Share

4. วรรณารี 2

last update Last Updated: 2025-08-16 17:21:53

ตอนที่วรรณารีตัดสินใจกระโดดน้ำตายเมื่อหกเดือนก่อนและสายช่วยเอาไว้ได้นั้น สายได้พาเธอกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน

สองเดือนแรกที่เธอมาอยู่กับสาย เธออยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก อยากจะตายไปให้พ้น ๆ จากโลกอันเส็งเคร็งนี้ แล้วก็เป็นสายอีกนี่แหละที่ให้สติและคอยประคับประคองไม่ให้เธอคิดสั้น กระตุ้นให้เธอมีกำลังใจในการสู้ชีวิตเพื่อตัวเองและเพื่อชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในท้อง เพราะแรงใจจากสายทำให้วรรณารีฮึดสู้ขึ้นอีกครั้ง

หลังจากพักฟื้นร่างกายและจิตใจจนแข็งแรงขึ้นมาระดับหนึ่ง วรรณารีก็ไม่คิดอยู่เฉยอีกเพราะรู้ว่ามีอีกชีวิตที่กำลังรอการเลี้ยงดูจากเธอ เธอจึงเริ่มขวนขวายมองหาตำแหน่งงานว่างตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในละแวกนี้

แต่ความที่เป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ จึงไม่มีใครสนใจรับหญิงสาวเข้าทำงาน แล้ววรรณารีเองก็ไม่กล้าไปสมัครงานที่ไหนไกลด้วยห่วงสวัสดิภาพของลูกในท้องและกลัว...กลัวที่จะเจอผู้ชายคนนั้นอีก

ระหว่างนั้น วรรณารีได้สังเกตเห็นอาชีพหนึ่งซึ่งผู้คนแถวนี้นิยมทำกัน รวมถึงสายด้วย เรียกได้ว่าทำอาชีพนี้กันเกือบครึ่งซอย นั่นก็คืออาชีพเก็บของเก่าและเก็บขยะขาย แต่ละบ้านของพวกเขาเหล่านั้นจะมีข้าวของที่เก็บมากองสุมอยู่เต็มพื้นที่บ้าน มีทั้งแบบประกาศรับซื้อและไปเดินหาเก็บเอาตามถังขยะ ตามข้างทาง หรือไปที่ภูเขาขยะในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งสายเองก็ออกไปที่ภูเขาขยะสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง

เมื่อวรรณารีพูดเรื่องจะประกอบอาชีพนี้กับสาย สายไม่เอ่ยปากอะไรสักคำ เพียงแค่เดินนำเธอไปยังมุมหนึ่งของบริเวณบ้านและอนุญาตให้เธอใช้พื้นที่นี้เก็บของที่ได้มาในแต่ละวัน ไม่เท่านั้น ยังเดินตามช่วยเธอเก็บขยะอยู่นับสัปดาห์จนวรรณารีเริ่มคุ้นชินและคัดแยกของเป็น เธอถึงยอมปล่อยให้ออกมาเพียงลำพัง

การเก็บของเก่านั้นรายได้ไม่แน่นอน อยู่ที่ความขยันส่วนหนึ่ง แล้วอีกส่วนหนึ่งก็อยู่ที่โชค หากวันไหนโชคดีเจอของดี ของราคาสูงอย่างทองแดง อะลูมิเนียม หรือแบตเตอรี่เก่า วันนั้นก็ขายได้เงินหลักพันบาท วันไหนโชคไม่ดี เก็บของได้น้อยก็ไม่มีเงินเข้ามือเลย ต้องรอสะสมไว้เยอะ ๆ ถึงจะนำออกขายทีหนึ่ง

โชคดีที่เหตุการณ์ที่ไม่มีเงินเข้ามือนั้นเกิดกับวรรณารีน้อยมาก เธอมีเงินเข้ามือแทบจะทุกวัน มากบ้างน้อยบ้างแต่ก็ยังถือว่าเป็นรายได้ เมื่อเห็นเงินเก็บในมือจำนวนห้าพันบาทจากการประกอบอาชีพนี้เพียงแค่ครึ่งเดือน วรรณารีก็ยิ่งมีแรงฮึดสู้ เธอมักจะออกเก็บของเก่าแต่เช้าตรู่ กลับบ้านอีกทีก็บ่ายคล้อยเป็นประจำทุกวัน

เมื่อเห็นความขยันขันแข็งของวรรณารี บานชื่นที่อยู่ข้างบ้านก็ชวนเธอมารับงานพิเศษกับร้านรับซื้อของเก่าขนาดใหญ่ร้านหนึ่งซึ่งจะมีมาเป็นระยะ งานที่ว่าคือการไปตระเวนรับซื้อของตามหมู่บ้านจัดสรรหรือบริเวณชุมชนหนาแน่นตามที่เถ้าแก่ร้านแจ้งไว้ เมื่อฟังเงื่อนไขและรายได้ วรรณารีจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

หากวันไหนมีงานพิเศษ เถ้าแก่จะขับรถพาพวกเธอไปยังชุมชนที่กำหนดตั้งแต่เช้ามืดและมอบเงินทุนสำหรับรับซื้อของเก่าให้แต่ละคนด้วย

เมื่อได้รับเงินแล้ว พวกเธอต่างแยกย้ายไปป่าวประกาศรับซื้อโดยรอบชุมชนจนถึงเย็น เมื่อกลับมาถึงร้านก็คัดแยกของที่ได้มาชั่งน้ำหนัก หลังจากนั้นก็ขายของเหล่านี้กลับคืนให้ที่ร้าน โดยร้านจะคิดราคารับซื้อสูงกว่าที่พวกเธอรับซื้อจากชาวบ้านมาในช่วงเช้า หลังจากหักทุนที่ทางร้านออกให้ก่อนไปแล้ว ส่วนต่างที่เหลือคือรายได้ที่พวกเธอจะได้รับ

ครั้ง ๆ หนึ่งได้เงินเข้ากระเป๋าประมาณสี่ร้อยถึงห้าร้อยบาท แม้รายได้จะไม่ต่างจากการเดินเก็บเองแต่วรรณารีก็พอใจเพราะไม่ต้องเหนื่อยเดินไกลเหมือนทำเอง

หลังจากที่ได้ชวนวรรณารีไปทำงานที่ร้านเถ้าแก่ในครั้งนั้น บานชื่นมักจะถือโอกาสให้วรรณารีช่วยทำงานอยู่เสมอ ทั้งไปช่วยคัดแยกประเภทของที่เก็บมา หรือไปนั่งแยกกระดาษสีและขาวดำนานครึ่งค่อนวันในแต่ละครั้ง และเป็นงานใช้เปล่า ไม่มีค่าจ้างอะไรให้ แต่วรรณารีก็ไม่คิดทักท้วง ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่บานชื่นช่วยหางานให้

หลังจากเดินเข้าออกบ้านของบานชื่นบ่อยครั้ง เธอก็พบว่าสายตาของโชติ สามีบานชื่นนั้นมองเธอเปลี่ยนไป เป็นสายตาที่แสดงถึงความกระหายอยากซึ่งมันให้ความรู้สึกน่าขยะแขยงมากสำหรับเธอ เมื่อรู้สึกได้เช่นนั้น วรรณารีจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กับโชติเพียงลำพังมาโดยตลอด

วันเกิดเหตุ วรรณารีตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนกว่าแล้ว วันนั้นบานชื่นออกไปขายของที่ร้านรับซื้อของเก่าและไหว้วานวรรณารีให้มาช่วยแกะแยกส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่บ้าน เพราะหากแกะแยกส่วนเครื่องในของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ออกเป็นหมวดหมู่จะขายได้ราคาสูงกว่ายกเครื่องขาย งานนี้ค่อนข้างยากมากพอสมควร แต่เพราะไม่อยากมีปัญหากับบานชื่น วรรณารีจึงได้แต่ตอบตกลง

ระหว่างที่กำลังตั้งใจแยกชิ้นส่วนอย่างขะมักเขม้น โชติซึ่งไปดื่มเหล้ากับเพื่อนนอกบ้านได้เดินโซซัดโซเซกลับเข้ามา เมื่อรู้ว่าบานชื่นไม่อยู่บ้าน โชติจึงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย

เพราะความที่อายุครรภ์มากแล้วทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก ประกอบกับแรงผู้หญิงอย่างไรก็ไม่สามารถสู้แรงผู้ชายได้ วรรณารีก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนสุดเสียง แต่แล้วก็ดูจะสิ้นหวัง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาทำงาน ผู้คนรอบข้างต่างออกไปทำงานกันหมด

ในจังหวะที่กำลังเพลี่ยงพล้ำนั้นเอง ได้มีเสียงด่าทอของหญิงสูงอายุดังมาจากด้านข้างพร้อมกับเหวี่ยงอะไรสักอย่างไปที่ศีรษะของโชติจนหงายหลังและร้องโอดโอยออกมาพร้อมเลือดสด ๆ ที่ขมับ เมื่อกวาดสายตาดูถึงรู้ว่าสายได้ใช้ไม้หน้าสามฟาดไปที่ศีรษะของโชติจนได้เลือด

พร้อมกันนั้นก็เป็นจังหวะที่บานชื่นกลับมาพอดี เสียงหวีดร้อง เสียงประณามและก่นด่าของบานชื่นกับสายก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดตอน หลังเหตุการณ์วันนั้น วรรณารีกับบานชื่นได้กลายเป็นศัตรูกันจนถึงปัจจุบัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จิ๊ดริดที่รัก   75. ชวนไปฉลองวันเกิด

    “เอกสารที่ผมรวบรวมไว้ช่วงที่ท่านไม่อยู่ครับ” ไวพจน์มาหาพีรายุที่โรงพยาบาลในเช้าวันต่อมาได้หอบเอกสารเป็นตั้งมาด้วย “ในนี้เป็นสำเนาระบุสเปกวัสดุก่อสร้างที่มีลายเซ็นของจินดารากับเสี่ยทรงยศ แล้วยังมีรูปถ่ายที่ทั้งสองไปเจอกันตามที่ต่าง ๆ ด้วย ที่เหลือคือชื่อของพนักงานในบริษัททั้งหมดที่เป็นคนของจินดาราครับ”พีรายุไล่เปิดเอกสารดูหน้าเครียด “แล้วตอนนี้เริ่มทำคำสั่งซื้อพวกนี้หรือยัง”“เริ่มสั่งไปบ้างแล้วครับ รายละเอียดอยู่ด้านล่างสุด เสี่ยทรงยศจะเริ่มลงไซต์งานอาทิตย์หน้าแล้ว ผมว่าคำสั่งซื้อทั้งหมดน่าจะเรียบร้อยภายในอาทิตย์นี้”“ขอบคุณคุณไวพจน์มากนะครับที่เหนื่อยมาหลายอาทิตย์ เอกสารพวกนี้ทิ้งไว้ที่ผม ผมจะจัดการที่เหลือต่อเอง คุณไม่ต้องทำอะไรแล้ว”“ให้ผมช่วยเถอะครับ ท่านออกโรงคนเดียวจะเป็นอันตรายได้”“เรื่องนี้ผมต้องทำคนเดียว ถ้าประธานบริษัทเป็นคนถือเอกสารไปหาผู้ใหญ่ของกระทรวงนั้นเองจะดูน่าเชื่อถือกว่า”“ไม่อันตรายแน่นะครับ”“ไม่เป็นไร ผมจะระวังตัว”ไวพจน์กลับไปแล้วแต่พีรายุยังคงนั่งอ่านเอกสารเหล่านั้นอย่างไม่ละสายตาจนไม่

  • จิ๊ดริดที่รัก   74. จิ๊ดริดมีพ่อชื่อพีรายุ 2

    สายเดินเข้ามาใกล้สองพ่อลูกแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับหลาน “ตอนนี้เราปล่อยให้พ่อกับแม่พักก่อนดีกว่านะ แล้วพรุ่งนี้ยายจะพามาหาแต่เช้า”แม้ไม่เต็มใจแต่พีรายุก็ยอมคลายอ้อมกอดจากลูกแต่โดยดี เช่นเดียวกับที่รัก เธอมองมายังพีรายุอย่างเสียดาย เด็กหญิงเอียงหน้าไปหอมแก้มพีรายุฟอดใหญ่ก่อนยิ้มให้ “พรุ่งนี้จิ๊ดริดจะมาหาพ่อตั้งแต่เช้า พ่อกับแม่นอนดี ๆ อย่าทะเลาะกันนะ”วรรณารีนั่งหน้าแดงมองตามสองยายหลานจนแผ่นหลังของทั้งคู่ลับสายตาไปเธอจึงได้ถอนสายตากลับเพื่อมาเจอกับแววตาลุ่มลึกของอีกคนที่ยังอยู่ในห้อง“ผมขอบคุณคุณมากนะครับที่ยอมเปิดโอกาสให้ผมอีกครั้ง”“ฉันแค่อนุญาตให้ลูกเรียกพ่อ ตอนนี้ฉันยอมรับคุณแค่เป็นพ่อของลูกเท่านั้น”รอยยิ้มของพีรายุลดลง เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ “แล้วเรื่องของเราล่ะครับ”วรรณารีจ้องเขาด้วยใจที่แปลบปร่า “ฉันไม่สามารถทำใจรับคุณมาเป็นคู่ชีวิตได้อีก”“วรรณครับ เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตคุณก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ในใจผมไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มีแค่คุณเท่านั้น ยอมให้โอกาสเราทั้งคู่มาเป็นครอบครัวกันอีกครั้งเถอะนะครับ”วรร

  • จิ๊ดริดที่รัก   73. จิ๊ดริดมีพ่อชื่อพีรายุ 1

    “แม่วรรณ เธอมันบ้าบิ่นเกินไปนะ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ถ้าเกิด...ถ้าเกิด...” สายเอ่ยตำหนิวรรณารีทันทีหลังจากที่หมอและพยาบาลออกจากห้องไปแล้ววรรณารีที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ได้หลุบตานิ่งอย่างสำนึกผิด ใบหน้าและลำตัวเธอมีแต่รอยฟกช้ำโดยเฉพาะตรงลำคอที่แดงช้ำอย่างน่ากลัว “วรรณใจร้อนเกินไปจริง ๆ ค่ะ วรรณขอโทษ”“คนที่เธอควรจะขอโทษก็คือจิ๊ดริดกับคุณพีต่างหาก” สายชี้ไปยังที่รักซึ่งยืนสำนึกผิดอยู่ข้างเตียงและพีรายุซึ่งนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ที่อยู่ติดกัน“ผมไม่เป็นอะไรครับ แค่แผลถาก ๆ” พีรายุรีบพูดช่วย“แม่จ๋า จิ๊ดริดไม่ดี จิ๊ดริดช่วยแม่ไม่ได้” ที่รักน้ำตาเตรียมจะหยดแหมะออกมาเต็มที่วรรณารีรีบกอดปลอบลูก “ไม่ใช่ความผิดจิ๊ดริด แม่หาเรื่องเอง ถ้าแม่ไม่เข้าไปในนั้นแม่ก็จะไม่โดนทำร้าย”“แต่จิ๊ดริดเตือนแม่ไม่ได้ จิ๊ดริดไม่เห็นอะไรเลย”“ก็เพราะหนูไม่สบายอยู่ อย่าโทษตัวเองสิลูก แล้วแม่ก็ไม่ได้บาดเจ็บเยอะแยะ อีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จิ๊ดริดเสียอีกที่ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ไข้จะได้ไม่กลับมา”“จิ๊ดริดหายแล้ว ไม่มีไข้แล้ว”“หายก็ก

  • จิ๊ดริดที่รัก   72. วรรณารีโดนทำร้าย

    “เอ็งแน่ใจนะว่าไม่มีใครอยู่ที่ร้านแน่”บานชื่นถามสามีอย่างกระวนกระวายใจ ส่วนมือนั้นยังคงสาละวนดึงทองแดงจากกองใหญ่มาใส่ในรถเข็นของตัวเอง“แน่สิวะ ข้ามาแอบดูหลายคืนแล้ว ในร้านไม่มีคนเฝ้าเลยสักคน พวกคนงานไปอยู่ที่บ้านพักฝั่งตรงข้ามหมด ถ้าจะมีก็มีแต่ผีเท่านั้นแหละ”“เอ็งอย่าพูดสิ ยิ่งมืด ๆ อยู่”“กลัวอะไรกับผี อย่ามัวแต่พูด รีบขนขึ้นรถเร็วเข้า เอาไปให้ได้มากที่สุด พรุ่งนี้จะได้เอาไปขายที่ร้านเฮียอุย คุณภาพดีแบบนี้ได้หลายหมื่นแน่มึง” โชติยิ้มย่องเมื่อเห็นทองแดงเกรดดีที่กองเป็นภูเขาอยู่ตรงหน้าเพราะเอาเงินไปลงทุนกับเหล็กจนหมด แต่เหล็กกลับขายไม่ออกช่วงนี้ ทำให้เขาและภรรยาอดอยากปากแห้งมาหลายสัปดาห์ กระทั่งมาได้ยินคนงานในร้านของวรรณารีคุยกันเรื่องทองแดงกองพะเนินในร้านที่มีลูกค้าติดต่อขอซื้อเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสร้างรายได้ให้วรรณารีเป็นล้านบาทโชติและบานชื่นแค้นใจจนแทบกระอักเลือด ขณะที่พวกเขาตกต่ำจนแทบไม่มีหนทางให้เดิน แต่ศัตรูอย่างวรรณารีกลับเจริญไม่หยุด แบบนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาด พวกเขาต้องดึงผลประโยชน์ที่วรรณารีได้มาเป็นของตัวเองส่วนหนึ่ง

  • จิ๊ดริดที่รัก   71. จิ๊ดริดไม่สบาย 2

    “แม่จ๋า อุ้ม” เมื่อเห็นวรรณารีเดินเข้าบ้าน ที่รักจึงอ้าแขนตัวเองออกเพื่ออ้อนให้คนเป็นแม่อุ้มวรรณารีเดินยิ้มตรงมาหาเธอและสวมกอดลูกเอาไว้อย่างอ่อนโยน “เพราะไม่สบายแน่เลยใช่ไหมถึงอ้อนให้แม่อุ้มแบบนี้” ว่าพลางยกร่างที่ไม่เบาของลูกขึ้นมาจากที่นอนและอุ้มเอาไว้อย่างง่ายดาย “ลูกสาวแม่หนักขึ้นอีกแล้ว อีกหน่อยแม่คงอุ้มไม่ไหวแล้วมั้ง ตัวยังรุมอยู่เลยนะ ปวดหัวไหมลูก”“นิดนึง” ที่รักตอบพลางเงยหน้ามองแม่ “แม่จ๋า จิ๊ดริดเหมือนปวดจิ๊ด ๆ ตรงนี้” เด็กหญิงชี้ไปที่อกซ้ายของตัวเองวรรณารีมีสีหน้ากังวลขึ้นมา “ปวดตรงไหน ปวดมากไหม หายใจสะดวกไหมลูก หรือจะไปหาหมอดี”ที่รักส่ายหน้า “จิ๊ดริดไม่ได้ปวดแบบนั้น จิ๊ดริดบอกไม่ได้ว่าทำไม แต่จิ๊ดริดรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนกำลังจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดี แต่จิ๊ดริดไม่รู้ว่าเป็นอะไร มันเลยปวดจิ๊ด ๆ ตรงหน้าอก”สายที่เดินเข้ามากับพีรายุถึงกับขมวดคิ้ว เธอวางแก้วนมลงที่โต๊ะก่อนหันมาถาม “จิ๊ดริดรู้สึกว่าจะมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นใช่ไหมลูก”พีรายุสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่เคร่งเครียดขึ้นทันตาของสายก็ขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

  • จิ๊ดริดที่รัก   70. จิ๊ดริดไม่สบาย 1

    ที่รักลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ “หนูเป็นอะไร”“จิ๊ดริดเป็นไข้ กินยาเดี๋ยวก็หายนะลูก” แม้ปากจะปลอบแต่วรรณารียังคงกังวลอยู่ไม่คลายเพราะตั้งแต่เล็กจนโตลูกสาวของเธอไม่เคยเป็นไข้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกและดูหนักหนาเอาการเลยทีเดียว“ทำไมหนูเป็นไข้”“ตอนวันเกิดเมื่อวานหนูคงวิ่งกลางแดดร้อน ๆ มากเกินไป แล้วยังกินน้ำหวานใส่น้ำแข็งมากเกินไปด้วย ต่อไปไม่ทำแบบนี้แล้วนะลูก เป็นไข้แล้วไม่สบายตัวเลยใช่ไหม”“อื้อ หนูไม่ทำแล้ว หนูไม่อยากเป็นไข้” ที่รักสะลึมสะลือตอบก่อนจะค่อย ๆ หลับไปเพราะสบายตัวมากขึ้นหลังจากที่แม่เช็ดตัวให้คืนนี้ วรรณารีไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะที่รักไข้สูงเป็นระยะต้องคอยเช็ดตัวให้ตลอดเวลาจนอาการค่อยทุเลาในช่วงเช้ามืดของอีกวัน“ทำไมหน้าซีดแบบนี้ ไม่สบายหรือเปล่า” สายถามขึ้นตอนเห็นวรรณารีเดินออกจากห้องในตอนเช้า“จิ๊ดริดเป็นไข้สูงค่ะ เลยไม่ได้นอนทั้งคืน”“อะไรนะ ลูกเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อไหร่” พีรายุที่เพิ่งเดินเข้าบ้านมาเอ่ยถามเสียงตื่นใจอยากจะมองเมิน แต่เมื่อเห็นสีหน้าทุกข์ร้อนของเขา วรรณารีจึงตอบออกไปเสียงห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status