Share

ย้ายบ้าน

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-10-21 12:00:17

“อย่ามัวแต่คุยกันอยู่เลย ช่วยกันยกของเข้าไปไว้ในร้านก่อน จะได้กลับบ้าน” หลิวเอ้อหลิงบอกสองพ่อลูกที่คุยกันอย่างสนุกสนาน

“ค่ะแม่ หนูไปช่วยยกกระถางต้นไม้นะคะ” ฉางเซียงจูบอกแล้วเดินไปที่หลังรถ

20 นาทีต่อมา ของบนหลังรถก็ถูกนำไปเก็บเอาไว้ในร้าน นาฬิกาทั้งหมดที่ซื้อมานั้น ซูเมี่ยวจินเก็บไว้ในห้องนอนใหญ่เพื่อความปลอดภัย เธอให้ฉางเล่ยล็อกห้องเอาไว้ให้ดี จากนั้นทุกคนจึงกลับไปที่หมู่บ้าน โดยมีฉางเล่ยเป็นคนขับ เขาเห็นว่าซูเมี่ยวจินขับรถมาทั้งวันแล้วจึงกลัวเธอจะเหนื่อย

เมื่อกลับถึงบ้าน หลิวเอ้อหลิงทำเพียงอุ่นอาหารที่เหลือตอนเช้าให้ทุกคนกินเป็นมื้อค่ำเท่านั้น เพราะยังมีอาหารเหลืออยู่อีกมาก

“พ่อแม่ พรุ่งนี้เราทยอยขนของไปที่ร้านกันดีไหมคะ พ่อแม่กับน้องจะได้ค้างที่ร้านกันก่อน หนูกับฉางเล่ยจะกลับมานอนที่หมู่บ้านและขนของไปให้อีกที” ซูเมี่ยวจินเอ่ยขึ้นระหว่างที่กำลังกินอาหาร

“อืม… จริงด้วยสินะ ตอนนี้ไม่มีคนเฝ้าที่ร้าน พ่อกับแม่ไม่มีปัญหาจ๊ะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อิดออดที่จะต้องย้ายไปอยู่ที่ร้าน

“ขอบคุณมากนะคะ เตียงนอนเราต้องซื้อใหม่กันหรือเปล่าคะ” ซูเมี่ยวจินนึกได้ว่าพวกเธอยังไม่มีเตียงใหม่ที่ร้านค้าเลย

“ไม่จำเป็นหรอกลูก พ่อกับฉางเล่ยจะแยกเตียงเก่าที่บ้านแล้วยกขึ้นรถให้พรุ่งนี้นะ” ฉางชิงหยูไม่อยากให้ลูกสะใภ้เสียเงินอีก

“ใช่ครับ เตียงที่บ้านเรายังแข็งแรงดีอยู่ ย้ายของไปก็พอแล้วล่ะครับ” ฉางเล่ยบอก

“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงค่ะ พรุ่งนี้คุณกับพ่อขนของใหญ่ ๆ ไปที่ร้านก่อน ฉันกับแม่จะจัดของรอที่บ้านนะคะ น้องสาวยังต้องไปเรียนอยู่ ฉันกับแม่จะเก็บของให้น้องเอง”

หลังกินอาหารกันเสร็จ ทุกคนผลัดกันอาบน้ำและเข้านอนอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้พวกเขายังต้องย้ายของในบ้านไปยังร้านค้ากันอยู่ ถ้าหากว่าสามารถย้ายหมดได้ในวันเดียว ทุกคนในครอบครัวก็จะได้อยู่ที่ร้านค้าด้วยกัน

หลังอาหารเช้าวันต่อมา ฉางเซียงจูไปเรียนก่อนหน้าสักพักแล้ว คนที่เหลือในบ้านต่างช่วยกันเก็บข้าวของรอขนขึ้นรถ ตอนนี้ฉางเล่ยกับพ่อฉางกำลังช่วยกันแยกเตียงในห้องนอนของพ่อแม่และน้องสาวออกเพื่อขนขึ้นรถกันอยู่ ที่นอนใหม่ซึ่งเพิ่งซื้อมาก็จะถูกขนขึ้นรถไปก่อนด้วยเช่นกัน

ซูเมี่ยวจินกับหลิวเอ้อหลิงช่วยกันเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวให้ฉางเซียงจูอยู่ ในห้องของน้องสาวส่วนมากจะเป็นหนังสือเรียน พวกเธอจึงหาเชือกมามัดเอาไว้เพื่อให้สามารถยกได้สะดวก พวกเขาไม่มีกล่องใส่ของจึงต้องทำเช่นนี้

สองชั่วโมงต่อมา ตอนนี้ด้านหลังรถเต็มไปด้วยสิ่งของที่พวกเขาช่วยกันขนขึ้นรถเพื่อให้ฉางเล่ยกับพ่อฉางนำไปเก็บไว้ที่ร้านก่อน ส่วนกการจัดเรียงของพวกนี้จะทำหลังจากฉางเล่ยกลับมารับซูเมี่ยวจินและแม่ฉางหลังจากนี้

“ดีที่ของในบ้านเราไม่เยอะ แม่ว่าวันนี้คงน่าจะขนหมดแล้วล่ะ” หลิวเอ้อหลิงคาดเดาเมื่อเห็นว่าของมากกว่าครึ่งในบ้านถูกขนขึ้นรถหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่จำเป็นมากนักและเครื่องครัวอีกนิดหน่อย

“แม่กับเมี่ยวจินรอที่บ้านก่อนนะครับ ผมกับพ่อจะรีบขนของเก็บไว้ที่ร้านก่อนแล้วจะกลับมารับไปที่ร้านด้วยกัน” ฉางเล่ยเองก็อยากย้ายของทั้งหมดให้เสร็จในวันเดียว ใช่ว่าเขาไม่เห็นชาวบ้านที่แอบมาด้อม ๆ มอง ๆ พวกเขาซึ่งยุ่งอยู่กับการขนของขึ้นรถก่อนหน้านี้ เขาจึงไม่อยากกลับมานอนที่หมู่บ้านอีก

หลิวเอ้อหลิงและซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำฉางเล่ย พวกเธอรอให้เขาเคลื่อนรถออกจากบ้านแล้วจึงปิดประตูรั้วเอาไว้ ป้องกันพวกชาวบ้านจะมาสอดรู้สอดเห็น เรื่องที่พวกเขาย้ายบ้านนั้น ฉางชิงหยูปั่นสามล้อไปบอกผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่เช้าแล้ว ทำให้พวกเขาไม่อยากสนใจว่าชาวบ้านคนอื่นจะอยากรู้อยากเห็นมากแค่ไหน

“เมี่ยวจินมานั่งพักก่อนเถอะลูก ของในบ้านส่วนใหญ่ก็ถูกขนไปหมดแล้ว กว่าพ่อกับฉางเล่ยจะกลับมาก็คงอีกพักใหญ่” หลิวเอ้อหลิงกวักมือเรียกลูกสะใภ้

“ตกลงค่ะแม่ หนูคิดว่าวันนี้เราน่าจะย้ายของหมดนะคะ” ซูเมี่ยวจินเดินไปรินน้ำให้แม่สามีและตัวเองแล้วนั่งลงที่โต๊ะกลางบ้านซึ่งยังไม่ได้ขนไป

“แม่ก็คิดเหมือนลูกจ๊ะ หลังจากนี้เราจะได้อยู่ที่ร้านด้วยกันเลย พวกลูกจะได้ไม่ต้องมาฟังเสียงชาวบ้านให้รำคาญใจ” หลิวเอ้อหลิงรู้ดีว่าซูเมี่ยวจินไม่ค่อยชอบนิสัยของชาวบ้านที่นี่นัก ถึงแม้ว่าตัวปัญหาจะยังไม่ออกจากคุกก็ตามที เธอก็ไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องมาเสียสุขภาพจิตเพราะคนอื่น

“หนูกับฉางเล่ยไม่สนใจพวกเขาหรอกค่ะแม่ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ” ซูเมี่ยวจินยิ้มบางเมื่อได้ยินว่าแม่เป็นห่วงพวกเธอ

“เฮ้อ! ได้ยินลูกพูดแบบนี้แม่ก็สบายใจหน่อย ว่าแต่เครื่องครัวเราที่ร้านยังไม่มีเลยนะลูก เราต้องไปหาซื้อเตามาทำอาหารกันหรือเปล่าจ๊ะ” หลิวเอ้อหลิงนึกเรื่องสำคัญได้ เพราะเตาที่บ้านเก่าเป็นเตาดินเผาที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สร้างบ้านดินหลังนี้

“คงต้องซื้อใหม่ค่ะแม่ ไม่รู้ว่าในอำเภอมีร้านขายเตาแก๊สหรือเปล่า แม่จะได้ไม่ต้องใช้เตาถ่านให้ลำบากเวลาทำอาหาร” ซูเมี่ยวจินอยากได้เตาแก๊สมากกว่าเตาถ่าน ยังไงถ้าซื้อเตาถ่านมาก็ต้องเสียค่าซื้อถ่านอีก เธอคิดว่าการใช้เตาแก๊สสะดวกกว่า

“แต่แม่ใช้เตาแก๊สไม่เป็นนะลูก” หลิวเอ้อหลิงบอกตามตรง

“เตาแก๊สใช้ไม่ยากค่ะแม่ หนูจะสอนเองนะคะ ครัวด้านหลังกว้างมาก หนูคิดว่าถ้าซื้อเตาแก๊สสองหัวมาวางกับถังแก๊สก็ใช้ได้แล้ว”

“ตกลงจ๊ะ แม่ตามใจลูก แต่ช่วงแรกที่ย้ายเข้าไปเราคงต้องซื้ออาหารจากข้างนอกมากินกันก่อนล่ะนะ”

แม่สามีกับลูกสะใภ้ยังคงปรึกษากันเรื่องครัวไปเรื่อย ๆ รอเวลาที่ฉางเล่ยกับพ่อฉางจะกลับมาจากอำเภอ ในบ้านตอนนี้ไม่มีอะไรต้องเก็บมากนัก เพราะของใหญ่อย่างพวกเตียงและที่นอนถูกขนไปหมดแล้ว รวมทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าซึ่งที่บ้านไม่ได้มีเสื้อผ้ามากนักแต่แรก ทำให้รอบแรกที่ขนไปก็เกือบจะเป็นของทั้งหมดในบ้านแล้ว

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฉางเล่ยก็กลับมาถึงบ้าน พ่อของเขาบอกให้เขามารับแม่กับภรรยาคนเดียว เพราะพ่อจะต่อเตียงหลังจากเขาช่วยยกไม้ขึ้นไปในห้องทั้งสามบนชั้นสองของร้านก่อนหน้านี้ ส่วนของอื่น ๆ ถูกวางไว้ที่ชั้นหนึ่ง รอให้ทุกคนไปช่วยกันนำของไปจัดเข้าห้องของตัวเองทีหลัง

“คุณมาเร็วจังค่ะ เหลือของอีกไม่กี่อย่างแล้ว” ซูเมี่ยวจินที่ไปเปิดประตูรั้วทักสามี

“พ่อกำลังต่อเตียงรอที่ร้านอยู่น่ะครับ ผมเลยมารับคุณกับแม่ก่อน จะได้ไปช่วยกันจัดของที่ร้านเลย” ฉางเล่ยบอก

“ตกลงค่ะ เราเข้าไปขนของมาขึ้นรถกันดีกว่า ปล่อยให้แม่นั่งรอที่แคร่หน้าบ้านก็พอแล้วนะคะ ฉันไม่อยากให้แม่เหนื่อย” ซูเมี่ยวจินบอกฉางเล่ย

“ได้ครับ ให้แม่พักสักหน่อยก็ดี” ฉางเล่ยพยักหน้าเห็นด้วย

สองสามีภรรยาช่วยกันยกโต๊ะกับเก้าอี้ขึ้นรถก่อน จากนั้นจึงขนของที่เหลือขึ้นไปบนรถต่อโดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ

“พวกลูกออกไปรอหน้าบ้านก่อน แม่จะล็อกบ้านให้ดีแล้วจะตามไปขึ้นรถนะ” หลิวเอ้อหลิงกลัวว่าลูก ๆ จะปิดบ้านเก่าไม่ดีแล้วมีคนแอบเข้ามา เธอจึงอาสาตรวจสอบและปิดบ้านด้วยตัวเอง

“ตกลงค่ะแม่ พวกเราจะรอหน้าบ้านนะคะ” ซูเมี่ยวจินยิ้มบางตอบ

หลิวเอ้อหลิงใช้เวลาไม่นานก็ตรวจสอบและล็อกบ้านเก่าหลังเล็กที่อยู่มายี่สิบกว่าปีเสร็จเรียบร้อย ในใจเธอรู้สึกวูบโหวงเล็กน้อยที่ต้องจากบ้านเก่าไป แต่ในเมื่อนี่เป็นการตัดสินใจร่วมกันของครอบครัว เธอก็ตั้งใจจะช่วยลูกสะใภ้หาเงินด้วยการค้าขายให้ดีที่สุด

ซูเมี่ยวจินบอกแม่ให้มานั่งข้างเธอ ถึงแม้จะเบียดกันสักหน่อยแต่ก็ดีกว่าให้แม่ไปนั่งด้านหลังกระบะคนเดียว ฉางเล่ยเปิดเครื่องปรับอากาศในรถเอาไว้ก่อนหน้าตามคำสั่งภรรยา เขารู้ดีกว่าอากาศข้างนอกเริ่มร้อนแล้ว เมื่อเห็นว่าแม่และภรรยานั่งกันเรียบร้อยดี ฉางเล่ยก็ค่อย ๆ ขับรถออกจากหน้าบ้านไป ชาวบ้านที่ไม่ได้ทำงานแลกแต้มต่างยืนดูรถยนต์ของบ้านฉางจากไป พวกเขาไปถามผู้ใหญ่บ้านมาก่อนหน้านี้ ทำให้รู้ว่าคนบ้านฉางจะย้ายเข้าไปทำมาหากินที่อำเภอ ถึงพวกเขาจะไม่รู้ว่าบ้านฉางจะทำอะไรในอำเภอ แต่จากความร่ำรวยของลูกสะใภ้คนใหม่ พ่อแม่ฉางก็ไม่น่าจะลำบากอะไรถ้าอาศัยอยู่ในอำเภอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซูเมี่ยวจิน   ล้ำค่า

    ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินไปถึงบ้านเก่าในเวลาเพียงสิบนาที ตอนนี้บ้านอื่นยังไม่มีใครตื่นขึ้นมาเลย ทำให้พวกเขารีบนำรถเข้าไปจอดในบ้านและสะพายตะกร้าเดินขึ้นเขาไปในทันที โดยมีฉางเล่ยคอยส่องไฟฉายให้กับซูเมี่ยวจินที่เดินข้างกันครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองที่เร่งรีบขึ้นเขาก็ไปถึงทางเข้าป่างูพิษ ตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่าง ฉางเล่ยจึงบอกให้ภรรยาอย่าเดินห่างจากเขา เพราะกลัวว่างูพิษจะพุ่งเข้ามาทำร้ายเธออย่างไม่คาดคิด“ฉันรู้แล้วค่ะ คุณก็ระวังตัวด้วย ฉันมีหน้าไม้อยู่ คุณอย่ากังวลเลย” ซูเมี่ยวจินเองก็เป็นห่วงฉางเล่ยที่มือหนึ่งถือไฟฉาย อีกมือถือมีดเพื่อเอาไว้จัดการเหล่างูพิษในป่า“ตกลงครับ ผมจะระวัง” ฉางเล่ยรับคำภรรยาและค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างไม่เร่งรีบ เขารู้ดีว่าป่านี้อันตรายมากแค่ไหนซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยฆ่างูไปจำนวนมากไม่ต่างจากครั้งแรกที่มา ยิ่งตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างด้วยแล้ว เหล่างูพิษกลับมีจำนวนมากกว่าเดิมอีกเท่าตัว ยังดีที่ทั้งสองคนมีสัญชาตญาณในการต่อสู้

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากเสี่ยงโชค

    ฉางเล่ยพาซูเมี่ยวจินกลับมาถึงร้านในเวลาไม่นาน พ่อกับแม่ที่อยู่หน้าร้านได้ยินเสียงรถลูก ๆ มาถึงก็พากันเดินไปหาที่หลังร้าน ดีที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้า พวกเขาจึงเข้าไปสอบถามเรื่องการสอบใบขับขี่พร้อมรอยยิ้ม“ไปสอบมาเป็นยังไงกันบ้างลูก” หลิวเอ้อหลิงถาม“พวกเราได้ใบขับขี่มาแล้วค่ะแม่ พ่อกับแม่กินข้าวเที่ยงหรือยังคะ” ซูเมี่ยวจินตอบ“กินแล้วจ๊ะ พวกลูกกินข้าวกันเถอะ พ่อกับแม่จะไปเฝ้าหน้าร้านต่อ”“ใช่ ๆ รีบกินข้าวก่อนเถอะลูก เหนื่อยกันมาทั้งเช้าแล้ว” ฉางชิงหยูกล่าวเสริม“ได้ค่ะ/ครับ” ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยรับคำพร้อมกันฉางชิงหยูชวนภรรยากลับไปดูแลหน้าร้านต่อ ส่วนฉางเล่ยก็ตักอาหารใส่จานให้ซูเมี่ยวจินเหมือนกับทุกวัน“สามี ฉันอยากไปเมืองชายแดนเพื่อพนันหินค่ะ” ซูเมี่ยวจินที่รำคาญการรบเร้าของระบบเอ่ยบอกฉางเล่ย

  • ซูเมี่ยวจิน   ทำใบขับขี่

    “สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามเรื่องขั้นตอนการทำใบขับขี่หน่อยค่ะ” ซูเมี่ยวจินเดินเข้าไปสอบถามประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ด้านหน้า“คุณไปติดต่อเจ้าหน้าที่ช่องหนึ่งได้เลยค่ะ อย่าลืมนำบัตรประจำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ เขาจะได้เตรียมเอกสารการสอบให้พวกคุณ” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอก“ขอบคุณมากค่ะ” ซูเมี่ยวจินที่ยังไม่ปล่อยมือสามี เธอพาเขาไปยังช่องหนึ่งที่มีป้ายเขียนเอาไว้แล้วนำบัตรประจำตัวของเธอกับฉางเล่ยส่งให้เจ้าหน้าที่“พวกคุณมาจากหน่วยงานไหนครับ” เจ้าหน้าที่ดูบัตรประจำตัวแล้วสอบถามเพื่อใส่ข้อมูลลงในเอกสารการทำใบขับขี่“พวกเราไม่ได้ทำงานในหน่วยงานค่ะ แต่เปิดร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าตรงข้ามโรงงานจึงต้องใช้รถยนต์ในการไปซื้อสินค้ากลับมาขายที่ร้านค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอกตามตรง“อ้อ! ถ้าอย่างนั้นพวกคุณรอกันสักครู่นะครับ ระหว่างที่ผมกำลังลงทะเบียนให้ พวกคุณไปอ่านป้ายด้านโน้นได้เลยนะครับ

  • ซูเมี่ยวจิน   ส่งมอบสินค้า

    ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินช่วยกันยกของลงจากท้ายรถยนต์เข้าไปในร้าน พวกเขายังต้องติดชื่อเจ้าของสินค้าแต่ละอย่างเพื่อไม่ให้สับสนเวลาที่ลูกค้ามารับของและจ่ายเงินส่วนที่เหลือด้วย ทั้งสองจึงเร่งขนของลงให้หมดซูเมี่ยวจินส่งถุงนาฬิกาให้แม่สามีนำไปวางบนชั้นวางเพิ่ม เธอบอกราคาต้นทุนให้หลิวเอ้อหลิงแล้วและราคาขายยังคงขายที่ราคา 60 หยวนเท่าเดิม“ขอบใจมากนะลูก แม่จะรีบเอาใส่ตู้ไว้แล้วจะไปช่วยเตรียมของให้ลูกค้ากับลูกนะ”“ไม่เป็นไรค่ะแม่ แม่ดูร้านเถอะค่ะ อีกสักครู่เด็ก ๆ คงเลิกเรียนแล้ว หนูมีฉางเล่ยคอยช่วยอยู่ค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอกแม่สามี“ตกลงจ๊ะ แม่จะไปดูหน้าร้านก็แล้วกัน” หลิวเอ้อหลิงบอกลูกสะใภ้แล้วเดินไปที่ตู้ขายนาฬิกาด้านหน้าร้านซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำแม่สามี เธอกับฉางเล่ยวางของที่เหลือจากลูกค้าสั่งบนชั้นวางอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพากันมานั่งแยกของและเขียนชื่อลูกค้าติดไว้กับถุงใส่สินค้าที่จะมอบให้ลูกค้าแต่ละ

  • ซูเมี่ยวจิน   ขึ้นทะเบียนร้านค้า

    เมื่อพวกเขาไปถึงตลาดค้าส่ง ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยก็ตรงไปที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและซื้อของตามที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว ฉางเล่ยพาคนของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเอาของไปเก็บที่รถก่อน ส่วนซูเมี่ยวจินตรงไปที่ร้านขายนาฬิกาเพื่อซื้อของไปเพิ่มให้แม่ฉางฉางเล่ยหลังจากดูคนของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้านำสิ่งของขึ้นรถหมดแล้ว เขาก็เดินไปหาซูเมี่ยวจินที่ร้านนาฬิกาตามที่เธอบอกเอาไว้ พอดีกับที่ซูเมี่ยวจินกำลังจ่ายเงินค่านาฬิกาอยู่พอดี ฉางเล่ยจึงรับถุงสินค้าทั้งหมดมาถือไว้เอง“เราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ไปที่ที่ว่าการเพื่อทำใบขับขี่ต่อ” ซูเมี่ยวจินบอกฉางเล่ยระหว่างที่พวกเขากำลังจะออกจากร้านนาฬิกา“ตกลงครับ เอาตามที่คุณว่าก็ได้” ฉางเล่ยไม่เคยปฏิเสธเรื่องที่ซูเมี่ยวจินต้องการทำทั้งคู่ไปที่ร้านบะหมี่ไม่ไกลนักเพื่อความรวดเร็ว เมื่อเช้าพวกเขากินข้าวกันมาแล้วทำให้ไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่“ภรรยา คุณคิดว่าการสอบใบขับขี

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายดี

    ห้าโมงสิบนาที คนเริ่มเข้าร้านเยอะขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนสนใจวิทยุกับพัดลมของร้านที่ราคาไม่แพงอย่างที่พวกเขากังวล ฉางเล่ยที่หาสัญญาณช่องละครเจอแล้วจึงปลีกตัวมาช่วยซูเมี่ยวจินขายของและนำสินค้าใส่กล่องให้ลูกค้าที่ซื้อแล้วลูกค้าหลายคนมานั่งดูละครพร้อมกับพ่อฉางที่นำเก้าอี้มาวางเอาไว้ให้ลูกค้าใกล้ ๆ กับหน้าโต๊ะทีวี ฉางชิงหยูยังชวนหนุ่มสาวโรงงานพูดคุยไปด้วยอย่างไม่ถือตัว ทำให้หลายคนกล้าที่จะนั่งดูละครสนุก ๆ ที่พวกเขาไม่เคยดูมาก่อนลูกค้าที่ซื้อวิทยุไม่สนใจจะนั่งดูละครกับคนอื่น ๆ พวกเขารีบกลับบ้านไปเปิดวิทยุของตัวเองฟังแทนจะสะดวกกว่า ไม่นานนัก พัดลมและวิทยุก็ขายหมด ทำให้ลูกค้าหลายคนต้องสั่งจองและวางมัดจำสั่งสินค้าเอาไว้ก่อน ส่วนทีวีใช่ว่าจะไม่มีคนสนใจ เพียงแต่ราคาของมันสูงเกินไป คนส่วนใหญ่จึงสั่งจองวิทยุแทนซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยช่วยกันทำงาน โดยซูเมี่ยวจินจดชื่อและเงินมัดจำที่ลูกค้าจ่ายไว้ ส่วนฉางเล่ยก็เก็บเงินมัดจำให้ภรรยา กว่าทั้งสองคนจะรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเสร็จ ฟ้าก็มืดลงพร้อมกับที่ละครจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status