Share

บทที่ 7

Author: wmtawisa9a
last update Last Updated: 2025-04-08 20:14:06

ความตายแค่ทำตามหน้าที่ เหมือนที่ฉันควรจะเมินความน่าสงสารของเธอทิ้งไป แต่ถึงอย่างนั้นทำไมฉันถึงไม่ยอมขยับออกไปล่ะ ความตายจะไม่สามารถไล่ตามดวงวิญญาณซึ่งอยู่ใกล้กับพระเจ้าได้ในกรณีของฉันที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า ก็ได้รับสิ่งเหล่านั้นมาด้วยเช่นกัน

“มีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า”

“ฮึก..คะ..”

“คุณน่ะมีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า ถ้ามีอะไรที่อยากทำก็บอกฉันมา”

คนร่างบางค่อยๆ เช็คน้ำตาลวกๆ ในขณะที่ฉันเองก็ปลายตามองเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันอยากแต่งงานค่ะ”

“แต่งงาน...งั้นใครล่ะที่อยากแต่งงานด้วย”

“ไม่รู้ค่ะ”

ขอถอนคำพูดที่ว่าจะช่วยมันจะทันรึเปล่านะ...

“คุณหนู! ในที่สุดก็เจอตัวซักที หนีออกจากโรงพยาบาลทำไมครับคุณหนู รีบกลับกันเถอะครับ เดี๋ยวคุณหนูจะป่วยซะเปล่าๆนะครับ ”

ในขณะที่ฉันกำลังคิดจะทิ้งเธอไว้ที่นี่ บอดี้การ์ดสี่ห้าคนก็ลงมาจากรถคันสีดำสนิท พลางผลักฉันให้ออกห่างคุณหนูของตนด้วยความหวาดระแวง ฉันคงดูอันตรายมากสินะ

“ปล่อยนะ! ฉันไม่กลับ! ยังไงฉันก็จะตายอยู่แล้ว ปล่อยให้ฉันได้เป็นอิสระซักทีเถอะ ฉันเบื่อโรงพยาบาลที่มีแต่กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเต็มทนแล้ว!! ”

“ คุณหนู ! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะครับ คุณพูดอะไรกับคุณหนูของพวกผมรึเปล่าเนี่ย !!”

ผลักก่อนแล้วค่อยถามเหรอ เป็นมารยาทที่ดีกันจังเลยนะ บางทีฉันควรจะสั่งสอนมารยาทให้พวกเขาคืนซะบ้างจะได้หลาบจำกัน

“โอ้ย!”

“อย่ามาชี้หน้าใส่ฉันเป็นครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปคงจะไม่ใช่แค่ที่นิ้วแล้ว”

ทุกคนต่างหยุดชะงักลงไปกับแววตาแสนเย็นชาของอีกฝ่ายซึ่งแฝงไปด้วยความโมโหเต็มที โดยที่เธอเองก็ไม่คิดจะปิดบังแสงสีทองซึ่งสะท้อนออกมากระทบกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

“พาฉันไปด้วยเถอะนะคะ”

“ก็แล้วแต่เธอสิ”

ฉันที่กำลังโมโหโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองคนพวกนั้นอีก ต้องยอมหยุดเดินลงดื้อๆ เพราะบอดี้การ์ดสี่ห้าคนของเธอกำลังจับตัวเด็กสาวคนนั้นไป ถ้ายัยนั่นอยู่ห่างจากฉันเกิน 1 กิโลเมตร ผลของความตายก็จะกลับมาทำงานทันที ถึงตอนนั้นฉันคงจะช่วยอะไรเธอไม่ได้อีกแล้ว พวกยมทูตจะมารับตัวเธอไปแน่

“เป็นลูกคนรวยขี้โรคก็ลำบากดีนะ”

“นี่คุณมายุ่งอะไรด้วยว่ะเนี่ย! ถอยออกไปซะ! ไม่อย่างนั้น คงต้องใช้กำลังกันบ้าง!”

“ไหนดูสิ๊ สิ่งที่คิดตอนนี้ก็คือเงินก้อนโต หลังจากลงมือฆ่าลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านประธานไปแล้ว อืม ความตายที่ว่าก็คือพวกหนอนบ่อนไส้อย่างพวกนายนี่เอง”

“จัดการมัน!”

“ไม่ใช่ฉันแต่เป็นนาย”

ทันทีที่ฉันชี้นิ้วไปที่บอดี้การ์ดคนที่ออกคำสั่ง คนที่เหลือก็ถูกฉันควบคุมเอาไว้ทันที

“นี่ พวกแกหันมาที่ฉันทำไม! อย่านะ!! อ้ากกกก!”

“มาสิ เธออยากเป็นอิสระไม่ใช่เหรอ คนพวกนั้นไม่เป็นอะไรหรอก”

ฉันยื่นมือส่งไปให้อีกคนซึ่งนั่งอยู่ในรถคันดำนั่นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น

“คุณเป็นใครกันแน่คะ...”

“ฉันเหรอ ก็เป็นคนที่ช่วยให้เธอได้แต่งงานยังไงล่ะ เอ้า ไปกันได้แล้ว แต่ถ้าไม่อยากก็ตามใจนะ”

“ไปค่ะ ไป!”

สรุปแล้วก็ยอมตามกันมาง่ายๆแบบนี้เลยนะเด็กคนนี้...แล้วฉันจะเอาอะไรมาเป็นค่าตอบแทนของการช่วยเหลือครั้งนี้ดีล่ะ ถึงกับยอมแทรกแซงอายุไขให้เธอเชียวนะ หวังว่าจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ฉันทำ

“ที่นี่ห้องของคุณหรอคะ”

“ใช่ คืนนี้ก็นอนห้องนี้ไปก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ฉันจะพาไปซื้อสร้อยป้องกันภัยให้ ดูเหมือนว่าความตายของเธอจะไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปซะแล้ว”

“ทำไมคุณถึงยอมช่วยฉันล่ะคะ”

“นั่นก็เพราะ”

เธอมันกวนใจฉันน่ะสิ...

“เธอทำโทรศัพท์ฉันพัง จะปล่อยให้ตายไปเลยมันก็เสียดายเงินโทรศัพท์”

ถึงส่วนใหญ่มันจะไม่จำเป็นต้องใช้ก็เถอะ....

“เหตุผลแค่นั้นเองหรอคะ”

“ใช่”

“เย็นชาจังเลย แต่ฉันก็ชอบค่ะ เราแต่งงานกันไหมคะ ฉันจะได้หมดห่วง”

“อะไรของเธอเนี่ย มาชวนฉันแต่งงานเนี่ยนะ อย่าทำเป็นเล่นจะได้ไหม ฉันไม่แต่งงานกับเธอที่เพิ่งเจอกันแค่วันเดียวหรอกนะ คนที่จะแต่งงานกันได้มันจะต้องรักกันก่อนสิถึงจะถูก”

“งั้นเรามารักกันดีไหมคะ”

“ไม่เอาล่ะ ”

“จะไม่ตอบเร็วไปหน่อยเหรอคะ ฉันก็จัดว่าสวยและก็รวยอยู่นะคะ แถมถ้าได้แต่งงานกับฉัน คุณก็จะได้รับมรดกแทนฉันทั้งหมดเลยด้วย จะเขียนพินัยกรรมยกให้เลยค่ะ”

“ยังไงก็ไม่เอา ”

“ใจแข็งจังเลยค่ะ...งั้นก็ได้ฉันยอมแพ้คุณแล้ว”

“ดี ฉันไม่ได้ช่วยเธอเพื่อหวังผลตอบแทนอะไรแบบนั้นด้วยซะหน่อย หลังจากนี้ฉันจะซื้อสร้อยป้องกันภัยให้ส่วนเธอก็ไปหาคนรักเอาเอง”

“แล้วถ้าหากฉันหาไม่ได้ล่ะ คุณจะรับผิดชอบฉันด้วยรึเปล่า”

“รับผิดชอบสิ รับผิดชอบด้วยการส่งเธอให้ถึงมือยมทูตเองเลยดีไหมล่ะ”

“ใจร้าย...นี่เป็นคำพูดที่ใช้กับเด็กงั้นเหรอคะ”

“18 สำหรับฉันก็ไม่เด็กแล้วนะ”

“นี่คุณคิดกับฉันไปถึงขั้นไหนกันคะเนี่ย”

“ขั้นที่ว่าเธอควรหยุดมโนได้แล้ว เพราะอยู่แต่ในโรงพยาบาลก็เลยเป็นแบบนี้สินะ”

“แบบไหนกันคะ”

“แบบนี้ไง”

คนร่างบางลุกขึ้นจากโซฟาแล้วก้มลงไปดีดนิ้วลงบนหน้าผากมนของเด็กสาวไปหนึ่งที ก่อนจะยื่นหนังสือนิยายไปให้กับคนร่างเล็กที่หน้าแดงก่ำไปด้วยความอายเต็มขั้นที่อีกฝ่ายยื่นหน้ามาใกล้กับเธอมากเกินไป

“อ่านนิยายให้มันเพลาๆลงหน่อยเถอะ”

พูดจบฉันก็เงยหน้าขึ้นพลางเดินเลี่ยงไปอีกทาง ปล่อยให้คนร่างเล็กนั่งกุมหนังสือนิยายอยู่ตรงนั้นต่อไป

“เผื่อไว้ก่อน สร้อยเส้นนี้ใส่ติดตัวไว้ให้ตลอดล่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอฉันจะรู้”

“ขอบคุณค่ะ แล้วคุณจะให้ฉันตอบแทนคุณยังไงดีคะถึงจะพอ”

“นั่นสินะ ก่อนอื่นก็โอนเงินค่าห้องพักที่ฉันซื้อเพิ่มให้เธออีกห้องมาซะ แล้วก็โทรไปบอกพ่อแม่ของเธอด้วยว่าปลอดภัยดี ทีนี้ก็นี่ ช่วยฉันจับคู่พวกเขาที”

“โอ้โห มาเป็นชุดเลยหรอคะ”

“จะไม่ทำหรอ”

“ทำค่ะ ทำ!”

“อืม ฉันจะไปรอด้านล่างถ้าคุยเสร็จแล้วก็ตามมาล่ะ”

“รับทราบค่ะ คุณ...”

“ยูโร เรียกแค่ยูโรก็พอ”

“ค่ะคุณยูโร”

เชื่อฟังง่ายดีจัง พอเดินลงมาด้านข้างก็ดันเจอกับเจ้าจิ้งจอกตัวเดิมอีกแล้ว ยังไม่ถอดใจอีกรึไง สงสัยฉันต้องส่งเพลง ถ้าเขาจะรัก อยู่เฉยๆ เขาก็รัก ให้เขาฟังแล้วมั่งเนี่ย เผื่อจะรู้ตัวซักที ว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลกมันใช้ไม่ได้เสมอไป

“รันเวย์”

“อุรณสวัสดิ์ครับลูกแมวน้อย ไปทานข้าวกันไหมครับ ผมเลี้ยงเอง~ตอบแทนที่ยูโรเลี้ยงอาหารผมเมื่อวันก่อน แต่ถ้าคุณไม่สะดวกใจ”

ถึงปากพูดแบบนั้นแต่แววตาอ้อนวอนกันสุดๆ ไปเลยนี่....ถ้าตอบว่าไม่ เขาจะร้องไห้รึเปล่าเนี่ย

“เอาสิ แต่นายต้องเลี้ยงเพื่อนของฉันด้วยนะ”

“ไม่มีปัญหาเลยครับ แมวน้อย เอามาสิบคนผมก็เลี้ยงไหว”

“เป็นผู้จัดการของอทินมันเงินดีมากสินะ อีกอย่างฉันไม่ใช่แมวของนาย”

“ขู่ใหญ่เลย”

“ฉันเหนื่อยจะแก้ตัวกับนายแล้วรันเวย์ อยากเรียกอะไรก็เรียกไป”

“เรียกที่รักก็ได้เหรอครับ”

“อันนั้นไม่ได้”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอบแบบไม่คิดเลยนะ”

“เรียบร้อยแล้วค่ะ”

“เพื่อนคุณเหรอครับ สวยจังเลยนะ”

“ถ้าชอบขนาดนั้นแต่งงานกับเธอเลยไหมล่ะ”

“นี่ยูโร หึงผมหรอครับเนี่ย ไม่เอาสิครับ ผมแค่ชมเองนะ”

“ไม่ใช่แล้ว”

คิดเองเออเองเก่งชะมัดเลยนะเขาน่ะ เจ้าจิ้งจอกหลงตัวเองเอ้ย ยัยนี่ก็อีกคนคิดไปไกลแล้วไหมล่ะ ขอแค่เป็นใครก็ได้ที่หน้าตาดีก็พอแล้วงั้นเหรอ

“ทำไมคุณทำหน้าหงุดหงิดได้ขนาดนี้ล่ะคะ หรือว่าคุณสองคน”

“ตอนนี้ยังไม่ใช่ครับ”

“คะ?”

“ผมรันเวย์ เป็นเพื่อนร่วมธุรกิจของคุณยูโรครับ”

“อ้อค่ะ ฉันจีราญา หรือเรียกสั้นๆ ว่าจีก็ได้ค่ะ เป็นเพื่อนเหมือนกันค่ะ”

“งั้นเราไปกันเลยไหมครับ”

“ไปไหนคะ”

“กินข้าวน่ะ หมอนี่เลี้ยงเอง ดังนั้นเธอต้องถลุงเงินของเขาให้หมดตัวเลยนะ”

“เอ๋ จะดีหรอคะ!?”

“ยินดีครับ เชิญถลุงเงินผมได้ตามสบายเลย อยากจะถลุงไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ ถ้าเป็นคุณผมยอมนะ”

หยุดพูดจาหวานเลี่ยนแล้วขยิบตามาให้ฉันซะทีเถอะ....ผู้ชายเจ้าชู้น่ากลัวไปแล้ว....

“คุณยูโรหน้าซีดเลย เป็นอะไรไปคะ”

“สำลักความรักที่ผมมีให้จนล้นหัวใจสินะ”

“ถ้านายเล่นมุกหวานเลี่ยนแบบนั้นอีกที ฉันจะไม่ไปแล้ว”

ฉันยื่นคำขาดกับหมอนั่น จนทำให้การทานอาหารเช้าของฉันดำเนินการราบรื่นไปได้ด้วยดี ต้องขอบคุณจีราญาที่ทำให้การมาทานอาหารในครั้งนี้ไม่อึดอัดจนเกินไปด้วย

“ขอบคุณที่เลี้ยงอาหารครั้งนี้มากๆเลยนะคะ ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าให้ฉันได้เลี้ยงตอบแทนคุณด้วยนะคะ”

“ได้เลยครับ ถ้าคนสวยๆอย่างคุณจีราญาชวนล่ะก็ ผมต้องไม่พลาดอยู่แล้ว”

ดูเข้ากันดีจังนะ ฉันควรเชียร์พวกเขาให้คบกันเลยดีไหมเนี่ย อยู่ๆ ไอ้คำว่าเหมาะสมกันมากมันก็พุดขึ้นมาเต็มหัวของฉันไปหมด

“ชาไข่มุกมันอร่อยขนาดนั้นเลยหรอคะ เห็นคุณนั่งดูดแก้วที่หมดแล้วหมดอีกมาได้ซักพักแล้วนะคะ ให้ฉันสั่งให้ใหม่อีกแก้วดีไหมคะ”

“ไม่เป็นไร ฉันอิ่มแล้ว ว่าแต่เธอคิดว่าเขาหล่อไหม”

“คะ? ก็...หล่อค่ะ อยู่ๆ ทำไมถึงถามล่ะคะ”

“แล้วอยากแต่งงานด้วยไหม”

“เดี๋ยวสิครับ ยูโร ทำไมคุณถึงเอาแต่ถามอะไรแบบนี้ล่ะเนี่ย”

คนร่างสูงนั่งหน้าแดงระเรื่อไปด้วยความเขินที่อีกฝ่ายดันพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมาได้หน้าตาเฉยโดยที่ไม่มีท่าทีเนียมอายอะไร

“ไม่ค่ะ ไม่รู้สึกอะไรเลย ก็คุณบอกเองนี่คะ การจะแต่งงานกับใครซักคนมันจะต้องเกิดจากความรัก”

“ใช่ฉันบอก ดังนั้นจำไว้ด้วยล่ะ ว่าหมอนี่อันตราย”

“เอ๋ อย่าใส่ร้ายกันสิครับ ~”

“แต่ถ้าเธอชอบเขา ลองศึกษาไปก่อนก็ได้ เขาก็ไม่ได้...เลวร้ายเท่าไรหรอก”

ฉันพูดออกไปอย่างอ้อมแอ้มเพราะไม่ค่อยได้ชมใครเท่าไร เลยไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงให้ดีที่สุด

“แล้วคุณล่ะคะ อันตรายด้วยรึเปล่า”

“อันตรายสิ อาจจะมากกว่าเขาด้วยซ้ำ”

หลังจากการสนทนาครั้งนี้จบลงฉันก็พาคนร่างบางไปที่ร้านของแม่มดแห่งหนึ่งที่รินคุแนะนำมา อันที่จริงฉันโดนเขาบ่นยกใหญ่เลยล่ะเรื่องที่ช่วยจีราญาให้พ้นจากความตายเนี่ย เพราะมันผิดกฎการแทรกแซงของยมทูต แต่ว่าเรื่องที่ความตายของเธอมาจากความผิดธรรมชาติก็พอนำไปหักล้างได้บ้าง เขาจึงแนะนำให้ฉันพาเธอมาซื้อใบต่ออายุที่นี่ซะ เพราะยังไงก็ใช้ได้กับพวกยมทูตอยู่ดีเพราะพวกเขามีพันธสัญญากับพวกแม่มดอยู่หลายฉบับ จึงเป็นข้อยกเว้นไม่ให้ถูกทำโทษ ทั้งนี้ทั้งนั้นรินคุก็ยังย้ำนักย้ำหนา ว่าอย่าทำแบบนี้อีกเด็ดขาด

เรียกได้ว่าฉันหูชาเลยล่ะ...

“หมายความว่ายังไงกันคะ ที่ว่าฉันไม่ต้องตายแล้ว”

“ความตายของเธอมันไม่ใช่เกิดจากธรรมชาติแต่เกิดจากการต้องการอำนาจในบริษัทของเธอนั่นล่ะ ฉันบอกได้แค่นี้ ที่เธอต้องอยู่โรงพยาบาลตลอด ก็เพราะมีคนต้องการทำให้อำนาจของพ่อเธอสั่นคลอน เอาเป็นว่าฉันมีวิธีช่วยให้เธอไม่ต้องตายก่อนวัยอันควรแล้ว แลกกับที่เธอต้องช่วยให้ภารกิจของฉันสำเร็จตกลงไหม”

“พูดจริงหรอคะ..ฮึกๆ ...”

“หน้าฉันเหมือนคนที่ชอบโกหกมากสินะ”

“ไม่ใช่นะคะไม่ใช่ ! ฮือ ฉันยอมฉันเชื่อคุณแล้ว ”

“อืม แล้วคำตอบล่ะ”

“แน่นอนค่ะ ฉันจะช่วยให้คุณอทินรักกับคุณพายอาร์เอง”

ข้ออ้างเท่านั้นล่ะ อันที่จริงฉันตันสินใจว่าจะช่วยเธอไปตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เธอรู้สึกผิดที่ไม่สามารถตอบแทนอะไรให้ฉันได้ ก็แค่นั้นเอง

“ค่าตอบแทนใบต่ออายุของฉัน ขอเป็นช่วยยกเลิกการแต่งงานของราชาปีศาจกับหลานสาวของฉันในอีก 100 ปีข้างหน้าให้ที”

เดี๋ยวนะ แค่ใบต่ออายุฉันต้องเซนต์สัญญาทาสฉบับนี้ด้วยหรอ มันจะเกินไปไหม....

“นี่คุณแม่มดแห่งแสงคุณจะไม่คิดค่าตอบแทนของฉันแรงไปหน่อยเหรอคะ ต่อกรกับราชาปีศาจเลยนะ คิดอะไรอยู่กัน”

“ใบต่ออายุมันไม่ใช่ของที่จะหากันได้ง่ายๆนะ แต่ล่ะครั้งต้องมีการทำสัญญากับพวกยมทูตอีกหลายต่อหลายชั้น”

“ว่าไงจะเอารึเปล่า แถมเงินให้อีก 100 ตำลึงทองด้วยเอา”

“นี่คุณยาย!”

“พูดอะไรเกรงใจรูปร่างของฉันด้วยสิย่ะ ยัยเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”

“ของแบบนั้นไปจ้างผู้กล้าจากต่างโลกเอาก็ได้นี่คะ”

“ของแบบนั้น มันไม่มีหลักประกันมากกว่าตัวแทนของพระเจ้านี่”

“ถ้าเธอไม่เอา ยัยเด็กสาวคนรักของเธอได้ตายจริงๆแน่ คิดดีๆล่ะ และก็ลำพังตัวเธอที่ยังไม่ได้เป็นพระเจ้าเต็มตัวก็ไม่สามารถยกเว้นการตายให้เธอได้หรอกนะ เว้นแต่ว่าจะยอมโดนลงโทษแทนน่ะ”

“ไม่ใช่คนรักซะหน่อย!”

“.....”

“อ้าว เหรอจ๊ะ ไอ้ฉันก็นึกว่าคนที่ยอมเข้ามาทำสัญญากับแม่มด จะมีแต่พวกทำเพื่อความรักซะอีก จะยังไงก็ช่างเถอะ เธอจะเอาไหมล่ะ ถ้าจะให้พูดตามตรงฉันเองก็อยากได้เธอมากเลยล่ะนะ เพราะพวกตัวแทนของพระเจ้าส่วนใหญ่ไม่ชอบลดตัวมาพึ่งเวทมนต์ของฉันกันหมด น่าเบื่อมากๆ ”

“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไม่ต้องทำเพื่อฉันขนาดนี้ก็ได้-”

“ตกลง ฉันจะเอาใบต่ออายุนั่น ส่งมาได้แล้ว”

“คุณยูโร”

“เธอคงต้องใช้หนี้ฉันด้วยการเลี้ยงชาไข่มุกเพิ่มเป็นหนึ่งอาทิตย์แล้วนะ”

ฉันยิ้มให้คนที่นั่งทำหน้าอมทุกข์ก่อนจะร้องไห้ออกมาจนฉันต้องลูบหัวเธอเบาๆเพื่อปลอบใจ

“ฮือๆ!”

“ทำไมต้องร้องไห้ด้วยเนี่ย ฉันไม่ได้ทำให้เธอฟรีซะหน่อย”

“ก็คุณดีกับฉันขนาดนี้นี่คะ ฮึก...ฮือ!”

“นี่ใบต่อของเธอ อะๆ เซ็นต์ก่อนสิจ๊ะ”

หนอย ยัยแม่มดเจ้าเล่ห์ คิดจะใช้ฉันไปตายชัดๆเลย คิดแล้วก็ตลกชะมัด ฉันยอมขนาดนี้ เพราะความสงสารงั้นเหรอ คุณธรรมสูงส่งจริงๆ

“เซ็นต์แล้ว ทีนี้ให้ฉันได้รึยัง”

“แน่นอน พันธสัญญาของเราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว”

คนร่างเพรียวชูใบพันธสัญญาขึ้นมา ก่อนที่แสงสว่างจ้าจะค่อยๆ ไหลไปตามรายชื่อที่ลงนามเอาไว้ในสัญญาทีละตัวทีละตัวจนครบและบินไปเก็บเอาไว้ในชั้นวางหนังสือของแม่มดร่างสวยที่ยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 143

    “ก็ไม่แน่ ถ้าไม่อยากให้ฉันขายก็ทำตัวดีๆ ”“อุ๊บ...ฮ่าฮ่าฮ่า โอเคค่ะฉันจะทำตัวดีๆเพื่อไม่ให้คุณขายฉันก็ได้ แต่แย่หน่อยนะคะ ฉันไม่มีความคิดจะไปเผ่าของคุณเลยสักนิด เพราะงั้นขอตัวก่อน”“เดี๋ยว!”“อะไรอีกล่ะคะ”“ฉันจะนำทางไปเอง”เปลี่ยนใจแล้วเหรอ อะไรกันจะเป็นคนดีก็ทำได้นี่น่า“ขอบคุณค่ะ”“เห็นแก่ที่เป็น

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 142

    “ขี้โวยวายไปได้ถ้ารักษาทันก็ไม่ตายหรอกน่า”นี่มันคำพูดของคนที่เพิ่งจะแทงลำคอของฉันรึไง...เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย“ก็อย่างพวกที่มาจากนอกโลกอะไรนั่นไง ถึงตายไปก็ฟื้นขึ้นมาอีก พวกขี้โกงนั่นตายๆไปให้หมดก็ดี ทำตัวเป็นผู้กล้าผู้ประสบความสำเร็จกันไปได้ แค่ได้เกิดใหม่ก็วิเศษวิโสนักรึไง จะข่มใครเขายังไงก็ได้ส

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 141

    “ฉันไม่เห็นจะเข้าใจสักนิดเลยค่ะ!”“งั้นพวกเราก็จะไปด้วย”“ไม่ได้สิครับ พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหนตามใจชอบได้สักหน่อย คนที่สามารถทำแบบนั้นได้ก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นล่ะครับ ถ้าฝืนมากไปล่ะก็อาจถูกกลืนตัวตนแล้วกลายเป็นคนของโลกนั้นไปเลยก็ได้นะครับ”“เอ๋ แล้วจะให้พวกเรานั่งรอเธออยู่ที่นี่กับคุณรึไง

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 140

    “ระดับค่าพลังไม่คงที่ ทำการเริ่มปรับระดับในอีก สาม สอง หนึ่ง!”ตุบ!“กรร!!”“แย่ล่ะสิ ดันลืมไปว่าถ้าจำกัดพลังของท่านยูโร ฟานก็หลุดจากการรวบรัด”“วินเลซ! ปล่อยฉัน! ฉันจะช่วยคุณเอง”“ไม่ไหวหรอก ถ้าคุณอยู่ในโหมดบ้าคลั่งแบบเขาก็น่าจะอีกเรื่องนึง แต่นั่นก็ไม่ต่างอะไรนักหรอก เพราะคุณก็ควบตัวเองไม่ได้อยู่ด

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 139

    “มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมนี่น่า ผมสนแค่เด็กคนนี้เท่านั้นล่ะ ค่าพลังงานมหาศาลขนาดนี้ไม่ได้มีมาถึงมือผมบ่อยๆสักหน่อย...”วินเลชยังคงจับจ้องไปยังเด็กทารกน้อยซึ่งทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอย่างมากก่อนที่เธอจะเร่งพลังมากขึ้นไปอีกทำให้เจ้าตัวกักตุนพลังของเขาเริ่มเกิดอาการรวนขึ้นมาดื้อๆ“หึหึหึ คุณนี่วิเศษสมกับที่

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 138

    “ก็อย่างที่ว่ามา คุณยูโร ชิยูอิน คือคุณอย่างนั้นสินะครับ”หลังจากนั้นประมาณสามสัปดาห์ผ่านมาได้ก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นมากับฉัน อย่าว่าแต่ฉันจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยพวกเขาก็ด้วย ร่างกายของฉันมันเกิดร่วนจนกลายเป็นภาวะเข้าขั้นวิกฤต เดี๋ยวก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นเด็กสาว เดี๋ยวก็กลายเป็นร่างผู้ใหญ่แล

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 137

    “หมายความว่าถ้าพลังไม่คงที่หรือมีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ต้องจำกัดพลัง ไม่สิต้องเกิดใหม่อีกเรื่อยๆเลยเหรอคะ”“ถูกต้องตามนั้น เว้นแต่จะยอมถูกดูดพลังไปอ่านะ แต่ถึงยังไงถ้าเป็นพวกหายากแบบเธอล่ะก็ถึงให้ไปเดี๋ยวก็เพิ่มกลับมาอีกอยู่ดี เปลี่ยนไปเรื่อยๆถ้าคงที่เดี๋ยวก็หยุดเองล่ะ”“อย่าพูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 136

    “กะ ก็ตามที่พูด...”“ไม่ใช่เรื่องนั้น”“แล้วเรื่องอะไรกันคะ”“คิดถึงกันบ้างรึเปล่า”“คิดถึง…เหรอคะ? ”ฉันจ้องใบหน้าสวยซึ่งเท้าคางมองฉันอย่างไม่วางตาทำเอาฉันทำตัวไม่ถูกและหลบสายตาเธออย่างสู้ไม่ได้ ทำไมฉันถึงมักจะแพ้สายตาให้กับเธอกันนะ...“ใช่ คิดถึงกันไหม นั่นล่ะสิ่งที่ฉันอยากรู้”“อื้ม...คิดถึง...ก็

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 135

    อวดดี? เธอเป็นใครถึงกล้าพูดคำนั้นกับฉันกันนะ ดูๆไปแล้วก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ไม่แน่ว่าเธออาจจะตำแหน่งสูงกว่าฉันก็เป็นได้“จะรังแกล้งคนที่ตำแหน่งต่ำกว่าเหรอคะ หึ ฉันว่าแล้วว่าพวกคุณมันนิสัยเสียจริงๆด้วย”“กลับมาพูดภาษาเดิมได้แล้วสิเนี่ย ฉันแค่กระตุ้นนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มจะจำได้แล้วเหรอ นี่ก็หมายค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status