Home / อื่น ๆ / จิ๊ดริดที่รัก / 2. จิ๊ดริดที่รัก

Share

2. จิ๊ดริดที่รัก

last update Last Updated: 2025-08-16 17:12:58

อีกสามเดือนต่อมา

ช่วงกลางดึกท่ามกลางฟ้าแลบฟ้าร้องและสายฝนที่กระหน่ำมาแบบไม่ขาดสายนานนับสองชั่วโมงแล้วไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย ๆ ตรงบ้านหลังเล็กท้ายสวนผลไม้ ได้มีเสียงตวาดของสายดังลั่นอยู่ทั่วบ้าน

“แม่วรรณ! เธอจะมาตายที่บ้านนี้ ฉันไม่ว่า เธอจะมาเป็นผีเฝ้าที่นี่ ฉันก็ไม่ถือ แต่เธอจะปล่อยให้ลูกไม่มีโอกาสลืมตาดูโลกแบบนี้ไม่ได้ ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”

...ลูก?

ลูกหรือ...

พูดเรื่องอะไร...ลูกใคร?

ลูกแม่!

ลูกแม่อยู่ไหนตอนนี้!

“อึก...เฮือก...” หญิงสาวตัวสะท้านเยือกพร้อมกับหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่

“ดี หายใจเข้าแรง ๆ อย่างนั้น ดี ดี หายใจลึก ๆ เธอยังมีลูกอยู่ จำเอาไว้ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด” เสียงแหบ ๆ ของสายพูดดังขึ้นที่ปลายเท้า ผสานกับเสียงฝนตกฟ้าร้องที่ดังอย่างต่อเนื่องดั่งฟ้าถล่ม

วรรณารีเลื่อนสายตาที่ยังพร่ามัวไปยังที่มาของเสียง ก็เจอกับหญิงสูงวัยรูปร่างผอม ใบหน้าตอบ แววตาแข็งกระด้าง ผมเผ้ารุงรังไม่อยู่ทรง แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เห็นใบหน้านี้

“ป้าสาย” หญิงสาวเรียกอย่างอ่อนระโหย

“จ...เจ็บมาก วรรณไม่ไหวแล้ว”

“อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อย เธอจะยอมแพ้ไม่ได้นะวรรณ จำเอาไว้ ลูกของเธอต้องมีโอกาสเติบใหญ่ แล้วเธอต้องมีโอกาสอยู่ดูลูกไปจนโต รวมสมาธิแล้วเบ่งอีกที” สายพูดปลุกใจ

“ลูก?” แววตาของวรรณารีดูเลื่อนลอยก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง

ใช่...ลูก เธอกำลังปวดท้องคลอดลูก ลูกเธอเป็นอย่างไรแล้วตอนนี้!

วรรณารีใช้มือสัมผัสท้องของตัวเอง ก็เจอท้องที่ยังปูดนูนเนื่องจากทารกในครรภ์ เธอจำได้แล้วว่าหกล้มอย่างแรงช่วงหัวค่ำจนกระเทือนถึงลูกในท้องและปวดท้องคลอดจนถึงตอนนี้ มีช่วงหนึ่งก่อนหน้าที่ดูเหมือนจะสติดับวูบลงเพราะความเจ็บปวด แล้วลูกเธอล่ะจะเป็นอันตรายไหม?

วรรณารีลูบสำรวจท้องของตัวเองอีกครั้ง พลันรู้สึกถึงแรงกระเสือกกระสนของทารกในท้องพร้อมกับแรงบีบตัวของมดลูก

“โอ๊ย”

“เอาล่ะ ลูกเธออยากจะออกมาแล้ว คราวนี้รวบรวมแรงให้ดี” สายพูดด้วยน้ำเสียงยินดี “รวบรวมแรงเยอะ ๆ แล้วค่อยเบ่ง”

ลูกแม่ อย่าเป็นอะไรนะ ลูกแม่ต้องมีโอกาสได้เติบใหญ่ ลูกต้องสบายดี

“เทวดาทั้งหลายโปรดช่วยลูกของวรรณด้วย ช่วยให้แกมีโอกาสได้เกิด...ให้แกเกิดมาเป็นที่รัก ให้แกโชคดีในทุกเรื่อง ให้แกเกิดมาอย่างแข็งแรงด้วยเถอะค่ะ...ช่วยลูกของวรรณด้วย” วรรณารีพูดพึมพำก่อนยกมือขึ้นประนมไหว้อย่างอ่อนแรง

เปรี้ยง!

ทันทีที่วรรณารีพูดจบก็บังเกิดเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นจนพื้นบ้านสั่นสะเทือนอยู่หลายรอบ สายขนลุกเกรียวไปทั้งตัว

“เห็นไหมแม่วรรณ พวกเขารับรู้คำขอของหล่อนแล้ว อย่าหมดแรงใจเด็ดขาด ฮึดสู้ให้เต็มที่ ลูกเธออยากจะออกมาเต็มทีแล้ว ตั้งสมาธิแล้วเบ่งออกมาแรง ๆ”

วรรณารีที่เริ่มมีสติสมบูรณ์ได้สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะค่อย ๆ เบ่งตามจังหวะที่สายพูดกระตุ้น

“ดี...ดี...ออกแรงอีก...ดีมาก...สูดหายใจลึก ๆ อีกรอบ...ออกแรงเพิ่มอีกนิด นั่นแหละ ใกล้แล้ววรรณ ใกล้แล้ว เบ่งอีก เบ่ง!”

“อุแว้...อุแว้”

ทันทีที่สิ้นสุดแรงเบ่งเฮือกสุดท้ายก็มีเสียงร้องไห้จ้าของทารกแรกเกิดดังขึ้น และไม่น่าเชื่อคือทันทีที่เสียงอุแว้แรกดังออกมา สายฝนและเสียงฟ้าร้องที่กำลังโหมกระหน่ำได้หยุดลงราวกับสับสวิตช์ สายที่กำลังอุ้มเด็กทำความสะอาดเนื้อตัวถึงกับก้มมองดูเด็กในอ้อมแขนด้วยแววตาเป็นประกาย

 “ผู้หญิงหรือผู้ชายคะป้า” วรรณารีหายเจ็บเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องของลูก

“เป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ” น้ำเสียงของสายเจือด้วยความเอื้อเอ็นดูอย่างหาได้อยาก “น่าเกลียดน่าชังเชียว เลี้ยงดูแกให้ดีล่ะ” สายพูดพลางวางห่อผ้าเล็ก ๆ ลงในอ้อมกอดของคนเป็นแม่

วรรณารีก้มลงมองร่างเล็กในอ้อมแขนอย่างเต็มตื้น ลูกสาวตัวน้อยของเธอช่างน่ารักนัก ผิวขาวอย่างหยวกกล้วย หน้ากลมอิ่ม ริมฝีปากแดงฉ่ำน้ำ ถ้าไม่ติดว่าตัวเล็กมาก เธอคงคิดว่าเด็กคนนี้คือเด็กที่คลอดมาแล้วหนึ่งเดือนเป็นแน่แท้

ระหว่างนั้นเอง เด็กน้อยที่กำลังหลับตาพริ้ม จู่ ๆ ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบ ๆ คล้ายกับกำลังมองหาใครอยู่ และดวงตาเรียวเล็กคู่นั้นของเธอทำให้วรรณารีถึงกับจ้องมองด้วยความเงียบงัน

ดวงตาเรียวชี้และดำขลับของลูกช่างถอดแบบมาจากผู้ชายคนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน วรรณารีใช้นิ้วสั่นระริกไล้ไปตรงหางตาที่ชี้ขึ้นทั้งสองข้างของลูกเบา ๆ

“น่าเอ็นดูนะ ถึงจะตัวเล็กมากแต่ก็ดูแข็งแรง ไม่น่ามีปัญหาสุขภาพอะไร”

วรรณารีกะพริบตาถี่แล้วค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา เด็กหญิงจะรูปลักษณ์คล้ายกับใครก็แล้วแต่ เธอไม่สนใจ เพราะนี่คือลูกสาวที่เธอรัก

“จะตั้งชื่อแกว่าอะไรล่ะ”

“ตัวเล็กแบบนี้เรียกแกว่าจิ๊ดริดเถอะค่ะ ชื่อจริงว่าที่รัก แกจะได้เป็นที่รักของคนทุกคน ลูกสาวของแม่น่ารักเหลือเกินนะลูก” วรรณารีเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ทันทีที่ได้ยินเสียงพูดของแม่ เด็กน้อยก็หยุดสอดส่ายสายตาไปมา นัยน์ตาดำขลับเหมือนเม็ดองุ่นของเธอจ้องนิ่งไปที่ใบหน้าของวรรณารีและเผยยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา

“แม่สัญญาว่าจะเลี้ยงดูหนูให้ดีที่สุดด้วยสองมือของแม่เอง” น้ำตาคนเป็นแม่คลอเบ้า

“อือ...” เด็กหญิงครางเบา ๆ เหมือนแมว

“เติบใหญ่ให้มีบุญใหญ่บุญสูงนะนังหนู”

วรรณารีเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับประนมมือไหว้ “วรรณขอบคุณป้ามาก ๆ นะคะ ถ้าไม่มีป้าเราสองแม่ลูกคงไม่มีชีวิตรอด”

“จะมาขอบจงขอบใจอะไรฉัน ฉันแค่อดสูใจในชีวิตของหล่อนเท่านั้นแหละ” สายตอบเสียงห้วน “หล่อนกับลูกนอนพักก่อน ฉันจะไปหาอะไรง่าย ๆ มาให้กิน” พร้อมกับเดินออกจากห้องไปคล้ายไม่ยี่หระเสียอย่างนั้น

วรรณารีอมยิ้มระหว่างมองตามหญิงสูงวัยไป สายในสายตาคนภายนอกคือยายสายบ้า แต่คนบ้าคนนี้แหละที่ช่วยฉุดเธอขึ้นมาให้เป็นเธออย่างทุกวันนี้ได้

-----

“วรรณ!”

ช่วงเวลาเดียวกัน พีรายุได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาและตะโกนเรียกชื่อวรรณารีเสียงดัง

จินดาราที่นอนอยู่ด้านข้างผวาลุกขึ้น “พีคะ เป็นอะไร ฝันร้ายหรือเปล่า”

พีรายุมองตาขวางใส่หญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเมียในตอนนี้ เขาผลักเธอให้ออกห่างจากตัวอย่างรังเกียจ “ไปให้พ้น! เธอมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้ แล้ววรรณไปไหน” เขาหันรีหันขวางอยู่บนเตียง

จินดาราที่ตาลีตาเหลือกลงมายืนข้างเตียงกำลังจ้องมองเขาอย่างตกใจ

“ยังจะมายืนบื้ออยู่อีก! ฉันถามว่าวรรณไปไหน” ชายหนุ่มตะเบ็งเสียงด่า

“เอ่อ...วรรณ...วรรณกำลังทำกับข้าวข้างนอก เธอให้ฉันมาดูแลเช็ดตัวคุณก่อน” พูดจบจินดาราก็กุลีกุจอหันไปเทน้ำใส่แก้ว ระหว่างที่พีรายุเผลอ เธอได้แอบหยิบขวดแก้วขนาดเล็กออกมาจากลิ้นชักข้างเตียงแล้วหยดน้ำยาใส ๆ ลงในแก้วน้ำสามหยด

“วรรณอยู่ข้างนอกแน่นะ” พีรายุถามจินดาราด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ

“ใช่สิคะ ฉันจะโกหกคุณทำไม ตื่นมาใหม่ ๆ แบบนี้น่าจะคอแห้ง คุณดื่มน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปตามวรรณมาให้”

พีรายุเอื้อมมือมารับและดื่มน้ำลงไปจนหมดแก้ว ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที แววตาเขาได้เปลี่ยนไปในทิศทางตรงกันข้าม เขามองตรงมายังจินดาราและยิ้มให้อย่างลุ่มหลง

ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรั้งตัวจินดาราเข้ามาจนชิดและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ทำไมยืนแบบนั้นล่ะครับที่รัก มานอนกับผมบนเตียงเถอะ” เขาเอ่ยเสียงกระเส่า รั้งร่างงามของเธอมานอนเคียงกันพลางตะโบมกอดจูบลูบไล้อย่างเสน่หา

ตลอดทั้งคืน จินดาราตอบสนองความต้องการของชายหนุ่มในทุกท่วงท่า แต่สีหน้าของเธอนั้นกลับไม่มีความสุขเหมือนท่าทีที่แสดงออกมาเลยสักนิด

-----

“ผมไม่อยากจากคุณไปเลย” พีรายุยังคงนัวเนียอยู่กับจินดาราในช่วงเช้าของวันต่อมา

“ไม่ได้นะคะ วันนี้ที่บริษัทมีเซ็นสัญญาใหญ่ เงินเป็นสิบล้านเลยนะ ไปเถอะค่ะ เย็นนี้จินจะเตรียมอาหารอร่อย ๆ ให้คุณกิน”

พีรายุหอมแก้มเธออีกหลายฟอดก่อนตัดใจเดินขึ้นรถออกจากบ้านไป

เมื่อคล้อยหลังเขา จินดารารีบขับรถออกจากบ้านตามไปติด ๆ แต่จุดหมายของเธออยู่ที่บ้านสภาพกลางเก่ากลางใหม่ตรงเขตชานเมือง

เธอกัดริมฝีปากมองเข้าไปในบ้านนั้นอย่างลังเลก่อนตัดใจเดินลงจากรถและก้าวเดินไปหาเจ้าของบ้านซึ่งเป็นชายวัยฉกรรจ์สวมชุดขาวคล้ายผู้ปฏิบัติธรรมที่ตอนนี้ยืนรออยู่หน้าบ้านแล้ว

จินดาราเดินตรงเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ทั้งคู่พากันเดินเข้าบ้านไปและปิดประตูเงียบ แล้วอีกสามชั่วโมงให้หลัง จินดาราก็ได้เดินออกมาด้วยสภาพที่เสื้อผ้ายับย่น สีหน้าและแววตาเธอตอนนี้เย็นเยียบเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จิ๊ดริดที่รัก   75. ชวนไปฉลองวันเกิด

    “เอกสารที่ผมรวบรวมไว้ช่วงที่ท่านไม่อยู่ครับ” ไวพจน์มาหาพีรายุที่โรงพยาบาลในเช้าวันต่อมาได้หอบเอกสารเป็นตั้งมาด้วย “ในนี้เป็นสำเนาระบุสเปกวัสดุก่อสร้างที่มีลายเซ็นของจินดารากับเสี่ยทรงยศ แล้วยังมีรูปถ่ายที่ทั้งสองไปเจอกันตามที่ต่าง ๆ ด้วย ที่เหลือคือชื่อของพนักงานในบริษัททั้งหมดที่เป็นคนของจินดาราครับ”พีรายุไล่เปิดเอกสารดูหน้าเครียด “แล้วตอนนี้เริ่มทำคำสั่งซื้อพวกนี้หรือยัง”“เริ่มสั่งไปบ้างแล้วครับ รายละเอียดอยู่ด้านล่างสุด เสี่ยทรงยศจะเริ่มลงไซต์งานอาทิตย์หน้าแล้ว ผมว่าคำสั่งซื้อทั้งหมดน่าจะเรียบร้อยภายในอาทิตย์นี้”“ขอบคุณคุณไวพจน์มากนะครับที่เหนื่อยมาหลายอาทิตย์ เอกสารพวกนี้ทิ้งไว้ที่ผม ผมจะจัดการที่เหลือต่อเอง คุณไม่ต้องทำอะไรแล้ว”“ให้ผมช่วยเถอะครับ ท่านออกโรงคนเดียวจะเป็นอันตรายได้”“เรื่องนี้ผมต้องทำคนเดียว ถ้าประธานบริษัทเป็นคนถือเอกสารไปหาผู้ใหญ่ของกระทรวงนั้นเองจะดูน่าเชื่อถือกว่า”“ไม่อันตรายแน่นะครับ”“ไม่เป็นไร ผมจะระวังตัว”ไวพจน์กลับไปแล้วแต่พีรายุยังคงนั่งอ่านเอกสารเหล่านั้นอย่างไม่ละสายตาจนไม่

  • จิ๊ดริดที่รัก   74. จิ๊ดริดมีพ่อชื่อพีรายุ 2

    สายเดินเข้ามาใกล้สองพ่อลูกแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับหลาน “ตอนนี้เราปล่อยให้พ่อกับแม่พักก่อนดีกว่านะ แล้วพรุ่งนี้ยายจะพามาหาแต่เช้า”แม้ไม่เต็มใจแต่พีรายุก็ยอมคลายอ้อมกอดจากลูกแต่โดยดี เช่นเดียวกับที่รัก เธอมองมายังพีรายุอย่างเสียดาย เด็กหญิงเอียงหน้าไปหอมแก้มพีรายุฟอดใหญ่ก่อนยิ้มให้ “พรุ่งนี้จิ๊ดริดจะมาหาพ่อตั้งแต่เช้า พ่อกับแม่นอนดี ๆ อย่าทะเลาะกันนะ”วรรณารีนั่งหน้าแดงมองตามสองยายหลานจนแผ่นหลังของทั้งคู่ลับสายตาไปเธอจึงได้ถอนสายตากลับเพื่อมาเจอกับแววตาลุ่มลึกของอีกคนที่ยังอยู่ในห้อง“ผมขอบคุณคุณมากนะครับที่ยอมเปิดโอกาสให้ผมอีกครั้ง”“ฉันแค่อนุญาตให้ลูกเรียกพ่อ ตอนนี้ฉันยอมรับคุณแค่เป็นพ่อของลูกเท่านั้น”รอยยิ้มของพีรายุลดลง เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ “แล้วเรื่องของเราล่ะครับ”วรรณารีจ้องเขาด้วยใจที่แปลบปร่า “ฉันไม่สามารถทำใจรับคุณมาเป็นคู่ชีวิตได้อีก”“วรรณครับ เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตคุณก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ในใจผมไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มีแค่คุณเท่านั้น ยอมให้โอกาสเราทั้งคู่มาเป็นครอบครัวกันอีกครั้งเถอะนะครับ”วรร

  • จิ๊ดริดที่รัก   73. จิ๊ดริดมีพ่อชื่อพีรายุ 1

    “แม่วรรณ เธอมันบ้าบิ่นเกินไปนะ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ถ้าเกิด...ถ้าเกิด...” สายเอ่ยตำหนิวรรณารีทันทีหลังจากที่หมอและพยาบาลออกจากห้องไปแล้ววรรณารีที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ได้หลุบตานิ่งอย่างสำนึกผิด ใบหน้าและลำตัวเธอมีแต่รอยฟกช้ำโดยเฉพาะตรงลำคอที่แดงช้ำอย่างน่ากลัว “วรรณใจร้อนเกินไปจริง ๆ ค่ะ วรรณขอโทษ”“คนที่เธอควรจะขอโทษก็คือจิ๊ดริดกับคุณพีต่างหาก” สายชี้ไปยังที่รักซึ่งยืนสำนึกผิดอยู่ข้างเตียงและพีรายุซึ่งนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ที่อยู่ติดกัน“ผมไม่เป็นอะไรครับ แค่แผลถาก ๆ” พีรายุรีบพูดช่วย“แม่จ๋า จิ๊ดริดไม่ดี จิ๊ดริดช่วยแม่ไม่ได้” ที่รักน้ำตาเตรียมจะหยดแหมะออกมาเต็มที่วรรณารีรีบกอดปลอบลูก “ไม่ใช่ความผิดจิ๊ดริด แม่หาเรื่องเอง ถ้าแม่ไม่เข้าไปในนั้นแม่ก็จะไม่โดนทำร้าย”“แต่จิ๊ดริดเตือนแม่ไม่ได้ จิ๊ดริดไม่เห็นอะไรเลย”“ก็เพราะหนูไม่สบายอยู่ อย่าโทษตัวเองสิลูก แล้วแม่ก็ไม่ได้บาดเจ็บเยอะแยะ อีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จิ๊ดริดเสียอีกที่ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ไข้จะได้ไม่กลับมา”“จิ๊ดริดหายแล้ว ไม่มีไข้แล้ว”“หายก็ก

  • จิ๊ดริดที่รัก   72. วรรณารีโดนทำร้าย

    “เอ็งแน่ใจนะว่าไม่มีใครอยู่ที่ร้านแน่”บานชื่นถามสามีอย่างกระวนกระวายใจ ส่วนมือนั้นยังคงสาละวนดึงทองแดงจากกองใหญ่มาใส่ในรถเข็นของตัวเอง“แน่สิวะ ข้ามาแอบดูหลายคืนแล้ว ในร้านไม่มีคนเฝ้าเลยสักคน พวกคนงานไปอยู่ที่บ้านพักฝั่งตรงข้ามหมด ถ้าจะมีก็มีแต่ผีเท่านั้นแหละ”“เอ็งอย่าพูดสิ ยิ่งมืด ๆ อยู่”“กลัวอะไรกับผี อย่ามัวแต่พูด รีบขนขึ้นรถเร็วเข้า เอาไปให้ได้มากที่สุด พรุ่งนี้จะได้เอาไปขายที่ร้านเฮียอุย คุณภาพดีแบบนี้ได้หลายหมื่นแน่มึง” โชติยิ้มย่องเมื่อเห็นทองแดงเกรดดีที่กองเป็นภูเขาอยู่ตรงหน้าเพราะเอาเงินไปลงทุนกับเหล็กจนหมด แต่เหล็กกลับขายไม่ออกช่วงนี้ ทำให้เขาและภรรยาอดอยากปากแห้งมาหลายสัปดาห์ กระทั่งมาได้ยินคนงานในร้านของวรรณารีคุยกันเรื่องทองแดงกองพะเนินในร้านที่มีลูกค้าติดต่อขอซื้อเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสร้างรายได้ให้วรรณารีเป็นล้านบาทโชติและบานชื่นแค้นใจจนแทบกระอักเลือด ขณะที่พวกเขาตกต่ำจนแทบไม่มีหนทางให้เดิน แต่ศัตรูอย่างวรรณารีกลับเจริญไม่หยุด แบบนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาด พวกเขาต้องดึงผลประโยชน์ที่วรรณารีได้มาเป็นของตัวเองส่วนหนึ่ง

  • จิ๊ดริดที่รัก   71. จิ๊ดริดไม่สบาย 2

    “แม่จ๋า อุ้ม” เมื่อเห็นวรรณารีเดินเข้าบ้าน ที่รักจึงอ้าแขนตัวเองออกเพื่ออ้อนให้คนเป็นแม่อุ้มวรรณารีเดินยิ้มตรงมาหาเธอและสวมกอดลูกเอาไว้อย่างอ่อนโยน “เพราะไม่สบายแน่เลยใช่ไหมถึงอ้อนให้แม่อุ้มแบบนี้” ว่าพลางยกร่างที่ไม่เบาของลูกขึ้นมาจากที่นอนและอุ้มเอาไว้อย่างง่ายดาย “ลูกสาวแม่หนักขึ้นอีกแล้ว อีกหน่อยแม่คงอุ้มไม่ไหวแล้วมั้ง ตัวยังรุมอยู่เลยนะ ปวดหัวไหมลูก”“นิดนึง” ที่รักตอบพลางเงยหน้ามองแม่ “แม่จ๋า จิ๊ดริดเหมือนปวดจิ๊ด ๆ ตรงนี้” เด็กหญิงชี้ไปที่อกซ้ายของตัวเองวรรณารีมีสีหน้ากังวลขึ้นมา “ปวดตรงไหน ปวดมากไหม หายใจสะดวกไหมลูก หรือจะไปหาหมอดี”ที่รักส่ายหน้า “จิ๊ดริดไม่ได้ปวดแบบนั้น จิ๊ดริดบอกไม่ได้ว่าทำไม แต่จิ๊ดริดรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนกำลังจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดี แต่จิ๊ดริดไม่รู้ว่าเป็นอะไร มันเลยปวดจิ๊ด ๆ ตรงหน้าอก”สายที่เดินเข้ามากับพีรายุถึงกับขมวดคิ้ว เธอวางแก้วนมลงที่โต๊ะก่อนหันมาถาม “จิ๊ดริดรู้สึกว่าจะมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นใช่ไหมลูก”พีรายุสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่เคร่งเครียดขึ้นทันตาของสายก็ขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

  • จิ๊ดริดที่รัก   70. จิ๊ดริดไม่สบาย 1

    ที่รักลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ “หนูเป็นอะไร”“จิ๊ดริดเป็นไข้ กินยาเดี๋ยวก็หายนะลูก” แม้ปากจะปลอบแต่วรรณารียังคงกังวลอยู่ไม่คลายเพราะตั้งแต่เล็กจนโตลูกสาวของเธอไม่เคยเป็นไข้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกและดูหนักหนาเอาการเลยทีเดียว“ทำไมหนูเป็นไข้”“ตอนวันเกิดเมื่อวานหนูคงวิ่งกลางแดดร้อน ๆ มากเกินไป แล้วยังกินน้ำหวานใส่น้ำแข็งมากเกินไปด้วย ต่อไปไม่ทำแบบนี้แล้วนะลูก เป็นไข้แล้วไม่สบายตัวเลยใช่ไหม”“อื้อ หนูไม่ทำแล้ว หนูไม่อยากเป็นไข้” ที่รักสะลึมสะลือตอบก่อนจะค่อย ๆ หลับไปเพราะสบายตัวมากขึ้นหลังจากที่แม่เช็ดตัวให้คืนนี้ วรรณารีไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะที่รักไข้สูงเป็นระยะต้องคอยเช็ดตัวให้ตลอดเวลาจนอาการค่อยทุเลาในช่วงเช้ามืดของอีกวัน“ทำไมหน้าซีดแบบนี้ ไม่สบายหรือเปล่า” สายถามขึ้นตอนเห็นวรรณารีเดินออกจากห้องในตอนเช้า“จิ๊ดริดเป็นไข้สูงค่ะ เลยไม่ได้นอนทั้งคืน”“อะไรนะ ลูกเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อไหร่” พีรายุที่เพิ่งเดินเข้าบ้านมาเอ่ยถามเสียงตื่นใจอยากจะมองเมิน แต่เมื่อเห็นสีหน้าทุกข์ร้อนของเขา วรรณารีจึงตอบออกไปเสียงห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status