บทที่3.เป็นการพบเจอของโชคชะตาหรือความซวย!!
อาจจะเป็นเพราะปูชิดาต้องสำรองเงินไว้ให้บุตรสาวมากกว่านี้อีกสักหน่อย เธอจึงยอมรับการจ้างวานของเพื่อน โดยไร้ข้อแม้ การทำงานค่าเวลา กับการต้องมานั่งคิดสตางค์แทนเจ้าหล่อน สาเหตุเพราะสามีของเธอก่อเรื่อง จนต้องขึ้นโรงพัก...เป็นคดีความที่ต้องเจรจา รำเพยจึงจำใจลางาน...
“นะชิดา แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง นึกว่าช่วยรำเพย เธอก็ได้สตางค์ด้วย”
เสียงเพื่อนคะยั้นคะยอ แถมควักสตางค์ยัดใส่มือเธอเสียอีก เป็นการบีบบังคับแบบอ้อมๆ
“แล้วคนที่ทำงานของรำเพยจะไม่ว่าเอาเหรอ?”
หญิงสาวติงเสียงอ่อนๆ กำธนบัตรนั่นจนแน่น แม้จะไม่เยอะ แต่หากสะสมไว้มันก็มากพอที่ทำให้ตัวเองอุ่นใจเพิ่มขึ้น
“ฉันโทร. ไปบอกพี่เก่งเขาแล้ว เขาไม่มีปัญหา ขอแค่มีคนทำแทน”
เจ้าหล่อนรีบร้อนตอบ สีหน้าทุกข์ร้อนและหากปูชิดาตกปากรับคำ เธอจะรีบแจ้นไปดูสามี
“ก็ได้ๆ...แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ”
ช่วงเวลาที่ทำงานของรำเพย มันดึกเสียจนเธอกลัวตัวเองไม่ปลอดภัย กว่าจะกลับถึงบ้านได้ เธอก็แทบจะคลานเลยทีเดียว เพราะอยู่ไกลไปคนละฝั่ง...
“ขอบใจนะ ขอบใจจริงๆ รำเพยไปล่ะ”
เพื่อนสาวเดินตัวปลิวจากไป คงเป็นเพราะกำลังเป็นห่วงสามี ปูชิดาเลยได้แต่ถอนใจเฮือกๆ ลงมือเก็บของส่วนตัวใส่กระเป๋าและเดินทางไปทำงานแทนเพื่อน ด้วยความรู้สึกหน่วงๆ
รถยนต์ที่เธอโดยสารคงไม่พ้น รถบริการของ ขสมก. มีที่นั่งว่างหลายที่เพราะเวลานี้คนอื่นคงหลับสนิทบนที่นอนอุ่นๆ เที่ยงคืน...สายลมเย็นๆ จากด้านนอกโชยมาปะทะใบหน้า พัดพาความร้อนที่กร่ำกรายมาใกล้ๆ ให้สลายไป ปูชิดาล้วงตลับแป้งในกระเป๋าสะพายขึ้นมาส่องดูความเรียบร้อยของตัวเอง...ผิวหน้าเธอมันย่อง...จนต้องไล้แป้งบางๆ กลบร่องรอยเหนื่อยล้า หญิงสาวถอนใจอีกครั้ง เธอเหนื่อยล้าเต็มทนกับชีวิตที่ต้องดิ้นรน หากไม่ประสบเองไม่มีทางรู้ จากคนที่เคยสะดวกสบาย แม้จะไม่ฟู่ฟ่าเท่าไร แต่ก็ไม่ต้องกระเสือกกระสน...ไม่เคยต้องปวดหัวเรื่องเงินทอง วันนี้ภาระอันยิ่งใหญ่นั้นปูชิดาแบกไว้บนสองบ่า ไหนจะนมแผ้วที่ฝ่าฟันมาพร้อมกับตัวเอง ไหนจะอีกหนึ่งชีวิตที่ปูชิดาให้สัญญากับตัวเองเป็นแม่นมั่น เธอจะทำทุกอย่างให้เขามีอนาคตที่ดี ด้วยสองมือตัวเอง
ป้ายไฟสว่างไสว แสงไฟวิบวับตรงหน้า การเดินทางของเธอสิ้นสุดลงสักที
หญิงสาวเดินก้มหน้า เธอมองแค่ทางเท้า พยายามไม่สนใจสายตาของคนรอบข้าง เมื่อสถานที่ที่เธอกำลังเดินเข้าไป ไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนอยากมา...มันเป็นสถานบริการ หากเป็นผู้มาใช้บริการก็คงเดินเชิดหน้าได้ แต่นี่เธอเข้ามาในฐานะพนักงาน เธอไม่อยากถูกเหมารวมเช่นเดียวกับผู้หญิงหลายคนที่ทำงานอยู่ในสถานที่นี้
“ตรงโต๊ะนั้นจ้ะ ตามสบายเลยรำเพยโทร. บอกพี่ไว้แล้ว”
หนุ่มใหญ่หน้าตาภูมิฐาน เขาแต่งตัวดีด้วยสูทสีทึมๆ เรียบกริบ
เก่งแอบกลืนน้ำลาย...คนมาทำงานแทนรำเพย หน้าตาดีไม่ใช่เล่น!! หากสามารถชักจูงหล่อนให้ทำงานในสถานที่นี้ได้ เขาจะได้มีโอกาสแทะโลม เมื่อรำเพยเคยเปรยๆ ให้ฟัง ผู้หญิงตรงหน้ามีตำหนิ หล่อนมีลูกติด แต่...ไม่มีสามี
“มีอะไรไม่เข้าใจเรียกพี่ได้นะ...พี่อยู่แถวๆ นี้แหละ”
เก่งเปรยบอกอีกครั้ง หากหล่อนเดือดร้อนจริงอย่างที่รำเพยบอก เขาจะหาโอกาสกล่อม เพราะสาวๆ ที่ทำงานที่นี่ ได้เงินเป็นกอบเป็นกำทุกคน หากใจถึง!!
“ค่ะพี่”
ปูชิดารับคำ เธอสนใจงานตรงหน้า ไม่ใช่เรื่องอยากเมื่อเธอชินกับการอยู่หน้าเค้าน์เตอร์ หญิงสาวทำงานเพลินๆ จนกระทั่ง...
“พี่ๆ ลูกค้าจะรูดบัตร...” การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต เป็นเรื่องปกติ แต่ครั้งนี้เหมือนจะไม่ปกติเท่าไร
“เอาบัตรมาสิจ้ะ เดี๋ยวจัดการให้เอง...” เธอเงยหน้าขึ้น พร้อมกับยิ้มอ่อนๆ อธิบายเสียงเรียบ
“เปล่า...ยังไม่เช็คบิล จะรูดจ่ายค่าเปิดขวด...เขาไม่ได้พกเงินสด...” เศรษฐีหลายคนไม่มีเงินสดในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสตางค์ของพวกเขามีแต่บัตรเครดิต
“อ๋อ!! แล้วต้องทำยังไงล่ะ เพิ่งมาทำวันแรก ไม่รู้วิธีจ้ะ?” เธอตอบตามประสาซื่อ เหลียวมองหาเก่ง แต่เขากำลังยุ่งๆ เลยไม่อยากกวน
“เอาที่รูดตามหนูมาเลยพี่ รูดเสร็จพี่ก็กลับมาทำงานที่เดิม”
พนักงานสาวสวยบอก...เธอเห็นรำเพยทำจนคุ้นตา...เลยชี้มือบอกปูชิดา
หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ เธอฉวยเครื่องรูดบัตรเดินตามเจ้าหล่อนไปเงียบๆ แอร์ภายนอกเย็นฉ่ำเสียจนปูชิดาขนลุกเกลียว เธอชำเรืองมองคนตรงหน้า เจ้าหล่อนไม่หนาวหรือไงนะ? เมื่อเสื้อผ้าที่สวมใส่ช่างน้อยชิ้นจนน่าใจหาย...
“โต๊ะนั่นนะพี่ หนูไปเอาขวดใหม่มาให้เขาก่อน โต๊ะนี้กระเป๋าหนัก วันนี้หนูคงได้ทิปเป๋าตุง” หล่อนพูดยิ้มๆ ก่อนจะโฉบผ่านปูชิดาเพื่อไปหยิบบรั่นดีขวดใหม่มาตามคำสั่ง
หญิงสาวเดินตัวลีบเข้าไปในมุมอับ ส่วนนี้ค่อนข้างลับตา แถมห่างสายตาคนอื่นจนน่ากลัว เธอรู้สึกไม่ใคร่จะไว้ใจ เลยต้องระวังตัวเองไว้ก่อน
“ขอบัตรเครดิตด้วยค่ะ” เธอส่งเสียงบอก เมื่อเดินเข้ามาจนชิดขอบโต๊ะ
ออสตินเหวี่ยงบัตรเครดิตให้พนักงาน เขาไม่ได้เหลือบมองเจ้าหล่อนเลย รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิง...แต่เวลานี้เขาไม่มีอารมณ์สุนทรี เขากำลังหงุดหงิด!!
แกร๊ก!!
บัตรเครดิตใบเล็กๆ ไถลหล่นจากขอบโต๊ะ คงเป็นเพราะหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวรับ เธอจึงรีบก้มลงไปเก็บ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น รู้สึกไม่พอใจอย่างแรง!! กับมารยาทติดลบของลูกค้าสุดรวย แต่...ปริปากพูดอะไรไม่ได้หร๊อก เขาเป็นลูกค้า ในขณะที่เธอเป็นลูกจ้าง แม้ผู้ชายตรงหน้าจะเป็นคนจ่ายสตางค์ แต่มารยาทของเขาน่าจับไปอบรม...
“อุ้ย!!” เพราะความสลัวของแสงไฟ ปูชิดาจึงพลาด เธอเงยหน้าขึ้นและชนกับขอบโต๊ะเข้าจังๆ
ออสตินสะดุด!!
เสียงคุ้นหู!! เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน? ชายหนุ่มจึงปรือตามอง เขามองเห็นเค้าลางๆ ของคนคุ้นเคย...
ชายหนุ่มยกมือขยี้เปลือกตาแรงๆ เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง...
มุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม เปลือกตาหรี่ลง หลังเพ่งมองจนแน่ใจ... โลกมันกลม? หรือเพราะพระเจ้าเห็นใจเขากันแน่ ท่านถึงส่งคนที่เขากำลังนึกอยากจะเจอมายืนตรงหน้า...แบบตัวเป็นๆ
แต่...ดูจากสภาพการแต่งกาย หล่อนไม่ได้ดูดีเหมือนเก่า หล่อนดูทรุดโทรม และน่าสมเพท!!
‘ปูชิดา ไวศยปรานนท์’
ผู้หญิงคนเดียวที่เคยทำให้เขาใจกระตุก!! แต่ทุกอย่างมันเป็นอดีต หล่อนทิ้งเขาทันที ที่เขาเหินฟ้าไปเรียนต่อ เริงร่ามีความสุขกับผู้ชายคนใหม่ โดยไม่คิดทำตามคำสัญญา ผู้หญิงหยำฉ่าอย่างหล่อน ไม่มีค่าควรจำ!! บัดซบ!! แล้วทำไมเขาถึงไม่ลืมหล่อนสักที...ให้ตายเถอะ!!
ในขณะที่ออสตินกำลังว้าวุ้นกับความคิดตัวเอง...
ปูชิดากลับไม่รู้ตัว หล่อนกำลังมึนเพราะแรกกระแทก ไหนจะพักผ่อนน้อย พอมาเจอที่สลัวๆ เช่นนี้ เธอจึงรู้สึกง่วงขึ้นมาติดหมัด...
“เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณนะคะ เชิญตามสบายค่ะ ดิฉันขอตัว”
หญิงสาวพูดเร็วๆ เธอรีบขอตัวเมื่อหน้าที่ของตัวเองจบลง...
หญิงสาวซุกหน้ากับแผงอกอุ่น “อ๋อ!! ทุกวันนี้ชิดาขี้เหร่งั้นสิ” เธอตอบเสียงแผ่ว “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น ความหมายของฉัน คืออยากเห็นชิดาดูดีไม่มีที่ติต่างหาก” ออสตินรีบแก้ตัว “เรื่องพิธีมันสมควรมีก็จริงค่ะ เมื่อมันเป็นประเพณีการทางสังคม และเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง...ชิดารักคุณ ชิดาไม่เคยหวังไกล...ทุกครั้งที่ชิดาหลับ ชิดาจะภาวนาก่อนหลับ ขอให้เวลาที่ชิดาลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างจะยังคงเหมือนเดิม” หญิงสาวช้อนนัยน์ตาหวานฉ่ำมองสบตาสามี เธอไม่เคยหวังไกลถึงขนาดนั้น ขอแค่ความเมตตาของเขาบ้าง แค่นั้นก็คือสิ่งที่ปูชิดาปรารถนา ออสตินกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาเปรยเบาๆ “ฉันเป็นคนโง่ ที่แสร้งทำเป็นคนฉลาด อวดตัวว่าข้าเก่ง ข้ามีดีจนใครๆ ก็อยากได้ แต่ไม่เลย...ฉันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่ร่ำร้องหาความรัก ความรักที่เคยเกิดขึ้น
บทที่23.มหาเศรษฐีสิ้นลาย... ประตูห้องนอนถูกปิดและล็อกเพื่อกันคนภายนอกเข้ามาภายใน ในเวลาที่ไม่เหมาะสม วันนี้ออสตินอารมณ์ดี เขามีแผนเด็ด แผนเด็ดที่ทำให้เขากระชุ่มกระชวย จนปูชิดาเริ่มระแวง สายตาของสามีฉ่ำวาวจนหล่อนขนลุก “อาบน้ำด้วยกันนะ...ทูนหัว” น่านไง!! เสียงออดๆ ของออสติน เขาเดินย่างสามขุมเข้าหา และเธอก็คงไม่สามารถปฏิเสธความตั้งใจของเขาได้ มันจึงลงเอ่ยในอ่างน้ำกุชชี่ ขนาดใหญ่ในห้องน้ำภายในห้องนอน“โอย...แสบตา” ออสตินแสร้งโวย วันนี้เขาอ้อนเมียสำเร็จ เป็นการอาบน้ำด้วยกันครั้งแรก หลังจากหอบหิ้วกันมาอยู่ใต้ชายคาคฤหาสน์เทรย์เวอร์เกือบ1 อาทิตย์ โดยที่มาดามเยาวเรศอ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ “ขอโทษค่ะ ชิดามือลื่น...”เพราะเธอเขินจัด เลยหลับหูหลับตาถูฟองน้
“เอาเป็นว่า...ฉันยอมรับแม่นั่นก็ได้...แต่แกต้องให้สัญญา แกจะต้องมีหลานให้ฉันอีก5 คน” นางพูด หลังเงียบไปหนึ่งอึดใจ รอยยิ้มของมาดามเยาวเรศทำให้ออสตินหัวเราร่า คุณแม่ก็คือคุณแม่วันยังค่ำ หากอยากบีบให้นางก้มหัว หรืออ่อนให้ นางก็ต้องไว้เชิงบ้าง “ตามนั้นเลยครับ อีกแปดเดือนไม่เกินนั้น แม่ได้อุ้มหลานคนที่สองแน่!!” ออสตินคุยโอ่!! เขารวบกอดมารดาแน่นๆ “แม่ไม่ได้เป็นลมใช่ไหมครับเมื่อสักครู่?” ชายหนุ่มกระซิบถามปัญหาคาใจ เขาว่ามันแหม่งๆ พิกล “มันคือการแสดง แม่น่าจะได้ออสก้านะ...ว่าไหม?” นางยิ้ม สอดมือกอดเอวสอบของออสตินไว้ นางไม่ได้กอดบุตรชายนานเท่าไรแล้วนะ “ครับ...เนียนมาก” ชายหนุ่มหัวเราะ “อีกคำถามนะออสติน...นามสกุลนางฟ้า แกจั
“แกใจดำมาก...ออสติน แกเป็นลูกอกตัญญู กล้าทิ้งฉันเพราะผู้หญิงคนเดียว” ชายหนุ่มถอนใจ เขาลุกจากที่นั่ง เดินมาทรุดตัวนั่งด้านหน้ามาดามเยาวเรศ ออสตินคุกเข่า เขาก้มลงกราบแทบปลายเท้านาง ก่อนจะยืดตัวขึ้นนั่ง มองสบนัยน์ตามารดาด้วยความเศร้า “ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยครับ ชิดาท้อง เธอเลี้ยงลูกคนเดียวมา4ปี โดยที่ไม่คิดบอกพวกเรา ผมผิด... ผมอยากชดเชยให้เธอ หากแม่จะบีบให้ผมทิ้งเธออีกครั้ง ผมคงทำไม่ได้ ผมไม่ได้เลือกนะครับ แต่ผมจำเป็นต้องทำ...ถ้ามันผิดต่อแม่ ผมก็จนใจ ผมไม่ได้ทิ้งแม่ ผมไม่ได้เลือกชิดา ผมทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุด” “เหอะ!! ต่อให้แกพูดอย่างสวยหรูยังไง เรื่องมันก็จบตรงที่แกเลือกแม่นั่น” นางถอยหลังสองก้าว มองสบนัยน์ตาบุตรชาย ดวงตาของนางแดงก่ำ เพราะกำลังเสียใจสุดขีด “แม่จะให้ผมทำยังไงครับ นั่นเมีย นี่แม่ ผมเลือกยืนข้างฝ่ายไหน ผมก็เป็นคนผิดอยู่ดี” 
บทที่22.คุณแม่ขอร้อง เป็นอีกวันที่ออสตินเริ่มต้นวันทำงานด้วยความสุขเต็มเปี่ยม เดิมทีเขาเบื่อหน่ายหน้าที่ที่แบกรับไว้จนหนักบ่า แต่ทำไงได้เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเทรย์เวอร์ เวลานี้เขามีภาระที่หนักหน่วงให้แบกรับเพิ่มเติม แต่เป็นความเต็มใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่คลี่คลายปัญหาของตัวเองกับปูชิดาได้ เขากับปูชิดากลับมาเหมือนเดิม...เพิ่มเติมคือรักยิ่งกว่าเดิม ไม่มีความคลางแคลงในใจหลงเหลืออยู่ เหลือก็แค่ปัญหาหนักอกเพียงอย่างเดียว นั่นคือมารดา... หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ในห้องทำงานสีขรึม ออสตินนั่งอยู่ตรงนั้น เขากำลังก้มหน้าอ่านเอกสารสำคัญ ก่อนจะลงนามเซ็นกำกับ หากเขาพอใจ...มันเป็นวันเรียบง่ายอีกหนึ่งวัน ไม่มีงานเร่งด่วนชวนให้ปวดหัว ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงให้ต้องแก้ปัญหา และในมือเขาคือแฟ้มงานของบริษัทไวศยปรานนท์ ผลกำไรเกินคาดของบริษัทนั้นเกินกว่าที่คาดไว้ เขาไม่คิดว่าคุณทรง
“อืม...ดี ฉันมีโปรแกรมให้เธอเรียนรู้อีกเยอะ” เรียวไม่ได้ขยาย โปรแกรมที่แป้งหอมต้องเรียนคืออะไร เพราะที่เขาวางแพลนไว้คร่าวๆ คือการทำให้แป้งหอมเพอร์เฟคที่สุด สำหรับการเป็นภรรยาใครสักคน... และเมื่อแป้งหอมกับเรียว เดินเข้ามาในสถานที่ทำงานพร้อมกัน หญิงสาวจึงตกเป็นเป้าสายตา พร้อมกับคำนินทา ที่ตามมาในไม่ช้า เป็นเพราะแป้งหอมอยู่ไม่สุข เธอขยันทำงาน จนทำให้ในวันทำงานวันที่2 เธอก็ได้ยินเรื่องที่ขาเม้าทั้งหลายซุบซิบกันเข้าพอดี “เธอๆ ว่าไหม ยัยคนที่เดินตามคุณเรียวต้อยๆ ไม่พ้น เมียน้อยคุณเรียวแหงๆ” แป้งหอมสะดุดกึก...เธอรีบหลบหลังซอกตู้ มือเรียวกำแน่น “พูดแบบนั้นได้ไง คุณเรียวยังโสด อย่างแม่นั่นก็แค่เมียเก็บ ทำกำแหงชูคอ อีโธ่!!”