"กว่าที่ฉันจะใช้งานเธอ..ให้คุ้มกับเงินห้าหมื่น เธออาจจะได้คลานลงจากเตียง"
View Moreงานปาร์ตี้วันเกิดของบรรดาลูกหลานไฮโซ
“พี่คะ ขอเติมมาร์ตินีหน่อยค่ะ แขกด้านโน้นขอแต่มาร์ตินี”
อลิษา พนักงานพาร์ทไทม์ นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจซึ่งมีใบหน้าจิ้มลิ้ม ถือถาดเปล่ามายื่นให้กับบาร์เทนเดอร์ ระหว่างรอ
“อลิซ แกรู้ไหม ว่าฉันเจอใคร”
“ใคร”
มัสยา เพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอ บุ้ยปากไปทางสระว่ายน้ำซึ่งเป็นจุดที่เธอรับผิดชอบนำเครื่องดื่มไปเดินเสิร์ฟ บริเวณนั้นมีแต่สาวสวยในชุดบิกินีนั่งนัวเนียกับชายหนุ่มเต็มไปหมด ทำให้อลิษาต้องมองตามสายตาของเพื่อนไป ก็ไปปะทะกับชายหนุ่มรูปหล่อผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในมหาวิทยาลัยของพวกเธอ
“คิริว วิศวะโยธาไงยัยอลิซ”
อลิษามองชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้นอีกเพียงนิด ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเพื่อนรักด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“แล้วไง”
“อ้าว ก็หมอนั่นกำลังนัวกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ ไม่ใช่น้ำปั่นนี่”
น้ำปั่นคือรุ่นน้องในคณะของพวกเธอซึ่งตอนนี้เป็นผู้หญิงคนใหม่ที่หนุ่มสุดฮอตอีกคนหนึ่งในคณะวิศวกรรมศาสตร์อย่างคิริวกำลังควง
“แล้วแกจะตกใจอะไร หมอนั่นเคยควงใครนานด้วยหรือไง”
แม้จะไม่ได้อยากรู้จักหรือมีเวลาว่างมากมายไปยุ่งกับเรื่องชาวบ้าน แต่คนดังอย่างเขาที่พวกเธอเคยเห็นผ่าน ๆ หลายครั้งกับชื่อเสียงที่ลือกระฉ่อนไปทั่ว ทำให้จำหน้าของเขาได้ติดตา
“เออ ก็ไม่”
“นั่นสิ หยุดต่อมเผือกของแกเอาไว้ แล้วไปทำงาน”
ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลอ่อนแสนมีเสน่ห์มองตามร่างบอบบางขาวผ่องในชุดแม่บ้านแสนน่ารักซึ่งโดดเด่นสะดุดตาของเขาที่สุดอย่างไม่ละสายตา
คิริว หนุ่มสุดฮอตคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา ผู้มีใบหน้าสมบูรณ์แบบราวเทพเจ้าปั้น ด้วยเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเชื้อชาติเยอรมันของผู้เป็นพ่อกับเชื้อชาติไทยผสมญี่ปุ่นของผู้เป็นแม่ ทำให้เขาทั้งหล่อเหลาและมีเสน่ห์เกินกว่าใคร
อีกทั้งความร่ำรวยของลูกชายเพียงคนเดียวทายาทเจ้าของธุรกิจบริษัทรับเหมาก่อสร้างและตกแต่งภายในอย่างครบวงจรที่ผู้เป็นพ่อแม่ร่วมกันก่อตั้งมา ไหนจะหุ้นส่วนมากมายที่เป็นของพ่อกับแม่ของเขาในบริษัทชื่อดังทำกำไรงามอีกหลายแห่ง ซึ่งแน่นอนว่า ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ มันต้องตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
ที่สำคัญที่สุด นอกจากใบหน้าหล่อร้ายและฐานะที่ร่ำรวย เขายังเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเย็นชาไร้หัวใจ เขาเจ้าชู้ ขี้เบื่อ ไม่สนใจความรู้สึกของใครและไม่ยอมคบใครเป็นตัวเป็นตน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยิ่งเป็นเสน่ห์ดึงดูดสาว ๆ มากมายให้บินเข้ามาในกองไฟลุกโชนที่พร้อมจะแผดเผาพวกเธอเหล่านั้นให้มอดไหม้เป็นจุณ
บนอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อชัดเจนทุกลูกของเรือนร่างสุดเพอร์เฟคยังมีสาวสวยในชุดบิกินีสีแดงกำลังซุกซบอย่างออดอ้อน แต่เขากลับไม่ให้ความสนใจกับเธอเลยสักนิด เมื่อสายตาเอาแต่จ้องมองร่างบอบบางที่เดินถือถาดเครื่องดื่มไปเสิร์ฟคนในงานจนทั่ว ยกเว้นบริเวณที่เขากำลังนั่งอยู่
“ริว มองใครคะ”
แล้วสาวสวยในชุดบิกินสีแดงก็รู้ตัว ว่าจุดสนใจของเขาอยู่ที่ไหน เธอจึงตวัดสายตามองตามแล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ เพราะสาวสวยที่เป็นแค่เด็กเสิร์ฟคนนั้นมันดูสวยใสกว่าเธอตั้งเยอะ แม้ว่าสาวไฮโซอย่างเธอจะผ่านมีดหมอมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม
“ต้องสนใจด้วยเหรอ”
“แต่คืนนี้ริวมากับแนนนี่ หันกลับมาเดี๋ยวนี้”
แนนนี่ สาวไฮโซรุ่นพี่จับใบหน้าหล่อเหลาของเขาให้กลับมามองเธอ ก่อนจะล็อกต้นคอเขาเอาไว้แล้วบดจูบเขาด้วยความเร่าร้อนเพื่อให้ลืมเด็กสาวแสนสวยคนนั้น
“อลิซ เขาจูบกันแล้ว”
มัสยาพุ่งตรงมาหาเพื่อนที่กำลังยืนรอเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์อีกครั้ง
“อะไรของแกเนี่ย เมี่ยง”
แม้ปากจะบ่นเพื่อนแต่ก็หันไปมองในตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ เมื่อภาพหนุ่มสาวที่กำลังแลกลิ้นกันนัวเนียเข้าสู่สายตา เธอก็หันหน้าหนีทันที
“เห็นไหม จูบกันไม่อายฟ้าอายดิน”
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็น เดี๋ยวเมาก็จูบกันนัวเป็นคู่ ๆ ทั้งงาน”
“เออ ก็จริง”
“เลิกตื่นเต้น เลิกสนใจนายนั่น แล้วไปทำงาน”
“ก็ต่อมเผือกของฉันมันสั่นระริก”
สาวร่างบางทำท่าทางประกอบอาการสั่นระริกนั้น แม้จะเคยเห็นแขกที่มาร่วมงานปาร์ตี้จูบกันนัวเนียมาหลายงานแล้ว แต่คนพวกนั้นเธอไม่ได้รู้จัก ไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมสถาบันผู้โด่งดังคนนี้นี่นา
“หยุดเผือก หยุดสั่น ไปทำงาน จะได้รีบกลับไปนอน พรุ่งนี้มีเรียนเช้า”
“โหย อะไรเนี่ย แกมองเรื่องอื่นให้สนุกสนานบ้างก็ได้นะลิซ แกทุกข์มามากพอแล้ว อีกแค่ปีเดียวแกก็จะเป็นอิสระจากความจนแล้วนะ”
“อีกตั้งหนึ่งปี แล้วฉันก็ไม่ได้ทุกข์อะไรขนาดนั้น ฉันเข้มแข็งและมีความสุขดีตามอัตภาพ”
ใช่ เธอไม่มีเวลามาทุกข์ตรมกล่าวโทษชะตาชีวิตอะไรขนาดนั้น เพราะตั้งแต่วันที่พ่อจากไปและทุกอย่างไม่เหมือนเดิม เธอต้องทำตัวให้เข้มแข็งเพื่อปกป้องหัวใจของแม่ และต้องแสดงให้แม่รู้ว่าเธอปรับตัวได้สบายมาก หลังจากนั้นไม่นาน แม่ของเธอก็ตั้งหลักได้ จึงเริ่มต้นหาเงินด้วยการเปิดแผงเล็ก ๆ ขายของกินพวกลูกชิ้นปิ้งและหม่าล่า
“ฉันรู้ว่าแกมีความสุขดีตามอัตภาพ แต่ยิ้มเยอะ ๆ หน่อยสิ นะ คนสวย”
มัสยาใช้นิ้วจิ้มแก้มของเพื่อนรักอย่างที่ชอบทำทุกทีเวลาที่
อลิษาทำหน้าเบื่อโลก และมันก็ได้ผล เมื่อคนสวยของเธอยิ้มหวานอีกครั้ง
“แกนี่มันจริง ๆ เลยเมี่ยง”
“ก็ฉันอยากให้แกมีความสุขนี่ ยิ้มแบบนี้เพื่อนฉันสวยจะตาย ไปเสิร์ฟแล้วโปรยยิ้มให้ทั่ว เพื่อทิปเต็มกระเป๋า โอเคนะ”
“อืม โอเค”
สองสาวแยกย้ายกันไปทำหน้าที่อีกครั้ง และคราวนี้สาวสวยก็ทำหน้าที่ได้ดีกว่าเดิม เมื่อเธอโปรยยิ้มไปทั่วพร้อมกับได้รับทิปกลับมาจนเต็มกระเป๋าอย่างที่เพื่อนรักบอกจริง ๆ
“หึ หว่านเสน่ห์เก่ง”
ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลอ่อนมองจ้องเขม็งไปยังสาวสวยคนเดิม ก่อนแค่นยิ้มหยันผู้หญิงที่กำลังอ่อยเหยื่อคนนั้น ท่าทางลูกหลานไฮโซในปาร์ตี้คืนนี้ต้องมีสักคนที่ได้เธอกลับไปนอนกอด ซึ่งน่าเสียดายที่เขาดันควงผู้หญิงคนอื่นมาด้วยเสียแล้ว ไม่อย่างนั้นคงต้องไปลองสนามแย่งชิงเธอด้วยสักคน
“ชอบเด็กเสิร์ฟนั่นหรือคะริว”
“ก็สวยดี”
แนนนี่เหยียดริมฝีปากเย้ยหยันหญิงสาวแสนสวยแต่เป็นได้แค่เด็กเสิร์ฟคนนั้น แม้ในใจจะอิจฉามากมาย แต่ก็ไม่อาจแสดงออกถึงความหึงหวงได้ เพราะเธอกับชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้ ไม่ได้เป็นอะไรกัน นอกจากเพื่อนนอน
“แต่คืนนี้ริวต้องไปต่อกับแนนนี่”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“ไว้แนนนี่จะขอเบอร์เด็กนั่นจากคนคุมงานให้แล้วกันนะคะ แล้วริวค่อยไปดีลกันวันอื่น วันนี้ริวต้องให้เวลาแนนนี่ก่อน”
“ไม่ต้องก็ได้ ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น”
“งั้นก็ดีค่ะ ดื่มกันต่อนะคะ คืนนี้จะได้สนุก”
“แต่ไม่ค้างนะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า”
“ตามใจค่ะ”
ไม่นานหลังจากนั้นหนุ่มสาวที่เมาได้ที่ก็เริ่มแยกย้ายกันกลับไปต่อที่ห้อง เมื่อเวลาเหมาะสม งานเลี้ยงก็เลิกรา เธอและเพื่อนรักจึงเตรียมตัวกลับบ้าน
“ขอบใจพวกน้องมากนะ ที่มาช่วยงานพี่วันนี้ ทั้งน่ารัก ทั้งบริการดีเยี่ยม แขกชมกันทั้งงาน”
เจ้าของออแกไนซ์ยื่นเงินค่าจ้างให้กับอลิษาและมัสยา รวมทั้งพนักงานเสิร์ฟสาวสวยอีกสองสามคน
“โดยเฉพาะผู้ชายใช่ไหมคะพี่หวาน”
มัสยาเอ่ยแซวหวานซึ่งสนิทสนมกันดี เพราะได้ร่วมงานด้วยกันบ่อยครั้ง
“ย่ะ อ่ะนี่ อลิซ มีคนฝากมาให้”
หวานตอบมัสยาก่อนจะหันไปยื่นเงินกับกระดาษโน้ตใบเล็ก ๆ ให้กับอลิษา ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันกลับบ้านไปพักผ่อน ซึ่งดึกดื่นป่านนี้ไม่มีรถเมล์วิ่งอีกแล้ว อลิษาจึงต้องนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์คู่ใจของมัสยาเหมือนทุกที
“ฉันไปส่ง อะ ใส่หมวก”
อลิษารับหมวกกันน็อกมาใส่ แต่กลับต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเพื่อนรักที่สวมหมวกกันน็อกเสร็จแล้วเอาแต่มองหน้าเธอ ไม่ยอมขึ้นรถเสียที
“มีอะไร”
“กระดาษอะไร”
“กระดาษอะไรล่ะ”
“ก็ที่แกได้มาพร้อมทิปพิเศษเมื่อกี้อะ หนุ่มที่ไหนให้เบอร์หรือเปล่า”
อลิษาเกือบลืมไปแล้ว เธอยัดเงินและกระดาษแผ่นนั้นลงไปในกระเป๋ากางเกงทันทีที่รับมา
“ไม่รู้เหมือนกัน อะ เอาไปดู”
เธอควักมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนตัวเก่ง แล้วส่งให้เพื่อน แต่เมื่อมัสยาได้เห็นข้อความในกระดาษแผ่นนั้นแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ถ้าอยากได้ทิปเพิ่มก็โทรมา...”
ข้อความในกระดาษยังไม่น่าตกใจเท่าชื่อเจ้าของข้อความนั้น...คิริว
“คิริว เฮ้ย ยัยอลิซ คิริวทิ้งเบอร์โทรไว้ให้แก บอกให้แกโทรหาถ้าอยากได้ทิปเพิ่ม นี่หมอนั่นให้มาสองพัน”
อลิษารับธนบัตรสีเทาสองใบมาจากเพื่อน อ่านกระดาษโน้ตนั่นแล้วขยำมันทิ้งลงถังขยะทันที
“เฮ้ย นั่นเบอร์คิริวเลยนะ ทิ้งเหรอ”
“อืม เอาแค่เงินพอ กลับบ้านกันเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว”
“เออ ไป นั่งดี ๆ ล่ะ เดี๋ยวฉันจะพาแกซิ่งเอง”
มือใหญ่สอดเข้าล็อกท้ายทอย บังคับเธอแหงนหน้าขึ้นรับเรียวลิ้นที่เข้าไปกวาดต้อนความหวานในโพรงปากอย่างหิวกระหาย เมื่อพอใจแล้วก็ละริมฝีปากมาบดจูบกลีบปากนุ่มนิ่มที่เริ่มบวมเจ่อของเธออีกครั้งคนตัวบางหลับตาพริ้ม แหงนเงยใบหน้าขึ้นเมื่อเขาไล้ปลายจมูกพร้อมเม้มจูบไปทั่วแก้มสาว ลามเลยเข้ามาซุกไซ้ยังซอกคอขาว ๆ ซึ่งส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผิวเนื้อนางที่ผสมผสานกับโลชันทาผิวกลิ่นดอกไม้ กลายเป็นฟีโรโมนชั้นดีซึ่งเขาไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อนซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นสาวทำเอาเขาแทบคลั่ง จากค่อย ๆ พรมจูบดูดเม้มช้า ๆ จนทั่วทั้งลำคอนั้น กลับกลายเป็นซุกไซ้สูดดมกลิ่นเนื้อตัวเธออย่างบ้าคลั่งราวกับคนที่กำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ทั้งยังส่งเสียงครางฮือในลำคอบ่งบอกความพึงพอใจ ยิ่งทำให้สาวน้อยตัวสั่นสะท้านราวลูกนกชุดคุลมอาบน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวแสนเกะกะถูกถอดทิ้งกองลงบนพื้น ร่างบางลอยหวือขึ้นมาอยู่แนบอก เพียงชั่วอึดใจก็ลงไปนอนอยู่บนที่นอนนุ่ม โดยมีคนตัวโตที่เรือนร่างเปลือยเปล่าไม่ต่างกันคร่อมทับอยู่ดวงตาคมกริบวาบขึ้นเมื่อกวาดมองเรือนร่างบอบบางขาวผ่องตรงหน้า ผิวของเธอเนียนละเอียดขาวสว่างจนตาพร่า หน้าอกใหญ่โตเกินตัวไปมาก มากกว่า
“ริว กินข้าวลูก”คิริวเดินผิวปากอารมณ์ดีเข้ามาในห้องอาหาร เขาตรงเข้าหอมแก้มแม่ของตัวเองทั้งซ้ายและขวาอย่างประจบประแจง“ไม่กินแล้วครับแม่ ผมมีนัด คืนนี้ไม่กลับมานอนบ้านนะครับ”เขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนในห้องอาหารแล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับผิวปากอารมณ์ดีอีกครั้ง ในขณะที่คนเป็นป้ายิ้มกริ่มพึงพอใจเพราะคิดว่าหลานชายตัวเองมีนัดกับพิมพ์พลอย“เห็นไหม พี่บอกแล้ว ว่าตาริวยังไงก็ต้องชอบคนสวยแบบหนูพลอย เป็นไงล่ะ เจอกันแค่วันเดียวก็นัดกันออกไปเดตซะแล้ว”ช้องนางหันมองหน้ากับสามีตัวเองด้วยความแปลกใจ ท่าทางคิริวเมื่อคืนนี้ไม่เห็นจะเหมือนคนตกหลุมรักสาวสวยคนนั้นเลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้ทำไมอารมณ์ดีที่ได้ออกไปเดตเสียได้ วัยรุ่นนี่เข้าใจยากเสียจริง“ปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็ก ๆ เถอะค่ะพี่ช่อ”“จ้ะ ๆ แค่นี้พี่ก็สบายใจแล้ว ท่าทางคู่นี้จะเป็นไปได้สวย เฮ้อ ได้กลับบ้านเสียที ได้ข่าวว่าลูกยัยผกาเลิกกับแฟนอีกแล้ว เห็นไหม ถ้าเชื่อป้าของมันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องรัก ๆ เลิก ๆ กับคนที่ไม่เหมาะสมแบบนี้หรอก เดี๋ยวจะหาผู้หญิงใหม่ให้เสียหน่อย”“พี่ช่อคะ”“เงียบไปเลยนะเรา ไม่ต้องมาห้ามพี่ ที่ทำทั้งหมดก็เพราะรักและเป็นห่วงหลาน
“แต่ผมมีครับพ่อ ผมไม่ได้ชอบพลอย ไม่ได้อยากมีแฟน ไม่อยากมีคู่หมั้นและไม่อยากแต่งงาน ผมไม่ยินดีที่จะมีงานหมั้นเกิดขึ้น ขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่ต้องพูดตรง ๆ แต่ผมว่าแบบนี้มันดีกับพลอยมากกว่า พลอยจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับผม เพราะยังไงผมก็ไม่มีวันยอมหมั้นโดยที่ผมไม่ได้รู้สึกชอบหรอกนะครับ”พิทักษ์และกมลชนกอ้าปากค้าง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคิริวจะกล้าพูดออกมาตรง ๆ แบบนี้ คงเป็นเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบฝรั่งสินะในขณะที่พิมพ์พลอยทำได้แค่กำมือแน่นและกัดกรามข่มอารมณ์ไม่พอใจที่กำลังจะระเบิดออกมา เธอจะไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด อย่างไรผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น“คิริว ทำไมหลานเสียมารยาทแบบนี้”ช่อม่วงเอ็ดหลานชายเสียงดัง“ผมพูดความจริงครับป้า”“วันนี้ไม่ชอบไม่เป็นไร เพราะริวกับหนูพลอยเพิ่งเจอหน้ากันแค่ครั้งเดียว ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันเลย ป้าอยากให้ริวไปรับพลอยไปเที่ยว ไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ หาโอกาสใกล้ชิดกัน สักปีครึ่งปีเป็นไง พอถึงตอนนั้น ถ้าไม่ชอบ ค่อยมาว่ากันอีกที แต่ยังไงป้าก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ป้าขอยืนยันว่าริวต้องมีคู่ครองที่สมหน้าตา ในฐานะผู้บริหารที่วันหนึ่ง
“คิริว เรียนวิศวะโยธาหรือคะ”แม้จะรู้ประวัติของเขามาบ้างแล้ว แต่ก็ต้องหาเรื่องมาชวนคุย เมื่อเขาเอาแต่พาเธอเดินชมนกชมไม้ ทั้งที่ในมือกดโทรศัพท์ ไม่ได้ชายตามาแลเธอสักนิดเดียวจนรู้สึกอึดอัด“ครับ เรียกผมว่าริวเฉย ๆ ก็ได้นะ แล้วพลอยล่ะ”เขาต้องถามกลับเพื่อไม่ให้เสียมารยาท แต่ที่จริงเขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องของเธอเลยแม้แต่น้อย ถ้ารู้เอาไว้ก็คงไม่เสียหายอะไร“พลอยเรียนบริหารค่ะ เสียดายจังนะคะที่ไม่ได้เรียนมหาลัยเดียวกับริว ได้ข่าวว่าสาวบริหารที่นั่นสวยมากเลยหรือคะ”“ครับ สวยมาก ที่จริงผู้หญิงทุกคนก็มีความสวยในแบบของตัวเองอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะดึงเสน่ห์ของตัวเองมาใช้ได้มากกว่ากันเท่านั้นครับ”เธอยิ้มรับคำพูดของผู้ชายเจ้าชู้ที่มองว่าผู้หญิงทุกคนคือดอกไม้งามประดับโลก และเพียงแค่เด็ดดมครั้งสองครั้ง กลิ่นหอมเฉพาะตัวเหล่านั้นก็หมดไปเสียแล้วแต่ดอกไม้ราคาแพงอย่างเธอ อย่างไรเสียถ้าเขาเด็ดมาดอมดมแล้ว จะไม่มีวันทิ้งเธอได้ง่าย ๆ เหมือนดอกไม้ไร้ค่าพวกนั้นแน่นอน“แล้วริวชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะคะ”เธอเอ่ยถามพร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวน ถ้าเธอไม่ใช่คนที่ป้าเขาอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้ อย่างไรคืนนี้ก็ต้องมีคลานลงจากเ
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธแม่ได้ จึงต้องโทรไปรบกวนคนตัวบางที่กำลังจะเข้านอนหลังจากเพิ่งบอกแม่ว่าพรุ่งนี้เธอต้องไปรับงานพิเศษและต้องค้างคืนกับมัสยา“สวัสดีค่ะ”“ฉันเอง”เสียงทุ้มที่เริ่มจะคุ้นหูทำให้เธอแปลกใจ เขากลัวเธอจะเบี้ยวจนถึงขั้นโทรมาเช็กกันเลยหรือ“เอ่อ มีอะไรหรือเปล่า”เธอไม่กล้าเรียกชื่อเขา เพราะไม่อยากให้แม่ที่นอนหลับอยู่ด้านข้างรู้ว่าเธอคุยกับผู้ชาย ก่อนจะแอบเดินเลี่ยงออกมาคุยที่ระเบียงแทน“พรุ่งนี้ฉันขอยกเลิกนัดเราก่อนนะ ฉันมีธุระด่วน”“อ๋อ ได้สิ แล้วนายจะเอายังไงต่อ”“วันเสาร์เธอว่างไหม ฉันจะไปรับเธอที่หอแต่เช้า”“นายจะทำอย่างนั้นตั้งแต่เช้าเลยเหรอ”คนตัวบางเบิกตากว้าง เผลอโพล่งออกไปด้วยความตกใจ คนหื่นๆ อย่างเขาไม่รู้จักอายเลยหรือไง“ทำไมล่ะ ทำไม่ได้หรือไง”“เอ่อ คือ ไม่รู้สิ งั้นถ้านายมารับฉันแต่เช้า คงไม่ต้องค้างคืนใช่ไหม ฉันมีงานพิเศษตอนเย็นทุกวัน”“ร้านเดิมเหรอ”“ใช่”“เธอก็เปลี่ยนวันลาสิ จากวันศุกร์เป็นวันเสาร์”“แต่นายมารับฉันตั้งแต่เช้าแล้ว ยังต้องค้างคืนอีกเหรอ นายจะไม่พักบ้างหรือไง”“หึหึ พักไม่พักเดี๋ยวเธอก็รู้เอง ทำตามที่ฉันสั่งเถอะน่า ฉันเป็นลูกค้าวีไอ
“ไม่มีใครทำแบบนั้นหรอก คนจนก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด”“ฉันก็แค่เตือนด้วยความหวังดี”“งั้นก็ขอบคุณที่มาส่งนะ”“เดี๋ยวสิ พรุ่งนี้เธอคงไม่ลืมใช่ไหม ว่าเรามีนัดกัน”ดวงตาคมกริบวาบขึ้นในความมืด นัยน์ตาสีน้ำตาลลึกล้ำจนอ่านไม่ออก แต่มันกลับทำให้ใบหน้าสาวร้อนวูบวาบแดงซ่านไปจนถึงใบหู“เอ่อ ไม่ลืมหรอก นายจะให้ฉันไปเจอที่ไหนล่ะ โรงแรมอะไร”“ไปคอนโดของฉัน”“คอนโดเหรอ”“อืม สะดวกดี แล้วก็ไปยืนรอฉันที่ข้างตึกคณะแล้วกัน เลิกเรียนจะไปรับ”“ฉันไม่อยากให้ใครเห็น ฉันไปเองก็ได้”“รถติด เสียเวลา งั้นเธอมาหาฉันที่รถก็ได้ เหมือนวันนี้”“อืม ก็ได้”“อย่าลืมเอาเสื้อผ้าไปด้วยล่ะ ชุดนอนไม่ได้นอน มีไหม ฉันชอบแบบนั้น”“อะ เอ่อ ไม่มีหรอก”คำพูดหน้าไม่อายของเขาทำเอาเธอหูอื้อไปหมด จะให้เธอใส่ชุดนอนบางเบาจนมองทะลุปรุโปร่งต่อหน้าเขาได้อย่างไร เธอกะว่าคืนพรุ่งนี้จะขอร้องให้เขาปิดไฟ ซึ่งก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะยอมหรือเปล่า“ไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องใส่ก็ได้ แค่ผิวขาวๆ ของเธอก็คงทำให้ฉันมีอารมณ์มากแล้วล่ะ”ยังไม่ทันจะได้เห็นผิวขาวๆ ของเธอภายใต้ร่มผ้าเลยสักนิด แค่จินตนาการไปตามคำพูดของตัวเอง ลูกชายคนโตที่ขนาดเทียบเท่ามาตรฐา
Comments