“อะไรนะ”
เสียงหวานเบาจนแทบไม่ได้ยิน ทั้งมึนงงและเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“ไอ้เมฆส่งเธอมาที่นี่แลกกับเงินสิบล้านพร้อมเงื่อนไขให้รับเธอเข้าทำงานและเธอต้องเป็นเมียฉัน”
“เมีย...”
ใบหน้าขาวซีดพร้อมสีหน้าตระหนกทำให้ธีรดนย์ส่ายหน้าพลางส่งเสียงในลำคอ
“ตีหน้าซื่อได้เก่งดีนะ”
“ฉันไม่รู้...”
“ไม่รู้แล้วเธอถามหาฉันทำไม ไม่รู้แล้วทำไมยังอยู่ที่นี่ทั้งที่ถูกฉันในฐานะคนขับรถไล่ปล้ำเมื่อวาน เป็นคนอื่นเขาหนีเปิดแนบไปแล้ว แต่เธอยังอยู่เพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าตัวเองจะมาเป็นเมียเจ้าของไร่”
เขาลองใจผู้หญิงตรงหน้าไปเมื่อวานก็เห็นชัดแล้วว่าเจ้าตัวรู้ดีแก่ใจถึงได้ยังอยู่ต่อ
“ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”
นิชาดาได้แต่พึมพำ นภนต์ส่งเธอมาที่นี่เพราะเจ้านายของเขาเอ่ยปากว่าสนใจเธอในฐานะเมียเก็บ ทั้งยังบอกว่ามาอยู่ที่นี่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยห่างไกลจากสายตาเจ้านายตนแน่นอน
“ทำไมพี่เมฆต้องขอเงินนาย”
เธอถามอย่างสงสัยเพราะเชื่อใจพี่ชายที่มีกันเพียงสองคนในชีวิตมากที่สุด เขาไม่มีวันทำร้ายเธอ
‘พี่อยากให้หมอกมีความสุข มีชีวิตที่ดี พี่จะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้หมอก จะไม่ยอมให้หมอกลำบาก’
พี่ชายบอกกับเธออย่างนี้เสมอนับแต่ต้องใช้ชีวิตลำพังสองคนหลังจากสูญเสียยายที่เลี้ยงดูทั้งคู่มา มารดาทั้งสองจากไปด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่นภนต์อยู่ประถมหก ยายกับมารดาไม่มีใครเอ่ยถึงบิดาทั้งสองก็ไม่เคยถาม พี่ชายเธอทำงานพาร์ททาร์มตั้งแต่เรียนมัธยมปลายยาวจนมหาวิทยาลัย ไม่เคยยอมให้เธอทำทั้งที่เอ่ยขอ เธอไม่เคยต้องลำบากเพราะมีพี่ชายดูแลอย่างดี
“ไอ้เมฆมันติดหนี้พนัน มันก็เล่นเหมือนที่นายมันเล่น พอเสียนายมันก็ให้ยืม สะสมจนไม่มีปัญญาคืน แล้วยังหน้าด้านมาขอร้องคนที่มันเคยหักหลังอย่างฉัน”
ธีรดนย์บอกพลางยิ้มมุมปากอย่างเหยียดหยัน
“เพราะงั้น ฉันเป็นเจ้าหนี้...อ้อ จะพูดให้ถูกคือเป็นเจ้าของเธอมากกว่า เพราะยังไงมันก็ไม่มีปัญหาเงินมาคืนฉันได้ ไอ้เมฆมันเลยขายเธอให้ฉัน”
ริมฝีปากอิ่มเผยอค้าง แต่ก็ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ อีกฝ่ายมองนิ่งก่อนจะหยิบมือถือของเขาขึ้นมา ส่วนของเธอใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลังบ่งบอกว่าจะไม่คืนโดยง่าย
ชายหนุ่มไล่หาเบอร์ตามวันที่โทรพูดคุยกันตอนตนไปธุระที่กรุงเทพฯ ก่อนจะโทรกลับแล้วก็เมื่อมีคนรับเขาก็พูดขึ้น
“มึงเคลียร์กับน้องมึงให้เข้าใจ มาถึงก็แหกปากโวยวาย หาว่ากูบ้ากูเถื่อน ไหนบอกยกให้กูแล้วไง มาทำหน้าซื่อไร้เดียงสา กูรำคาญ”
พูดแล้วก็โยนมือถือเครื่องบางมาใส่เธอ นิชาดารับไว้ไม่ทัน แต่เครื่องหล่นลงไปบนเบาะโซฟาจึงไม่เสียหาย มือบางสั่นเทาแต่ก็หยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นเบอร์ของพี่ชายเธอจริงแม้จะไม่มีชื่อ
“พี่เมฆ”
นิชาดาเอ่ยเสียงเครือหลังจากยกมาแนบหู
‘ไอ้ดนย์มันทำอะไรหมอก’
น้ำเสียงพี่ชายค่อนข้างเครียด ทำให้เธอขอบตาร้อนจนต้องกะพริบตาถี่ไล่น้ำที่เอ่อขึ้นมา
“ทำไมคะ”
เธอไม่ได้ตอบแต่ถามแทน คิดว่าพี่ชายต้องรู้สถานการณ์เพียงได้ยินเสียงสั่นเครือของตน
‘หมอก พี่ขอโทษ’
ดวงตาคู่สวยวาวด้วยน้ำตาคลอหน่วยจ้องเขาราวเป็นผู้ร้ายขณะคุยกับพี่ชาย แต่ธีรดนย์มองเฉยอย่างไม่แยแส หมอนั่นมันหวังให้เขายกย่องน้องของมันเป็นเมีย เป็นนายหญิงไร่ดิฐวัฒน์ แต่มันก็ไม่ต่างจากขายน้องตัวเองอยู่ดี และเขาไม่ได้โง่ ยอมให้ใครมาย้อมแมวขายง่ายๆ
‘อยากให้เป็นเมียก็จะเอา แต่ไม่แต่งเสียอย่าง ไอ้เมฆมันจะทำอะไรได้’
ธีรดนย์คิดในใจพลางยิ้มเยาะออกมาเมื่อเห็นว่าดวงหน้าสวยใสมีเครื่องสำอางบางเบายิ่งซีดลงไปอีก
‘หมอกฟังพี่นะ ถ้าไอ้ดนย์มันทำอะไรหมอก อย่าก้าวออกจากไร่นั้นเด็ดขาดนะ มันต้องรับผิดชอบหมอก พี่สัญญา พี่จะไม่ยอมให้หมอกลำบาก ไอ้ดนย์มันมีเงิน หมอกจะไม่ลำบากแน่’
สิ่งที่พี่ชายพูดตอกย้ำให้หญิงสาวปวดใจ ภายในอกอัดแน่นรู้สึกราวหายใจไม่ออก
“พี่ทำแบบนี้กับหมอกได้ยังไง”
นิชาดาอยากร้องไห้แต่เธอกลั้นไว้เต็มที่ ไม่อยากเสียน้ำตาต่อหน้าผู้ชายป่าเถื่อนที่จ้องตะครุบตัวเอง
‘ผู้ชายยังไงก็ต้องแพ้มารยาหญิง หมอกไม่ต้องกลัวนะ เข้มแข็งเข้าไว้...’
ร่างอรชรห่อตัวราวหมดเรี่ยวแรง แล้วเจ้าของมือถือก็คว้ากลับคืนไป ทว่ามือหนาอีกข้างยังกดไหล่เธอชิดพนักโซฟาจนนิชาดาร้องขึ้นอย่างตกใจ
“เอ๊ะ อย่ามาแตะตัวฉันนะ”
‘ไอ้ดนย์ มึงทำอะไรน้องกู’
เหมือนคนที่อยู่ในสายจะได้ยิน เพราะพอธีรดนย์มือถือหยิบมาเพื่อจะพูดก็ได้ยินเสียงอีกฝ่าย
“มึงส่งน้องมึงมาสังเวยกูเองไม่ใช่หรือไง”
‘กูบอกว่ามึงต้องแต่งกับหมอก ต้องดูแลหมอกให้ดี’
“ลูกหนี้มีสิทธิ์ต่อรองด้วยเหรอ”
‘ไอ้ดนย์ มึงรับปากว่าจะดูแลหมอก มึงทำร้ายหมอกไม่ได้นะ’
“มันต่างกันตรงไหน ยังไงก็ฟันเหมือนกัน”
นิชาดาที่ได้ยินคำนั้นถึงกับสะดุ้งเฮือก ผงะถอยแต่ต้นแขนถูกจับไว้แน่นจนเจ็บ เธอจึงพยายามแกะมือหนา
‘ไอ้ดนย์!’
“ทำไม แน่จริงมึงก็มาเอาน้องมึงกลับไปสิ แต่มาพร้อมกับเงินที่กูโอนไปใช้หนี้ให้มึงแบบเสียเปล่านะ”
ริมฝีปากอิ่มสวยถูกขบอย่างแรง ทว่านิชาดาไม่รู้สึกใดเพราะความเจ็บปวดเสียใจเกาะกินไปทั้งหัวใจ ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำกับตัวเองอย่างนี้ หากก็สงสารอีกฝ่ายระคนกันจนอยากโกรธก็ไม่อาจทำได้
‘พี่ยอมเหนื่อยคนเดียว หมอกตั้งใจเรียนก็พอ’
เธอมีพี่ชายเลี้ยงดูมา ไม่เคยต้องทำงาน ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียน มีทุกอย่างในแบบที่นักเรียนนักศึกษาควรมีโดยไม่อัตคัดเพราะพี่ชาย
‘มึงต้องแต่งกับหมอก’
“ของแบบนี้มันต้องทำลองงานก่อนสิวะ ถึงจะใส่ตะกร้าล้างน้ำมาแล้ว ก็ต้องดูว่าเด็ดถูกใจไหม”
‘ไอ้ปากหมา น้องกู...’
“เลิกพล่ามได้แล้ว มึงเองก็รู้แก่ใจดีว่าที่ส่งน้องมาให้กู เพราะคิดว่าเป็นเมียกูดีกว่าเป็นเมียน้อยของลุงกู เพราะงั้นกูจะทำอะไรกับน้องมึงก็ได้ ถ้าไม่พอใจก็เอาเงินสิบล้านมาที่ไร่ แต่เร็วหน่อยนะ ก่อนที่น้องมึงจะพรุนจนขายต่อยาก”
======
พี่ชายยกหมอกให้เพื่อนแลกเงินจริงๆ ด้วย ฮือ… T^T
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ