พิมพ์ส่งไปแค่นั้นก็กดล็อกหน้าจอเมื่อคนในกลุ่มหันมาให้ความสนใจ ผมเอียงหน้าไปมองเหมือนเป็นคำถามว่ามีอะไร ไอ้เตเลยโพล่งขึ้นเหมือนเป็นตัวแทนชาวบ้าน“มึงมีแฟนเหรอ”“อืม” ตอบกลับไปตรงๆ เหมือนกัน จนพวกมันถึงกับทำหน้าตื่นกันทั้งกลุ่ม“พี่สาวคนนั้น?” พยักหน้ารับ พวกมันลุกฮือกันมาออหน้าโต๊ะเรียนของผมอย่างตื่นเต้น เพราะปกติเด็กสายอาชีพไม่คบคนที่อายุมากกว่าเท่าไหร่ เพราะมีชีวิตโลดโผนมากกว่าวัยรุ่นสายอื่น การมีแฟนแก่กว่าเลยดูน่าตื่นเต้นสำหรับพวกมัน เหมือนผมได้ลองท้าทายกับสิ่งใหม่ๆ “เมื่อวาน หรือยังไงวะ”“เมื่อวาน”“ไอ้อิงก็คบกับไอ้เหี้ยดอม มึงก็ได้คบกับพี่สาวพยาบาล คือบังเอิญแท้วะ”“พวกมันคบกันแล้วเหรอ”“เห็นไอ้ดอมโทรมาบอก ท่าทางแม่งดีใจชิบหายเลย” คนในกลุ่มผมหลายๆ คนทำหน้าซังกะตาย เพราะน้ำอิงแทบเรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ไอ้พวกเวรนี่มันมักจะชอบผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน อาจเพราะมันจีบง่ายกว่าผู้หญิงต่างวิทยาลัยก็ได้ “แต่ที่มึงมีแฟนเป็นหมอสิโคตรเจ๋งกว่า”“กูไม่ได้ชอบเพราะเขาเป็นหมอ” ผมพูดสั้นๆ แล้วกดมือถือเช็คข้อความแฟนตัวเองอีก พอเผลอแล้วต้องเปิดหน้าจอดูอยู่ตลอด พะว้าพะวงกับข้อความที่
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าภายในอ้อมแขนใหญ่ของแฟนหนุ่มตัวเอง หลังจากที่ขอเขาคบ น้องขาลก็เล่นงานฉันซะจนอ่วมอรทัยไปเลยหยัดเรือนกายที่เปลือยเปล่าขึ้นเพื่อลุกขึ้นจะไปดื่มน้ำแก้กระหาย แต่กลับถูกรั้งไปอยู่บนตัวของเด็กร่างยักษ์ เขาจูบปลายคางฉันที่เกยอยู่ด้านบนหนักๆ ลูบเส้นผมสีชมพูอ่อนที่ท้ายทอยของฉัน สางจนสุดปลายผมอย่างหลงใหลฉันเองก็จูบปลายจมูกโด่งเป็นสันของน้องขาลเบาๆ กลับไปเช่นกัน ร่างกายใหญ่ๆ ของเขาช่างอบอุ่น อดไม่ได้ต้องซุกหน้าซบลงกับซอกคอแกร่งที่ยังคงมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ปนกับบุหรี่จางๆ“มีความสุข” เขากระซิบชิดข้างศีรษะทุยของฉัน ฉันเลยจุ้บที่ซอกคอของเขาเบาๆ“อื้อ แต่พี่ไม่มีแรงแล้วน้า” อดทำน้ำเสียงขี้อ้อนนั่นกับแฟนตัวเองไม่ได้ พอเงยหน้าขึ้นมาประจันหน้ากัน ก็เห็นว่าน้องขาลในมุมนี้ช่างดูยั่วยวนเหลือทน“ผมก็เหมือนกัน” เขากระซิบ เอามือมาปิดปากเพราะกลัวว่าฉันจะเหม็นกลิ่นปากของเขาในตอนเช้า ฉันคลี่ยิ้มจนตาหยี จุ้บหลังมือของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก“จุ้บหน่อยค่ะ” คนตัวใหญ่ส่ายหน้า เขาคงเป็นห่วงกลิ่นปากจริงๆ “งั้นไปแปรงฟันด้วยกันนะ คนดี”“อืม” เขารับคำ ในขณะที่ฉันจะยันตัวลุกขึ้นจากร่างกายเปลือยเปล่าของน้องขาล เ
[พาร์ท : ขาล]เหมือนฝันเลยจริงๆผมสบตากับผู้หญิงตรงหน้า ความต้องการของเราสองคนมันมากล้นเกินกว่าที่จะหยุดความสัมพันธ์เป็นแค่คู่ขา เธอต้องการผม ในขณะเดียวกันผมก็คลั่งเธอจนแทบบ้า ไม่ว่าเธอจะงอน จะไม่ให้ความชัดเจน จะยังไม่ลืมใคร อย่างมากก็ได้แค่โกรธแปปเดียว แต่ต่อมาก็หายพอเธอมาอ้อนนิดๆ หน่อยๆ“พี่คงรู้คำตอบของผมดีนะ” ผมกระซิบเสียงหนัก อยู่ดีๆ มือที่บังคับพวงมาลัยอยู่ก็ร้อนวูบ แค่เพราะฝ่ามือนุ่มนิ่มที่กุมฝ่ามือของผมอยู่อย่างแนบแน่น “พี่รู้ดีเลยว่าผมจะตอบว่าอะไร”“พี่ไม่รู้หรอกค่ะ” เธอทำเป็นหน้ามึนไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อ ผมกระตุกยิ้ม แล้วเอนหน้าไปกดจูบหนักๆ ที่ริมฝีปากเธอคืนตอนที่จราจรด้านนอกติดไฟแดง“ผมอยากเป็นมากกว่าแฟนอีก”ร่างกายเธอร้อนจัดเหมือนกาน้ำเดือดๆ ในขณะที่ตัวผมเองก็ร้อนเหมือนลนไฟ เราต้องการกันมาก และต้องการมันเดี๋ยวนี้ผมขับรถตรงไปที่คอนโดของพี่หมี่ เธอเหนื่อยล้าจากอาการแฮงก์แต่ก็ไม่ปฏิเสธความรู้สึกร้อนแรงในใจ เธอเป็นคนซื่อตรงที่ร้อนจนเหมือนเอาเทียนที่จุดไฟจนหลอมละลายมาลนผิวทันทีที่เดินจูงมือกัน แล้วผลักประตูเข้าไป ผมดันเธอไปชนประตูอีกด้านให้ปิดลง ประสานริมฝีปากกับคนตัวเล็ก
ตอนเช้า ผมตื่นขึ้นมาโดยไร้เงาพี่หมี่ที่ข้างเตียงเหมือนเมื่อคืน เดาว่าทันทีที่เธอรู้สึกตัว ก็คงจะหนีกลับไปเงียบๆผมรีบสาวท้าวใหญ่เดินลงไปเปิดประตูหน้า แล้วก็แทบท้อเพราะเห็นว่ารถซีวิคสีแดงของพี่หมี่ที่จอดไว้หน้าบ้านอันตรธานหายไปตามที่คาดไว้เธอคงแทบไม่อยากเห็นหน้าผมจริงๆ แล้วมั้งผมแค่นหัวเราะ ลูบหน้าตัวเองแรงๆ เพราะรู้ดีว่าถึงง้อไปยังไง สถานะของผมในตอนนี้ก็คือคนที่พลั้งปากขอผู้หญิงที่ผมไม่ได้ชอบเลยสักนิดเป็นแฟนเพื่อประชดผู้หญิงที่ชอบแทบบ้าอีกคน เป็นความคิดโง่ๆ ที่ไม่น่าออกมาจากคนที่บรรลุนิตภาวะอย่างผมกับประโยคที่พี่หมี่พูดเมื่อคืน“รู้มั้ย ทำไมพี่ถึงไม่อยากเปิดใจให้เธอ”“...”“เพราะเธอยังมีความคิดที่เด็ก... เด็กมาก ยอมรับว่าพี่สับสน พี่ชอบพอๆ กับรู้สึกไม่อยากชอบเธอ บางครั้งพี่ก็อยากยอมให้เธอทุกอย่าง แต่ในบางครั้งพี่ก็ไม่อยากทำอะไรเพื่อเธอทั้งนั้น”“...”“พี่ชอบเธอ แต่แล้วยังไงล่ะ มันเป็นไปไม่ได้อยู่ดี... ฮึก”เพราะผมอายุน้อยกว่าเธอใช่ปะ เพราะความใจร้อนของผมที่ทำมันพังผมกัดฟันแน่น ก่อนที่จะสาวเท้ายาวๆ ไปที่ตู้เก็บของในห้องครัว คว้ากล่องเก็บกัญชาแล้วโยนทิ้งลงถังขยะทันทีเพราะมึง ที่ทำใ
[พาร์ท : ขาล]ผมเลิกเรียนแล้ว รู้มาจากสายว่าพี่หมี่มาเที่ยวคลับกับผู้ชายคนหนึ่งผมอาจเป็นบ้าไปแล้วก็ได้ เลยขับมอไซค์ตามรถซีวิคสีแดงของพี่หมี่มาที่นี่ เธอมาคนละคันกับไอ้ผู้ชายคนนั้น ถึงผมจะยังมีแผลฟกช้ำตามร่างกายจากการตะลุมบอนกับไอ้ดอม และไม่แคร์ด้วยว่าแม่งจะไม่มาเรียนเพราะบอบช้ำจากแรงซ้อมของผม หรือผมจะมีสภาพไม่น่าดูจนคนในคลับเบ้หน้าอีกอย่าง... วันนั้นที่ลากอิงมา ก็เบลอยาจนไม่รู้สึกถึงความเจ็บ จำเหี้ยไรในวันนั้นไม่ได้นอกจากที่จูบน้ำอิงแล้วไอ้เหี้ยดอมก็โผล่หัวเข้ามาซัดแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรช่างแม่งเหอะ นาทีนี้พี่หมี่สำคัญกว่ารู้มั้ยว่าเมื่อเช้าโคตรสุขใจ เธอยอมโม๊คให้ผม สมัครใจทำเองโดยที่ผมไม่ต้องขอ มันเหมือนว่าพี่หมี่จะมีใจให้ แต่หลังจากเที่ยงที่เธอออกไป เธอก็ไม่โผล่หน้ามาอีกเลย จนผมนึกน้อยใจต้องกลับไปเรียนพร้อมกับอิงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมารับ แล้วก็ทำเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมอยู่จนน่ารำคาญก็ตามผมเข้าไปในคลับ ผ่านการ์ดชุดดำแล้วสั่งวิสกี้ที่เคาน์เตอร์บาร์ห่างจากพี่หมี่พอสมควร ผมสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ และมองเธอที่กระดกน้ำเมาลงคอแก้วแล้วแก้วเล่าต่อหน้ามันโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดผู้หญิงหลายค
“ขอเรียกว่าเมียเวลามีเซ็กซ์ด้วยกันได้มั้ย”“อย่ามาอ้อนเลย เด็กบ้า” ฉันบีบปลายคางของเขาแล้วส่ายไปมา น้องขาลที่คลั่งรักฉันคนเดิมกลับมาแล้ว เขาหอมแก้มฉันหนักๆ ตอนที่ยกสะโพกฉันขึ้นนั่งทับตักเขาโดยไม่ทันให้ตั้งตัว “อ๊ะ”ปลายนิ้วสากขย้ำหน้าอกข้างขวาจนล้นปรี่ ฉันกัดริมฝีปากแน่น ในขณะที่เด็กดื้อจะกดจูบที่ข้างขมับหนักๆ ในขณะที่จะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างดุนดันที่บั้นท้าย“แข็งจนปวดเอ็นไปหมดแล้วครับ”“...”“อยากเอานมมาถูอกผมตอนที่คร่อมทำไม”ริมฝีปากที่หยาบกร้านเพราะแผลฟกช้ำคลอเคลียอยู่ที่กกหูของฉัน ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นที่หน้าอกจนฉันไร้การต่อต้านใดๆ ฉันชอบสัมผัสของน้องขาล ชอบมากจนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง ทั้งกลิ่นตัวที่ปะปนกับบุหรี่ กลิ่นโคโลญแบบผู้ชาย กลิ่นสบู่เราดีกันรึยัง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่เรื่องลามกมันคนละเรื่องกันนี่ ยังไงก็ตาม น้องขาลก็คือสุนัขข้างใจของฉันฉันเอียงหน้าไปด้านข้าง กดจูบที่สันกรามของเขาในแบบที่ไม่กล้าทำกับใครคนอื่น อาจจะเพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่เคยดูแลมาตั้งแต่เด็กถึงได้ไว้ใจจะแสดงด้านน่าอายให้เห็น เขาเลื่อนริมฝีปากลงมากดที่ริมฝีปากฉัน สอดมือไปใต้กระโปรงสั้นด้วยมืออีกข้าง