสัมผัสแผ่วเบาตรงบริเวณส่วนหัวบานฉ่ำก็สามารถเรียกเสียงครางจากคนตัวใหญ่ได้ อิทธิพลเอนกายพิงแผ่นหลังกับตัวเรือเมื่อริมฝีปากอ่อนนุ่มครอบครองแก่นกายของเขาเข้าไปในโพรงปากแผล็บ แผล็บ แผล็บเสียงอันน่าอัศจรรย์ดังขึ้นยามเมื่อริมฝีปากเล็กดูดเลียขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ใบหน้าของอิทธิพลบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านปนทรมานเมื่อปลายลิ้นเล็กลากตวัดเลียวนรอบเส้นสองสลึง"อ๊าส์"ใบหน้าลองลดาเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำกามสีขาวขุ่นเมื่อชายหนุ่มไม่สามารถอัดกลั้นความเสียวซ่านได้อีกต่อไป เธอไม่นึกรังเกียจแถมยังชอบอีกเสียด้วยซ้ำลดาก้มมองต่ำก็เห็นว่าน้ำกามสีขาวขุ่นบางส่วนกระเด็นโดนไปถึงเนินอกขาวอวบ"ร้ายนักนะครับเดี๋ยวนี้"อิทธิพลเอ่ยชมกับฝีมือที่ดูพัฒนาของเมียรัก เขายืนมือไปคว้าเสื้อมาซับน้ำก
เสียงคลื่นทะเลซัดเข้าหาชายฝั่งในยามรุ่งเช้าปลุกคู่รักให้ตื่นขึ้นมา ใบหน้าหวานสวยของลดาคือสิ่งแรกที่อิทธิลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นมันซึ่งเขานั้นอยากให้ทันเป็นแบบนี้ในทุก ๆ ของวันต่อ ๆ ไป"ที่รักครับ ตื่นได้แล้วนะ""อื้อ อย่ากวนสิคะลดาจะนอน"เธอซุกใบหน้าเข้าหาแผงอกใหญ่เพื่อต้องการหลบเลี่ยงแสงแดดจากภายนอกที่ส่องเข้ามา ใบหน้าของอิทธิพลมีรอยยิ้มยามเมื่อเข้าได้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้กับเธอ วงแขนใหญ่โอบร่างเล็กของคนรักเอาไว้ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอบอกได้ว่าเธอกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง"วันนี้หลังจากทานอาหารเสร็จลดาอยากไปเที่ยวไหนครับ""ยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าแต่คุณอิทธิพอจะมีที่เที่ยวแนะนำไหมคะ"เธอหันหน้ามาถามพลางจัดการแต่งตัวด้วยเดรสสีฟ้าครามเข้ากับการแต่งตัวของชายหนุ่ม"ผมพอจะรู้จักที่เที่ยวอยู่บ้าง แต่ไม่รู้ว่าลดาจะชอบไหม""ที่ไหนคะ""ถ้าลดาอยากรู้ก็รีบจัดการแต่งตัวนะครับ เดี๋ยวคนของผมจะมารับ"การมาพักผ่อนในครั้งนี้อิทธิพลได้วางแพลนเอาไว้หมดแล้ว "คุณจะไม่บอกลดาจริง ๆ เหรอคะว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนกัน"หญิงสาวยังคำถามย้ำเมื่อทั้งคู่ก้าวขาขึ้นมาอยู่บนรถคันหรูซึ่งมีลูกน้องของอิทธิพลมาจอดรอรับ "เดี๋ยวไป
ใบหน้าหล่อเหลาของอิทธิแสดงถึงความทรมานที่มีอยู่ ตอนนี้กางเกงว่ายน้ำของเขาถูกดึงให้ไปกองอยู่ใต้สะโพกโดยมีฝ่ามือเล็กของหญิงสาวเป็นคนจัดการมันคนเดียวทั้งหมด"ลดา คุณ ฮึก กำลังทรมานผม""แล้วทีคุณอิทธิล่ะคะ ทรมานลดาตั้งหลายครั้ง"เธอว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วนวดคลึงบริเวณส่วนหัวจนสัมผัสได้กับความเหนียวหนืดของน้ำคาว"ลดาอยากทานไอศกรีมแท่งนี้จังเลยค่ะ รบกวนคุณอิทธิไปนั่งตรงนั้นได้ไหมคะ"เธอเหลือบมองไปยังบันไดสระว่ายน้ำซึ่งชายหนุ่มไม่รอช้าทำตามความต้องการของเธอด้วยความเร่งรีบอ๊อก อ๊อก อ๊อกริมฝีปากสีชมพูสดครอบครองแก่นกายเข้าอุ้งปากเล็กของเธอโดยทันที อิทธิพลหลับตาพริ้มดื่มด่ำกับความรัญจวนจากริมฝีปากของอีกฝ่าย ร่างกายรู้สึกเกร็งเมื่อปลายลิ้นเล็กลากยาวตั้งแต่โคนใหญ่ไปถึงปลายหัวบานหยักอีกทั้งยังตวัดปลายลิ้นทักทายทำให้แก่นกายถึงกับกระตุกหงึกแทบจะปลดปล่อยน้ำคาวสีขาวขุ่นออกมา"อ๊าส์ ลดา คนดี"ความเสียวซ่านถูกเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า อิทธิพลแหงนหน้ามองท้องฟ้าฝ่ามือจิกเกร็งลดาตวัดปลายลิ้นเลียตั้งแต่ลำโคนจนถึงปลายหัวบานหยักกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มยิ่งทำให้เธอรู้สึกมีความต้องการมากยิ่งขึ้น เส