ครั้งแรกที่เธอได้สติก็ตื่นมาบนเตียงของเขา นิยายที่เคยอ่าน ซีรีย์ที่เคยดู มีบางเรื่องคล้ายกันคือนางเอกตื่นมาบนเตียงพระเอก หรือเตียงจะเป็นสิ่งเชื่อมโยงมิติก็ได้ คราวนี้เธอจะลองนอนบนเตียงนี้เผื่อว่าตื่นอีกครั้งจะได้กลับไปโลกปัจจุบัน
คิดได้ตามนี้แล้วย่าหยาก็ปีนขึ้นเตียงนอน จัดหมอนแล้วทิ้งตัวลงนอน เธอหลับตาแต่แสงสว่างที่สาดเข้ามารบกวนการนอน เธอพลิกซ้ายพลิกขวาก็ยังไม่หลับจนต้องลุกขึ้นมานั่ง
‘ทำไมไม่หลับนะ ปกติตอนอยู่โลกโน้น ก็หลับได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมืดหรือแสงสว่างแค่ไหน ทำไมถึงไม่หลับนะ’
ย่าหยาก่นดาตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
‘สงบสติอารมณ์หน่อย ผ่อนคลาย คิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ คิดถึงงาน คิดถึงนักอ่านที่รอตอนต่อไปของนิยาย เอ๊ะ ! หรือจะไม่มีใครรออ่านนิยายของฉันแล้วนะ แงๆ ไม่เอาสิ คิดมากแบบนี้ก็นอนมไม่หลับนะสิ โอ๊ย! จงหลับ หลับ หลับเดี๋ยวนี้’
สายลมเย็นๆ พลิ้วผ่านม่านหน้าต่าง กลิ่นหอมของดอกไม้ไม่รู้สายพันธุ์โชยมาแตะปลายจมูก ย่าหยาเคลิ้มหลับไปอย่างไม่รู้ตัว เป็นจังหวะเดียวกับบานประตูเปิดออกพร้อมเจ้าของเรือนที่กลับเข้ามา ดวงตาคมปลาบเห็นเงาร่างที่ขดตัวบนเตียง เขาก้าวเดินมาหยุดมองอย่างแปลกใจ
สินธุ์งุนงงที่เห็นร่างเล็กหลับผล็อยบนเตียงของเขา ชายหนุ่มยื่นมือไปหมายจะปลุกหญิงสาวให้ตื่น แต่ปลายนิ้วสัมผัสเส้นผมดำขลับยาวสลวย เขาไม่ค่อยเห็นผู้หญิงไว้ผมยาวเช่นนี้นัก ริมฝีปากอิ่มแลดูจิ้มลิ้มเผยอขึ้นน้อยๆ ขนตายาวงามงอนเป็นแพสวย ผิวขาวผุดผ่องเป็นยองไย ความงามที่แสนเย้ายวนทำให้เขาแทบเสียการควบคุมตนเอง
“ทำไมเธอมาอยู่ที่เตียงของฉันอีกแล้ว”
คล้ายอยู่ในความฝัน คล้ายอยู่ในความจริง
สัมผัสแผ่วเบาแต่ปลุกเร้าเลือดในกายให้เดือดพล่าน
หญิงสาวบิดตัวกระสับกระส่าย ยกมือขึ้นปัดป่ายไปมาก่อนที่มือทั้งสองข้างจะถูกรวบไว้เหนือศีรษะ รู้สึกถึงแรงขบเม้มที่กลีบปากเบาๆ แต่กระนั้นมันเหมือนจริงจนเธอบอกตัวเองให้ลืมตา ดวงตากลมกระพริบตาปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่งแต่ทำให้เห็นใบหน้าคมเข้มที่อยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน
“คุณ...คุณ...” ย่าหยาตื่นตกใจ พยายามจะกระถดตัวถอยหนีแต่พบว่าข้อมือถูกรวบไว้เหนือศีรษะ และดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองอยู่ก็ราวจะกลืนกินเธอทั้งเป็น “คุณสินธุ์”
“อย่าเพิ่งขยับตัว” น้ำเสียงเขาแห้บพร่าคล้ายข่มกลั้นกดดันอยู่ในที “อยู่นิ่งๆ สักประเดี๋ยว”
บางสิ่งแข็งขันดุนดันอยู่ตรงหว่างขา ใบหน้าหวานจึงเห่อร้อนแดงเรื่อขึ้นมาทันที
“คะ...คุณ...คุณสินธุ์ ทำ...ทำไม มา..มาอยู่ที่...ที่นี่”
“นี่ห้องฉัน ฉันก็ต้องอยู่ที่นี่สิ” เขาขึงตาใส่ “หืม พูดได้ชัดขึ้นแล้ว”
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น พยายามไม่ขยับตัวตามที่เขาสั่ง เสียงเขาสูดลมหายใจลึกเฮือกใหญ่ก่อนจะปล่อยข้อมือเธอออกเป็นอิสระ ย่าหยารีบยันกายขึ้นแล้วพลิกตัวลงจากเตียง แต่ปลายเท้ายังไม่ทันแตะพื้น เอวบางก็ถูกรวบกอดจากด้านหลัง
“ว้าย!”
“จะร้องไปไย ฉันกลัวเธอจะตกเตียงเช่นครั้งก่อนอีก” เขาหัวเราะขึ้นเบาๆ แล้วรัดวงแขนแน่นขึ้น “ทำไมชอบมาอยู่บนเตียงฉันนักนะ”
“ปะ...เปล่า” เธอเอี้ยวหน้าไปหมายปฏิเสธแต่แก้มเนียนก็ถูกปลายจมูกโด่งเป็นสันสัมผัสเบาๆ เธอรีบหันหน้ากลับแล้วยกมือขึ้นแกะท่อนแขนที่รัดรอบเอวออก
“เปล่า? แต่เธออยู่บนเตียงของฉันถึงสองครั้งสองคราแล้ว” เขาเย้าแหย่ด้วยการพูดอยู่ริมใบหูที่แดงเรื่อ “หรือว่าชอบฉัน?”
“ไม่ใช่นะ” เธอปฏิเสธแต่เสียงแข็ง “ฉันแค่คิดถึงบ้าน”
“คิดถึงบ้านรึ?” คราวนี้ชายหนุ่มยอมคลายวงแขนออก แล้วพลิกตัวหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้า “อยู่ที่นี่มีคนรังแกหรือไร ไม่มีความสุขหรือ?”
เธอส่ายหน้าไปมา คนที่รังแกเธอได้ก็มีแต่เขานี่แหละ “ฉันแค่คิดถึงบ้าน นอน...นอนที่นี่...เหมือน ดะ ได้นอน...ที่บ้าน”
แววตาและน้ำเสียงใสซื่อไร้เดียงสาทำให้สินธุ์รู้สึกผิด ยิ่งนึกถึงเรื่องพี่ชายเล่าเกี่ยวกับตัวผู้หญิงคนนี้ เขาก็นึกสงสารอยู่มาก
“อย่างไรก็เป็นหญิง ไม่ควรเข้ามาห้องผู้ชายเช่นนี้”
“อืม...เอ่อ...เจ้าค่ะ...”
“หือ?” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนหัวเราะออกมา “เธอไม่ใช่บ่าวไม่ต้องพูดเช่นนั้นก็ได้”
“แล้ว...ต้องพูด...ยังไง”
“พูดอย่างไร” เขาแก้คำพูดให้เธอใหม่ “พูดช้าๆ ชัดๆ พูด-อย่าง-ไร”
“พูด...พูด อย่าง...ไร”
“ดีมาก” เขาชมเชย “เธอมานอนบนเตียงฉันเช่นนี้ไม่ได้ มันไม่เหมาะไม่ควร ถ้าชอบมากก็เอาเครื่องนอนของฉันไป”
เธอส่ายหน้าไปมา เขาคงเข้าใจไปว่าเธอชอบกลิ่นที่อยู่บนหมอนบนที่นอนละมั้ง? เธอก็แค่มาลองนอนดูเผื่อจะได้กลับบ้านในปีพ.ศ.2567 ต่างหากล่ะ
“ให้เครื่องนอนก็ไม่เอา หรืออยากมานอนที่นี่ ทำเช่นนั้นไม่ได้ เธอเป็นหญิงมันไม่งาม ผู้อื่นมาเห็นเข้าเธอจะเสียหายเอา”
“ไม่...ไม่มาแล้ว” ย่าหยาพูดแล้วเผลออ้าปากหาวออกมา
เป็นผู้หญิงเยี่ยงไรถึงกล้าอ้าปากหาวต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้ แต่เหตุใดเขาไม่รู้สึกรังเกียจ แต่กลับน่าเอ็นดูเหลือเกิน
“เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือไร”
ย่าหยาเผลอพยักหน้ารับแล้วพูดขึ้น
“สะ...เสียง..ดัง...คุณ คุณหลวงกับพี่...พี่ยี่สุ่น สะ...เสียงดัง”
“แคกๆๆ” ผู้ชายหน้าหนาอย่างเขา แต่ได้ยินหญิงสาวพูดซื่อๆออกมาก็รู้สึกประดักประเดิกชอบกล สองคนนั้นก็กระไร ไม่คิดว่ามีเด็กอยู่ในเรือนหรืออย่างไรกัน เด็ก...อืม...ก็ไม่เด็กแล้วหนา อายุก็สิบเจ็ดแล้ว ทรวงทรงองค์เอวก็แสนเย้ายวนตา
เพราะพูดไม่ทันคิดแต่เมื่อนึกได้ย่าหยาก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก
ปิดปากตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว เขาได้ยินเต็มสองรูหูแล้ว
“ช่างเถิด...เช่นนั้นเจ้าก็นอนที่นี่สักประเดี๋ยว นอนให้พอแล้วค่อยกลับ ฉันจะปลุกเอง”
“ไม่...ไม่นอนแล้ว”
เธอพูดแล้วขยับลงจากเตียงอย่างมั่นคงไม่ตกเตียงเช่นครั้งก่อนอีก หญิงสาวรู้สึกขัดเขินจึงเสมองไปทางอื่น แต่สายตาปะทะกับชั้นหนังสือที่ด้านหนึ่งของห้อง จะว่าไปเธอพึ่งสังเกตว่าลักษณะของเรือนแตกต่างจากเรือนหลังอื่น ต้องบอกว่า ‘ทันสมัย’ กว่าน่าจะถูก เรือนที่เธออยู่กับพี่ยี่สุ่นเป็นเรือนไม้ใต้ทุนสูง แต่เรือนหลังนี้มีกระประยุกต์แบบตะวันตกร่วมด้วย อ๊ะ! จริงสิ ตอนนี้ยังเรียก ‘สยาม’ ไม่ใช่ ‘ไทย’
เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าแล้วกอดร่างเล็กแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าจะเป็นแค่ความฝันไป ไออุ่นจากกายแกร่งตอกย้ำว่าเขาคือคนที่หัวใจเธอเพรียกหา หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาแล้วขยับตัวยื่นหน้าไปจูบมุมปากของชายหนุ่ม “หยารักพี่สินค่ะ หยาจะไม่หายไปไหนอีก ครั้งนี้เรามาทำให้มันไม่เหมือนเดิมนะคะ” แววตาของเธอคือคำตอบที่เขารอคอย มีหลายร้อยหลายพันคำที่เขาอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออก อับจนถ้อยคำอย่างน่าสงสาร ความรู้สึกที่มีทั้งหลายทั้งปวงหลอมรวมเป็นอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่หัวใจของเขายังเป็นดวงเดิมที่รักเพียงหญิงเดียวเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป รักครั้งนี้กับหัวใจดวงเดิมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วบทส่งท้าย ข่าวโฮโซสาวชื่อดังและครอบครัวถูกจับข้อหาฉ้อโกงและคดีแชร์ลูกโซ่เป็นที่พูดถึงกับไปทั่ว ช่องข่าวทุกช่องรวมทั้งโลกโซเซียลให้ความสนใจกันมาก แต่นั้นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพอใจมาก เพราะพวกเขาไม่ต้องเป็นเป้าสายตาของใครนัก มารดาของย่าหยาและสามีใหม่บินตรงกลับเมืองไทยตามคำเชิญของว่าที่ลูกเขยเพื่อที่ทั้งสองครอบครัวจะ
คุณาสินวางร่างของย่าหยาลงบนเตียง เขาปรายตามองไปทางประตูเห็นลูกน้องปิดให้เรียบร้อยก็ถอนหายใจเบาๆ คนตัวเล็กยื่นมาคล้องคอเขาไว้ “พี่สิน” เสียงหวานครางแผ่ว “หยาอยากอาบน้ำ” เธอต้องการเขาเหลือเกิน แต่สภาพนี้มันก็เกินกว่าตัวเธอเองจะรับได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อุ้มคนตัวเล็กเดินไปที่ห้องน้ำ “เด็กดี...ให้พี่ช่วยนะครับ” เขาพูดขณะปล่อยให้เธอลงยืน หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาช่วยถอดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นออกจากร่าง น้ำอุ่นไหลผ่านฝักบัวรินรดร่างเปลือยเปล่า มือใหญ่ค่อยๆ เช็ดใบหน้าสวยอย่างเบามือพลางสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนบ้าง เสียงหวานครางแผ่วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างร้อนรน ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคยแล้วยื่นหน้าไปจูบอกซ้ายของเขา ชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวเล็กพยายามปลดเข็มขัดของเขาออก เขาจึงเลื่อนมือลงไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าต่อหน้าคนรัก ผ่านมากี่ร้อยปี เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่เขารัก แม้เคยคิดหันหลังให้ความรู้สึกที่มีแต่หัวใจมันไม่ยอมหยุดรักเธอได้เลย มือใหญ่กุมมือเล็กให้กอบกุมท
ชายผู้นั้นหน้าซีดมองร่างที่หลับใหลสลับกับหน้าถมึงทึงของวาด มือหยาบกร้านสั่นเทายื่นไปหมายแตะต้องเรือนร่างนวลละออ แต่มีเสียงคนพูดด้านนอกว่า ‘องค์วรสินเสด็จกลับมาแล้ว’ ทั้งสองจึงรีบออกไปราวกับภูติผีวิญญาณร้าย คราวนั้นองค์วรสินกลับมาได้เวลา แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดเพราะองค์วรสินเองก็ถูกปั่นศีรษะเป่าหูว่าเธอเป็นหญิงแพศยาคบชู้ ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยตายจากของเธอและลูกในครรภ์ แรงรักแรงอาฆาตทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเช่นนี้หลายชาติภพ เธอปล่อยวางตั้งแต่ชาตินั้นแต่คนผู้นี้ไม่อาจปล่อยเธอไป มือใหญ่กระชากเสื้อเธออย่างแรงทำให้ย่าหยาได้สติ หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องแล้วยกเท้าขึ้นถีบเปะปะไปทั่วแต่มือที่น่าขยะแขยงพวกนั้นจับเรียวขาเธอแล้วลูบไล้หยาบคาย คนหนึ่งถือสมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ราวกับเธอคือนางเอกหนังAV ที่รับบทสาวสวยถูกขื่นใจ แต่นี่คือชีวิตจริงที่เธอกำลังจะถูกชายแปลกหน้ายำยี ‘พี่สิน’ ย่าหยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อคนรักในใจ ใช่ เธอรักเขา ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อยปีหรือกี่ชาติภพ เธอก็ยังคงรักผู้ชายคนนี้ โครม! เสียงถีบประตูดังสนั่นท
“เอ่อ...เจ้านายครับ ผมไม่เห็นคุณย่าหยาเลยครับ” “อะไรนะ?” “ผมเข้ามารับเอกสารตามที่เจ้านายสั่ง ผมมาถึงคอนโดแล้วแต่ไม่พบคุณย่าหยาเลยครับ เอ่อ...โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ผมถามนิติกรคอนโดก็บอกว่าเห็นคุณย่าหยาเดินออกไปหน้าคอนโดแล้วยังไม่กลับเข้ามาครับ” “เป็นไปได้ยังไง” “ผมว่าแปลกๆนะครับ” “รอที่นั้นก่อน เดี๋ยวฉันลองติดต่อย่าหยาอีกที” คุณาสินวางสายจากลูกน้องแล้วโทรหาย่าหยา ใจของร้อนรุ่มไม่สนใจว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนตึกสูงระฟ้าแต่หัวใจของเขากำลังดำดิ่งอย่างหวาดวิตก หญิงสาวไม่รับสายและครู่ต่อมาก็เหมือนทโทรศัพท์ดับไปเสียเฉยๆ เขาสบถหัวเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโทรตามลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาพบเขาทันที และโทรสั่งให้คนของเขาอีกคนไปขอดูกล้องวงจรปิดที่คอนโด เขาสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติให้มั่น หากเป็นเรื่องอื่นเขาคงรับมือด้วยความใจเย็น แต่นี่เป็นเรื่องของย่าหยา ผู้หญิงที่ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา ผ่านมาหลายชาติภพ เขาไม่
“โทษหยาเหรอคะ แต่พี่สินเริ่มก่อนนะ” เธออายจนหน้าแดงเรื่อ ไม่รู้ทำไมตอนเช้าเขาถึงมี ‘อารมณ์’ จนต้องจัดหนักก่อนไปทำงานทุกที เธอทำงานที่บ้าน ตื่นสายก็ไม่เป็นไรแต่เขานี่สิ “พี่เป็นเจ้าของบริษัท ไปถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เขายื่นหน้าไปแล้วกระซิบข้างหู “ต่ออีกรอบได้นะครับ” “คนบ้า! ไปทำงานเลย” “ครับๆ รับคำสั่งคุณภรรยาครับ” ย่าหยาไม่อยากจะโต้ตอบอีก ดูเหมือนพูดอะไรไปก็จะเข้าทางเขาเสียหมด คุณาสินยิ้มกว้างแล้วจูบหน้าผากคนรักเบาๆ ก่อนออกไปทำงานเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิม เหมือนได้ของหายที่หาไปนานกลับมา 2-3คืนแรก เขานอนหลับไม่สนิทนักเพราะกังวลและกลัวว่าเธอจะหายไป และกลัวว่าเธอจะหวนกลับไประลึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณาสินเดินออกมาจากห้องของคนรัก เขาไม่อยากเร่งรัดเธอเกินไป แต่อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนขี้กลัวไปเสียทุกอย่าง บางทีเขาก็นึกขำตัวเอง ตอนที่ยังหาเธอไม่เจอมันก็เป็นความรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง แต่เมื่อได้พบเธอ ได้โอบกอดอีกครั้ง กลับกลัวว่าจะเสียเธอไป เขาอยากใช้ชีวิตกับเธอเ
ทันที่ริมฝีปากร้อนของคนทั้งสองประกบกันอีกครั้ง ร่างกายผ่าวร้อนทาบทับลงมาบดเบียดแนบชิด สิ่งที่ใหญ่โตนั้นร้อนระอุคลอเคลียกลีบเนื้ออ่อนบางที่ยามนี้ฉ่ำชื้นเพราะถูกปลุกเร้าด้วยนิ้วมือร้ายกาจ คุณาสินผละจากริมฝีปากสวยแล้วพรมจูบลำคอขาวผ่องจนเป็นแดงเรื่อ ซุกไซและโลมเลียลำคอระเรื่อลงมาที่เนินอกสวยอีกครั้ง ขบเม้มดูดดึงที่ปลายถันจนเปียกชุ่มทำให้หญิงสาวเผลอใช้ปลายนิ้วจิกลงที่ต้นแขนกำยำอย่างลืมตัว “อื้อ พี่สิน...” ความต้องการของหญิงสาวทวีคูณ ขยับบดเบียดร่างแนบชิดพร้อมกับแยกเรียวขาออก ความปรารถนาจะถูกเติบเต็มทำให้เรียกร้องอย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาส่งนิ้วไปสำรวจเบื้องล่างอีกครั้งขยับนิ้วในร่องสาวจนมั่นใจว่าน้ำรักของเธอมากพอจึงประคองแก่นกายของตนส่งเข้าไปที่น้อย “อ๊ะ!” “อย่าเกร็ง” เขาพูดเสียงพร่าและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ ดวงตาของเธอปรือฉ่ำไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ แต่เพราะถูกปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ เขาขยับเอวสอบดุนดันเข้าไปที่ละน้อย ขยับออกถอยเข้าเพิ่มความลึกไปที่ละนิดจนปลายหัวบากมุดเข้าไปในร่องสาว ย่าหยาตัวสั่นระริกในขณะที่อีกฝ