ฮั่วซือหานหันไปมองกู้เป่ยเฉิน “นายพักผ่อนให้ดี เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยพรุ่งนี้”คืนนี้ฉือหว่านกับกู้เป่ยเฉินต้องการพักฟื้นก่อน เรื่องการกลับออกจากหมู่บ้านค่อยคิดพรุ่งนี้อีกทีกู้เป่ยเฉินได้พี่รองอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอุ่นใจทันที เขาพยักหน้า “ได้ครับ”ฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านออกมาจากกระท่อม หลิวชุนฮวาที่ยืนรออยู่ข้างนอกก็รีบเข้ามา “พี่ซือหาน น้องสาวพี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“เธอเป็นไข้สูงครับ น้องชุนฮวา รบกวนช่วยจัดหาห้องพักให้เราได้ไหม?”พอได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของฮั่วซือหานเข้าเต็มตา สาวบ้าหน้าตาอย่างหลิวชุนฮวาจะปฏิเสธได้อย่างไร? เธอรีบใช้อำนาจลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน จัดหาห้องพักสะอาดเรียบร้อยให้เขาทันทีฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านไปวางลงบนเตียง ร่างกายเธอเย็นเฉียบ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เส้นผมปอยหน้าม้าเปียกชื้นแนบอยู่กับหน้าผากขาวเนียนจนดูน่าสงสารจับใจเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยผมออกจากหน้าผากของเธอเบาๆ“พี่ซือหาน” ขณะนั้นเอง เสียงหลิวชุนฮวาก็ดังขึ้นฮั่วซือหานถึงเพิ่งนึกได้ว่ายังมีเธออยู่ในห้อง เขาหันไปถามตรงๆ “น้องชุนฮวา มีพี่ชายด้วยใช่ไหม?”หลิวชุนฮวาพยักหน้า “ใช่ค่ะ พี่ชายฉันชื่อหลิว
ฮั่วซือหานรู้สึกได้ถึงมือเล็กๆ ของฉือหว่านที่เลื่อนไปบนตัวเขา เธอร้อนรุ่มและใจร้อนเกินไป ขณะที่ดึงกระดุมเสื้อเขาจนกระเด็นหลุดไปเม็ดหนึ่งลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง เขารีบจับมือเธอไว้เบาๆ “ฉือหว่าน ช้าหน่อย ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าสำรองนะ”ถ้าเสื้อผ้าของเขาขาดขึ้นมา เขาจะไม่มีเปลี่ยนนะแต่ฉือหว่านกลับไม่ฟัง เธอเพียงต้องการความอบอุ่นมากกว่านี้ มือเล็กๆ ถูกดึงออกไปได้ก็รีบซุกหน้าลงตรงซอกคอเขา “ไม่เอา…หนาว…”เสียงของเธอออดอ้อนอ่อนแรง ปนน้ำเสียงเจ็บไข้คล้ายเด็กน้อยกำลังอ้อนขอแน่นอนว่า ฮั่วซือหานรู้ดีว่าต่อให้เธอไม่ป่วย เธอก็ออดอ้อนเก่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาอยู่กันสองต่อสองบนเตียงเธอเหมือนปีศาจน้อยตัวหนึ่งแค่หลังหย่ากัน ก็ไม่ได้ลิ้มลองอีกเลยฮั่วซือหานพยายามกลั้นใจ แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ไหว มือของเขาลูบไปที่กระดุมเสื้อของเธอ ราวกับตั้งใจจะช่วยเธอระบายความร้อนในกายทุกอย่างเริ่มวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อย เขาพลิกตัวทาบลงเหนือเธอ ทั้งสองสลับกันถอดผ้าเสื้อเชิ้ตของเขาถูกดึงออกไปครึ่งตัว กล้ามไหล่และแผ่นหลังแน่นตึงเผยออกชัด ฝ่ามือเย็นเฉียบของฉือหว่านสัมผัสกับร่างกายของเขาร่างของฮั่วซื
พวกเขาหย่ากันไปแล้วแต่ฮั่วซือหานไม่เคยลืม “เธอเป็นไข้ ฉันก็แค่ช่วยให้ร่างกายเธออบอุ่นขึ้นเท่านั้น”ฉือหว่านกัดฟัน “…แค่ให้ความอบอุ่น ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้ คุณเคยทำแบบนี้ให้ผู้หญิงคนอื่นด้วยไหม?”“ผู้หญิงคนอื่นไม่เหมือนเธอ” ฮั่วซือหานมองเธอตรงๆ “ไม่มีใครกล้าปลดกระดุมเสื้อฉันแล้วล้วงเข้ามาเองแบบเธอหรอก เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน”ฉือหว่านก้มมองเสื้อของเขา กระดุมหายไปหนึ่งเม็ดจริงๆ ฝีมือเธอแน่นอนเธอยกมือผลักเขา “ถอยไป!”ฮั่วซือหานจับมือเธอไว้ทั้งสองข้าง กดลงบนที่นอน แล้วโน้มตัวจูบลงบนใบหน้าเธออย่างรวดเร็วเขายังไม่อยากหยุดฉือหว่านดิ้นสุดแรง “ฮั่วซือหาน! เราหย่ากันแล้วนะ! ถ้าคุณต้องการแบบนี้ ก็ไปหาฉือเจียวสิ! ผู้ชายที่ยุ่งกับผู้หญิงสองคนขึ้นไปพร้อมกันอย่างคุณ น่าจะตรวจสุขภาพเป็นประจำไว้บ้างนะ! เดี๋ยวจะติดโรค!”ฮั่วซือหานหลุดหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู เธอยังคงปากกล้าเหมือนเดิมเขาบีบแก้มเธอเบาๆ แล้วพูดชัดเจน “ฉันไม่เคยแตะต้องฉือเจียว”อะไรนะ?เขาไม่เคยแตะต้องฉือเจียวเลยงั้นเหรอ?ฉือหว่านถึงกับนิ่งไปพวกเขาคบกันมาตั้งนาน ทำไมถึงไม่เคยแตะต้องฉือเจียวเลยก่อนที่เธอจะคิดต่อได้ ฮั่วซือหาน
ฮั่วซือหานมองผู้หญิงในอ้อมแขน ดวงตายาวรีหรี่ลงเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ “น้องสาวในใจก็ถือว่าเป็นน้องสาวไม่ได้เหรอ?”หน้าด้านที่สุด!ฉือหว่านยกเท้าถีบเขาทันทีฮั่วซือหานพลิกตัวกลับ กดเธอลงบนเตียงอีกครั้ง “จะลองอีกรอบไหมล่ะ?”ฉือหว่านมองเห็นแววตาที่มีประกายไฟของเขา ไม่ใช่แค่ล้อเล่น เขาเอาจริง!ผู้ชายคนนี้ แข็งแรงเกินมนุษย์!“ฉือหว่าน เราเหมือนจะยังไม่เคยทำกันตอนเช้าเลยนะ”ใบหน้าขาวใสขนาดพอดีฝ่ามือของฉือหว่านแดงก่ำขึ้นทันที โรคจิต!เธอออกแรงผลักเขา แล้วรีบลุกลงจากเตียงฮั่วซือหานยกมุมปากขึ้น ยิ้มออกมาอย่างพอใจ…ฮั่วซือหานกับฉือหว่านไปดูอาการของกู้เป่ยเฉิน ฉือหว่านตรวจดูแผลที่ขาของเขา อาการดีขึ้นมากแล้วคืนที่ยากที่สุด พวกเขาผ่านมันมาได้“คุณชายกู้ ขาของคุณปลอดภัยแล้ว” ฉือหว่านพูดอย่างมั่นใจกู้เป่ยเฉินมองเธอ “ฉือหว่าน อย่าคิดว่าฉันจะขอบคุณเธอ”“แค่คำขอบคุณจากนาย ฉันคงไม่เป็นอมตะหรอกมั้ง?”“…”กู้เป่ยเฉินถึงกับพูดไม่ออกฮั่วซือหานยืนดูอยู่ด้านข้าง แม้ว่ากู้เป่ยเฉินกับฉือหว่านจะยังปะทะคารมกันอยู่เหมือนเดิม แต่เขาก็สังเกตได้ว่าท่าทีของกู้เป่ยเฉินเริ่มจะเปลี่ยนไปแล้ว“พี่รอง
ฉือหว่านกับกู้เป่ยเฉินกำลังรอฮั่วซือหานอยู่ คนของฮั่วซือหานมาถึงแล้ว ล้อมหมู่บ้านนี้ไว้หมด ทำให้พวกเขาออกไปได้อย่างปลอดภัยแต่รอแล้วรออีก ฮั่วซือหานก็ยังไม่มา ไม่รู้เขาหายไปทำอะไร“พี่รองฉันทำไมยังไม่มาอีกล่ะ?”ในตอนนั้นเอง ร่างสูงสง่างามของฮั่วซือหานก็ปรากฏขึ้น เขามาแล้ว“พี่รอง หายไปไหนมานานเลย?” กู้เป่ยเฉินถามอย่างสงสัยฮั่วซือหานไม่ตอบ เขาใช้กระดาษทิชชู่เช็ดมือฉือหว่านสังเกตเห็นเลือดที่มือของเขาเลขาจ้าวเดินเข้ามา “ประธานครับ เรากลับกันได้แล้วครับ”ฮั่วซือหานพยักหน้า พวกเขาทั้งหมดขึ้นเรือยอชต์ ออกจากที่นั่น“พี่ซือหาน ฮือๆ~”ฉือหว่านได้ยินเสียงร้องไห้ เธอหันกลับไป เห็นหลิวชุนฮวาหลิวชุนฮวาร้องไห้ วิ่งเข้ามาหา ยืนอยู่ริมฝั่งอย่างอาลัยอาวรณ์“ประธานฮั่ว คุณทำร้ายจิตใจเด็กผู้หญิงเขาหรือเปล่า? ฉันดูแล้ว เด็กคนนั้นน่ะ รู้สึกกับคุณจริงๆ”ฮั่วซือหานปรายตามองฉือหว่านเย็นๆ “งั้นความรู้สึกจริงจังนั่นเอาไปให้เธอแล้วกัน เธออยากได้ไหมล่ะ?”ฉือหว่าน “……”…………ทุกคนกลับมาที่เวยไห่ โจวจิ่นกับรุ่นพี่คนอื่นๆ ก็มากันพร้อมหน้า โจวจิ่นมองฉือหว่าน “รุ่นน้องฉือ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? อยู่
”เป่ยเฉิน นายมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ทำไม นายกำลังสงสัยฉันเหรอ สงสัยว่าฉันอยากระเบิดตายไปพร้อมกับนาย?”“เป่ยเฉิน ฉันน่ะเป็นซ้อเจียวเจียวของนายนะ นายมาสงสัยฉันแบบนี้ ฉันเสียใจมากเลยนะ ฉันว่า... นายเปลี่ยนไปจริงๆ”“นายบอกมาสิ ทำไมถึงไม่กลับมาให้ทันตามเวลาที่กำหนด แล้วตอนอยู่บนเรือยอชต์ นายไม่ได้ลงมือกับฉือหว่านใช่ไหม?”ฉือเจียวฉลาดมาก เธอเล่นบทอารมณ์เต็มที่ แถมยังชิงโจมตีกู้เป่ยเฉินก่อนเสียอีกกู้เป่ยเฉินบนเรือยอชต์ไม่ได้ลงมือกับฉือหว่านจริงๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “ซ้อเจียวเจียว ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”“เป่ยเฉิน พวกเราต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ห้ามให้ฉือหว่านมาทำลายความสัมพันธ์ของเราเด็ดขาด”…………ฉือหว่านเริ่มเก็บกระเป๋า เตรียมจะบินกลับไห่เฉิงเก็บของเสร็จ เธอเดินออกไปหารุ่นพี่หญิง แต่ในระหว่างเดินผ่านระเบียง เธอก็เห็นฉือเจียวฉือเจียวรอเธออยู่ตลอดฉือหว่านไม่ได้แปลกใจอะไร เดินตรงเข้าไปฉือเจียวยิ้ม “ฉือหว่าน เธอกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว ฉันเป็นห่วงเธอมากเลยนะ”ฉือหว่านยกยิ้มนิดๆ “ฉือเจียว คนที่ลงมือคือเธอใช่ไหม?”“ฉันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร ฉือหว่าน
"เดี๋ยวก่อน!" ฉือหว่านพูดแทรกขึ้นมากลางคัน ตัดบทคำด่าของฉือเจียวทันที "ฉือเจียว เธอเข้าใจผิดแล้ว เมื่อคืนฉันไม่ได้ยั่วยวนประธานฮั่วเลยนะ ตรงกันข้าม ฉันปฏิเสธเขาสุดชีวิต แต่ประธานฮั่วกลับใช้จังหวะที่ฉันกำลังเป็นไข้ตัวร้อน อ่อนแรงบังคับฉัน!"อะไรนะ?ฮั่วซือหานใช้กำลัง?ฉือเจียวไม่เชื่อสุดหัวใจ ฮั่วซือหานเป็นใคร เขามีสาวสวยอยู่รอบตัว ไม่เคยขาดผู้หญิงเลยสักวันแถมเธอเองก็เคยเสนอตัวให้เขาหลายครั้ง แต่เขากลับปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่มีอารมณ์หรือไม่ก็งานยุ่งเขาจะเคร่งขนาดไหนก็เคร่งได้ขนาดนั้นแต่กลับมาใช้กำลังกับฉือหว่านตอนเธอป่วย?ฉือเจียวไม่เชื่อ "ไม่มีทาง! เธอพูดมั่ว!"ฉือหว่านหันไปมองฮั่วซือหาน "ประธานฮั่ว ตอนนี้คุณก็อยู่ตรงนี้ ช่วยบอกฉือเจียวหน่อย ฉันพูดมั่วจริงรึเปล่า?"ฮั่วซือหานมองฉือหว่านแวบหนึ่ง ก่อนจะเผยอริมฝีปากบางเอ่ยขึ้น "เธอพูดเรื่องจริงทั้งหมด"ฉือเจียว "......" เธอแทบจะพังทลายลงตรงนั้นเห็นสีหน้าของฉือเจียวเหมือนกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ฉือหว่านหัวเราะเย็นเยียบ "ฉือเจียว ตอนเธอไปเป็นมือที่สามของคนอื่น เธอเคยคิดบ้างไหมว่าจะมีวันโดนคนอื่นมาเป็นมือที่สามแทน? บอกไว้เลยนะ ประธาน
หลี่หลันนึกขึ้นได้ “ฉันพอจะจำได้ องค์กรถงเหรินถังน่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศวันที่ 11 เมษายน เลยถูกเรียกกันว่า ‘ตำนาน 411’”ฉือถังพยักหน้า “ใช่เลย”ฉือเจียวมองยาที่อยู่ในมือตัวเอง “ถ้าเป็นแบบนั้น ผู้ก่อตั้งองค์กรนี้ก็ต้องเป็นอัจฉริยะระดับตำนานเลยน่ะสิ ซือหาน คุณรู้จักเขาไหม?”ความจริงตอนนี้ฉือเจียวยังโกรธอยู่เต็มอก แต่เธอไม่กล้าระเบิดใส่ฮั่วซือหานอีกแล้ว ตรงกันข้าม เธอกลับยิ่งพยายามยึดเขาไว้ให้แน่น ทั้งหมดนี้ เธอเลือกจะระบายที่ฉือหว่านแทนฮั่วซือหานคิดอยู่สักพัก “เคยเจอกันครั้งหนึ่ง”ฮั่วซือหานเคยเจอกับผู้ก่อตั้งองค์กรถงเหรินถังจริงๆ ตอนนั้นคือเมื่อหกปีก่อน ที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาในตอนนั้น เขาเป็นเจ้าพ่อวงการธุรกิจแล้ว และได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานประชุมของแวดวงธุรกิจที่วอลสตรีท คืนนั้น เป็นคืนที่ผู้ก่อตั้งองค์กรถงเหรินถังพาแบรนด์เข้าสู่ตลาดหุ้น เขาได้ยินเสียงเคาะระฆังตอนเที่ยงคืนที่เธอเป็นคนตีคนข้างๆ บอกกับเขาว่า ผู้ก่อตั้งองค์กรถงเหรินถังคนนั้น อายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้นเขาเองก็เคยเปิดบริษัทแรกในวัย 16 ปีเหมือนกันเธอเองก็พาองค์กรเข้าตลาดหุ้นตอนอายุ 16 เช่นก
เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าปลายจมูกอุ่นวาบขึ้นมา เธอยกมือแตะดู ก็พบว่าเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว“อ๊ะ ฉันเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว!”เฉินจิ้นรีบคว้าทิชชู่มายัดใส่จมูกเธอ “เงยหน้าขึ้น”เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้า “ทำไมพอฉันอยู่กับนายถึงชอบเลือดกำเดาไหลตลอดเลยเนี่ย?”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง “โอเคแล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์มองเขา “นายไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?เฉินจิ้นไม่พูดอะไรเลย หันหลังจะเดินออกไปเขากำลังจะเมินเธออีกแล้วเย่ฮวนเอ่อร์ขวางหน้าเขาไว้ แล้วยื่นยาในมือให้ “อันนี้ให้นาย”“อะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์ชี้ไปที่ไหล่ของเขา ตอนนี้ตรงไหล่ของเขาแดงอยู่ “วันนี้นายแบกถุงปูนซีเมนต์ตั้งเยอะ ไหล่นายแดงหมดเลย ใช้ทาวันละสองครั้ง จะได้ไม่ปวดเมื่อย”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์ “รับไปสิ”เฉินจิ้นยื่นมือมารับยาจากมือเธอเขากลับจับทั้งยาและมือเธอพร้อมกัน เขาคว้ามือเล็กๆ ของเย่ฮวนเอ่อร์ไว้แล้วดึงแรงๆ ทำให้เธอเซเข้าไปในอ้อมอกของเขาโดยไม่ทันตั้งตัวเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองเขา ใบหน้าหล่อคมของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมเกรียนเปียกชื้น ทำให้ดูเด็กลงและมีเสน่ห์แบบเด็กหนุ่มมากขึ้น
“ดูเหมือนฟ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของฉัน แป๊บเดียวก็ผ่านมาแล้วสี่ปี อาจิ้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันก็รู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มาก ฮวนเอ่อร์ ฉัน...ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่?”ดวงตากลมโตของเย่ฮวนเอ่อร์ฉ่ำไปด้วยน้ำตา “คุณน้ายังเหลือเวลาประมาณสองเดือนค่ะ”แม่เฉินพึมพำเบาๆ “สองเดือน...ฉันคงไม่ได้เห็นเหมียวเหมี่ยวสอบเข้ามัธยมปลายแล้วล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์รีบกุมมือแม่เฉินแน่น “คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันให้หัวหน้าหลิวจัดยาที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว พวกเราจะพยายามยืดเวลาออกไปให้ได้มากที่สุดค่ะ”แม่เฉินหันหน้าไปทางเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ คราวนี้ที่ฉันได้เข้าโรงพยาบาลก็เพราะเธอช่วยไว้ พวกเราติดหนี้เธอหนึ่งบุญคุณเลยล่ะ บ้านเราอาจจะจนหน่อย แต่ไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ฉันจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ไม่อยากรบกวนเธออีกแล้ว”“คุณน้า...”เย่ฮวนเอ่อร์รู้ดีว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจแม่เฉินได้ แม่เฉินก็เหมือนเฉินจิ้น มีความภูมิใจในตัวเองอยู่ในกระดูกเย่ฮวนเอ่อร์จึงไม่พูดอะไรอีก แต่เธอจะช่วยอย่างลับๆ ยานำเข้าจากต่างประเทศนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดของแม่เฉิน ยังช่วยให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย“ฮวนเอ่อร์ เรื่องสุขภาพของฉัน อย่
น้าหวังหัวเราะก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของเฉินเหมียวเหมี่ยว “พี่ชายของหนูรักหนูที่สุดแล้วนะ ส่งหนูเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่ดีที่สุด เขาจะยอมให้หนูกลายเป็นสาวโสดอยู่เป็นเพื่อนเขาได้ยังไงล่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวหัวเราะคิกคักขณะนั้นเย่ฮวนเอ่อร์ก็เดินเข้ามาเฉินเหมียวเหมี่ยวทักด้วยความดีใจ “พี่ฮวนเอ่อร์!”น้าหวังลุกขึ้นยืน “หนูฮวนเอ่อร์ ได้ผลตรวจแล้วใช่ไหม?”ขอบตาของเย่ฮวนเอ่อร์ที่ขาวใสแดงเรื่อ เธอพยักหน้า “ได้มาแล้วค่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวถามอย่างร้อนใจ “พี่ฮวนเอ่อร์ แม่หนูเป็นอะไร แม่ป่วยเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์มองไปที่แม่เฉินซึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่พูดอะไรน้าหวังเห็นว่าบรรยากาศไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้น “เหมียวเหมี่ยว ไปกับป้าแป๊บนึง ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหนู”เฉินเหมียวเหมี่ยวไม่สงสัยอะไร “ได้ค่ะ”น้าหวังพาเฉินเหมียวเหมี่ยวออกไปตอนนี้ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงเย่ฮวนเอ่อร์กับแม่เฉิน เย่ฮวนเอ่อร์นั่งลงข้างเตียง มองดูแม่เฉินแม่เฉินสวมเสื้อผ้าที่สะอาด เสื้อผ้าดูเก่าและซีดจากการซักมานานหลายปี แต่ก็ยังสะอาดเรียบร้อย ผมสีดอกเลาครึ่งหัวถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแม่เฉินดูอ่อนโยนและสงบนิ
เย่ฮวนเอ่อร์ยิ้มมุมปาก “หนูเกรงว่าจะรบกวนคุณน้า ก็เลยไปหาเฉินจิ้นที่โรงเรียนค่ะ”แม่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขขณะนั้นหัวหน้าหลิวก็เดินเข้ามา เย่ฮวนเอ่อร์จึงเดินออกไปในห้องทำงานของหัวหน้า หัวหน้าหลิวยื่นผลตรวจให้เย่ฮวนเอ่อร์ “คุณหนูหลิน ผลการตรวจของคนไข้ออกแล้วครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ถาม “ผลเป็นยังไงบ้างคะ?”หัวหน้าหลิวส่ายหน้า “เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วครับ”อะไรนะ?เย่ฮวนเอ่อร์อึ้ง “มะเร็งระยะสุดท้าย? คุณหมอคงไม่ได้เช็คพลาดใช่ไหมคะ สุขภาพของแม่เฉินแข็งแรงมาโดยตลอดเลยนะ”“ไม่ผิดแน่นอนครับ คนไข้น่าจะเป็นมะเร็งมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว เธอรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้บอกใคร ตอนนี้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปถึงหัวใจและสมองแล้ว คนไข้คงเหลือเวลาอีกประมาณสองเดือนครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทันที เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม่เฉินจะเหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนทำไมถึงไม่บอก ทำไมถึงไม่ยอมรักษา?เฉินจิ้นกับเฉินเหมียวเหมี่ยวยังไม่รู้เรื่องนี้เลย…………ในห้องพักคนไข้ เพื่อนบ้านน้าหวังกับเฉินเหมียวเหมี่ยวอยู่เป็นเพื่อนแม่เฉิน เฉินเหมียวเหมี่ยวเทน้ำอุ่นใส่แก้ว “แม่ ดื่มน้ำค่ะ”
เย่ฮวนเอ่อร์กำลังจะวิ่งตามเฉินจิ้นไปแต่จ้าวอี้คว้าข้อมือเธอไว้ทันที “เธอจะวิ่งตามเขาไปทำไม ห้ามไป!”เย่ฮวนเอ่อร์สะบัดมือเขาออกอย่างแรง “ทะเลยังไม่กว้างเท่าความสาระแนของนายเลย!”เธอรีบวิ่งตามเฉินจิ้นไปจ้าวอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ…………เย่ฮวนเอ่อร์ตามเฉินจิ้นมาถึงโรงพยาบาลเล็กแห่งหนึ่ง แม่เฉินนอนอยู่บนเตียงคนไข้สีขาว ยังไม่ฟื้นเฉินเหมียวเหมี่ยวยืนร้องไห้ไม่หยุด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ข้างกายมีคุณป้าข้างบ้านคอยปลอบเฉินจิ้นรีบเดินเข้าไป “เหมียวเหมี่ยว!”“พี่!” เฉินเหมียวเหมี่ยวตัวผอมบาง โผเข้ากอดเฉินจิ้นทันที น้ำตาไหลไม่หยุด “พี่ รีบไปดูแม่หน่อย แม่ไม่ตื่นเลย ฮือๆ”เฉินจิ้นปลอบน้องสาวอยู่สองสามคำ จากนั้นมองไปยังแม่บนเตียง “แม่!”แม่เฉินไม่มีปฏิกิริยาคุณป้าข้างบ้านพูดขึ้น “เฉินจิ้น พวกเธอรีบพาแม่ไปโรงพยาบาลใหญ่นะ หมอที่นี่เพิ่งมาตรวจ บอกว่าต้องรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ห้ามช้า แต่ตอนนี้เตียงในโรงพยาบาลใหญ่ก็หายาก แถมยังไม่รู้ว่าคุณหมอคนไหนเก่งด้วย แบบนี้จะทำยังไงดีละลูก”คุณป้าถอนหายใจ เธอรู้ว่าพ่อเฉินจิ้นเสียไปนานแล้ว ตอนนี้เฉินจิ้นต้องดูแลทั้งแม่และน้องสาวเคราะห์ซ้ำกร
เย่ฮวนเอ่อร์เดินมาอยู่ข้างๆ เฉินจิ้น พยายามจะหยุดเกมบ้าๆ นี้ “เฉินจิ้น นายไม่ต้องเล่นเกมของจ้าวอี้นะ มันอันตรายต่อร่างกายมาก ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ฉันสามารถ…”เฉินจิ้นหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์แวบนึง เย่ฮวนเอ่อร์ก็รีบเงียบลงทันทีเธอไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น เธอแค่ไม่อยากให้เขาทำร้ายร่างกายตัวเองเฉินจิ้นหันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “เริ่มได้เลยครับ”หัวหน้าคุมงานยกถุงปูนทีละถุงขึ้นวางบนไหล่ของเฉินจิ้น ไม่นานก็ครบแปดถุงหัวหน้าคุมงานเพิ่มถุงที่เก้า กับถุงที่สิบขึ้นมาอีกจ้าวอี้ดูอย่างเมามัน เขาตบมือแล้วร้อง “โอ้โฮ เฉินจิ้น นึกไม่ถึงว่านายจะทุ่มขนาดนี้เพื่อเงิน หนึ่งพัน สองพัน”จ้าวอี้โยนเงินสองพันบาทลงพื้นหัวหน้าคุมงานวางถุงที่สิบเอ็ด และถุงที่สิบสอง“สามพัน สี่พัน”จ้าวอี้ยังคงโยนเงินลงบนพื้นถุงปูนสิบสองถุงเพิ่มขึ้นบนไหล่ของเฉินจิ้น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่เหงื่อที่หน้าผากหยดลง “แปะ แปะ” เปียกไปทั่วชุดทำงานเย่ฮวนเอ่อร์อยากจะห้าม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูจะผิดไปหมด ได้แต่ยืนดูด้วยสายตากังวลหัวหน้าคุมงานทนไม่ไหว “เฉินจิ้น ถ้านายไม่ไหวแล้วก็บอกนะ”เฉินจิ้นไม่พูดอะไรหัวหน้าคุมง
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ