Beranda / ระบบ / ซูเมี่ยวจิน / คืนแรกในอำเภอ

Share

คืนแรกในอำเภอ

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-21 17:00:53

ฉางเล่ยพาทุกคนไปถึงร้านค้าในเวลาไม่นาน ครั้งนี้เขานำรถเข้าไปจอดที่ลานด้านหลังร้านแทนการจอดด้านหน้าเหมือนก่อนหน้านี้

“แม่เข้าไปจัดเสื้อผ้าใส่ราวแขวนบนห้องก่อนเลยครับ ผมกับเมี่ยวจินจะขนของลงเองครับ พ่อน่าจะต่อเตียงในห้องแม่เสร็จแล้วล่ะครับ” ฉางเล่ยบอกแม่หลังลงจากรถ

“ตกลงจ๊ะ พวกลูกจัดการเถอะ แม่ไปช่วยพ่อก่อน” หลิวเอ้อหลิงยิ้มตอบ

เมื่อเห็นหลิวเอ้อหลิงเดินเข้าบ้านไป ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินก็นำสิ่งของที่วางทับอยู่บนโต๊ะและเก้าอี้ลงมาวางด้านล่างก่อน จากนั้นจึงนำโต๊ะเก้าอี้มาวางเอาไว้ที่ลานด้านหลังติดกับโกดังเก็บของ

“โต๊ะเก้าอี้พวกนี้เอาไปเก็บในห้องครัวเลยดีไหมคะ ยังมีพวกเครื่องครัวที่เอามาจากบ้านเก่าอีก” ซูเมี่ยวจินถาม

“ก็ดีนะครับ ช่วยกันขนไม่นานก็น่าจะจัดเสร็จ” ฉางเล่ยบอก

ทั้งสองช่วยกันขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้และเครื่องครัวหลายอย่างไปจัดวางเอาไว้ในห้องครัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

“มื้อเที่ยงนี้เราจะพาพ่อแม่ไปกินที่ร้านอาหารของรัฐหรือว่าซื้อเข้ามากินกันที่บ้านดีครับ” ฉางเล่ยมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าอีกไม่นานก็จะเที่ยงแล้ว

“คุณเอาเงินไปซื้อมาดีกว่าค่ะ เผื่อมื้อเย็นด้วยเลยนะคะ รอให้เรามีเตาแก๊สก่อนค่อยทำกินกันเองที่บ้าน” ซูเมี่ยวจินหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้สามีไปหนึ่งร้อยหยวนเพื่อให้เขาปั่นสามล้อที่ถูกขนมาก่อนหน้านี้ไปซื้ออาหาร

“ได้ครับ คุณเก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้รอก่อนนะ ผมไปซื้ออาหารไม่นานแล้วจะรีบกลับมาช่วยงานต่อครับ” ฉางเล่ยรับเงินมาและตอบภรรยา

ซูเมี่ยวจินพยักหน้ายิ้มรับคำ เธอเปิดประตูด้านข้างให้เขาปั่นสามล้อที่จอดอยู่ในลานออกไป จากนั้นจึงนำของที่วางกองเอาไว้ข้างรถเข้าไปในบ้านอย่างไม่รีบไม่ร้อน อย่างไรตอนนี้ยังมีเวลาอีกมากก่อนจะค่ำ แต่ถึงแม้จะมืดค่ำอย่างไร ร้านค้านี้ก็ยังมีไฟส่องสว่างและมีน้ำประปาให้อาบน้ำอย่างสบาย ๆ ซูเมี่ยวจินคิดว่าถึงแม้วันนี้จะเก็บของไม่เสร็จทั้งหมดก็ไม่เป็นอะไร เพราะร้านยังไม่เปิดขายของ เธออยากให้ทุกอย่างถูกเก็บเข้าที่เข้าทางเสียก่อนค่อยเปิดร้าน

บรรยากาศรอบ ๆ บริเวณบ้านใหม่นั้นเงียบสงบ เพราะเป็นเวลาที่ทุกคนไปทำงานจึงทำให้แถวนี้ไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ซูเมี่ยวจินชอบบรรยากาศแบบนี้มากที่สุด เธอไม่ชอบคนมาคอยสอดส่องบ้านคนอื่นเหมือนพวกชาวบ้านในหมู่บ้าน คนในอำเภอมักจะไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนอื่น ทำให้เธอสะดวกใจที่จะอาศัยอยู่ที่นี่มากกว่าหลายเท่าตัว

ฉางเล่ยที่ออกไปซื้ออาหารบอกข่าวการย้ายเข้ามาอยู่ในอำเภอให้ผู้จัดการเจี่ยงทราบระหว่างที่กำลังรออาหารที่สั่งไปหลายอย่าง

“ยินดีด้วย ๆ เปิดร้านเมื่อไหร่อย่าลืมมาส่งข่าวให้ผมทราบนะครับ ถึงผมจะเสียดายที่คุณกับภรรยาจะไม่ได้ล่าสัตว์มาขายให้ผมอีกก็เถอะ” ผู้จัดการเจี่ยงบอกพร้อมรอยยิ้ม

“ผู้จัดการไม่ต้องกังวลนะครับ ภรรยาผมบอกว่าถ้าเบื่อ ๆ ก็อาจชวนผมขึ้นเขาไปล่าสัตว์กันบ้างน่ะครับ” ฉางเล่ยบอกตามที่ซูเมี่ยวจินเคยคุยกับเขา

“โอ้! ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมเลยครับ” ผู้จัดการเจี่ยงดีใจที่อย่างน้อยก็ยังพอมีหวังจะได้เนื้อสัตว์ป่ามาขายในร้านอีก

ทั้งสองคุยกันต่อไม่นานนัก อาหารและข้าวที่ฉางเล่ยสั่งเอาไว้ก็ถูกนำมาส่งให้หลายถุงเลยทีเดียว เขามองเวลาแล้วเห็นว่าเที่ยงกว่าแล้วจึงบอกลาผู้จัดการเจี่ยงหลังจ่ายเงินทันที

เมื่อกลับถึงบ้านใหม่ ฉางเล่ยไม่เห็นซูเมี่ยวจินอยู่ที่ลาน เขาจึงเปิดประตูเข้าบ้านที่ลานด้านหลังเอง จากนั้นจึงนำอาหารที่ซื้อมาเข้าไปเก็บไว้บนโต๊ะในครัว เขามองดูของที่วางกองอยู่ก่อนหน้านี้ไม่มีแล้ว ฉางเล่ยจึงเดินเข้าบ้านไปเรียกทุกคนมากินข้าวเที่ยงกันก่อนแล้วค่อยจัดบ้านต่อ

ภายในร้านชั้นหนึ่งตอนนี้สิ่งของถูกขนไปแยกไว้ตามห้องต่าง ๆ เกือบหมดแล้วเพราะหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินช่วยกันขนขึ้นไป ฉางเล่ยเข้ามาเห็นของไม่กี่ชิ้นจึงถือติดมือขึ้นไปส่งให้พวกเขาที่ชั้นสองและชวนลงไปกินข้าว

“ตกลง ๆ ไปกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยมาจัดห้องต่อ พ่อต่อเตียงเสร็จหมดทุกห้องแล้ว ราวแขวนผ้าก็จัดการครบแล้วเหมือนกัน” ฉางชิงหยูปาดเหงื่อที่ผุดออกมาเพราะความร้อนในการทำงานก่อนหน้านี้

“เมี่ยวจิน ไปกินข้าวกันก่อนลูก” หลิวเอ้อหลิงตะโกนเรียกลูกสะใภ้ที่อยู่ในห้อง

“ไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะแม่” เสียงซูเมี่ยวจินตะโกนตอบและเดินออกมาจากห้องที่เธอกับฉางเล่ยเลือกเอาไว้ห่างจากห้องของพ่อแม่และน้องสาว ซึ่งติดอยู่กับห้องน้ำบนชั้นสองอีกฝั่งหนึ่ง

ฉางเล่ยเดินเอาของไปเก็บไว้แล้วจูงมือภรรยาไปกินข้าวที่ครัวด้านล่าง พ่อแม่ฉางก็เดินลงไปก่อนหน้าพวกเขาไม่นาน ระหว่างเดินลงไปด้านล่าง ฉางเล่ยเล่าให้ซูเมี่ยวจินเรื่องที่คุยกับผู้จัดการเจี่ยง

“รอให้ร้านเข้าที่เข้าทางก่อน เราค่อยไปขึ้นเขากันดูสักวันสองวันก็ได้นะคะ” ซูเมี่ยวจินเห็นด้วยที่สามีอยากขึ้นเขาไปล่าสัตว์บ้าง อย่างน้อยการล่าสัตว์ก็ทำให้พวกเธอมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินลงทุน

“ได้ครับ ไม่รู้ว่ากับดักสัตว์ที่ผมวางเอาไว้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างแล้ว” ฉางเล่ยยังคงเป็นห่วงว่ากับดักของเขาถ้ามีสัตว์ติดเข้า ตอนนี้พวกมันคงตายหมดแล้วกระมัง

“ไม่ต้องกังวลมากไปหรอกนะคะ ครั้งหน้าถ้าเราขึ้นเขาก็เอากับดักกลับมาก็ได้แล้ว จะได้ไม่มีสัตว์ตายเปล่าบนภูเขาอีกยังไงล่ะคะ” ซูเมี่ยวจินปลอบสามี

ฉางเล่ยพยักหน้ายิ้มรับคำภรรยา พวกเขามาถึงห้องครัวก็เห็นพ่อกับแม่นำจานชามออกมาจากกะละมังและกำลังนำอาหารใส่ถ้วยชามอยู่

“รีบนั่งเร็วเข้า เสียดายที่เราไม่มีเครื่องมือทำครัว ไม่อย่างนั้นลูกคงไม่ต้องซื้อข้าวมาด้วย ข้าวที่เมี่ยวจินซื้อมาตอนงานแต่งงานยังเหลืออีกเยอะเลย” หลิวเอ้อหลิงบ่น

“แม่ไม่ต้องคิดมากนะคะ ช่วงนี้เรากินแบบนี้กันไปก่อน ถ้าจัดร้านเสร็จเร็ว หนูกับฉางเล่ยจะไปซื้อมาจากมณฑลเองค่ะ ยังไงเราก็ยังต้องไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาขายอยู่แล้วนะคะ” ซูเมี่ยวจินนั่งลงบอก

“ได้จ๊ะ ว่าแต่ชั้นวางที่เราจะทำ ฉางเล่ยกับพ่อจะไปหาไม้เมื่อไหร่กันล่ะ”

“ผมกับพ่อจะขึ้นเขาไปตัดไม้มาพรุ่งนี้ครับแม่ ช่วงนี้แม่ก็ขายนาฬิการอไปก่อนนะครับ รอให้ชั้นวางเสร็จก่อน ผมกับเมี่ยวจินจะเข้ามณฑลไปซื้อของมาขาย” ฉางเล่ยบอกหลิวเอ้อหลิง

ทั้งสี่คนกินข้าวไปคุยกันไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน จากนั้นจึงแยกย้ายกันไปจัดของต่อหลังจากช่วยกันล้างจานชามที่กินเสร็จ อาหารยังเหลืออีกมากสำหรับกินในมื้อเย็น แม่ฉางจึงเก็บเอาไว้บนโต๊ะโดยนำฝาชีมาครอบไว้ก่อน

สี่โมงเย็น ฉางเซียงจูก็กลับมาถึงร้านค้า เธอเข้าประตูด้านข้างเพื่อเก็บจักรยานและเข้าไปหาพ่อแม่ในร้าน ตอนนี้ชั้นหนึ่งถูกทำความสะอาดหมดแล้วและมีตู้นาฬิกาตั้งอยู่ ส่วนนาฬิกาที่ซื้อมา พวกเขายังไม่ได้จัดวางในตู้ เพราะซูเมี่ยวจินยังไม่ได้เขียนราคาสำหรับคล้องติดกับนาฬิกา ประตูหน้าร้านก็ยังไม่เปิดเพื่อให้คนทั่วไปที่ผ่านไปมาเห็นว่าร้านนี้ขายอะไร รอให้เตรียมทุกอย่างเสร็จก่อน พวกเขาจึงจะเปิดร้านขายทีหลัง

“เซียงจู กินข้าวเสร็จก็ขึ้นไปจัดของในห้องลูกก่อนนะ พ่อกับพี่ใหญ่เอาของของลูกมาจากบ้านเก่าให้หมดแล้ว” ฉางชิงหยูบอกลูกสาวระหว่างกินข้าวเย็น

“ได้ค่ะพ่อ หนูจะรีบจัดของแล้วทำการบ้านอ่านหนังสือค่ะ” ฉางเซียงจูพยักหน้ายิ้มรับคำพ่อของเธอจนลักยิ้มบุ๋มลงไปทั้งสองข้างแก้ม

ทั้งห้าคนกินไปคุยไปถึงเรื่องบ้านใหม่หลังนี้ และแผนการทำงานในวันพรุ่งนี้ ซูเมี่ยวจินไม่กังวลเรื่องชั้นวางของ พรุ่งนี้เธอยังต้องเขียนราคานาฬิกาทุกเรือนแล้วแขวนไว้เพื่อให้พ่อกับแม่ขายตามราคาโดยไม่ขาดทุน อย่างน้อยถ้าขายได้เยอะก็จะทำให้ร้านค้ามีเงินหมุนเวียนเร็วขึ้น

คืนนั้นทุกคนต่างเข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ มีเพียงฉางเซียงจูที่ยังคงอ่านหนังสือต่อจนกระทั่งดึกจึงเข้านอน เธอรู้สึกว่าการย้ายมาอยู่ที่นี่ทำให้เธอไม่เหนื่อยจากการเดินทางมากนัก เรี่ยวแรงในการอ่านหนังสือของเธอจึงมากขึ้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากเสี่ยงโชค

    ฉางเล่ยพาซูเมี่ยวจินกลับมาถึงร้านในเวลาไม่นาน พ่อกับแม่ที่อยู่หน้าร้านได้ยินเสียงรถลูก ๆ มาถึงก็พากันเดินไปหาที่หลังร้าน ดีที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้า พวกเขาจึงเข้าไปสอบถามเรื่องการสอบใบขับขี่พร้อมรอยยิ้ม“ไปสอบมาเป็นยังไงกันบ้างลูก” หลิวเอ้อหลิงถาม“พวกเราได้ใบขับขี่มาแล้วค่ะแม่ พ่อกับแม่กินข้าวเที่ยงหรือยังคะ” ซูเมี่ยวจินตอบ“กินแล้วจ๊ะ พวกลูกกินข้าวกันเถอะ พ่อกับแม่จะไปเฝ้าหน้าร้านต่อ”“ใช่ ๆ รีบกินข้าวก่อนเถอะลูก เหนื่อยกันมาทั้งเช้าแล้ว” ฉางชิงหยูกล่าวเสริม“ได้ค่ะ/ครับ” ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยรับคำพร้อมกันฉางชิงหยูชวนภรรยากลับไปดูแลหน้าร้านต่อ ส่วนฉางเล่ยก็ตักอาหารใส่จานให้ซูเมี่ยวจินเหมือนกับทุกวัน“สามี ฉันอยากไปเมืองชายแดนเพื่อพนันหินค่ะ” ซูเมี่ยวจินที่รำคาญการรบเร้าของระบบเอ่ยบอกฉางเล่ย

  • ซูเมี่ยวจิน   ทำใบขับขี่

    “สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามเรื่องขั้นตอนการทำใบขับขี่หน่อยค่ะ” ซูเมี่ยวจินเดินเข้าไปสอบถามประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ด้านหน้า“คุณไปติดต่อเจ้าหน้าที่ช่องหนึ่งได้เลยค่ะ อย่าลืมนำบัตรประจำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ เขาจะได้เตรียมเอกสารการสอบให้พวกคุณ” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอก“ขอบคุณมากค่ะ” ซูเมี่ยวจินที่ยังไม่ปล่อยมือสามี เธอพาเขาไปยังช่องหนึ่งที่มีป้ายเขียนเอาไว้แล้วนำบัตรประจำตัวของเธอกับฉางเล่ยส่งให้เจ้าหน้าที่“พวกคุณมาจากหน่วยงานไหนครับ” เจ้าหน้าที่ดูบัตรประจำตัวแล้วสอบถามเพื่อใส่ข้อมูลลงในเอกสารการทำใบขับขี่“พวกเราไม่ได้ทำงานในหน่วยงานค่ะ แต่เปิดร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าตรงข้ามโรงงานจึงต้องใช้รถยนต์ในการไปซื้อสินค้ากลับมาขายที่ร้านค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอกตามตรง“อ้อ! ถ้าอย่างนั้นพวกคุณรอกันสักครู่นะครับ ระหว่างที่ผมกำลังลงทะเบียนให้ พวกคุณไปอ่านป้ายด้านโน้นได้เลยนะครับ

  • ซูเมี่ยวจิน   ส่งมอบสินค้า

    ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินช่วยกันยกของลงจากท้ายรถยนต์เข้าไปในร้าน พวกเขายังต้องติดชื่อเจ้าของสินค้าแต่ละอย่างเพื่อไม่ให้สับสนเวลาที่ลูกค้ามารับของและจ่ายเงินส่วนที่เหลือด้วย ทั้งสองจึงเร่งขนของลงให้หมดซูเมี่ยวจินส่งถุงนาฬิกาให้แม่สามีนำไปวางบนชั้นวางเพิ่ม เธอบอกราคาต้นทุนให้หลิวเอ้อหลิงแล้วและราคาขายยังคงขายที่ราคา 60 หยวนเท่าเดิม“ขอบใจมากนะลูก แม่จะรีบเอาใส่ตู้ไว้แล้วจะไปช่วยเตรียมของให้ลูกค้ากับลูกนะ”“ไม่เป็นไรค่ะแม่ แม่ดูร้านเถอะค่ะ อีกสักครู่เด็ก ๆ คงเลิกเรียนแล้ว หนูมีฉางเล่ยคอยช่วยอยู่ค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอกแม่สามี“ตกลงจ๊ะ แม่จะไปดูหน้าร้านก็แล้วกัน” หลิวเอ้อหลิงบอกลูกสะใภ้แล้วเดินไปที่ตู้ขายนาฬิกาด้านหน้าร้านซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำแม่สามี เธอกับฉางเล่ยวางของที่เหลือจากลูกค้าสั่งบนชั้นวางอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพากันมานั่งแยกของและเขียนชื่อลูกค้าติดไว้กับถุงใส่สินค้าที่จะมอบให้ลูกค้าแต่ละ

  • ซูเมี่ยวจิน   ขึ้นทะเบียนร้านค้า

    เมื่อพวกเขาไปถึงตลาดค้าส่ง ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยก็ตรงไปที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและซื้อของตามที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว ฉางเล่ยพาคนของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเอาของไปเก็บที่รถก่อน ส่วนซูเมี่ยวจินตรงไปที่ร้านขายนาฬิกาเพื่อซื้อของไปเพิ่มให้แม่ฉางฉางเล่ยหลังจากดูคนของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้านำสิ่งของขึ้นรถหมดแล้ว เขาก็เดินไปหาซูเมี่ยวจินที่ร้านนาฬิกาตามที่เธอบอกเอาไว้ พอดีกับที่ซูเมี่ยวจินกำลังจ่ายเงินค่านาฬิกาอยู่พอดี ฉางเล่ยจึงรับถุงสินค้าทั้งหมดมาถือไว้เอง“เราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ไปที่ที่ว่าการเพื่อทำใบขับขี่ต่อ” ซูเมี่ยวจินบอกฉางเล่ยระหว่างที่พวกเขากำลังจะออกจากร้านนาฬิกา“ตกลงครับ เอาตามที่คุณว่าก็ได้” ฉางเล่ยไม่เคยปฏิเสธเรื่องที่ซูเมี่ยวจินต้องการทำทั้งคู่ไปที่ร้านบะหมี่ไม่ไกลนักเพื่อความรวดเร็ว เมื่อเช้าพวกเขากินข้าวกันมาแล้วทำให้ไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่“ภรรยา คุณคิดว่าการสอบใบขับขี

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายดี

    ห้าโมงสิบนาที คนเริ่มเข้าร้านเยอะขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนสนใจวิทยุกับพัดลมของร้านที่ราคาไม่แพงอย่างที่พวกเขากังวล ฉางเล่ยที่หาสัญญาณช่องละครเจอแล้วจึงปลีกตัวมาช่วยซูเมี่ยวจินขายของและนำสินค้าใส่กล่องให้ลูกค้าที่ซื้อแล้วลูกค้าหลายคนมานั่งดูละครพร้อมกับพ่อฉางที่นำเก้าอี้มาวางเอาไว้ให้ลูกค้าใกล้ ๆ กับหน้าโต๊ะทีวี ฉางชิงหยูยังชวนหนุ่มสาวโรงงานพูดคุยไปด้วยอย่างไม่ถือตัว ทำให้หลายคนกล้าที่จะนั่งดูละครสนุก ๆ ที่พวกเขาไม่เคยดูมาก่อนลูกค้าที่ซื้อวิทยุไม่สนใจจะนั่งดูละครกับคนอื่น ๆ พวกเขารีบกลับบ้านไปเปิดวิทยุของตัวเองฟังแทนจะสะดวกกว่า ไม่นานนัก พัดลมและวิทยุก็ขายหมด ทำให้ลูกค้าหลายคนต้องสั่งจองและวางมัดจำสั่งสินค้าเอาไว้ก่อน ส่วนทีวีใช่ว่าจะไม่มีคนสนใจ เพียงแต่ราคาของมันสูงเกินไป คนส่วนใหญ่จึงสั่งจองวิทยุแทนซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยช่วยกันทำงาน โดยซูเมี่ยวจินจดชื่อและเงินมัดจำที่ลูกค้าจ่ายไว้ ส่วนฉางเล่ยก็เก็บเงินมัดจำให้ภรรยา กว่าทั้งสองคนจะรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเสร็จ ฟ้าก็มืดลงพร้อมกับที่ละครจ

  • ซูเมี่ยวจิน   ติดตั้งทีวี

    ฉางเล่ยกับพ่อที่ยกตู้เย็นไปไว้ในครัว พวกเขาลองเสียบปลั๊กดูก็พบว่าตู้เย็นนี้ดีจริง ๆ ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีบ่อน้ำแช่อาหารเหมือนบ้านเก่า แต่พอมีตู้เย็นเครื่องนี้แล้ว การเก็บอาหารสดก็ไม่มีปัญหาอีกต่อไป“ลูกสะใภ้ดีกับบ้านเราจริง ๆ นะอาเล่ย ต่อไปแกต้องดูแลเธอให้ดี ๆ ล่ะ” พ่อฉางบอกลูกชาย เขากลัวว่าฉางเล่ยจะไม่รู้วิธีดูแลภรรยา“ผมทราบครับพ่อ เธอดีกับพวกเรามาก ผมจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจแน่ครับ” ฉางเล่ยรับปากพ่อของเขาอย่างหนักแน่น“ลูกคิดได้ก็ดีแล้ว ไปดูทีวีที่เมี่ยวจินซื้อมากันเถอะ พ่อไม่รู้ว่าจะยกไปไว้ที่ไหน”“ผมว่าเราไปถามเมี่ยวจินก่อนดีกว่าไหมครับพ่อ เผื่อว่าเราต้องทำโต๊ะวางขึ้นมาสักตัวหนึ่งจะได้รีบทำกัน ไม้ยังเหลืออีกมาก” ฉางเล่ยบอก“ก็ดีเหมือนกันนะ ไปกันเถอะ” ฉางชิงหยูพยักหน้ารับคำลูกชายสองพ่อลูกออกจากห้องครัวพร้อมกันเพื่อสอบถามซูเมี่ยวจินซึ่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status