Share

บทที่ 3 คู่หมั้น

ตกลงเธอเป็นใครกันแน่?

ถึงก่อนหน้านี้ฉินเป่ยจะถูกรูปร่างหน้าตาอันงดงามของอวี่เจียวหรงทำเอาตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นนักรบจากการวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของเธอ

อวี่เจียวหรงไม่ได้สนใจสายตาของฉินเป่ย เธอนั่งลงที่ข้างเตียงก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้เขา

ฉินเป่ยรับแก้วน้ำไว้ก่อนจะดื่มเสียงดังอึก ๆ ตอนนี้เองที่อวี่เจียวหรงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “สวัสดีฉินเป่ย ฉันชื่ออวี่เจียวหรง เป็นคู่หมั้นของคุณ!”

“อะไรนะ? คู่หมั้นผม?”

ฉินเป่ยงุนงงจนไม่มีกะจิตกะใจสนใจรูปร่างสะโอดสะองของอวี่เจียวหรง

คู่หมั้นมาจากไหน?

ในระหว่างที่ฉินเป่ยกำลังทำตัวไม่ถูก จู่ ๆ อวี่เจียวหรงไม่รอช้าถาโถมตัวเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ก่อนจะพูดขึ้น “เดิมทีฉันอยากจะยกตัวเองให้คุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ว่าคุณดื่มจนเมาไม่รู้เรื่อง ตอนนี้คุณก็ตื่นแล้ว ด้านนอกแสงแดดก็งดงามมาก เราอย่าพลาดยามเช้าอันงดงามแบบนี้ไปเลยนะคะ!”

พูดจบ อวี่เจียวหรงก็ประกบปากเข้าจูบฉินเป่ยทันที

ฉินเป่ยตะลึงจนสมองขาวโพลน แต่ตัวเขาในฐานะเทพเจ้าสงครามแห่งซิวหลัว แน่นอนว่าเขาควบคุมตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจึงยื่นมือไปดันหัวไหล่ของอวี่เจียวหรง

“คุณหนูอวี่ นี่คุณทำอะไรน่ะ? ชายหญิงจะใกล้ชิดแบบนี้ไม่ได้นะครับ คุณอย่าผลีผลามสิ!”

“คุณไม่คิดว่าเราสองคนควรคุยกันดี ๆ หน่อยเหรอครับ?”

“คุณบอกว่าคุณเป็นคู่หมั้นผม แต่ผมจำไม่ได้เลยว่าเราเคยหมั้นกัน”

“ฉินเป่ยคนนี้ไม่ได้ใจง่ายนะ ทำแบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมกับเราทั้งคู่ คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”

เมื่ออวี่เจียวหรงฟังคำพูดของฉินเป่ยเธอก็โมโหขึ้นมาทันที

“คุณหมายความว่าอะไร? คุณจะบอกว่าฉันใจง่ายเหรอ?”

“ได้ วันนี้ฉันจะใจง่ายให้คุณดู!”

อวี่เจียวหรงคร่อมร่างของฉินเป่ยก่อนจะใช้มือสองข้างจับหน้าของเขาแล้วกดจูบเขา!

เธอรู้สึกโมโหจริง ๆ

เธอที่เป็นถึงเทพีแห่งสงครามระดับเจ็ดดาวยังถูกปฏิเสธ แค่นี้ก็มากพอแล้ว ฉินเป่ยยังมาบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายอีก!

คำพูดนี้ไม่ว่าจะพูดกับผู้หญิงคนไหนก็คงจะโกรธกันหมด!

ฉินเป่ยรู้สึกว่าริมฝีปากของตัวเองถูกแงะเปิดออก จากนั้นความรู้สึกราวกับมีกระแสไฟไหลเวียนไปทั่วร่างก็ปะทุขึ้น

มีอยู่แว่บหนึ่งที่เขาอยากจะพลิกกลับร่างของอวี่เจียวหรงไปด้านล่าง แต่เมื่อนึกถึงบาดแผลของอวี่เจียวหรง เขาก็สงบลงทันที จากนั้นเขาก็ใช้แรงดันเธอออกแล้วรีบพูดต่อ “คุณหนูอวี่ คุณอย่าโกรธสิ คุณเข้าใจคำพูดผมผิดแล้วนะ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น!”

“แล้วก็บาดแผลคุณหนักขนาดนี้ ยังจะทำเรื่องอย่างว่ากับผมอีก ไม่อยากรักษาชีวิตไว้แล้วเหรอครับ?”

ทันทีที่อวี่เจียวหรงได้ยินก็รู้สึกตกใจ

“คุณดูออกเหรอว่าฉันบาดเจ็บ?”

“ไม่เหลวไหลไปหน่อยเหรอครับ? สีหน้าคุณแย่ขนาดนั้น เป็นใครก็ดูออกทั้งนั้นล่ะ”

“ฉันไม่เชื่อ งั้นคุณลองบอกหน่อยสิว่าอาการบาดเจ็บของฉันเป็นอาการอะไร?”

จู่ ๆ อวี่เจียวหรงก็รู้สึกสงสัยใคร่รู้ในตัวฉินเป่ย แต่เธอไม่เชื่อคำพูดของฉินเป่ย เพราะอาการบาดเจ็บของเธอเป็นอาการบาดเจ็บภายใน อย่าว่าแต่คนธรรมดาเลย แม้แต่เหล่าแพทย์หัตถ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนตอนแรกก็ยังมองไม่ออก!

หรือว่าฉินเป่ยจะเป็นเซียน?

อวี่เจียวหรงเคยตรวจสอบฉินเป่ยแล้วก่อนที่เธอจะมา เธอรู้ว่าฉินเป่ยเคยติดคุก และก็รู้เรื่องที่เขาเพิ่งจะถูกนอกใจ ส่วนประวัติส่วนตัวของเขาก็สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นคนพ่ายแพ้ที่ไม่ประสบความอะไรสักอย่าง แล้วยังเป็นคนที่มีคดีติดตัว!

แต่ถึงยังไงฉินเป่ยก็เป็นถึงศิษย์ของผู้มีพระคุณ เพราะอย่างนั้นเริ่มแรกเดิมทีเธอยังรู้สึกมีความหวังอยู่บ้าง

ตอนนี้เอง ฉินเป่ยที่เอ่ยปาก “เป็นอาการบาดเจ็บภายใน อีกทั้งตรีลมปราณสัตตะชีพจรของคุณขาด แถมยังมีเลือดคั่งที่ปอด”

“ถ้าหากแพทย์ตั้งใจตรวจดูและถามอาการ ขอแค่เป็นแพทย์แผนจีนที่พอมีประสบการณ์อยู่บ้างก็คงจะดูออก พรสวรรค์ด้านการแพทย์ของผมยังถือว่าใช้ได้ เมื่อกี้ผมสังเกตร่างกายกับสีหน้าและการสัมผัสกับร่างกายของคุณ ผมก็สามารถวิเคราะห์อาการบาดเจ็บภายในของคุณได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ”

คำกล่าวของฉินเป่ยทำให้หัวใจของอวี่เจียวหรงเกิดคลื่นที่โหมซัดสาดและรู้สึกตกใจสุดขีด!

ถึงเธอจะไม่ใช่แพทย์และไม่เข้าใจทักษะการแพทย์ แต่ในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ ฉินเป่ยยังสามารถวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของเธอได้อย่างแม่นยำจากการมองด้วยสายตาและสัมผัสร่างกายของเธอเท่านั้น จะไม่ให้เธอประหลาดใจได้ยังไง

ศิษย์ของผู้มีพระคุณไม่ใช่พวกกระจอกจริง ๆ ด้วย!

อวี่เจียวหรงเกิดความหวังในตัวฉินเป่ยขึ้นมาทันที เธอยังอยากรู้ว่าเขามีความสามารถอะไรอีก!

“คุณหนูอวี่ เรามาสงบจิตสงบใจกันดีไหมครับ? ก่อนอื่นผมเป็นหมอ แล้วอาการบาดเจ็บของคุณผมก็รักษาได้ แค่ว่ามันออกจะยากอยู่สักหน่อย”

“ถ้าคุณเชื่อใจผม ผมสามารถรักษาโดยการฝังเข็มให้คุณได้ทันที และแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นขั้นตอนอันยาวนาน ซึ่งที่จริงผมคิดว่าเราควรจะคุยกันเรื่องปัญหาตอนแรกของผมก่อน!”

“คุณคิดว่ายังไงครับ?”

ฉินเป่ยพูดถึงขั้นนี้แล้ว อวี่เจียวหรงเองก็ไม่ได้พยายามยืนหยัดทำเรื่องนั้นกับเขาต่อ เธอลุกขึ้นออกห่างจากเขาแล้วนั่งลงด้านข้าง ก่อนจะพูดขึ้น “ได้ ตอนนี้คุณมีคำถามอะไรก็ถามมาได้เลยค่ะ!”

“ได้ งั้นผมถามคุณตรง ๆ เลยแล้วกัน คุณหนูอวี่ คุณบอกว่าเป็นคู่หมั้นของผม คุณมีทะเบียนสมรสหรือเปล่า?”

“ไม่มีหรอก แต่ว่าแหวนบนมือของฉันกับคุณเป็นคู่เดียวกัน นี่เป็นของของแทนใจค่ะ!”

“อีกอย่าง ถ้าฉันบอกชื่อของคนคนหนึ่งคุณก็จะรู้แล้ว!”

“หลิวตงไป๋!”

“หลิวตงไป๋? นี่คุณรู้จักอาจารย์ของผมด้วยเหรอ?”

เมื่อเห็นแหวนบนมืออวี่เจียวหรง แล้วยังได้ยินเธอพูดชื่อของอาจารย์ ฉินเป่ยก็เชื่อไปแล้วกว่าครึ่ง ตอนนี้เขาถึงเพิ่งนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ว่าห้าปีก่อนที่เขาได้พบกับอาจารย์ในเรือนจำ อาจารย์บอกว่าจะหาภรรยาให้เขาเจ็ดคน!

อีกทั้งตอนที่อาจารย์ออกจากเรือนจำซิวหลัว อาจารย์ก็เคยพูดกับเขาเรื่องที่ได้ทำการหมั้นหมายไว้ให้เขาเจ็ดครั้ง แล้วตอนนั้นยังมอบแหวนวงหนึ่งให้เขาด้วย ซึ่งก็คือแหวนที่เขาสวมอยู่บนนิ้วตอนนี้

แล้วยังบอกอีกว่า คู่หมั้นทั้งเจ็ดคนมีกันคนละวง ซึ่งเป็นคู่เดียวกับวงนี้ของเขาทั้งหมด!

แต่ในใจของเขามีแค่หยางลี่มาโดยตลอด ก็เลยไม่ได้คิดจริงจัง!

แต่ตอนนี้เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง!

อวี่เจียวหรงเล่าเรื่องที่หลิวตงไป๋ช่วยเธอกับพ่อเอาไว้เมื่อสี่ปีก่อน แล้วก็ยังเล่าเรื่องที่พ่อของเธอจับคู่เธอให้ฉินเป่ย ในที่สุดฉินเป่ยก็เชื่อเรื่องนี้จนสนิทใจ

“อย่างนี้เองเหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้!”

“คุณหนูอวี่ คุณติดต่ออาจารย์ของผมได้ไหมครับ? คุณอย่าเข้าใจผิดนะ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งเลย ถ้าเป็นผู้ชายปกติละก็คงไม่มีทางปฏิเสธคุณแน่นอน ถ้าผมแต่งงานกับคุณ ผมจะต้องดีกับคุณไปตลอดชีวิตแน่นอน!”

“แต่ว่ามันออกจะกะทันหันไปสักหน่อย อีกทั้งร่างกายคุณก็บาดเจ็บหนัก ถ้าให้อาจารย์ของผมรักษาละก็ ขั้นตอนนี้จะต้องเร็วกว่าผมทำแน่!”

คำพูดของฉินเป่ยจริงเพียงครึ่งเดียว เขาติดต่ออาจารย์ไม่ได้มานานมากแล้ว และเขาก็อยากจะเจออาจารย์ ถ้าหากอวี่เจียวหรงติดต่อเขาได้ก็คงจะดี

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ คุณเป็นศิษย์ของผู้มีพระคุณ ฉันเชื่อฝีมือการรักษาของคุณค่ะ! ฉันเคยติดค้างบุญคุณใหญ่ดั่งฟ้าต่อผู้มีพระคุณแล้ว จะยังไปลำบากเขาอีกได้ยังไงคะ!”

“อีกอย่าง ผู้มีพระคุณก็จากดินแดนมังกรไปนานแล้ว ฉันติดต่อเขาไม่ได้ คุณคิดว่าฉันติดต่อเขาได้เหรอคะ?”

“คุณไม่ต้องรีบร้อน อาการบาดเจ็บของฉันค่อย ๆ รักษาไป ต่อให้ใช้ทั้งชีวิตฉันก็จะยอมเชื่อคุณค่ะ!”

“เรื่องนั้น……”

ฉินเป่ยรู้สึกลังเลเล็กน้อย ที่จริงอวี่เจียวหรงเพียบพร้อมและสวยเกินไป ความสุขนี่มาเร็วเกินไปจนเขารู้สึกเหมือนกำลังฝัน

เขากลัวเขาฝันอยู่ดี ๆ จะตื่นน่ะสิ!

“อวี่เจียวหรงคนนี้ไม่ชอบผู้ชายใจเสาะ ถ้าสามารถรักษาได้ จะนานแค่ไหนฉันก็จะเชื่อคุณ ถ้าไม่ได้ ฉันก็จะไม่โทษคุณแล้วก็จะไม่จากคุณไปไหนด้วยค่ะ!”

แน่นอนว่าอวี่เจียวหรงหวังว่าฉินเป่ยจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเธอได้ แต่เธอหวังว่าขั้นตอนนี้จะยาวนานไปชั่วชีวิต ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ เธอก็จะสามารถอยู่ข้างกายเขาได้ตลอดไป ไม่ต้องถูกปัญหาที่บ้านพวกนั้นรบกวนอีก

“ก็ได้ครับ คุณหนูอวี่นอนลงก่อน ผมต้องใช้เข็มล้างเลือดที่คั่งอยู่ในส่วนปอดของคุณก่อน และคุณต้องถอดเสื้อออกให้หมด!”

ฉินเป่ยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ถ้ายังลังเลอีกเขาคงอยากชกตัวเอง

ผ่าม!

อวี่เจียวหรงถอดชุดนอนลง ร่างกายที่งดงามดุจหยกบัดนี้ถูกเปิดเผยอย่างแจ่มชัดอยู่เบื้องหน้าฉินเป่ย ทำเอาเขารู้สึกมึนหัวขึ้นมาในพริบตา!

ผิดจริยาอย่ามอง!

ผิดจริยาอย่ามอง!

ถึงยังไงซะเมื่อกี้กอดก็กอดแล้ว จับก็จับไปแล้ว!

ฉินเป่ยพูดขึ้นในใจ ก่อนที่เขาจะละทิ้งความคิดอันยุ่งเหยิงในหัวสมอง จากนั้นก็ฝังเข็มเงินในมือเข้าที่หน้าอกของอวี่เจียวหรง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status