อีกเช้าของวันทำงานอันแสนหนักหน่วงของพนักงานเงินเดือนอย่างพวกเธอต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้หญิงที่ชื่อลดาซึ่งเธอมักจะตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมาทำกับข้าวใส่ปิ่นโตไปที่ทำงาน กลิ่นอาหารหอมชวนหิวมันพอจะทำให้สมองลืมเรื่องที่คิดหนักมาตลอดทั้งคืนได้ สำหรับผู้หญิงที่มีอายุใกล้จะเข้าเลขสามมักจะต้องคิดหนักเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปีเริ่มมีท่าทีมีพิรุธ มันจะไม่ทำให้เธอคิดมากเลยถ้าหากว่าช่วงพักหลังนี้แฟนหนุ่มของเธอเริ่มหาย ติดต่อไม่ได้ บางครั้งก็บอกว่าจะโทรมาแต่ก็หายเหมือนกับเมื่อวานซึ่งเขาบอกว่าจะมารับแต่ก็ไม่มาหายเข้ากลีบเมฆจนถึงตอนนี้แม้แต่ข้อความบอกกล่าวยังไม่มีสักข้อความ มันยิ่งทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าเขาหายไปไหน ถ้าหากว่าทำงานหนักอย่างน้อยก็คงจะต้องมีเวลาส่งข้อความหรือโทรมาบอกกล่าวเธอบ้าง แต่นี่กลับหายไปเลย สิ่งที่แฟนหนุ่มกำลังทำอยู่ในตอนนี้มันเริ่มที่จะทำให้เธอคิดไม่ตก ว่าเขาทำงานหนักอย่างที่บอกเธอจริง ๆ หรือว่าเขากำลังมีอะไรบางอย่างที่กำลังปิดบังเธออยู่ แต่ถึงอย่างไรความรักที่เขาและเธอมีให้ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันทำให้เธอเชื่อมั่นว่าแฟนหนุ่มนั้นจะไม่มีวันนอกใจ เพราะเท่าจากที่ดูอยู่เขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหน สงสัยเธอต้องแอบสืบจากเพื่อนสนิทซึ่งทำงานเป็นเลขาให้กับแฟนหนุ่มของเธอเสียแล้ว
ใบหน้าของลดายังมีรอยยิ้มมอบให้คนอื่นอยู่เสมอถึงแม้ว่าเธอกำลังจะคิดหนักซึ่งนี่เป็นข้อดีของเธอถึงแม้ว่าเธอจะเครียด คิดหนัก หรือกดดันมากแค่ไหน ใบหน้าของเธอก็คงยังประดับด้วยรอยยิ้มไว้อย่างเช่นตอนนี้ "ลดามาพอดีเลยท่านประธานเรียกให้เข้าไปพบจ้ะ"เมื่อมาถึงโต๊ะทำงานยังไม่ทันได้วางกระเป๋าลงรุ่นพี่สาวอย่างกุ้งนางก็รีบเอ่ยกล่าวตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย เมื่อเช้าท่านประธานมาหาเธอโดยที่มีเจตจำนงให้เธอบอกลดาถ้าหากว่าเข้ามาทำงานให้รีบไปพบด่วน ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นเธอก็ไม่ได้ถามเหมือนกัน "ท่านประธานมีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่าคะพี่กุ้งนาง" "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่พี่ว่าลดารีบไปพบท่านประธานดีกว่านะท่านรอลดามาได้สักพักใหญ่แล้ว"รุ่นน้องสาวพยักหน้ารับ ข้าวของที่ถือมาถูกเก็บเอาไว้ในลิ้นชักข้างโต๊ะก่อนหญิงสาวจะรีบเดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบนสุดของบริษัทซึ่งเป็นห้องทำงานของประธานบริษัทผลิตและน้ำเข้ารถยนต์ของประเทศนี้ ติ๊ง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกสิ่งแรงที่ลดาจะเห็นก็คือเลขาของท่านประธานซึ่งนั่งทำงานอยู่หน้าห้องด้วยความขยัน สายตาของศจีหันมามองผู้มาใหม่อย่างลดาริมฝีปากบางเอ่ยทักทายตามประสาคนรู้จัก "อ้าว น้องลดามาแล้วเหรอคะ" "สวัสดีค่ะพี่ศจี ไม่เจอกันนานสวยขึ้นเยอะเลยนะคะเนี่ย" "แหม ช่างพูดจานะเรา ว่าแต่มาพบท่านประธานใช่ไหมจ๊ะ" "ใช่ค่ะ" "งั้นเชิญเข้าไปเลยจ้ะ ท่านประธานรออยู่"ลดาพยักหน้ารับรู้เธอก้มมองการแต่งกายของตัวเองก่อนจะเคาะประตูเพื่อขออนุญาตคนภายในและเมื่อได้รับสัญญาณตอบรับเธอจึงรีบผลักประตูเข้าไปด้านใน ความเย็นภายในห้องทำงานมันทำให้ลดาหนาวสั่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา "สวัสดีค่ะท่านประธาน"น้ำเสียงอ่อนหวานของเด็กสาวทำเอา 'คุณพยัคฆ์'ประธานบริษัทแห่งนี้ต้องเงยหน้าจากเอกสารขึ้นมามองผู้มาใหม่ซึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้ามุมปากกระตุกยิ้มให้เป็นการทักทายอย่างคนสนิท "บอกหลายครั้งแล้วนะว่าอย่าเรียกท่านประธาน ให้เรียกว่าพ่อเด็กคนนี้พูดกี่ทีไม่เคยจำ"คล้ายจะเป็นคำดุที่ทำเอาลดาได้แต่ส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้ "ท่านประธานก็รู้ว่ามันไม่เหมาะ" "แต่พ่อเป็นคนอนุญาต ใครสงสัยหรือไม่เข้าใจให้มาถามพ่อ พ่อจะอธิบายด้วยซองขาวเอง" "ท่านประธานคะ"พยัคฆ์ได้ยินน้ำเสียงขึ้นจมูกของว่าที่ลูกสาวก็รีบสงบปากโดยทันที ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนวาปากกาลงซึ่งนั่นหมายความว่าท่านกำลังจริงจังในเรื่องที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ สายตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายปีมองเด็กสาวที่เขาและภรรยารักและเอ็นดูซึ่งเธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้า "ที่พ่อเรียกลดามาพบในวันนี้คือพ่อมีเรื่องสำคัญอยากจะให้ลดาช่วย" "เรื่องอะไรคะ"คิ้วโก่งดั่งคันศรขมวดเข้าหาเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของชายวัยกลางคน "หนูรู้ใช่ไหมว่าพ่อมีลูกชายแท้ ๆ อยู่หนึ่งคนซึ่งตอนนี้กำลังบริหารงานอยู่ที่อเมริกา" "ลดาทราบค่ะ"เพียงแต่ว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าของอีกฝ่ายรู้จักแค่เพียงชื่อเสียงก็เท่านั้น "อีกสองอาทิตย์ลูกชายของพ่อจะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานคนต่อไปพ่ออยากจะให้ลดามาเป็นผู้ช่วยเลขา อย่าพึ่งปฏิเสธ"ฝ่ามือหนารีบยกขึ้นปรามโดยทันทีเมื่อเด็กน้อยกำลังจะเอ่ยปากขัดแย้ง คำพูดที่จะเอ่ยขัดแย้งถูกกลืนลงคอโดยทันทีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันคงจะแสดงชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ "นี่ไม่ใช้คำบอกเล่า หรือคำขอร้อง แต่นี่เป็นคำสั่งของประธานบริษัทซึ่ง นางสาวลดาจะต้องทำตาม เข้าใจ" ลดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรงเหนื่อยล้าหลังกลับมาจากห้องทำงานของประธานบริษัท สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันเธอทำให้กุ้งนางซึ่งนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงกันข้ามเริ่มสงสัยว่ารุ่นน้องในแผนกเดียวกันนั้นเป็นอะไรเพราะสีหน้าของลดาดูเหมือนว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ "เป็นอะไรจ๊ะคนสวยของพี่กุ้งนาง ทำไมมีสีหน้าไม่สู้ดีแบบนั้น ท่านประธานเรียกไปทำไมเหรอจ๊ะ" "เฮ้อ"เสียงถอนหายใจใหญ่ทำเอาคนเป็นห่วงถึงกับตกใจ ใบหน้าเรียวเงยไปมองรุ่นพี่สาวซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากเล็กแบะออกมาเหมือนกับเด็ก ๆ ทำเอากุ้งนางถึงกับตกใจรีบเดินอ้อมโต๊ะมาปลอบสาวน้อยซึ่งกำลังจะร้องไห้ "ฮือ พี่กุ้งนาง" "ลดาเป็นอะไร ใครทำอะไรไหนบอกพี่มา" "ฮือ ท่านประธานจะให้ลดาย้ายตำแหน่งไปเป็นผู้ช่วยเลขาให้ลูกชายของท่านที่จะเข้ามาบริหารงานในอีกสองอาทิตย์หน้า" "ฮะ ย้ายตำแหน่งไปเป็นผู้ช่วยเลขาให้กับคุณอิทธิพล"กุ้งนางถึงกับต้องยกมือขึ้นทาบอกเมื่อได้ยินข่าวดีจากปากของลดาเล่าออกมา ซึ่งในเวลาต่อมาลดาซึ่งกำลังนั่งร้องไห้อย่างไม่จริงจังจะต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหูของตัวเองเมื่อคนที่ยืนอยู่ด้านข้างกรีดร้องเสียจนดังลั่น "กรี๊ด"กุ้งนางเขย่าแขนทั้งสองข้างของลดาไปมาอย่างคนที่ดีใจ "ลดารู้ตัวไหมว่าลดาเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเลยที่จะได้ใกล้ชิดกับคุณอิทธิพล คุณอิทธิพลน่ะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมนิสัยดีเป็นสุภาพบุรุษอีกต่างหาก โอ๊ย"ลดานั่งนิ่งเธอฟังเสียงหวีดร้องด้วยความดีใจของกุ้งนางถึงกับต้องส่งยิ้มแห้ง สิ่งที่พี่กุ้งนางพรรณนามานั้นไม่ได้วิ่งเข้าสู่สมองน้อย ๆ เลยสักนิดในตอนนี้ แต่กลับกัน สมองของเธอในตอนนี้กลับคิดถึงแต่แฟนหนุ่ม ถ้าหากเขารู้ว่าเธอต้องย้ายตำแหน่งซึ่งต้องไปใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่นเขาจะต้องไม่พอใจเอาแน่ ๆ 'เธอจะทำยังไงต่อไปดี ลดา'และแล้วก็มาถึงวันที่บ่าวสาวต่างเฝ้ารอคอย งานแต่งงานของลูกชายนักธุรกิจชื่อดังกับหญิงสาวผู้ได้ครอบครองเจ้าของหัวใจถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมใหญ่ ทางด้านคุณพยัคฆ์และคุณหญิงแก้วจริญญาล้วนเป็นคนมีผู้นับหน้าถือตาแขกที่ถูกเชิญมาร่วมงานล้วนเป็นคนมีระดับส่วนทางด้านของคุณป้าพรรณีของลดาก็ไม่น้อยหน้าแขกฝ่ายเจ้าสาวถูกเชิญมาร่วมงานนับกว่าร้อยชีวิตทำให้ภายในสถานที่จัดงานหนาแน่นไปด้วยแขกเหรื่อมากมายพิธีในยามเช้าจะถูกจัดแบบเรียบง่าย ฝ่ายชายเป็นผู้ยกขันหมากมาสู่ขอตามประเพณีโดยมีสินสอดระดับหนึ่งร้อยล้านสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกภายในงาน อีกทั้งนั้นยังไม่พอเมื่อคุณหญิงแก้วจริญญายกเครื่องเพชรชุดใหญ่ประจำวงศ์ตระกูลให้ลูกสะใภ้คนโปรดและไหนยังมีทรัพย์สมบัติอีกมากมายที่ทางผู้ใหญ่ฝ่ายชายเต็มใจยกให้เธอ"เหนื่อยไหมครับ"ลดาเงยหน้ามองสามีทางนิตินัยและพฤตินัย ชายหนุ่มได้ตกเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมายของเธอแล้ว ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ได้เข้ามาอยู่ในห้องพักภายในโรงแรมซึ่งรอเตรียมพร้อมเปลี่ยนชุดในงานเลี้ยงช่วงเย็น"นิดหน่อยค่ะ ว่าแต่คุณล่ะคะเหนื่อยไหมอาการเป็นยังไงบ้าง""ดีขึ้นแล้วครับ เมื่อเช้าคุณแม่เอาน้ำส้มมาให้พอจะช่วยได้บ้าง
หญิงสาวหมุนตัวหันมามองหน้าชายหนุ่มเมื่อเธอได้ยินเสียงของเขาดังอยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่ฝ่ามือกั้น ความรู้สึกของเพลงขวัญในตอนนี้นั้นมันเหมือนกับว่ากำลังมีใครมาตีกลองอยู่ในใจของเธอสายจากคุณหญิงเรไรถูกตัดไปตั้งแต่เธอหมุนตัวหันกลับมา ใบหน้าของเธอยังคงแสดงอาการเรียบนิ่งแม้ลึก ๆ หัวใจของเธอมันกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะก็ตาม"คุณตามหาฉันถูกได้ยังไง""ตามจีพีเอสหัวใจมาครับ"ภีรวัฒน์อ้าแขนหมายจะโอบกอดร่างเล็กให้หายคิดถึงแต่เพลงขวัญกลับก้าวถอยหลังหนี"กลับไปค่ะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณ"คำพูดเชือดเฉือนบาดลึกลงบนหัวใจทำให้ชายหนุ่มน่าเศร้า เขามองหน้าเธอด้วยแววตารู้สึกผิด"ผมขอโทษ""...""ขอโทษสำหรับเรื่องทุกอย่างเราสองคนกลับมาเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม""คุณกลับไปเถอะค่ะ อย่าให้เพลงต้องเกลียดคุณไปมากกว่านี้""คะ...คุณเกลียดผม ทั้งที่ผมรักคุณอย่างนั้นเหรอเพลง"ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาตัดพ้อ เขารู้สึกเศร้าเสียใจเมื่อได้ยินคำว่าเกลียดและไม่ต้องการเจอจากปากของเธอ"ผมถามว่าคุณเกลียดผมอย่างนั้นเหรอเพลงขวัญ คุณไม่รักไม่เคยรู้สึกดีกับผมเลยใช่ไหม""...""ทั้ง ๆ ที่ผมรักคุณหมดหัวใจ ฮึก ทำไมคุณ
แววตาของภีรวัฒน์เป็นประกายเมื่อเขาได้ที่อยู่ของเพลงขวัญ หลังจากหาคำตอบให้กับหัวใจของตัวเองได้ชายหนุ่มก็รีบพุ่งไปหามารดาในเช้าวันถัดไปนำความในใจของเขาไปบอกท่านว่า เขารักเพลงขวัญโดยแท้จริงถึงแม้ว่าความรักในใจของเขาจะเกิดขึ้นกับเธอเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้วว่ารักเธอจริง ๆ"ตามหนูเพลงขวัญกลับมาให้ได้นะลูก พ่อกับแม่จะรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่""ครับ"บุตรชายคนเดียวโอบกอดมารดาด้วยความซาบซึ้งพลางมองแผ่นกระดาษในมือซึ่งคือที่อยู่ใหม่ของหญิงสาวในตอนนี้เชียงใหม่ภูมิภาคทางตอนเหนือในยามฤดูหนาว มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าเที่ยวมากมาย เป็นที่เที่ยวที่ได้ทั้งอากาศหนาวและธรรมชาติอย่างแท้จริง แม้จะรู้ว่าช่วงปลายปีอากาศจะเย็นสบายกำลังน่าเที่ยวแต่ก็มีคนบางกลุ่มชอบอากาศหนาวถึงได้พากันขึ้นมาท้าประลองความหนาวในที่แห่งนี้"นมอุ่น ๆ ค่ะคุณหนู""ขอบคุณค่ะป้า"หญิงสาวผู้มีใบหน้าอ่อนหวานราวกับตุ๊กตาหันมาขอบคุณป้าแม่บ้านพร้อมหยิบแก้วนมอุ่นขึ้นรับประทานเพื่อคลายความหนาว เพลงขวัญเธอหอบหัวใจอันบอบช้ำหนีชายคนรักมาถึงที่แห่งนี้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เธอยอมลาออกจากงานแล้วหอบเสื้อผ้า
"เพลง"ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังจากผ่านศึกรัก เตียงนอนด้านข้างว่างเปล่าไร้ร่างของหญิงสาวซึ่งเขานอนกอดเธอมาตลอดทั้งคืน"เพลงครับ เพลงคุณอยู่ไหน"ภีรวัฒน์ก้าวขาเดินลงจากเตียงพลางตะโกนเรียกหา ภายในห้องน้ำหรือตามส่วนบริเวณต่าง ๆ ไร้เงาของเธอภายในห้องพักเงียบเหงาว่างเปล่ามีเพียงแค่เขาคนเดียว"โถ่เว้ย"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่าหัวเสีย เขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง อารมณ์ชั่ววูบทำให้เขาเผลอรังแกเธอไปซึ่งตอนนี้เธอหนีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้"ผมไม่ยอมปล่อยคุณไปหรอกนะเพลง"หลังจากวันนั้นซึ่งมันก็ผ่านมาหลายอาทิตย์ภีรวัฒน์ก็เอาแต่ออกตามหาเพลงขวัญ เธอลาออกจากงานไปหาที่บ้านก็ไม่เจอถามคนรู้จักหรือเพื่อนที่ทำงานก็ไม่มีใครเห็น เธอหาตัวเข้ากลีบเมฆทำให้เขาจนปัญญาที่จะตามหา"งานที่โรงแรมหนักหรือไง ทำไมช่วงนี้พ่อเห็นแกดูเหนื่อย ๆ "คุณดิเรกเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นภายในบ้านหลังใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาซูบเซียวหมองคล้ำราวกับคนไม่ได้พักผ่อนของภีรวัฒน์เป็นที่จับตาเห็น"ครับ ช่วงนี้ผมงานเยอะ""พักผ่อนบ้างนะลูก อย่าหักโหมให้มากนัก""ครับแม่"ภีรวัฒน์พยักหน้า อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้เข้าโรงแรมมาหลายวันเน
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเขานั่งอยู่ภายในรถ ดวงตาคมภายใต้แว่นตากันแดดกำลังจ้องมองไปยังรถเก๋งสีขาวธรรมดาซึ่งจอดอยู่ตรงบริเวณลานจอดรถสำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องเป็นคนทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ ทันทีเมื่อเขาได้เห็นเจ้าของรถชายหนุ่มรีบเปิดประตูเดินพุ่งเข้าไปหาเธอโดยทันที"เพลง"น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้หญิงสาวในชุดพยาบาลสีขาวหมุนตัวหันกลับไปมอง แววตาของเธอแสดงถึงความตื่นตระหนกและเจ็บปวดเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า"คุณภีม"เพลงขวัญก้าวถอยหลังเตรียมตัวจะเดินหนีแต่ภีรวัฒน์เร็วกว่าเขาคว้าร่างของเธอเอาไว้ได้ทัน"ปล่อยฉันนะคะ ปล่อย""อย่าดื้อกับผมนะเพลง""ปล่อยค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณ"เธอรวบรวมแรงอันน้อยนิดพยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม เพลงขวัญหันหน้ามองไปทางอื่นความเจ็บปวดภายในใจกำลังตีตื้นกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตา"เพลงอย่าทำแบบนี้ เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกัน""เราของเราอย่างนั้นเหรอคะ?"เพลงขวัญหันหน้ามามองชายหนุ่ม แววตาของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจนเมื่อได้มองหน้าชายหนุ่ม"เรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ ระหว่างเราสองคนมันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบก็แค่เท่านั้น"น้ำเสียงตัดพ้อกระแทกใจคนฟังอย่า
เมื่อทริปการพักผ่อนของทั้งคู่หมดลงก็ถึงเวลาของทั้งสองในการกลับมาทำหน้าที่ ลดาเธอได้ใช้ชีวิตกับคนรักอย่างมีความสุขอีกแค่เพียงไม่กี่เดือนก็จะถึงวันแห่งความสุขของทั้งคู่ ข่าวการแต่งงานของลูกชายนักธุรกิจใหญ่ได้ถูกเผยแพร่กระจายกันไปอย่างรวดเร็วและสร้างความฮือฮาให้กับคนทั่วทั้งประเทศเมื่อทุกคนได้เห็นโฉมหน้าของว่าที่เจ้าสาวของตระกูลเมฆาธิบดีผู้ได้ครอบครองหัวใจของลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลดัง"เป็นไงบ้างครับช่วงนี้ ทำงานหนักไม่ได้พักผ่อนเลยเหนื่อยไหม"น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของชายคนรักดังขึ้นในบ้านพักหลังเล็กของหญิงสาว เขาเดินตรงมาหาเธอซึ่งกำลังก้มหน้าทำงานอย่างขยันขันแข็งก่อนจะวางแก้วนมอุ่น ๆ ให้"นมอุ่น ๆ ครับ""ขอบคุณนะคะ"เธอเงยหน้าส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะหันไปสนใจเคลียร์งานต่อ"ดูเหมือนว่างานเลขาจะหนักเกินไปแล้วนะครับ ลาออกดีไหม""คิดยังไงคะถึงอยากจะให้ลดาลาออก"เธอปิดแฟ้มเอกสารก่อนจะย้ายมันไปวางรวมกับแฟ้มกองที่เสร็จแล้ว อิทธิพลมองหน้าคนรักพลางถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเธอคว้าแฟ้มเอกสารเล่มใหม่ขึ้นมาเคลียร์งาน"งานเลขาเหนื่อยจะตายไป ผมไม่อยากให้ลดาต้องเหนื่อยหรือลำบาก""ลดาไม่เหนื่อยหรือลำบากอะไรเลยค