จิ๊ดริดที่รัก

จิ๊ดริดที่รัก

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-19
โดย:  ฉันรักอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel12goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
7บท
8views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

จิ๊ดริด เด็กน้อยตัวอวบ (ที่กำลังจะแหย่เท้าเข้าไปในเขตอ้วนอยู่ทุกขณะ) ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามจากคนสนิทรอบตัวว่าเป็นนางฟ้านำโชค แล้วเธอก็ชอบสมญานามนี้ของตัวเองมาก จิ๊ดริดเกิดมามีพ่อชื่อวรรณารีและแม่ชื่อวรรณารี ซึ่งเธอก็ไม่คิดว่ามันผิดปกติตรงไหนตราบใดที่ชีวิตตอนนี้มีความสุข แต่มาวันหนึ่งเธอก็ต้องแปลกใจที่จู่ ๆ ก็มีพ่อชื่อพีรายุโผล่เข้ามาเฉยเลย (แต่แม่ก็ยังชื่อวรรณารีนะ) เอาล่ะสิ ยุ่งแล้ว จะทำยังไงดีล่ะทีนี้ จะไม่ยุ่งได้อย่างไรในเมื่อแม่ไม่ยอมให้เธอมีพ่อชื่อพีรายุ ไม่เท่านั้นยังมีแม่มดใจร้ายและยาเสน่ห์เข้ามาเกี่ยวข้องอีก เด็กหญิงจิ๊ดริดแบบเธอจะทำยังไงล่ะเนี่ย! ++ นิยายชายหญิง ++ feelgood ค่ะ จบดี ไม่มีดราม่า ไม่มีปมใด ๆ ++จะเป็นเรื่องเล่าแนวเด็ก ๆ คล้ายแนวนิทานเรื่องหนึ่ง ++ไม่มี NC

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

1. กาลครั้งหนึ่ง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...

เอ๊ะ??

ไม่ใช่สิ แค่ไม่กี่ปีเอง ไม่นานขนาดนั้น

อืม...แต่คิดอีกที ผ่านไปแค่หนึ่งวินาทีมันก็คืออดีตไม่ใช่หรือ ต้องเรียกกาลครั้งหนึ่งได้ หยวน ๆ

เอาล่ะ! เริ่มแล้วนะ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

ในยามค่ำคืน ณ คฤหาสน์หรูใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำไปทั้งหลังแบบไม่กลัวค่าไฟ แต่สภาพอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยในคฤหาสน์ตอนนี้กลับไม่ได้เย็นเหมือนสภาพแวดล้อมรอบตัวเลยสักนิด

“ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้น เรารู้จักกันมานานคุณก็น่าจะรู้นิสัยฉันดี ทำไมคุณเปลี่ยนไปแบบนี้คะพี เมื่อสองวันก่อนคุณยังบอกว่ารักฉันมากอยู่เลย แต่มาวันนี้กลับปรักปรำฉัน ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ” วรรณารีที่นั่งคุกเข่าสะอื้นไห้อยู่กับพื้นได้เอื้อมมือมากอดขาสามีเอาไว้แน่นและเงยหน้าที่มีแต่คราบน้ำตามองเขาอย่างเสียใจปานจะขาดใจตาย

พีรายุที่ใบหน้าดำคล้ำก้มลงมองภรรยาแววตาขุ่นและแฝงด้วยความรังเกียจอย่างสุดประมาณ เขากระตุกขาข้างที่โดนกอดออกอย่างแรงทำให้วรรณารีเสียจังหวะล้มกลิ้งกับพื้น

“โอ๊ย” วรรณารีอุทานด้วยความเจ็บ

“วรรณ” พีรายุหน้าเสีย แววตาตอนนี้กลับกลายเป็นเสียใจและรู้สึกผิดอย่างสุดประมาณแทน เขาทำท่าจะเข้าไปประคองภรรยา แต่โดนมือเรียวของหญิงสาวอีกคนหนึ่งรั้งเอาไว้เสียก่อน

“พีคะ” จินดาราเรียกชื่อและมองสบตาเขาด้วยแววตาดำลึกยากจะหยั่งถึง

พีรายุร่างกายกระตุกเมื่อเจอสัมผัสของจินดารา แววตาของเขาที่มองตรงไปยังวรรณารีเปลี่ยนเป็นประกายกร้าวอีกครั้ง

เขาใช้นิ้วชี้หน้าวรรณารี “ถ้าไม่ยอมบอกว่าเอาเครื่องเพชรประจำตระกูลฉันไปไว้ที่ไหน ขี้ขโมยแบบเธอก็อยู่ที่บ้านนี้ไม่ได้อีก เลือกเอาว่าจะยอมบอกหรือว่าให้ฉันไล่เธอออกไป”

วรรณารีเงยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตามองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ในใจตอนนี้เหมือนมีหนามแหลมนับพันมารุมข่วนจนเจ็บปวดแทบปางตาย “ฉันไม่ได้ทำ” เธอเค้นเสียงผ่านไรฟัน

พีรายุสาวเท้าเข้าหาด้วยสีหน้าถมึงทึง สายตาที่มองมายังวรรณารีนั้นแข็งกระด้างไม่หลงเหลือความรักความเสน่หาเหมือนที่เคยเป็นอีก “งั้นเธอออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้ บ้านหลังนี้ไม่ต้อนรับคนสารเลว นิสัยน่าขยะแขยงแบบเธออีก ในเมื่อไม่ยอมบอกก็ไม่เป็นไร ฉันยกให้ ถือว่าเอาไปเป็นเงินเผาศพตอนตายของเธอก็แล้วกัน ออกไป๊! ออกไปก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจมาลากเธอเข้าคุก”

วรรณารีเหมือนโดนสายฟ้าฟาด เธอมองเขาเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง “ทำไมคุณกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลใช้แต่อารมณ์แบบนี้ คุณเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืนได้ยังไง” หลังพูดจบเธอก็สาดสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังไปยังจินดาราที่ยืนควงแขนพีรายุและทำหน้าเย้ยหยันอยู่ด้านข้าง

“เพราะเธอใช่ไหมที่เป่าหูคุณ เธอเป็นคนเล่าเรื่องใส่ร้ายฉันแล้วคุณก็เชื่อ ทำไมคุณเป็นแบบนี้ คุณลืมความรักนับสิบปีของเราไปหมดเพียงเพราะได้นอนกับผู้หญิงคนนี้แค่ครั้งเดียว คุณโดนผู้หญิงคนนี้วางยาหรือไง”

จินดาราที่ยืนอยู่ด้านข้างมองวรรณารีตาขวาง

ฉาด! ฉาด!

พีรายุตบหน้าวรรณารีอย่างแรง “ห้ามว่าเมียฉันเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้”

วรรณารีที่ล้มพังพาบอยู่กับพื้นใช้มือกุมแก้มอย่างตกใจและเสียใจ นี่เป็นครั้งแรกที่พีรายุทำร้ายร่างกายเธอ

หญิงสาวโซเซลุกขึ้นยืนและมองหน้าสามีอย่างโกรธแค้น “ในเมื่อทำกันขนาดนี้ ชาตินี้อย่าได้หวังจะเจอกันอีก ฉันจะไม่มีวันอภัยให้คุณเลย”

วรรณารีวิ่งออกจากบ้านไปด้วยสภาพที่บอบช้ำทั้งกายและใจ

พีรายุทำท่ามึนงงอยู่ชั่วขณะ เขาสะบัดหน้าไปมาอยู่หลายทีเพื่อเรียกสติ กระทั่งเห็นแผ่นหลังของวรรณารีหายลับไปจากประตูรั้ว ชายหนุ่มจึงมีสีหน้าตื่นตกใจให้เห็น

เขาตะโกนเรียกเธอเสียงดังลั่น “วรรณ ผมขอโทษ กลับมาก่อน” แล้วตั้งท่าจะวิ่งตามออกไป

จินดารารีบวิ่งไปกระชากแขนของเขาไว้ “พีคะ อย่าตามไปค่ะ” เธอจิกเล็บไปที่แขนเขาจนจมลึกเข้าไปในเนื้อ

พีรายุกลับมามีสีหน้ามึนงงอีกครั้ง เขาหันมามองจินดารา จากแววตาที่มองมาคล้ายคนแปลกหน้าได้ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นรักและลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น “นี่ผมเป็นอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงสับสน

“คุณคงเหนื่อยเกินไปค่ะ ไปพักกับจินในห้องดีกว่านะคะ” จินดาราเข้าไปคลอเคลีย “นอนพักเยอะ ๆ คุณจะได้หายเหนื่อย”

ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตาหวานเชื่อม “ขอบใจนะที่รัก คุณดีกับผมที่สุด ผมรักคุณนะ” พีรายุใช้ทั้งสองมือลูบไล้ไปทั่วเรือนกายเย้ายวนของจินดาราอย่างลุ่มหลงจนเธอหัวเราะรื่น สองหนุ่มสาวพากันตระกองกอดเดินไปยังห้องนอนคล้ายไม่มีเหตุวุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้นมาก่อน

-----

วรรณารีสะดุ้งตื่นในช่วงหัวรุ่งพร้อมกับอาการหอบถี่และเหงื่อผุดซึมเต็มตัวคล้ายกับเพิ่งผ่านการออกกำลังกายอย่างหนักมาก็ไม่ปาน

หญิงสาวค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอนอย่างลำบากก่อนจะกระเถิบไปนั่งพิงกำแพงห้องอย่างหมดเรี่ยวแรง

“ตื่นแล้วก็รีบลุก ตอนนี้ตีห้าแล้ว เดี๋ยวไม่ทันรถ” เสียงแหบของหญิงสูงวัยดังขึ้นที่หน้าห้อง

วรรณารีตอบกลับไปเสียงเบา “ขอล้างหน้าแปรงฟันสิบนาทีนะป้า” ว่าแล้วเธอก็เดินไปคว้าอุปกรณ์ล้างหน้าที่ใส่ขันไว้ตรงมุมห้องและเดินออกไปหลังบ้านเพื่อชำระล้างตัวเอง

สายเห็นใบหน้าซีดเผือดอย่างคนที่นอนหลับไม่สนิทของเธอก็ได้แต่ถอนหายใจยาวก่อนจะไปจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองเช่นกัน

ในช่วงเวลาหกโมงเช้าเช่นนี้อาจดูเช้าตรู่สำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ไม่ใช่สำหรับกลุ่มคนหลายสิบชีวิตที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางภูเขาขยะกองมหึมาของจังหวัดสมุทรปราการ

ผู้คนหลายสิบคนเหล่านี้ต่างสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด รวมถึงใบหน้าของตนเองที่ปิดจนเกือบมิดเหลือแค่ดวงตาเท่านั้น

พวกเขาทั้งหลายต่างถือกระสอบฟางไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือไม้แหลมสำหรับคุ้ยเขี่ยบรรดาขยะที่ทับถมกันอยู่เพื่อหาสมบัติเอาไปขายแลกเศษเงินสำหรับประทังชีวิต

“ไหวหรือเปล่าวรรณ ท้องตั้งหกเดือนแล้ว วันนี้ก็ร้อนด้วย” เสียงถามอย่างเห็นใจดังขึ้นมาจากด้านข้าง

“ไหวพี่” วรรณารีหันใบหน้าที่มีแต่เหงื่อมาตอบสมร เพื่อนร่วมอาชีพที่ใจดีคนหนึ่ง

“เหงื่อเต็มเชียว เขาบอกคนท้องจะร้อนกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว ไปนั่งพักสักสิบนาทีเถอะ ให้เหงื่อแห้งก่อนแล้วค่อยมาทำต่อ วันนี้มีขยะมาลงเยอะยังไงก็ไม่มีคนแย่งไปหมดหรอก”

วรรณารีพยักหน้าน้อย ๆ เพราะรู้สึกถึงสภาพร่างกายที่เริ่มทนไม่ไหวเช่นกัน เธอหิ้วกระสอบฟางส่วนของตนขึ้นมาและปลีกตัวมานั่งพักที่ข้างพงหญ้าสูง ระหว่างนั่งพักสายตาเธอก็มองไปรอบ ๆ ภูเขาขยะที่กลายเป็นแหล่งรายได้แหล่งเดียวของเธออย่างสะท้อนใจไปด้วย

หญิงสาวมองนิ่งไปที่ภูเขาขยะเบื้องหน้า แต่ใจนั้นกลับเหม่อลอยคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน

เธอวิ่งออกจากบ้านที่เคยเป็นเรือนหอของตัวเองด้วยใจที่แตกสลาย

ระหว่างนั่งรถเมล์ไปอย่างไร้จุดหมาย สายตาก็เหลือบไปเห็นบึงขนาดใหญ่ข้างทาง เธอรีบลงจากรถและมุ่งไปที่บึงกว้างแห่งนั้นอย่างไม่ลังเล

ในเมื่อชีวิตนี้มันยากนักก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตให้ยุ่งยากอีกต่อไป!

ขณะที่ร่างกายกำลังจมมิดลงก้นบึงวรรณารีก็รู้สึกถึงแรงฉุดและกระชากร่างของเธอให้พ้นจากผิวน้ำ แม้จะดิ้นรนขัดขืนสักเพียงใดแต่ก็ไม่อาจทานแรงของคนที่ทำงานหนักมาโดยตลอดอย่างสายได้ เธอจึงโดนลากขึ้นบนบกและไปโรงพยาบาลอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิด

แต่แล้วก็เหมือนโดนฟ้าผ่า ผลตรวจร่างกายของเธอนั้นพบว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว

วรรณารีเรียกร้องให้เอาเด็กออกอย่างไม่ลังเล

ฉาด!

‘เวลาสนุก เธอกับผู้ชายก็สนุกกันสองคนโดยที่เด็กมันไม่ได้ร่วมรับรู้ด้วย แล้วพอมาเวลาแบบนี้กลับผลักให้เด็กมารับกรรมในสิ่งที่พ่อกับแม่ก่อไว้ มันใช้ได้ที่ไหน สำนึกความเป็นคนมีบ้างไหม ถึงตอนนี้เด็กมันจะโตแค่ถั่วเขียวแต่มันก็คือคนคนหนึ่ง เธอจะใจยักษ์ทำลายชีวิตคนคนหนึ่งไม่ให้เกิดมาได้ลงคอเชียวหรือ’

เพราะแรงตบและคำด่าของสายในวันนั้นทำให้วรรณารีสำนึกขึ้นได้ ใช่...เธอไม่ควรให้ลูกมารับกรรมแบบนี้

“แม่ขอโทษนะลูก แม่จะเลี้ยงดูหนูให้ดีที่สุด” วรรณารีก้มลงพูดกับครรภ์อายุหกเดือนของเธอ ขณะที่ดวงตายังคงหมองเศร้าอยู่ไม่รู้คลาย แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือราคาถูกของตัวเองมาเปิดดูข่าวการรับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นของพีรายุครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยใจที่เจ็บแปลบ

“ในเมื่อคิดจะตัดใจแล้วต้องตัดให้ขาด ไม่อย่างนั้นเราเองนั่นแหละจะลำบาก” เสียงแหบพร่าของสายดังขึ้น

วรรณารีเหลียวมองสายที่เดินมานั่งอยู่ด้านข้างพร้อมกับใช้หมวกฟางโบกพัดใบหน้าเพื่อคลายร้อนให้กับตัวเองไปด้วย

สายเหลียวมามอง “นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว อะไรควรตัดก็ให้ตัด มัวแต่เอาใจไปพัวพันกับเรื่องที่ทำร้ายเรามันก็ยิ่งทำให้เราเจ็บปวดมากขึ้น” สายนิ่งไปชั่วขณะก่อนพูดต่อ “ถ้าไม่อยากโดนคนมองว่าเป็นบ้าแบบฉันก็ให้รีบตัดใจ”

“เอาเวลามาใส่ใจเรื่องใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาดีกว่า” สายปรายตามองไปยังช่วงท้องที่เริ่มนูนอย่างเห็นได้ชัดของวรรณารีก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินไปยังภูเขาขยะที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

วรรณารีใช้มือลูบท้องของเธออย่างทะนุถนอม ใช่...เธอควรตัดขาดเรื่องเก่า ๆ ออกไปให้หมดเสียที แล้วมาทุ่มเทกับห่วงที่เธอรับมาอย่างเต็มใจห่วงนี้ดีกว่า

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

นวนิยายที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
7
1. กาลครั้งหนึ่ง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...เอ๊ะ??ไม่ใช่สิ แค่ไม่กี่ปีเอง ไม่นานขนาดนั้นอืม...แต่คิดอีกที ผ่านไปแค่หนึ่งวินาทีมันก็คืออดีตไม่ใช่หรือ ต้องเรียกกาลครั้งหนึ่งได้ หยวน ๆเอาล่ะ! เริ่มแล้วนะกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในยามค่ำคืน ณ คฤหาสน์หรูใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำไปทั้งหลังแบบไม่กลัวค่าไฟ แต่สภาพอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยในคฤหาสน์ตอนนี้กลับไม่ได้เย็นเหมือนสภาพแวดล้อมรอบตัวเลยสักนิด“ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้น เรารู้จักกันมานานคุณก็น่าจะรู้นิสัยฉันดี ทำไมคุณเปลี่ยนไปแบบนี้คะพี เมื่อสองวันก่อนคุณยังบอกว่ารักฉันมากอยู่เลย แต่มาวันนี้กลับปรักปรำฉัน ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ” วรรณารีที่นั่งคุกเข่าสะอื้นไห้อยู่กับพื้นได้เอื้อมมือมากอดขาสามีเอาไว้แน่นและเงยหน้าที่มีแต่คราบน้ำตามองเขาอย่างเสียใจปานจะขาดใจตายพีรายุที่ใบหน้าดำคล้ำก้มลงมองภรรยาแววตาขุ่นและแฝงด้วยความรังเกียจอย่างสุดประมาณ เขากระตุกขาข้างที่โดนกอดออกอย่างแรงทำให้วรรณารีเสียจังหวะล้มกลิ้งกับพื้น“โอ๊ย” วรรณารีอุทานด้วยความเจ็บ“วรรณ” พีรายุหน้าเสีย แววตาตอนนี้กลับกลายเป็นเสียใจและรู้สึกผิดอย่างสุดประมาณแทน เขาทำท่าจะเข้าไปประคองภรรยา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-16
อ่านเพิ่มเติม
2. จิ๊ดริดที่รัก
อีกสามเดือนต่อมาช่วงกลางดึกท่ามกลางฟ้าแลบฟ้าร้องและสายฝนที่กระหน่ำมาแบบไม่ขาดสายนานนับสองชั่วโมงแล้วไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย ๆ ตรงบ้านหลังเล็กท้ายสวนผลไม้ ได้มีเสียงตวาดของสายดังลั่นอยู่ทั่วบ้าน“แม่วรรณ! เธอจะมาตายที่บ้านนี้ ฉันไม่ว่า เธอจะมาเป็นผีเฝ้าที่นี่ ฉันก็ไม่ถือ แต่เธอจะปล่อยให้ลูกไม่มีโอกาสลืมตาดูโลกแบบนี้ไม่ได้ ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”...ลูก?ลูกหรือ...พูดเรื่องอะไร...ลูกใคร?ลูกแม่!ลูกแม่อยู่ไหนตอนนี้!“อึก...เฮือก...” หญิงสาวตัวสะท้านเยือกพร้อมกับหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่“ดี หายใจเข้าแรง ๆ อย่างนั้น ดี ดี หายใจลึก ๆ เธอยังมีลูกอยู่ จำเอาไว้ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด” เสียงแหบ ๆ ของสายพูดดังขึ้นที่ปลายเท้า ผสานกับเสียงฝนตกฟ้าร้องที่ดังอย่างต่อเนื่องดั่งฟ้าถล่มวรรณารีเลื่อนสายตาที่ยังพร่ามัวไปยังที่มาของเสียง ก็เจอกับหญิงสูงวัยรูปร่างผอม ใบหน้าตอบ แววตาแข็งกระด้าง ผมเผ้ารุงรังไม่อยู่ทรง แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เห็นใบหน้านี้“ป้าสาย” หญิงสาวเรียกอย่างอ่อนระโหย“จ...เจ็บมาก วรรณไม่ไหวแล้ว”“อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อย เธอจะยอมแพ้ไม่ได้นะวรรณ จำเอาไว้ ลูกของเธอต้องมีโอกาสเติบใหญ่ แ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-16
อ่านเพิ่มเติม
3. วรรณารี 1
“หนวกหูโว้ย! ไม่เกรงอกเกรงใจกันบ้าง คนจะนอน” เสียงตวาดแหวดังมาจากข้างบ้านวรรณารีที่กำลังกล่อมลูกสาวนอนอยู่ตรงแคร่หน้าบ้านได้มองไปยังทิศที่มาของเสียงตาขวาง “ทีกินเหล้าเสียงดังลั่นกลางดึกทุกคืนฉันยังไม่เคยบ่น ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะพี่ชื่น ฉันอโหสิให้ทุกอย่างแล้ว อย่างมาหาเรื่องกันรายวันแบบนี้”“อโหสิอะไรกัน” บานชื่นตะโกนข้ามรั้ว “ต้องเป็นฉันต่างหากที่พูดคำนี้ หน็อย อุตส่าห์ช่วยให้มีงานมีการทำ ดันเนรคุณกินบนเรือนขี้บนหลังคา ทำมารยาคิดยั่วผัวฉัน”วรรณารีมือสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือด เธอใช้มือกอดรอบตัวไว้แน่นเพื่อข่มตัวเองไม่ให้คายน้ำขม ๆ ออกมา “ผู้หญิงท้องอย่างฉันนี่นะจะไปยั่วใครไหว พี่เชื่อผัวจนหน้ามืดตามัวมองไม่เห็นความจริง ถ้าวันนั้นป้าสายไม่เอาไม้ไปแพ่นกบาลผัวพี่ ฉันคงต้องตกนรกโดนไอ้ผู้ชายเลว ๆ ข่มขืนจนตายทั้งเป็น!”“นังวรรณ แกถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ แกว่าใครเลว” คนหลงสามีเท่าชีวิตไม่ยินยอมพร้อมใจ“ไอ้โชติผัวเอ็งนั่นแหละเลว” เสียงแหบอันเป็นเอกลักษณ์ของสายดังขึ้น ไม่พูดเปล่า เธอยังเดินถือมีดอีโต้ทั้งสองมือออกจากประตูรั้วและตรงรี่ไปยังประตูบ้านของบานชื่นที่อยู่ติดกันอย่างไม่ลังเลใด ๆ“อีแก่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-16
อ่านเพิ่มเติม
4. วรรณารี 2
ตอนที่วรรณารีตัดสินใจกระโดดน้ำตายเมื่อหกเดือนก่อนและสายช่วยเอาไว้ได้นั้น สายได้พาเธอกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านสองเดือนแรกที่เธอมาอยู่กับสาย เธออยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก อยากจะตายไปให้พ้น ๆ จากโลกอันเส็งเคร็งนี้ แล้วก็เป็นสายอีกนี่แหละที่ให้สติและคอยประคับประคองไม่ให้เธอคิดสั้น กระตุ้นให้เธอมีกำลังใจในการสู้ชีวิตเพื่อตัวเองและเพื่อชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในท้อง เพราะแรงใจจากสายทำให้วรรณารีฮึดสู้ขึ้นอีกครั้งหลังจากพักฟื้นร่างกายและจิตใจจนแข็งแรงขึ้นมาระดับหนึ่ง วรรณารีก็ไม่คิดอยู่เฉยอีกเพราะรู้ว่ามีอีกชีวิตที่กำลังรอการเลี้ยงดูจากเธอ เธอจึงเริ่มขวนขวายมองหาตำแหน่งงานว่างตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในละแวกนี้แต่ความที่เป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ จึงไม่มีใครสนใจรับหญิงสาวเข้าทำงาน แล้ววรรณารีเองก็ไม่กล้าไปสมัครงานที่ไหนไกลด้วยห่วงสวัสดิภาพของลูกในท้องและกลัว...กลัวที่จะเจอผู้ชายคนนั้นอีกระหว่างนั้น วรรณารีได้สังเกตเห็นอาชีพหนึ่งซึ่งผู้คนแถวนี้นิยมทำกัน รวมถึงสายด้วย เรียกได้ว่าทำอาชีพนี้กันเกือบครึ่งซอย นั่นก็คืออาชีพเก็บของเก่าและเก็บขยะขาย แต่ละบ้านของพวกเขาเหล่านั้นจะมีข้าวของที่เก็บมากองสุมอยู่เต็ม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-16
อ่านเพิ่มเติม
5. แม่แปรก
“วรรณ...อยู่บ้านใช่ไหม”“อยู่ค่ะคุณนาย” วรรณารีขานรับก่อนเปิดประตูออกมาจะว่าไปคนที่ใจดีและจริงใจกับเธอนอกจากสายแล้วก็ยังมียี่สุ่น เจ้าของสวนผลไม้ที่เธอและสายขออาศัยอยู่ด้วยนั่นเอง“ฉันเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดถึงรู้ว่าเธอคลอดลูกได้หลายวันแล้วก็เลยเอาขิงกับหัวปลีมาให้” ยี่สุ่นเอ่ยขึ้นวรรณารียกมือไหว้และยื่นมือรับของจากยี่สุ่นอย่างไม่อิดออดด้วยรู้จักนิสัยใจคอของเธอดี หากเอ่ยปากจะให้สิ่งไหนหรืออะไรกับใคร ยี่สุ่นก็ไม่ต้องการได้ยินถ้อยคำปฏิเสธใด ๆ จากอีกฝั่ง“เห็นว่าคลอดเองที่บ้านไม่ทันได้ไปโรงพยาบาล โชคดีมากนะที่ปลอดภัยด้วยกันทั้งคู่”“ค่ะคุณนาย โชคดีที่ป้าสายมาเจอพอดี ไม่อย่างนั้นวรรณกับลูกก็คงแย่เหมือนกัน” วันคลอดนั้นเธอบังเอิญหกล้มอย่างแรงจนกระเทือนถึงลูกในท้อง ประจวบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ไม่สามารถหารถเพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลได้ สายเลยตัดสินใจทำคลอดด้วยตัวเอง“สายเก่งเรื่องนี้อยู่แล้วนี่นะ...” ยี่สุ่นพูดทิ้งไว้เท่านั้นก็ไม่ได้สนใจขยายความต่ออีก เธอเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปสนทนากับสายต่อ ทิ้งให้วรรณารีนิ่วหน้ามองตามอยู่ด้านหลัง-----“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นเธอสดชื่นแบบนี้ รู
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-16
อ่านเพิ่มเติม
6. เริ่มต้นชีวิตใหม่
วันนี้บานชื่นและโชติรู้สึกเหมือนโดนฟ้าถล่มใส่หัวกันตั้งแต่เช้าเมื่อเห็นกระดาษสีขาวแผ่นใหญ่แปะอยู่ตรงหน้าประตูรั้ว ซึ่งแผ่นกระดาษดังกล่าวเป็นหมายศาลที่แจ้งให้ทั้งคู่ย้ายออกจากที่ดินแห่งนี้โดยทันที“ทำไมเป็นแบบนี้วะชื่น อยู่มาหลายปีดีดักก็ไม่เห็นโผล่มา แต่พอโผล่มาก็ดันมาไล่เราออกดื้อ ๆ”บานชื่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ต้องเป็นเพราะนังแก่นั่นแน่ ๆ มันต้องเป็นคนไปบอกเจ้าของให้ไล่เราออกไป เลวจริง ๆ”“นังแก่บ้า! นังสายบ้า! แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ นังสาระแน แกไปบอกเจ้าของที่มาไล่พวกกูใช่ไหม” บานชื่นเดินดุ่มไปหน้าประตูรั้วของบ้านสายพร้อมกับเขย่าประตูและตะโกนเรียกเสียงลั่น“ออกมาเดี๋ยวนี้! ออกมาพูดกับฉันให้รู้เรื่อง”แต่คนที่เดินส่ายอาดมาพร้อมกับปังตอทั้งสองมือกลับเป็นวรรณารีแทน “ไม่มีความเกรงใจในสมองกันเลยหรือ โหวกเหวกโวยวายรบกวนชาวบ้านเค้าแบบนี้”“ฉันไม่ต้องการพูดกับแก เรียกนังสายบ้าออกมา”“ห้ามเรียกป้าสายแบบนั้น ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ” วรรณารีตาเขียวปั้ด“เพราะแกใช่ไหม นังสายมันถึงวางแผนเล่นงานฉันกับผัวแบบนี้ คงคิดแก้แค้นแทนแกแน่ ๆ แกนี่ร้ายกาจไม่เบานะ นอกจากคิดจะแอ้มผัวฉันแล้วยังจะปั่นหัวอีแก่บ้านั่นมาเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-18
อ่านเพิ่มเติม
7. นางฟ้านำโชค 1
“ร้อนมากไหมลูก แม่เอาร่มบังแสงให้นะ” วรรณารีก้มลงพูดกับลูกสาวที่กำลังนอนอยู่ในรถซาเล้งพร้อมกับกางร่มคันโตให้เพื่อป้องกันเด็กน้อยให้พ้นจากแสงแดดยามสายที่รักวัยสามเดือนส่งยิ้มให้แม่อย่างน่าเอ็นดู อากาศร้อนไม่ได้สร้างความหงุดหงิดให้เด็กน้อยแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เด็กหญิงกลับนอนสอดส่ายสายตาไปโดยรอบเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อย่างสนอกสนใจเป็นที่ยิ่ง“วันนี้แดดร้อนไปหน่อย แม่ไม่น่าพาลูกออกมาเลย” วรรณารียังคงบ่นพึมพำไม่หยุดวันนี้เป็นครั้งแรกที่วรรณารีพาลูกสาวออกมาตระเวนเก็บของเก่าด้วยเนื่องจากสายออกไปทำธุระข้างนอก ตอนแรกหญิงสาวไม่คิดจะออกมาในวันนี้ แต่ไม่รู้เพราะอะไร ที่รักซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ชอบร้องไห้กลับร้องไห้โวยวายจนหน้าตาแดงก่ำคนเป็นแม่จึงลองนำลูกไปวางในรถซาเล้งที่ใช้รับซื้อของเก่าแล้วเข็นเล่นไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน น่าประหลาด ทันทีที่เริ่มเข็นรถ ที่รักก็หยุดร้องไห้เหมือนปิดสวิตช์ ไม่เท่านั้นยังหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจเป็นอันมาก ระหว่างนั้น นิ้วน้อย ๆ ของเธอก็ชี้ไปทางประตูรั้วไม่หยุด ยิ่งวรรณารีเข็นรถออกไปไกลจากบ้านเท่าไร เสียงหัวเราะของเด็กหญิงก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น ดวงตาดำขลับของเธอเปล่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-19
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status