공유

บทที่ 0007

작가: จี้เสี่ยวนวน
เมื่อดูจากการแสดงออกของป๋อซือเหยียน เหมือนเขาจะรู้ว่าที่ดินแปลงนี้จะขายได้ราคาสูง

เพียงแต่ป๋อซือเหยียนเลือกที่จะไม่ซื้อที่ดินนั้น เขาเลือกที่จะให้สตีเวนประมูลที่ไปเพื่อแสดงน้ำใจ

นี่ดูเหมือนจะเป็นสไตล์ของป๋อซือเหยียน

เสิ่นม่านพูดอย่างจริงจัง “ฉันแค่พูดเยินยอนิดหน่อยเอง นายคิดมากไปแล้ว”

ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว ราวกับว่าเขากำลังคิดถึงคำพูดของเสิ่นม่านว่าเธอพูดจริงหรือพูดเล่น

แต่ด้วยมันสมองของเสิ่นม่าน ทำไมเธอถึงรู้มูลค่าที่ดินแปลงนี้ในอนาคตข้างหน้า

ป๋อซือเหยียนรู้สึกว่าตัวเองคิดมากไป

“แต่ก็ดี”

ป๋อซือเหยียนไม่สนใจเสิ่นม่านมากนัก แต่กลับพาซูเฉี่ยนเฉี่ยนไปพบปะทำความรู้จักกับคนอื่น

ก่อนที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะเดินจากไป เธอเหลือบมองเสิ่นม่านด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอโทษ

แม้ว่าสายตาของซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะซ่อนมันเอาไว้ แต่เสิ่นม่านก็ยังมองออกว่าในสายตาของเฉี่ยนเฉี่ยนซ่อนอยยิ้มแห่งชัยชนะเอาไว้

เสิ่นม่านเงยหน้าขึ้นและดื่มแชมเปญหนึ่งแก้ว

ในสายตาของคนนอก ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงขี้แพ้ที่ถูกคนอื่นแย่งสามีไป

สามีของเธอไม่เพียงแต่ทิ้งภรรยาที่เพิ่งแต่งงานไปกับผู้หญิงอีกคน แต่ยังพาผู้หญิงคนนี้ไปพบกับหุ้นส่วนทางธุรกิจด้วย จะยังมีใครที่ดูเหมือนตัวตลกไปมากกว่าเธออีก?

เสิ่นม่านรู้สึกหดหู่ เดิมทีเธอวางแผนที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อทำความรู้จักกับนักธุรกิจรายใหญ่เหล่านั้นมากขึ้น แต่เมื่อป๋อซือเหยียนจากไปเช่นนี้ มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะเข้าใกล้คนเหล่านั้น

จะทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงผู้ประกอบการเหล่านั้นโดยที่ไม่อยู่จงใจเกินไปได้?

เสิ่นม่านกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และสายตาของเธอก็มองไปที่เปียโนที่อยู่ไม่ไกล

เสิ่นม่านยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย

มีแล้ว!

เสิ่นม่านเดินไปที่ข้างๆเปียโนด้วยย่างก้าวอันสง่างาม เธอทักทายนักเปียโนคนเดิมสั้นๆ จากนั้นจึงนั่งลง

ในฐานะลูกสาวของตระกูลเสิ่น เธอต้องเรียนรู้มากมายตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แต่ในอดีตชาติ เธอไม่ได้ใช้ประโยชน์กับสิ่งที่เธอเรียนมา คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้ใช้มันในงานนี้

เสิ่นม่านไม่ได้สัมผัสเปียโนมาเป็นเวลานานแล้ว เธอรู้สึกแปลกนิดหน่อย แต่ความเคยชินนั้นเปลี่ยนแปลงได้ยาก

ในไม่ช้า เสียงเปียโนก็เริ่มบรรเลงขึ้นด้วยเทคนิคของเสิ่นม่าน และทันใดนั้นภายในงานเลี้ยงก็มีเสียงเพลงเปียโนอันไพเราะก็ดังขึ้นมา ซึ่งเข้ากับบรรยากาศในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทุกคนต่างดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงเปียโนที่จู่ๆก็ดังขึ้นมา

ทุกคนก็มองไปในทิศทางของเสียงเพลง และหลังจากจบเพลง ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมา

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเห็นว่าป๋อซือเหยียนหยุดพูดคุยกับนักธุรกิจ และจับตาดูเสิ่นม่าน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ตั้งใจพูดขึ้นมาว่า “พี่สาวเสิ่นเก่งจัง เล่นเปียโนได้ด้วย”

“ท้ายที่สุด เธอก็สอบผ่านเปียโนระดับสิบมาแล้ว”

ป๋อซือเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น

ในพวกเขาเหล่านี้ มีจำนวนหลายคนที่สามารถเล่นเปียโนได้ และเป็นเรื่องปกติที่จะสิบผ่านระดับสิบได้ อาจกล่าวได้ว่าทุกคนที่นี่เข้าใจในด้านดนตรี การได้รับเสียงปรบมือมากมายเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าฝีมือทางด้านดนตรีของเสิ่นม่านนั้นไม่ธรรมดา

เปียโนระดับสิบ ออกมาจากปากของป๋อซือเหยียนเบา ๆ

จากนั้นซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ตระหนักได้ถึงความแตกต่างระหว่างเธอกับเสิ่นม่าน

เดิมทีเธอคิดว่าเสิ่นม่านแค่โชคดีที่มีชีวิตที่ดี และมีหน้าตาสวยงาม แต่นั่นมันก็ไร้ประโยชน์

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิด!

และมันก็ผิดอย่างร้ายแรง!

ทันทีที่เสิ่นม่านเล่นเพลงจบ ผู้หญิงที่ดูดีร่ำรวยมีฐานะหลายคนก็เข้ามาคุยกับเธอ

แม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปพูดคุยกับนักธุรกิจรายใหญ่เหล่านั้นโดยตรงได้ แต่มันจะง่ายขึ้นในการติดต่อกับพวกเขาผ่านทางภรรยาของพวกเขา

“คิดไม่ถึงว่าคุณหนูเสิ่นม่านจะเป็นคนที่มีความสามารถแบบนี้ เล่นได้ไม่เลวเลย”

ฟู่ฉือโจวยืนพิงอยู่ตรงราวจับของทางเดิน

“ใช่ ไม่เลวเลยจริงๆ”

เซียวตั๋วก็เห็นด้วย

“ไอคนที่แยกแยะเสียงสูงต่ำของดนตรีไม่ได้แบบนายนี่เข้าใจดนตรีด้วยเหรอ?”

“ไม่เข้าใจหรอก แต่ผมแค่ชอบ”

เซียวตั๋วไม่เข้าใจดนตรี เขาแค่ชอบเพราะคนเล่นดนตรีเป็นเสิ่นม่าน ดังนั้นเธอจึงดูแตกต่างออกไปเป็นพิเศษ

ระหว่างทางที่เสิ่นม่านไปห้องน้ำ เมื่อเดินถึงมุมเลี้ยว เธอก็ถูกมือปริศนาดึงเข้าไปที่มุมลับตาคน เสิ่นม่านต้องการร้องขอความช่วยเหลือโดยไม่รู้ตัว แต่ปากของเธอถูกอุดไว้โดยชายที่อยู่ข้างหลังเธอ

“อย่าขยับ”

ชายคนนั้นลดเสียงลง

เมื่อรู้สึกถึงหน้าอกที่ร้อนผ่าวที่อยู่ข้างหลัง เสิ่นม่านจึงปรับการหายใจ จากนั้นก็กัดไปที่ซอกนิ้วมือของชายคนนั้น

“โอ้ย!”

ชายคนนั้นหายใจออกมาด้วยความเจ็บปวด

“กัดจริงเรอะ?”

ชายคนนั้นปล่อยเสิ่นม่านไป

เสิ่นม่านออกห่างจากชายคนนั้นทันที เมื่อเธอพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร เธอก็มองเขาด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง “เซียวตั๋ว?”

“ไม่งั้นเธอคิดว่าเป็นใครหละ?”

“คุณทำอะไรลับๆล่อๆ?”

“ผมแอบเข้ามา กลัวคนอื่นจะเห็น”

“คุณล้อเล่นหรือเปล่า? คุณท่านเซียวคือ....”

เสิ่นม่านกำลังจะพูออกไป แต่กลับถูกเซียวตั๋วปิดปากทันที

เซียวตั๋วขมวดคิ้ว “อืม? ทำไหมเหรอ?”

เมื่อเห็นการแสดงออกของเซียวตั๋ว เสิ่นม่านก็มองออกไปอย่างรู้สึกผิด

ในอดีตชาติ คุณท่านเซียวทิ้งทรัพย์สินทั้งหมดของเขาให้กับเซียวตั๋วหลังจากตายไป เธอก็เพิ่งมารู้เรื่องนี้ในภายหลัง

แต่ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่าเซียวตั่วเป็นหลานชายของคุณท่านเซียว

“ฉันหมายความว่า นายท่านเซียวใจดีกับผู้คน ยังไงซะ คุณก็เป็นคนที่มีอำนาจในธุรกิจต่างประเทศ แม้ว่าคุณจะแอบเข้ามา ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรหรอก”

“อาจจะ แต่ผมเป็นคนชอบระวังไว้ก่อน”

เสิ่นม่านพูดว่า “คุณอย่าบอกนะ ว่าคุณแอบเข้ามาเพื่อพูดสิ่งเหล่านี้กับฉัน”

เธอไม่คิดว่าเซียวตั๋วจะน่าเบื่อขนาดนี้

“อันนี้ให้คุณ”

เซียวตั๋วมอบสัญญาในมือของเขาให้กับเสิ่นม่าน

เสิ่นม่านก้มลงไปดูและเห็นว่ามีข้อความเขียนไว้ว่าเป็นสัญญาของเธอสำหรับเงินกู้สี่หมื่นล้านบาท

“เพื่อสิ่งนี้เหรอ?”

เซียวตั๋วพยักหน้า

“น่าเบื่อ”

เสิ่นม่านเซ็นชื่อ แล้วเอาใบสัญญาโยนไปให้เซียวตั๋ว

แอบเข้ามากลางดึกเพื่อมาให้เสิ่นม่านเซ็นสัญญา แล้วยังจะมาอยู่ตรงหน้าห้องน้ำผู้หญิงอีก!

“ในฐานะเจ้าหนี้ของคุณ ผมขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม?”

“ถามมาสิ”

“ทำไมคุณถึงใช้เงินถึงห้าหมื่นล้านเพื่อซื้อที่ดินนั้น”

เสียงของเซียวตั๋วต่ำลง และมีกลิ่นอายของความสับสนอยู่เล็กน้อย ทำให้เธอต้องตอบคำถามของเขา

เสิ่นม่านเม้มริมฝีปากของเธอ

“ฉันยังบอกคุณไม่ได้”

“แล้วถ้าผมต้องรู้ให้ได้หละ?”

เซียวตั๋วดูออกว่าเสิ่นม่านซื้อที่ดินนี้มาเพราะมีแผนอื่นอยู่

แต่เขามองไม่ออกที่ดินผืนนั้นจะมีตรงไหนที่จะมีมูลค่าถึงห้าหมื่นล้าน

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการซื้อขายที่สูญเปล่า แต่ในสายตาของเสิ่นม่าน เขารู้สึกว่าที่ดินนี้จะมีมูลค่ามากกว่าห้าหมื่นล้านในอนาคต

“ถ้าฉันบอกคุณว่าที่ดินนี้จะมีมูลค่ามหาศาลในอีกครึ่งปี คุณจะเชื่อไหม?”

“ไม่เชื่อ”

อย่างน้อยเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววในตอนนี่

“แล้วถ้าฉันบอกว่า อสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์รอบๆที่ดินรกร้างนั่นกำลังจะขายเร็วๆนี้หละ?”

“อสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์คืออะไร”

เซียวตั๋วขมวดคิ้ว

ทำไมเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน?

“อีกไม่นานคุณก็จะรู้”

เสิ่นม่านยิ้ม จากนั้นก็เดินไปเลี่ยงเซียวตั๋วแล้วเข้าไปในห้องน้ำ

เซียวตั๋วขมวดคิ้วเดินไปที่ห้องห้องโถง ฟู่ฉือโจวถามว่า “เซ็นเสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม”

“ทำไมขมวดคิ้วทำหน้าบูดแบบนั้นหละ?”

“ที่ดินที่เสิ่นม่านซื้อไปมีอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์อยู่รอบๆหรือเปล่า?”

“ไม่มีนะ”

“ไปสืบหามา ว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินรอบๆที่ดินร้างนั้น ยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี”

“รอบๆที่ดินร้างนั้นเป็นพื้นที่บำบัดน้ำเสีย ไม่มีอะไรให้ตรวจสอบด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์หรอก ขนาดแค่สนามบาสเก็ตบอลก็ไม่มีใครสร้างหรอก”

เซียวตั๋วตกตะลึง “พื้นที่บำบัดน้ำเสียเหรอ?”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ชีวิตหลังความตายของเซินมาน   บทที่ 505

    เสิ่นม่านไม่ได้ระลึกถึงอุบัติเหตุรถยนต์ในหลายปีก่อนมานานแล้ว อุบัติเหตุที่ทำให้เธอต้องสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย ในตอนนั้นเธอยังเด็ก ต่อให้โตขึ้นมาแล้ว เธอก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา แต่ตอนนี้ฮั่วหยุนเหลียนนั่งอยู่ตรงหน้าเธอและบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นแผนการที่ไตร่ตรองมาอย่างดี!"พ่อแม่ของเซียวตั๋วตายในอุบัติเหตุรถยนต์ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา ในตอนนั้นป้าเซียวที่ตั้งครรภ์อยู่รอดชีวิต เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นค้นพบ และเพื่อให้ป้าเซียวคลอดลูกได้อย่างสบายใจ คุณปู่เซียวได้ส่งป้าเซียวไปต่างประเทศ ไม่นานนัก เซียวตั๋วก็เกิดขึ้น"ตามข่าวลือ แม่ของเซียวตั๋วถูกกล่าวหาว่าเป็นภรรยาลับที่เซียวเป่ยเจิงเลี้ยงดูอยู่นอกบ้าน ซึ่งโกรธแค้นตระกูลเซียวมาโดยตลอด และปลูกฝังความคิดที่ต้องการแก้แค้นตระกูลเซียวให้แก่เซียวตั๋ว ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่คนบ้าแต่อย่างใด ครั้งหนึ่งบนเรือสำราญ เซียวตั๋วก็เคยยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงข่าวลือจากภายนอกแม่ของเซียวตั๋วไม่ใช่ภรรยาลับ แต่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเซียวเป่ยเจิง เป็นคุณหญิงเซียวตัวจริง"คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่า ใ

  • ชีวิตหลังความตายของเซินมาน   บทที่ 504

    เบื้องหน้าคือวิลล่าที่ดูธรรมดา แต่ทำเลที่ตั้งของที่นี่ถือว่าดีที่สุด วิลล่าในย่านนี้มีราคาขั้นต่ำขั้นสูงกว่าล้านล้านบาท คนที่สามารถอาศัยอยู่แถวนี้ได้ต้องเป็นคนร่ำรวยหรือจะต้องรวยหรือมีเกียรติแต่ว่า ที่นี่ดูเหมือนไม่ใช่ที่ที่มีคนอาศัยอยู่เป็นประจำ"ไม่นึกเลยว่าคุณฮั่วจะมีบ้านที่งดงามแบบนี้ที่นี่""นี่ไม่ใช่ของผม"น้ำเสียงของฮั่วหยุนเหลียนเรียบเฉย เสิ่นม่านยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ฮั่วหยุนเหลียนก็หยิบกุญแจออกมา เขาไอเบา ๆ สองครั้ง หน้าตาดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร จากนั้นเขาก็เปิดประตูวิลล่าเสิ่นม่านก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วพูดว่า: "ที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณ แล้วทำไมคุณถึงมีกุญแจล่ะ?""เพื่อนให้ผมมา"คนที่ฮั่วหยุนเหลียนเรียกว่าเพื่อนในเมืองไห่เฉิงนี้ไม่มีมากนัก เสิ่นม่านจึงนึกถึงเซียวตั๋วเป็นคนแรกฮั่วหยุนเหลียนเปิดประตูแล้วเสิ่นม่านก็เดินตามฮั่วหยุนเหลียนเข้าไป แม้วิลล่าจะดูเรียบง่ายจากด้านนอก แต่การตกแต่งภายในก็พิถีพิถันมาก แม้ในยุคนี้ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ล้ำเลิศหลังจากฮั่วหยุนเหลียนเปิดไฟ เสิ่นม่านก็มองไปรอบ ๆ เหมือนที่นี่มีคนมาทำความสะอาดอยู่เสมอ ฮั่วหยุนเหลียนไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก

  • ชีวิตหลังความตายของเซินมาน   บทที่ 503

    "คุณเคยคิดเรื่องนี้อาจจะเหลือหลักฐานไหม? คุณยังสัญญากับฉันว่า จะไม่ทำเรื่องอันตรายอีกแล้ว"วันนี้เซียวตั๋วพาคนมาทั้งหมดเป็นพวกลุกฮือที่เคยติดตามเขาตลอด ซึ่งเสิ่นม่านก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในชาติก่อน เสิ่นม่านรู้ว่า เซียวตั๋วมาเเมืองไห่เฉิง แท้จริงแล้วก็คือมีเป้าหมายอื่น เป้าหมายหลักของเขาคือป๋อซือเหยียน แม้ว่าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าเซียวตั๋วมีจุดมุ่งหมายอะไรแต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ เซียวตั๋วต้องการจะเป็นใหญ่ในเมืองไห่เฉิง และอุปสรรคคนแรกก็คือป๋อซือเหยียนแต่เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องราวมากมายขนาดนี้ในชาตินี้ เส้นทางอนาคตได้ถูกปรับเปลี่ยนไป แต่เป้าหมายของเซียวตั๋วกลับไม่เปลี่ยนเลย และยังมีกลุ่มอันตรายเช่นนี้ซ่อนอยู่ด้วยหากมีสักคนที่ถูกจับได้ เซียวตั๋วอาจจะพังพินาศได้เสิ่นม่านไม่กล้าคิดถึงเรื่องในอนาคต เธอมองไปที่เซียวตั๋วตรงหน้า รอให้เซียวตั๋วอธิบายเซียวตั๋วนิ่งเงียบ เสิ่นม่านจึงถามตรงๆ "คุณมีเรื่องอื่นที่ต้องทำในเมืองไห่เฉิง ใช่ไหม?""...ใช่""ก่อนที่คุณมาเมืองนี้แต่อยู่ต่างประเทศก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ได้แล้ว ทำไมถึงต้องมาเมืองไห่เฉิงด้วย หยุนเฟยหานไม่ใช่มาเมืองหลินเฉิงแล้วกำลังรุ่

  • ชีวิตหลังความตายของเซินมาน   บทที่ 502

    เสิ่นม่านมองป๋อซือเหยียนที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงแล้วพูดเรียบๆ ว่า: "ไม่ล่ะ รอให้เขาหายดีแล้วฉันค่อยมาอีกทีก็แล้วกัน"เสิ่นม่านเดินออกจากห้องพักคนไข้โดยไม่ลังเลเลย ในตอนนั้นเอง ป๋อซือเหยียนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นเลขาหลี่เห็นป๋อซือเหยียนลืมตาก็ตกตะลึง"คุณป๋อ? คุณ...""ช่วยพยุงผมลุกหน่อย"เสียงของป๋อซือเหยียนแหบแห้งเลขาหลี่รีบเข้าไปช่วยพยุงป๋อซือเหยียนให้ลุกขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: "คุณป๋อครับ นี่คุณ... ใช้กลอุบายเรียกร้องความสนใจหรือครับ?"ป๋อซือเหยียนไม่พูดอะไรตอนนั้น เขาสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรกแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยส่งสัญญาณเตือนตั้งนานแล้ว เขารู้ว่าคนที่บุกเข้ามาในบ้านตระกูลป๋อในเวลานี้มีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้น และมีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้นที่มีความสามารถทำเช่นนี้ได้และเมื่อกลุ่มโจรบุกเข้ามา ด้วยรูปร่างของเขาสามารถหลบดาบนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น แต่เลือกที่จะรับดาบนั้นเต็มๆเขาแค่อยากรู้ว่า เสิ่นม่านจะเสียใจหรือกังวลเพราะเขาหรือไม่ป๋อซือเหยียนแสดงสีหน้าอ่อนล้าด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ แล้วพูดว่า: "คุณหลี่ ในใจของเธอ คงยังมีผมอยู่บ้างมั้ง"

  • ชีวิตหลังความตายของเซินมาน   บทที่ 501

    "กล่องปฐมพยาบาลมาแล้วค่ะ!"แม่บ้านวางกล่องปฐมพยาบาลลงตรงหน้าเสิ่นม่าน ขณะเดียวกัน เจียงฉินและฟู่ฉือโจวก็มาถึงพอดี เมื่อเห็นความยุ่งเหยิงเต็มพื้น เจียงฉินชะงักไป ทั้งสองคนต่างรู้ชัดว่า 'โจร' ที่ว่านั้นคือใครเจียงฉินขมวดคิ้วและพูดว่า: "นั่งรถฉันไปเถอะ ไม่รู้ว่ารถพยาบาลจะมาถึงเมื่อไหร่""ตกลง"เสิ่นม่านสั่งให้ยามช่วยกันยกป๋อซือเหยียนไปที่รถของเจียงฉินที่อยู่หน้าประตูในโรงพยาบาล แพทย์รีบทำการช่วยชีวิตป๋อซือเหยียนทันที เจียงฉินนั่งอยู่กับเสิ่นม่านบนเก้าอี้ในทางเดิน และพูดว่า: "ไม่ต้องกังวลนะ เมื่อกี้หมอบอกว่าไม่ใช่จุดอันตราย""แต่ถ้าเสียเลือดมากเกินไป ก็อาจเสียชีวิตได้"เสิ่นม่านนวดขมับและถามว่า: "แล้วฟู่ฉือโจวล่ะ?""เขา... เขามีธุระต้องกลับไปก่อน""ไปหาเซียวตั๋วใช่ไหม?"เสิ่นม่านและเจียงฉินต่างรู้ว่าโจรที่บุกเข้าบ้านตระกูลป๋อวันนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเซียวตั๋วครั้งนี้เซียวตั๋วทำอะไรลงไปอย่างบุ่มบ่ามเกินไป เห็นได้ชัดว่าเป็นการตัดสินใจกะทันหัน แม้ว่าการแทงครั้งนี้จะไม่ถึงกับเอาชีวิตป๋อซือเหยียน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในระหว่างนั้นจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นหรือไม่"ใครเป็นญาติผู้ป่ว

  • ชีวิตหลังความตายของเซินมาน   บทที่ 500

    "ไม่มีเหตุผล ทำไมบ้านตระกูลป๋อจะถูกโจรบุกได้"เสิ่นม่านรู้ดีถึงระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านตระกูลป๋อ นอกจากยามรักษาความปลอดภัย 20 คนแล้ว ยังมีแม่บ้านและบอดี้การ์ดอีกหลายคน ภายในบ้านตระกูลป๋อมีศาลบรรพชนของตระกูล ดังนั้นประตูหน้าและหลังจึงใช้ประตูเทคโนโลยีทั้งหมด คนทั่วไปยากที่จะเข้าไปในบ้านตระกูลป๋อได้ แล้วโจรที่ไหนจะมีฝีมือขนาดนี้ สามารถบุกเข้าประตูหลังของบ้านตระกูลป๋อได้อย่างกะทันหัน"ตำรวจคงจะมาถึงเร็วๆ นี้ พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่เพื่อสร้างความวุ่นวาย ม่านม่าน รีบไปกันเถอะ"เจียงฉินดึงแขนของเสิ่นม่านด้วยความกลัว แต่เสิ่นม่านขมวดคิ้วพูดว่า: “อย่าแจ้งตำรวจ ฉันจะเข้าไปข้างใน""คุณหนูเสิ่น คุณบ้าไปแล้วหรือ!"ฟู่ฉือโจวมองเสิ่นม่านที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ เสิ่นม่านมองประตูใหญ่ของบ้านตระกูลป๋อ หากเธอเดาไม่ผิด โจรที่อยู่ในบ้านตระกูลป๋อตอนนี้ น่าจะเป็นคนที่เธอคิดถึงเสิ่นม่านวิ่งไปที่ประตูใหญ่ของบ้านตระกูลป๋อ ขณะนี้บ้านตระกูลป๋ออยู่ในสภาพยับเยิน และในความมืด เสิ่นม่านก็ถูกจับแขนทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว: “หัวหน้า จับผู้หญิงได้คนหนึ่ง!"เสียงของโจรดึงดูดความสนใจของชายคนหนึ่งในความ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status