คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนบ้าพลิกตัวนอนหงาย เขาถอนหายใจบางเบา แล้วระบายยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อคืนเขาอิ่มเอมจนแทบสำลัก เธอน่ารักจนเขาแทบคลั่ง การรอคอยใครสักคน แล้วสุดท้ายได้กอดเธอไว้แนบอกแบบนี้ ช่างสุขล้ำจนแทบล้นใจ
“ชุดนี้โอเคแล้วใช่มั้ยคะ คุณพ่อคุณแม่ดุไหมคะ แล้วน้องนุชจะชอบแต้มไหม” แต้มรักถามซ้ำเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ คนถูกถามก็จำไม่ได้ เธอถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล และน้ำเสียงก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร
พุฒละสายตาจากถนน หันมายิ้มให้กำลังใจเธอ เขาจับมือนุ่มมากุมไว้แนบอก
“คุณพ่อคุณแม่ใจดีมากครับ พวกท่านอยากเจอแต้มมาก ส่วนน้องนุชก็ดีใจใหญ่ที่จะได้เห็นหน้าพี่สะใภ้คนสวย”
“แต้มตื่นเต้นจังเลยค่ะ ดูสิคะ มือเย็นไปหมดแล้ว”
“สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหายใจออกช้า ๆ”
แต้มรักทำตามที่เขาแนะนำ
“ดีขึ้นไหมครับ”
แต้มรักส่ายหน้า เธอยังตื่นเต้นอยู่เหมือนเดิม
“ผมจะอยู่ใกล้ ๆ แต้มตลอดเวลา อย่ากังวลไปเลยนะครับ”
แต้มรักสูดลมหายใจลึก และผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ อีกครั้ง
“ค่ะ”
“คุณแม่ครับจะเอาออกมาให้แต
พุฒยิ้มบาง เขาเข้าใจสิ่งที่พ่อต่อพูดแล้ว“เรากินข้าวเย็นกับคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะคะคุณพุฒ”พุฒยังไม่ทันได้พูดอะไร แต้มรักก็เดินถือแก้วน้ำมายื่นให้เขา แล้วเธอก็นั่งลงข้างเขา“ครับ” พุฒรับคำแล้วยิ้มให้เธอ ก่อนจะพูดต่อว่า“ผมจะซื้อบ้านหลังนั้น แต้มว่าไงครับ”แต้มรักขมวดคิ้วมุ่น มองไปบ้านข้างกัน“ซื้อทำไมคะ” แต้มรักรู้ว่าเพื่อนบ้านจะขายบ้านเพื่อย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แต่เธอไม่เข้าใจว่า เขาจะซื้อบ้านหลังนั้นทำไม ทั้งที่เขาก็มีทั้งบ้านทั้งคอนโดอยู่แล้ว“ซื้อไว้เป็นเรือนหอ แต่คงต้องรีโนเวทอีกเยอะเลย ต้องทุบกำแพง ทำทางเชื่อมต่อ ปรับฮวงจุ้ยอีก”แต้มรักยิ้มแหย เธอหันไปมองหน้าบิดาก็เห็นท่านอมยิ้มแล้วส่ายหน้า พอหันมามองสบตาคนที่นั่งข้างกัน เขาก็ยิ้มอ่อนโยนให้เธอ แต่สายตาเหลือบมองบิดาของเธออย่างสังเกตสังกา...เธอว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอนหลังจากรับประทานอาหารมื้อค่ำกับคุณพ่อคุณแม่เรียบร้อยแล้ว พุฒก็ขอตัวพาแต้มรักกลับ เพราะพรุ่งนี้เขาและเธอจะต้องไปทำงาน พอเขาขับรถพาเธอออกพ้นประตูรั้วบ้านมา แต้มรักก็ถามในสิ่งที่คาใจทันที“คุณพ่อ
“คุณพุฒ !”แต้มรักตะโกนเรียกคนที่ยังนอนอยู่บนเตียงสุดเสียง เธอยืนจับขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าไว้แน่น เพราะทรงตัวยืนไม่ไหว ตอนนี้เธอสั่นไปทั้งตัว วูบโหวงไปหมด หลากหลายความรู้สึกปนเปกันอยู่ในอก“แต้ม ! เป็นอะไร”พุฒดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้ววิ่งเข้ามาในห้องน้ำทันทีที่ได้ยินเสียงเธอเรียกแต้มรักหันมามองสบตาสามี ใบหน้าของเธอบิดเบ้คล้ายจะร้องไห้ เธอยื่นแท่งสีขาวเล็ก ๆ ในมือไปตรงหน้าเขาพุฒขมวดคิ้วมองสิ่งที่เธอยื่นมาตรงหน้าด้วยความสงสัย เขาเพ่งมองมันอย่างพินิจพิเคราะห์ มองให้แน่ใจว่า ไอ้แท่งในมือเมียมันขึ้นสองขีดจริง ๆ“แต้มท้องค่ะ”พุฒมองหน้าเมีย เขาพูดคล้ายละเมอ “แต้มท้องแล้ว ท้องแล้วจริง ๆ ด้วย” เขายิ้มหวานคล้ายคนเมากัญชา “เรากำลังจะมีลูก”แต้มรักพยักหน้า หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูง แล้วร้องไห้โฮกับอกกว้างพุฒกอดรัดคนตัวเล็กไว้แน่นที่สุด เขาถอนหายใจบางเบา แล้วจูบกระหม่อมเธอหนัก ๆ ทั้งโยกตัวไปมาเบา ๆ เขารอกระทั่งแต้มรักสูดลมหายใจลึก แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขา “คนขี้แย” พุฒว่ายิ้ม ๆ
“เอาอย่างนี้ได้ไหมคะ แต้มขอไปทำงานดูก่อน ถ้าแต้มแพ้ท้อง หรือไม่ไหวจริง ๆ แต้มจะกลับมานอนอยู่บ้านเฉย ๆ รอให้คุณพุฒเลี้ยง”เงียบ...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากสามีแต้มรักถอนหายใจอีกครั้ง เธอต้องเป็นฝ่ายยอมเขาอีกสินะ“ก็ได้ค่ะ แต้มจะไม่ไปทำงานแล้ว แต้มจะอยู่บ้านให้สามีทำงานเลี้ยงอย่างเดียวเลย โอเคไหมคะ”พอเธอพูดจบ ร่างสูงก็พลิกตัวนอนตะแคงหันหน้ามาหาเธอทันที“ครับ...ดีครับ” พุฒยิ้มพราว ตาเป็นประกาย“จะมีสักครั้งไหมคะที่แต้มจะเอาชนะคุณพุฒได้”“แต้มชนะผมมาตลอดแหละ...ชนะใจ”แต้มรักอมยิ้ม หญิงสาวผลักอกกว้างให้เขานอนหงายลง แล้วเธอจึงขยับขึ้นไปนอนทาบทับบนตัวเขา หญิงสาวก้มลงพูดคลอเคลียปากอุ่นร้อน“อยากชนะอย่างอื่นดูบ้างจังเลยค่ะ”พุฒโอบกอดเมียรักเต็มวงแขน เขาผงกศีรษะจุ๊บปากเธอหนัก ๆ“ก็ลองดูสิครับ ผมต่อให้ก่อนสองยก”“คืนนี้...แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”“ยินดีรับคำท้าครับ”หลังอาหารมื้อค่ำ พุฒดูร้อนรนและอยากขึ้นห้องเร็วเป็นพิเศษ เมียเขาเอาแต่นั่งคุยกับคุณพ่อคุณแม่ ไม่มีทีท่าว่าจ
“โอ๊ย ! นี่เธอ ระวังฟันหน่อยสิ” ชิณณ์ดันหัวที่ซุกอยู่กลางหว่างขาของเขาออกพรีมที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตรงหน้าเขาเงยหน้าขึ้น หญิงสาวใช้หลังมือเช็ดปากแรง ๆ เธอจ้องคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุผ้าสีแดงเลือดหมูด้วยสายตาดุ ใบหน้าน่ารักบูดบึ้ง ทั้งไม่พอใจ ทั้งคับแค้นใจ“ก็บอกแล้วว่าทำไม่เป็น”“ไม่เป็นก็ต้องหัด จะได้หมดหนี้เร็ว ๆ บุญหัวแค่ไหนแล้วที่ฉันสละเวลาเอาตัวมาให้เธอทำงานแลกหนี้”“ฉันไม่ได้เป็นหนี้แก เอ่อ...คุณ” พอถูกเขาหรี่ตามอง พรีมก็รีบเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกเขา“จะเถียงทำไม เถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ รีบ ๆ ทำ ฉันมีงานอีกเยอะต้องไปดูแล ไม่มีเวลามานั่งให้เธอลวนลามทั้งวันหรอกนะ”พรีมเบะปาก หญิงสาวหลุบตามองสิ่งที่เธอต้องใช้ปากกับมัน แล้วถอนหายใจ ใหญ่ขนาดนี้ ใครจะไปอมไหว แล้วเมื่อกี้อมตั้งนานก็ไม่แตกสักที เธอไม่อยากทำแล้ว...เมื่อยปากไปหมด จะอ้วกด้วย ครั้งแรกเอาแค่ห้าร้อยก่อนก็ได้“ว่าไง จะต่อไหม” ชิณณ์ถามอย่างหงุดหงิด เธอทำแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ เขาค้างนะโว้ย ! เขาอยากจะบีบปากเธออ้ากว้าง ๆ แล้วกระแทกใส่แรง ๆ ให้สะใจ แต่ก็ต้อ
“อย่าชักช้า ฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้น” ชิณณ์เตือนเธออีกครั้ง เขาหลุบตามองเธอด้วยใจลุ้นระทึก...จับสักที ชักให้สักทีสิวะ แข็งจนจะระเบิดอยู่แล้วพรีมสูดลมหายใจลึก เธอกลัวเขาเปลี่ยนใจ เธอจึงรีบใช้สองมือคว้าลำเนื้อตรงหน้า นิ้วทั้งสิบสอดประสานกำความใหญ่โตไว้แน่น แล้วดันมือเข้าหาเขาจนสันมือชนกับกลุ่มขนดกหยาบ ตาคู่สวยเบิกกว้าง เมื่อเห็นหัวมนทู่แดงก่ำทั้งยังมีน้ำใส ๆ ไหลซึมจากรูเล็กออกมาด้วย พรีมกัดฟันแน่น เธอหลับตาปี๋เพราะไม่อยากเห็น และเริ่มขยับมือชักรูดลำกายของเขาช้า ๆ“อ่า...ดี” ชิณณ์ว่าพลางขยับบั้นเอวแอ่นเข้าหามือนุ่ม“เร็วอีกนิด” ชิณณ์เท้าสะเอว เขาหลับตา เงยหน้า สูดปากเบา ๆ“อ่า...แบบนั้นแหละ อื้ม…”พรีมเบี่ยงหน้าไปด้านข้าง เธอยังคงหลับตาอยู่เพราะไม่อยากเห็นอะไรของเขา แต่หูได้ยินเสียงครางกระเส่าตลอดเวลา เสียงครางเซ็กซี่ของเขาทำให้เธอใจสั่น หญิงสาวเร่งขยับมือรูดรั้งเร็วขึ้น พอเขาเด้งสู้มือ เธอก็ชักรูดถี่ยิบเพราะมีอารมณ์คั่งค้างมาก่อนหน้านี้แล้ว พอถูกเธอชักรัว ๆ ชิณณ์ก็เด้งสู้มือนุ่ม เขาเสียวจัดไปทั้งลำ และไม่อาจกักเก็บห้วงเวลาแสนเสียวไว้ได้นาน อี
“หน้าตาพอใช้ได้” ไอ้คนที่เดินเข้ามาทีหลังเพื่อนพูดแล้วผิวปากหวือ มันกวาดตามองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า และมองตรงจุดที่ไม่ควรมองอย่างเสียมารยาท “ซิงหรือเปล่าวะ”แม้หน้าตามันจะดูดีเข้าขั้นหล่อลากไส้ ทั้งรูปร่างก็สูงสมาร์ตน่าเกรงขาม แต่คำพูดคำจาของมันแสนทุเรศ น่าเอาน้ำยาล้างส้วมกรอกปาก“ไม่ทราบครับคุณชิณณ์” ไอ้คนที่เข้ามาก่อนหนึ่งในสองตอบ“เดี๋ยวกูเช็กของเอง”พอมันบอกว่าจะเช็กของ พรีมก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอดิ้นสุดฤทธิ์แต่ไม่อาจหลุดจากพันธนาการได้ พรีมกรีดร้องออกมาสุดเสียง ทว่าเสียงที่ออกมาก็ดังเพียงอู้อี้ เพราะพวกมันใช้ผ้ามัดปิดปากเธอไว้“จุ๊ ๆ เอวดีนี่หว่า เด้งแบบนี้มันน่าจัดสักยกก่อนส่งให้แขก”เอวดีพ่อง...พรีมอยากตะโกนใส่หน้าคนที่นั่งลงข้างเธอ แต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงขึงตาใส่มัน พอมันเอาหลังมือมาลูบแก้มเนียน พรีมก็สะบัดหน้าหนีไอ้บ้า ! ไอ้ชั่ว ! ไอ้เลว !เป็นเพียงคำตะโกนก้องในใจ เพราะเธอไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้“สงสัยมีความในใจจะบอก” ชิณณ์ยิ้มขำคนที่พยายามจะพูดแต่พูดไม่ได้ เขาสงสารจึงแก้มัดผ้าปิดปากออกให้เธอ
“งั้นก็ไปรับแขก เปิดซิงได้ราคาดีอยู่นะ”“ฉันไม่รับแขก !” พรีมตะเบ็งเสียงตอบด้วยความโมโห“งั้นก็เอางี้แล้วกัน ฉันเห็นใจเธอนะที่ถูกจับมาแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ฉันมีข้อเสนอเด็ด ๆ ที่จะทำให้เธอสามารถจ่ายหนี้สองแสนได้โดยที่ไม่ต้องรับแขก แค่เธอทำงานบางอย่างให้ฉันคนเดียวก็พอ”“งานอะไร”ชิณณ์มองสบตาหญิงสาว เขายิ้มมุมปากก่อนจะบอกดีลเด็ดแสนเร้าใจที่เขาคิดได้เมื่อครู่สด ๆ ร้อน ๆ ให้เธอได้พิจารณา“อมไม่แตกห้าร้อย อมแตกห้าพัน สไลด์นมสองร้อย สไลด์กลีบสองพัน เปิดซิงสามหมื่น ครั้งต่อไปสองหมื่น เธอมีเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์รวบรวมให้ครบสองแสน คิดว่าไหวไหม”พรีมจ้องหน้าคนที่เสนอค่าบริการที่เขากำหนดให้เธอด้วยสายตากรุ่นโกรธ ถ้าพ่นไฟใส่เขาได้ เธอพ่นใส่ไปแล้ว“ฉันไม่ทำ”“ไม่ทำก็ไปรับแขก” ชิณณ์บอกอย่างไม่แยแส ถูกจับขึงพืดอยู่กลางเตียงแบบนี้ ยังจะปากดีกล้าต่อรองกับเขาอีก บุญหัวแค่ไหนแล้วที่เขาไม่กรอกยาปลุกเซ็กซ์แล้วโยนขึ้นเตียงให้แขกตัณหากลับขย้ำ อุตส่าห์สงสารให้ทำงานสบาย ๆ บริการเขาคนเดียว ยังจะมาเรื่องมากไม่อยากทำอีก“ฉันไม่ได้อยากทำงานแบบนี้”
“ขอบคุณนะคะ ฉันสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ให้คุณจนหมดแน่นอน ฉันจะไม่หนีไปไหน ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” พรีมว่าพลางขยับลงจากเตียงอีกฝั่ง หญิงสาวรีบเดินตรงไปที่ประตูด้วยความดีใจ เธอดึงประตูเปิดออก แต่พอมันเปิดแง้มได้แค่เพียงนิด มันก็ถูกฝ่ามือแข็งแรงดันปิดไว้ตามเดิม และคนที่ดันประตูปิดก็ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเธอ พรีมยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ เพราะเขายืนอยู่ใกล้เธอเกินไป ใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากเรือนกายของเขาชิณณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาวางสองมือทาบกับบานประตู กักกันเธอไว้ให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาก้มหน้าลงจนจมูกโด่งเกือบชนแก้มนวล “ฉันหมายถึงกลับคอนโดกับฉันต่างหาก”“เข้าไปสิ” ชิณณ์รั้งต้นแขนของผู้หญิงที่เขาหิ้วกลับคอนโดเข้าไปในห้องด้วยกัน คนถูกจับเงยมองเขาอย่างเอาเรื่อง“ฉันเดินเองได้ไม่ต้องมาจับ” พรีมสะบัดแขนออกจากมือแข็งแรง เธอขยับหนีไปยืนห่างเขาถึงสามก้าวชิณณ์มองท่าทางสาวขัดดอกของตัวเองแล้วยิ้มขำ เขาปิดล็อกห้อง เปลี่ยนรองเท้า แล้วจงใจเดินเบียดเธอจนเซ ก่อนจะเดินผ่านเข้าไปด้านใน ชิณณ์เดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของตัวเอง ปล่อยให้คนที่เพิ่งมาคอนโดผู้ชายครั้งแรกยืน
“ไปรอผมในห้อง” ชิณณ์บอกคนที่เกาะแขนเขาไม่ห่าง“พรีมไปกับคุณไม่ได้หรือคะ” พรีมเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างลืมตัว ก็อยู่ใกล้เขาเธออุ่นใจที่สุด เธอจึงไม่อยากไปรอในห้องคนเดียว“ผมจะไปคุยกับแขกวีไอพี”“พรีมจะนั่งรอเงียบ ๆ จะไม่รบกวนคุณ คุณจะคุยก็คุยไป” พรีมดื้อดึง และไม่ยอมปล่อยแขนแกร่ง“แน่ใจนะ” ชิณณ์หลุบตามองสบตาเธอพรีมรีบพยักหน้าเร็ว ๆ พอเขาไม่ว่าอะไรและเริ่มออกเดินอีกครั้ง เธอก็รีบก้าวเดินตาม กระทั่งเขาพาเธอเดินมาใกล้ถึงห้องวีไอพี ก็มีผู้หญิงในชุดสุดแสนเย้ายวนสองคนเดินเข้ามาหา“คุณชิณณ์ขา คืนนี้ให้พวกเราไปรอที่ห้องไหนดีคะ” สาวนางหนึ่งถามพร้อมกับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เขาพรีมขมวดคิ้วมองดูสองสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนข้างเธอ เขามองสองสาวด้วยสายตาเรียบเฉย และไม่ได้พูดอะไรออกมา ครู่เดียวลูกน้องของเขาก็รีบมากันสองสาวนั้นออกไป แม้ว่าพวกเธอจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะถอยออกไปเท่าไร แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน“พรีมไปรอที่ห้องก็ได้ค่ะ” พรีมปล่อยมือจากต้นแขนแกร่ง เธอขยับออกห่างเขาเล็กน้อยชิณณ์เลิกคิวเข้มมองคนที่ถอยห่างเขาไปด้วย
พรีมปิดกั้นการติดต่อกับคุณลุงคุณป้า ไม่รับสาย ไม่โทรหา และไม่สนใจว่าคนพวกนั้นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร บุญคุณที่เลี้ยงเธอมา เธอถือว่าเธอชดเชยให้ด้วยเงินที่ส่งให้ทุกเดือนก่อนหน้านี้ และอิสรภาพของเธออีกหนึ่งปีนับจากนี้ที่เธอใช้มันแลกกับหนี้ก้อนโตที่พวกเขาสร้างไว้ เธออยู่ภายใต้คำว่าบุญคุณมานานแล้ว หลังจากหมดพันธสัญญาการเป็นผู้หญิงของชิณณ์ เธอจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน เพื่อสร้างบ้านบนที่ดินผืนนั้น เธอจะกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่นั่น “มีอะไรกันหรือคะ” พรีมถามแล้วขมวดคิ้วเรียวด้วยความสงสัย ก็พอเธอเดินออกจากลิฟต์มา คนของชิณณ์ที่ปกติจะเฝ้าอยู่หน้าห้องแค่สองคน แต่วันนี้กลับมีถึงสี่คน แล้วแถมทั้งสี่คนก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดอีกด้วยทั้งหมดหันมามองเธอพร้อมกัน พอเห็นหน้าเธอ สีหน้าของพวกเขาก็ดีขึ้นทันใด พวกเขาโค้งคำนับให้เธอเล็กน้อย ก่อนที่คนหนึ่งจะบอกเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีสีหน้ากังวลใจ...พรีมยืนฟังคนของชิณณ์เล่าสถานการณ์ในห้องอยู่ครู่หนึ่ง พอรู้และรับทราบถึงอารมณ์คนในห้องตอนนี้ หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่“พี่สองคนลงไปรอ
“พรีม !” เสียงเรียกของคนที่ชะโงกหน้าข้ามฉากกั้นมาจากโต๊ะตรงหน้าทำให้พรีมสะดุ้ง หญิงสาวรีบปิดกระเป๋าถือแล้ววางลงบนพื้นข้างโต๊ะ“พี่รัตนามีอะไรหรือคะ” พรีมถามด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก“พี่แค่อยากถามว่า กลับบ้านตั้งหลายวัน แอบไปแต่งงานหรือเปล่าคะ” ผู้ตั้งมั่นในการเป็นจิตอาสาสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านถามแล้วมองอย่างจับผิด“พรีมกลับไปเยี่ยมบ้านเฉย ๆ ค่ะ” พรีมตอบแล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้กลับไปแต่ง แต่กลับไปหมั้นใช่ไหมคะ” สายสมรที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปจากรัตนารีบลุกขึ้นมาถามต่อจากเพื่อนพรีมมองหน้าสองสาวใหญ่จอมสู่รู้แล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้แต่ง ไม่ได้หมั้นค่ะ พรีมยังไม่มีแฟน ไม่มีผัว พรีมยังโสดค่ะ”“โสดสนิทหรือเปล่าน้อ” รัตนายังมิวายพูดล้อเลียน“โสดสนิทค่ะ และทำให้คนพูดมากหุบปากสนิทได้ด้วย” พรีมว่าพลางชูกำปั้นขึ้นมาตรงหน้า กับบางคนพูดดี ๆ ด้วยแล้วลามปาม ถึงแม้จะอายุมากกว่า เธอก็ไม่คิดจะไว้หน้าหรือเกรงใจหรอกนะ สู่รู้เรื่องของคนอื่นดีนัก ก็ต้องโดนตอกกลับบ้างพอถูกขู่ สองสาวรุ่นใหญ่ยิ้มแหยแล้วรีบนั่งลงทำงานต่อ พรีมถอนหายใจแรงอีกครั้ง เธอหันไปม
“ขออีกครั้ง” เสียงของเขาสั่นพร่า และพอเขาพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงซุกไซ้ซอกคอนุ่ม เรือนกายเปลือยเปล่าของสองหนุ่มสาวเสียดสีสัมผัสกันแนบชิด“อื๊อ ! ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวพรีมไปทำงานสาย”“เดี๋ยวให้คนไปส่ง”“มะ...ไม่ค่ะ อ๊ะ ! คุณชิณณ์อย่า…” เสียงห้ามปรามของพรีมถูกดูดกลืนด้วยจูบเรียกร้องเอาแต่ใจ มือไม้ซุกซนของเขาลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวสาว ขณะที่หัวเข่าแกร่งกดลงกลางหว่างขาแยกแย้มเนื้อนวล เขานาบความเป็นชายร้อนผะผ่าวกลางกลีบสาว แล้วขยับสะโพกถูไถตัวตนของเขากับกลีบชุ่มชื้นของเธอ“คุณชิณณ์...ทำเร็ว ๆ นะคะ พรีมจะรีบไปทำงาน” เมื่อไม่อาจขัดขืนเขาได้ และร่างกายของเธอก็ตอบสนองการปลุกเร้าแล้ว พรีมจึงเร่งให้เขาทำเวลา“สั่งจริง อยากเร็วก็มาทำเอง” ชิณณ์ว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาพลิกตัวลงไปนอนหงาย แล้วดันหญิงสาวลุกขึ้นคร่อมหน้าท้องแกร่ง คนช่ำชองส่ายสะโพกขยับเล็กน้อย หัวมนทู่ก็สอดเข้าสู่ร่องรักอุ่นอ้าว เขาจับเอวคอดไว้แน่นด้วยสองมือ แล้วดึงให้เธอกระแทกลงมา ขณะที่เขากระเด้งสวนขึ้นไป เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง“คุณชิณณ์ !” พรีมหวีดร้องเรียกเขาเสียงหลง เธอเจ็บและจุกเต็ม
“ที่ดินผืนนั้นจะโอนเป็นของคุณทันที ถ้าคุณตกลงรับข้อเสนอของผม”คิ้วเรียวขมวดมุ่น พรีมมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ“มาเป็นผู้หญิงของผม แล้วคุณจะได้ที่ดินของคุณคืน”“นานแค่ไหนคะ” เธอไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยากนักหรอก เธอยอมรับว่าสนใจข้อเสนอของเขา ใครจะมองว่าเธอใช้ร่างกายเข้าแลกก็ช่าง ในเมื่อที่ดินผืนนั้นคือความสุขทางใจสิ่งเดียวของเธอ หากหนทางที่จะทำให้ได้มันมาไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ ไม่ได้ลักลอบเป็นชู้กับคนที่มีครอบครัวแล้ว มันเป็นข้อเสนอที่ของคนไร้พันธะ และเธอก็ไม่มีใคร เธอจึงถือว่านี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจ แต่สิ่งเดียวที่เธอต้องรู้ก่อนตัดสินใจรับข้อเสนอของเขาคือ เธอต้องเป็นผู้หญิงของเขานานแค่ไหน“หนึ่งปี...ภายในหนึ่งปีนี้ คุณต้องพร้อมเสมอ หากผมต้องการ”“พรีมต้องย้ายมาอยู่กับคุณไหมคะ”“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ”“พรีมไปทำงานได้ไหมคะ”“ได้สิ”พรีมสูดลมหายใจลึก หญิงสาวมองสบสายตาคมแน่วแน่“ค่ะ...พรีมตกลงรับข้อเสนอของคุณ พรุ่งนี้เราไปโอนที่กันเลยนะคะ” เธอไม่ได้เขี้ยว แต่เธอต้องการหลักประกันว่า อิสรภาพส่วนหนึ่ง
“พรีมไม่มีเงินจ่ายให้คุณหรอกค่ะ ลำพังหนี้สินเดิมก็ยังชดใช้ไม่หมด ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกค่ะ” พรีมเลิกผ้าห่มออกจากตัวแล้วขยับจะคลานลงจากเตียง แต่กลับถูกเขารวบกอดเอวคอดแล้วดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างง่ายดาย หญิงสาวหันไปขึงตาใส่เขา“อาบน้ำให้หน่อยสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”พรีมจ้องหน้าคนที่เรียกร้องค่าเปิดปากด้วยการอาบน้ำ“อาบเองไม่เป็นหรือไงคะ ทำไมถึงชอบเรียกร้องให้คนอื่นอาบน้ำให้”“อาบเองเป็น แต่ชอบให้คนอื่นอาบให้มากกว่า มันเสียวดี”พรีมถอนหายใจแรง เธอหงุดหงิดที่ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาตลอด กระนั้นหญิงสาวก็รู้ตัวดีว่า เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรกับเขามากนัก“ก็ได้ค่ะ คุณเล่ามาก่อน แล้วพรีมถึงจะอาบน้ำให้”“ไปเล่าในห้องน้ำเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา ผมเตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างไว้แล้ว” ชิณณ์ว่าพลางขยับตัวลงจากเตียง โดยอุ้มคนที่รับปากว่าจะอาบน้ำให้เขาขึ้นกระเตงไว้ด้านหน้าพรีมรีบกอดลำคอแกร่งไว้ทันทีที่เขาลุกขึ้นจากเตียง สองขาเรียวก็ตวัดรัดเอวสอบอัตโนมัติเพราะกลัวตก“คุณมันคนเจ้าเล่ห์”“ไม่อยากรู้เหรอ” ชิณณ์หยุดเดิน เขามองสบตาเธ
“ดึกแค่ไหนก็คุ้มนะ ถ้าเสี่ยจิ๋วเขายอมรับข้อเสนอของพรีม”“ค่ะ”พรีมพยักหน้าเห็นด้วยกับลุง หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ เธอมองไปทางประตู แล้วหันมามองหน้าลุง ลุงมนตรียิ้มให้กำลังใจเธอ พรีมยิ้มตอบก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนเกือบหมดแก้ว…เสียงเปิดประตูทำให้มนตรีหันไปมอง พอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือเสี่ยจิ๋ว ผู้สูงวัยก็รีบยกมือไหว้ เสี่ยจิ๋วพยักหน้าเล็กน้อยแทนการรับไหว้ ร่างท้วมเดินเข้าไปยืนข้างมนตรี และมองไปยังร่างหญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยสายตาที่พึงพอใจ“เสี่ยคงอยากตกลงกับหลานสาวผมเป็นการส่วนตัว”“อืม…” เสี่ยจิ๋วครางรับในลำคอ เขากวาดสายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับแลบลิ้นเลียปากแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่“ตามที่ตกลงกันไว้นะครับเสี่ย ยกหนี้ให้ แล้วก็เอ่อ...ค่าสินสอดสองแสน”เสี่ยจิ๋วละสายตาจากเรือนร่างสาว เขาหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ประตู“จัดการให้คุณมนตรีด้วย แล้วก็ไสหัวออกไปให้หมด คืนนี้กูจะเข้าหอกับหนูพรีมที่นี่...ทั้งคืน”“พวกมึงมัวทำเหี้ยอะไรอยู่ ปล่อยให้คลาดสายตาได
พอหลานไม่หือไม่อือ ป้าวัลภาก็รีบเสริมขึ้นว่า “เอ่อ...พรีมไม่ต้องกังวลนะ ลุงเขาจะขับรถไปส่ง แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนด้วย”พรีมถอนหายใจบางเบา เธอรู้ว่าการไปพบเสี่ยจิ๋วตอนกลางคืนไม่น่าไว้ใจเท่าไร แต่ลุงมนตรีไปกับเธอด้วย คงไม่มีอะไรน่ากังวล อีกอย่างไปคุยกันในร้านอาหารซึ่งมีคนอื่นอยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้น เธอก็น่าจะมีทางหนีทีไล่อยู่“พรีมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวพรีมลงไปค่ะ”ป้าวัลภาฉีกยิ้มกว้าง “จ้ะ...รีบ ๆ ตามลงมานะ ลุงเขารออยู่”“มีนกับหมอกสบายดีใช่ไหมคะคุณลุง” พอลุงขับรถพาเธอออกมาจากบ้านครู่หนึ่ง พรีมก็หันไปถามหาลูก ๆ ของลุง เธอทราบข่าวว่ามีนแต่งงานแล้ว และย้ายไปอยู่กับสามีในตัวจังหวัด ส่วนหมอกยังอาศัยอยู่ที่บ้าน เขาทำงานราชการในอำเภอ แต่กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำ ไม่ใช่เพราะทำงานหนัก แต่เพราะมัวแต่เที่ยวเล่นสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เธอยังไม่เจอหน้าเขา“ก็สบายดี” ลุงมนตรีตอบแล้วยิ้มเจื่อน ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่า สาเหตุที่ที่ดินของหลานกำลังจะถูกยึดเป็นเพราะเขาตามใจลูกมากเกินไป ลูกสาวคนโตและลูกชายอยากได้รถใหม่ ลำพังเง
“เรื่องที่ดินน่ะเหรอ” ชิณณ์นั่งลงบนเตียง เขารวบเอาคนที่นั่งหน้าหงิกอยู่มานั่งบนตัก เนื้อตัวนุ่มเนียนกับกลิ่นกายสาวทำให้เขาคึกคัก ทั้งที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งคืน แต่พอได้อยู่ใกล้ชิดเธอ เขากลับตื่นตัว...อยากเก็บหนี้กับเธออีกแล้ว“ใช่ค่ะ คุณชิณณ์ให้พรีมกลับบ้านนะคะ พรีมไม่หนีคุณไปไหนแน่นอน”“ผมเชื่อใจคุณได้หรือพรีม”“แล้วพรีมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ”“ขอเก็บดอกเบี้ยได้ไหม ค่าปล่อยตัวชั่วคราว” ชิณณ์ลากปลายจมูกคลอเคลียแก้มนุ่ม เขาค่อย ๆ เลื่อนปากเข้าใกล้มุมปากอิ่ม ทว่าเจ้าของปากน่าจูบกลับเบี่ยงหน้าหนี ก่อนจะหันกลับมาใหม่ แล้วเอามือดันอกกว้างไว้“พรีมยังเจ็บอยู่ค่ะ” พรีมก้มหน้า เธอหลุบตาลงมองฝ่ามือตัวเองที่วางอยู่บนอกกว้าง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แต่แกะกระดุมออกถึงสามเม็ด แล้วมือเธอก็วางแหมะลงตรงที่สาบเสื้อแยกออกพอดี“ผมเตือนคุณแล้วว่าจะเจ็บ แต่คุณดื้อรั้น...ไม่ฟังคำเตือน” ชิณณ์ยิ้มบาง เขาเชยคางเรียวขึ้นมา มองสบตาเธอด้วยสายตาพราวระยับ“ให้พรีมกลับบ้านนะคะ” พรีมกลั้นใจขอร้องเขาอีกครั้ง เธอมองหน้าเขาอย่างรอคอย“อาบน้ำให้ผมหน่อย แล้วผมจะยอมป