“ธูปหอมนี้จะเอาไปที่ห้องของประธานฮั่วกับคุณหนูฉือเจียวใช่ไหม?”“ใช่ เรื่องที่คุณนายใหญ่กับคุณนายรองสั่งเอาไว้ ธูปหอมนี่คือธูปปลุกอารมณ์เชียวนะ”“ดูท่าคืนนี้คุณหนูฉือเจียวกับประธานฮั่วคงจะได้สมหวังกันสักที”“อีกไม่นานคุณหนูฉือเจียวของพวกเราก็จะได้เป็นคุณนายฮั่วแล้ว”“ไม่ใช่แค่นั้นนะ คืนนี้เทพ C ก็จะค้างอยู่ด้วยเหมือนกัน จะได้สมหวังกับคุณหนูฉือถังอีกคน คืนนี้คุณนายใหญ่ฉือถึงกับยิ้มไม่หุบเลย ลูกเขยสองคนนี้น่ะคือสมบัติล้ำค่าของเธอเลยล่ะ”“รอดูเถอะ วันดีๆ ของตระกูลฉือกำลังจะมาถึงแน่นอน!”สองสาวใช้เดินห่างออกไปฉือหว่านได้ยินบทสนทนาของพวกเธอเข้า คุณนายใหญ่ฉือกับหลี่หลันกำลังจะใช้ ธูปปลุกอารมณ์กับฮั่วซือหาน?ครั้งก่อน ฮั่วซือหานเคยโดนธูปปรารถนาที่บ้านตระกูลฉือมาแล้ว แต่ยานั่นยังไม่แรงมาก เขายังสามารถควบคุมตัวเองไว้ได้แต่ครั้งนี้ ธูปปลุกอารมณ์ เป็นยาที่แรงมาก แทบจะหาซื้อไม่ได้ทั่วไปเลยด้วยซ้ำดูเหมือนคุณนายใหญ่ฉือกับหลี่หลันจะอดใจรอไม่ไหวแล้วจะบอกฮั่วซือหานดีไหม?ช่างเถอะฉือหว่านหลุบตาลงอย่างเหนื่อยใจ เธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอคนที่ฮั่วซือหานรักมาตลอดก็คือฉือเจียวอยู่แ
ฮั่วซือหานหยุดชะงัก เขาหันกลับไปมองฉือเจียวฉือเจียวก็สูดดมกลิ่น ธูปปลุกอารมณ์ เข้าไปเหมือนกัน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ใบหน้าสวยใสของเธอแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างมีเสน่ห์ เธอเม้มริมฝีปากแดงอย่างเย้ายวน แล้วมองฮั่วซือหานด้วยสายตาหวานเยิ้มหลี่หลันพูดต่อ “ประธานฮั่ว เวลานี้เจียวเจียวต้องการคุณนะคะ คุณจะทิ้งเธอไปได้ยังไง?”ฮั่วซือหานมองฉือเจียวโดยไม่ตอบอะไรทันใดนั้น ฉือเจียวก็เปิดผ้าห่มแล้วลุกจากเตียง เธอโผเข้ามาในอ้อมกอดของเขาฉือไห่ผิงกับหลี่หลันหันมาสบตากันอย่างพอใจ ก่อนจะปิดประตูห้องลงอย่างเงียบๆสายเดี่ยวของฉือเจียวหลุดจากไหล่ข้างขวา ผิวเนียนขาวกับท่าทางนุ่มนวลชวนหลงใหล เธอมองฮั่วซือหานด้วยแววตาอ่อนหวาน “ซือหาน ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่คุณรักที่สุดยังไงก็ต้องเป็นฉัน”พูดจบ ฉือเจียวก็ใช้สองมือโอบรอบคอของเขา แล้วเขย่งปลายเท้าจะจูบริมฝีปากของเขาแต่ยังไม่ทันได้จูบ ฮั่วซือหานกลับเบี่ยงตัวหลบฉือเจียวชะงัก แล้วพยายามอีกครั้ง แต่ฮั่วซือหานก็ยังหลบอีกจากนั้น เขายกมือขึ้นผลักเธอออกห่าง “ฉือเจียว ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย อย่าใช้วิธีต่ำช้าแบบนี้กับฉันอีก ไม่อย่างนั้น
ฉือหว่านกำลังจะตอบแชทของเซียวอี้ แต่จู่ๆ โทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้นมาอย่างแรงเธอมองไปที่ชื่อสายเรียกเข้า ใจพลันสั่นไหวคนที่โทรมาคือ... ฮั่วซือหานฮั่วซือหานโทรหาเธอ?เขาโทรมาทำไม?เขาไม่ได้อยู่กับฉือเจียวเหรอ?ฉือหว่านไม่รู้ว่าเขาโทรมาทำไม หรือมีจุดประสงค์อะไร เธอจึงไม่รับสายเสียงสั่นของโทรศัพท์ดังอยู่นานหลายครั้ง เขาโทรมาหลายสายติดกัน แต่สุดท้าย...ทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบฉือหว่านนอนลงบนเตียง ขณะนี้ก็ล่วงเข้าดึกมากแล้ว เธอปิดเปลือกตาลงแต่กลับไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ระหว่างที่เธอกำลังพลิกตัวไปมาอยู่นั้น ก็อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นมีคนเคาะประตูใครกัน?เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง จังหวะนิ้วเคาะนั้นทั้งหนักแน่นและเฉียบคม บ่งบอกถึงความแข็งแรงและเร่งเร้าฉือหว่านลุกจากเตียงแล้วไปเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออก เธอก็เห็นร่างสูงใหญ่สง่างามของ ฮั่วซือหาน ยืนอยู่ตรงหน้าโถงทางเดินในโรงพยาบาลตอนดึกสงบมาก ร่างสูงของเขายืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัวในความมืดสลับแสง เสื้อนอกเปียกชื้นไปด้วยไอน้ำจากอากาศเย็นภายนอกเขายืนอยู่ทวนแสง ดวงตาสีดำลึกและเย็นชาของเขาจ้องมองเธอเขม็งชายคนนี้…
ฉือหว่านปฏิเสธทันที “ไม่ได้!”พูดจบ เธอก็พยายามผลักเขาออกไปสุดแรงบังเอิญว่าตอนนั้น เธอไปโดนเข้ากับมือซ้ายของเขา “ซี๊ด…” ฮั่วซือหานร้องอู้อี้ด้วยความเจ็บฉือหว่านชะงักทันที “คุณเป็นอะไร?”ฮั่วซือหานมองเธอ “ฉือหว่าน…ฉันเจ็บมือ”เขายื่นมือซ้ายของเขามาตรงหน้าเธอฉือหว่านรู้ว่าเขาเคยได้รับบาดเจ็บที่มือซ้ายอย่างรุนแรง แต่เธอไม่รู้ว่าเขาเย็บถึงยี่สิบสามเข็ม แม้ตอนนี้จะถอดไหมแล้ว แต่ฝ่ามือของเขาก็ยังมีรอยแผลเป็นลึกคล้ายตัวหนอนในมุมอับของทางเดิน มีเพียงพวกเขาสองคน แสงไฟเหลืองนวลจากด้านบนอาบไล้เบาๆ ใกล้กันขนาดนี้…แม้แต่เสียงหัวใจก็ยังได้ยินชัด ฮั่วซือหานมองเธอซ้ำอีกครั้ง “ฉือหว่าน เธอเห็นไหม…ฉันเจ็บมือ”ฉือหว่านไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงเอาแต่บอกว่าเจ็บมือ ชายอย่างเขา—คนที่ไม่เคยร้องไห้แม้แต่ตอนเลือดออก กลับเอาแต่พูดว่ามือเจ็บ?เธอเงยใบหน้าเรียบเฉยของตัวเองขึ้นมามองเขา “น่าเกลียด”เธอรังเกียจรอยแผลเป็นบนฝ่ามือเขา และพูดออกมาตรงๆ ว่าน่าเกลียดฮั่วซือหานถึงกับหลุดหัวเราะ เขาก้มลงอย่างรวดเร็ว ประทับริมฝีปากแน่นลงบนริมฝีปากแดงของเธออย่างแรงฉือหว่านพยายามขัดขืน แต่ดิ้นไม่หลุด นิ้วยาวของ
แต่ถึงอย่างนั้น ฉือหว่านก็ยังคงนอนไม่หลับอยู่ดี ไม่นานนัก “ก็อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งใครอีกล่ะ?ฉือหว่านเดินไปเปิดประตูห้องผู้ป่วย และพบว่าเป็นเลขาจ้าวที่รีบร้อนมาหาเธอ “คุณนาย”ฉือหว่านเดินออกไป “เลขาจ้าว คุณมาทำไม?”สีหน้าของเลขาจ้าวเต็มไปด้วยความเร่งรีบ “คุณนายครับ ท่านประธานถูกวางยา ตอนอยู่ที่บ้านตระกูลฉือ คุณช่วยไปดูท่านประธานที่สวนหลวงหน่อยเถอะครับ”“เขาสั่งให้คุณหาเด็กใหม่ที่สะอาดไปให้แล้วไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ไปหรอก” ฉือหว่านพูดพลางจะกลับเข้าไปในห้อง“คุณนายครับ!” เลขาจ้าวเรียกเธอไว้ทันที “ที่ท่านประธานพูดไป...เป็นเพราะโกรธ พูดไปเพราะประชดคุณ คุณฟังไม่ออกจริงๆ เหรอครับ?”มือที่จับลูกบิดของฉือหว่านชะงักเล็กน้อย“คุณนายครับ วันนั้นที่วิลล่าพักร้อน คุณชายลู่บาดเจ็บเพราะปกป้องคุณก็จริง แต่คุณจะเห็นแค่เขาคนเดียวไม่ได้ คุณควรเห็นด้วยว่า มือของท่านประธาน...บาดเจ็บเพราะคุณ!”ฉือหว่านค่อยๆ หันหลังกลับ เธอมองเลขาจ้าว “แล้วมือของเขา...เกี่ยวอะไรกับฉัน?”เลขาจ้าวหยิบมือถือขึ้นมา แล้วเปิดคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดให้ดู “คุณนายครับ คุณดูเองเถอะ”ฉือหว่านเปิดวิดีโอ ในภาพเธ
ฮั่วซือหานเงยหน้าขึ้น เขาเห็นเงาร่างหนึ่งเบาบางราวกับไร้ฝุ่น ฉือหว่านมาแล้ว!ฮั่วซือหานเม้มริมฝีปากบาง “เธอมาทำไม? ใครให้เธอมา?”ฉือหว่านเดินเข้ามาในห้องรับแขก มาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา“เลขาจ้าว!” ฮั่วซือหานเรียกหา “เลขาจ้าว คนที่ฉันให้คุณเตรียมไว้ล่ะ ทำไมยังไม่มาอีก?”ไม่มีเสียงตอบรับไม่มีใครตอบเขาฉือหว่านก็ไม่พูดอะไรฮั่วซือหานยกมือขึ้นดึงกระดุมเสื้อเชิ้ต แล้วพูดกับฉือหว่านว่า “ออกไป”ฉือหว่านก้มตามองเขาด้วยขนตายาวสวย “งั้นฉันไปจริงๆ นะ”เธอหมุนตัวจะเดินออกไปแต่ในวินาทีถัดมา มือใหญ่แข็งแรงข้างหนึ่งเอื้อมเข้ามา คว้าแขนเรียวของเธอไว้แน่น เสียงทุ้มต่ำกดดันดังขึ้นผ่านการขบฟัน “ฉือ...หว่าน!”เขาเรียกชื่อเธอด้วยความโมโหฉือหว่านหันกลับมา กะพริบตาอย่างซุกซนเจ้าเล่ห์มองเขา “เรียกฉันทำไม?”ฮั่วซือหานเอื้อมมือดึงแรง ร่างบอบบางของเธอล้มลงไปนั่งบนตักแกร่งของเขาโดยตรงตัวเขาร้อนจัด ราวกับลาวาหลอมละลาย ยาปลุกกำหนัดออกฤทธิ์มานานแล้ว เขาฝืนทนไว้ได้ด้วยแรงใจเพียงอย่างเดียวตั้งแต่กลับมาจากสวนหลวง ดวงตาเขาก็แดงก่ำ สติเริ่มเลือนลางตอนนี้พอได้กอดร่างนุ่มนิ่มไว้ ฮั่วซือหานก็ซบใบหน้าลงบนเส
ฉือหว่านชะงัก แล้วรีบดิ้นทันที “ฮั่วซือหาน อย่านะ!”ฮั่วซือหานดึงเธอมากอดไว้ กดเธอลงบนโซฟา แล้วก้มหน้าลงจูบริมฝีปากแดงของเธอเธอดิ้นสุดแรง ฮั่วซือหานทนไม่ไหว เผลอทำแจกันตกแตก หนังสือพิมพ์กับนิตยสารกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น...ไม่นานฉือหว่านก็ไม่ขยับอีก หน้าผากเธอกระแทกกับพนักโซฟา น้ำตาไหลซึมจากหางตาชายหนุ่มที่อยู่บนร่างเธอถึงกับชะงัก ดวงตาสีดำมืดเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ มองเธออย่างตกตะลึง “เธอยัง...ซิงเหรอ?”เขาเคยคิดว่าเธอไม่ใช่ครั้งแรกแล้วเขาไม่กล้านึกเลยว่าเธอจะเป็นครั้งแรกฉือหว่านลุกขึ้นกัดไหล่เขาอย่างแรงเธอกัดแน่น ราวกับจะกัดเอาเนื้อชิ้นหนึ่งจากไหล่เขาไปจริงๆกรามคมของฮั่วซือหานขบแน่นจนตึงไปหมด กล้ามเนื้อทั้งตัวเกร็ง เผลอครางออกมาเบาๆ อย่างเจ็บปวดเธอแทบจะกัดเขาตายอยู่แล้วฮั่วซือหานบีบแก้มเธอให้คลายปากออกเขาใช้มือซ้าย ฉือหว่านเห็นรอยแผลยาวกลางฝ่ามือเขา แผลที่ได้จากตอนช่วยชีวิตเธอแต่แค่นั้น มันไม่พอจะลบล้างเรื่องเลวร้ายที่เขาทำไว้กับเธอน้ำตาเอ่อคลอในดวงตาฉือหว่าน เธอจ้องเขาทั้งน้ำตาหัวใจของฮั่วซือหานเหมือนโดนบางอย่างกระแทกเข้าเต็มแรง เหมือนมีบางส่วนในใจเขาร่
ฮั่วซือหานยังไม่ตื่น และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะให้คำตอบอะไรเธอในตอนนี้จู่ๆ โทรศัพท์ของฉือหว่านก็สว่างขึ้น มีสายเรียกเข้าเป็นโหลวซินเยว่โทรมาฉือหว่านกดรับสาย เสียงตื่นตระหนกของโหลวซินเยว่ดังมาทันที “หวานหว่าน เธออยู่ไหน รีบกลับหอเถอะ ฮวนเอ๋อร์เกิดเรื่องแล้ว!”อะไรนะ?เยี่ยฮวนเอ่อร์เกิดเรื่อง?ฉือหว่านวางสาย แล้วค่อยๆ ขยับออกจากอ้อมกอดของฮั่วซือหานอย่างเบามือ เธอเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพรมขึ้นมาใส่ แล้วรีบออกไปจากที่นั่นหลังจากฉือหว่านออกไปได้ไม่นาน “แกร๊ก” เสียงประตูสวนหลวงเปิดออก มีใครบางคนเดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบคนนั้นก็คือโหลวซินเยว่!โหลวซินเยว่มาแล้ว!เธอเห็นฮั่วซือหานที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา รวมถึงเสื้อผ้าที่หล่นอยู่บนพรม ใครมองก็รู้ว่าเมื่อคืนนี้ที่นี่เพิ่งเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนฮั่วซือหานอยู่กับฉือหว่านโหลวซินเยว่ยกมือปลดกระดุมเสื้อ แล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก จากนั้นก็นอนลงข้างๆ ฮั่วซือหานเธอมองใบหน้าหล่อเหลาที่แสนสูงส่งของเขาด้วยสายตาหลงใหล นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้อยู่ใกล้เขาขนาดนี้ฮั่วซือหาน มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของไห่เฉิง เขาช่างสูงค่าเหลือเกินโห
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ
เย่ฮวนเอ่อร์นิ่งไปครู่หนึ่งเธอติดกิ๊บจริงๆ เป็นคุณป้าของเธอที่มอบให้หวังจื่อเหยาหัวเราะ “กิ๊บ Chanel สามหมื่นแปดเธอใส่ได้ตามใจ แต่เงินจำนวนนี้เฉินจิ้นต้องทำงานนานแค่ไหนถึงจะหาได้เธอคิดว่าเธอสองคนเหมาะกันเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์เท้าสะเอว “พวกเราสองคนเหมาะกันหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเธอแต่ที่แน่ๆ คือเธอกับเฉินจิ้นไม่เหมาะกัน!”หวังจื่อเหยา “เธอ!”ตอนนั้นเอง เฉินจิ้นหันไปพูดกับหวังจื่อเหยา “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก อย่าบังคับให้ฉันต้องพูดรอบที่สาม!”หวังจื่อเหยา ทั้งรักทั้งกลัวเฉินจิ้นตอนนี้เขามองมาด้วยสายตาเย็นชาเธอสะท้านไปทั้งตัว“เฉินจิ้น ฉันจะคอยดูเธอกับเย่ฮวนเอ่อร์ไม่มีทางจบลงด้วยดีหรอก!”พูดจบ หวังจื่อเหยาก็พาคนของเธอจากไป“หวังจื่อเหยาคนนั้นในที่สุดก็ไปซักที เฉินจิ้น นายห้ามไปหลงกลเธอเด็ดขาดนะ อย่าไปคบกับเธอ เธอพูดจาด่านายนะ!” เย่ฮวนเอ่อร์พูดกับเฉินจิ้นเฉินจิ้นมองเธอ “หล่อนด่าฉันว่าอะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์กลัวจะกระทบความรู้สึกเขาเลยพูดอ้อมๆ “เธอก็พูดเรื่องครอบครัวของนายไง”เฉินจิ้นเข้าใจดี ความเป็นมาของเขาไม่ใช่ความลับอะไร ใครจะพูดก็พูดไปเขาไม่สนใจเฉินจิ้นมองดวงตากลมโตสดใสของเย่
เฉินจิ้นรีบปล่อยข้อมือของเธอถอยหลังออกไปสองก้าวรักษาระยะห่างอย่างปลอดภัยเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าที่ปีกจมูกมันร้อนๆ เธอยกมือแตะนิ้วเต็มไปด้วยเลือด“อ๊า ฉันเลือดกำเดาไหล” เย่ฮวนเอ่อร์ร้องเสียงหลงเฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่งเธอเลือดกำเดาไหลจริงๆเขาดึงกระดาษทิชชู่สองแผ่นส่งให้ “เงยหน้าขึ้น เดี๋ยวก็หาย”เย่ฮวนเอ่อร์รับกระดาษไว้เงยหน้าขึ้น “ทำไมฉันถึงเลือดกำเดาไหลล่ะ?”เฉินจิ้นไม่ตอบ เปิดประตูเดินออกไปลมเย็นภายนอกพัดใส่หน้าเขาทันทีหนาวมาก แต่ก็พัดกลิ่นหวานๆ ของเด็กสาวออกไปหมดเช่นกันตอนนั้นเอง เย่ฮวนเอ่อร์ที่ห้ามเลือดได้แล้วก็วิ่งตามออกมา “เฉินจิ้น นายรอก่อน ทำไมร่างนายถึงมีแผลเยอะขนาดนั้น?”เฉินจิ้นไม่หยุดยังก้าวยาวๆ ต่อไปแต่เย่ฮวนเอ่อร์ก็ยังไล่ตามเขาพลางบ่นไม่หยุด “แผลพวกนั้นนายไปมีเรื่องกับคนอื่นมาใช่ไหม? ต่อไปอย่าทะเลาะวิวาทแล้วนะตั้งใจเรียนเถอะการเรียนรู้คือทางออกที่ดีที่สุด”เฉินจิ้นไม่มีสีหน้า ทำเหมือนเย่ฮวนเอ่อร์เป็นอากาศแต่แล้วด้านหน้าก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัว หวังจื่อเหยาเดินนำกลุ่มสาวๆ มาด้วยความโกรธหวังจื่อเหยาตะโกน “เย่ฮวนเอ่อร์ หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันพาคนมาด้วยนะ เธอกลัวไห
เย่ฮวนเอ่อร์พูดทีละคำ เฉินจิ้น นายเห็นหมดทั้งตัวฉันแล้วนะเฉินจิ้นมองเธอ “ฉันไม่ได้ดู”“ยังจะเถียงอีกเหรอ? เมื่อกี้นายไม่ได้มองฉันหรือไง?”เฉินจิ้น “……” มองสิ เขาไม่ได้ตาบอดนี่ใบหน้าสวยหวานของเย่ฮวนเอ่อร์ขึ้นสีชมพูจางๆ แค่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ เธอก็ทั้งอายทั้งหงุดหงิดเธอคิดว่าเป็นฉือหว่านที่เข้ามาไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขา“เมื่อกี้นายเห็นอะไรบ้าง ได้ยินอะไรบ้าง?” เย่ฮวนเอ่อร์ถามเฉินจิ้นเงียบ ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์เกลียดที่สุดคือเวลาที่เขาเงียบไม่ยอมพูด “เป็นใบ้เหรอ?”เฉินจิ้น “เธอบอกว่าอยากได้คัพ D……”อ๊า!เย่ฮวนเอ่อร์ร้องออกมาเขย่งปลายเท้าขึ้นไปเอามือปิดปากเขาไว้ ไม่ให้พูดต่อ“อย่าพูด!”ฝ่ามือนุ่มของเธอวางลงอย่างรวดเร็วระยะห่างระหว่างทั้งสองคนลดลงทันที เฉินจิ้นมองเข้าไปในดวงตาสวยคมของเธอดวงตาของเธอสว่างสดใสเหมือนมีแสงอาทิตย์อยู่ในนั้น เหมือนกับตอนที่เขาเห็นเธอครั้งแรกไม่มีผิดวันนั้นฝนตกเขาบังเอิญช่วยเธอไว้ ตอนนั้นเธอยังมีปานอยู่บนหน้า แต่ดวงตาคู่นั้นก็ยังสวยแบบนี้เฉินจิ้นยกมือดึงมือนุ่มของเธอลง “ฉันไม่อยากพูด เธอเป็นคนบอกให้ฉันพูดเอง”เย่ฮวนเอ่อร์ “……นายยังจะพูดอีก!”
…………ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เย่ฮวนเอ่อร์หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเธอหันหลัง กำลังสวมชุดชั้นในอยู่จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะดังขึ้นที่ประตูมีคนมาเคาะประตูหวานหว่านมาเร็วจัง?เย่ฮวนเอ่อร์ “เข้ามาได้เลย”ประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถูกเปิดออกมีคนเดินเข้ามาไม่ใช่ฉือหว่าน แต่คือเฉินจิ้นเฉินจิ้นมาถึงแล้วพอเขาเดินเข้ามาก็เห็นเย่ฮวนเอ่อร์กำลังเปลี่ยนเสื้อข้างล่างยังสวมกระโปรงยูนิฟอร์มส่วนด้านบนเธอสวมบราใหม่สองมือเรียวขาวกำลังไขว้หลังพยายามติดตะขอบราเฉินจิ้นชะงักไป เขาเคาะประตูแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ผิวของเด็กผู้หญิงขาวเนียนจนแสบตาโครงร่างบอบบาง ผมยาวสีดำขลับไหลลงมาสลวยพันอยู่กับต้นแขนของเธอแผ่นหลังของเธอสวยมากเนื้อเนียนละเอียดกับเอวคอดบางเส้นโค้งรูปตัว S เด่นชัดเตะตาเฉินจิ้นชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็เบือนสายตาหนีเขาหันหลัง เตรียมจะเดินออกไปแต่เสียงนุ่มนวลของเด็กสาวก็ดังขึ้น “ตะขอบราด้านหลังฉันติดไม่ได้ ช่วยฉันหน่อยสิ”เด็กสาวถอยหลังไม่กี่ก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา “ตรงนี้ ติดไม่เข้าเลย”เฉินจิ้นยังคงยืนนิ่งเด็กสาวเริ่มร้อนรน “ช่วยหน่อยเถอะ มือฉันเจ็บแถมตัวก็ปวดไปหมด ซี้
ไม่นานก็มีนักศึกษาคนอื่นแห่กันเข้ามาดู “แย่แล้ว ตรงนี้มีคนตีกัน!”หวังจื่อเหยาได้ยินเข้าก็เริ่มกลัวขึ้นมา เพราะการตีกันในโรงเรียนถือเป็นเรื่องร้ายแรงอาจถูกบันทึกความผิดทางวินัยได้ ที่สำคัญคือ เธอโดนต่อยจนเจ็บแทบขาดใจ ฮือๆทั้งเหตุการณ์หวังจื่อเหยาโดนเย่ฮวนเอ่อร์กดอยู่กับพื้นและซัดไม่ยั้ง แม้เพื่อนๆ จะรุมเย่ฮวนเอ่อร์แต่มันก็ไม่อาจหยุดยั้งเธอได้เลย หวังจื่อเหยารู้สึกเหมือนตัวเองโดนไฟเผาไปทั้งตัวหวังจื่อเหยาดันเย่ฮวนเอ่อร์ออก “เย่ฮวนเอ่อร์ รอดูเถอะฉันจะไปเรียกคนมา!”พูดจบหวังจื่อเหยาก็พาเพื่อนสาววิ่งหนีไปทันทีเย่ฮวนเอ่อร์ก็มีแผลอยู่เหมือนกันเสื้อผ้าของเธอก็ถูกดึงจนขาด เธอเก็บกระเป๋าขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด ไม่งั้นออกไปข้างนอกไม่ได้แน่เธอไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตบกับหวังจื่อเหยา กับคนปากเสีย เธอไม่มีวันยอมให้อภัยหวังจื่อเหยาไปเรียกคน เธอก็รออยู่ตรงนี้แหละเย่ฮวนเอ่อร์ถอดเสื้อออกแต่พอขยับตัวก็เจ็บจนต้องร้อง “ซี้ด” รอยข่วนแดงๆ เต็มแผ่นหลังตอนชกต่อยกันไม่รู้สึกตอนนี้เจ็บเหมือนโดนมีดกรีดในขณะนั้นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเย่ฮวนเอ่อร์
นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูด “พ่อของเฉินจิ้นเป็นพ่อค้ายาใช่ไหม?”หวังจื่อเหยาพยักหน้า “ใช่ เฉินจิ้นเป็นลูกของพ่อค้ายาแถมแม่ของเขาก็ตาบอด น้องสาวกำลังเรียนมัธยมต้น ฐานะครอบครัวแย่มาก แต่บ้านพ่อค้ายา แม่ตาบอด น้องสาวยังเรียนหนังสือและเขาที่แหลกสลายมันกลับทำให้ฉันอยากท้าทายเขายิ่งขึ้น ฮ่าๆ!”หวังจื่อเหยากับกลุ่มเพื่อนหญิงหัวเราะเสียงดังหัวเราะจนตัวสั่น พวกเธอหัวเราะเยาะครอบครัวของเฉินจิ้นเย่ฮวนเอ่อร์เริ่มไม่พอใจเธอเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำดวงตากลมโตสวยสดใสจ้องมองไปยังกลุ่มของหวังจื่อเหยา “พวกเธอหัวเราะพอหรือยัง?”คำพูดของเย่ฮวนเอ่อร์ ทำให้หวังจื่อเหยากับพวกถึงกับชะงักหวังจื่อเหยาหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ และจำได้ทันที “นี่ไม่ใช่เย่ฮวนเอ่อร์ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้เหรอ เรื่องที่เราพูดมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ!”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “พวกเธอไม่ควรเอาความทุกข์ของคนอื่นมาล้อเล่น ความลำบากของคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่ควรถูกเอามาขำ!”เธอเคยไปที่บ้านของเฉินจิ้น เป็นบ้านที่อบอุ่น แม่กับน้องสาวของเฉินจิ้นเป็นคนใจดีและอ่อนโยนแม้สภาพแวดล้อมจะมืดทึบและชื้นแฉะ เฉินจิ้นเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ คืนวันนั้นชายเมามายคนหนึ