'เธอตั้งตารออยู่ที่ประตูทางเข้าของโรงเรียนเพราะเธอกลัวว่าฉันจะไม่เอาโอสถบูรณาการมาให้? มิสแคทเธอรีนช่างน่าขบขัน ฮ่าฮ่า'แคทเธอรีนรีบหยิบยาและยัดใส่ลงไปในปากของเธอแดร์ริลอดกลั้นความสงสัยไว้ไม่ได้และถาม "การประชุมพิฆาตราชสีห์เป็นการประชุมที่ใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ? ทุกคนพูดถึงมันในระหว่างที่ผมกำลังมาที่นี่"แคทเธอรีนยิ้มและกล่าวตอบปกติ "แน่นอน ไซออน เฟเธอร์สโตน นั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของนิกายตำหนักอมตะ มีชีวิตนับไม่ถ้วนต้องตายไปเพราะฝีมือของเขา! การจับกุมเขาถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับยุทธภพ นอกจากหกสำนักหลักแล้วยังมีสำนักอื่นอีกเป็นสิบ ๆ มาเข้าร่วมด้วยเช่นกัน"แดร์ริลพยักหน้าตอบรับ เขาไม่คาดคิดว่าคุณปู่ของเอเวลินจะเป็นผู้มีอิทธิพลในยุทธภพนี้แคทเธอรีนกัดริมฝีปากและระมัดระวังกล่าวถาม "แดร์ริล นาย... นายมีโอสถบูรณาการเพียงแค่เม็ดเดียวอยู่กับนายเหรอ?"แดร์ริลตอบอย่างเรียบเฉยขณะที่เขาวอกแวกกับการประชุมพิฆาตราชสีห์ "ใช่"จากนั้นเขาก็ก้าวยาวเดินไปในสนามแคทเธอรีนนั้นขุ่นเคืองและกระทื้บเท้าในความวิตกก่อนจะเดินตามหลังเขาไปการประชุมพิฆาตราชสีห์ได้เริ่มขึ้นแดร์ริลพบกับเพื่อน ๆ ร่วมห้องเร
ความมุ่งมั่นแน่วแน่สามารถเห็นได้ในสายตาของเอเวอลิน นี่คือโอกาสสุดท้ายที่เธอจะได้ช่วยคุณปู่ของเธอและเธอต้องทำสำเร็จให้ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาคือคนในครอบครัวของเธอคนเดียวที่เหลืออยู่! ที่นั่งของผู้ชมเกือบจะเต็มแล้ว ถูกจับจองด้วยเหล่าจอมยุทธระดับเลิศจากประชาคม มีหลายคนที่คุ้นเคยหน้าตาโอฟีเลีย ประธานแห่ง สมาคมโอสถแห่งเจียงหนาน ก็อยู่ที่นี่พร้อมกับปรมาจารย์นักปรุงยาเป็นร้อย ๆ คนที่นั่งเรียงรายกันอยู่ข้างหลังเธอแม่ชีแห่งโชคชะตา สมาชิกอาวุโสของสำนักง้อไบ๊ก็อยู่ที่นี่ พร้อมกับสาวกเป็นร้อย ๆ คนอยู่ข้างหลังเธอ รวมถึง เมแกน คาสเตลโล'แ-่งเอ้ย' แม้เห็นหน้าของแม่ชีแห่งโชคชะตาก็สร้างความรำคาญให้กับแดร์ริลได้ผู้ลากมากดีหลายคนก็นั่งอยู่บนอัฒจันทร์"มิสแคทเธอรีน มีกลุ่มไหนบ้างนอกจากหกสำนักหลักที่มาในวันนี้?" แดร์ริลถามอย่างสงสัยแคทเธอรีนยิ้มอ่อนและแนะนำแต่ละกลุ่มให้เขาฟังมันมีหลายองค์กรและสำนักมากมายของเหล่าผู้บ่มเพาะในยุทธภพนี้ นอกเหนือไปจากหกสำนักหลักและสองลัทธิอย่างไรก็ตาม สำนักเหล่านี้ก็ไม่ได้โด่งดังหรือแข็งแกร่งเท่ากับหกสำนักหลัก บางสำนักมีประวัติศาสตร์มายาวนานอย่างเช่น นิกายวน
นักเรียนหลายคนประทับใจและได้รับแรงบันดาลใจจากคำกล่าวของผู้อำนวยการใหญ่เอเวลินนั่งตัวสั่นเทาอยู่ตรงนั่น ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อด้วยความโกรธเกรี้ยวอยู่ภายในดวงตาของเธอ'แกกล้าดียังไงถึงมาบอกว่าเป็นพวกที่ยุติธรรม ในเมื่อพวกแกเป็นสิบ ๆ คนทำการซุ่มโจมตีคุณปู่ของฉัน ตอนที่เขาอยู่ตัวคนเดียวและใช้วิธีสกปรกด้วยการวางยาพิษเขา? แกมันน่ารังเกียจ!'เสียงปรบมือดังต่อเนื่องอยู่สักพัก เกรแฮมรอให้เสียงสงบลงก่อนที่เขาจะกล่าวต่อ "การประหาร ไซออน เฟเธอร์สโตน ต่อที่สาธารณะไม่ได้เป็นเพียงการบ่งบอกถึงความชอบธรรมของหกสำนักหลัก มันยังมีอีกเหตุผล"ฝูงชนต่างเงียบสงบและจับจ้องสายตาไปที่เกรแฮม รอเพื่อที่เขาจะกล่าวต่อเกรแฮม ทำสีหน้ายิ้มเยาะเย้ยและกล่าวต่อ "มีข่าวลือมาตลอดว่ามีคัมภีร์มหาปริศนาอยู่เจ็ดเล่มในโลกใบนี้ และไซออน เฟเธอร์สโตน นั้นครอบครองไว้หนึ่งเล่มจากทั้งหมด"'คัมภีร์มหาปริศนา?' ฝูงชนต่างเริ่มกระวนกระวายใจทันทีที่พวกเขาได้ยินคำกล่าวเหล่านั้นทุกคนรู้ว่าใครก็ตามสามารถจะครองโลกได้หลังจากสะสมครบทั้งเจ็ดเล่มและเข้าใจความลับที่ข้างในพวกมันอย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครเคยทำสำเร็จเลยในรอบพันปี มันแทบจะเป็น
เกรแฮมยิ้มออกมาเบา ๆ และสั่ง "นำตัวไซออน เฟเธอร์สโตนมาที่นี่"เสียงกระทบของโซ่ตรวนได้ยินมาจากเวทีผู้คนต่างเงียบสงบและทุกคนต่างมองไปที่จุดยืนพิพากษาพวกเขาอยากรู้ว่าหนึ่งในจตุพิทักษ์ราชันย์จากนิกายตำหนักอมตะจะลงเอยเช่นไร!"เดินเร็วกว่านี้!" สาวกของสำนักบู๊ตึ้งสองคนกำกับ ไซออน เฟเธอร์สโตน และเดินมาที่จุดยืนพิพากษาไซออน สูญเสียความสง่างามในฐานะราชสีห์ทองคำไปโดยสิ้นเชิง แขนขาของเขาถูกล็อคด้วยโซ่เหล็กหนักและผมของเขาเสียทรงยุ่งเหยิง ร่างกายของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดและหน้าของเขาซีดขาวเป็นกระดาษ เขาดูไม่มีอะไรเหมือนกับจอมยุทธชั้นเลิศที่แข็งแกร่งด้วยลมหายใจที่บางเบาของเขาอย่างไรก็ตาม ความเกรี้ยวกราดก็ยังคงปรากฏอยู่ในดวงตาของเขาหลายคนผิดหวังกับสภาพของเขา ผู้คนต่างส่งเสียงโห่ร้องไล่ บางคนถึงกับเป่าปากในลักษณะเหยียดหยาม 'นี่หรือ ราชสีห์ทองคำ''ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลยในตัวเขา'ไซออนไม่สนใจสายตาจากฝูงชนและจับจ้องสายตาตัวเองไปที่ เกรแฮมและจอมยุทธชั้นสูงจากทั้งหกสำนักหลัก เขาเย้ยหยัน "กล้าดียังไงที่คนน่ารังเกียจอย่างพวกแกเรียกตัวเองว่าสำนักที่ชอบธรรมอย่างไร้ยางอาย? พวกแกวางกับดัก
ซอว์เยอร์นั้นมั่นใจมากพอที่ปล่อยให้แอรอนโจมตีก่อนฝูงชนต่างประหลาดใจสีหน้าแอรอนนั้นเดือดดาลเป็นสีแดงเขารู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม เขาเย้ยหยัน "อย่ามาโทษฉันทีหลัง แกขอร้องความตายนี้เอง"เขาตะโกนข่มขวัญและดีดตัวขึ้นไปในอากาศราวกับกระสุนก่อนจะพุ่งเข้าใส่ซอว์เยอร์กับกำปั้นของเขา! เขารวบรวมพลังทั้งหมดไปที่หมัดของเขา! การตัดต้นไม้ที่โตเต็มที่เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา!ตุ้บหมัดของเขาปะทะเข้าไปเต็ม ๆ อย่างรุนแรงที่ตัวของซอว์เยอร์ แต่เขาก็ยังยืนหยัดไม่สั่นไหว ราวกับก้อนหินศิลา!อะไร?แอรอนแสดงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากในวินาทีต่อมาเนื่องจากความเจ็บปวดจากแขนของเขา เขาก้มลงมองและเห็นกระดูกที่ข้อมือของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ !"อ๊าก" เขากรีดร้องในความเจ็บปวด เขามองไปที่ซอว์เยอร์อย่างไม่เชื่อสายตาและมีสีหน้าที่หวาดผวา!"วิถีพิชิตมังกร?"มันคือวิชาขั้นสุดยอดของนิกายวนิพก ซึ่งมันจะเพิ่มพลังการป้องกันอย่างมหาศาล! ผู้ซึ่งจะสำเร็จวิชานี้ได้จะต้องมีพรสวรรค์อย่างสูงในการบ่มเพาะ! ไม่มีใครคาดคิดว่าคนมอมแมมอย่างซอว์เยอร์จะรู้จักทักษะนี้ซอเยอร์ยิ้มอย่างมีเลศนัย "นายได้ใช้โอกาสของนายไปแล้ว ทีนี้ถึงตาของฉันบ
แดร์ริลต้องไม่ขึ้นไปบนเวทีต่อสู้เด็ดขาด หากเขาตายในการประลอง ใครจะสามารถหาโอสถบูรณาการมาให้แคทเธอรีนได้?เมื่อเธอนึกถึงโอสถบูรณาการ แคทเธอรีนกัดริมฝีปากและยื่นขวดน้ำให้กับแดร์ริล "ดื่มน้ำไหม แดร์ริล?""ไม่จำเป็น ผมต้องการคนนวดเท้า" แดร์ริลตอบอย่างเป็นกันเองอะไร?แคทเธอรีนเดือดดาล ลูกศิษย์ของเธออยู่ที่นี่ทั้งหมด เธอจะไปนวดเท้าเขาได้อย่างไร?"เดี๋ยวก่อน ไว้ค่อยทำที่ออฟฟิศ ได้ไหม?""ไม่เป็นไร ไว้ก่อนก็ได้" แดร์ริลพยักหน้าในระหว่างที่เขาจดจ่ออยู่บนเวทีการต่อสู้ในเวลาเดียวกัน คนจากตระกูลไทชิขึ้นไปบนเวทีและกล่าวกับซอว์เยอร์ "ฟาเบียน ทราวิส จากตระกูลไทชิ ฉันมาที่นี่เพื่อขอท้าประลอง"ซอว์เยอร์ยิ้ม "ปรมาจารย์อาวุโสขั้นที่ห้า? ได้โปรดเถอะ"ฟาเบียนไม่เสียเวลา เขาหันตัวและต่อยซอว์เยอร์อย่างไรก็ตาม หมัดนั้นทั้งอ่อน และปวกเปียกซอว์เยอร์หัวเราะ "แกยังไม่ได้กินข้าวมารึยังไง?""โอ้ ไม่! ฟาเบียนเป็นไอ้ขี้แพ้ หมัดนั้นช่างปวกเปียก""ถูกต้อง..."ทุกคนรอบ ๆ เวทีต่างหยักหน้าปัง!พวกเขาแลกหมัดปะทะใส่กัน และสีหน้าหยิ่งผยองของซอว์เยอร์ก็เปลี่ยนไปในทันทีเขาสัมผัสได้ว่าฟาเบียนดูดกำลังภายในข
หน้าของฟาเบียนมีรอยแดง เขาโกรธเคืองมากที่มีบางคนมาตบเขาต่อหน้าทุกคน จากนั้นเขาก็ต่อยเอเวอลินด้วยวิถีดูดพลังปราณเอเวลินไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย เธอยังยืนมั่นคงขณะที่ฟาเบียนต่อยเข้าที่ไหล่ของเธอว้าว!ในเวลาเดียวกันฟาเบียนปล่อยลมหายใจที่เย็นยะเยือกออกมา! เขาได้ใช้วิถีดูดพลังปราณเพื่อซึมซาบกำลังภายในของเอเวอลินมา อย่างไรก็ตามนั้นมันก็มากพอที่จะทำให้เขาแตกสลาย!"ช่างเป็นพลังภายในที่แข็งแกร่งและเยือกเย็น"ฟาเบียนรู้สึกหนาวเหน็บ ฟันของเขาสั่นกระทบกันอย่างควบคุมไม่ได้ เขาจึงไม่สามารถจะกล่าวอะไรต่ออีก หรือนั่นมันคือ วิถีหญิงพรหมจรรย์? ฟาเบียนรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากนั่นถูกต้อง! เอเวอลินได้บ่มเพาะพลัง วิถีหญิงพรหมจรรย์จากคัมภีร์สาวไร้มลทินมันเกิดอะไรขึ้น? ฟาเบียนไม่สามารถขยับตัวได้?ฝูงชนรอบ ๆ เวทีต่างไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นมันมีชั้นน้ำแข็งปกคลุมไปทั่วตัวฟาเบียน และเขานั้นถูกแช่แข็งแดร์ริลนั้นประทับใจมากกับเอเวอลิน เธอสามารถที่จะใช้พลังภายในที่เยือกเย็นของเธอจัดการวิถีดูดพลังปราณของฟาเบียนได้เกรแฮมก็ถึงกับพยักหน้า มันช่างเป็นสิ่งที่หาชมได้ยาก ที่จะเห็นหญิงสาวกับพลังภายในที่เย็
เซอร์ซีรั้นก็เคยได้ยินชื่อเสียงของไวแอทเช่นกัน ในความเป็นจริงใครบ้างที่จะไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของชายหนุ่มคนนี้?เซอร์ซีเหงื่อไหลเย็นยะเยือก เธอนั้นเป็นกังวลกับเอเวอลินซึ่งเธอไม่แน่ใจว่าเอเวลินจะสามารถต่อกรกับเขาได้ไวแอทมองเอเวอลินอยู่บนเวทีและเขายิ้ม "เธอช่างเป็นหญิงสาวที่สวยงามเหลือเกิน ฉันไม่อยากจะทำร้ายเธอ ไม่ต้องห่วง ฉันจะอ่อนโยนกับเธอในฐานะที่เป็นสาวน้อย""งั้นมาเริ่มกันเลย" เอเวอลินกล่าวเย็นชาไวแอทอาจจะดูฉลาดและแข็งแกร่ง แต่เขานั้นก็ขี้หลี แต่อย่างไรแดร์ริลก็ไม่ได้ดีมากไปกว่าเขาไวแอทยิ้มและโค้งคำนับ "สุภาพสตรีก่อน""นายร้องขอเอง!" เอเวอลินกล่าวเย็นชา และทันใดเธอก็เหวี่ยงหมัดมุ่งไปหาเขา"โอ้ สาวน้อยเธอช้าไป""ไม่สิ เธอต่างหากที่ปวกเปียก"ไวแอทนั้นแข็งแกร่งเกินไปและมีทักษะสูง เขายังเย้าแหย่เอเวอลินได้แม้จะต่อสู้กันอยู่เอเวอลินโกรธเคืองและละอายใจ เธอพยายามหนักขึ้นและหนักขึ้นแต่ก็ไร้ผล ทุกครั้งที่เธอโจมตีไวแอท นั้นสามารถปัดป้องได้ตลอดผู้ชมทุกคนต่างประทับใจกับทักษะของพวกเขาพวกเขาต่อสู้กันถึงสิบ ๆ รอบ แต่เอเวอลินก็ยังไม่สามารถจัดการโจมตีไวแอทได้! เธอนั้นเดือดดาลและอับ