บทที่ 15
แต่เขาคิดผิด แซคยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าหวานคม และเปรมาไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย
“ไม่!!”
เสียงใสตะโกนใส่เขาลั่นห้อง เธอยืนเท้าสะเอวเลียนแบบเขา ถลึงตาจ้องเขาทำปากยื่นเง้าไม่พอใจอย่างแรง
“ทำไม ในเมื่อเราชอบกัน”
เขาตะวาดออกไป เขาไม่ชอบเรื่องที่ควบคุมไม่ได้และเปรมาเป็นหนึ่งในนั้น
“แซค คุณเป็นพ่อแซม ได้ยินไหม!”
เปรมาตะคอกกลับ ในเมื่อเขาส่งเสียงใส่เธอ เธอก็จะไม่ยอมให้เขากระทำกับเธอฝ่ายเดียว
“แล้วยังไง! ผมไม่เห็นว่ามันจะผิดปกติตรงไหน”
“บ้าจริง! ก็ถ้าลิฟเป็นน้องสาวฉัน ลิฟเรียกคุณว่าพ่อ แล้วฉันล่ะจะเรียกคุณว่ายังไง”
แซคสูดลมหายใจเข้าลึกยืดกายสูงก่อนจะย่างเท้าเข้าใกล้ร่างงาม เธอพยายามเรียกความกล้ายืนนิ่งแหงนหน้ามองเขาต่อตาไม่ลดละ
“ก็เรียกผัวยังไงล่ะเลิฟ เราเอากันสะขนาดนั้นจะให้เรียกพ่อหรือไง!!”
เขาชะโงกเข้าใกล้ตะโกนเสียงดัง เขายั้งอารมณ์ไม่อยู่ เพียงคิดถึงสิ่งที่เปรมาพูดพลันโมโหโกรธกว่าเดิม
“หยุดนะ!! คุณไม่ใช่ผัวฉัน แซค”
มือเอื้อมกระชากแขนเปรมาส่งเสียงข่มขู่
“แล้วที่ร้องครางหงิง ๆ ตอนที่แซคน้อยกระแทกจะให้เรียกว่าอะไร คุณเรียกผมว่าพ่อหรือไง!!”
เปรมาเบิกตากว้าง หน้าแดงซ่านอับอายทั้งโกรธจัด พ่อของแซมนอกจากมั่นใจในตัวสูงจัดแล้วยังเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเอง เธอสะบัดแขนออกจากมือแซค
“เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแซค ห้าวัน คุณมีเวลาอีกห้าวัน”
“เลิฟ หยุดนะ! ผมไม่ชอบให้ใครเดินหนี เลิฟ!!”
เขากระชากเธอกลับมา หน้าสาวงามง้อเง้าบึ้งตึงและแดงก่ำ เธอบิดแขนแต่สู้แรงไม่ไหว
“ฉันหิวข้าวแซค”
“บ้าฉิบ!”
เสียงทุ้มสบถแรงปล่อยมือออกจากแขนเธอจนเปรมาเซออก เธอเปิดประตูห้องพักย่ำเท้าไปตามทางเดินเพื่อไปยังโซนห้องอาหารเช้าของโรงแรม เขาเดินตามเธอมาติด ๆ เสียงฝีเท้าหนักแสดงถึงอารมณ์กรุ่นโกรธ
“แซค แซค คุณจริง ๆ ด้วย”
เปรมาชะงักเท้าที่กำลังก้าวเข้าห้องอาหาร เห็นผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่งรูปร่างสูงบอบบาง เสียงทุ้มพึมพำด้านหลัง
“เจนี่ ซวยอะไรอย่างนี้”
เธอเม้มปากแน่นเดินต่อไป ปล่อยให้สาวสวยคนนั้นโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่แบบไม่อายใคร เปรมาเลือกนั่งที่เดิมเมื่อวานอยากให้ทิวทัศน์และลมทะเลช่วยพัดไฟในอกให้กระเจิดกระเจิงออกไปจากตัวเธอสะ
เสียงลากเก้าอี้อย่างแรงก่อนจะชำเลืองตาเห็นร่างแกร่งกระแทกก้นนั่งลง เขากวักมือเรียกพนักงานไม่พูดไม่จา
“ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงของผมไม่พูดกับผม”
คิ้วคันศรโก่งขึ้น รอยยิ้มยั่วผุดขึ้นบนใบหน้าหวานคมจนเห็นลักยิ้ม
“ใครเป็นผู้หญิงของคุณไม่ทราบคุณฮิวส์”
“รับอะไรดีค่ะ”
เสียงพนักงานบริการแทรกเข้าขณะที่แซคกำลังจะชะโงกกายมาทางเธอ เขาฉุนเฉียวจนต้องหยิบแก้วน้ำขึ้นยกดื่มเรียกสติแล้ววางลงอย่างแรง
“ชุดอาหารเช้าสองที่”
“รอสักครู่ค่ะ”
พนักงานสาวรีบจดรายการแล้วรีบเดินออกไป เมื่อมองเห็นคนทั้งคู่กำลังปะทะสายตาพิฆาตใส่กัน
“อย่าพูดแบบนี้เลิฟ เราไม่ใช่เด็กแล้ว”
เปรมายังนั่งหน้าตึงขาไขว้ห้างกอดออกแน่น หางตายังเห็นผู้หญิงคนนั้นวนเวียนอยากจะเข้ามาร่วมแจม ไฟหึงหวงลุกลามแน่นหน้าอก
“อันที่จริงมีผู้หญิงอีกเยอะที่อยากจะให้คุณดูแลคุณฮิวส์ เช่นเจนี่เป็นต้น”
“ปัง!”
เปรมาสะบัดหน้าหนีหากแต่ไม่สะดุ้งตกใจแม้แต่น้อย เมื่อเขาตบโต๊ะเสียงดังผิดไปจากสาวสวยคนนั้นที่เดินหนีทันที
“อย่าลากคนอื่นมาเกี่ยวข้อง มันเป็นเรื่องของเราสองคน และเลิกเรียกคุณฮิวส์สะที!”
“ทำไม เพราะเธอเกี่ยวข้องกับคุณไงฉันถึงกล้าลากเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย คุณฮิวส์”
คิ้วเข้มกระตุก มองหน้าหวานคมลอยหน้าใส่เมื่อเอ่ยคำว่าคุณฮิวส์
“ได้แล้วค่ะ”
พนักงานสาวรีบวางจานและเครื่องดื่มร้อนอาหารเช้าสองที่ลงบนโต๊ะหลังจากวนเวียนหาจังหวะแทรกเข้ามาเสิร์ฟ
เปรมาถอยกายเอนพิงพนักหลังกอดอกแน่น ปากเม้มบึ้งตึงเช่นเดียวกับใบหน้าคมเข้ม แล้วกระแทกมือหยิบมีดส้อมขึ้นมาหั่นแฮมกระแทกกระทั้น ร่างกายเธอต้องการพลังงานอย่างยิ่งในตอนนี้โดยเฉพาะหลังจากโต้เถียงกับชายดื้อรั้น
เขาเองก็ลงมือกับอาหารตรงหน้า พยายามลดความโกรธลงด้วยการทานอาหารเช้า เหลือบตามองเปรมาตลอดเวลาที่เธอจิ้มแฮมเข้าปาก
“มันตายแล้วเลิฟ”
“ฮะ!!”
เปรมาเงยหน้ามองแซคแววตาสงสัย เขาเพียงพยักเพยิกหน้าแกร่งไปยังแฮมที่เธอกำลังจิ้มอยู่ในจาน
“แฮมมันตายแล้ว”
หญิงสาวก้มมองส้อมในมือเธอกดแรงในเนื้อแฮมจนข้อมือขึ้นเอ็นขาว เปรมาผ่อนแรงลงค่อยหักห้ามไฟที่ยังลุกท่วมในอก
เขาพูดถูก แฮมมันตายแล้ว ถ้าจะจิ้มก็คงต้องจิ้มผู้ชายที่นั่งข้างหน้าเธอนี่แล่ะ
แซคมองหน้างามที่ยังไม่คลายความเคียดขึ้งดั่งคันธนูเหยียดตึง เขามองมือสั่นเทาหยิบแก้วโกโก้ร้อนขึ้นดื่ม เปรมากำลังควบคุมความโกรธก็เหมือนเขา
“แซคคะ”
เสียงหวานใสดังขึ้นข้างโต๊ะ แซคแหงนหน้าเจอใบหน้างามสวยของเจนี่ยืนด้านข้างเขายกมือลูบบ่าขณะเอ่ยทัก เขาสบถในใจเหลือบตามองเปรมาที่วางช้อนส้อมลงแล้ว
“คืนนี้ทานข้าวด้วยกันนะคะ”
เขารู้ว่าเจนี่หมายถึงอะไร พวกเขาไม่เคยทานข้าวด้วยกันนอกจากเซ็กซ์เร่าร้อน หางตาเห็นร่างอวบอิ่มกระแทกเก้าอี้ไปด้านหลังลุกขึ้น
“ไม่เจนี่ ผมขอตัวก่อนนะ”
“อย่าทำให้คุณเจนี่ต้องผิดหวังสิคะแซค”
นัยน์ตาคมตระหนกเมื่อได้ยินเสียงหวานนุ่มของเปรมาพูดขึ้น เขาทะลึ่งตัวจากเก้าอี้ยังไม่ทันเธอที่เดินเข้ามาใกล้เขาทั้งสอง
“อันที่จริงทำไมเราไม่ลองไปทานข้าวด้วยกันล่ะคะ”
เปรมากัดฟันพูดด้วยเสียงอ่อนหวานอย่างที่สุด เธอได้ยินเจนี่เอ่ยชวนแซคทานข้าวในคราแรกเธอไม่เข้าใจจนกระทั่งสบสายตาของแซค
เธอเดินไปหยุดข้างกายเจนี่แหงนหน้ามองแซคแต่มือเรียวสีน้ำผึ้งลูบไล้ลำแขนนางแบบสาวขาวผ่อง สบตาแซคอย่างท้าทาย
เขากัดฟันกรอด แว่วเสียงเจนี่ตอบรับเสียงใสกระตือรือร้น รอยยิ้มชั่วร้ายบนหน้าเปรมาคลี่ออกกว้าง
“ดีสิคะ แซคคะ เราไม่ได้ทานข้าวพร้อมกันแบบสามคนมานานแล้วนะคะ”
เขาตวัดหน้ากลับมามองนางแบบสาว สมองอันน้อยนิดของหล่อนไม่เฉลียวใจแม้แต่น้อยกว่าสถานการณ์ในขณะนี้เป็นเช่นไร
“โอ้! จริงเหรอคะคุณเจนี่ ถ้าอย่างนั้นต้องสอนฉันให้หน่อยนะคะ ฉันยังอ่อนหัดอยู่มาก”
แววตาฉ่ำเยิ้มกลั้นเสียงหัวเราะปนโกรธของเปรมาไม่ละออกจากนัยน์ตาสีเข้มโกรธจัด เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยให้เกมที่เธออยากจะเล่น
“คุณ .. เออ ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยค่ะ”
“ฉันชื่อ .. อุ๊ย ปล่อยนะคุณฮิวส์ ฉันเจ็บ!!”
เขากระชากมือเธอออกจากแขนของเจนี่อย่างแรง ดึงเข้าหาตัวโดยไม่สนใจนางแบบสาวที่ยืนตาโต
“ได้สิ ผมจัดให้ได้ไม่มีปัญหาเลิฟ”
บทพิเศษกริ๊งงงง!!เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นยามเช้า แสงอาทิตย์ยังทอแสงรำไรขอบฟ้าของคฤหาสน์ชานเมือง“อืมมมม”ร่างอวบอิ่มบิดกายพลิกหาความอบอุ่นข้างกายทันทีเอื้อมมือออกข้ามลำกายแกร่งไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงมือเล็กพยายามควานหาทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา ร่างอวบทับบนอกแกร่งตะเกียกตะกายไปมา“เลิฟ”เสียงแหบพร่ากดต่ำดังขึ้นทำให้เปรมาปรือตามองอย่างสงสัย แล้วหยิบนาฬิกาปลุกกดปิดได้ในที่สุด“ขอโทษค่ะ เลิฟตั้งปลุกไว้ต้องรีบกลับคาเฟ่แต่เช้า”“มานี่ก่อน”แซคคว้าร่างอวบไว้ได้ทันก่อนที่เปรมาจะก้าวลงจากเตียงใหญ่ ดึงรั้งกระทั่งล้มลงบนกายแกร่งอีกครั้ง“แซค!! เลิฟกำลังจะสายนะคะ”“สายอะไรกัน วันนี้ผมเหมาร้านคุณให้แล้วกัน อยู่กับผมอีกวัน”เปรมาดันตัวขึ้นมองหน้าคมเข้ม ผมยังยุ่งเหยิง ดวงตาหรี่ปรือเปี่ยมเสน่ห์ทางเพศมองเธออย่างมาดหมาย“อย่านะ! เปรมาชอกช้ำหมดแล้ว”แซคค่อยคลี่ยิ้มมองสีหน้าเง้างอดและทีท่าขืนตัวหนี“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย คิดทะลึ่งไปเองหรือเปล่า”มือแกร่งยังดึงดันพลิกจนร่างเปรมาตวัดกลับไปนอนหงายโดยมีคนร่างโตทาบทับด้านบน แทรกหัวเข่ากลางหว่างขา“แซค! นี่เลิฟพูดจริงนะคะ ต้องกลับแล้วเช้านี้”“ถ้างั้นมีข้อแ
บทที่ 24**จบ“อือม พูดอะไรคนสวย”เขาเลื่อนลงไปจนกระทั่งถึงเนินทรวงอกใช้ลิ้นตวัดปลายยอดถัน เปรมาเบี่ยงตัวหลบ“ขึ้นมานี่เลย พูดกันก่อนนะคะ”“แล้วคุณจะมีรางวัลอะไรให้ผม”แซคครอบปากบนยอดทรวงดูดแรงจนร่างอวบอิ่มสะท้านแอ่นหยัดรับ“อะไรก็ได้ ขึ้นมานี่นะ หยุดก่อน”รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมเข้มทำเธอตาพร่าไปพักหนึ่งเมื่อเขาชะโงกเหนือดวงหน้าของเธอ“จะถามอะไรคนสวย”“คุณจะแต่งงานกับฉันทำไม พูดมานะแซค”“ไม่เห็นยากเลยเลิฟ ผมชอบคุณมากน่ะสิ ไม่สิ ผมรักคุณต่างหาก ใช่ มันต้องเป็นเพราะอย่างนี้ล่ะผมถึงอยากจะแต่งงานกับคุณ”เปรมาถอนหายใจโล่งอกเมื่อแซคยอมพูดคำที่เธออยากจะได้ยิน เปิดปากรับลิ้นที่แทรกเข้าโพรงปาก จูบหนักหน่วงดำเนินไปสักพักจนลมหายใจของเปรมาเริ่มกระชั้น“คุณคิดว่ามันเป็นความรักเหรอคะแซค เรารู้จักกันไม่นานอีกอย่างคุณเคยบอกฉันว่ามันเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย”“เลิฟคนดี ผมอายุปูนนี้แล้ว สามสิบเก้า คุณคิดจริง ๆ หรือว่าผมไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง”“อือ แล้วคุณไม่ถามฉันเหรอแซค อา อ่า”เขากัดยอดถันเบา ๆ มือกอบดันขึ้นเหลือบตามองเธอ“ไม่หรอก เพราะคุณต้องรักผมอยู่แล้ว ใช่ไหมคนสวย”“ฮ่า ฮ่า คนหลงตัวเอง”“เอาล่ะ
บทที่ 23“ก๊อก ก๊อก พี่เลิฟคะ สายมากแล้วค่า”แซคคลายอ้อมแขนที่เปรมาหนุนนอนมาตลอดคืน เอนกายไปขอบเตียงตวัดขาลงแล้วจึงคว้าเช็ดตัวของเปรมาสีชมพูสวยพันรอบเอว มือสางเสยผมยุ่งเหยิงพอประมาณ“แอ๊ด”ปาริมาสะดุ้งสุดตัวมองพ่อของคู่หมั้นตาค้าง พ่อของแซมนุ่งผ้าเช็ดตัวสีชมพูของพี่เปรมาเดินออกมาเปิดประตูเพียงผืนเดียว ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งลุกจากเตียงปาริมาแทบหาเสียงของตัวเองไม่เจอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น“อะ เออ พ่อคะ พะ พี่เลิฟ เออ จะมาเรียกพะ พี่เลิฟทานข้าวค่ะ”แซคก้มมองว่าที่ลูกสะใภ้ใบหน้าซีดเผือด เขายืนเท้าแขนตรงกรอบประตูใช้มือผลักประตูกว้างออกไปแล้วเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้ปาริมาเห็นพี่สาว“ยังไม่ตื่น”ปาริมามองเข้าไปยังเตียงนอนเห็นแต่ผมดำยาวสยายปิดใบหน้า สีผิวน้ำผึ้งตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวเขามองลำคอระหงของปาริมาขยับกลืนน้ำลายหลายครั้งก่อนจะหน้าแดงซ่านทั่วใบหน้า“งะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ”“ปัง”แซคเดินกลับมายังเตียงนอนก่อนจะล้มตัวนอนต่อ เขาขยับเข้าใต้ผ้าห่มโอบวงแขนรอบร่างอวบอิ่มที่ยังสลบไสล ยิ้มมุมปากเมื่อนึกภาพยามเธอตื่นมาแล้วพบว่าเขาเพิ่งจะไล่ว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาไป แต่อันที่ก็เป็นว่าที
บทที่ 22***แซคเดินใกล้จนถึงร่างอวบของเธอ โอบแผ่นหลังดึงรูดซิปลง ดวงตาคมไม่ละออกจากดวงหน้า มือร้อนลวกจับสายเสื้อดึงลงต้นแขน ชุดสวยร่วงหล่นกรอมเท้า“ผมขอต่อสัญญาเลิฟ ต่ออีกยาว ๆ”มือใหญ่ปลดตะขอเสื้อชั้นในปล่อยเต้างามให้เป็นอิสระ มือทาบทรวงอกเคล้นคลึงหนักมือ“คุณทำผมแย่ เลิฟ ผมไม่ชอบมันเลยคนสวย ผมไม่ชอบที่มันควบคุมไม่ได้”เปรมายังมองหน้าคมเข้มเมื่อเขาโน้มลงใกล้ ปากหนาครอบครองปากเย้ายวน รสชาติของไวน์คละคลุ้งไปทั้งโพรงปากมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่าง เขาดันเธอแนบกายแกร่งโยกตัวให้ท่อนเนื้อสัมผัสเนินสาว แล้วจึงตวัดแขนโอบร่างอุ้มขึ้นจากพื้นเดินไปยังเตียงแซคมองหญิงสาวที่เขาวางลงบนเตียง ความรู้สึกบางอย่างกระแทกเข้าที่ทรวงอกแรงจนเขาสะเทือน เขายืดกายสูดลมหายใจเข้าแล้วดึงกางเกงในของเปรมาออกจากตัว“พระเจ้า คุณแว็กซ์”เปรมาประหม่าเอียงอาย เธอใช้มือปิดของสงวนไว้ไม่กล้าเปิดออกให้แซคเห็น“มันเป็นคอร์สเพื่อนเจ้าสาวน่ะ”“ไม่ เลิฟ ยกมือออก ผมอยากเห็น”เธอค่อยเปิดออก สายตาเข้มข้นมองเธอนิ่ง เขาหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีเมื่อเปรมาเริ่มขยับขายกตั้งชัน“วันนี้เราจะไม่เล่นเกมกันอีกใช่ไหมคนสวย คุณยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่กับ
บทที่ 21เปรมามองรอบโต๊ะทรงกลมขนาดใหญ่ มื้อเย็นที่มีแต่คนในครอบครัว แต่นั่นจะเรียกว่ามื้อเย็นก็ไม่ถูกนักเพราะตอนนี้สามทุ่มแล้วเพิ่งจะเริ่มยกจานแรกมาเสิร์ฟ“คุณเลิฟพักที่นี่เป็นยังไงบ้างคะ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะคะ”เสียงแม่ของแซมบาบาร์ร่าทำให้เปรมาละมือออกจากแก้วไวน์ เธอมองบาบาร์ร่าที่ยังสวยแม้อายุเกือบสี่สิบ ผมบลอนด์ยาวจัดแต่งทรงอย่างดี ชุดเรียบหรูสำหรับทานมื้อค่ำส่งให้บาบาร์ร่าโดดเด่น ยิ่งนั่งข้างแซคทำให้เธอเห็นความเหมาะสมกันทุกประการของคนทั้งคู่มือเรียวของบาบาร์ร่ายังจับแขนแซคไว้เบา ๆ ยามเอ่ยพูด เธอมองไล่ไปยังร่างแกร่งที่ถอดชุดสูทออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมเมื่อกลางวันพับแขนเสื้อขึ้นอย่างเคย“ค่ะ ทุกอย่างดีมากค่ะ”“ถ้าแบบนั้น พักเสียหลาย ๆ วันนะคะ ลิฟจะได้มีเพื่อน”“คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องกลับไปเปิดร้านค่ะ”บาบาร์ร่าส่งเสียงพึมพำเบา ๆ รับรู้ ก่อนจะหันไปคุยกับแซคต่อถึงเรื่องคนในครอบครัวเปรมายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง เธอเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรและโทษอาหารที่ทานไปเมื่อกลางวันที่ทำให้เธอมวนในท้องและร้อนไปถึงทรวงอกเสียงหัวเราะทุ้มของแซคดังมาเป็นระยะ ๆ ขณะที่คุยกันกับบา
บทที่ 20เปรมาสำลักน้ำทันทีเมื่อได้ยินคำถามจากเสียงทุ้มเมื่อเขานั่งลงข้างเธอ คริสรีบหยิบผ้าเช็ดปากส่งให้หญิงสาวพรางหัวเราะถูกใจ“นี่สงสัยผมพูดแทงใจดำใช่ไหมครับ”“เปล่าคะ ฉันไม่ได้ชอบเขา”เปรมาปฏิเสธพัลวันหน้าแดงก่ำจากการสำลักน้ำ ประสานสายตาไม่หลบเพื่อแสดงความจริงใจ“ผมไม่เชื่อหรอกครับ พี่ผมละสายตาจากคุณไม่ได้ และคุณก็เช่นกัน”เธอยืดกายขึ้น คิ้วโก่งขมวดมุ่น ถ้าเป็นเช่นที่คริสบอกนั่นหมายความทุกคนก็มองเห็นมันเช่นกัน“อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็นสิคะ มันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้”“โอ้ งั้นก็ดีสิครับ ถ้าคุณไม่ได้ชอบพี่ชายของผม ผมก็จะได้สบายใจหน่อย ผมก็ขออนุญาตจีบคุณเลยแล้วกัน”“คริส!!”เธอจ้องดวงตาพราวระยับตรงหน้าและรอยยิ้มกว้างจึงได้รู้ว่าเขากำลังหยอกเธอเล่น เปรมาค่อยผ่อนลมหายใจ“คุณหยอกฉัน”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่แน่หรอกนะครับเลิฟ”มีเสียงพูดคุยดังขึ้นเมื่อแซมและบาบาร์ร่าเดินนำคู่หมั้นทั้งสองไปที่โต๊ะตัวยาวด้านหน้าน้องสาวของเธอสวยกว่าใครและใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มมีความสุข เธอภาคภูมิใจในตัวน้องสาวและอยากจะเห็นลิฟมีความสุขเช่นนี้ตลอดไป“ดูเจ้าแซมสิ ดูมีความสุข”เปรมาเอี้ยวหน้ามองคริส หน้าหวานคมยังยิ้ม