Share

Chapter 10

ฉันร้องบ่น เมื่อพบว่าโทรศัพท์ส่งเสียงร้องดัง ฉันเหยียดแขนออกไปหยิบโทรศัพท์และเช็คดูว่าใครส่งข้อความมา

ข้อความมาจากหมายเลขที่ไม่รู้จักเหมือนเช่นเคย ข้อความแจ้งว่า "รอบต่อไปจะจัดขึ้นในเดือนหน้า ให้อยู่ที่นั่น เป็นงานที่ใหญ่มาก”

ฉันลบข้อความแล้วนั่งลงเอนพิงหัวเตียง

ฉันช่างมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้

ฉันสาปแช่งชะตากรรมของตัวเองที่ต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ดีใจที่ได้ใช้ชีวิตที่สวยงาม ฉันมองไปทางซ้ายของเตียงเพื่อดูรูปครอบครัวและเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูป

“ฉันคิดถึงแม่ พ่อและแนนซี่ ฉันอยากเจอทุกคนจัง” ฉันพึมพำและจูบลงบนกรอบรูปและเหลือบมองครั้งสุดท้าย ฉันวางเก็บมันไว้ข้างๆ

ฉันลุกขึ้นจากเตียง จัดเตียงให้เรียบร้อยและเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ฉันใช้เวลาอาบน้ำอยู่นานเพราะฉันไม่มีอะไรต้องทำ และบรรจงเทแชมพูใส่มือและค่อยๆสระผม ฉันห่อผ้าเช็ดตัวไว้รอบตัว ยืนอยู่หน้ากระจกและใช้ฝ่ามือเช็ดละอองน้ำที่ก่อตัวบนกระจกออกอย่างอ่อนโยน

“อืม ฉันคงต้องตัดผมซะแล้ว” ฉันกระซิบกับตัวเอง เอานิ้วมือสางผมที่เปียกไปมา

ฉันเดินออกจากห้องน้ำและเดินเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ฉันเลือกใส่กางเกงยีนส์สีดำขาดๆ กับเสื้อคอปกสีดำแขนยาว หลังจากที่ผมแห้งแล้ว ฉันก็มัดผมหางม้าเรียบร้อยและค่อยๆทาครีมลงบนใบหน้า แตะลิปกลอสที่ริมฝีปาก

ฉันสวมรองเท้า หยิบบัตรเครดิต โทรศัพท์ แล้วเดินออกจากห้อง

เบลล์กับฉันจะออกไปข้างนอกวันนี้ เป็นครั้งแรกของการอยู่ที่นี่ที่จะได้ออกไปข้างนอก ฉันไม่ตื่นเต้นเลย เพราะฉันไม่ใช่เด็กๆ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันจะไปกับเธอ ก็เพราะฉันต้องการซื้อของบางอย่าง และฉันหวังว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตามที่มีของสิ่งนั้น

“สวัสดี อาดี้” เธอทักทายเมื่อพบฉันยืนอยู่ตรงทางเดิน

“สวัสดีค่ะ” ฉันตอบ

ฉันเห็นเธอสวมชุดเดรสลายดอกไม้ซึ่งยาวถึงน่อง เธอสวมรองเท้าบู๊ตและผมถูกมัดไว้ตามปกติ

“คุณดูดีจัง” ฉันพูดแล้วเธอก็ยิ้มตอบ “คุณด้วย”

“ไปกันเถอะค่ะ” ฉันพูดแล้วหันหลังเดินออกไป แต่ก็ต้องหยุด เมื่อเธอบอกว่า “เดี๋ยวก่อน! รอเดี๋ยวค่ะ"

“มีอะไรหรือคะ”

“เอ่อ เราต้องไปหาอัลฟ่าก่อน”

"อะไรนะ?"

"ใช่ค่ะ เขาต้องรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน”

“ไร้สาระ อะไรกัน ตอนนี้เราต้องได้รับอนุญาตจากเขาในการออกไปข้างนอกเหรอ?”

“เอ่อ ไม่ค่ะ แค่เขาต้องการรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน เพื่อความปลอดภัย”

“โอเค” ฉันพึมพำและพูดในใจ “ระวังหลังให้ฉันด้วยแล้วกัน”

เราไปที่ห้องของเขา

“เราไปห้องเขาทำไม? ปกติเวลานี้เขาต้องอยู่ที่ห้องทำงานไม่ใช่เหรอ” ฉันถามงงๆ

ฉันไม่เคยไปที่ห้องของเขา และฉันก็ไม่สนใจที่จะไปพบเขาในวันดีๆแบบนี้ หากมีอะไรที่ทำให้ฉันต้องเจอเขา ฉันคงจะหงุดหงิดและปวดหัว

“เมื่อวานเขาทำงานตอนดึกค่ะ ดังนั้นตอนนี้เขากำลังพักผ่อนอยู่ในห้องของเขา” เธอพูดแล้วส่งยิ้มเล็กๆให้ฉัน แล้วฉันก็ส่งยิ้มเล็กๆของฉันกลับไป

เมื่อมาถึงห้องของเขา เบลล์ก็เคาะประตู ขณะที่ฉันเลือกที่จะยืนห่างจากห้องของเขาไปห้าฟุต เบลล์บอกเขาว่าเรากำลังจะไปไหน ฉันทำเป็นไม่สนใจ ดังนั้นฉันจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วคลิกที่การแจ้งเตือน ทุกครั้งฉันจะลบข้อความทิ้งหลังจากที่อ่านแล้ว

ประตูเปิดออก แต่ฉันไม่ได้สนใจที่จะเงยหน้าขึ้นมอง

"มีอะไรหรือ?" เขาถามเสียงแหบ คงเพราะว่ากำลังหลับอยู่

“เอ่อ ฉันมาที่นี่เพราะ” อีกครั้งที่เบลล์พูดตะกุกตะกัก เบลล์เป็นอะไร? เธอพูดติดๆขัดๆมาก

ฉันถอนหายใจและเงยหน้าขึ้นเพื่อจะค้นหาสาเหตุว่าอะไรทำที่เบลล์พูดตะกุกตะกัก ที่นั่นฉันเห็นร่างสูงใหญ่ราวกับนายแบบอาเบอร์ครอมบี้ของดีแลนยืนอยู่ เขาไม่ใส่เสื้อและมีเพียงกางเกงบาสเก็ตบอลเอวต่ำเท่านั้น

“อย่าโง่เลย” ฉันพึมพำ ตอนนั้นเองที่สายตาของเขาจับจ้องมาที่ฉัน และมันก็เบิกกว้างขึ้นครู่หนึ่ง จากนั้นมันก็กลับเป็นปกติ และจากนั้นเหมือนเขาเกิดความกังวลใจขึ้นมา

เขากำลังมองสำรวจฉัน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขาและเขาเลียริมฝีปาก มองฉันไปทุกที่ ดวงตาเขาเหมือนกับหลุมไฟเวลาที่จ้องมองมา

ฉันเดินไปหาเขาและยืนถัดจากที่เบลล์ และยกมือขึ้นมากอดอก

“มองขึ้นมาบนนี้ค่ะคุณผู้ชาย” ฉันเอ่ยอย่างหงุดหงิด และเขาก็เงยหน้าขึ้นมอง พยายามตั้งสติ

“ไอ้พวกโรคจิต” ฉันครุ่นคิดในใจซึ่งเสียงภายในของฉันตอบสวนกลับไปว่า “ใช่ พวกโรคจิตที่โคตรเซ็กซี่”

“อย่ามายุ่งได้มั้ย” ฉันตะคอกใส่เธออีกคนในตัว แล้วเธอก็หุบปาก

“เราจะออกไปข้างนอกกัน” ฉันพูดเสียงเรียบ

"ไปที่ไหน?" เขาถาม และฉันก็กำลังบอกสิ่งที่ฉันคิดในหัว แต่เบลล์จับมือฉันไว้ให้หยุดไม่ให้ฉันพูด

“อัลฟ่า เรากำลังจะไปช้อปปิ้งกันค่ะ และอาดี้ก็ต้องซื้อของบางอย่างด้วย” เธอพูด และคราวนี้เธอไม่ได้พูดตะกุกตะกัก นั่นทำให้ฉันโล่งใจ

"ช้อปปิ้ง?" เขาถาม และฉันก็คิดในใจว่าเขาหูหนวกหรือไง

“ไปเถอะ แต่กลับมาก่อนค่ำนะ” เขาพูดพร้อมกับมองตาฉัน

ใจฉันเต้นรัวเมื่อฉันฟังคำพูดของเขา ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เรามักจะเดินกันเงียบๆ ในตอนเย็นจนเป็นนิสัย เราไม่คุยอะไรกันและไม่รอกันและกัน เราเดินต่อไป ใครมาสายก็จะไปเจอกันตามทางที่เรามักจะเดินไป

ฉันละสายตาไปจากเขา และพยักหน้า

“โอเค ไปกันเถอะ” ฉันพูดแล้วจับมือเบลล์

"รอเดี๋ยว!" ดีแลนบอกให้พวกเราหยุดรอ

เขากลับเข้าไปในห้อง และกลับมาพร้อมกับบางสิ่งในมือเขา

“ใช้นี่สิ” เขายื่นบัตรเครดิตใบหนึ่งให้ฉัน

“ฉันไม่ต้องการเงินของคุณค่ะ ฉันมีของฉัน” ฉันเสียงดังใส่เขาและจ้องมาที่เขา

“รับไปเถอค่ะ” เบลล์พูด และฉันก็กำลังจะเถียง จู่ๆดีแลนจับมือฉัน ซึ่งทำให้รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่างในทันที ฉันสะบัดมือ มองตรงที่เขาสัมผัสฉัน

"นี่มันอะไร?" ฉันกระซิบและเงยหน้าขึ้นพบว่าเขากำลังมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่ล้อเล่นอยู่บนริมฝีปากของเขา

“แค่รับไปเถอะ เก็บเอาไว้ไม่ว่าคุณจะใช้หรือไม่” เขาพูดพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของฉัน และฉันก็พยักหน้าราวกับว่าฉันถูกสะกดจิตด้วยคำพูดของเขา

อย่างไรก็ตาม ฉันหยิบบัตรใบนั้นแล้วสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์

"ไปกันเถอะ?" ฉันเอ่ย เบลล์ก็พยักหน้า

เบลล์เป็นคนแรกที่เดินจากไป และฉันก็หันหลังกลับเพื่อจะตามไป แต่อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองดูดีแลนเป็นครั้งสุดท้าย

และได้ทันเห็นคนโรคจิตทำสิ่งที่น่าตกใจ ทำเอาฉันช้อค

เขาตีก้นฉัน!

ฉันแน่ใจว่าดวงตาของฉันเบิกกว้างเท่ากับไข่ห่าน เขาตีก้นฉัน ฉันพยายามสงบสติจากอาการตกใจและจ้องมองไปที่เขา

“คุณเพิ่งทำอะไรน่ะ” ฉันถามเขาช้า ท้าว่าเขาจะกล้าโกหกไหม

"ผมทำอะไรเหรอ?" เขาถามดูเป็นปกติราวกับว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังพูดเลย

“อย่ามาทำตัวอวดฉลาด” ฉันเตือนและตกใจมาก เขามีกวนประสาทและกระซิบว่า “อะไรก็ตามแต่” แล้วเขาก็ปิดประตูใส่หน้าฉัน

“เปิดประตู ไอ้โง่ ไอ้หมู ไอ้โรคจิต” ฉันตะโกนทุบประตูด้วยความโมโห

"เกิดอะไรขึ้น?" เบลล์หันกลับมาถามฉันด้วยความเป็นห่วง

ฉันยอมแพ้กับการต่อสู้ และถอนหายใจเพื่อตั้งสติ

“ไม่มีอะไร” ฉันกระซิบ

“ดี ดีแลน นายย” ฉันคิดในใจและจ้องหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย เราก็เดินจากไป

ตลอดเวลาฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาทำอย่างนั้น เขากล้าดียังไง? ไอ้บ้านั่น

เราเดินออกจากบ้าน แล้วเดินไปทางหลังบ้าน

"รอเดี๋ยว! เราจะไปที่ไหนกัน? เราไม่ได้ขับรถไปเหรอ?” ฉันถามเบลล์อย่างงงๆ

“ไม่จ้ะ เราจะเดินไป” เธอตอบ

"อะไรนะ?" ฉันถามและเธอขอให้ฉันผ่อนคลายและเดินตามเธอมา

ฉันปิดปากเงียบและเดินตามเธอไป เราไปที่หลังบ้าน เราเดินเข้าไปในป่าและเดินไปจนกว่าเราจะออกจากป่า

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status