เมื่อเข้ามาในลิฟต์และกดปุ่มเลือกชั้นที่ต้องการแล้ว หัวใจดวงน้อยก็เต้นโครมคราม เป็นโชคดีมาก ๆ ที่ไม่มีใครโดยสารลิฟต์พร้อมกับเธอ อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มสิบห้านาทีแล้ว ทั้งยังเป็นวันศุกร์ด้วย ผู้คนจึงเลิกงานออกจากตึกแทบจะหมดแล้ว
ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่เธอต้องการ แต้มรักสูดลมหายใจลึก หญิงสาวก้าวออกจากลิฟต์ด้วยหัวใจที่เต้นระรัวแรง สองมือของเธอกำสายสะพายกระเป๋าไว้แน่น แต้มรักกวาดสายตามองไปทั่วลานจอดรถอย่างระแวงระวัง เมื่อเห็นรถคันคุ้นตาจอดรออยู่ที่เดิม เธอก็เม้มปากแน่น เกิดความลังเลขึ้นในใจอีกครั้ง เธออยากจะกลับเข้าไปในลิฟต์ใหม่ แล้วลงไปชั้นหนึ่ง เพื่อออกประตูปกติแล้วขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน แต่อีกใจหนึ่งกลับบอกว่า ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เท่าที่ได้ใกล้ชิด เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรสักหน่อย เธอควรเปิดโอกาสให้ตัวเอง ทำความรู้จักเขาให้มากกว่านี้ เธออยากรู้ว่า ทำไมเวลาอยู่ใกล้เขา หัวใจเธอถึงเต้นแรง และทำไมเธอรู้สึกกับเขาอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกกับใคร แม้แต่กับแฟนเก่า เธออยากรู้ว่า จะมีสักครั้งไหม ที่เ
เมื่อถูกเขาจับสองแขนแนบตัว และถูกกอดรัดไว้แน่นหนาด้วยวงแขนแข็งแรง แต้มรักก็ไม่อาจดิ้นรนได้อีก เธอต้องยอมยืนให้เขากอดไว้ ขณะที่หอบหายใจแรงเพราะทั้งเหนื่อยทั้งโกรธ หัวอกหัวใจเต้นหนักแน่นระรัว“แต้ม...ผมอยากอธิบาย แต้มฟังผมอธิบายก่อนนะครับ” พุฒพูดด้วยน้ำเสียงปนหอบ เขาหายใจแรงไม่ต่างกันกับเธอ หัวใจแกร่งเต้นระรัว กลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ เรื่องราวที่เขาอยากบอกอยากอธิบายให้เธอฟังมันมากกว่าที่เธอได้ยินและเพิ่งรับรู้แต้มรักยืนนิ่ง ไม่ยอมพูดจา เธอนิ่งจนคนที่ยืนกอดเธออยู่หนักใจ“แต้มครับ…” พุฒคลายวงแขนออก เขาจับบ่าบอบบางหมุนให้เธอหันหน้ามาเผชิญกัน ซึ่งแต้มรักก็ไม่ขัดขืนแต้มรักเงยหน้ามองสบตาคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ผู้ชายคนนี้ใช้วิธีการเลวทรามต่ำช้าเพื่อให้ได้ตัวเธอไปครอบครอง เขาจ่ายเงินค่าตัวเธอให้คนเลวที่เธอไว้ใจ แล้วขู่บังคับเธอให้ยอมเล่นชู้กับเขา โดยที่เธอไม่รู้ตัวสักนิดว่าถูกตีค่าเป็นสินค้าราคาแค่ห้าแสนบาทหลังจากที่เขาช่วยเธอให้รอดพ้นจากการเอาตัวไปขัดดอกหนี้พนันให้อดีตแฟน เธอยอมรับว่า เธอรู้สึกดีกับเขามากขึ้น ซึ่งในครั้งนั้นเธอ
“เอ่อ…” พรีมลังเล แต่พอรถที่ขับมาต่อท้ายรถของธนาบีบแตรยาว ๆ ดังลั่น หญิงสาวก็ลนลานรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถกับเขาด้วยความตกใจเมื่อพรีมขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย ธนาก็รีบกดล็อกและออกรถทันที พรีมหันไปมองหน้าเขา เธอสังเกตเห็นว่ามีรอยช้ำและรอยแตกที่มุมปาก ทั้งยังมีร่องรอยฟกช้ำไปทั่วใบหน้า เธอจึงถามด้วยความเป็นห่วง“หน้าพี่ธนาไปโดนอะไรมาคะ”“ไอ้พุฒมันต่อยพี่ มันหาว่าพี่เสือกเรื่องของมันกับแต้ม พี่อุตส่าห์เตือนมันดี ๆ ว่าให้เลิกยุ่งกับแต้ม มันไม่พอใจ เลยทำร้ายพี่อย่างที่เห็นนี่แหละ”“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าบอสจะเป็นคนแบบนั้น”“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอก”“ก็อาจจะใช่นะคะ เอ๊ะ ! พี่ธนาคะ ทางไปคอนโดพรีมต้องเลี้ยวซ้ายตรงนี้นะคะ” พรีมทักท้วงเมื่อธนาขับรถเข้าเลนกลาง และพอดีรถติดไฟแดงเป็นคันที่สอง ซึ่งดูแล้วเขาเลี้ยวซ้ายไม่ได้แน่“โทษทีครับ พี่ลืม...เดี๋ยวพี่ยูเทิร์นกลับมาใหม่นะครับ”“ค่ะ”พรีมรู้สึกไม่แน่ใจแล้วว่า เธอคิดถูกหรือเปล่าที่ขึ้นรถมากับธนา ทั้งน้ำเสียง แววตา และท่าทีของเขาดูแปลกไป เขาลุกลี้ลุกลนไม่น่าไว้ใจ หญิงสาวหันไปมองเขาแวบหนึ
แต้มรักรู้ดีว่า เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะเลิกกับธนา แต่เธอร้องไห้เสียใจเพราะใครอีกคน เขาคือคนที่เธอเริ่มรู้สึกดีด้วย เธอเริ่มเปิดใจให้โอกาสเขา แต่พอมารู้ความจริงว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด สิ่งที่เขาทำมันเลวเกินกว่าเธอจะให้อภัยได้ เธอจึงเสียใจที่มองคนผิด โกรธตัวเองที่ใจง่ายยอมเปิดโอกาสให้เขาทั้งที่ยังไม่รู้จักตัวตนเขาดีเท่าไรด้วยซ้ำ เธอโง่มาตั้งแต่เชื่อใจธนา และโง่ซ้ำที่คิดจะเปิดใจให้คนที่เห็นเธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเช้าวันต่อมาแต้มรักตื่นเกือบเที่ยง เพราะกว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็ล่วงเข้าวันใหม่แล้ว หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวสวมชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล เกล้าผมมัดทรงโดนัทไว้กลางศีรษะ แต้มรักส่องกระจกก่อนออกจากห้อง เธอบอกกับตัวเองว่า เธอจะต้องเข้มแข็ง เธอต้องก้าวผ่านเรื่องราวแย่ ๆ ไปให้ได้“คุณแม่ขา...แต้มหิวจังเลยค่ะ” แต้มรักส่งเสียงลงมาก่อนเดินมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย แต่พอเธอลงมาถึงชั้นล่าง แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางห้องโถง แต้มรักก็ต้องชะงัก หญิงสาวเบิกตากว้างมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยความตกใจ เขานั่งอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ของเธอในห้องรับแขก
“ตอนนั้นผมอยู่ปีสี่ แล้วแต้มเป็นเฟรชชี่ ผมชอบแต้ม แต่เพื่อนหลายคนก็ชอบแต้มเหมือนกัน ผมเลยไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย เพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครจีบแต้มติด เพราะแต้มเอาแต่เรียนกับทำกิจกรรม ไม่สนใจใครเลย”แต้มรักอ้าปากเหวอ และก็ต้องอ้ากว้างขึ้นอีก เมื่อเขาพูดต่อว่า“หลังจากที่ผมไปเรียนต่อแล้วกลับมาทำงานที่บริษัท ระหว่างนั้นผมก็ยังนึกถึงแต้มอยู่บ่อย ๆ แต่เพราะหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบค่อนข้างหนัก ผมเลยไม่ได้ตามหาว่าแต้มไปเรียนต่อหรือทำงานที่ไหน แล้ววันหนึ่งผมก็เห็นพนักงานใหม่คนหนึ่งเข้ามาทำงานในฝ่ายที่ผมดูแลอยู่ ความรู้สึกของผมตอนนั้นเหมือนวันที่เห็นแต้มครั้งแรก ตอนที่แต้มเข้ามาเป็นรุ่นน้องปีหนึ่งเลย”แต้มรักไม่รู้ว่าเธอควรรู้สึกอย่างไรดี ตอนแรก เธอนึกว่าเขาจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนแรกคืนนั้น แต่นี่เขาดันเริ่มเล่าตั้งแต่การพบเจอกันครั้งแรก แล้วยังบอกอีกว่าชอบเธอตั้งแต่ตอนนั้นแล้วด้วย“แต่เพราะเราอยู่ในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง และแต้มเพิ่งเข้ามาเป็นเด็กใหม่ ผมไม่อยากทำให้แต้มเสียหาย ไม่อยากให้ใครกล่าวหาว่าเป็นสมภารกินไก่วัด ผมเลยยังไม่กล
แต้มรักทอดถอนใจอย่างยอมจำนน เธอยอมรับจูบจากเขา เขามันคนหน้ามึนที่สุด คนหน้ามึนที่คอยตามดูแลเธอแบบมึน ๆ แบบน่าทุบพุฒยิ้มแนบกลีบปากอิ่มอย่างพอใจ เมื่อคนที่เขาขโมยจูบยกสองแขนขึ้นคล้องลำคอแกร่ง เธอจูบตอบเขาอย่างน่าลัก...น่าลักกลับคอนโดตอนนี้เลยเย็นวันอาทิตย์ แต้มรักเตรียมตัวกลับไปนอนที่คอนโด แต่พอเธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินลงมาข้างล่าง เธอก็ต้องชะงัก หญิงสาวมองแขกไม่ได้รับเชิญด้วยความตกตะลึง"แต้ม...ดูสิ ตาพุฒเอาขนมหวานที่แม่เขาทำมาฝากแม่ด้วย อร่อยกว่าร้านประจำของแม่อีกนะ แต้มมาลองชิมสิลูก"แต้มรักมองค้อนคนประจบประแจงเก่ง เขาต้องประจบเก่งเบอร์ไหน คุณแม่ของเธอถึงได้เปลี่ยนคำเรียกขานเขาจาก คุณพุฒ มาเป็น ตาพุฒ ได้ในเวลาไม่กี่วัน"กองทุนตัวที่ฮันเตอร์แนะนำให้พ่อซื้อไปได้สวยเลยทีเดียว นี่พ่อกำลังจะขอคำปรึกษาเรื่องกองทุนใหม่ที่กำลังจะเปิดขายเดือนหน้าพอดี งั้นก็อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะฮันเตอร์ ค่ำ ๆ ค่อยกลับ พอดีล่ะพ่อฝากไปส่งแต้มที่คอนโดด้วย""ครับ คุณพ่อ"แต้มรักได้แต่ร้อง โอ้โห ! ในใจ นอกจากเ
“คุณพุฒ...” เพียงแค่ส่วนหัวแทรกเข้ามาในกาย แต้มรักก็ขูดข่วนบ่ากว้างด้วยความเสียวกระสัน“อ่า…แต้ม !” พุฒจับเอวคอดด้วยสองมือ เขาดึงเธอเข้าหาพร้อมกับสอดเสยแก่นกายเข้าสู่ร่องรักคับแน่นสุดทางในคราเดียวแต้มรักหลับตาและแหงนเงยหน้าหวีดร้อง ความใหญ่โตที่เติมเต็มเข้ามาในร่างกาย ทำให้เธอเสียวสยิว เจ็บและจุกในคราวเดียว และเขาไม่ยอมรอให้เธอปรับตัวสักนิด เขาดันหลังเธอแนบกับผนังด้านที่เป็นกระเบื้อง แล้วขยับโถมถั่งเข้าหาอย่างดุดันแต้มรักกอดลำคอแกร่งไว้แน่น สองขารัดเอวสอบ สองเท้าขัดกันอยู่เหนือบั้นท้ายที่กล้ามเนื้อลอนสวยกำลังขยับคล้ายระลอกคลื่น ลำกายอุ่นร้อนเข้าสุดออกสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องกระจก สายน้ำจากเรนชาวเวอร์ที่ไหลลงมาอาบสองเรือนกายไม่อาจลดทอนความเร่าร้อนของบทรักดุดันได้เลย“ฮันเตอร์ ฮันเตอร์” แต้มรักหลับตาหวีดร้องเรียกชื่อเขาไม่ขาดปาก ร่างกายกระเพื่อมโยกคลอนไปตามจังหวะการโจนจ้วงเต็มแรง ร่องสาวถูกลำกายใหญ่สอดแทงเสียดสีระรัว เขาสอดใส่และเสยงัดถูครูดจุดเสียวในร่องเนื้อ บางคราก็กดกระแทกเต็มเหนี่ยวแล้วโม่เอวบดขยี้จนเธอต้องร้องขอความปรานี“ฮันเตอร์.
“จะใส่ชุดนี้หรือครับ” พุฒหยิบชุดที่แขวนอยู่หน้าตู้มาดูใกล้ ๆ เขาพลิกไปมา มองสำรวจชุดแล้วขมวดคิ้วมุ่น“ผมว่ามันสั้นไป”“ถ้าคิดว่ามันสั้นไป แล้วคุณพุฒซื้อมาทำไมคะ หรือว่าที่จริงแล้ว ของพวกนี้คุณพุฒซื้อมาให้คนอื่น” บางอย่างที่เคลือบแคลงในใจถูกถามออกมา แต้มรักไม่รู้ตัวหรอกว่าน้ำเสียงของเธอนั้นเจือไว้ด้วยความไม่พอใจขนาดไหนคราวนี้คิ้วเข้มขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม พุฒแขวนเสื้อไว้ที่เดิม แล้วคว้าเอวบางดึงเธอเข้ามากอดแนบกาย“หมายความว่ายังไงครับ” พุฒถามยิ้ม ๆ น้ำเสียงและแววตาของเธอทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นแต้มรักดันบ่ากว้างไว้ด้วยสองมือ หญิงสาวเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย เธอเงยหน้าสบตาคมแวบหนึ่งก่อนจะเลี่ยงหลบมองเมินไปทางอื่น“ก็คุณพุฒอยู่คนเดียว แล้วทำไมถึงมีเสื้อผ้าผู้หญิงเต็มตู้แบบนี้ล่ะคะ” ก่อนหน้านี้ เธออยู่ในสถานะที่เป็นรองเขา เธอจึงสงบปากสงบคำไม่กล้าถาม ได้แต่เก็บงำความสงสัยไว้ในใจ แต่วันนี้ เธอกับเขาอยู่ในสถานะใหม่ อยู่ในจุดที่ทั้งสองคนเท่าเทียมกัน พอสบโอกาสเธอจึงเอ่ยปากถามสิ่งที่ค้างคาใจมานาน“ก็เสื้อผ้าของแต้มไงครับ ผมเตรียมไว้รอแต้ม”
“เชื่อสิคะ” แต้มรักยืนยันคำพูดด้วยการกระชับมือที่กุมมือเธออยู่ หญิงสาวมองสบสายตาเขาอย่างเชื่อมั่น เธอยิ้มหวานจริงใจเพื่อยืนยันว่า เธอเชื่อใจเขาจริง ๆ“คำสั่งย้ายฟ้าผ่า !”“ย้ายอะไร ย้ายไปไหน !” สายสมรรีบลุกขึ้นเกาะฉากกั้น หล่อนชะโงกหน้าข้ามไปมองเพื่อนสาวที่ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นชั้นสามสิบแปด“ฉันได้รับอีเมลคำสั่งให้ย้ายไปอยู่สำนักงานต่างจังหวัด” รัตนาตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน เป็นการสั่งย้ายที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อน เมื่อครู่เธอเห็นแจ้งเตือนว่าอีเมลใหม่ พอเธอเปิดดูก็พบว่าเป็นอีเมลคำสั่งย้าย มีผลวันพรุ่งนี้“เป็นไปได้ยังไง อุ๊ย ! ฉันก็มีอีเมลใหม่เข้ามา แป๊บนึงนะเธอ” สายสมรหันไปคลิกเมาส์เปิดอีเมลที่เพิ่งได้รับ เพียงแค่เปิดอ่านเธอก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกตกใจสุดขีด“คำสั่งย้ายให้ไปประจำที่สำนักงานต่างจังหวัด”คราวนี้เป็นรัตนาที่ลุกขึ้นเกาะฉากกั้น หล่อนชะโงกหน้ามาถามเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันด้วยความตกใจ“เธอก็โดนเหมือนกันเหรอ”สองสาวรุ่นใหญ่มองสบตากันอย่างครุ่นคิด เพียงครู่เดียวทั้งคู่ก็รู้แ
“ไปรอผมในห้อง” ชิณณ์บอกคนที่เกาะแขนเขาไม่ห่าง“พรีมไปกับคุณไม่ได้หรือคะ” พรีมเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างลืมตัว ก็อยู่ใกล้เขาเธออุ่นใจที่สุด เธอจึงไม่อยากไปรอในห้องคนเดียว“ผมจะไปคุยกับแขกวีไอพี”“พรีมจะนั่งรอเงียบ ๆ จะไม่รบกวนคุณ คุณจะคุยก็คุยไป” พรีมดื้อดึง และไม่ยอมปล่อยแขนแกร่ง“แน่ใจนะ” ชิณณ์หลุบตามองสบตาเธอพรีมรีบพยักหน้าเร็ว ๆ พอเขาไม่ว่าอะไรและเริ่มออกเดินอีกครั้ง เธอก็รีบก้าวเดินตาม กระทั่งเขาพาเธอเดินมาใกล้ถึงห้องวีไอพี ก็มีผู้หญิงในชุดสุดแสนเย้ายวนสองคนเดินเข้ามาหา“คุณชิณณ์ขา คืนนี้ให้พวกเราไปรอที่ห้องไหนดีคะ” สาวนางหนึ่งถามพร้อมกับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เขาพรีมขมวดคิ้วมองดูสองสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนข้างเธอ เขามองสองสาวด้วยสายตาเรียบเฉย และไม่ได้พูดอะไรออกมา ครู่เดียวลูกน้องของเขาก็รีบมากันสองสาวนั้นออกไป แม้ว่าพวกเธอจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะถอยออกไปเท่าไร แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน“พรีมไปรอที่ห้องก็ได้ค่ะ” พรีมปล่อยมือจากต้นแขนแกร่ง เธอขยับออกห่างเขาเล็กน้อยชิณณ์เลิกคิวเข้มมองคนที่ถอยห่างเขาไปด้วย
พรีมปิดกั้นการติดต่อกับคุณลุงคุณป้า ไม่รับสาย ไม่โทรหา และไม่สนใจว่าคนพวกนั้นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร บุญคุณที่เลี้ยงเธอมา เธอถือว่าเธอชดเชยให้ด้วยเงินที่ส่งให้ทุกเดือนก่อนหน้านี้ และอิสรภาพของเธออีกหนึ่งปีนับจากนี้ที่เธอใช้มันแลกกับหนี้ก้อนโตที่พวกเขาสร้างไว้ เธออยู่ภายใต้คำว่าบุญคุณมานานแล้ว หลังจากหมดพันธสัญญาการเป็นผู้หญิงของชิณณ์ เธอจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน เพื่อสร้างบ้านบนที่ดินผืนนั้น เธอจะกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่นั่น “มีอะไรกันหรือคะ” พรีมถามแล้วขมวดคิ้วเรียวด้วยความสงสัย ก็พอเธอเดินออกจากลิฟต์มา คนของชิณณ์ที่ปกติจะเฝ้าอยู่หน้าห้องแค่สองคน แต่วันนี้กลับมีถึงสี่คน แล้วแถมทั้งสี่คนก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดอีกด้วยทั้งหมดหันมามองเธอพร้อมกัน พอเห็นหน้าเธอ สีหน้าของพวกเขาก็ดีขึ้นทันใด พวกเขาโค้งคำนับให้เธอเล็กน้อย ก่อนที่คนหนึ่งจะบอกเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีสีหน้ากังวลใจ...พรีมยืนฟังคนของชิณณ์เล่าสถานการณ์ในห้องอยู่ครู่หนึ่ง พอรู้และรับทราบถึงอารมณ์คนในห้องตอนนี้ หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่“พี่สองคนลงไปรอ
“พรีม !” เสียงเรียกของคนที่ชะโงกหน้าข้ามฉากกั้นมาจากโต๊ะตรงหน้าทำให้พรีมสะดุ้ง หญิงสาวรีบปิดกระเป๋าถือแล้ววางลงบนพื้นข้างโต๊ะ“พี่รัตนามีอะไรหรือคะ” พรีมถามด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก“พี่แค่อยากถามว่า กลับบ้านตั้งหลายวัน แอบไปแต่งงานหรือเปล่าคะ” ผู้ตั้งมั่นในการเป็นจิตอาสาสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านถามแล้วมองอย่างจับผิด“พรีมกลับไปเยี่ยมบ้านเฉย ๆ ค่ะ” พรีมตอบแล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้กลับไปแต่ง แต่กลับไปหมั้นใช่ไหมคะ” สายสมรที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปจากรัตนารีบลุกขึ้นมาถามต่อจากเพื่อนพรีมมองหน้าสองสาวใหญ่จอมสู่รู้แล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้แต่ง ไม่ได้หมั้นค่ะ พรีมยังไม่มีแฟน ไม่มีผัว พรีมยังโสดค่ะ”“โสดสนิทหรือเปล่าน้อ” รัตนายังมิวายพูดล้อเลียน“โสดสนิทค่ะ และทำให้คนพูดมากหุบปากสนิทได้ด้วย” พรีมว่าพลางชูกำปั้นขึ้นมาตรงหน้า กับบางคนพูดดี ๆ ด้วยแล้วลามปาม ถึงแม้จะอายุมากกว่า เธอก็ไม่คิดจะไว้หน้าหรือเกรงใจหรอกนะ สู่รู้เรื่องของคนอื่นดีนัก ก็ต้องโดนตอกกลับบ้างพอถูกขู่ สองสาวรุ่นใหญ่ยิ้มแหยแล้วรีบนั่งลงทำงานต่อ พรีมถอนหายใจแรงอีกครั้ง เธอหันไปม
“ขออีกครั้ง” เสียงของเขาสั่นพร่า และพอเขาพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงซุกไซ้ซอกคอนุ่ม เรือนกายเปลือยเปล่าของสองหนุ่มสาวเสียดสีสัมผัสกันแนบชิด“อื๊อ ! ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวพรีมไปทำงานสาย”“เดี๋ยวให้คนไปส่ง”“มะ...ไม่ค่ะ อ๊ะ ! คุณชิณณ์อย่า…” เสียงห้ามปรามของพรีมถูกดูดกลืนด้วยจูบเรียกร้องเอาแต่ใจ มือไม้ซุกซนของเขาลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวสาว ขณะที่หัวเข่าแกร่งกดลงกลางหว่างขาแยกแย้มเนื้อนวล เขานาบความเป็นชายร้อนผะผ่าวกลางกลีบสาว แล้วขยับสะโพกถูไถตัวตนของเขากับกลีบชุ่มชื้นของเธอ“คุณชิณณ์...ทำเร็ว ๆ นะคะ พรีมจะรีบไปทำงาน” เมื่อไม่อาจขัดขืนเขาได้ และร่างกายของเธอก็ตอบสนองการปลุกเร้าแล้ว พรีมจึงเร่งให้เขาทำเวลา“สั่งจริง อยากเร็วก็มาทำเอง” ชิณณ์ว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาพลิกตัวลงไปนอนหงาย แล้วดันหญิงสาวลุกขึ้นคร่อมหน้าท้องแกร่ง คนช่ำชองส่ายสะโพกขยับเล็กน้อย หัวมนทู่ก็สอดเข้าสู่ร่องรักอุ่นอ้าว เขาจับเอวคอดไว้แน่นด้วยสองมือ แล้วดึงให้เธอกระแทกลงมา ขณะที่เขากระเด้งสวนขึ้นไป เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง“คุณชิณณ์ !” พรีมหวีดร้องเรียกเขาเสียงหลง เธอเจ็บและจุกเต็ม
“ที่ดินผืนนั้นจะโอนเป็นของคุณทันที ถ้าคุณตกลงรับข้อเสนอของผม”คิ้วเรียวขมวดมุ่น พรีมมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ“มาเป็นผู้หญิงของผม แล้วคุณจะได้ที่ดินของคุณคืน”“นานแค่ไหนคะ” เธอไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยากนักหรอก เธอยอมรับว่าสนใจข้อเสนอของเขา ใครจะมองว่าเธอใช้ร่างกายเข้าแลกก็ช่าง ในเมื่อที่ดินผืนนั้นคือความสุขทางใจสิ่งเดียวของเธอ หากหนทางที่จะทำให้ได้มันมาไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ ไม่ได้ลักลอบเป็นชู้กับคนที่มีครอบครัวแล้ว มันเป็นข้อเสนอที่ของคนไร้พันธะ และเธอก็ไม่มีใคร เธอจึงถือว่านี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจ แต่สิ่งเดียวที่เธอต้องรู้ก่อนตัดสินใจรับข้อเสนอของเขาคือ เธอต้องเป็นผู้หญิงของเขานานแค่ไหน“หนึ่งปี...ภายในหนึ่งปีนี้ คุณต้องพร้อมเสมอ หากผมต้องการ”“พรีมต้องย้ายมาอยู่กับคุณไหมคะ”“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ”“พรีมไปทำงานได้ไหมคะ”“ได้สิ”พรีมสูดลมหายใจลึก หญิงสาวมองสบสายตาคมแน่วแน่“ค่ะ...พรีมตกลงรับข้อเสนอของคุณ พรุ่งนี้เราไปโอนที่กันเลยนะคะ” เธอไม่ได้เขี้ยว แต่เธอต้องการหลักประกันว่า อิสรภาพส่วนหนึ่ง
“พรีมไม่มีเงินจ่ายให้คุณหรอกค่ะ ลำพังหนี้สินเดิมก็ยังชดใช้ไม่หมด ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกค่ะ” พรีมเลิกผ้าห่มออกจากตัวแล้วขยับจะคลานลงจากเตียง แต่กลับถูกเขารวบกอดเอวคอดแล้วดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างง่ายดาย หญิงสาวหันไปขึงตาใส่เขา“อาบน้ำให้หน่อยสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”พรีมจ้องหน้าคนที่เรียกร้องค่าเปิดปากด้วยการอาบน้ำ“อาบเองไม่เป็นหรือไงคะ ทำไมถึงชอบเรียกร้องให้คนอื่นอาบน้ำให้”“อาบเองเป็น แต่ชอบให้คนอื่นอาบให้มากกว่า มันเสียวดี”พรีมถอนหายใจแรง เธอหงุดหงิดที่ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาตลอด กระนั้นหญิงสาวก็รู้ตัวดีว่า เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรกับเขามากนัก“ก็ได้ค่ะ คุณเล่ามาก่อน แล้วพรีมถึงจะอาบน้ำให้”“ไปเล่าในห้องน้ำเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา ผมเตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างไว้แล้ว” ชิณณ์ว่าพลางขยับตัวลงจากเตียง โดยอุ้มคนที่รับปากว่าจะอาบน้ำให้เขาขึ้นกระเตงไว้ด้านหน้าพรีมรีบกอดลำคอแกร่งไว้ทันทีที่เขาลุกขึ้นจากเตียง สองขาเรียวก็ตวัดรัดเอวสอบอัตโนมัติเพราะกลัวตก“คุณมันคนเจ้าเล่ห์”“ไม่อยากรู้เหรอ” ชิณณ์หยุดเดิน เขามองสบตาเธ
“ดึกแค่ไหนก็คุ้มนะ ถ้าเสี่ยจิ๋วเขายอมรับข้อเสนอของพรีม”“ค่ะ”พรีมพยักหน้าเห็นด้วยกับลุง หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ เธอมองไปทางประตู แล้วหันมามองหน้าลุง ลุงมนตรียิ้มให้กำลังใจเธอ พรีมยิ้มตอบก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนเกือบหมดแก้ว…เสียงเปิดประตูทำให้มนตรีหันไปมอง พอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือเสี่ยจิ๋ว ผู้สูงวัยก็รีบยกมือไหว้ เสี่ยจิ๋วพยักหน้าเล็กน้อยแทนการรับไหว้ ร่างท้วมเดินเข้าไปยืนข้างมนตรี และมองไปยังร่างหญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยสายตาที่พึงพอใจ“เสี่ยคงอยากตกลงกับหลานสาวผมเป็นการส่วนตัว”“อืม…” เสี่ยจิ๋วครางรับในลำคอ เขากวาดสายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับแลบลิ้นเลียปากแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่“ตามที่ตกลงกันไว้นะครับเสี่ย ยกหนี้ให้ แล้วก็เอ่อ...ค่าสินสอดสองแสน”เสี่ยจิ๋วละสายตาจากเรือนร่างสาว เขาหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ประตู“จัดการให้คุณมนตรีด้วย แล้วก็ไสหัวออกไปให้หมด คืนนี้กูจะเข้าหอกับหนูพรีมที่นี่...ทั้งคืน”“พวกมึงมัวทำเหี้ยอะไรอยู่ ปล่อยให้คลาดสายตาได
พอหลานไม่หือไม่อือ ป้าวัลภาก็รีบเสริมขึ้นว่า “เอ่อ...พรีมไม่ต้องกังวลนะ ลุงเขาจะขับรถไปส่ง แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนด้วย”พรีมถอนหายใจบางเบา เธอรู้ว่าการไปพบเสี่ยจิ๋วตอนกลางคืนไม่น่าไว้ใจเท่าไร แต่ลุงมนตรีไปกับเธอด้วย คงไม่มีอะไรน่ากังวล อีกอย่างไปคุยกันในร้านอาหารซึ่งมีคนอื่นอยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้น เธอก็น่าจะมีทางหนีทีไล่อยู่“พรีมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวพรีมลงไปค่ะ”ป้าวัลภาฉีกยิ้มกว้าง “จ้ะ...รีบ ๆ ตามลงมานะ ลุงเขารออยู่”“มีนกับหมอกสบายดีใช่ไหมคะคุณลุง” พอลุงขับรถพาเธอออกมาจากบ้านครู่หนึ่ง พรีมก็หันไปถามหาลูก ๆ ของลุง เธอทราบข่าวว่ามีนแต่งงานแล้ว และย้ายไปอยู่กับสามีในตัวจังหวัด ส่วนหมอกยังอาศัยอยู่ที่บ้าน เขาทำงานราชการในอำเภอ แต่กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำ ไม่ใช่เพราะทำงานหนัก แต่เพราะมัวแต่เที่ยวเล่นสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เธอยังไม่เจอหน้าเขา“ก็สบายดี” ลุงมนตรีตอบแล้วยิ้มเจื่อน ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่า สาเหตุที่ที่ดินของหลานกำลังจะถูกยึดเป็นเพราะเขาตามใจลูกมากเกินไป ลูกสาวคนโตและลูกชายอยากได้รถใหม่ ลำพังเง
“เรื่องที่ดินน่ะเหรอ” ชิณณ์นั่งลงบนเตียง เขารวบเอาคนที่นั่งหน้าหงิกอยู่มานั่งบนตัก เนื้อตัวนุ่มเนียนกับกลิ่นกายสาวทำให้เขาคึกคัก ทั้งที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งคืน แต่พอได้อยู่ใกล้ชิดเธอ เขากลับตื่นตัว...อยากเก็บหนี้กับเธออีกแล้ว“ใช่ค่ะ คุณชิณณ์ให้พรีมกลับบ้านนะคะ พรีมไม่หนีคุณไปไหนแน่นอน”“ผมเชื่อใจคุณได้หรือพรีม”“แล้วพรีมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ”“ขอเก็บดอกเบี้ยได้ไหม ค่าปล่อยตัวชั่วคราว” ชิณณ์ลากปลายจมูกคลอเคลียแก้มนุ่ม เขาค่อย ๆ เลื่อนปากเข้าใกล้มุมปากอิ่ม ทว่าเจ้าของปากน่าจูบกลับเบี่ยงหน้าหนี ก่อนจะหันกลับมาใหม่ แล้วเอามือดันอกกว้างไว้“พรีมยังเจ็บอยู่ค่ะ” พรีมก้มหน้า เธอหลุบตาลงมองฝ่ามือตัวเองที่วางอยู่บนอกกว้าง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แต่แกะกระดุมออกถึงสามเม็ด แล้วมือเธอก็วางแหมะลงตรงที่สาบเสื้อแยกออกพอดี“ผมเตือนคุณแล้วว่าจะเจ็บ แต่คุณดื้อรั้น...ไม่ฟังคำเตือน” ชิณณ์ยิ้มบาง เขาเชยคางเรียวขึ้นมา มองสบตาเธอด้วยสายตาพราวระยับ“ให้พรีมกลับบ้านนะคะ” พรีมกลั้นใจขอร้องเขาอีกครั้ง เธอมองหน้าเขาอย่างรอคอย“อาบน้ำให้ผมหน่อย แล้วผมจะยอมป