แชร์

3. วรรณารี 1

ผู้เขียน: ฉันรัก
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-16 17:19:08

“หนวกหูโว้ย! ไม่เกรงอกเกรงใจกันบ้าง คนจะนอน” เสียงตวาดแหวดังมาจากข้างบ้าน

วรรณารีที่กำลังกล่อมลูกสาวนอนอยู่ตรงแคร่หน้าบ้านได้มองไปยังทิศที่มาของเสียงตาขวาง “ทีกินเหล้าเสียงดังลั่นกลางดึกทุกคืนฉันยังไม่เคยบ่น ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะพี่ชื่น ฉันอโหสิให้ทุกอย่างแล้ว อย่างมาหาเรื่องกันรายวันแบบนี้”

“อโหสิอะไรกัน” บานชื่นตะโกนข้ามรั้ว “ต้องเป็นฉันต่างหากที่พูดคำนี้ หน็อย อุตส่าห์ช่วยให้มีงานมีการทำ ดันเนรคุณกินบนเรือนขี้บนหลังคา ทำมารยาคิดยั่วผัวฉัน”

วรรณารีมือสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือด เธอใช้มือกอดรอบตัวไว้แน่นเพื่อข่มตัวเองไม่ให้คายน้ำขม ๆ ออกมา “ผู้หญิงท้องอย่างฉันนี่นะจะไปยั่วใครไหว พี่เชื่อผัวจนหน้ามืดตามัวมองไม่เห็นความจริง ถ้าวันนั้นป้าสายไม่เอาไม้ไปแพ่นกบาลผัวพี่ ฉันคงต้องตกนรกโดนไอ้ผู้ชายเลว ๆ ข่มขืนจนตายทั้งเป็น!”

“นังวรรณ แกถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ แกว่าใครเลว” คนหลงสามีเท่าชีวิตไม่ยินยอมพร้อมใจ

“ไอ้โชติผัวเอ็งนั่นแหละเลว” เสียงแหบอันเป็นเอกลักษณ์ของสายดังขึ้น ไม่พูดเปล่า เธอยังเดินถือมีดอีโต้ทั้งสองมือออกจากประตูรั้วและตรงรี่ไปยังประตูบ้านของบานชื่นที่อยู่ติดกันอย่างไม่ลังเลใด ๆ

“อีแก่ แกจะทำอะไรฉัน คนบ้าก็อยู่ส่วนบ้า อย่ามายุ่งกับคนดี ๆ แบบฉัน”

“เขาว่าคนบ้าฆ่าคนไม่ผิด ฉันก็อยากลองพิสูจน์คำนี้ดู” หญิงสูงวัยเงื้อง่ามีดขึ้นสูง

บานชื่นหวีดร้องเสียงดัง “ช่วยด้วย ช่วยด้วยเจ้าข้าเอ๊ย คนบ้ามันจะเอามีดมาฆ่าฉัน”

เมื่อได้ยิน ชาวบ้านที่ไม่ได้ไปทำงานต่างออกมายืนมองหน้าสลอนที่หน้าบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าพูดหรือวิ่งมาห้ามแต่อย่างใดเพราะรู้กิตติศัพท์ดีว่าทั้งสายและบานชื่นมีนิสัยอย่างไร

“เร็วเข้า! ช่วยมาจับอีแก่บ้านี่แล้วไล่มันออกไปให้พ้นซอยที” บานชื่นตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงตระหนก

“ใครจะมาไล่ ยี่สุ่นให้ฉันอยู่ที่นี่อย่างเต็มใจ ไม่ใช่แอบไปขโมยที่ดินใครมาอยู่เหมือนเอ็ง ระวังเถอะถ้าฉันทนไม่ไหวจะไปบอกให้เจ้าของที่มาเอาผิดเสียให้เข็ด” สายพูดขู่

บานชื่นหุบปากเงียบเสียงลงทันทีเมื่อสายยกเรื่องนี้ขึ้นมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอหวาดวิตกมาโดยตลอด เมื่อสามปีก่อน เธอและโชติร่อนเร่มาจากจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกเพื่อหางานทำในเมืองหลวง ทั้งงานรับจ้างและงานก่อสร้าง จนมาจบที่งานหาของเก่า หาขยะเพื่อนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่าซึ่งสร้างรายได้ดีที่สุดและเหนื่อยน้อยที่สุดสำหรับทั้งคู่

ด้วยงานเก็บของเก่าต้องอาศัยพื้นที่พอสมควรในการจัดเก็บข้าวของที่หามาได้ เธอและสามีจึงมาสะดุดตาตรงที่ดินรกครึ้มขนาดสามงานที่ติดอยู่กับสวนผลไม้ใหญ่ของยี่สุ่น เศรษฐินีประจำละแวกนี้

หลังจากเวียนถามชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ก็พบว่าเป็นที่ดินมีเจ้าของแต่ไม่เคยเห็นเจ้าของมาดูแล ปล่อยรกร้างอยู่แบบนี้มานับสิบปีโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปรุกล้ำหรือแสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากด้านหลังของที่ดินแห่งนี้เชื่อมต่อกับที่ดินรกครึ้มเนื้อที่กว่าสิบไร่อีกหนึ่งแปลง ซึ่งร่ำลือกันในเรื่องความอาถรรพณ์และความดุของผี

เมื่อเห็นโอกาสสองสามีภรรยาจึงรีบฉวย ทั้งคู่เข้าไปปลูกกระท่อมเพื่ออยู่อาศัยและเก็บข้าวของ พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองจังหวัดนนทบุรี ถึงจะถูกมองว่าเป็นสังคมเมืองเพราะอยู่ติดกับกรุงเทพฯ แต่พื้นที่แถวนี้กลับไม่แออัด ไม่มีผู้คนหนาแน่น ประกอบกับนิสัยที่ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกัน ทั้งคู่จึงสามารถอาศัยอยู่ตรงที่แห่งนี้มาถึงสามปีโดยไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายหรือมาสอดส่อง

แต่จะว่าไม่มีใครสอดส่องก็ไม่ถูกนัก ตั้งแต่คู่สามีภรรยามาอาศัยอยู่ตรงที่แห่งนี้ ทั้งคู่มักจะพบเจอสายตาจับผิดและเขม้นมองอย่างไม่ชอบใจจากสาย เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ตรงบ้านปูนหลังเล็กท้ายไร่ของยี่สุ่น ซึ่งไม่มีความเป็นมิตร ไม่ชอบสุงสิงกับใคร และมีเสียงร่ำลือหนาหูว่าเป็นคนจิตไม่ปกติ

ตั้งแต่เธอและสามีเริ่มมาถางที่ก็มักจะมีหญิงบ้ามายืนมองอยู่ริมรั้วตลอดเวลา ยิ่งเริ่มลงเสาเพื่อสร้างกระท่อมก็ยิ่งรู้สึกถึงสายตาจับผิดของหญิงบ้าคนนั้นจนบานชื่นทนไม่ไหวออกปากทะเลาะกับสายในวันที่เข้ามาอยู่วันแรก

แต่ไม่นึกเลยว่าสายกลับใช้คำพูดที่เป็นแต้มต่อเรื่องไม่ให้ทำสิ่งเลวร้ายในที่ดินแห่งนี้เพราะรู้จักกับเจ้าของที่ดินตัวจริง หากทำเรื่องชั่วร้ายเพียงนิดก็จะไปบอกเจ้าของที่ดินและให้ตำรวจมาจัดการจนอยู่ไม่ได้ มันจะเป็นจริงหรือไม่ก็สุดรู้ แต่ก็สร้างความหวาดระแวงให้กับสองสามีภรรยาเป็นที่ยิ่ง ทั้งคู่จึงพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ต่อกรกับหญิงบ้าคนนี้มาโดยตลอด

“นังแก่บ้า แกยังจะเอาเรื่องเดิม ๆ มาขู่ฉันอีก ราคาคุยมากกว่าที่บอกว่ารู้จักเจ้าของ”

“จะลองดูไหมล่ะ” แววตาของสายนั้นดูไม่ล้อเล่นเลย

บานชื่นมีหรือจะกล้า เธอยืนหันรีหันขวาง พยายามมองหาคนช่วยแต่ก็ไร้ผล โชติออกไปดื่มเหล้าบ้านเพื่อนตั้งแต่หัววันแล้ว “ฝากไว้ก่อนเถอะอีแก่ ถ้าฉันไม่มีธุระ แกกับฉันได้แตกหักกันวันนี้แน่” พูดจบก็ตะลีตะลานเดินออกจากบ้านไป

“จำเอาไว้นะวรรณ ถ้าพวกมันผัวเมียมาระรานอีกก็ไม่ต้องเสียเวลาคุย เอาอีโต้จามหัวมันทีเดียวจะได้หมดเรื่อง ไม่รกหู หรือว่าฉันจะไปหาปืนมาให้หล่อนเก็บไว้สักกระบอกสองกระบอกดี มันอ้าปากข้ามรั้วมาเมื่อไหร่...” สายบ่นเสียงดังไล่หลังไปไม่หยุด ส่วนบานชื่นนั้นก็เร่งจังหวะการก้าวให้เร็วขึ้นไปอีก

วรรณารีหันมายิ้มขอบคุณสาย หลังจากนั้นก็ใช้สายตาโกรธแค้นมองไล่หลังบานชื่นไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จิ๊ดริดที่รัก   7. นางฟ้านำโชค 1

    “ร้อนมากไหมลูก แม่เอาร่มบังแสงให้นะ” วรรณารีก้มลงพูดกับลูกสาวที่กำลังนอนอยู่ในรถซาเล้งพร้อมกับกางร่มคันโตให้เพื่อป้องกันเด็กน้อยให้พ้นจากแสงแดดยามสายที่รักวัยสามเดือนส่งยิ้มให้แม่อย่างน่าเอ็นดู อากาศร้อนไม่ได้สร้างความหงุดหงิดให้เด็กน้อยแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เด็กหญิงกลับนอนสอดส่ายสายตาไปโดยรอบเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อย่างสนอกสนใจเป็นที่ยิ่ง“วันนี้แดดร้อนไปหน่อย แม่ไม่น่าพาลูกออกมาเลย” วรรณารียังคงบ่นพึมพำไม่หยุดวันนี้เป็นครั้งแรกที่วรรณารีพาลูกสาวออกมาตระเวนเก็บของเก่าด้วยเนื่องจากสายออกไปทำธุระข้างนอก ตอนแรกหญิงสาวไม่คิดจะออกมาในวันนี้ แต่ไม่รู้เพราะอะไร ที่รักซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ชอบร้องไห้กลับร้องไห้โวยวายจนหน้าตาแดงก่ำคนเป็นแม่จึงลองนำลูกไปวางในรถซาเล้งที่ใช้รับซื้อของเก่าแล้วเข็นเล่นไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน น่าประหลาด ทันทีที่เริ่มเข็นรถ ที่รักก็หยุดร้องไห้เหมือนปิดสวิตช์ ไม่เท่านั้นยังหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจเป็นอันมาก ระหว่างนั้น นิ้วน้อย ๆ ของเธอก็ชี้ไปทางประตูรั้วไม่หยุด ยิ่งวรรณารีเข็นรถออกไปไกลจากบ้านเท่าไร เสียงหัวเราะของเด็กหญิงก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น ดวงตาดำขลับของเธอเปล่

  • จิ๊ดริดที่รัก   6. เริ่มต้นชีวิตใหม่

    วันนี้บานชื่นและโชติรู้สึกเหมือนโดนฟ้าถล่มใส่หัวกันตั้งแต่เช้าเมื่อเห็นกระดาษสีขาวแผ่นใหญ่แปะอยู่ตรงหน้าประตูรั้ว ซึ่งแผ่นกระดาษดังกล่าวเป็นหมายศาลที่แจ้งให้ทั้งคู่ย้ายออกจากที่ดินแห่งนี้โดยทันที“ทำไมเป็นแบบนี้วะชื่น อยู่มาหลายปีดีดักก็ไม่เห็นโผล่มา แต่พอโผล่มาก็ดันมาไล่เราออกดื้อ ๆ”บานชื่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ต้องเป็นเพราะนังแก่นั่นแน่ ๆ มันต้องเป็นคนไปบอกเจ้าของให้ไล่เราออกไป เลวจริง ๆ”“นังแก่บ้า! นังสายบ้า! แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ นังสาระแน แกไปบอกเจ้าของที่มาไล่พวกกูใช่ไหม” บานชื่นเดินดุ่มไปหน้าประตูรั้วของบ้านสายพร้อมกับเขย่าประตูและตะโกนเรียกเสียงลั่น“ออกมาเดี๋ยวนี้! ออกมาพูดกับฉันให้รู้เรื่อง”แต่คนที่เดินส่ายอาดมาพร้อมกับปังตอทั้งสองมือกลับเป็นวรรณารีแทน “ไม่มีความเกรงใจในสมองกันเลยหรือ โหวกเหวกโวยวายรบกวนชาวบ้านเค้าแบบนี้”“ฉันไม่ต้องการพูดกับแก เรียกนังสายบ้าออกมา”“ห้ามเรียกป้าสายแบบนั้น ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ” วรรณารีตาเขียวปั้ด“เพราะแกใช่ไหม นังสายมันถึงวางแผนเล่นงานฉันกับผัวแบบนี้ คงคิดแก้แค้นแทนแกแน่ ๆ แกนี่ร้ายกาจไม่เบานะ นอกจากคิดจะแอ้มผัวฉันแล้วยังจะปั่นหัวอีแก่บ้านั่นมาเ

  • จิ๊ดริดที่รัก   5. แม่แปรก

    “วรรณ...อยู่บ้านใช่ไหม”“อยู่ค่ะคุณนาย” วรรณารีขานรับก่อนเปิดประตูออกมาจะว่าไปคนที่ใจดีและจริงใจกับเธอนอกจากสายแล้วก็ยังมียี่สุ่น เจ้าของสวนผลไม้ที่เธอและสายขออาศัยอยู่ด้วยนั่นเอง“ฉันเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดถึงรู้ว่าเธอคลอดลูกได้หลายวันแล้วก็เลยเอาขิงกับหัวปลีมาให้” ยี่สุ่นเอ่ยขึ้นวรรณารียกมือไหว้และยื่นมือรับของจากยี่สุ่นอย่างไม่อิดออดด้วยรู้จักนิสัยใจคอของเธอดี หากเอ่ยปากจะให้สิ่งไหนหรืออะไรกับใคร ยี่สุ่นก็ไม่ต้องการได้ยินถ้อยคำปฏิเสธใด ๆ จากอีกฝั่ง“เห็นว่าคลอดเองที่บ้านไม่ทันได้ไปโรงพยาบาล โชคดีมากนะที่ปลอดภัยด้วยกันทั้งคู่”“ค่ะคุณนาย โชคดีที่ป้าสายมาเจอพอดี ไม่อย่างนั้นวรรณกับลูกก็คงแย่เหมือนกัน” วันคลอดนั้นเธอบังเอิญหกล้มอย่างแรงจนกระเทือนถึงลูกในท้อง ประจวบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ไม่สามารถหารถเพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลได้ สายเลยตัดสินใจทำคลอดด้วยตัวเอง“สายเก่งเรื่องนี้อยู่แล้วนี่นะ...” ยี่สุ่นพูดทิ้งไว้เท่านั้นก็ไม่ได้สนใจขยายความต่ออีก เธอเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปสนทนากับสายต่อ ทิ้งให้วรรณารีนิ่วหน้ามองตามอยู่ด้านหลัง-----“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นเธอสดชื่นแบบนี้ รู

  • จิ๊ดริดที่รัก   4. วรรณารี 2

    ตอนที่วรรณารีตัดสินใจกระโดดน้ำตายเมื่อหกเดือนก่อนและสายช่วยเอาไว้ได้นั้น สายได้พาเธอกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านสองเดือนแรกที่เธอมาอยู่กับสาย เธออยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก อยากจะตายไปให้พ้น ๆ จากโลกอันเส็งเคร็งนี้ แล้วก็เป็นสายอีกนี่แหละที่ให้สติและคอยประคับประคองไม่ให้เธอคิดสั้น กระตุ้นให้เธอมีกำลังใจในการสู้ชีวิตเพื่อตัวเองและเพื่อชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในท้อง เพราะแรงใจจากสายทำให้วรรณารีฮึดสู้ขึ้นอีกครั้งหลังจากพักฟื้นร่างกายและจิตใจจนแข็งแรงขึ้นมาระดับหนึ่ง วรรณารีก็ไม่คิดอยู่เฉยอีกเพราะรู้ว่ามีอีกชีวิตที่กำลังรอการเลี้ยงดูจากเธอ เธอจึงเริ่มขวนขวายมองหาตำแหน่งงานว่างตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในละแวกนี้แต่ความที่เป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ จึงไม่มีใครสนใจรับหญิงสาวเข้าทำงาน แล้ววรรณารีเองก็ไม่กล้าไปสมัครงานที่ไหนไกลด้วยห่วงสวัสดิภาพของลูกในท้องและกลัว...กลัวที่จะเจอผู้ชายคนนั้นอีกระหว่างนั้น วรรณารีได้สังเกตเห็นอาชีพหนึ่งซึ่งผู้คนแถวนี้นิยมทำกัน รวมถึงสายด้วย เรียกได้ว่าทำอาชีพนี้กันเกือบครึ่งซอย นั่นก็คืออาชีพเก็บของเก่าและเก็บขยะขาย แต่ละบ้านของพวกเขาเหล่านั้นจะมีข้าวของที่เก็บมากองสุมอยู่เต็ม

  • จิ๊ดริดที่รัก   3. วรรณารี 1

    “หนวกหูโว้ย! ไม่เกรงอกเกรงใจกันบ้าง คนจะนอน” เสียงตวาดแหวดังมาจากข้างบ้านวรรณารีที่กำลังกล่อมลูกสาวนอนอยู่ตรงแคร่หน้าบ้านได้มองไปยังทิศที่มาของเสียงตาขวาง “ทีกินเหล้าเสียงดังลั่นกลางดึกทุกคืนฉันยังไม่เคยบ่น ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะพี่ชื่น ฉันอโหสิให้ทุกอย่างแล้ว อย่างมาหาเรื่องกันรายวันแบบนี้”“อโหสิอะไรกัน” บานชื่นตะโกนข้ามรั้ว “ต้องเป็นฉันต่างหากที่พูดคำนี้ หน็อย อุตส่าห์ช่วยให้มีงานมีการทำ ดันเนรคุณกินบนเรือนขี้บนหลังคา ทำมารยาคิดยั่วผัวฉัน”วรรณารีมือสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือด เธอใช้มือกอดรอบตัวไว้แน่นเพื่อข่มตัวเองไม่ให้คายน้ำขม ๆ ออกมา “ผู้หญิงท้องอย่างฉันนี่นะจะไปยั่วใครไหว พี่เชื่อผัวจนหน้ามืดตามัวมองไม่เห็นความจริง ถ้าวันนั้นป้าสายไม่เอาไม้ไปแพ่นกบาลผัวพี่ ฉันคงต้องตกนรกโดนไอ้ผู้ชายเลว ๆ ข่มขืนจนตายทั้งเป็น!”“นังวรรณ แกถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ แกว่าใครเลว” คนหลงสามีเท่าชีวิตไม่ยินยอมพร้อมใจ“ไอ้โชติผัวเอ็งนั่นแหละเลว” เสียงแหบอันเป็นเอกลักษณ์ของสายดังขึ้น ไม่พูดเปล่า เธอยังเดินถือมีดอีโต้ทั้งสองมือออกจากประตูรั้วและตรงรี่ไปยังประตูบ้านของบานชื่นที่อยู่ติดกันอย่างไม่ลังเลใด ๆ“อีแก่

  • จิ๊ดริดที่รัก   2. จิ๊ดริดที่รัก

    อีกสามเดือนต่อมาช่วงกลางดึกท่ามกลางฟ้าแลบฟ้าร้องและสายฝนที่กระหน่ำมาแบบไม่ขาดสายนานนับสองชั่วโมงแล้วไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย ๆ ตรงบ้านหลังเล็กท้ายสวนผลไม้ ได้มีเสียงตวาดของสายดังลั่นอยู่ทั่วบ้าน“แม่วรรณ! เธอจะมาตายที่บ้านนี้ ฉันไม่ว่า เธอจะมาเป็นผีเฝ้าที่นี่ ฉันก็ไม่ถือ แต่เธอจะปล่อยให้ลูกไม่มีโอกาสลืมตาดูโลกแบบนี้ไม่ได้ ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”...ลูก?ลูกหรือ...พูดเรื่องอะไร...ลูกใคร?ลูกแม่!ลูกแม่อยู่ไหนตอนนี้!“อึก...เฮือก...” หญิงสาวตัวสะท้านเยือกพร้อมกับหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่“ดี หายใจเข้าแรง ๆ อย่างนั้น ดี ดี หายใจลึก ๆ เธอยังมีลูกอยู่ จำเอาไว้ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด” เสียงแหบ ๆ ของสายพูดดังขึ้นที่ปลายเท้า ผสานกับเสียงฝนตกฟ้าร้องที่ดังอย่างต่อเนื่องดั่งฟ้าถล่มวรรณารีเลื่อนสายตาที่ยังพร่ามัวไปยังที่มาของเสียง ก็เจอกับหญิงสูงวัยรูปร่างผอม ใบหน้าตอบ แววตาแข็งกระด้าง ผมเผ้ารุงรังไม่อยู่ทรง แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เห็นใบหน้านี้“ป้าสาย” หญิงสาวเรียกอย่างอ่อนระโหย“จ...เจ็บมาก วรรณไม่ไหวแล้ว”“อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อย เธอจะยอมแพ้ไม่ได้นะวรรณ จำเอาไว้ ลูกของเธอต้องมีโอกาสเติบใหญ่ แ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status